สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพามาชมคอนโด Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง จากพฤกษา เรียลเอสเตท  ที่แถลงข่าวโครงการกันไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว คอนโด แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง เป็นกลุ่มอาคารสูง 8 อาคาร บนถนนประชาอุทิศ ใกล้แยกห้วยขวางค่ะ คอนโดนี้มาในสไตล์ Scandinavian และพ่วงด้วยคอนเซ็ปต์รักษ์สิ่งแวดล้อมตามชื่อที่ห้อยต่อท้ายว่า Eco อย่างการเลือกใช้หลอดประหยัดไฟที่โครงการคำนวนมาให้ว่าจะช่วยลดรายจ่ายค่าไฟไปได้ประมาณ 22%  มีพื้นที่ส่วนกลางสนับสนุนการปลูกผักและการขี่จักรยาน แม้แต่ใบโบรชัวร์ก็สามารถถ่าย QR Code ดูในมือถือได้เพื่อประหยัดกระดาษค่ะ

โครงการนี้จะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวางเข้ามาประมาณ 1.4 กิโลเมตร  ถ้าใช้รถไฟฟ้านั้นจำเป็นจะต้องต่อรถเข้ามาอีกทอดหนึ่ง  ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดของทำเล  ที่สัมพันธ์กับราคาขาย  แต่สำหรับถนนเส้นนี้ก็มีจุดดีตรงที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทางค่ะ  โครงการให้ให้แบบ Fully Furnished  และดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางมาเป็นสไตล์ Scandinavian Design  ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ในโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปอ่านรีวิว  Chapter One Eco Ratchada-Huaikwang  อย่างละเอียดกันค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chapter One Eco Ratchada – Huaikwang
( แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนประชาอุทิศ ห้วยขวาง
• ขนาดที่ดิน >>> 13-0-61.12 ไร่
• จำนวนอาคาร >>>  8 อาคาร และอาคารจอดรถ 2 อาคาร
• จำนวนชั้น >>>
  • อาคาร A
  • อาคาร B
  • อาคาร C 26 ชั้น
  • อาคาร D
  • อาคาร E 22 ชั้น
  • อาคาร F
  • อาคาร G 26 ชั้น
  • อาคาร H
  • อาคารจอดรถสูง 5 ชั้น และ 4 ชั้น
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 22.57 – 23.65 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน 29.27 – 36.53 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 1,907 ยูนิต
  • อาคาร C 225 ยูนิต
  • อาคาร E 252 ยูนิต
  • อาคาร G 225 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 700 คัน คิดเป็น 37% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาท ณ วันที่ 10/1/2560
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ประมาณ 105,xxx – 115,xxx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.772130, 100.579866
• เว็ปไซต์โครงการ >>> www.stylishresidences.com
  
• EcoBrochure >>> http://www.stylishresidences.com/ChapterOneEcoBrochure-TH/
• เบอร์โทร >>> 1739

โครงการ Chapter One Eco Ratchada – Huaikwang นั้นตั้งอยู่บนนถนนประชาอุทิศ ห่างจากแยกห้วยขวาง, ถนนรัชดาภิเษก และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ห้วยขวาง ประมาณ 1.4 กิโลเมตร หรือจะเข้าออก Chapter One Eco ด้วยถนนเทียมร่วมมิตรหรือถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็ได้ค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางด้วยการใช้ถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว มาที่แยกห้วยขวาง อุโมงค์แรกที่จะเจอเป็นแยกสุทธิสารค่ะ ให้อยู่ 2 เลนทางขวาเพื่อลงอุโมงค์ลอดใต้แยกสุทธิสารไปได้เลย พอขึ้นจากอุโมงค์แล้วให้อยู่เลนซ้ายหรือเลนกลาง จนสังเกตเห็น Mansion 7 ให้อยู่ชิดเลนซ้ายสุดค่ะ (เลน 2 จากซ้ายจะเป็นทางกลับรถ ส่วนเลนขวา 2 เลนจะลงอุโมงค์)  พอขับไปถึงสี่แยกห้วยขวางก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ ต้นซอยจะมีคอนโดอยู่หลายคอนโด เช่น Life@Ratchada-HuaiKwang, Ideo Ratchada-HuaiKwang  เข้าซอยมาแล้วให้ขับตรงไปจนสุดทางจะมีสามแยก  ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศ แล้วขับตรงไปจนสุดถนนทางจะบังคับเลี้ยวซ้าย หลังจากนั้นตรงไปอีกแค่ 180 เมตร โครงการ แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง จะอยู่ทางขวามือค่ะ

หากเข้าจากถนนเทียมร่วมมิตร หรือถนนประชาอุทิศ โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ตามลูกศรสีเขียวค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับคอนโด ยู ดีไลท์ @ ห้วยขวาง สเตชั่น  ลึกเข้ามาจากถนนรัชดาภิเษก หรือแยกห้วยขวาง ประมาณ 1.4 กิโลเมตร ซึ่งเท่ากับระยะทางไป MRT ห้วยขวาง  ถ้าจะเดินไปรถไฟฟ้าจากโครงการนับว่าค่อนข้างไกลค่ะ ไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินสบาย  ต้องใช้บริการ Shuttle Bus ของโครงการ, พี่วินมอเตอร์ไซต์, รถสองแถว หรือรถ Taxi เอา ซึ่งรถบริการเหล่านี้ผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดเวลา เพราะซอยนี้เป็นซอยใหญ่ทะลุออกได้หลายเส้นทางและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย จึงมีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ค่ะ  จากโครงการ แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง นอกจากจะไปออกเส้นรัชดาภิเษกบริเวณแยกห้วยขวางได้แล้ว ยังไปทะลุออกซอยรัชดาภิเษก 18 และถนนสุทธิสารวินิจฉัยและได้ด้วย ในทางกลับกันจะไปทางแยกเหม่งจ๋ายออกถนนเทียมร่วมมิตร หรือตรงไปออก ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ค่ะ  นับเป็นถนนรองที่มีคนใช้เยอะพอสมควร  เวลารถติดไม่เหงาแน่นอน

ไฮไลท์สีถนนมาให้ดูกันง่ายๆ ค่ะ เพื่อจะได้นึกว่ามันทะลุกันอย่างไร  

เส้นสีเหลือง = ถนนประชาอุทิศ,

เส้นสีเขียว = ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ,

เส้นสีน้ำเงิน = รัชดาซอย 18,

เส้นสีม่วง = ซอย 20 มิถุนา

ภาพรวมถือว่าอยู่ใกล้ย่านศูนย์วัฒนธรรม และย่านพระราม 9 ที่จะคาดว่าในอนาคตจะกลายเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ  อยู่ถัดไปอีก 1 – 2 สถานี ถนนรัชดาภิเษกจะค่อนข้างคึกคักและเต็มไปด้วยศูนย์การค้า เช่น The Street รัชดา, Esplanade Ratchada, Central Rama 9 และ Fortune Town นอกนั้นก็เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานเช่น CyberWorld, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,  ตึก AIA Capital Center, True Tower และ G Tower ว่าที่ตึกสูงที่สุดในปรเทศไทยที่กำลังก่อสร้างค่ะ

ทีนี้มาดูเพื่อนบ้าน แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง บนถนนประชาอุทิศและประชาราษฎร์บำเพ็ญกันบ้างค่ะ ส่วนใหญ่ในซอยจะเป็นร้านค้าตามอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น, อพาร์ตเมนต์, 7-Eleven และ Family Mart มีหลายจุด เรื่องหาของกินและหารถบริการสบายหายห่วง  พื้นที่ซอยนี้จะมีคนจีนอยู่เยอะ  ร้านค้าช่วงปากซอยนี่แทบจะมีแต่ภาษจีน

ส่วนสถานที่รอบคอนโด เริ่มจากฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นคอนโด ยูดีไลท์ @ ห้วยขวาง สเตชั่น จาก Grand U (หมายเลข 1)  ด้านข้างโครงการติดกับคลองเล็กๆ และกลุ่มบ้านพักอาศัย (หมายเลข 2) ส่วนอีกด้านนึงจะติดกับซอยประชาอุทิศ 8 หรือซอยแจ่มบุตร มีอพาร์ตเมนต์เอ็ม.วาย.แมนชั่น สูง 8 ชั้นอยู่ติดกับโครงการ (หมายเลข 3)  ถัดไปเป็นคอนโด ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท รัชดาฯ – ห้วยขวาง  (หมายเลข 4)  ด้านหลังโครงการจะเจอที่ดินเปล่ารอการพัฒนาและสยามนิรมิต ที่อยู่บนถนนเทียมร่วมมิตรค่ะ

ทีนี้ไล่ดูไปทางถนนรัชดาภิเษกก่อน จะมีสำนักงานเขตห้วยขวางอยู่บริเวณ 3 แยก ปากซอยจะมีคอนโด Ideo รัชดา – ห้วยขวาง จาก Ananda (หมายเลข 5) ติดกับคอนโด RHYTHM รัชดา-ห้วยขวาง อีกฝั่งถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเป็นคอนโด Life @ รัชดา – ห้วยขวาง (หมายเลข 6) ถัดไปเป็นคอนโด Centric ห้วยขวาง สเตชั่น (หมายเลข 7)  ด้านหน้ามีตลาดนัดห้วยขวางเดินชิว และถัดไปเป็นปั๊มน้ำมัน (หมายเลข 8) ค่ะ

ทีนี้ไล่จาก Chapter One Eco ไปทางแยกประชาอุทิศหรือแยกเหม่งจ๋ายบ้าง ทางนี้จะมีคอนโด ลุมพีนี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม (หมายเลข 9) ตรงข้ามกับกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ อย่าง The Regent’s School (หมายเลข 10) ด้านหลังเป็น ISR International School (หมายเลข 11)  และติดๆ กันเป็น Bangkok Bilingual School (หมายเลข 12)  สุดท้ายขอจบด้วยร้านอาหารนาทอง (หมายเลข 13) ก่อนถึงแยกเหม่งจ๋ายค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปสำรวจทำเลรอบๆ ก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ โดยจะออกจากโครงการ Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง ไปที่แยกห้วยขวาง, ต่อด้วยย่านศูนย์วัฒนธรรม และศูนย์การค้าแถวพระราม 9 หลังจากนั้นจะพาเข้าถนนเทียมร่วมมิตรไปที่แยกเหม่งจ๋ายเพื่อกลับมายังโครงการอีกครั้งนึงค่ะ

ออกจากโครงการ Chapter One Eco ไปทางซ้ายมือ ทางเท้าจะแคบหน่อยค่ะ

จะเจอกับร้านอาหารยกทะเลขี้นบก

ต่อด้วยร้านขายกาแฟ บ้านเขียวกาแฟสด อยู่ปากซอยแจ่มบุตรหรือซอยประชาอุทิศ 8

อีกฝั่งเป็น 7-Eleven

ภายในซอยมีอพาร์ตเมนต์ M.Y. สูง 8 ชั้น ด้านหลังติดกับโครงการ แชปเตอร์ วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง

บนถนนประชาอุทิศจะมีรถสองแถวผ่านตลอด

ส่วนฝั่งตรงข้ามซอยประชาอุทิศ 8 เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร

เดินมาเรื่อยๆ เจอ บริษัท 1 to All

อาคารพาณิชย์ต่างๆ

ร้านกาแฟโบราณ ร้านรับพิมพ์การ์ดและป้ายโฆษณา

ภายในซอยย่อยต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ

สุดหัวมุมถนนเจอ 7-Eleven อีกแห่งนึง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยประชาอุทิศ 6 ที่ตั้งของโครงการ Supalai City Resort รัชดา-ห้วยขวาง

คอนโดทรัพย์แก้ว ทาวเวอร์ เป็นโครงการเก่าแล้ว ตั้งเด่นอยู่แถวปากซอยค่ะ

เราเลี้ยวขวาตามทางออกมาเรื่อยๆ เจออพาร์ตเมนต์ Johnny Tower ค่ะ อยู่ตรงข้ามกับซอยประชาอุทิศ 3

สำนักงานเขตห้วยขวาง อยู่ก่อนถึงแยกประชาราษฎร์บำเพ็ญ

บริเวณแยกประชาราษฎร์บำเพ็ญค่ะ เลี้ยวซ้ายจะไปออกแยกห้วยขวาง แต่ถ้าตรงไปจะไปทะลุออกรัชดาซอย 18 หรือถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้

พอเลี้ยวซ้ายที่แยกจะเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงต้นๆ ซอย ร้านค้าจึงค่อนข้างหนาแน่น

มีร้าน 7-Eleven, ร้านขายทอง, ร้านขายยา

ร้าน CP Freshmart,  โรงรับจำนำ ก็มี

หลายร้านมีป้ายภาษาจีนด้วยค่ะ เพราะมีคนจีนมาพักอาศัยแถวนี้เยอะ  ช่วงต้นซอยมีทั้งโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์

ศูนย์รถยนต์ Toyota

ปากซอยจะมีคอนโด Life รัชดา – ห้วยขวาง จาก AP สูง 22 ชั้น ติดสถานี MRT ห้วยขวางประตู 1

ตรงข้ามกับ Ideo รัชดา – ห้วยขวาง ของ Ananda ค่ะ คอนโดนี้สูง 19 ชั้น 398 ยูนิต

ตอนนี้เราออกมาถนนรัชดาภิเษกแล้วค่ะ

ถัดจาก Life รัชดา – ห้วยขวาง จะมีคอนโด เซ็นทริค ห้วยขวาง สเตชั่น จาก SC ASSET

ส่วนคอนโดที่อยู่ติดกับ Ideo รัชดา – ห้วยขวาง เป็นคอนโด Rhythm รัชดา – ห้วยขวาง ค่ะ ใกล้ MRT ห้วยขวาง ประตูออก 2

ศูนย์การค้า Mansion 7 ที่อยุ่ห่างจากสี่แยกห้วยขวางประมาณ 325 เมตร ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร วันธรรมดาเปิด 12.00 – 24.00

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพวกอาคารสำนักงาน อย่างเช่น อาคารเสริมทรัพย์

โรงแรม Swissôtel Le Concorde

จากนั้นเรามุ่งหน้าไปต่อที่ศูนย์วัฒนธรรมและย่านพระราม 9 ค่ะ สองข้างทางช่วงนี้ก็จะมีแต่อาคารสำนักงาน

Cyber Tower อยู่บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร

ตรงข้ามกับ The Street รัชดา

ติดกับ The Street เป็น Big C รัชดาภิเษก ภายในมี HomePro

ต่อด้วย Esplanade รัชดาค่ะ

อาคาร True Tower ( กระจกสีฟ้า ) ติดกับคอนโด Ivy Ampio

อาคารใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Central พระราม 9

ตรงข้ามกับฟอร์จูนทาวน์

กลับมาที่แยกเทียมร่วมมิตร เราจะพาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทียมร่วมมิตรค่ะ ด้านหน้าเป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

เลี้ยวเข้าถนนเทียมร่วมมิตรมาแล้วจะเป็นถนนเดินรถทางเดียวค่ะ เข้ามาไม่ไกลจะเห็นส่วนต่อเติมของศูนย์วัฒนธรรม

สนามนิรมิตอยู่ทางซ้ายมือ ด้านหลังจะเยื้องกับที่ดินของ Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง ค่ะ

คอนโดศุภาลัย เวลลิงตัน กลุ่มคอนโดสูง 19 ชั้น 9 อาคาร

ไปรษณีย์ห้วยขวาง ก่อนถึงแยกเหม่งจ๋าย

บริเวณแยกเหม่งจ๋ายค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทาง Chapter One Eco เลี้ยวขวาจะออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม ส่วนถ้าตรงไปจะเข้าประชาอุทิศซอย 19

เราพาจะพาเลี้ยวซ้ายค่ะ ผ่านร้านอาหาร Chill Chill ประชาอุทิศ 60

ตรงข้ามกับร้านอาหารนาทอง

โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Bilingual School

ติดๆ กันเป็น The Regent’s Boarding House

คอนโดลุมพีนี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 9 อาคาร คนอยู่อาศัยเยอะเลยมีร้าน 7-Eleven อยู่ด้านหน้า

ถัดมามีปั๊มน้ำมันบางจาก

ธนาคารทหารไทย สาขาห้วยขวาง อยู่ฝั่งตรงข้าม

และร้าน 7-Eleven อีกแล้วค่ะ อยู่ใกล้ซอยประชาอุทิศ 9 ห่างจาก แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง ประมาณ 120 เมตร  การมีเซเว่นถี่ขนาดนี้ ก็แสดงถึงความหนาแน่นของประชากรได้เป็นอย่างดี

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ดูภาพบรรยากาศรอบๆ กันไปพอสมควรแล้ว เข้ามาที่สำนักงานขาย Chapter One Eco กันเลยค่ะ

สำนักงานขายตั้งอยู่ด้านหน้าที่ตั้งโครงการ แชปเตอร์ วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง เลยค่ะ  เพราะโครงการนี้ออกแบบให้สไตล์ Scandinavian เลียนแบบสถาปัตยกรรมในเมืองหนาว  ตัวอาคารส่วนกลางเป็นมีหลังคาเหมือนทางสแกนดิเนเวีย ไม่มีชายคา สำนักงานขายด้านหน้ายกขึ้นสูงเป็น 2 ชั้น เพื่อจอดรถได้ใต้สำนักงานขายค่ะ ในอนาคตส่วนนี้จะกลายเป็นร้านค้า

ถ้ายืนหันหลังให้โครงการแล้วมองไปทางขวามือ จะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้นค่ะ  ส่วนทางเท้าหน้าโครงการไม่ได้กว้างมากแต่อยู่ในสภาพดี

ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดยู ดีไลท์ @ ห้วยขวาง สเตชั่น และมีกลุ่มพี่วินมอเตอร์ไซต์อยู่ด้วย สบายละ

U Delight @ Huaikwang Station เป็นกลุ่มคอนโด มี 4 อาคาร ด้านหน้าที่เรามองเห็นเป็นอาคาร A สูง 20 ชั้น จาก Grand U ส่วนอาคารอื่นๆ จะเรียงกันเข้าไปด้านใน เราเลยมองไม่เห็น

ถ้ามองไปทางซ้ายจะเจอกลุ่มอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ส่วนใหญ่ชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านค้าค่ะ ชั้นบนสำหรับอยู่อาศัย

ทางเท้าฝั่งนี้ก็อยู่ในสภาพดี แต่ไม่มีต้นไม้ตามทางเท้า

ขึ้นมาชั้น 2 ของสำนักงานขายกันเลยค่ะ วันนี้มาตอนกลางวันแดดเปรี้ยงมาก

ขึ้นมาแล้วจะเจอลานว่าง  มีเกาะกลางปลูกต้นสนและบ่อน้ำพุ

สำนักงานขายจะอยู่ในอาคารสีดำค่ะ

มองกลับลงไปที่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ

คอนโด ยู ดีไลท์ @ ห้วยขวางสเตชั่น สูง 20 ชั้น

ด้านในเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ตอนนี้เริ่มเคลียร์พื้นที่กันแล้ว  และจะเห็นเอ็ม.วาย.อพาร์ตเมนต์ สูง 8 ชั้นอยู่ติดกับที่ดินโครงการค่ะ  ซึ่งอาคารจอดรถสูง 4 ชั้น ของ Chapter One Eco  รัชดา – ห้วยขวาง จะอยู่ติดกับอพาร์ตเมนต์นี้พอดี จึงจะมีบางส่วนที่โดนบังวิวไปพอสมควร

ภายในสำนักงานขาย ใช้โทนสีขาวดูสะอาดตาค่ะ เห็นทรงหลังคาตามรูปทรงอาคาร

มีชุดโต๊ะรับรองลูกค้าในบรรยากาศอบอุ่นดี  ภายในก็ตกแต่งในสไตล์ Scandinavian เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน และสีขาวเป็นหลัก  รูปทรงเฟอร์นิเจอร์มีความโค้งไม่แข็งกระด้าง

เคาน์เตอร์สำนักงานขาย

มีจอภาพแสดงวิวที่จะมองเห็นได้จากชั้นต่างๆ, แปลนอาคาร, แปลนห้องพัก, รูปภาพต่างๆ และภาพกราฟิกแสดง Concept Eco ของโครงการ Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง ค่ะ

คอนเซ็ปต์ Eco ในโครงการจะมีเรื่องการเลือกใช้หลอด LED เพื่อประหยัดไฟทั้งโครงการ ซึ่งโครงการเคลมว่าจะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟไปได้ประมาณ 22%

มีติด solar cell บนหลังคาด้วย แต่คงเอาไปช่วยลดค่าไฟได้บางส่วน

การวางตำแหน่งของอาคารก็จะวางอาคารตะวันออก – ตะวันตก เพื่อให้ลมทิศตะวันตกเฉียงใต้ พัดเข้าระหว่างอาคารค่ะ ซึ่งในภาพจริงๆ แล้วต้องมี 8 อาคารนะคะ จะแน่นกว่านี้หน่อย

นอกจากการออกแบบอาคารแล้ว ก็มีพื้นที่ส่วนกลางที่สนับสนุนกิจกรรม Eco อีก เช่น Bike Club, Bike Parking อยู่ใกล้กับทางเข้า สนับสนุนให้ขี่จักรยานกัน เป็นต้นค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการ แชปเตอร์ วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง ด้านหน้าหันเข้าถนนประชาอุทิศ  ด้านข้างฝั่งนึงติดคลองเล็กๆ และกลุ่มบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น  ส่วนอีกฝั่งติดกับอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้น ในซอยประชาอุทิศ 8 ส่วนด้านหลังหรือทิศใต้จะติดกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนา, สยามนิรมิต และสถานฑูตเกาหลี  จัดว่าเป็นที่ดินแปลงใหญ่มากๆ อีกแปลงในโซนนี้

อาคารพักอาศัยของ Chapter One Eco Ratchada – Huaikwang  ทั้ง 8 อาคารจะอยู่ชิดฝั่งที่ติดกับบ้านพักอาศัย วางตัวเรียงกันเข้าไปด้านใน เริ่มจากอาคาร A, B, C, D, E, F, G และ H อยู่ท้ายสุดของโครงการ  ส่วนด้านที่ติดกับอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้น จะเป็นอาคารจอดรถ 2 อาคาร สูง 4 ชั้นและ 5 ชั้น ซึ่งเหนืออาคารจอดรถจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ดังนั้นพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนจะมองเห็นตึกข้างๆ  หากเลือกอาคารที่อยู่ด้านหน้า อย่าง A, B ก็จะมีข้อดีที่ระยะเดินไม่ไกล เข้าออกโครงการง่าย แต่ถ้าเลือกอาคารที่อยู่ด้านใน เช่น G, H ก็จะมีระยะเดินไกลกว่าแต่สงบมากกว่าค่ะ  ส่วนระยะเดินไปส่วนกลางและอาคารจอดรถนับว่าพอๆ กันทุกอาคาร  เพราะพื้นที่ส่วนกลางก็กระจายตัวเรียงกันไปตามแนวที่ดินเช่นกัน

เมื่ออาคารวางเรียงๆ กันขนานกันแบบนี้ สำหรับห้องตรงกลางอาคาร B, C, D, E, F, G บางห้อง  แน่นอนว่าจะเห็นหน้าต่างของห้องตึกตรงข้าม ดังนั้นถ้าอยากได้วิวต้องเลือกห้องที่อยู่ปลายอาคารค่ะ เพราะจะพ้นไม่โดนอาคารที่ใกล้กันบัง จึงมองเห็นวิวได้  ถ้าเลือกอาคาร A ฝั่งที่หันออกนอกโครงการไปเลยจะสบายหน่อย ตัวอาคารหันหลบคอนโด ยู ดีไลท์ @ ห้วยขวาง สเตชั่นได้พอดีเลย หรือถ้าเลือกอาคาร H ด้านที่หันออกนอกโครงการจะได้วิวทางถนนเทียมร่วมมิตร ที่ตอนนี้ติดกับที่ดินเปล่าทำให้ยังโล่งอยู่ อันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่ดินเปล่าแปลงนี้จะพัฒนาเป็นอะไรค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

Chapter One Eco  รัชดา – ห้วยขวาง ทั้ง 8 อาคารสูงตั้งแต่ 22 – 26 ชั้น โดยจะมีแปลนเป็นเส้นตรงเหมือนกัน  อาคารวางตัวทำมุมเฉียงเล็กน้อยกับแนวทิศตะวันออก  – ตะวันตก ขนานกันทุกอาคาร เพื่อรับกับทิศลม และหลีกเลี่ยงการที่ตัวอาคารจะต้องหันหน้าชนกันตรงๆ  เมื่ออาคารวางทิศแบบนี้  ห้องพักในอาคารส่วนใหญ่จะหันเข้าทิศเหนือและทิศใต้ค่ะ โดยทิศเหนือจะร้อนน้อยสุด ส่วนทิศใต้จะร้อนกว่า แต่อาคารที่อยู่ตรงกลางจะมีอาคารใกล้เคียงช่วยบังแดดให้กันและกันได้ในระหว่างวันด้วยบางส่วน

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities ของ Chapter One Eco Ratchada- Huaikwang  จะอยู่บนอาคารจอดรถ 2 อาคาร อยู่ฝั่งทิศตะวันตกของโครงการติดกับอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้น  โดยเหนืออาคารจอดรถ 5 ชั้น จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 50 x 7 เมตร ลึก 1.2 เมตร, จากุชชี่, สนามบาสเก็ตบอล, ห้องฟิตเนส, ลานบาร์บีคิว ส่วนที่เหลืออยู่เหนืออาคารจอดรถ 4 ชั้น จะมีพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-Working Space), ห้องสมุด, Home Theater   มีพื้นที่ส่วนกลางที่เพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษสำหรับโครงการนี้คือ ห้องปลูกผักไฮโดรโปนิกส์และห้องซ่อมบำรุงจักรยาน ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ Eco ค่ะ  ห้องจักรยานอันนี้ไม่แปลกมาก  แต่ห้องปลูกผักนี่อยากดูแล้วว่าจะเวิร์คไหม  ต้องลองดูกันต่อไป  นอกจากนี้ก็จะมี Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกาย ยาวประมาณ 230 เมตร อยู่ด้านหน้าเชื่อมทั้งสองอาคารค่ะ

ณ วันที่ไปรีวิวนี้ เปิดขายเฉพาะอาคาร C, E, G เท่านั้น อาคาร A, B, D, F จึงยังไม่มีแปลนมาให้ดูค่ะ ส่วนอาคาร H เปิดขายให้กับ VIP ของพฤกษาก่อนค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานของ Chapter One Eco นั้น แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว อาคาร C และ G สูง 26 ชั้น มี 225 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 112 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ก็ถือว่าหลวมๆ  ส่วนอาคาร E สูง 22 ชั้น 252 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 126 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว หนาแน่นกว่าหน่อย  แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่สำหรับระดับราคานี้ค่ะ

ที่จอดรถมี 700 คัน หรือ 37% นับรวมจอดซ้อนคัน ที่อาคารจอดรถ 2 อาคาร  สัดส่วนออกมากลางๆ  นอกจากนี้คอนโดก็มีบริการ Shuttle Bus รับส่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ห้วยขวาง เป็นตัวเสริมให้ด้วยค่ะ

.

ทางเข้าด้านหน้าโครงการ ส่วนที่เป็นสำนักงานขาย อนาคตจะกลายเป็นร้านค้า

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นกลุ่มอาคารพักอาศัย ส่วนขวามือเป็นที่จอดรถและมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านบน

เหนืออาคารจอดรถจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง จัดเป็นหลังๆ  1 หลัง =  1 ห้องกิจกรรม และมีทางเดินเชื่อมกัน แต่ไม่มีหลังคา ถ้าฝนตกจะมาใช้งานลำบากหน่อย

เริ่มจาก Home Theater เตรียมพื้นที่ไว้ให้สำหรับลูกบ้านมาดูหนังได้

ห้องปลูกผักสำหรับลูกบ้าน อยากทดลองปลูกอะไรก็เอามาปลูกได้

ห้องสมุดและชั้นหนังสือที่มาในสไตล์เดียวกับตัวอาคาร

Bike Club & Bike Park สำหรับคนชอบขี่จักรยาน ก็จะมีจุดจอดจักรยานและอุปกรณ์ซ่อมบำรุงเอาไว้ให้

Co-Working Space สำหรับมานั่งทำงานด้วยกัน  ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับคนวัยทำงานยุคนี้

ลานบาร์บีคิว สำหรับจัดปาร์ตี้ปิ้งย่าง

ส่วนแต่ละอาคารก็จะมีห้อง Co-Working Space เล็กๆ แยกให้มาใช้งานกันอีกด้วย  เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน สำหรับคนที่ขี้เกียจเดินมาที่ส่วนกลาง  อยากสะดวกแบบกดลิฟต์ลงมาแล้วถึงเลย

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง
อาคาร C

อาคาร C สูง 26 ชั้น 225 ยูนิต  ชั้นล่างเข้าได้ 2 ทาง ชั้นล่างมี Co-Working Space อยู่แยกออกไปต่างหากจากโถงต้อนรับ  มีหลังคาสามเหลี่ยมแบบที่เห็นในรูปตัวอย่าง  ฟังก์ชั่นหลักๆ นอกจากโถงต้อนรับ ก็มีโถงลิฟต์, ห้องจดหมาย, ห้องซักผ้า, ห้องน้ำ, ห้องเก็บของ, ห้องนิติบุคคล และห้องเครื่องต่างๆ   ชั้น 2 – 26 แปลนจะเหมือนกันทุกชั้นค่ะ แต่ละชั้นมีห้องแค่ 9 ห้องเท่านั้น ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากทีเดียว ใน 1 ชั้นมีทั้งห้องสตูดิโอและ 1 ห้องนอนคละกันไป โดยมีแบบสตูดิโอ 4 ห้อง Type A1 -A2 และแบบ 1 ห้องนอนขนาด B1 – B4 อยู่ 5 ห้องค่ะ

Floor Plan คอนโด Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง
อาคาร E

อาคาร E จะเตี้ยลงมาเหลืออยู่ 22 ชั้น 252 ยูนิต  แปลนจะต่างกับอาคาร C  ชั้นล่างจะไม่มีห้อง Co-Working Space แยกออกมาอยู่เดี่ยวๆ เหมือนอาคาร C  แต่จะอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโถงต้อนรับและโถงลิฟต์ มีห้องจดหมาย, ห้องนิติบุคคลและห้องน้ำเช่นกัน  ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไป แปลนเหมือนกันทุกชั้น มี 12 ห้องใน 1 ชั้น ซึ่งมากกว่าอาคาร C แต่ก็ยังถือว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยอยู่ค่ะ  แบบห้องจะมีไม่เหมือนกัน โดยจะมีห้องแบบห้องสตูดิโอมากกว่า 1 ห้องนอน และมี Type A3, A4 เพิ่มขึ้นมา แต่ไม่มี Type A2, B3 ค่ะ

Floor Plan คอนโด Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง
อาคาร G

อาคาร G จะเหมือนกับอาคาร C เลยค่ะ คือมี 26 ชั้น 225 ยูนิต เหมือนกันและหน้าตาแปลนก็เหมือนกันด้วย  ต่างกันแค่มีเปลี่ยนทางลาดเข้าอาคารคนละทางเท่านั้นเองค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง นั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ แบบสตูดิโอและแบบ 1 ห้องนอน โดยแต่ละแบบก็แบ่งย่อยออกไปอีก ซึ่งต่างกันที่ขนาดห้องเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

• แบบสตูดิโอ Type A1 – A4 ขนาด 22.57 – 23.26 ตารางเมตร
• แบบ 1 ห้องนอน Type B1 – B5 ขนาด 29.27 – 36.53 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Chapter One Eco Ratchada – Huaikwang

แบบ สตูดิโอ (Type A) ขนาด 22.57-23.26 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบสตูดิโอของ Chapter One Eco จะเป็นแบบหน้าแคบและลึกเข้าไป พื้นที่ส่วนนั่งเล่นจะรวมกับส่วนนอน เปิดประตูห้องเข้ามาเจอพื้นแพนทรี่ติดกับตู้เสื้อผ้า ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและส่วนนอน ปลายเตียงนั้นจะเป็นชั้นวางทีวี ทางออกระเบียงจะอยู่ใกล้กับหัวเตียงค่ะ ถ้าจะดูทีวีต้องดูจากบนเตียงเท่านั้น โซฟาจะต้องใช้สำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร รวมถึงทำงาน ในพื้นที่เดียวกัน   พื้นที่ของห้องสตูดิโอไม่ใหญ่มาก การใช้งานจริงอาจจะต้องทำตู้ Built-in เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานและเก็บของค่ะ

ห้อง Type A แต่ละแบบนั้น จะต่างกันเพียงตำแหน่งเสาโครงสร้างอาคารและขนาดห้องเล็กน้อย อย่าง Type A1, A3 เสาจะอยู่หลังชั้นวางทีวีปลายเตียงเหมือนกันแต่ห้อง A1 มีขนาด 22.57 ตารางเมตร ห้อง A3 จะใหญ่กว่าอยู่ที่ 23.18 ตารางเมตรค่ะ แบบ A2 ขนาดจะยิ่งพื้นที่จะเล็กสุด 22.08 ตารางเมตร แต่ไม่มีเสาในห้องเลย ส่วน A4 จะมีเสาบริเวณหัวเตียงและหลังชั้นวางทีวีค่ะ แบบ A4 น่าจะต้องทำ built-in หัวเตียงเก็บความเรียบร้อยตรงเสาโครงสร้าง เพื่อไม่ให้เป็นซอกมุม

แปลนห้องคอนโด Chapter One Eco Ratchada – Huaikwang

แบบ 1 ห้องนอน (Type B) ขนาด 29.27 – 36.53 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน จะได้แปลนหน้ากว้างกว่าสตูดิโอ เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีพื้นที่ใช้งานครบมากขึ้น ภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ แพนทรี่, ห้องนั่งเล่น, ระเบียง ส่วนที่ 2 เป็นห้องนอนและห้องน้ำ โดยทุกห้องจะได้ครัวแบบเปิดอยู่ในส่วนเดียวกับพื้นที่นั่งเล่น ไม่เน้นการทำครัวหนักแบบจริงจัง ห้องนั่งเล่นได้แสงธรรมชาติตลอดวันเพราะติดระเบียง ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนและมีห้องน้ำในตัว ซึ่งการกั้นกระจกบานเลื่อนก็ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และกว้างมากขึ้นค่ะ

แบบห้อง B1, B2, B3 จะเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดของห้องและเสาในห้อง ส่วนแบบ B4 ต่างที่ทางเข้าห้องไม่เหมือนห้องอื่นๆ ค่ะ และสุดท้ายแบบ B5 ที่จะมีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 36.53 ตารางเมตร มีแค่เฉพาะอาคาร H ห้องนี้ก็จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่ฟังก์ชั่นรวมๆ ไม่ต่างกันค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

Chapter One Eco มีห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบสตูดิโอ (Type A1) ขนาด 22.57 ตารางเมตร , 1 ห้องนอน (Type B1) ขนาด 29.27 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอน (Type B4) ขนาด 30.40 ตารางเมตร  ความสูงของฝ้าเพดานในห้องทั่วๆ ไปสูง 2.70 เมตร ในห้องน้ำฝ้าสูง 2.4 เมตร  ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

(ป.ล. Key Plan ของห้องตัวอย่างแบบสตูดิโอ (Type A1) จะเป็นแปลนของเดือนตุลาคม 59 ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตำแหน่งการวางโซฟาใหม่ให้อยู่แนวเดียวกับชั้นวางทีวีค่ะ)

ห้องตัวอย่างคอนโด แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง 

แบบ Studio (Type A1) ขนาด 22.57 ตารางเมตร

เริ่มจากห้องสตูดิโอ เมื่อเปิดประตูห้องแล้วซ้ายมือจะเป็นชั้นเก็บของเท้า และที่วางตู้เย็น ส่วนขวามือเป็นแพนทรี่ แบบเก็บเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ ต่างกับ 1 ห้องนอนที่วางบริเวณระเบียง

ถัดเข้ามาเป็นที่วางตู้เสื้อผ้า ตรงข้ามกับห้องน้ำ

ห้องน้ำคอนโดนี้เก๋มาก ปูกระเบื้องผนังสีขาว แล้วใช้ยาแนวสีดำตัดกัน ดูวัยรุ่นดี

เดินต่อเข้ามาอีกเป็นเตียงนอนและชั้นวางทีวีอยู่ปลายเตียง โซฟานั่งเล่นจะอยู่ติดกับหน้าต่างห้อง  เป็นข้อจำกัดของห้องแบบสตูดิโอ คือ จะไม่สามารถนั่งดูทีวีจากบนโซฟาได้  ต้องดูจากบนเตียงอย่างเดียว

มองไปที่หัวเตียงค่ะ แค่วางเตียงก็เต็มพื้นที่ห้องแล้ว

ข้างหัวเตียงเป็นทางออกระเบียง

ข้างเตียงมีที่เหลือประมาณ 30 ซม. วางชั้นเล็กๆ ข้างเตียงได้

พื้นที่ระเบียงของห้องสตูดิโอจะไม่ใหญ่มากค่ะ  แต่เนื่องจากเอาเครื่องซักผ้าไว้ใต้แพนทรี่แล้ว ระเบียงก็เลยจะว่างพอตากผ้าได้สบาย  ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ก็เก็บของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย

มองมาที่ตู้เก็บเสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องน้ำอีกทีนึง  ขนาดห้องนี่ทำมาแบบฟิตพอดี  ไม่ได้เหลือสเปซปล่อยโล่งเท่าไหร่

ห้องตัวอย่างคอนโด แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง 

แบบ 1 ห้องนอน (Type B1) ขนาด 29.27 ตารางเมตร

พื้นที่ส่วนแรกเป็นแพนทรี่อยู่ทางซ้ายมือค่ะ ขวามือเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร และต่อด้วยพื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่ติดระเบียง จะได้แสงธรรมชาติตอนกลางวัน ด้านหลังโซฟาเป็นประตูบานเลื่อนเข้าห้องนอน

จากพื้นที่นั่งเล่นมองกลับไปที่ประตูทางเข้าเห็นชุดแพนทรี่รูปตัว L ซึ่งสามารถติดตู้บนผนังเพิ่มได้อีก

มองเข้าไปในห้องนอนค่ะ ห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือ มีตู้เสื้อผ้าอยู่ใกล้ห้องน้ำ  ส่วนทางขวามือเป็นหน้าต่าง

ตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ ได้แบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ปลายเตียงมองกลับไปที่ห้องนั่งเล่นค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนขนาดได้มาตรฐาน ตกแต่งเหมือนกันทุกห้องค่ะ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ

ห้องตัวอย่างคอนโด แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง 

แบบ 1 ห้องนอน (Type B4) ขนาด 30.40 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้าห้องนี้มาจะเจอกับแพนทรี่ ที่รวมชั้นรองเท้าเอาไว้ด้วยกัน ที๋โล่งทางขวามือสำหรับวางตู้เย็น

ตรงข้ามเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่มีใหญ่ขึ้น อยู่ในพื้นที่เดียวกับห้องนั่งเล่นและอยู่ติดกับทางออกระเบียง ด้านหลังโซฟาเป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่เข้าห้องนอน

ตัวประตูเป็นกระจกบานกว้าง และสูงชนฝ้าเลยค่ะ มีรางอยู่ที่ฝ้าและบนพื้น

มองกลับไปที่ทางเข้าห้องและแพนทรี่

ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างมากขึ้น มีโต๊ะทำงานอยู่ข้างตัวเตียงค่ะ

มองกลับไปที่ห้องนั่งเล่น

ปลายเตียงห่างกับประตูบานเลื่อนประมาณ 30 ซม. แค่พอเดินได้

มีหน้าต่างบานเลื่อน รับแสงธรรมชาติค่ะ

อีกฝั่งนึงของห้องเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ  ห้องนี้ประตูห้องน้ำอยู่ตรงกลาง เลยแบ่งตู้เก็บเสื้อผ้าออกเป็น 2 ฝั่ง

สุดท้ายมาดูที่ระเบียงค่ะ ให้ระเบียงมากว้าง 1 เมตร

สำหรับที่วางเครื่องซักผ้า มีก๊อกน้ำเตรียมไว้ให้  คอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนอยู่ที่ผนังเหนือเครื่องซักผ้า

เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของ Chapter One Eco ก็ให้มาค่อนข้างดีค่ะ ได้ห้องแบบ Fully Furnished ตัวห้องได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว, ฝ้าฉาบเรียบสีขาว ได้เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian เหมือนในห้องตัวอย่างและในสำนักงานขายเลยค่ะ ได้เคาน์เตอร์ครัว, อ่างล้างจาน (ไม่มีเตาไม่มีเครื่องดูดควัน)  ได้ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร ขนาดแล้วแต่ห้อง, โซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี, เตียงพร้อมฟูก, ตู้เก็บเสื้อผ้าขนาดแล้วแต่ห้อง และชุดสุขภัณฑ์ยกเว้นกระจกกั้นอาบน้ำค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

Pantry ของห้องแบบ 1 ห้องนอน เฉพาะ Type B4 ขนาด 30.40 ตารางเมตรค่ะ จะได้เคาน์เตอร์และตู้เก็บของติดผนัง ของ Starmark หรือเทียบเท่า

เปิดตู้ให้ดูค่ะ เก็บของได้เยอะทีเดียว

เคาน์เตอร์ของแบบห้อง 1 ห้องนอน Type B1 – B3, B5 จะได้เป็นรูปตัว L เข้ามุม

เก็บของได้พอๆ กันค่ะ แต่จะเพิ่มตู้เก็บของรองเท้าให้ อยู่ด้านข้างที่วางไมโครเวฟ เพราะว่าอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้องพอดี

ชั้นวางรองเท้าด้านข้างของตู้ค่ะ เก็บเบียดๆ หน่อย ได้ประมาณ 6-9 คู่

ครัวของห้องสตูดิโอ สามารถวางเครื่องซักผ้าใต้เคาน์เตอร์ได้ แต่จะเก็บของได้น้อยลง

เปิดให้ดูที่เก็บของใต้อ่างล้างจานค่ะ

บานตู้สีขาว คุณภาพดีค่ะ เป็นแบบ Soft-Close ด้วย

อ่างล้างจานยี่ห้อ MEX

ก๊อกน้ำแบบสูง ยี่ห้อ MEX

Top เคาน์เตอร์สีขาว ทำจากหินสังเคราะห์  มีชั้นเก็บของแบบซ่อนไฟเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าสีขาว วางบนเคาน์เตอร์หินสีดำ

ตัวตู้เก็บของใต้อ่างทำจาก particla board สีน้ำตาลลายไม้

โถสุขภัณฑ์สีขาว Cotto หรือเทียบเท่า

กระจกวงรี มีขอบสีน้ำตาล

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก Prema

พื้นที่อาบน้ำ จะมีธรณียกขึ้นมาแบ่งส่วนเปียก-แห้ง

ฉากกั้นอาบน้ำจะไม่มีให้ แต่ถ้ากั้นจะได้ขนาดพอดีตัว, พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องสีอ่อน ขนาด 30×30 ซม.  ส่วนผนังกระเบื้องสีขาว ผิวเงา ขนาด 20×30 ซม. ยาแนวสีดำ

ชุดฝักบัว พร้อมที่วางสบู่ของ Prema

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

วงกบประตูเป็น PVC สีขาว ทุกประตูเป็นบาน HDF สีเทาอ่อน แต่ไม่มีตัวอย่างให้ดูค่ะ

ตัวเก็บรอยต่อพื้นห้องกับพื้นภายนอก สีไม้เหมือนกับสีพื้นภายในห้อง ภายในห้องปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สีน้ำตาลอ่อน

ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะได้ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำจากอลูมิเนียมสีธรรมชาติ มีรางทั้งบนฝ้าและที่พื้น

รางประตูบานเลื่อนที่พื้น

มือจับประตูบานเลื่อน

ดวงไฟซาลาเปา หลอดไฟ LED

หน้าต่างอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกใส

พื้นระเบียงปูกระเบื้องสีน้ำตาลเข้ม ขนาด 30×30 ซม.

ระเบียงเหล็กสีดำ

มีก๊อกน้ำเอาไว้ให้ที่ระเบียง สำหรับซักล้างค่ะ

ธรณีออกระเบียงสูงประมาณ 5 ซม.

มือจับประตูบานเลื่อน

สวิสซ์ไฟสีขาว ยี่ห้อ Bticino

ปลั๊กไฟสีขาว ยี่ห้อ Bticino

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ ของแบบ 1 ห้องนอน Type B1, B2, B3 ค่ะ

ถ้าเป็นห้อง B4, B5 จะได้โต๊ะใหญ่ขึ้นและได้เก้าอี้ 2 ตัว ถ้าเป็นห้องสตูดิโอจะไม่มี

โต๊ะกลางได้เหมือนกันทุกห้อง

โซฟานั่งได้ 2 – 3 คน

เตียงนอน

ชั้นวางของติดผนังสีขาว

โต๊ะทำงานข้างเตียงของแบบ 1 ห้องนอน เฉพาะ Type B4 ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าของแบบ 1 ห้องนอน Type B4 จะได้แยกเป็น 2 ตู้เล็ก

ห้องอื่นๆ จะได้เป็นตู้เสื้อผ้าตู้เดียว แต่ใหญ่ขึ้น

เก็บของได้พอสมควร คุณภาพดีค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่แวะเข้าไปทำรีวิว Chapter One Eco (10 มกราคม 2560) เปิดขาย 3 อาคาร คือ อาคาร C, E และ G ส่วนตึก H นั้นขายเงียบๆ เซลล์บอกว่า Sold-out ไปทั้งตึกแล้ว  อีก 4 อาคาร ก็คงทยอยเปิดกันเรื่อยๆ ค่ะ   ณ วันที่รีวิว  ราคาเปิดอยู่ที่ 2.1 ล้านบาท  เป็นห้องโปรโมชั่นที่ใช้ทำราคาขายให้ดึงดูด  แต่ห้องส่วนใหญ่ในโครงการนั้นราคาสตูดิโอจะอยู่ในช่วง 2.319 – 2.559 ล้านบาท  ส่วน 1 ห้องนอน อยู่ที่ 3.099-3.529  เฉลี่ยภามรวมออกมาก็ประมาณ 105,xxx-115,xxx บาท/ตร.ม. ค่ะ  เราหยิบราคาห้องมาให้ดูกันบางส่วน  ทั้งห้องโปรโมชั่น  และห้องราคาปกตินะคะ

ราคา ณ วันที่ 10 มกราคม 2560

ราคาเริ่มต้น :

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ยูนิตโปรโมชั่น อาคาร E ราคา 2,319,000 บาท เฉลี่ย 108,298 บาท/ตร.ม.

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C, E ราคาเริ่มต้น 2,499,000 บาท เฉลี่ย 110,722 บาท/ตร.ม.

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 18-26 อาคาร G ราคาเริ่มต้น 2,589,000 บาท เฉลี่ย 114,709 บาท/ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท เฉลี่ย 105,876 บาท/ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 18-26 อาคาร G, E ราคา 3,199,000 บาท เฉลี่ย 109,292 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

Studio จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 10,000 บาท

1 Bedroom จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 20,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

Studio จ่ายงวดละ 3,900 บาท / งวดบอลลูนที่ 4,10,15,20

1 bedroom จ่ายงวดละ 5,900 บาท / งวดบอลลูนที่ 4,10,15,20

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17  อาคาร C, E ราคา 2,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,710 บาท/เดือน

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,482 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17  อาคาร C, E ราคา 2,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,872 บาท/เดือน

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท ผ่อนประมาณ 20,811 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17  อาคาร C, E ราคา 2,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 18,531 บาท/เดือน

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,980 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17  อาคาร C, E ราคา 2,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,651 บาท/เดือน

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท ผ่อนประมาณ 26,850 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio พื้นที่ 22.57 ตร.ม. ชั้น 2-17  อาคาร C, E ราคา 2,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,222 บาท/เดือน

1 Bedroom พื้นที่ 29.27 ตร.ม. ชั้น 2-17 อาคาร C ราคา 3,099,000 บาท ผ่อนประมาณ 34,998 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ทำเลของ Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง อยู่บนถนนประชาอุทิศ ซึ่งเป็นถนนรองที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษก, ถนนเทียมร่วมมิตรและถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นหากใชรถยนต์เข้าออกก็มีทางเลือกในการเดินทางมาก และไม่ไกลจากย่านพระราม 9 ที่เป็น New CBD ของกรุงเทพฯ มากนัก และยังสามารถทะลุไปออกซอยรัชดาภิเษก 18 และถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้อีกด้วย แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนี้เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง  ก็ทำให้ถนนเส้นนี้มีรถเยอะคับคั่งไม่แพ้ถนนเส้นใหญ่เลยค่ะ  บางช่วงเวลาการจราจรก็มีติดขัดบ้าง

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่ การกระจายตัวของประชากรก็จะกระจายออกไปตามแนวถนนและซอยย่อยต่างๆ  ไม่ได้กระจุกตัวอยู่จุดใดจุดหนึ่งมากจนเกินไป  แม้ว่าความคึกคักจะอยู่ตรงใกล้แยกห้วยขวางก็ตาม   มี MRT ห้วยขวางเป็นการเดินทางหลักของคนในย่านนี้  ถ้าเป็นแหล่งทำงานและแหล่งจับจ่ายใช้สอยจะอยู่ถัดไปอีก 1 – 2 สถานีคือ สถานีศูนย์วัฒนธรรม และสถานีพระราม 9  ซึ่งจะมีศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานจำนวนมากเป็นดีมานด์รองรับที่อยู่อาศัยในพื้นที่ได้อย่างดีเลย พระราม 9 มีแนวโน้มจะเป็น NEW CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ทำให้มีคอนโดจำนวนมากไปสร้างในบริเวณนั้นและไล่มาจนถึงศูนย์วัฒนธรรม  ซึ่งตรงนั้นก็เป็นจุดที่ราคาค่อนข้างสูง  สำหรับคนที่กำลังจ่ายไม่ได้สูงมากก็มักจะขยับมาอีกนิดแถบห้วยขวางหรือสุทธิสารค่ะ

ในอนาคตตรงศูนย์วัฒนธรรมเองก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มาจากถนนรามคำแหงเข้าถนนพระราม 9 แล้วตัดมาสถานีศูนย์วัฒนธรรม จะทำให้ย่านศูนย์วัฒนธรรมพัฒนามากขี้นไปอีก แม้ถนนประชาอุทิศจะอยู่ห่างออกมาอีก 1 สถานี  แต่ก็น่าจะได้รับอานิสงค์ไปด้วยแน่นอน

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

คอนโด Chapter One Eco รัชดา – ห้วยขวาง  มีอาคารพักอาศัยทั้งหมด 8 อาคาร สูง 22 – 26 ชั้น และอาคารจอดรถ 2 อาคารสูง 4, 5 ชั้น มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านบน   อาคารพักอาศัยทั้ง 8 จะวางเรียงตัวกันเข้าไปในที่ดินชิดฝั่งทิศตะวันออกของที่ตั้งโครงการ ไล่จากอาคาร A, B, C, D, E, F, G และ H อยู่ท้ายสุดโครงการ  ส่วนอาคารจอดรถอยู่ชิดฝั่งทิศตะวันตก ติดกับอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้นข้างเคียง  เมื่อเป็นโครงการที่มีหลายอาคารจะมี Choice ให้เลือกแล้วแต่ความชอบ เช่น อาคารด้านหน้าจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าไม่ต้องเดินไกล แต่อาคารที่อยู่ท้ายโครงการก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า คนไม่ผ่านเยอะและไม่อยู่ติดถนน  ก้ดีเสียกันคนละแบบ  ส่วนระยะการเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถจัดว่าพอๆ กันค่ะ

คอนโดออกแบบมาในสไตล์ Scandinavian Design ภายนอกจะเห็นได้ชัดจากพื้นที่ส่วนกลาง ที่ตั้งอยู่เป็นหลังๆ เหมือนบ้านเล็กๆ  เป็นการจัดวาง Facilities ที่แปลกตาจากดีไซน์ทั่วไปตามท้องตลาดอยู่มากทีเดียว  ในแต่ละหลังจะมีหลังคาทรงสามเหลี่ยมแบบไม่มีชายคายื่นออกมา จริงๆ ดีไซน์แบบนี้อาจจะไม่ค่อยรับกับภูมิอากาศในเมืองไทยเท่าไหร่  ต้องรอดูตอนสร้างเสร็จว่ามีต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่นหรือไม่  อย่างน้อยถ้ามีร่มเงาก็จะช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคารได้เพิ่มขึ้น  ส่วนภายในก็จะเน้นใช้โทนสีขาว  เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน  ตามดีไซน์ของแถบสแกนดิเนเวีย

ด้านการวางแปลน Chapter One Eco  Ratchada – Huaikwang  แบบ 1 ห้องนอน จัดออกมาได้ดี  และใช้พื้นที่ได้มีประสิทธิภาพค่ะ  ได้พื้นที่และฟังก์ชั่นครบ  สามารถเปิดประตูบานเลื่อนกระจกของห้องนอนเชื่อมพื้นที่กับห้องนั่งเล่นได้พื้นที่กว้างขึ้น แต่ละห้องให้หน้าต่างและช่องแสงเต็มที่ ทุกแบบห้องจะได้ครัวแบบเปิดและไม่ติดระเบียงหน้าต่าง จึงไม่เหมาะกับการทำอาหารมื้อหนักแบบจริงจังเท่าไหร่ค่ะ  ส่วนห้องสตูดิโอนั้นจากข้อจำกัดของพื้นที่ทำให้การใช้งานบางอย่างจะต้องรวมกัน เช่น  โซฟานั่งพักผ่อน, โต๊ะรับประทานอาหาร และโต๊ะทำงาน  จุดติข้อนึงคือไม่สามารถดูทีวีจากตรงโซฟาได้ค่ะ

ด้านวัสดุ Chapter One Eco นั้นให้มาดีในภาพรวมค่ะ ผิวสัมผัสดี พื้นไม้ลามิเนต, ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟซาลาเปา หลอดไฟ LED ภายในห้อง รวมถึงส่วนอื่นๆ ของโครงการก็ใช้ LED เช่นกันเพื่อประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟได้ประมาณ 22%  ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ ECO ค่ะ  พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาแบบ  Fully Furnished ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว ดีไซน์สวย  คุมโทนสีของวัสดุได้ดี เช่น เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานและชั้นวางรองเท้า ออกแบบมาเฉพาะให้เข้ากับแต่ละห้อง, โต๊ะกลาง, โซฟา, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร ขนาดเหมาะสมกับห้อง, เตียงพร้อมฟูก, ตู้เก็บเสื้อผ้าแล้วแต่ขนาดห้อง, สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำยกเว้น กระจกกั้นอาบน้ำค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลาง Chapter One Eco รัชดา-ห้วยขวาง ก็จะมีฟังก์ชั่นเพิ่มสนับสนุนความเป็น Eco มากขึ้น เช่น พื้นที่ปลูกผัก, Bike Club, ที่จอดรถจักรยาน และการติดแผง Solar Cell บนหลังคา ส่วนกลางอื่นๆ ที่ควรมีก็มีให้ครบ เช่น สระว่ายน้ำ, จากุชชี่, ฟิตเนส, ห้องสมุด, Co-Working Space, Home Theater, ลานบาร์บีคิว  และมี Co-Working Space ตามอาคารต่างๆ อีกด้วย

สัดส่วนการใช้ลิฟต์ของอาคาร C, G คือ 112 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ส่วนอาคาร E มีสัดส่วนลิฟต์ 126 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว สัดส่วนดี จอดรถได้ 700 คัน หรือคิดเป็น 37% นับจอดรถซ้อนคัน  อาจจะดูไม่เยอะนัก  แต่เมื่อเทียบกับระดับราคาและทำเลก็ถือว่าโอเคอยู่  โดยคอนโดมี Shuttle Bus รับส่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาช่วยซัพพอร์ทด้วย

สำหรับคอนเซ็ปต์ Eco ไม่ได้สะท้อนออกมาที่การออกแบบอาคารเท่าไหร่ ยังไม่เห็นแผงบังแดดหรือสิ่งที่ควรจะมีให้กับอาคารในเมืองร้อน  แต่จะไปอยู่ที่การเลือกใช้หลอดไฟ LED เพื่อประหยัดไฟที่หลายๆ โครงการก็เลือกใช้กันอยู่แล้วไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ ,แผง Solar Cell ก็ยังไม่ได้จัดเต็มมากนัก , พื้นที่ส่วนกลางที่เพิ่มเข้าพิเศษอย่างห้องปลูกผักและห้องจักรยาน ก็นับว่ามีไอเดียที่ดีแต่ยังนึกภาพไม่ออกกับการจัดการ  แม้ยังดูไม่ค่อย Eco  แบบที่คาดหวังไว้ แต่อย่างไรก็อยากจะชื่นชมที่ แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง คำนึงถึงเรื่องนี้ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ