รีวิวฉบับนี้อยู่สบายจะพาไปดูบ้านแฝด Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  ซึ่งเป็น 1 ในโครงการ Q District กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิจาก Q House ค่ะ   Q District กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  ประกอบไปด้วย 2 โครงการคือ บ้านแฝด คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  และทาวน์โฮม กัสโต้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  ซึ่งมีทางเข้าโครงการตั้งแต่ถนนกิ่งแก้วมายังหน้าโครงการร่วมกัน  แต่พื้นที่ส่วนกลางนั้นแยกโครงการกันชัดเจนค่ะ  โดย Casa City จะเป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้นทั้งโครงการ มีแบบบ้านอยู่แบบเดียว  ส่วน Gusto จะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น มีพื้นที่โครงการใหญ่กว่า จำนวนบ้านเยอะกว่า มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ  แน่นอนว่าราคาบ้าน Casa จะแพงกว่า เพราะเป็นบ้านเดี่ยว  มีพื้นที่บ้าน, พื้นที่ดิน และความเป็นส่วนตัวกว่าค่ะ

เราได้ทำรีวิวของ Q District ไว้ทั้งในส่วนของ Casa City และ Gusto  แต่บทความนี้เราจะเน้นไปที่ Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ นะคะ หากใครสนใจ Q District Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ก็สามารถไปอ่านกันได้ที่นี่ค่ะ >>>  รีวิว Gusto กิ่งแก้ว – สุวรรรภูมิ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Q District Casa City Kingkaew-Suvarnabhumi
(คิว ดิสทริค คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ) 

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> กิ่งแก้ว 37/5  อ.บางพลี  จ.สมุทรปราการ
• ขนาดที่ดิน >>> 18-0-72 ไร่
• ประเภท >>> บ้านแฝด 2 ชั้น
• จำนวนหลัง >>> 129 ยูนิต
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • Citta – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 132 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5.7 ม.
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.89 – 4.09 ล้านบาท ณ วันที่ 9/3/2017
• พิกัด GPS >>> 13.699989, 100.728934
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1388

.

โครงการบ้านแฝด Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ อยู่บนถนนกิ่งแก้วซอย 37/5  ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และสถานีลาดกระบัง Airport Rail Link

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

เริ่มต้นเดินทางจาก ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าไปทางสนามบินสุวรรณภูมิ  ขับผ่านแยกถนนกาญจนาภิเษกตรงมาเรื่อยๆ  จนมีทางเบี่ยงซ้ายเข้าซอยร่มเกล้า 1 ก็ให้ขับตามทางไปจนถึงสามแยกไฟแดงแล้วเลี้ยวขวาค่ะ  จากนั้นขับตรงมาจนถึงแยกลาดกระบัง ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าไปเลนซ้ายเลยเพราะเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกิ่งแก้วที่แยกแรก  พอเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วแล้วก็ขับชิดเลนขวาได้ ไปกลับรถช่วงซอยกิ่งแก้ว 42/1  จากนั้นพอสังเกตเห็นสนามกอล์ฟ Windmill Arena Driving Range ที่อยู่ทางซ้ายมือก็เตรียมชิดซ้ายได้  ทางเข้าโครงการ Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ จะอยู่ถัดจากศูนย์รถยนต์ Toyota และ Nissan นิดเดียวค่ะ

โครงการ Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ และ Q District Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในโครงการ Q District บริเวณ ซอยกิ่งแก้ว 37/5  โดยทางเข้าจะติดกับศูนย์รถยนต์ Nissan  ขับลึกเข้าไปประมาณ 300 เมตรก็จะถึงซุ้มประตูทางเข้าของทั้งสองโครงการค่ะ  ถนนกิ่งแก้วที่ผ่านหน้าโครงการจะเป็นฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าไปที่ถนนลาดกระบัง สามารถไป สถานีลาดกระบัง ของ Airport Rail Link , สนามบินสุวรรณภูมิ และมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ – ชลบุรี เพื่อใช้เข้าตัวเมืองหรือออกจังหวัดชลบุรีได้  ส่วนถนนกิ่งแก้วฝั่งขาออกก็มีทางกลับรถไม่ไกลจากทางเข้า ไปทางถนนบางนา-ตราด มีทางพิเศษบูรพาวิถี สามารถใช้เข้าตัวเมืองหรือออกไปทางชลบุรีได้เช่นกัน  แต่ตำแหน่งที่ตั้งจะใกล้ทางถนนลาดกระบังมากกว่า เส้นลาดกระบังมี คอมมูนิตี้มอลล์ The Paseo ลาดกระบัง ซึ่งใกล้โครงการมากที่สุด  และมี ตลาดรวมใจ , Tesco Lotus ลาดกระบัง, โรงพยาบาลสิรินธร แต่ไม่มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ เหมือนถนนบางนา-ตราด ที่มีครบถ้วนตั้งแต่ Mega Bangna, Big C, HomePro Village สุวรรณภูมิ, Lotus บางนา, Makro บางพลี และ ตลาดกิ่งแก้ว 

ส่วนถนนกิ่งแก้วเอง จะไม่มีพวกศูนย์การค้าใหญ่เลยๆ ค่ะ  เพราะเป็นถนนที่ใช้ขนส่งสินค้า ตลอดทางจึงมีแต่โรงงานงาน, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหารริมทาง, โรงแรม, หมู่บ้าน, อพาร์ตเมนต์สำหรับคนงานที่ทำงาน  และมีรถบรรทุกวิ่งผ่านตลอดวัน ช่วงกลางของถนนกิ่งแก้วจะมีโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ค่ะ

การเดินทางไปยัง Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง จาก Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  จะต้องขับรถไปที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อไปเข้าทางเลียบมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ – ชลบุรี ใช้ระยะทางประมาณ 7.4 กิโลเมตรจากตัวโครงการ  ส่วนถ้าเดินทางจากโครงการไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ

ทีนี้มาซูมดูสิ่งแวดล้อมรอบๆ โครงการ Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ กันบ้างค่ะ  จะเห็นว่าตัว Casa City จะโดนที่ดินของโครงการ Q District Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ โอบล้อมไว้  ทั้งสองโครงการแชร์ถนนหลักที่ออกถนนกิ่งแก้วด้วยกันแค่นั้น  ทางเข้าโครงการ Q District กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  จะอยู่ติดกับ ศูนย์รถยนต์ Nissan (หมายเลข 1)  และศูนย์รถยนต์ Toyota (หมายเลข 2) ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นปั๊มแก๊ส LPG  (หมายเลข 3 ) ส่วนอีกฝั่งนึงที่อยู่ติดกับทางเข้าจะเป็นที่ดินเปล่าของเอกชน (หมายเลข 4) ต่อด้วย ซีเอชวัฒนายนต์ (หมายเลข 5) ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ในซอย 39 ค่ะ  ส่วนด้านข้างที่ติดกับโครงการด้านใน ทิศใต้จะมีรั้วโครงการติดกับซอยกิ่งแก้ว 37/4  ซึ่งติดกันก็เป็นหมู่บ้านโครงการข้างเคียง (หมายเลข 6)  และถัดไปก็สนามกอล์ฟ Windmill Arena Driving Range (หมายเลข 7)

ฝั่งตะวันตกมีบ่อน้ำขนาดใหญ่  ส่วนทิศเหนือถัดจาก Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ไปอีกก็จะเป็นบริษัท เวสเทอร์น พลาสติคส์ (หมายเลข 8) ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์  ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 39  ส่วนปากซอย กิ่งแก้ว 39 เป็นอาคารพาณิชย์ (หมายเลข 9) ซึ่งมีร้านอาหารอยู่บ้าง เลยไปอีกจะเป็นปั๊มน้ำมันปตท. (หมายเลข 10)  ซึ่งมีร้านกาแฟ และมีตู้ ATM ภายในค่ะ  และโรงเรียนที่ใกล้ที่สุดจะเป็น โรงเรียนพรหมพิกุลทอง สอนระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษา (หมายเลข 11) อยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องกับทางเข้าโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ทีนี้เราไปดูบรรยากาศจริง รอบๆ โครงการกัน จะได้เห็นภาพรวมของทำเลมากขึ้น  โดยเริ่มจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนกิ่งแก้วก่อนว่ามีตึกรามบ้านช่องหน้าตาเป็นยังไง ต่อด้วยถนนลาดกระบัง และศูนย์การค้าบนถนนบางนา – ตราด ค่ะ

ติดกับทางเข้าโครงการ Q District มี ศูนย์รถยนต์ Nissan

และศูนย์รถยนต์ Toyota ทั้งสองศูนย์อยู่ขนาบทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 37/4 เป็นจุดทางเข้าโครงการที่สังเกตง่ายดี

สนามไดร์ฟกอล์ฟ Windmill Arena Driving Range ด้านในมีร้านอาหารโคตะระ ชาบูด้วย

สำเพ็ง ซุปเปอร์สโตร์ ขายของราคาส่ง

ปั๊มแก๊ส NGV และปั๊มน้ำมันต่างๆ มีอยู่เป็นระยะ

Tesco Lotus ตลาด

บริษัท ผลิตสินค้าและโกดังต่างๆ ในลักษณะนี้มีเยอะมาก

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 อยู่บริเวณซอยกิ่งแก้ว 25/1 บรรยากาศรอบๆ จะคึกคักเป็นพิเศษ

นอกเหนือจากบริษัท และโกดัง ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์และร้านค้าต่างๆ

ส่วนใหญ่เป็นร้านซ่อมรถยนต์

โรงแรมก็มีเช่นกัน เช่น โรงแรมแกรนด์อินคำ

อพาร์ตเมนต์ Thongdee Place

ร้านอาหารแบบติดแอร์ก็พอจะมี แต่ไม่เยอะค่ะ

ร้านยางรถยนต์ Tyre Plus หรือ Cockpit ก็มี

สุดท้ายมาดูสภาพแวดล้อมบนถนนลาดกระบังบ้าง

เส้นนี้มี The Paseo ลาดกระบัง อยู่ติดกับศูนย์รถยนต์ Toyota เป็นคอมมูนิตี้ที่ใกล้ Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ มากที่สุด

ภายในก็มีครบทั้งร้านค้า และร้านอาหารค่ะ

โรงพยาบาลสิรินธร อยู่ในซอยลาดกระบัง 90

สุดท้ายไปดูศูนย์การค้า บนถนนบางนา – ตราด กันบ้าง เส้นนี้มีแทบจะครบทุกอย่าง อุดมสมบูรณ์สุดๆ

เริ่มจาก Tesco Lotus สาขาบางนา

ฝั่งตรงข้ามเป็น ร้านไท วัสดุ สาขาบางนา

Mega Bangna ภายในมีทั้ง Robingson, Big C, Homepro และ Ikea บางนา

นอกจากนั้นก็มีร้าน SB Furniture

ศูนย์การค้า Central Bangna แต่เริ่มจะขับมาไกลจากโครงการละ

Index Living สาขาบางนา และอีกหลายศูนย์การค้าค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

วนดูรอบๆ กันมาเยอะแล้ว เราเข้ามาที่โครงการกันเลยค่ะ

ตอนนี้เรามาอยู่ตรงทางเข้าโครงการ Q District ด้านหน้าค่ะ มองกลับไปที่ถนนกิ่งแก้ว ฝั่งตรงข้ามยังดูโล่งๆ

ป้ายทางเข้าโครงการ Q District ค่ะ  ประกอบไปด้วย Casa City และ Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ

ถนนหลักค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นด้านข้างของศูนย์ Nissan ขวามือเป็นที่ดินเปล่า

ขับตรงเข้ามาประมาณ 300 เมตร ก็จะมีสะพานข้ามคลองบัวลอย (แหม ชื่อน่ากิน)

ข้ามสะพานมาแล้วก็จะถึงวนเวียนหน้าทางเข้าโครงการทั้งสองค่ะ โดย Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ จะอยู่ทางซ้ายมือ ซุ้มทางเข้าสีขาว-น้ำตาลอ่อน ส่วน Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิจะอยู่ทางขวามือ สีน้ำตาลเข้มค่ะ

มีวนเวียนกลางสำหรับกลับรถด้านหน้าทางเข้าทั้งสองโครงการ

ซุ้ม Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรรณภูมิจะสีเข้มกว่า

ซุ้มทางเค้ามีกล้อง CCTV ส่วนลูกบ้านได้ EASY PASS

เราเข้ามาในส่วนของ Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ค่ะ  บ้านแฝดชุดแรกทำเป็นสำนักงานขาย

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ

เชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกัน

ห้องรับรองลูกค้า

ดูผังโครงการ การเข้าถึง

ผังโครงการ Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  จะมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 18 ไร่ ซึ่งจะถูก Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ที่มีพื้นที่โครงการ 40 ไร่ล้อมไว้สามด้าน  รั้วทางทิศใต้จะติดกับซอยกิ่งแก้ว 37/4  ซึ่งเป็นถนนทางเข้าหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งก็เรียกได้ว่าล้อมรอบไปด้วยบ้านพักอาศัย  การันตีได้ว่าจะอยู่ค่อนข้างสงบไปอีกนาน ดีกว่าไปติดกับโรงงานอะเนอะ

ส่วนในภาพรวมทั้ง Q District ที่รวม  Gusto กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ เข้าไปด้วย  ทิศตะวันตกจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่  ทิศเหนือติดกับ บริษัท เวสเทอร์น พลาสติคส์ ในซอยกิ่งแก้ว 39  ทิศตะวันออกติดกับคลองบัวลอย และบริษัท ซีเอชวัฒนายนต์ ในซอยกิ่งแก้ว 39 เช่นกันค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ จะมี Clubhouse อยู่ด้านหน้า ติดกับสำนักงานขาย  ภายในมีห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย  ส่วนสวนสาธารณะจะอยู่ตรงกลางโครงการ สวนมีลักษณะแคบยาว ทำให้มีจำนวนบ้านที่จะได้วิวสวนหลายหลัง

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ สไตล์โมเดริ์น โทนสีขาว ตกแต่งด้วยวัสดุโทนสีไม้ โทนอ่อน

แยกประตูเข้าออก และกั้นรถยนต์ด้วยไม้กระดก ลูกบ้านใช้วิธีแคะบัตร Easy Pass เข้าโครงการได้สะดวก

Clubhouse ก็ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ดูวัยรุ่นดี ชอบนะเพราะเรายังวัยรุ่น ฮ่าาา

สวนสาธารณะตรงกลางมีทางเดินด้านข้าง และปลูกต้นไม้ทรงสูงตลอดทางเดิน  รอต้นไม้โตกว่านี้หน่อยจะร่มรื่นกว่านี้ค่ะ

ตรงกลางจะปล่อยเป็นลานหญ้าว่าง พาเด็กมาวิ่งเล่น เดินพักผ่อนกันได้ และมีเก้าอี้ให้เป็นระยะๆ

ข้อดีของสวนสาธารณะที่มาในลักษณะยาวๆ แบบนี้  คือ เกือบทุกหลังจะได้วิวสวน  และสามารถเข้าถึงสวนสาธารณะได้ง่าย  โล่งตาอีกด้วย

ม้านั่งหินในสวน แข็งแรงแน่นอนเพราะก่อปูนขึ้นมาเลย

สวนแนวยาวก็ไม่ใช่ว่าจะแคบเกินไปนะ  ความกว้างพอสมควร และยังแบ่งบางส่วนเป็นสนามเด็กเล่นให้ด้วย โดยพื้นก็ปูด้วยบล็อคยางพาราที่ลดแรงกระแทกเวลาล้ม

กลับมาที่ Clubhouse กันค่ะ  ด้านหน้ามีที่จอดรถ จอดได้ประมาณ  5 คัน

หลังคาแบบ Lean-to หลังคาเอียงๆ ทันสมัย

เข้ามาส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ข้างสระว่ายน้ำค่ะ  ความกว้างไม่เยอะเท่าไหร่แต่ฝ้าสูงและหน้าต่างเยอะ

ฝ้าเอียงตามรูปทรงหลังคา ตกแต่งด้วยไม้สีอ่อน , กระจกสีทองเพิ่มความหรูหรา

เฟอร์นิเจอร์ชุดโซฟา เลือกเป็นสไตล์ Retro ให้มานั่งเล่นกัน ดูสไตล์แล้วคนละแนวกับตัว clubhouse ภายนอก  น่าจะเน้นไปที่การ Mix and Match

มองกลับไปที่ทางเข้าค่ะ  ภาพนี้จะเห็นลูกเล่นที่ฝ้าชัดขึ้น ฟรุ้งฟริ้งซะ

อีกฝั่งนึงทำเป็นโต๊ะริมหน้าต่าง และเก้าอี้ทรงสูง  สามารถมานั่งดูลูกหลานเล่นน้ำได้  จะได้อยู่ในสายตาตลอด

เปิดกระจกฝั่งสระว่ายน้ำสูงชนฝ้าเลยค่ะ ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ แต่ก็ทำระแนงบังแดดลดทอนความร้อนแดดในช่วงที่พระอาทิตย์ยังทำมุมสูงอยู่ให้ด้วย

ออกมาด้านข้างก็เป็นสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ กว้าง 6 เมตร ยาว 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร

ทางซ้ายมือจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ  ติดกระจกฟิล์มดำ

ทางเดินด้านข้างสระมีหลังคาคลุมให้ตลอด

อีกปลายนึงของสระว่ายน้ำ เป็นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ใกล้กับบันไดลงสระว่ายน้ำ และสระเด็กก็กั้นพื้นที่แยกไว้ ความลึก 50 ซม.

หน้าห้องน้ำมีตู้ Locker ให้

จุดล้างตัวมีให้ 1 จุด อยู่ข้างสระว่ายน้ำ

ภายในห้องฟิตเนสค่ะ  พื้นที่ค่อนข้างกว้าง

ด้านที่หันเข้าสระว่ายน้ำก็ติดหน้าต่าง ได้วิวสระว่ายน้ำ

เปิดแปลนบ้าน

บ้านของโครงการ คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ มีอยู่ทั้งหมด 129 หลัง ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยและเป็นส่วนตัวดี   มีแบบบ้านอยู่แบบเดียว คือ บ้านแฝด Citta  ความหน้ากว้างของตัวบ้านอยู่ที่  5.7 เมตร  มี 4 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน  พื้นที่ใช้สอย  132 ตารางเมตร  บนพื้นที่เริ่มต้น 28 ตารางวา ค่ะ

แปลนบ้าน Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ
แบบบ้าน Citta

แบบบ้าน Citta มีความกว้างของตัวบ้าน 5.7 เมตร  ด้านหน้ากว้างพอที่จะจอดรถได้ 2 คัน  บริเวณที่จอดรถสามารถเปิดประตูเก็บของใต้บันไดจากหน้าบ้านได้ด้วย  ภายในตัวบ้านชั้นล่างจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีห้องน้ำชั้นล่างอยู่หลังทีวี (ใต้บันได) และมีห้องนอนเล็กชั้นล่างอยู่ติดด้านหลังบ้าน  เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุค่ะ  หรือหากไม่มีก็ปรับเป็นครัวปิดได้  แต่ไม่มีท่ออะไรเตรียมไว้ เพราะส่วนพื้นที่ครัวจะเตรียมไว้ให้หลังบ้าน  ซึ่งก็ต้องมาต่อเติมทำเคาน์เตอร์, ปูพื้นกระเบื้อง หรือทำหลังคากันเอาเอง หลังจริงจะได้พื้นคอนกรีตเปล่าๆ เท่านั้น อย่าลืมเตรียมเงินเผื่อส่วนนี้ไว้ด้วยค่ะ

ชั้นสองบริเวณโถงจะมีห้องน้ำรวมอยู่ตรงกลาง  ห้องนอนใหญ่อยู่ติดด้านหน้าบ้าน  และห้องนอนเล็กสองห้องติดด้านหลัง  โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว  มีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ และติดระเบียงค่ะ  ส่วนห้องนอนเล็กด้านหลังมี 2 ห้อง โดยมีห้องนึงขนาดใหญ่กว่า สามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุต เอาไว้ติดผนังได้  แต่ก็จะแน่นหน่อย  ห้องนอนสุดท้ายจะเล็กสุด เหมาะกับวางเตียงแบบ 3.5 ฟุต เพื่อจะได้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ครบ  หรือถ้าอยุ่กันไม่เยอะ  ก็นำมาปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

หลังจากได้ดูทั้งแปลนบ้านและหน้าตาภายนอกแล้ว ไปดูภายในบ้านกันค่ะ ความสูงฝ้าชั้นล่างจะสูง 2.80 เมตร  ชั้นสองตรง Master Bedroom ฝ้าสูง 3.00 เมตร ซึ่งให้ความสูงฝ้าเยอะดี

บ้านตัวอย่าง Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ
บ้านแฝด Citta

เปิดประตูบ้านเข้ามาจะเจอกับส่วนนั่งเล่นค่ะ ต่อด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร และมองเห็นทางออกหลังบ้านเลย

ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างด้านข้างทุกหลัง ทำให้ตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

ตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง, ที่วางทีวี และประตูเข้าห้องน้ำ

บ้านตัวอย่างทำเป็นผนังบานเลื่อนปิดประตูเข้าห้องน้ำค่ะ บังประตูเข้าห้องน้ำจริงไปเลย ทำให้พื้นที่นั่งเล่นสวยขึ้น

ภายในห้องน้ำชั้นล่าง ใช้งานได้ครบทั้งห้องน้ำและอาบน้ำ แต่ไม่ได้แบ่งส่วนแห้งเปียกชัดเจน หากใช้อาบน้ำอาจจะเลอะเทอะหน่อย

ส่วนต่อไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ อยู่ติดกับทางออกหลังบ้าน

และอยู่ใกล้กับห้องนอน 4 หรือห้องอเนกประสงค์ ซึ่งได้หน้าต่างเข้ามุมด้วย

ขนาดห้องไม่ใหญ่มาก แต่ก็พอวางเตียงเดี่ยวได้ 1 เตียง  ทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้

บ้านตัวอย่างหลังนี้ทำเป็นห้องทำงานค่ะ

ตัวอย่างบริเวณหลังบ้านที่รีโนเวทเป็นห้องครัวแล้ว ปูพื้นกระเบื้อง ทำหลังคา ก็จะทำครัวได้สะดวกมากขึ้น

อีกฝั่งนึงมีประตูออกสวนด้านข้างให้ด้วย

มองกลับเข้ามาในตัวบ้านจากห้องครัว

บริเวณชานพักบันไดช่วงแรกมีช่องแสงให้กับบริเวณบันไดด้วย ซึ่งสามารถวางของหรือทำเป็นที่นั่งเล่นน่ารักๆ ได้

ราวบันไดมีให้ฝั่งเดียว อยู่ติดกับผนังบ้าน  เหนือโถงบันไดจะมองเห็นส่วนต่อเติมอเนกประสงค์โครงสร้างเหล็ก ที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่โล่งเหนือโถงบันได

ขึ้นมาชั้นสองแล้ว ประตูจะตรงกับทางเข้าห้องนอนเล็กที่อยู่หลังบ้านพอดี

และนี่คือส่วนที่ต่อเติม ทำให้เหนือโถงบันไดมีประโยชน์มากขึ้น เป็นทั้งที่เก็บของ ที่อ่านหนังสือ หรือวางหิ้งพระได้

ปีนขึ้นมาดูเล่นค่ะ ถ้ามีเด็กๆ อาจจะต้องทำราวกันตกเพิ่มหน่อย เพราะสูงเหมือนกัน  ป้องกันอันตรายไว้ดีกว่า

ณ จุดสูงสุดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ใกล้ช่องแสงจากหลังคา

โถงทางเดินชั้นสองมองไปทางห้องนอนเล็กด้านหลังบ้าน

ห้องนอนเล็กที่สุดที่อยู่ติดหลังบ้านค่ะ จะอยู่ติดกับบ้านแฝดที่อยู่คู่กัน จึงมีหน้าต่างอยู่ด้านเดียว ขนาดห้องเล็กเหมาะกับวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต  ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เหลือพอทำโต๊ะและตู้เสื้อผ้าค่ะ

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องจะได้ความลึกห้องมากกว่า  วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้

ปลายเตียงเหลือที่ทำเป็นชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า เป็นห้องที่จะได้หน้าต่าง 2 ด้าน ได้แสงมากขึ้น

ห้องตัวอย่างแต่งหัวเตียงซะสวยเชียว

มองกลับไปที่ทางเข้าห้องค่ะ  ห้องนี้พื้นที่เหลือๆ จัดห้องได้หลากหลายกว่า

ห้องน้ำที่อยู่บริเวณโถงทางเดิน ไม่ได้แบ่งส่วนแห้งเปียกให้เช่นกัน เพราะพื้นที่น้อย หากจะทำต้องก่อธรณีแล้วอาจจะกั้นด้วยผ้าม่านแทน

สุดท้ายมาที่ห้องนอนใหญ่ที่อยู่ติดหน้าบ้านค่ะ วางเตียง queen size ได้สบายมาก

มองกลับไปที่ทางเข้าห้องนอน

ความยาวของห้อง และเท่ากับความกว้างของตัวบ้านคือ 5.7 เมตร  ดังนั้นปลายเตียงจึงเหลือพื้นที่พอทำเป็น Walk-in Closet

บริเวณห้องแต่งตัวจะอยู่ติดระเบียง มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและทำโต๊ะแต่งหน้าได้

อยู่ใกล้กับประตูห้องน้ำเลย

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่สุดในบ้าน จึงสามารถแบ่งส่วนเปียก-แห้ง ในห้องได้  โดยมีการก่อธรณีส่วนอาบน้ำได้ แต่กระจกอาบน้ำต่อไปติดกันเอง  และนอกจากจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศก็ยังมีช่องแสงธรรมชาติให้ด้วย

บ้านตัวอย่าง คิว ดิสทริค คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ
บ้านแฝด Citta หลังเปล่า

บ้านเปล่าที่ได้ ชั้นล่างปูกระเบื้องขนาด 60×60 ซม. โทนสีน้ำตาลอ่อน ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

มองกลับไปที่ทางเข้าบ้านค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโซฟา เป็นบันได ที่วางทีวี และทางเข้าห้องน้ำ  ความกว้างสำหรับชั้นวางทีวีไม่เยอะเท่าไหร่  แต่ความลึกพอสมควร  สามารถทำตู้ที่มีความลึกเอาไว้เก็บของได้

ห้องนอนเล็กที่อยู่ติดหลังบ้าน ได้หน้าต่างเข้ามุม ถ้าเป็นห้องผู้สูงอายุก็ทำให้คนในบ้านมองเห็นได้ง่าย หรือจะมีไว้เพื่อเปิดหน้าต่างระบายอากาศก็ได้

ช่องแสงบริเวณชานพักบันได เป็นเหมือนกล่องกระจกยื่นออกไปค่ะ ทำเป็นที่นั่งเล่นหรือวางของโชว์ก็ได้

โถงบันไดกลางมองไปทางห้องนอนเล็กสองห้องหลังบ้าน

ภายในห้องนอนใหญ่ค่ะ ส่วนที่เป็น Walk-in Closet ซึ่งอยู่ติดทางออกระเบียง

มองกลับไปที่ทางเข้าห้องนอน

ความสูงฝ้าเพดาน 3 เมตร ห้องกว้าง

ห้องนอนเล็กที่อยู่ติดหลังบ้าน จะได้หน้าต่างขนาดธรรมดาทางด้านหลังและด้านข้างของบ้าน

ห้องนอนเล็กสุดได้หน้าต่างที่ติดหลังบ้านอย่างเดียว

ห้องน้ำปูกระเบื้อง 30×30 ซม. ผนังติดกระเบื้องแผ่นใหญ่ 60×60 ซม. โทนสีน้ำตาลทั้งห้อง

บริเวณบันไดค่ะ

ส่วนอเนกประสงค์เหนือโถงบันได

บนชั้นลอย

ตู้ควบคุมไฟอยู่เหนือประตูห้องนอนใหญ่ค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

บ้านที่ได้จะได้เป็นบ้านเปล่าค่ะ ได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเรียบทาสีขาว ไฟ LED  สุขภัณฑ์ห้องน้ำ  American Standard  วัสดุทั้งหมดได้เกรดมาตรฐานตามราคา วงกบประตูหน้าต่างใช้ uPVC สีขาว คุณภาพแข็งแรงดี

โดยเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเหมือนเคย เป็นวัสดุห้องครัว (Kitchen), ห้องน้ำ (Toilet) และวัสดุปิดผิวทั่วไป (Finishing Material)

วัสดุห้องครัว

สำหรับห้องครัวจะอยู่หลังบ้าน พื้นปูคอนเรีต เตรียมท่อน้ำไว้ให้ เคาน์เตอร์และส่วนอื่นๆ ต้องต่อเติมเอง

วัสดุห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์ สีขาว American Standard

ห้องน้ำชั้นล่างและห้องกลางชั้นสอง ไม่มีแบ่งส่วนเปียกแห้ง

อ่างล้างมือสีขาว ครึ่งวงกลม พร้อมก๊อกน้ำก้านโยก  American Standard ในห้องน้ำชั้นล่างขนาดอ่างจะไม่ใหญ่มาก

กระจกเงาบานเปลือย ขนาดพอดีๆ ไม่ใหญ่มาก

อ่างล้างหน้าชั้น 2 จะได้อ่างสี่เหลี่ยม และตู้ใต้อ่าง จาก American Standard

เก็บของใต้อ่างได้พอสมควร  คุณภาพแข็งแรง

ในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom จะได้ตู้ติดผนังฝาตู้เป็นกระจกเงา

เปิดออกมาเก็บของได้

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ เป็นห้องเดียวที่จะก่อธรณีตรงที่อาบน้ำ แบ่งส่วนเปียกแห้ง

หน้าตาฝักบัวมีที่วางสบู่เซรามิคติดผนังสำหรับ 1 ก้อน

ห้องน้ำชั้นสองได้ช่องแสงธรรมชาติจากหลังคา

ราวตากผ้าในห้องน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อน เปิดได้บานเดียว  และมีหน้าต่างด้านข้างและด้านบน กระจกเขียวตัดแสง วงกบทำจาก uPVC สีขาว

มือจับ พร้อมที่ล็อคกุญแจ

ช่องแสงสำหรับบันไดยื่นออกมาจากตัวบ้าน  มีประตูเก็บของอยู่ด้านล่าง

ก่อนเข้าบ้านจะมีชานพักยกขึ้นไปประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล เอาไว้วางรองเท้าหน้าบ้านได้ ความกว้าง 30 ซม.

ส่วนตัวบ้านยกระดับขึ้นไปจากชานพักอีกประมาณ 8 ซม. รวมวงกบประตู

ประตูบานเลื่อนออกหลังบ้าน เปิดได้ทางเดียว อีกบานนึงเป็นบานติดตาย  กรอบประตู uPVC สีขาว กระจกใส

ประตูห้องนอนทำจาก HDF สีขาว เซาะร่อง

ประตูบริเวณลานซักล้างหลังบ้านออกสวน บาน PVC สีขาว

หน้าต่างขนาดมาตรฐาน  วงกบ uPVC สีขาว เหมือนประตูทางเข้า

พื้นหลังบ้านลดระดับลงไปจากตัวบ้าน 10 ซม.

บ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีเบจขนาด 60×60 ซม. มีบัวเชิงผนังลายไม้

ชั้นสองปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. สีเข้ม มีบัวเชิงผนังสำเร็จรูปลายไม้ ระหว่างห้องมีตัวปิดรอยต่อ

ชั้นล่างเป็นพื้นแกรนิตโต้

วงกบประตูสำเร็จรูป uPVC 10 ซม. สีขาว

ธรณีห้องน้ำยกสูงจากพื้นห้อง 5 ซม. ธรณีปูกระเบื้องสีเทาเข้ม

มือจับประตูภายในบ้านเป็นแบบก้านโยก

บันไดโครงสร้างคอนกรีต ลูกนอนลูกตั้งทำจากไม้ยางพาราสีน้ำตาลอ่อน

ช่องแสงบริเวณชานพักบันได

สวิตซ์ไฟสีขาว Schneider

ปลั๊กไฟสีขาว ยี่ห้อ Schneider

โคมไฟ LED

รั้วที่ระเบียงทำจากเหล็กทาสีขาว

ความกว้างระเบียง ประมาณ 70 ซม. พอออกไปยืนสูดอากาศได้  แต่ยกเก้าอี้ออกไปนั่งเล่นไม่ได้  ปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อน 30×30 ซม.

สัญญาณกันขโมย Magnetic ติดอยู่บริเวณโถงทางเดินชั้นสอง

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (9 มีนาคม 60) แบบบ้านแฝด Citta พื้นที่ใช้สอย 132  ตารางเมตร ที่ดินแปลงมาตรฐาน 28 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท   ราคาที่ดินเพิ่มลด 85,000 บาท / ตารางวา

ราคา ณ วันที่  9 มีนาคม 2559 

ราคาเริ่มต้น :

แบบ 1 ที่จอดรถ แปลงมาตรฐาน พื้นที่ 132 ตร.ม. ที่ดิน 28 ตร.วา ราคา 2,890,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

N/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3  ปี)

ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

ค่าธรรมเนียมโอนผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

โครงการ Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นถนนหลักเชื่อมถนนลาดกระบังและถนนบางนา-ตราด  เป็นถนนสายหลักในการขนส่งสินค้า ตลอดถนนทั้งสองข้างทางจึงมีโกดังและโรงงานผลิตสินค้าจำนวนมาก, อพาร์ตเมนต์, หมู่บ้าน,โรงแรม และร้านค้าใต้อาคารพาณิชย์ต่างๆ  และมีรถบรรทุกวิ่งกันตลอดทั้งวัน  หากไม่มีรถยนต์ก็สามารถใช้รถสองแถวนั่งไปถนนลาดกระบังและตลาดกิ่งแก้วได้ หรือแท็กซี่ก็มีผ่านตลอด

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ทำเลโซนนี้นับว่าเป็นโซนชานเมือง ย่านโรงงานอุตสาหกรรม  มีจุดเด่นอยู่ที่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิมาก  มีรถไฟฟ้ามีสถานี Airport Rail Link ลาดกระบัง ที่อำนวยความสะดวกเข้าสู่ตัวเมืองได้  แต่ก็ต้องขับรถไป โดยสถานีลาดกระบังห่างจาก Q District Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ประมาณ 7.7 กิโลเมตร

โครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ในทำลนี้ยังไม่มีข่าวคราวให้เห็นมากนัก  ในอนาคตการเติบโตคงจะเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งทาวน์โฮม, บ้านจัดสรรแนวราบ ราคาไม่แพงถึงปานกลาง และเข้าไปอยู่ในซอยกันเป็นส่วนใหญ่  พื้นที่ริมถนนใหญ่มักจะถูกจับจองทำการพาณิชย์มากกว่า  นอกนั้นเหมาะเป็นโกดังสินค้า, โรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง  รวมถึงอพาร์ตเมนต์ให้เช่าสำหรับคนทำงานย่านนี้ค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ภาพรวมของงานดีไซน์ส่วนของตัวบ้าน คิว ดิสทริค คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ทำออกมาสวยงามดี  บ้านโทนสีน้ำตาลดูอบอุ่นไม่หวือหวา  มีสัดส่วนหน้าตาของบ้านลงตัวดี  แต่มีแบบบ้านแฝดให้เลือกแค่แบบเดียว คือ แบบบ้าน Citta  เป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย  132 ตารางเมตร  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน  ความกว้างของตัวบ้าน 5.7 เมตร  มีพื้นที่สวนข้างบ้านทุกหลัง  ห้องครัวจะเตรียมท่อไว้ให้ที่หลังบ้าน ซึ่งต้องมาต่อเติมทั้งเคาน์เตอร์ครัว และหลังคากันเองในภายหลังค่ะ

การจัดแปลน Casa City กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ  มีฟังก์ชั่นต่างๆ มาให้ครบตามที่ควรจะได้ ทั้งห้องนอน 4 ที่จัดไว้ชั้นล่าง เหมาะกับผู้สูงอายุ  ห้อง Master Bedroom สามารถทำ Walk-in Closet ได้ มีห้องน้ำในตัว  โดยห้องน้ำชั้นสองจะได้ช่องแสงธรรมชาติและพัดลมระบายอากาศทุกห้อง ทำให้ช่วยประหยัดไฟ  และเหนือโถงบันได มีชั้นพิเศษโครงสร้างเหล็ก ที่สามารถทำเป็นชั้นเก็บของหรือวางหิ้งพระได้ด้วย เป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น เก็บของได้มากขึ้น

วัสดุในภาพรวมของ คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ก็นับว่าได้คุณภาพตามมาตรฐาน  ได้บ้านเปล่าผนังฉาบเรียบทาสีขาว  ชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่  ชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ได้ชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำของ American Standard แต่ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำ  มีข้อติหน่อยก็ตรงที่ห้องน้ำที่ไม่ใช่ใน master bedroom ไม่ได้แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ Casa City กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ  นั้นโครงการนี้มีสวนสาธาณะอยู่ตรงกลางโครงการ รูปร่างแคบยาว  ภายในมีสนามเด็กเล่นมีของเล่นเด็ก และมีที่นั่งพักผ่อนในสวน   Clubhouse  จะอยู่ใกล้ทางเข้าหน้าโครงการ ออกแบบมาสวยทันสมัย  มีห้องนั่งเล่น, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส  ซึ่งด้วยจำนวนยูนิตในโครงการที่ไม่เยอะ  ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องความหนาแน่นหรือการใช้งานอะไร

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ ^_____^