มีข่าวอสังหาริมทรัพย์ข่าวนึงน่าสนใจข่าวนึงมาเล่าให้ฟังครับ  เป็นข่าวไอเดียเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการเสียภาษีในการซื้อขายบ้านและคอนโดมือสองใหม่
ซึ่งเสนอโดยนายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย  หลักการคร่าวๆคือให้เปลี่ยนวิธีคิดภาษีจากเดิมมาคิดเฉพาะส่วนที่ขายได้กำไร(Capital Gain)เท่านั้น

ทีนี้วิธีคิดแบบเดิมคิดยังไง  นายกสมคมฯให้ข้อมูลไว้ว่าจะต้องเสียภาษีและค่าใช้จ่ายจาก 4 ข้อ คือ

1. ภาษีรายได้หัก ณ ที่จ่าย (คิดจากราคาประเมินของกรมที่ดิน)

2. ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (คิดจากราคาประเมินของกรมที่ดิน)

3.  ภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีอยู่อาศัยไม่ครบ 5 ปี  หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ครบๆ 1 ปี)

4. ค่าอากรแสตมป์คิดจากราคาซื้อขายจริง

โดยหลักการเริ่มมาจากต้องการปรับโครงสร้างการเสียภาษีให้ยุติธรรมมากขึ้น  ที่นายกสมาคมนายหน้ายกตัวอย่างมา  เช่น  สมมติซื้อที่ดินมา 2 ล้าน  แต่ขายไป 1.8 ล้าน  ถ้าราคาประเมินอยู่ที่ 1.5 ล้านบาน  พอคำนวนแล้วอาจจะต้องเสียภาษีรวมๆกันประมาณ 2 แสนบาท  เรียกว่าทั้งขายขาดทุุนและเสียภาษีอีกเยอะ  ในขณะที่เคสเปรียบเทียบอย่างการขายที่ดินเขาใหญ่ราคา 40 ล้านแต่เสียภาษีแค่แสนกว่าบาทเท่านั้น  เพราะราคาประเมินที่ดินตรงนั้นต่ำ  ก็เลยมีไอเดียเสนอให้เสียภาษีตามส่วนต่างของกำไรที่ได้มาจากการขายแทน  เรียกว่าถ้าขายขาดทุนหรือเท่าทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี  แต่ถ้าขายได้กำไรก็มาคิดส่วนต่างจากกำไรที่ได้เอา

ไอเดียเบื้องต้นที่เสนอมาก็เป็นแบบนี้….  ทีนี้ประเด็นที่ตามมาอีกก็คือจำทำยังไงให้คนซื้อขายแจ้งราคาที่แท้จริงนี่แหละ  แถมรัฐอาจจะมีรายได้น้อยลงอีกด้วย
.
.
.

ก็น่าติดตามต่อครับว่าไอเดียที่คิดมานี้จะเวิร์คหรือได้รับเสียงตอบรับขนาดไหน
เพราะถ้านับจำนวนยูนิตขายของบ้านและคอนโดที่เข้าสู่ตลาดในปัจจุบันนี้…

อนาคตก็มีสิทธิ์ที่จะกลายเป็น “บ้านและคอนโดมือสอง” กันได้ทุกที่อยู่แล้ว

—————————————————————————
credit  ข่าวจากที่นำมาเรียบเรียง  bangkokbiznews.com วันที่ 19 สิงหาคม 2556   :  อสังหาฯจี้ปรับโครงสร้างภาษีซื้อ-ขายบ้านมือสอง