เอพีคาดตลาดไตรมาส 2 สนามจริงของรายใหญ่ คอนโดระดับล่างเหนื่อย ตลาดแนวราบแข่งรุนแรงขึ้น อยู่รอดหรือไม่วัดกันที่การบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุน ความเข้าใจ พฤติกรรมผู้บริโภค และการสร้างนวัตกรรมสินค้ารูปแบบใหม่ที่ต้องหมุนให้เร็วและตามให้ทันไตรมาส 2 เตรียมแผนการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 15,600 ล้านบาท ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ตอบไลฟ์สไตล์คนเมือง   

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาตลาดโดยรวมยังคงทรงตัว พอขายได้แต่ไม่หวือหวามาก การเปิดตัวโครงการใหม่ก็มีไม่มาก ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและบรรยากาศการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ยังฟื้นกลับมาไม่ 100% ซึ่งคิดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักหลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านไป ถามว่าแนวโน้มตลาดจากวันนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน สำหรับสินค้าคอนโดมิเนียมเชื่อว่า จากวันนี้ไปตลาดคอนโดระดับล่างยังคงเหนื่อยในการผลักดันสต็อกเหลือขาย ส่วนตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนต์ไม่น่ากังวลดีมานด์ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของการสรรหาที่ดินมาพัฒนา จะช่วยกรองผู้เล่นในตลาดให้เหลือน้อยลง สุดท้ายก็จะคงเหลือเพียงผู้ประกอบการรายใหญ่สู้กันเอง ส่วนตลาดแนวราบเราเห็นภาพดีเวลลอปเปอร์วิ่งหาซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการแนวราบทดแทนสินค้าคอนโดมากขึ้น ดังนั้นจากวันนี้ไปแนวราบจะแข่งขันกันมากขึ้นกว่าเดิม

“การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งและแพคเกจราคาขายแล้วนั้น ที่เอพีเราโฟกัสการพัฒนาสินค้า ภายใต้ 3 แกนสำคัญ คือ โครงสร้างต้นทุน – การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค – การมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับสินค้า ซึ่งทั้ง 3 แกนนี้ต้องหมุนให้เร็วและทันกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ที่มุ่งเดินเกมด้วยแนวคิด  “เอพีคิดและสร้างความแตกต่าง” (AP THINK DIFFERENT)  เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการให้บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมเครือ  เอพีเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOISE FOR URBAN FAMILY)”

ทั้งนี้ ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. พลีโน่ บางใหญ่ มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท
2. พลีโน่ สุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 1,460 ล้านบาท
3. บ้านกลางเมือง ปิ่นเกล้า-จรัญ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท

สามารถสร้างยอดขายรวม 3,750 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,650 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,650 ล้านบาท รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 60 ทำเล บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแผนธุรกิจในการพัฒนาสินค้าคอนโดมิเนียมปี 2560 ที่เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหญ่แห่งปี มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในส่วนคอนโดมิเนียมไว้ที่ 12,400 ล้านบาทนั้น ในไตรมาส 2 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 2 คอนโดใหญ่แห่งปี มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ได้แก่ Life ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 7,600 ล้านบาท ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม และ Life One Wireless มูลค่าประมาณ 6,400 ล้านบาท  โดยไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถึงแม้บริษัทจะไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่สามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 550 ล้านบาทจากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมั่นใจว่าจากการเปิดตัว 2 โครงการใหญ่แห่งปีในไตรมาส 2 นี้จะสร้าง Talk of The Town ได้อย่างแน่นอน

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวในส่วนของแผนแนวราบว่า บริษัทฯ เตรียมเปิด 15 โครงการ ด้วยแบบบ้านดีไซน์ใหม่ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม 7 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในส่วนโครงการแนวราบไว้ที่ 13,600 ล้านบาท โดย ในไตรมาส 2 บริษัทฯ พร้อมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,650 ล้านบาท ได้แก่ 1) Centro พระราม 9-มอเตอร์เวย์ มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท 2) Centro ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนา มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ในส่วนของแนวราบสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 3,200 ล้านบาทจากการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ และโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

สรุปแผนการดำเนินงานในปี 2560

เอพีเดินเกมด้วยกลยุทธ์ “คิดและสร้างความแตกต่าง” (AP THINK DIFFERENT) เน้นย้ำจุดแข็งของเอพีในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ โดดเด่นด้วยดีไซน์และการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย รวมถึงวิสัยทัศน์ในการแบ่งปันองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรคุณภาพสู่วงการอสังหาฯ ไทย โดยในปี 2560 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท โดยมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม 7 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท