รีวิวคอนโดชิ้นนี้  ผมพาไปดูคอนโดพฤกษาตัวใหม่ “Fuse ถนนจันทน์ สาทร” ที่เพิ่งเปิดขายเมื่อต้นเดือนก่อนครับ  ทำเลของโครงการนี้อยู่เรียกว่าอยู่เกือบใจกลางถนนจันทน์เลย  เพราะห่างจากแยกสาธุประดิษฐ์นิดเดียว  แต่ก่อนจะเริ่มขอแปะ “ติ๊กเก้อ” หน่อย  เดี๋ยวไม่อินเทรน 😛

เริ่มกันที่ข้อมูลโครงการก่อนครับ

เริ่มเดินทาง  ดูทำเล

เส้นทางหลักๆที่ใช้ในการเข้าถึงจะมีจากถนน 3 เส้น คือ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์(มาจากสาทร) , ถนนรัชดา(พระราม 3)  และถนนเจริญราษฎร์ครับ  ถ้านับจาก Hub ใจกลางเมือง  ก็คงจะต้องมาจากแยกสาทรตัดนราธิวาสราชนครินทร์  ตรงหัวมุมรถไฟฟ้า  ถ้ามาทาง BTS ก็ลงสถานีช่องนนทรีแล้วจะนั่งแท็กซี่ต่อมาก็ง่ายดีเพราะห่างจากสถานีช่องนนทรีประมาณ 2.8 กิโลเมตร  ถ้ารถไม่ติดก็อึดใจเดียว  แต่ถ้าจะมา BRT  ก็ต้องมาลงที่สถานีถนนจันทน์แล้วต้องต่อรถไปอีกหน่อยครับ(1.1 กิโลเมตร)
ถ้าพูดถึงการมาจากสาทร  นอกจากวิ่งมาตามถนนนราธิวาสแล้ว  ก็สามารถเข้ามาทางซอยเซ็นต์หลุยส์ 3 ได้ครับ (ซอยเดียวกับโรงเรียนอัสสัมชัญ)  ระยะทางนั้นเท่ากันเป๊ะที่ 2.8 กิโลเมตรครับ

ถ้าจะมาจากถนนรัชดาภิเษก  ก็ให้มาจากทางพระราม 3 นะครับ(ถ้าลงทางด่วนก็ต้องไปกลับรถมาก่อน)  แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาธุประดิษฐ์  ตรงมาเรื่อยๆจนสุดทางเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาไปนิดนึง  ตรงนี้คนพื้นที่เขาจะเรียกกันว่า “สะพาน 3” ครับ  เลี้ยวไปนิดเดียวก็จะถึงโครงการ

อีกทางหนึ่งก็คือมาทางถนนเจริญราษฎร์  พอเลี้ยวเข้าถนนจันทน์ก็ตรงมาอย่างเดียวเลย  ผ่านสะพาน 3 ไปนิดนึง  ก็จะถึงโครงการเช่นเดียวกัน

เส้นทางที่ทำมาให้ดูวันนี้จะขอเน้นไปที่ 2 ทางคือมาจากทางรัชดาและมาจากทางเจริญราษฎร์ครับ  ไม่ใช่ว่ามาจากสาทรไม่สำคัญ(สำคัญมากด้วย)  แต่คิดว่าส่วนใหญ่คงจะนึกภาพออกกันอยู่แล้ว   ผมเลยคิดว่าจะพาไปเข้าจากอีกทางนึงเพื่อสามารถเห็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของย่านนี้ได้ดีขึ้นครับ  พิกัดโครงการอยู่ที่ >> 13.705711,100.5303849

ตามมาดูรูปกราฟฟิกให้เข้าใจเส้นทางคร่าวๆกันครับ

พอมาถึงโครงการแล้ว  ก็ไปลองดูรอบๆว่ามีอะไรกันบ้างครับ

ที่ดินเดิมของคอนโด Fuse ถนนจันทน์นั้นเดิมเป็นโรงงานเก่าครับ  เวลายืนหน้าโครงการแล้วมองเข้าไปขวามือจะอยู่ติดกับไปรษณีย์ยานาวาและด้านหลังเป็น กสท.ยานาวา   สภาพแวดล้อมทางด้านนี้จึงถือว่าค่อนข้างปลอดภัยจากความเสี่ยงที่จะมีคอนโดอื่นๆขึ้นมาบังในอนาคต  ส่วนฝั่งซ้ายก็เป็นบ้านคนทั่วๆไป  มีตึกแถวที่เป็นอาคารพาณิชย์อยู่บ้าง  ด้านหลังคอนโดนั้นมีโรงงานกระดาษตั้งอยู่   ผมไปตีเนียนคุยเล่นกับพี่ยามที่อยู่ กสท. ยานาวา ใกล้ๆกับโรงงานกระดาษถามเขาว่ามีปัญหาเรื่องกลิ่นจากโรงงานไหม   แกก็บอกว่าไม่มีอะไรนะครับ  เอาเป็นว่าสบายใจได้

ถนนจันทน์นี่ผมชอบอย่างนึงคือของกินเพียบ!!  หาง่ายครับ  ไม่ต้องกลัวอดแน่นอน  และที่ตั้งคอนโด Fuse ถนนจันทน์  ก็วนไปเซ็นทรัลพระราม 3 ง่ายมาก  เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง  เล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วก็ไปดูกราฟฟิกง่ายๆกันครับ

เรียงตามลำดับหมายเลขนะครับ  1 ไปรษณีย์ยานาวา  / 2 กสท.ยานาวา / 3 บ้านเรือนทั่วไปและอาคารพาณิชย์  / 4 โรงงานกระดาษ / 5  ปั๊มน้ำมัน

เปิดประตู  ดูโครงการ

วนอยู่รอบโครงการตั้งนาน  ถึงเวลาเข้าไปดูในคอนโดกันสักที  เปิดประตูตามเข้ามาเลยครับ

สำนักงานขายตั้งใจออกแบบให้ดูเป็น Tropical Resort  ครับ   มีชายคายื่นยาวไล่ระดับกับบ่อน้ำด้านหน้าช่วยกั้นระยะจากถนน   ซึ่งตัวสำนักงานขายนี้จะอยู่ตำแหน่งเดียวกับ Club House ของโครงการในอนาคตเลย  แต่รูปแบบแตกต่างกันไปนิดหน่อย  ถ้าดูจากภาพที่โครงการให้มา  Club House ในอนาคตทรงหลังคาจะดู Modern กว่าตัวสำนักงานขายปัจจุบันพอควรครับ

เปิดผังโครงการ

• ดูทิศ  มองแดด  รับลม

มาดูผังโครงการกันมั่งครับ  คอนโด Fuse จะแยกเป็น 3 ทาวเวอร์  โดยทาวเวอร์ A จะอยู่หน้าสุดมี 28 ชั้น  และทาวเวอร์ B, C จะอยู่ด้านหลังมี 31 ชั้น  ด้านหน้าโครงการนั้นหันหน้าทิศใต้  แต่ตัวอาคารจะวางตามแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ด้านที่รับแดดมากที่สุดจะเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทาวเวอร์ A และ C   ส่วน B นั้นได้อานิสงค์ความร่มจากตึก C  ไปเต็มๆ

ในเรื่องของวิวชั้นสูงๆขึ้นไป  ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทาวเวอร์ A และ B จะได้วิวเมืองตึกสวยๆตรงสาทรครับ  แถมร่มกว่าอีกฝั่ง  ส่วนตัวแล้วผมชอบตำแหน่งนี้  เพราะมีเสียงจากถนนน้อย  แต่อาจจะต้องระวังว่าถ้าเลือกชั้นต่ำๆอาจจะหันไปจ๊ะเอ๋กับตึก กสท. พอดี  เขามีเสาสัญญาณด้วยนะครับ  ^^”  เพราะตึกแทบจะขนานกันเลยครับ   ตอนไปทำรีวิวคอนโด Fuse นี้  ผมทดลองเดินเข้าไปทางตึก กสท. แทบไม่ได้ยินเสียงรถจากถนนจันทน์เลย  เงียบดีมาก  ส่วนเสียงจากโรงงานกระดาษด้านหลังอันนี้ยังฟันธงไม่ได้เหมือนกันครับ  เพราะอยู่แป๊ปเดียว

นอกจากนี้พอดูตำแหน่งของพื้นที่สระว่ายน้ำส่วนกลางบนทาวเวอร์ B กับ C  แล้ว   ผมว่าคอร์ทของทาวเวอร์ C ค่อนข้างจะอับลมทีเดียวครับ  เมื่อเทียบกับของทาวเวอร์ B ที่ดูมีช่องให้ลมผ่านได้บ้าง

มาดูโมเดลกันหน่อย

ผมขยาย floor plan มาให้ดูครับ  อาจจะไม่ค่อยละเอียดนัก  เพราะรูปในโบชัวร์เล็กไปหน่อย  ดูจาก Floor Plan จะเห็นว่าแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอย่างเดียวครับ

• พื้นที่ส่วนกลาง  ความเพียงพอในการใช้งาน

พื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งกระจายทั้ง 3 อาคาร  ทาวเวอร์ B และ C จะมีสวนและสระว่ายน้ำอยู่บนโพเดียมเหนือชั้นจอดรถเลย  ส่วนทาวเวอร์ A นั้นจะต้องเดินข้ามไปใช้สระว่ายน้ำที่ Club House แทน  พื้นที่ส่วนกลางนอกจากสระว่ายน้ำแล้วหลักๆก็มีฟิตเนสครับ  ไม่ได้มีพวกห้องซาวน่าหรือ Steam Room  ดูน้อยไปในความคิดผม  ส่วนตำแหน่งของสระว่ายน้ำตรง Club House ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่  ไปวางไว้ติดกับถนนเลย  อาหมวยใส่บิกินี่คงมีเขิลๆกันบ้าง  สเต็ปที่ยกขึ้นไปดูจากรูปของโครงการแล้วก็ไม่ได้สูงมากครับ   ส่วนด้านหน้าของ Club House  ที่เป็นส่วนพักผ่อนนั้นค่อนข้างติดถนนมากทีเดียว  หวังว่าจะมีแนวกั้นสวยๆที่ช่วยให้รู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นนะครับ   ถ้าทำระดับอย่างสำนักงานขายก็พอโอเคอยู่

ในเรื่องลิฟต์  โครงการมีมาให้ทาวเวอร์ละ 3 ตัว  รวม 9 ตัวสำหรับ 1,225 ยูนิต  เฉลี่ยแล้วลิฟต์  1  ตัวต่อ  136  แต่ ไม่มี Service Lift ครับ  เวลาป้าๆแม่บ้านขนขยะเนี๊ย  มันก็ต้องลงมาทางเดียวกับคนนั่นแหละครับ  ตรงนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่  ยังโอเคที่ดูจากแปลนแล้วโถงลิฟต์ทั้ง 3 ตัวมีประตูปิด  เพราะเวลาเกิดฉุกเฉินไฟไหม้จะได้ใช้ลิฟต์ตัวนึงเป็นลิฟต์ดับเพลิงได้ (ตัวริมทางเดินนะครับ  สังเกตในแปลนจะมีช่องอัดอากาศอยู่)

เปิดแปลน  ดูห้อง  มองสเปซ

ห้องที่คอนโด Fuse ถนนจันทน์ สาทร ส่วนใหญ่จะเป็น 1 ห้องนอนครับ  รองลงมาก็เป็นแบบ 2 ห้องนอนปกติและ Studio   ส่วน 2 ห้องนอนแบบ Duplex รวมถึงแบบ Penthouse นั้นมีอยู่นิดหน่อยในชั้นบนๆครับ  เพราะด้วยพื้นที่ที่ใหญ่กว่าและอยู่ชั้นสูงทำให้ราคาเริ่มต้นโดดไปอยู่ที่ 6.2 ล้านเลยทีเดียว   ลองไปไล่ดูกันเลยครับ

ห้องคอนโด Fuse แบบ  Studio 26.00 ตร.ม.

แบบนี้ไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูนะครับ  ต้องดูแบบ 1 ห้องนอน 28.5 ตร.ม. แล้วจินตนาการเอา  เพราะการวางฟังก์ชั่นและความกว้างของห้องเหมือนกัน  แต่แบบ Studio นั้นพื้นที่ส่วนนอนนั้นระยะความลึกน้อยกว่า  ถ้าโรคจิตดูละเอียดอย่างผม  ลองเอาไม้บรรทัดวัดขนาดเตียงจากแปลนในโบชัวร์เพื่อถอดสเกล  จะเห็นว่ารูปเตียงที่เขียนมาในแปลนของแบบ Studio นี้เขียนมาขนาดเล็กกว่าแบบ 1 ห้องนอนอยู่นิดนึง  เพราะฉะนั้นถ้าซื้อห้องนี้  ขอให้ซื้อเตียงเล็กกว่าตามแบบนะครับ  😛

ห้องคอนโด Fuse แบบ  1 ห้องนอน 28.50 – 29.00 ตร.ม.

แบบนี้อย่างที่บอกว่าคล้ายกับแบบสตูดิโอที่มีความลึกมากขึ้น  ทำให้กั้นประตูห้องนอนได้  แต่ภาพรวมเหมือนกันทุกอย่าง  ระเบียงด้านนอกนั้นพอแขวนแอร์แล้วเล็กไปสำหรับการใช้งาน  ในห้องตัวอย่างนั้นเหลือที่แค่ 70 ซม. เรียกว่าถ้าจะหาราวตากผ้านี่ต้องสั่งทำไซส์พิเศษเลยทีเดียว  เดี๋ยวจะให้ดูรูปในส่วนของอินทีเรียห้องตัวอย่างครับ

ห้องคอนโด Fuse แบบ  1 ห้องนอน 32.00 – 32.50 ตร.ม.

แบบนี้เป็นแบบมาตราฐานมีเยอะที่สุดในโครงการ  ซึ่งจัดได้ลงตัวดีครับ  พื้นที่ใช้งานต่างๆใช้ได้จริงในขนาดที่ไม่เล็กจนเกินไป  และดูเป็นสัดส่วนดี

ห้องคอนโด Fuse แบบ  2 ห้องนอน 56.00 – 56.50 ตร.ม.

ต้องบอกว่าเป็น 2 ห้องนอนที่แปลนสวยลงตัว  แปลนแนวยาวๆแบบนี้ทำให้ห้องได้แสงธรรมชาติและติดด้านนอกแทบทุกส่วนหลักๆ  โดยห้องแบบนี้จะอยู่ตรงมุมอาคารเท่านั้น  ทำให้มีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน  ระเบียงนี้ใหญ่แบบใช้งานได้สบายๆ  เป็นสัดเป็นส่วนมาก  ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ได้แสงจากหน้าต่างเข้ามามากน่าจะทำให้แห้งอยู่ตลอด  แบบนี้ติแค่พื้นที่ส่วนอาบน้ำในห้องน้ำด้านนอกขนาดเล็กไปหน่อยครับ  เวลาใช้งานเปิด-ปิดประตูนี่ต้องเอี้ยวตัวกันเลยทีเดียว

แอบบอกว่าพอเข้าไปดูห้องตัวอย่างแล้ว  ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าแปลนตรงครัวกับตู้เก็บของตรงทางเข้ามันไม่เหมือนในโบชัวร์ครับ  สลับด้านกันอยู่  ผมเลยลองแก้แปลนเล่นๆตามที่ห้องตัวอย่างวาง   ส่วนห้องจริงจะตามแปลนหรือตามห้องตัวอย่าง  อันนี้ต้องไปถามเซลล์เอานะครับ

เปิดห้องตัวอย่าง  ชมวัสดุ  

• “Focus on Materials”

เรามาโฟกัสกันที่ตัววัสดุที่ได้มากับห้องมั่งครับ  ต้องยอมรับว่าคอนโด Fuse ถนนจันทน์ตัวนี้  พฤกษาจัดวัสดุในห้องมาให้เกรดค่อนข้างดีทีเดียวแหละ  ส่วนหนึ่งให้เดาก็คือการจับตลาดลูกค้าคนในพื้นที่ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีนซะเยอะ  การจับตลาดกลุ่มคนจีนในพื้นที่ชุมชนเก่าแบบนี้  ถ้าให้ของก๊องแก๊งคุณภาพต่ำมาน่าจะขายยากอยู่   เพราะคนเหล่านี้โตมากับการค้าขาย  จะเอาวัสดุธรรมดามาลูบหน้าปะจมูกติดแบรนด์แล้วขาย  ก็ดูไม่น่าจะขายได้ง่ายนักถ้าโดยเนื้อคุณภาพวัสดุที่ให้มามันไม่ดี

เราไปไล่ดูกันที่ละส่วนครับ  เริ่มจากวัสดุครัว  วัสดุห้องน้ำ  และก็วัสดุปิดผิว (finishing) และวัสดุอื่นๆในห้อง

เปิดห้องตัวอย่าง  ดูอินทีเรีย 

• “Focus on Space and Dimension”

ห้องตัวอย่างนั้นมีให้ดู 3 แบบ คือ 1 Bedroom 28.5 ตร.ม. / 1 Bedroom 32.5 ตร.ม. / 2 Bedrooms 56 ตร.ม. ครับ

ห้องคอนโด Fuse แบบ  1 ห้องนอน 28.50 – 29.00 ตร.ม.

ห้องคอนโด Fuse แบบ  1 ห้องนอน 32.00 – 32.50 ตร.ม.

 ห้องคอนโด Fuse แบบ  2 ห้องนอน 56.00 – 56.50 ตร.ม.

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ตอนแรกที่เปิดตัวเมื่อต้นเดือนมีนาคมก่อนผมไปรีวิวนั้น  พฤกษาชูราคา 1.79 ล้านบาท เป็นตัวเรียกคน(ตอนไปรีวิวนี้ก็ยังติด 1.79 อยู่นะครับ)  ผ่านไปประมาณเดือนครึ่ง  ราคาเร่ิมต้นนั้นปรับไปอยู่ที่ 2 ล้าน  (หักส่วนลดเหลือ 1.95 ล้าน)  โดยใช้ห้อง Studio ที่ 26 ตร.ม. เป็นตัวทำราคาเปิดขายครับ  ในแต่ละตึกจะมีห้อง Studio แค่ 2 ห้องต่อชั้น

ณ ตอนนี้ราคาเฉลี่ยห้องในโครงการอยู่ที่ประมาณ 75,000 – 91,000 บาท/ตร.ม.   ครับ  ซึ่งช่วง Segment หลักๆที่โครงการเน้นก็มีช่วงราคาไม่กว้างมากครับ  อยู่ในระดับราคาเฉลี่ย 75,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.  เวลาพิจารณาจึงถือว่าโครงการนี้อยู่ในช่วง Segment ราคาเฉลี่ยประมาณ  78,000 บาท/ตร.ม. ครับ   ส่วนช่วงราคานอกเหนือจากนั้นเป็นห้องไซส์พิเศษชั้นบนๆที่ทำมาไม่กี่ห้องไม่ได้เอามาพิจารณาภาพรวมของ Segment โครงการด้วย

ราคา ณ วันที่ 17 เมษายน 2556

ราคาเริ่มต้น :

Studio         26.0 ตร.ม.   ราคา 2,006,190 บาท  (จัดโปรโมชั่น เหลือ 1,956,190 บาท = เฉลี่ย 75,238 บ/ตร.ม.)

1 bedroom  28.5 ตร.ม.   ราคา 2,283,778  บาท  (จัดโปรโมชั่น เหลือ 2,183,778 บาท = เฉลี่ย 76,623 บ/ตร.ม.)

1 bedroom  30.5  ตร.ม.   ราคา 2,534,430 บาท  (จัดโปรโมชั่น เหลือ 2,434,430 บาท  = เฉลี่ย 79,817 บ/ตร.ม.)

2 bedrooms 56.0 ตร.ม.   ราคา 4,470,548  บาท  (จัดโปรโมชั่น เหลือ 4,320,548 บาท = เฉลี่ย 77,152 บ/ตร.ม.)

2 bedrooms(Duplex) 70.0 ตร.ม.   ราคา 5,998,050  บาท (จัดโปรโมชั่น เหลือ 5,998,050 บาท = เฉลี่ย 85,686 บ/ตร.ม.)

Penthouse 85.5  ตร.ม.   ราคา 7,638,490  บาท  (จัดโปรโมชั่น เหลือ 7,638,490 บาท = เฉลี่ย 89,339 บ/ตร.ม.)

เงื่อนไขการจอง :

Studio / 1 bedroom               จอง 20,000 บาท  ทำสัญญา  40,000   บาท

2 bedroom                              จอง 50,000 บาท  ทำสัญญา  100,000  บาท

2 bedroom   (Duplex)           จอง 50,000 บาท  ทำสัญญา  200,000 บาท

Penthouse                               จอง 80,000 บาท  ทำสัญญา  300,000 บาท

            ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง              35   บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก     500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) :

(ป.ล. ดอกเบี้ยปัจจุบันไม่ถึงนะครับ  ผมคิดเพื่อไว้ให้นิดหน่อย)

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio              26.0 ตร.ม.  ประมาณ 13,600 บาท/เดือน

1 bedroom      28.5 ตร.ม.   ประมาณ 15,174 บาท/เดือน

1 bedroom      30.5 ตร.ม.   ประมาณ 16,900 บาท/เดือน

2 bedrooms    56.0 ตร.ม.   ประมาณ 30,000 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio              26.0 ตร.ม.  ประมาณ 14,300 บาท/เดือน

1 bedroom      28.5 ตร.ม.   ประมาณ 16,000 บาท/เดือน

1 bedroom      30.5 ตร.ม.   ประมาณ 17,800 บาท/เดือน

2 bedrooms    56.0 ตร.ม.   ประมาณ 31,700 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio              26.0 ตร.ม.  ประมาณ 15,600 บาท/เดือน

1 bedroom      28.5 ตร.ม.   ประมาณ 17,400 บาท/เดือน

1 bedroom      30.5 ตร.ม.   ประมาณ 19,400 บาท/เดือน

2 bedrooms    56.0 ตร.ม.   ประมาณ 34,500 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio              26.0 ตร.ม.  ประมาณ 18,000 บาท/เดือน

1 bedroom      28.5 ตร.ม.   ประมาณ 20,000 บาท/เดือน

1 bedroom      30.5 ตร.ม.   ประมาณ 22,400 บาท/เดือน

2 bedrooms    56.0 ตร.ม.   ประมาณ 39,800 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio              26.0 ตร.ม.  ประมาณ 23,000 บาท/เดือน

1 bedroom      28.5 ตร.ม.   ประมาณ 25,700 บาท/เดือน

1 bedroom      30.5 ตร.ม.   ประมาณ 28,700 บาท/เดือน

2 bedrooms    56.0 ตร.ม.   ประมาณ 50,900 บาท/เดือน

Overview  Summary

ด้านการเดินทาง

ขอมองเป็น  2 มุมครับ  ถ้าเป็นสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนเดิมอยู่แล้วทำเลตรงนี้คงไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเดินทางแต่อย่างใด  ถือเป็นทำเลเทพสำหรับคนในท้องถิ่น   แต่ในมุมที่สัมพันธ์กับการเดินทางในเมืองที่ต้องใช้ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าก็ถือว่าค่อนข้างไกลออกมาพอควร (ห่างจากแยกสาทร-นราธิวาส 2.6 กม. และห่างจากรถไฟฟ้าช่องนนทรี 2.8 กม.)  ซึ่งก็แลกมาด้วยระดับราคาที่ถูกกว่า  เพราะเราไม่สามารถหาราคานี้แถวๆนั้นได้แน่นอน   ส่วนการใช้รถสาธารณะนั้นมีสองแถววิ่งเรื่อยๆ  หายห่วงครับ  เดินไปนิดเดียวก็มีพี่วินกลุ่มคนเสื้อส้มอยู่  ป้ายรถเมล์ก็อยู่ห่างหน้าโครงการไม่ไกล  หาของกินง่าย  ไปเซ็นทรัลพระราม 3 ก็วนออกสาธุประดิษฐ์นิดเดียวถึง  ขากลับวนเข้ามาทางนราธิวาสได้  ถ้าลูกหลานเรียนอัสสัมชัญจะสบายมาก  เพราะไม่ต้องออกถนนใหญ่เลย

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ตอนที่ทำรีวิวนี้  จุดที่น่าสนใจเกี่ยวกับศักยภาพและการเติบโตในอนาคตของทำเลนี้คือการสร้างสะพานจันทน์-เจริญนคร  ที่กำลัง(อาจจะ)เกิดขึ้นครับ  ถ้าเกิดขึ้นจริงอีกหน่อยจากหน้าโครงการตรงถนนจันทน์จะสามารถวิ่งยาวข้ามไปลงฝั่งเจริญนครได้เลย  โดยจะขึ้นจากถนนจันทน์ ซอย 42 แล้วไปลงที่เจริญกรุง 24  รวมระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตรครับ  ซึ่งจะทำให้เวลาจะข้ามไปฝั่งธนอีกหน่อยก็ไม่จำเป็นต้องไปแออัดกันตรงสะพานตากสินอีกต่อไป   แต่ยังไงก็น่าจะยังต้องผ่านประชาพิจารณ์อีกมากอยู่  เพราะต้องเวนคืนที่ชาวบ้านอีกเยอะเลย  มีเสียงต่อต้านจากคนในท้องที่พอควร  ก็ต้องดูกันไปครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

เรื่องการออกแบบโครงการ Fuse จันทน์ สาทร นี้มีทั้งส่วนที่ประทับใจและไม่ค่อยประทับใจครับ  เริ่มกันที่ส่วนดีๆก่อน  แปลนของห้องนั้นวางมาดีครับ  โดยเฉพาะ 1 ห้องนอน(32.5 ตร.ม.)  และ 2 ห้องนอน  ให้พื้นที่สัดส่วนการใช้สอยรวมๆมาดี    จะติดก็ตรงแบบ Studio และ 1 ห้องนอน(28.5 ตร.ม.) ที่เหลือพื้นที่ตากผ้าน้อยไปนิดนึง(แต่ก็ถือเป็นจุดเล็กๆ)  แล้วก็ประทับใจเรื่องวัสดุครับ  ให้มาเกรดดีทีเดียวแหละ  ในส่วน Club House นั้นดูในรูปสวยมาก  ถ้าออกมาจริงแล้วเป็นหน้าตาแบบนี้ก็มีกรี๊ดเหมือนกันสำหรับราคาระดับนี้นะครับ  เอาจริงๆแล้ว Club House ในรูปที่โครงการให้เขียนว่าเป็น Double Volume ดูจากสเกลคนที่ใส่เข้าไปแล้วมันน่าจะ Triple Volume  ซะมากกว่า ของจริงจะออกมาประมาณไหนคงต้องตามดูกันในอนาคต   ส่วนในเรื่องที่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ก็การไม่มีลิฟต์เซอร์วิสแยกต่างหากนี่แหละครับ  และความหลากหลายของ Facilities ก็ดูจะน้อยไปสักหน่อย

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ในบรรดาตัวเลือกคอนโดใหม่ๆที่ราคาเฉลี่ยประมาณนี้ในทำเลนี้ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ครับ  มีแต่แพงกว่าหรือถูกกว่าคนละ Segment ไปเลย   อย่าง Bangkok Horizon Lazi ของ CMC นี่ก็จะแพงกว่า   อย่าง The Trust รัชดา – พระราม 3  ซึ่งอยู่ไกลออกมาอีกนิดนี่ราคาต่อตร.ม.ก็จะถูกกว่า  (เดี๋ยวจะมีรีวิวของ The Trust ตัวนี้มาให้อ่านกันด้วยครับ  ตอนนี้กำลังเขียนอยู่)

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนครับ   (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดที่นี่) 

ผมขอปิดท้ายรีวิวคอนโดพฤกษาตัวแรกของเว็บ “อยู่สบาย” ไว้เท่านี้นะครับ  หวังว่ารีวิวจะช่วยให้เป็นประโยชน์กับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ประกอบการตัดสินใจอยู่

สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเรา  ได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

สุดท้ายนี้  ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป  อยากจะขอสักคนละ  1  Like  ด้านล่างนี้   เพื่อให้เรารู้ว่าไม่ได้นั่งเขียนอยู่คนเดียว  มีคนเข้ามาอ่านด้วย  และถ้าต้องการให้ปรับปรุงหรือเพิ่มเติมตรงไหน  คอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ  (^_____^)

[twitter-follow screen_name='yusabuy' show_count='yes']