ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ. ติดเครื่อง Q3 เปิดบ้านหรู “เบลกราเวีย” พร้อมคอนโด 6,200 ล้าน

· ~ 1 min read

“ออริจิ้น” โชว์ตัวเลขยอดพรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ล้านบาท มั่นใจทั้งปี 2563 ทะลุเป้า 21,500 ล้านบาท หลังกลยุทธ์เพิ่มแพลทฟอร์มออนไลน์และโปรเจ็คท์ Everyone Can Sell หนุนยอดขายต่อเนื่อง ธุรกิจบ้านจัดสรรมาแรง บริทาเนีย บางนา กม.12 เตรียมปิดการขายหลังเปิดตัวเพียงปีครึ่ง ไตรมาส 3 จ่อเปิดบ้านจัดสรรระดับลักชัวรี่แบรนด์ใหม่ “เบลกราเวีย” โครงการแรก พร้อมคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า ไตรมาส 2/63 (เม.ย.-มิ.ย. 63) บริษัทสามารถทำยอดขาย (Presale) ได้กว่า 6,400 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาส 1/63 กว่า 32% แบ่งสัดส่วนเป็น บ้านจัดสรร 30% และคอนโดมิเนียม 70%  ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.63) บริษัทมียอดขายสะสมแล้วกว่า 11,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น บ้านจัดสรร 32% และคอนโดมิเนียม 68% ซึ่งคิดเป็นกว่า 52% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท เบื้องต้นจึงมั่นใจว่า ภาพรวมทั้งปี 2563 มีโอกาสอย่างมากที่บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

โดยสาเหตุสำคัญที่ผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง มาจากการกลยุทธ์การขายที่ตอบสนองกับสถานการณ์ตลาด ควบคู่ไปกับการปรับเดินเกมการตลาดเชิงรุก เพิ่มช่องทางขายสินค้าบุกแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น อาทิ การเปิด Official Store บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada รวมทั้งการผลักดันพนักงานให้ก้าวสู่ Micro Influencer ขายสินค้าผ่านช่องทางสื่อสารส่วนบุคคล ภายใต้โปรเจ็คท์ Everyone can sell เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ.

 

นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด ถือเป็นธุรกิจที่เข้ามามีบทบาทในการสร้างยอดขายใหม่ให้แก่บริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญและได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด โครงการบริทาเนีย บางนา กม.12 โครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดขายในช่วงปลายปี 2561 กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการขาย เหลืออีกเพียงประมาณ 10 ยูนิต สะท้อนถึงความสามารถในการจัดหาทำเลที่เหมาะสม ความมั่นใจในคุณภาพที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์และโครงการบ้านจัดสรรในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จนทำให้มีอัตราการดูดซับโครงการบ้านจัดสรรที่เร็วกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีขึ้นไป ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้บริษัทจึงจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 1 โครงการในทำเลบางนา ภายใต้ชื่อ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ขณะที่ช่วงไตรมาส 3/63 บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจบ้านจัดสรรอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ เบลกราเวีย (BELGRAVIA) แบรนด์บ้านเดี่ยวหรูระดับราคา 20-35 ล้านบาท จำนวน 1 โครงการ ภายใต้ชื่อ โครงการ เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ พูล วิลล่า บางนา-พระราม 9 มูลค่าราว 1,600 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,600 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4 มูลค่า 2,300 ล้านบาท และโครงการ ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา มูลค่า 2,300 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 3/2563 ทั้งสิ้น 6,200 ล้านบาท

ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ.

 

ทั้งนี้ ภาพรวมครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทจะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เริ่มจากในช่วงไตรมาส 3/2563 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช
  2. โครงการ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107

และในช่วงไตรมาส 4/2563 อีก 4 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105
  2. โครงการ เคนซิงตัน ระยอง
  3. โครงการ ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้
  4. โครงการ ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน

โดยภาพรวมเฉลี่ยมียอดขายแล้วประมาณ 80-90% คาดว่าหลังก่อสร้างเสร็จแล้ว จะช่วยสร้างทั้งยอดขายใหม่และยอดโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ.ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ.ORI โชว์พรีเซลครึ่งปีแรก 11,200 ลบ.

 

ทั้งนี้ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย

  1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 73 โครงการ เช่น  แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 114,000 ล้านบาท
  2. ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
  3. ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก