รีวิวนี้ผมจะไปแถวนวมินทร์  เพื่อชมโครงการ Grandio Ladphrao-Kasetnawamin (แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์) จากทาง GOLDEN LAND ครับ  โครงการตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42 ซึ่งสามารถเข้าได้จากทั้งฝั่งถนนนวมินทร์ และถนนประเสริฐมนูกิจ ซอยประเสริฐมนูกิจ 48  ทำดีไซน์หน้าตาบ้านแบบใหม่  เป็นการผสมผสานความโมเดิร์นเข้ากับกลิ่นอายสไตล์อังกฤษ  ซึ่งเป็นโครงการที่มีแต่บ้านเดี่ยว และมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เนื่องจากทั้งโครงการมีแค่ 81 ยูนิต เท่านั้นเองครับ

ตัวแบบบ้านในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยไซส์ปานกลางและค่อนไปทางบ้านขนาดใหญ่  โดยทุกแบบจะมีห้องนอน 4 ห้องทั้งหมด  ซึ่งจุดเด่นที่สุดในโครงการ  แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์  ที่สะดุดตามากที่สุดก็เป็นตัวคลับเฮ้าส์และพื้นที่ส่วนกลางครับ  คลับเฮ้าส์ที่นี่นั้นดูแพงเว่อร์วังเกินราคาบ้านไปมากทีเดียว  ใครที่หาบ้านในโซนที่เข้าถึงได้ทั้งทางฝั่งลาดพร้าว และทางฝั่งเกษตรนวมินทร์  ลองอ่านรีวิวของ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ที่ผมเขียนรีวิวให้อย่างละเอียดเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการหาบ้านครับ

.

ข้อมูลโครงการเบื้องต้น

Grandio Ladphrao-Kasetnawamin

แกรนดิโอ  ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ GOLDEN LAND
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ซ.นวมินทร์ 42 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
• ขนาดที่ดิน >>> 19-1-50.4 ไร่
• ประเภทบ้านและพื้นที่ใช้สอย >>> บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • แบบ Osborne (ออสบอร์น) : เนื้อที่ดินเริ่ม 50 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. / 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Lambert (แลมเบิร์ท) : เนื้อที่ดินเริ่ม 51.4 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. / 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ
  • แบบ Placentia (พลาเซ็นเทีย) : เนื้อที่ดินเริ่ม 63.9 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 186 ตร.ม. / 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ
• จำนวนหลัง >>> 81 ยูนิต
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 7.5 ล้านบาท (ณ วันที่ 30/03/2018)
• พิกัด GPS >>> 13.799084 , 100.662838  
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 062-545-6644

โครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์  ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42  ซึ่งเชื่อมกับซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ครับ  โดยถนนนวมินทร์เป็นเส้นที่เชื่อมถนนหลัก 3 สาย คือ เสรีไทย (บริเวณใกล้แยกลำสาลี) , ประเสริฐมนูกิจ (บริเวณแยกสุขาภิบาล 1) และรามอินทรา (บริเวณ กม.8)  ทำให้ตามแนวถนนนวมินทร์นั้นเป็นชุมชนคนอยู่กันเยอะและคึกคักมาก โดยในอนาคตบนถนนเส้นนี้ก็จะมีแผนงานของแนวของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลผ่านด้วย ซึ่งกำลังศึกษาและจัดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนกันอยู่  ถ้าหากแผนงานนี้เป็นจริง ก็จะไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีแยกลำสาลี  ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอยู่ครับ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้ผมเริ่มเดินทางไป แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์  โดยมาจากทางถนนประเสริฐมนูกิจครับ  พอมาถึงแยกสุขาภิบาล 1 (คนในพื้นที่จะเรียกว่าแยกนวมินทร์) ก็ให้เลี้ยวขวา ไปตามป้ายบางกะปิ  ขับเลยแยกโพธิ์แก้วไปนิดนึง  ก็ให้เตรียมชิดซ้ายไว้  เพื่อเลี้ยวเข้าซอยนวมินทร์ 42 ครับ  ขับตรงไปจนสุดทาง  แล้วเลี้ยวซ้ายไปก็จะเจอโครงการ  แกรนดิโอลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เลย

เรามาดูภาพรวมของทำเลกันก่อนครับ  ในซอยนวมินทร์ 42 ที่โครงการ แกรนดิโอ ตั้งอยู่นั้น  จะไปเชื่อมกับซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ครับ  ทำให้โครงการสามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทาง  เอาไว้หลีกเลี่ยงเวลารถติดได้  โดยซอยนวมินทร์ 42 นี้คนพื้นที่เดิมจะเรียกกันว่า ซอยวัดสุวรรณประสิทธิ์  ตามชิื่อของวัดที่อยู่ท้ายซอยนั่นเอง

ด้วยความที่ถนนในซอยนี้สามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทาง  ทำให้มีบ้านเรือนของคนในพื้นที่เดิมที่สร้างเอง และโครงการจัดสรรทั้งเก่าใหม่มารวมกันอยู่  จัดเป็นซอยที่คึกคักมีคนอยู่ตลอดทางครับ  บนถนนนวมินทร์นั้นสามารถขับไปออกทางถนนเสรีไทย ช่วงใกล้กับแยกลำสาลี ที่เชื่อมกับลาดพร้าวได้  หรือจะในถนนโพธิ์แก้วไปออกลาดพร้าว ซอย 101 ก็ได้ครับ  ส่วนบนถนนประเสริฐมนูกิจ  ก็สามารถไปออกทั้งเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  และวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออกได้ด้วย

ความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้จะไม่ได้กระจุกอยู่ที่จุดในจุดหนึ่งนะครับ  จะกระจายตัวออกไปตลอดตามแนวถนนนวมินทร์  ตรงบริเวณแยกสุขาภิบาล 1 ก็มี Big C Market สุขาภิบาล 1  ซึ่งเป็นลักษณะของคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดกลางๆ ครับ  และฝั่งตรงข้ามเยื้องกับ Big C Market สุขาภิบาล 1  จะมีตลาดปัฐวิกรณ์  ที่เป็นตลาดใหญ่ของโซนนี้  และโรงเรียนบดินทร์เดชา 2 ตั้งอยู่ถัดไปด้วย

ส่วนตามสองฝั่งถนนนวมินทร์จะมีร้านอาหารตามตึกแถวกระจายอยู่ทั่วไป  โดยไม่ห่างจากปากซอยนวมินทร์ 42 มากนัก  ก็กำลังมี Foodland ที่ก่อสร้างอยู่ครับ  ถ้าเสร็จเมื่อไหร่  ก็เรียกว่าสามารถหาของกินของใช้ก่อนเข้าบ้านกันได้ 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

.

.

มาดูตรงที่ตั้งโครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ กันบ้างครับ  พื้นที่โดยรวมของโซนนี้จะเห็นว่าเป็นบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมดเลย  ที่ดินตรงสุดซอยนี้ทางโกลเด้นแลนด์ซื้อเอาไว้เป็นแปลงใหญ่มาก  และแบ่งซอยออกเป็นโครงการต่างๆ ครับ  โดยโครงการแรกที่ทำคือ Golden Town เกษตร-นวมินทร์  ซึ่งมีทางเข้าแยกต่างหาก  ส่วนอีก 3 โครงการ จะมีทางเข้าร่วมกันเป็นภาระจำยอม  ทั้งในส่วนของ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ (ที่รีวิวกันอยู่นี้)  , โกลเด้น นีโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ และ โกลเด้น ทาวน์ ๒ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ครับ  โดยทั้งหมดจะมีระบบ security ที่ทางเข้าแยกกัน

เริ่มเปิดประตูไปดูโครงการ

เข้าไปดูที่โครงการกันครับ  ถนนด้านหน้าที่เป็นทางเข้าของทั้ง 3 โครงการ จะเป็นภาระจำยอมครับ  พอเข้าไปด้านในถึงจะมีทางเข้าแยกจากกันแต่ละโครงการ

ถนนทางเข้านี่แกรนด์ สมชื่อ แกรนดิโอ นะครับ  เราจะต้องข้ามสะพานก่อนไปถึงโครงการนิดนึง

มีป้ายใหญ่มากตรงจุดหมายตาที่หัวโค้ง  เป็นเส้นนำสายตาไปยังซุ้มประตูทางเข้าครับ

ซุ้มประตูทางเข้าอลังการมาก  มีประตูเลื่อนกั้นเป็น Security ก่อนเข้าโครงการครับ

ตรงด้านหน้าจะมีวงเวียนน้ำพุด้วยครับ  ถ้าเลยจากทางเข้าของ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เข้าไปก็จะเป็นอีก 2 โครงการของโกลเด้นแลนด์เช่นกัน คือ โกลเด้น นีโอ และ โกลเด้น ทาวน์ ๒  ซึ่งจะเป็นบ้านแฝด และทาวน์โฮมครับ  วันหลังถ้ามีโอกาสเดี๋ยวผมพามาชมกันอีกครับ

เข้าไปที่โครงการกันดีกว่า  ต้องแลกบัตรทุกคนเพื่อความปลอดภัยนะ

มองตรงเข้าไป  จะเห็นคลับเฮ้าส์อยู่ด้านหน้าเลย  ประตูทางเข้าหรูหราแบบบ้านเดี่ยว  แยกส่วนของ Residence ลูกบ้าน และ Visitor ผู้มาเยี่ยมชม  เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยครับ

มีกล้อง 2 ตัว  ส่องหน้าและทะเบียนรถครับ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางของแกรนดิโอ จะมีคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7×14 เมตร ลึก 1.2 เมตร  , สระน้ำพุ และสวนตกแต่ง  โดยที่สเปซด้านในคลับเฮ้าส์ที่ปัจจุบันเป็นสำนักงานขาย  จะถูกปรับใช้เป็นห้องฟิตเนสเมื่อฝ่ายขายของโครงการย้ายออกไปครับ  ในภาพรวมสำหรับ 81 ยูนิต  ถือว่าทำได้ดี  น่าใช้งานและไม่หนาแน่นครับ

ลองไปดูของจริงกัน  ซึ่งส่วนกลางนี่ผมถือว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยนะ  ลักษณะของตัวคลับเฮ้าส์นั้นดีไซน์แบบวางแกนสมมาตร  ที่มีสวนเป็นลานด้านหน้าก่อนที่จะเข้าถึงตัวอาคาร  ซึ่งเป็นรูปแบบลักษณะของการจัดสวนสไตล์ยุโรป  และการเปิดพื้นที่โล่งเป็นแนวแกนแบบนี้ช่วยส่งเสริมให้ตัวคลับเฮ้าส์ดูแกรนด์มากเลยทีเดียวครับ  เป็นลักษณะการวางผังงานงานสถาปัตยกรรมและงานภูมิสถาปัตยกรรมที่ต้องการให้ดูยิ่งใหญ่มักใช้กัน

หันหลังมองกลับไปจะเป็นซุ้มทางเข้าครับ  ดอกไม้ต่างๆ ในสวนก็ช่วยเสริมบรรยากาศได้ดี  ดูมีชีวิตชีวา ไม่แห้งแล้ง

ขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ตัวคลับเฮ้าส์กันอีกนิด  จะเริ่มเห็นรายละเอียดของตัวสถาปัตยกรรมมากขึ้นครับ

ด้านหน้าจะมีน้ำพุก่อนชั้นหนึ่ง  สเต็ปถัดขึ้นไปจะเป็นสระว่ายน้ำ  แล้วค่อยเป็นตัวอาคารครับ

เวลาเดินขึ้นไป ต้องเข้าทางซุ้มด้านข้างนะครับ  ซุ้มประตูโค้งที่สูงขึ้นไป  ช่วยให้สเต็ปต่างๆ ในการเดินเข้าสู่ตัวคลับเฮ้าส์มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย

มุมนี้ยืนอยู่ที่ระเบียงรอบสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำกับน้ำพุอยู่คนละสเต็ปกัน  แต่ดีไซน์โดยใช้กระเบื้องแบบเดียวกัน  ทำให้ดูแล้วกลมกลืนและไปในทางเดียวกันทั้งสระว่ายน้ำและสระน้ำพุ  แม้ว่าสระหนึ่งจะเอาไว้ว่ายน้ำออกกำลังกาย  อีกสระเอาไว้ตกแต่งเพื่อความสวยงามก็ตามครับ

แว๊บมาดูกันอีกมุม  ตัวซุ้มด้านหน้าทั้ง 2 ฝั่งจะดีไซน์แบบสมมาตรกันเลย

ด้านนี้จะมีจากุชชี่แยกให้ครับ

บริเวณใกล้กับจากุชชี่เป็นที่ล้างตัวก่อนลงสระ

เดี๋ยวเราเข้าไปต่อกันด้านในคลับเฮ้าส์ครับ  โถงด้านหน้าจะเป็นระเบียงทางเดิน  มีเสาใหญ่ 6 ต้น  ที่ดีไซน์พื้นผิวของตัวเสาให้โค้งมน  ทำให้ดูแล้วตัวเสาค่อนข้างเพรียว  ดูไม่หนักครับ

มองกลับไปจะเห็นสเต็ปของทั้งสระว่ายน้ำ, สระน้ำพุ และสนามหญ้าลดหลั่นกันลงไปเรื่อยๆ  สวยงามดีทีเดียว

เข้ามาที่ด้านในก็จะเจอกับโถงใหญ่เป็น Double Space สูงชะลูดขึ้นไป  โดยภายในตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่  แต่อีกหน่อยเมื่อโครงการขายหมดปิดโครงการแล้วก็จะย้ายออกไป  และปรับห้องนี้ให้กลายเป็นห้องฟิตเนสแทนครับ

เวลาปรับใช้เป็นฟิตเนส  ก็คงย้ายเฟอร์นิเจอร์บางส่วนออก  แต่ส่วนที่ตกแต่งผนังและเพดานในจุดต่างๆ ก็ยังอยู่ครับ  เลยคิดว่าน่าจะเป็นฟิตเนสที่สวยงามทีเดียว

อินทีเรียนั้นเลือกใช้วัสดุพวกหิน, สแตนเลสสีทอง และกระจกเป็นหลัก  ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความมันวาวในตัวเอง  เวลาสะท้อนกับไฟแล้วก็ดูหรูหราครับ

มาดูมุมที่ถอยไกลๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของภายในคลับเฮ้าส์นี้กันครับ  ด้านบนติดแชนเดอร์เลียและก็กระจกเงาสีทอง

มองกลับไปอีกด้านหนึ่งครับ

ผนังส่วนไหนว่างๆ ก็จะตกแต่งด้วยรูปถ่าย  และก็แพทเทิร์นกระจกสีทองเพื่อความหรูหรา

แบบบ้านในโครงการ

แบบบ้าน Osborne : แกรนดิโอ  ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์

( 4 ห้องนอน , 3 ห้องน้ำ , 2 ที่จอดรถ )

แบบบ้าน Osborne นี้เป็นแบบบ้านเล็กที่สุดในโครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ครับ  แบบนี้จะจอดรถได้ 2 คัน  ซึ่งเป็นการจอดใต้ตัวบ้านทั้งหมด  ไม่ต้องมีการต่อเติมหลังคาเพิ่มเติมให้วุ่นวาย  ทางเข้าบ้านจะมี 2 จุด  คือ เข้าจากเฉลียงด้านหน้า  และเข้าจากตรงโรงรถ สเปซตรงพื้นที่นั่งเล่นจะทำเป็น bay window ยื่นออกไป  ลักษณะเหมือนเป็น Sky Light Living Room ซึ่งจะทำให้ตรงนี้ดูโปร่งมากครับ  นอกจากนี้ชั้นล่างก็ยังมีห้องนอนเล็ก  ที่สามารถใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ  หรือจะปรับเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ห้องดูหนัง, ห้องทำงาน ก็แล้วแต่เลยครับ  นอกจากนี้ก็มีส่วนของห้องครัว และห้องซักรีด  ซึ่งมีลานซักล้างออกไปด้านหลังได้

ที่ชั้น 2  ตัวโถงบันไดจะอยู่ทางหน้าบ้าน  และแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ฝั่งครับ  ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว  ห้องนอนเล็ก  2 ห้อง จะอยู่ฝั่งเดียวกัน  ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงโถงบันได  และขนาดสเปซค่อยข้างใหญ่ทีเดียว  เป็นห้องนอนเล็กที่ยังสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้หลวมๆ อยู่  ไม่ได้แน่นมากครับ

ภาพรวมของหน้าตาบ้านก็ดูเป็นสไตล์ยุโรปครับ  คุมโทนสีของวัสดุได้ดี  โทนสีดูแล้วนวลตาทีเดียว  มีการใช้กระเบื้องหินธรรมชาติเข้ามาตกแต่งทั้งด้านหน้าและด้านข้าง  รวมถึงทำคิ้วลวดบัวต่างๆ

มุมด้านข้างครับ  ภาพรวมทำบ้านออกมาได้น่ารักทีเดียวแหละ

Bay Window ด้านข้างตรงสเปซส่วนนั่งเล่น ที่จัดเป็น Sky Light Living Room ครับ

ตรงกลางด้านในเป็นโถงบันได ส่วนภายนอกตกแต่งด้วยกระเบื้องหินธรรมชาติ  และใช้เส้นสายบนตัวบ้านมาช่วยลดทอนสเกลให้ดูเป็นมิตรมากขึ้นครับ

ตรงระเบียงใช้เป็นเหล็กดัดขึ้นรูป ที่เป็นลวดลายต่างๆ ไม่ได้เป็นแค่เส้นตรงแข็งๆ เหมือนราวกันตกธรรมดาทั่วไปครับ  มุมนี้ที่มองขึ้นไปเป็นส่วนของระเบียง master bedroom

อีกฝั่งที่เป็นห้องนอนเล็ก  ก็ได้ทำราวกันตกเอาไว้ เพื่อตกแต่งให้ดูสวยงามครับ

โรงจอดรถจอดได้ 2 คันนะครับ

แบบบ้าน  Lambert : แกรนดิโอ  ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์

(4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ)

แบบบ้านของแบบ Lambert นั้นจะคล้ายกับแบบ Osborne ครับ  โดยจะจอดรถได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 3 คัน  แต่ไม่มีส่วนของ Sky Light Living Room ยื่นออกไปตรงส่วนห้องนั่งเล่น

ส่วนที่แตกต่างออกไปคือชั้น 2 ครับ  ตรงนี้นอกจากห้องนอน 3 ห้องแล้ว ยังมีส่วนของสเปซนั่งเล่นที่โถงบันไดเพิ่มเข้ามา  (เดี๋ยวจะอธิบายให้ดูในรูปบ้านตัวอย่าง) ซึ่งตรงนี้เป็นโถงที่มีสเปซสูงกว่าปกติ  มีบันไดขึ้นไปยังชั้นลอย  และมีสเปซเป็นชานพักอยู่  ตรงนี้เหมาะมากในการใช้ทำเป็นห้องพระครับ  เพราะเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดในบ้าน  และก็แยกเป็นสัดส่วนไปเลยแบบที่ทุกคนในบ้านสามารถไปใช้งานได้ด้วย  …. ห้องนอนชั้นบนทั้งหมดจะมีห้องน้ำในตัวของใครของคนนั้นครับ  ห้อง Master Bedroom จะได้สเปซ walk-in closet ใหญ่เหมือนเดิม  และก็มีระเบียงออกไปยังหน้าบ้านด้วย

มาดูหน้าตาของบ้านแบบ Lambert กันครับ  แบบนี้จะเป็นบ้านหน้ากว้างมาก  ภายนอกตกแต่งด้วยกระเบื้องหินธรรมชาติ  และคุมโทนสีได้ดีเช่นกัน  ออกมาเป็นสีโทนอ่อนๆ แบบสีพาสเทลหวานๆ หน่อย

มีการตกแต่งองค์ประกอบแบบบ้านสไตล์ยุโรปครับ  บานหน้าต่างจะต้องมีกรอบและคิ้วบัวต่างๆ ปั้นนูนออกมา

โรงรถกว้างมาก  จอดได้ 3 คัน แบบที่จอดเสร็จแล้วก็น่าจะยังเปิดประตูลงจากรถได้ไม่ลำบาก

ตรงโถงบันไดจะมีหน้าบันอยู่ 2 สเต็ป  ตรงชั้นบนสุดคือส่วนที่เป็นชั้นลอยบนสุดนั่นเองครับ  น่ารักทีเดียว

แหงนหน้าดูกันหน่อย

มุมทางเข้าบ้าน ยื่นเป็นมุขออกมารับ  ใช้สีโทนเข้มตัดด้านล่าง  เพื่อให้ตัวบ้านโดยรวมดูเด่นขึ้นครับ

ตัวบ้านก็จะเต็มไปด้วยคิ้วลวดบัวต่างๆ ที่ใช้ในการตกแต่งนะครับ

แบบบ้าน  Placentia : แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์

(4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ)

สำหรับแบบ Placentia นี้  ฟังก์ชั่นเกือบทั้งหมดก็จะเหมือนกับแบบ Lambert ที่เพิ่งดูจบกันไปครับ  ครับ ส่วนที่เพิ่มเข้ามาจะเป็น Bay Window ที่ยื่นออกไปเป็น Sky Light Living Room ในส่วนของห้องนั่งเล่นนั่นเอง บ้านแบบนี้ก็เป็นบ้านแบบใหญ่สุดในโครงการ ซึ่งมียูนิตไม่เยอะครับ  แบบนี้ตอนที่เราเข้าไปรีวิวขายไปหมดแล้ว  เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมกันนะครับ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

บ้านตัวอย่างตกแต่งเต็ม มีให้ชมทั้งแบบ Osborne และแบบ Lambert ครับ  ลองไปชมกันว่าสเปซจะทำออกมาได้เป็นยังไงได้บ้าง

บ้านตัวอย่าง แบบบ้านเดี่ยว Lambert

แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ 

เปิดเข้ามาจะเป็นสเปซส่วนนั่งเล่น  ด้านในเป็นส่วนรับประทานอาหารครับ

มองย้อนกลับไปทางหน้าบ้าน

ตรงส่วนรับประทานอาหารจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากทั้งด้านข้างบ้านและด้านหลังบ้านนะครับ

มุมนี้มองไปทางที่เป็นห้องนอนชั้นล่างที่ใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้  ส่วนด้านในสุดเป็นครัวครับ

แวะเข้ามาดูสเปซในครัวซะหน่อย  พื้นที่ส่วนนี้จะกั้นเป็นห้องซักรีดด้วย  ซึ่งจากบริเวณซักรีดก็ออกไปที่หลังบ้านได้ครับ

สเปซภายในครัวก็มีหน้าต่างสามารถระบายอากาศออกไปทางหลังบ้านได้ด้วยครับ

ในห้องซักรีด  ถือว่าพื้นที่กว้างทีเดียว

ห้องน้ำชั้นล่าง  ตำแหน่งอยู่ใต้บันไดครับ  แต่ก็ยังสามารถแบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียก-ส่วนแห้งได้อยู่  ไม่ได้อึดอัดอะไร

ขึ้นไปที่ชั้น 2 ตรงโถงบันไดจะมีหน้าต่างให้แสงเข้ามาจากทางหน้าบ้านได้

ตรงโถงบันไดจะมี  Family Area เป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวได้อีกจุดหนึ่งครับ

ความพิเศษของแบบนี้คือ ตรงโถงจะมีชั้นลอยขึ้นไป  และมีช่องหน้าต่างเอาแสงธรรมชาติเข้ามาได้ด้วย

หน้าต่างตรงนี้คือจุดที่เป็นหน้ามุขของตัวบ้านนั่นเองครับ

เหมาะมากสำหรับวางหิ้งพระ  เพราะเป็นจุดสูงสุดของพื้นที่ในบ้านแล้ว

เข้ามาดูกันในห้อง Master Bedroom ต่อครับ  ห้องนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากทั้ง 2 ด้านเช่นกัน  โดยมีระเบียงออกไปด้านหน้าบ้านด้วย

สเปซภายใน walk-in closet ครับ  กว้างใหญ่ถูกใจคุณผู้หญิงหล่ะ

พื้นที่ตรงระเบียงด้านนอก  กว้างประมาณ 90 ซม. ครับ

ส่วนของห้องน้ำใน Master Bedroom ครับ

มาดูในห้องนอนเล็กกัน  ห้องนี้อาจจะต้องนั้งเตียงชิดผนังด้านหนึ่ง  แต่ก็ยังพอเหลือพื้นที่ให้จัดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้อย่างไม่เบียดนักครับ

ถึงจะเป็นห้องนอนเล็กสุด  แต่ก็มีห้องน้ำในตัวนะครับ

มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องกัน  ห้องนี้ทดลองจัดเป็นเตียง 2 ชั้นให้ดู  ห้องจริงที่ไปดูมานี่น่ารักมากทีเดียว

ห้องน้ำในห้องนอนครับ  แม้จะเป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็ก  แต่วัสดุก็ให้มาดูดีทีเดียว

บ้านตัวอย่าง Osborne

แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ 

เข้ามาด้านในกันเลยครับ  จุดเด่นของบ้านหลังนี้จะเป็นส่วนของ Sky Light Living Room ทางด้านซ้ายมือหลังโซฟานั่งเล่นครับ  โดยรวมสเปซตรงนี้ได้แสงธรรมชาติเยอะมาก  จนบางทีกลางวันอาจจะต้องปิดม่านไว้บางส่วนด้วยนะ

มองย้อนกลับไปทางหน้าบ้านครับ

ตรงข้างทางขึ้นบันไดชั้น 2 จะเป็นห้องน้ำ  ส่วนทางซ้ายจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง  ที่ในบ้านตัวอย่างทำเป็นห้องดูหนังไว้ครับ

ดูกันอีกสักมุมนะ

ด้านในสุดจะเป็นครัวครับ  มีประตูทางออกไปยังโรงรถด้วย

ห้องน้ำที่ชั้นล่างจะต้องลดสเต็ปลงไปหน่อยนะครับ  เดินใหม่ๆ อาจจะยังไม่ชิน  ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อให้ภายในห้องน้ำยังสามารถใช้งานได้อยู่  เพดานจะได้ไม่เตี้ยมาก

ห้องน้ำใต้บันไดจะได้แสงเข้ามาทางหน้าต่างบานกระทุ้ง  จะได้ช่วยเรื่องความอับชื้นได้ด้วย  ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่ส่วนอาบน้ำครับ

ตอนนี้ยืนอยู่หน้าห้องนอนชั้นล่างครับ

ตอนนี้ห้องนี้ดัดแปลงทำเป็นห้องดูหนัง  มีหน้าต่างเอาแสงจากหลังบ้านเข้ามาได้

พื้นที่ภายในห้องครัว  สามารถทำเคาน์เตอร์ตัว L ได้  พื้นที่ใช้งานเยอะดีครับ

ขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 2 ครับ  ตรงชานพักบันไดจะมีหน้าต่างทรงสูงที่สามารถเอาแสงธรรมชาติเข้ามา  ช่วยให้โถงบันไดไม่มืดจนเกินไป  เวลากลางวันจะได้ไม่ต้องเปิดไฟครับ

มาดูในห้องนอนใหญ่กันก่อนครับ  แบบนี้ก็มีระเบียงออกไปด้านนอกเช่นกัน

สเปซทำมุมแต่งตัวได้ใหญ่ๆ เลย  จะกั้นเป็น Walk-in Closet ก็ได้ครับ

พื้นที่ในห้องน้ำของ Master Bedroom ครับ

ทีนี้เราไปจบกันที่ห้องนอนเล็กครับ  ทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดพอกัน  ซึ่งก็เป็นห้องนอนเล็กที่ไม่ได้อึดอัดอะไร  สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์เผื่อลูกโตได้เลย

บ้านเปล่า แบบบ้าน Lambert

Grandio Ladphrao-KasetNawamin 

ดูบ้านแบบตกแต่งจัดเต็มไปแล้ว  ก็มาดูบ้านเปล่าสำหรับส่งมอบกันบ้างครับ

ด้านหน้าที่เห็นก็จะได้แบบนี้เลย  โทนสีของตัวบ้านจะมี 2 แบบ คือ หลังคาสีเทา (หลังนี้) กับหลังคาสีแดงอิฐ (หลังทางขวามืดติดกัน) ซึ่งก็แล้วแต่แปลงที่เลือกครับ

พื้นโรงรถจะเทคอนกรีตขัดผิวเรียบให้  รอบบ้านจะปูหญ้า และลงไม้พุ่ม กับไม้ยืนต้นให้บางส่วนนะครับ

สเปซด้านในผนังก็จะทาสีขาว   พื้นกระเบื้องเป็นสีน้ำตาลอ่อน

ในส่วนของพื้นที่ครัวก็จะเตรียมท่อน้ำดีไว้ให้ครับ

ดูมุมรวมๆ  มองไปทางหน้าบ้าน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ตรงบริเวณโถงบันไดที่ขึ้นไปชั้นลอยครับ

ภายในห้องนอนใหญ่  มีระเบียงด้านหน้า

ห้องน้ำก็จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้วย  ติดฉากกั้นอาบน้ำให้หมดครับ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของโครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โดยรวมผมถือว่าให้มาในเกณฑ์ดีและน่าพอใจนะครับ  จุดสำคัญเลยที่ทำให้บ้านนี้ดูแพง  ก็เป็นกระเบื้องหินธรรมชาติที่บุผนังด้านหน้าและด้านข้างบางส่วน  ที่ช่วยสร้าง Mood & Tone ได้ดี  แล้วก็มีดีเทลอย่างคิ้วลวดบัวต่างๆ ที่เป็นรอยต่อของวัสดุ  ส่วนภายในก็เป็นบ้านเปล่า  บานประตูและหน้าต่างเป็น  uPVC  สีขาวทั้งหลัง,  ส่วนในห้องน้ำก็เลือกกระเบื้องออกมาได้ดูโอเคดีครับ

อยู่สบายแบ่งแบบเป็น 2 ส่วนให้ดูกันง่ายๆ เป็นวัสดุห้องน้ำ และวัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material) สำหรับส่วนครัวนั้นไม่มีรายละเอียดอะไรมาก  เพราะเตรียมพื้นที่กับงานระบบท่อน้ำดีไว้ให้เฉยๆ ครับ

วัสดุห้องน้ำ

การจัดสรรพื้นที่ภายในห้องน้ำ  แต่ละห้องจะคล้ายกัน แยกส่วนเปียกส่วนแห้งเอาไว้ชัดเจน  โดยแต่ละห้องจะต่างกันบ้างในเรื่องของวัสดุ  เช่น กระเบื้องผนัง, กระเบื้องโมเสคครับ

ห้องนี้เป็นห้องน้ำในส่วนของห้องนอนเล็ก

ผนังตรงฝักบัวจะตกแต่งโดยเน้นจุดเด่นของกระเบื้องครับ

ตรงนี้เป็นห้องนอนใหญ่ครับ  ทุกห้องก็จะทำช่องเล็กๆ ไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำด้วย

ฝัวบัวของ American Standard

สุขภัณฑ์ก็ American Standard เช่นเดียวกันครับ

พื้นที่อาบน้ำจะแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งไว้เรียบร้อย  ในรูปเป็นของห้อง Master Bedroom

พื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำ ภายในห้องนอนเล็กครับ  ยังสามารถหมุนตัวอาบได้ ไม่อึดอัด

อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนัง

ใช้การก่อเคาน์เตอร์ด้านหลังขึ้นมา  สามารถวางขวดสบู่, แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้  ส่วนก็อกนั้นใช้แบบก้านโยกของ American Standard ครับ

กระจกเงายาวตลอดแนว  ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้นด้วย

ท็อปหินด้านหลังสุขภัณฑ์  มีตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกระเบื้องโมเสค

มีฉากกั้นอาบน้ำติดให้ทุกห้อง  ไม่ต้องทำเพิ่มนะครับ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไป  เวลาล้างทำความสะอาดก็จะไม่เลอะในส่วนของพื้นลามิเนตด้านในห้องครับ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

หน้าบ้านเป็นประตูเลื่อนนะครับ

รั้วรอบบ้านครับ

รั้วหน้าบ้านก็จะเป็นรั้วเหล็กโปร่งสีดำ

ปูหญ้าให้รอบบ้าน ชานพักก่อนเข้าบ้านยกสูงจากสนามหญ้านิดหน่อย

ผนังนอกบ้านตกแต่งด้วยกระเบื้องหินธรรมชาติ  มีขอบบัวเป็นตัวจบของวัสดุ ที่เพิ่มดีเทลในตัวสถาปัตยกรรมให้น่าสนใจมากขึ้นครับ

ดีเทลกุ๊กกิ๊กน่ารักแบบนี้ทำให้ตัวบ้านดูมีเสน่ห์มากขึ้นครับ

ดีไซน์ของตัวคิ้วบัวก็มีให้เห็นอยู่กับช่องหน้าต่างรอบบ้าน  มีโคมไฟด้านนอกลวดลายเข้ากันดี

ราวกันตกก็เป็นเหล็กดัดขึ้นรูป  ลวดลายไปด้วยกันกับตัวบ้าน

ที่สำหรับนั่งใส่รองเท้าบริเวณเฉลียงหน้าบ้านครับ

มีระยะความกว้าง 90 ซม. กำลังดี

ตัว Bay Window ในแบบบ้าน Osborne และแบบ Placentia ครับ  ตรงนี้ช่วยให้แสงภายนอกเข้ามาได้เยอะ  แต่ก็แนะนำว่ายังไงก็ต้องติดม่าน 2 ชั้น ที่มีทั้งม่านโปร่งและม่านทึบเอาไว้  เพื่อช่วงเวลาไหนแดดจัดเกินก็จะได้ปิดม่านเพื่อกันความร้อนได้ครับ

มุมนี้มองจากภายในตรง Sky Light Living Room ที่เป็น Bay Window

พื้นชั้น 2 ก็เป็นลามิเนต 8 มม. ตามมาตรฐานปกติครับ

บัวเก็บความเรียบร้อยตรงบริเวณรอยต่อผนัง

ชั้นล่างจะเป็นกระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 ซม.  บัวสีขาว

ซับวงกบประตู PVC ครับ

ประตูภายในบ้าน

ประตูที่กั้นห้องครัว และห้องซักรีด จะเป็นบานเลื่อนกระจก  ช่วยให้สเปซตรงนี้ดูกว้างขึ้น และมีความรู้สึกของการใช้งานสเปซร่วมกันได้ครับ

สวิตซ์ไฟสีขาว ตามมาตรฐาน

ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้าทรงสี่เหลี่ยมครับ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา ณ วันที่ีทำรีวิวบ้านในโครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ วางราคาเริ่มต้นแต่ละแบบไว้ที่ 7.5-11 ล้านบาท  ซึ่งราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาทนั้นเป็นของแบบ Osborne บนที่ดินมาตรฐาน 50 ตารางวา  ที่นี่คิดค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตารางวา  โดยชำระล่วงหน้า 3 ปีครับ

ราคา ณ วันที่ 30 มีนาคม 2018

ราคาเริ่มต้น :

แปลง Osborne พื้นที่ดิน 50 ตร.วา ราคา 7.5  ล้านบาท

แปลง Lambert พื้นที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 8.5  ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง n/A บาท , ทำสัญญา n/A บาท 

• ผ่อนดาวน์

แล้วแต่ยูนิต  ถ้าสร้างเสร็จแล้วก็ไม่ต้องผ่อนดาวน์

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  45 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3  ปี)

ค่าธรรมเนียมโอน 2%  (ผู้ซื้อชำระ 1% , ผู้ขายชำระ 1%)

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา n/A บาท

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า n/A บาท

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

แบบ Osborne พื้นที่ 50 ตร.วา ราคาขาย 7.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 42,4334 บาท/เดือน

แบบ Lambert พื้นที่ 51.4 ตร.วา ราคาขาย 8.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 48,092 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

แบบ Osborne พื้นที่ 50 ตร.วา ราคาขาย 7.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 45,330 บาท/เดือน

แบบ Lambert พื้นที่ 51.4 ตร.วา ราคาขาย 8.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 51,375 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

แบบ Osborne พื้นที่ 50 ตร.วา ราคาขาย 7.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 50,055 บาท/เดือน

แบบ Lambert พื้นที่ 51.4 ตร.วา ราคาขาย 8.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 56,729 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

แบบ Osborne พื้นที่ 50 ตร.วา ราคาขาย 7.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 58,482 บาท/เดือน

แบบ Lambert พื้นที่ 51.4 ตร.วา ราคาขาย 8.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 66,280 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

แบบ Osborne พื้นที่ 50 ตร.วา ราคาขาย 7.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 76,231 บาท/เดือน

แบบ Lambert พื้นที่ 51.4 ตร.วา ราคาขาย 8.5 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 86,396 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านทำเล

ถนนนวมินทร์นั้นเป็นเส้นที่เชื่อมต่อถนนสายหลัก 3 เส้น คือ ถนนเสรีไทย (ช่วงใกล้แยกลำสาลี) , ถนนประเสริฐมนูญกิจ (ช่วงแยกสุขาภิบาล 1 ) และถนนรามอินทรา (ช่วง กม. 8)  การที่โครงสร้างถนนสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย ทำให้พื้นที่โซนนี้มีความเป็นชุมชนที่เกิดจากการขยายตัวของโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ตั้งแต่อดีตเข้ามาหนาแน่นพอสมควร  ทำให้มีรถสาธารณะผ่านบนถนนนวมินทร์อยู่ตลอด  ทั้งรถเมล์, รถสองแถวต่างๆ ครับ  โดยที่ภายในซอยนวมินทร์ 42 เอง  ก็จะมีรถสองแถววิ่งผ่านด้วย  เนื่องจากเป็นซอยที่คนอยู่กันเยอะ  และสามารถเชื่อมไปออกทางถนนประเสริฐมนูกิจทางซอยประเสริฐมนูกิจ 48 อีกทาง

นอกจากนี้โซนที่ตั้งโครงการยังใกล้กับแนวถนกาญจนภิเษกฝั่งตะวันตก  ซึ่งสามารถวนลงใต้ไปเชื่อมต่อกับทางบางนาและเข้ามอเตอร์เวย์ได้ด้วยครับ  ถ้าหากจะใช้ทางด่วนเพื่อเชื่อมต่อเข้าในเมือง  จุดที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  ที่ขับรถออกไปไม่ไกลมาก  ภาพรวมก็ถือว่าเป็นโซนที่ยังเดินทางสะดวก

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ในอนาคตบนถนนนวมินทร์นั้นอยู่ในแผนของการศึกษาแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลครับ  โดยจะวิ่งบนถนนประเสริฐมนูกิจมาเลี้ยวเข้าที่บนถนนนวมินทร์ และไปจบที่สถานีลำลาสี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองครับ  โดยตามแผนที่พูดคุยกันในปัจจุบัน (ไตรมาสแรก ปี 2561) ช่วงบนถนนประเสริฐมนูกิจนั้นจะใช้โครงสร้างตอม่อเดิมที่มีอยู่  และพัฒนาควบคู่กับแนวทางด่วนที่ต่อมาจากเส้นศรีรัช-วงแหวนรอบนอก (ฝั่งตะวันออก) ยาวมาเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก (ฝั่งตะวันตก) เลย  ซึ่งถ้าหากโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง  ศักยภาพของทำเลนี้ก็น่าจะเปลี่ยนไปในทางบวกอีกมากทีเดียวแหละ

ทั้งนี้ตอนที่ผมเขียนรีวิวนี้  แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลและแนวทางด่วน  ยังอยู่ในระหว่างหาข้อสรุปและทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นจากประชาชนนะครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีความเป็นส่วนตัวสูงครับ  เพราะว่ามีแค่ 81 ยูนิต   ดีไซน์วางคอนเซ็ปต์แบบบ้านใหม่  เป็นการผสมผสานความโมเดิร์นและกลิ่นอายสไตล์อังกฤษ  โดยใช้รูปแบบสไตล์ของบ้านแบบอังกฤษเข้ามาตกแต่งหน้าตาตัวบ้าน  รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและงานภูมิสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยรอบ  ซึ่งภาพรวมนั้นสามารถคุม Mood & Tone ได้ดีเลย  ดูบรรยากาศแล้วกลมกลืนไปในแนวทางเดียวกันครับ

ตัวบ้านของ แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์  นั้นมี 3 แบบ โดยที่หน้าตาภายนอกเป็นสไตล์เดียวกัน  ตัวบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง  ไม่ลึกมาก  ฟังก์ชั่นที่ได้เป็นบ้าน 4 ห้องนอน  โดยทุกแบบมีห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ  หรือว่าจะดัดแปลงเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังแบบที่โครงการทำให้ดูก็ได้ครับ  ในภาพรวมนั้นแบบบ้านถือว่าจัดมาได้เป็นสัดส่วนดี  แยกโซนของฟังก์ชั่นต่างๆ ออกจากกันได้ชัดเจน  จุดที่ผมชอบสำหรับชั้นล่างของทุกแบบ  คือบ้านทุกแบบจะมีส่วนพื้นที่บริการอย่างครัว และส่วนซักรีดแยกชัดเจน  โดยเข้าจากทางโรงรถสะดวกครับ  การจัดโซนของฟังก์ชั่นแบบนี้ก็ทำให้สามารถวางพื้นที่นั่งเล่น และรับประทานอาหารได้แบบเต็มที่ … สำหรับชั้นบนนั้น  พื้นที่สเปซต่างๆ ก็จัดว่าใช้ได้และเหมาะสม  ห้องนอนเล็กไม่แคบไป  สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์เผื่อเวลาลูกโตได้  และมีห้องน้ำที่แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน  โดยที่ห้องน้ำสามารถได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้วย  ตรงนี้ก็จะช่วยเรื่องของลดความอับชื้นและระบายอากาศครับ

สำหรับวัสดุในตัวบ้าน Grandio Ladphrao-Kasenawamin  ภาพรวมก็ให้มาดีครับ  การใช้กระเบื้องหินธรรมชาติมาตกแต่งภายนอก  พร้อมกับดีเทลคิ้วปูนต่างๆ  ทำให้ตัวบ้านดูมีราคาขึ้นอีกเยอะเลย  วัสดุบานกรอบหน้าต่างใช้เป็น uPVC  พื้นลามิเนต และกระเบื้องแกรนิตโต้  ห้องน้ำให้สุขภัณฑ์ของ American Standard และติดฉากกั้นอาบน้ำให้ทุกห้อง  ถือว่าเหมาะสมกับราคา  ตรงนี้ไม่ได้มีข้อติอะไรครับ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางของ Grandio Ladphrao-Kasenawamin   ต้องบอกว่าให้เกินราคาไปมาก  เพราะตัวคลับเฮ้าส์นี่ดูแกรนด์ เหมือนพวกโครงการใน Luxury Segment ให้กัน  ดีไซน์ของคลับเฮ้าส์จะเป็นดีไซน์แบบสมมาตร  มีแนวแกนชัดเจน  ซึ่งเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบที่ต้องการภาพของความยิ่งใหญ่อลังการมักจะทำกัน  พื้นที่สวนทำเป็นสนามหญ้าโล่งๆ และปลูกไม้พุ่ม และต้นไม้เพื่อเป็นแนวแกนส่งเสริมกับตัวอาคารครับ  พื้นที่ส่วนกลางนี้ช่วงเย็นๆ ที่ผมไปรีวิวนั้นบรรยากาศดีมากทีเดียว  สระว่ายน้ำด้านหน้าเป็นระบบเกลือ ขนาด 7×14 เมตร ลึก 1.2 เมตร  ส่วนภายในตัวคลับเฮ้าส์ก็เป็น Double Space โถงสูง  ตกแต่งภายในด้วยวัสดุมันเงา พวกหิน, กระจก, สแตนเลสต่างๆ  ทำให้ภาพรวมออกมาดูหรูหรา  ซึ่งพื้นที่ภายในนี้เมื่อสำนักงานขายโครงการย้ายออกไปแล้ว  ก็จะถูกเอามาทำเป็นห้องฟิตเนสครับ  ทั้งนี้ค่าส่วนกลางในเบื้องต้นจะเก็บที่ 45 บาท/ตร.วา ล่วงหน้า 3 ปีก่อนครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^