รีวิวคอนโด The Reserve Kasemsan 3 (เดอะ รีเซิร์ฟ เกษมสันต์3) จาก YuSabuy
· 4 min readอยู่สบายมีรีวิวคอนโด The Reserve Kasemsan3 (เดอะ รีเซริ์ฟ เกษมสันต์ 3) ฉบับเต็มมาให้อ่านกันครับ ในพรีวิวเบื้องต้นตอนที่โครงการยังไม่เปิดข้อมูลผังและแปลนห้องออกมานั้นผมได้พาไปดูสภาพแวดล้อมและทำเลรอบๆไปก่อนแล้ว ในส่วนรีวิวฉบับเต็มนี้ก็จะมาวิเคราะห์ผังโครงการและแปลนห้องตลอดจนเรื่องมุมมองให้เพิ่มเติม น่าเสียดายที่โครงการนี้ไม่มีห้องตัวอย่างมาให้ดู เรียกว่าวัดใจคนซื้อด้วยระดับราคาเฉลี่ยแสนกลางๆค่อนไปทางปลายๆกันเลย ลองดูรีวิวกันดีกว่าครับ
ข้อมูลโครงการเบื้องต้น
The Reserve (เดอะ รีเซิร์ฟ เกษมสันต์3)
- เจ้าของโครงการ >>> Pruksa Real Estate (พฤกษา เรียลเอสเตท)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยเกษมสันต์ 3 ถนนพระราม 1
- ขนาดที่ดิน >>> 3-2-57.1 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 7 ชั้น (+1 ชั้นใต้ดิน)
- จำนวนอาคาร >>> 2 อาคาร
- ประเภทห้อง >>> Studio / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
- ขนาดห้อง >>> Studio 27.88-28.17 ตารางเมตร / 1 ห้องนอน 38.55-44.62 ตารางเมตร / 2 ห้องนอน 57.36-71.27 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 273 ยูนิต
- ราคาเริ่มต้น >>> 4.39 ล้านบาท (ราคายูนิตเริ่มต้น ณ วันเปิดตัวโครงการ 17 กันยายน 2556)
- >> (Update : 8/6/2558 ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยยูนิตเปิดขายเริ่มต้น 152,500-172,500 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.749046,100.527434
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
เริ่มเดินทางกันเลยครับ ผมมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วเลี้ยวเข้าถนนบรรทัดทอง ตรงหัวมุมถนนเลยจะมีปั๊ม ปตท. อยู่ ปั๊มนี้เป็นปั๊มแบบให้เจ้าของรถเติมน้ำมันเองแล้วไปจ่ายตัง ค่าน้ำมันก็จะถูกกว่าปั๊มอื่นๆอยู่นิดนึง แต่ถ้าใครเติมเองไม้เป็นเข้าไปอาจจะงงได้นะครับ ให้เราขับรถตรงมาเรื่อยๆอีกไม่ไกลก็จะเจอสะพานเจริญผลข้ามคลองแสนแสบ พอลงสะพานเสร็จก็จะเจอโลตัสพระราม1 และสี่แยกเจริญผล ให้เราเลี้ยวซ้ายตรงแยกนี้เลยก็จะเข้าถนนพระราม1 พอผ่านหน้าสนามศุภชลาศัยทางขวามือจะเห็นตึกโรงแรมสูงๆทางซ้ายคือโรงแรม Siam @ Siam ที่ตกแต่งแบบอาร์ตๆออกแนวแปลกๆหน่อย ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเกษมสันต์3 ที่ตั้งของคอนโด The Reserve ที่อยู่สบายจะพามารีวิววันนี้ได้เลยครับ ข้อดีอย่างนึงของปากซอยนี้คือมันเป็นทางเข้า Lobby ของโรงแรม Siam @ Siam ด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเราขับรถมาคอนโดพี่ยามของโรงแรมเขาก็จะคอยโบกรถให้ตรงปากซอยตลอด เพราะสุดท้ายแล้วเขาไม่รู้หรอกว่ารถคันไหนมาโรงแรมหรือแค่ขับผ่านเข้าซอย
มาถึงโครงการแล้วก็เริ่มจากขึ้นมุมสูงไปดูแผนที่รอบๆก่อน ตัวโครงการก็อยู่ไม่ไกลจากสยามสแควร์มากครับเดินได้สบายอยู่ แต่พอเข้ามาในซอยจะค่อนข้างแคบ ขับรถสวนกันได้ 2 เลนแบบเบียดๆนิดนึง ถ้ามีรถจอดริมทางก็จะยิ่งลำบากครับ พื้นที่โดยรอบๆนั้นมีสิ่งก่อสร้างอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ในรูปกราฟฟิกผมเลยใช้เป็นตัวเลขแทนนะครับ ถ้าเขียนชื่อไปหมดเดี๋ยวจะดูรูปไม่รู้เรื่อง
ลองไล่จากทางปากซอยเกษมสันต์ 3 มา ด้านหน้าปากซอยซ้ายมือจะมีโรงแรม Siam@Siam (หมายเลข 1) ส่วนทางด้านขวามือเป็นตึกของธนาคารกรุงไทย ฝ่ายพัฒนาพนักงาน(หมายเลข 10) ถัดจากตึกธนาคารกรุงไทยด้านหลังก็จะเป็นที่ว่างแล้วก็โรงงาน Jewelry ครับ(หมายเลข 10) ตรงปากซอยนี้จะมีพวกรถตุ๊กตุ๊กชอบมาจอดรอรับชาวต่างชาติบ่อยทำให้การสัญจรผ่านปากซอยนั้นยิ่งดูแคบไป
หน้าที่ดินของคอนโด The Reserve (เดอะ รีเซิร์ฟ เกษมสันต์3) นั้นไม่ได้อยู่ติดถนนในซอยนี้ครับ จะติดแค่บริเวณทางเข้าซึ่งต้องเดินเข้าไปอีกนิด(เส้นกราฟฟิกสีเหลือง) จะอยู่ด้านหลังของคอนโดอีก 2 โครงการ ตัวทางเข้าจะติดกับเบอร์ 3 เป็นคอนโด 7 ชั้น ชื่อ ปทุมวัน โอเอซิส (Patumwan Oasis) และเบอร์ 2 ก็จะเป็นซอยเล็กๆซึ่งมีอพาร์มเม้นท์ที่ตั้งมาเป็นสิบปีแล้วครับ ผมเห็นมาตั้งแต่สมัยเรียนจุฬา ส่วนด้านหลังของที่ดินอีกฝั่งนึงก็จะติดกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันหรือที่รู้จักกันในนามช่างกลปทุมวันฯ (หมายเลข 5) นั่นเอง
สในซอยเกษมสันต์ 3 นี้เป็นซอยตันครับ รถผ่านไปไม่ได้มีคลองแสนแสบอยู่ ตรงช่วงท้ายซอยมี Condo One ของ Plus Property (หมายเลข 9) และใกล้ๆกันเป็นโครงการที่กำลังสร้างอยู่ชื่อ Happy Three Residence (หมายเลข 8) ตัวนี้ผมไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่ (ใครพอทราบก็ช่วยแชร์ได้นะครับ ^^)
สำหรับบริเวณรอบๆที่ถัดออกมาจากซอยเกษมสันต์ 3 ทางด้านหลังถ้าข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบไปจะเป็นชุมชนบ้านครัวเหนือ เป็นชุมชนมุสลิมเก่าดั้งเดิมในพื้นครับ แต่ก่อนชุมชนนี้ดังมากในเรื่องการทอผ้าไหม หลายๆคนก็บอกว่าชุมชนนี้เป็นส่วนหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จของ “จิม ทอมป์สัน”(หมายเลข 15) ในสมัยก่อนเหมือนกัน ปัจจุบันก็เหลือทอผ้าไหมกันไม่มาก บริเวณชุมชนบ้านครัวเหนือนั้นมีทางเดินเลียบตลอดแนวคลองแสนแสบครับ มีซอยที่สามารถทะลุไปออกซอยพญานาคตรง BTS ราชเทวีข้างๆคอนโด Pyne ของแสนสิริ หรือจะไปออกซอยเพชรบุรี 12 ที่ตรงปากซอยมีคอนโด Maestro12 คอนโดเปิดใหม่ของเมเจอร์ก็ได้ ผมลองเดินทะลุเล่นๆดูก็ใช้เวลาสัก 15-20 นาทีครับ
นอกจากนี้บนถนนพระราม1 ช่วงระหว่างซอยเกษมสันต์ 2 กับ 3 ก็มีตึกสูงอีก 2 ตึกติดๆกัน คือโรงแรม Holiday Inn (หมายเลข 12) กับตึกสยามกลการที่ด้านล่างมีโชว์รูม Nissan (หมายเลข 13) ครับ ช่วงกลางซอยเกษมสันต์ 2 ก็มีคอนโด The Seed Memories Siam ที่ปิดโครงการไปแล้วของพฤกษา (หมายเลข 14) ถ้าไปตรงสี่แยกเจริญผล (ถนนพระราม 1 ตัดกับ ถนนบรรรทัดทอง) ก็จะมีโลตัสพระราม1 อยู่ ถ้าจะซื้อของเข้าคอนโดมาตรงนี้ก็สะดวกดีครับ
เล่ามาซะยาว ลองไปดูภาพถ่ายประกอบกันครับ เริ่มจากภาพในซอยเกษมสันต์ 3 กันก่อน
ลองออกไปดูรอบๆด้านนอกบ้างครับ
หลังจากเห็นภาพสภาพแวดล้อมของโครงการไปแล้วว่าเป็นยังไง ก็มาเปิดผังโครงการดูกันดีกว่าครับ
เปิดผังโครงการ
-
รีวิวดูผังโครงการ
ในตัวโครงการนั้นมีทางเข้าออก 2 ทางครับ ถ้าเดินเข้ามาจากทางปากซอยเกษมสันต์3 เลย จะถึงทางเข้ารองก่อนครับ ระยะทางก็ประมาณ 160 เมตร แต่ตรงทางเข้ารองนี้คนเดินเข้าออกได้อย่างเดียว ขนาดถนนนั้นกว้างไม่พอสำหรับรถวิ่งสวนกัน ก็เลยต้องไปทำทางเข้าหลักที่อยู่ลึกถัดเข้าไปในซอยอีกหน่อย ถ้านับระยะจากตรงปากซอยถึงทางเข้าหลักก็ประมาณ 240 เมตรครับ อยู่ตำแหน่งเกือบจะสุดซอยแล้ว ที่สุดซอยนั้นเป็นคลองแสนแสบครับ
รอบๆโครงการทั้ง 4 ทิศนั้นมีอาคารอยู่ล้อมรอบหมดทั้งหอพัก , อพาร์ทเม้นท์ , คอนโดมิเนียม , อาครารเรียนของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และถ้าดูตรงฝั่งติดคลองแสนแสบผมเขียนว่าบ้านหมอมี ก็อย่าเพิ่งงงครับว่าหมอมีคือใคร หมอมีคือเจ้าของต้นตำรับยานัตถ์หมอมี ที่เด็กๆเราชอบเอามาแข่งพูดกันเร็วๆว่า… “ยานัตถ์หมอมีแก้หิดแก้ฝี ยานัตถ์หมอมีแก้ฝีแก้หิด” นั่นแหละ (มีใครพูดแล้วลิ้นไม่พันกันไหมครับ :P) นอกจากนี้เท่าที่ทราบมาที่ดินของ The Reserve นี่ทางพฤกษาก็ซื้อมาจากหมอมีนี่แหละครับ เป็นที่ดินเดิมของแก แต่บ้านก็ยังอยู่ไม่ได้ย้ายไปไหน
-
รีวิวดูทิศ มองแดด รับลม
การที่ตัวโครงการอยู่ในจุดที่มีตึกอื่นๆล้อมรอบก็เลยได้ตึกเหล่านั้นช่วยบังแดดไปโดยปริยายครับ ทิศทางของแดดไม่ค่อยมีผลอะไรต่อการเลือกห้องของโครงการมากนัก จะมีเฉพาะบางห้องที่ผมวงสีเหลี่ยมสีแดงๆเอาไว้ก็จะเป็นห้องที่โดยแดดกลางวันมากหน่อยครับ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นแดดบ่ายจัดๆที่ร้อนอะไร
ว่าแล้วก็ลองไปดูทางเข้าทั้งสองกันว่าตกแต่งออกมาหน้าตาเป็นยังไง
-
รีวิวดูพื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งาน
มาเปิดพื้นที่ส่วนกลางดูกันก่อนครับ สาธารณูปโภคที่ให้มามีาระว่ายน้ำ , ฟิตเนส แล้วก็ห้องพักผ่อนเล็กๆที่ทำเป็นคอนเซ็ปห้องน้ำชา (Tea Room) ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมดครับ ดูจากรูปแล้วก็หน้าตาธรรมดาไปหน่อยในความคิดผม ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ถ้ามองว่าเป็นคอนโดในราคาเฉลี่ยที่แสนกลางๆถึงแสนปลายๆ
ลิฟต์โดยสารนั้นให้มาหลวมๆครับ มีมา 4 ตัวกับ 273 ยูนิต เฉลี่ยแล้วก็ลิฟต์ 1 ตัวต่อ 69 ยูนิต ใช้งานสบายๆ ส่วนที่จอดรถนั้นจะไปอยู่ที่ชั้นใต้ดินมีประมาณ 55% รวมจอดซ้อนคันแล้ว ทางลงที่จอดรถพอเข้ามาถึงตัวโครงกาแล้วจะต้องวนลงทางปีกของ Building B ครับ (ฝั่งที่ติดกับบ้านหมอมีนั่นแหละ)
-
รีวิวดูรายละเอียดและตำแหน่งมุมมองห้องต่างๆในผังโครงการ
พอมาดูในเรื่องมุมมองต่างๆออกไปยังรอบๆโครงการ เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญพอสมควรสำหรับคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 ครับ เนื่องจากมีอาคารอื่นอยู่รอบๆตัวโครงการเยอะ และตัวคอนโดเองก็เป็นคอนโด low rise ด้วย ทำให้ต้องดูเรื่องมุมมองกันอย่างพิถีพิถันหน่อย ผมทำกราฟฟิกมาเล่าเรื่องให้ง่ายขึ้นเช่นเคยครับ ลองดูทั้งสองรูปด้านล่างประกอบกันไป
สิ่งที่เห็นชัดๆเลยก็คือข้อตำแหน่งของตัวอาคารโดยรอบๆนี่ส่งผลโดยตรงต่อการวางผังและตำแหน่งห้องต่างๆของโครงการโดยตรงครับ สังเกตว่าในฝั่งที่ติดกับเทคโนฯปทุมวัน หรือคอนโดปทุมวันโอเอซิสโครงการเลือกจะทำเป็น Single Corridor ทั้งหมดเลย เพื่อไม่ให้มีห้องใดห้องหนึ่งที่ต้องหันไปชนกันแต็มๆ ส่วนจุดอื่นๆเช่นที่หันไปทางหอพักหรือตึก 7 ชั้น ห้องที่อยู่ตำแหน่งนั้นก็จะเป็นห้องสตูดิโอ(สีเหลืองอ่อนในผัง)เท่านั้นครับ ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอนก็จะวางตำแหน่งให้หลบการหันไปชนกับอาคารข้างเคียงโดยตรง จะยกเว้นก็แต่แบบ 1 ห้องนอนหัวมุมที่อยู่ติดกับคอนโดปทุมวันโอเอซิสครับ ดูๆไปแล้วแอบสงสารห้องสตูดิโอเหมือนกันนะเนี้ย
ลองไปดูที่ดินจริงๆกันอีกทีครับ
-
รีวิวดู Typical Floor Plan
มา crop รูปใ้ห้ดู Floor Plan กันชัดๆครับ จากประเด็นเรื่องที่มีอาคารรอบๆโครงการเยอะ ทำให้วิวของโครงการหลักเลยก็คือตรงคอร์ทตรงกลางครับ ซึ่งห้องที่หันมาในคอร์ทนี้ก็จะมีเฉพาะแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ทั้งหมดครับ
-
รีวิวดูแปลนห้องแต่ละแบบ
แปลนคอนโดเดอะ รีเสริ์ฟ เกษมสันต์3 มีมาให้ดูกันทั้ง 3 แบบครบเลยครับ โดยภาพรวมแล้วก็จัดฟังก์ชั่นมาลงตัวดี ทำมาได้ค่อนข้างดีในทุกๆแบบทั้งสตูดิโอ , 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนครับ แต่จุดนึงที่ผมไม่ชอบเหมือนกันทุกแปลนเลยคือสัดส่วนของความกว้างบานหน้าต่างในแต่ละห้องเมื่อเทียบกับพื้นที่ผนังแล้วค่อนข้างจะเล็กไปนิดนึงครับ แสงธรรมชาติเข้าได้น้อย นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องที่ห้องตรงมุมอาคารนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการที่มีผนังติดด้านนอก 2 ฝั่งมากนัก มีแค่กระจกเข้ามุมนิดหน่อยและก็ช่องหน้าต่างระบายอากาศห้องน้ำเท่านั้น ไปไล่ดูแปลนกันทีละแบบเลยดีกว่าครับ
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ Studio 27.88 และ 28.71 ตร.ม.
แปลนห้องสตูดิโอทั้ง 2 แบบนี้หลักๆการวางฟังก์ชั่นจะเหมือนกันครับ ต่างกันที่ความกว้างของห้อง จุดเด่นคือเป็นสตูดิโอที่มีส่วนเตรียมอาหารและ walk-in closet แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน แถมมีพื้นที่โซฟาเบดให้ด้วย มีการคิดพื้นที่เล็กๆอย่างตู้เก็บรองเท้าตรงประตูทางเข้ามาให้ด้วย รวมๆแล้วเป็นแปลนสตูดิโอที่ดูฟังก์ชั่นดี ครบครับ
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ 1 ห้องนอน 38.55 / 39.15 / 39.40 ตร.ม.
แปลนคอนโด The Reserve 1 ห้องนอน ทั้ง 3 แบบนี้เป็นแบบที่มีมาเยอะที่สุดในโครงการครับ จุดที่ทำให้ขนาดห้องต่างกันเล็กน้อยคือการเสียพื้นที่ไปทำแนวช่องท่องานระบบอาคารที่อยู่ด้านนอกห้องครับ
หลักๆของฟังก์ชั่นเหมือนกันทั้ง 3 แบบครับ แปลนรวมๆแล้วลงตัวดี มีส่วนทำอาหารแยกเป็นสัดส่วน มีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารแยกออกมาได้เป็นสัดส่วนดี ทานข้าวไปด้วยดูทีวีไปด้วยได้ ส่วนที่ไม่ค่อยชอบก็เรื่องหน้าต่างที่ดูแล้วค่อนข้างจะแคบนี่แหละครับ อย่างหน้าต่างตรงห้องนอนนั้นส่วนทึบกับส่วนที่เป็นกระจกสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
แปลนที่อยู่ขวาสุดของรูป(ขนาด 39.40 ตารางเมตร)นั้นจะมีดีเทลแตกต่างกับอีก 2 แบบหน่อยนึง ตรงที่จะเป็นห้องมุมอาคาร ทำให้มีช่องหน้าต่างด้านข้างเพิ่มขึ้นมาครับ
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ 1 ห้องนอน 44.62 ตร.ม.
แปลน 1 ห้องนอนแบบนี้พิเศษขึ้นมาหน่อยตรงมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวเล่นๆด้วย และส่วนรับประทานอาหารสามารถตั้งโต๊ะ 4 คนได้เลยครับ
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ 2 ห้องนอน 5ุ7.36 – 68.29 ตร.ม.
แนวคิดการวางแปลนแบบ 2 ห้องนอนที่ The Reserve เกษมสันต์3 ก็จะคล้ายๆกันคือเอาฟังก์ชั่นพวกห้องน้ำและส่วนเคาท์เตอร์ pantry ไว้ติดด้านใน และวางฟังก์ชั่นห้องนอนกับส่วนพักผ่อนไว้ด้านนอก
ขนาดห้องเล็กสุดของ 2 ห้องนอนคือ 57.36 ตารางเมตรครับ แบบนี้จะมีห้องน้ำห้องเดียว ส่วนแบบ 2 ห้องนอนที่เหลือจะมี 2 ห้องน้ำทั้งหมด
สำหรับแปลนทางขวามือคือขนาด 68.29 ตารางเมตร ตำแหน่งจะอยู่ตรงทางเข้าหลักด้านหน้าโครงการเลย แปลนแบบนี้แอบแปลกอยู่นิดนึงตรงที่ห้องนอนที่ 2 ที่ไม่ใช่ master bedroom นั้นมีกระจกเข้ามุมมาให้ และบานกระจกค่อนข้างใหญ่ แต่ห้อง master bedroom หน้าต่างกลับดูเล็ก ถ้าดูจากระยะสเปซแล้วตรง walk-in closet เวลาใช้งานจริงก็อาจจะมืดๆอยู่เหมือนกันครับแสงน่าจะเข้าไม่ค่อยถึง
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ 2 ห้องนอน 68.54 และ 68.82 ตร.ม.
แปลน 2 ห้องนอนทั้ง 2 แบบนี้การจัดวางฟังก์ชั่นเหมือนกัน ต่างกันที่ทางซ้ายตรงห้องนอน Master Bedroom มีกระจกเข้ามุมให้ ฟังก์ชั่นรวมๆทำมาได้ดีครับ เป็นสัดเป็นส่วน ผมชอบในดีเทลที่คิดพวกจุดชั้นเก็บรองเท้า วางเครื่องซักผ้า วางตู้เย็น มาเป็นช่องๆให้เรียบร้อย ไม่ต้องตั้งลอยตัว ดูแล้วก็เป็นระเบียบดีครับ
แปลนห้องคอนโด The Reserve เกษมสันต์3 แบบ 2 ห้องนอน 71.27 และ 87.21 ตร.ม.
ในบรรดาแปลน 2 ห้องนอนที่ให้มาของ The Reserve ผมค่อนข้างชอบแบบ 71.27 ตารางเมตรรูปทางซ้ายมือนี่มากที่สุดครับ เรื่องการจัดวางฟังก์ชั่นก็ดีพอๆกับแบบอื่นๆ แต่ที่ชอบมากกว่าคือการให้ช่องแสงมาเต็มๆ เปิดบานหน้าต่างได้ตลอดช่วงเสานี่แหละครับ
ส่วนแปลนสุดท้ายทางขวามือคือขนาด 87.21 ตารางเมตร ห้องแบบนี้โครงการเรียกว่าเป็น 2 Bedroom Elegant จะอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าโครงการฝั่ง Building A เท่านั้น โดยตำแหน่งของห้องนั้นติดด้านนอกทั้ง 3 ด้าน ในตัวแปลนห้องนั้นตรงทางเข้ามี Foyer เพิ่มขึ้นมา มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาอีกห้องนึง ห้องน้ำใน Master Bedroom ใส่อ่างล้างหน้าที่เคาท์เตอร์มา 2 อ่างแบบในโรงแรมเกรดดีๆ และในห้องน้ำทั้ง 2 ห้องก็ระบายอากาศจากด้านนอกได้ครับ แล้วก็ห้องแบบนี้จะได้ที่จอดรถประจำ 1 คัน ไม่ต้องไปแย่งกับใคร แต่ว่าจะต้องเสียค่าส่วนกลางเพิ่มตามพื้นที่จอดรถด้วยอีก 12.5 ตารางเมตรครับ เรียกว่า Elegant ทั้งแปลนและราคาเลยทีเดียว
ปกติแล้วหลังจากดูแปลนกันเสร็จ อยู่สบายก็จะพาไปชมห้องตัวอย่างกับวัสดุ แต่ว่า The Reserve นั้นไม่มีห้องตัวอย่างให้ชม เลยต้องข้างส่วนนี้ไปนะครับ ต้องลองไปลุ้นกันเองว่าจะออกมายังไง
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาของคอนโด The Reserve นั้นเริ่มที่ 4.39 ล้าน เป็นห้องสตูดิโอครับ ห้องแพงสุดนั้นราคา 15 ล้าน ซึ่งก็เป็น 2 Bedroom Elegant ชั้นบนๆนั่นเอง ผมลองกดเครื่องคิดเลขดูเล่นๆกรอบราคาเฉลี่ยของโครงการจะอยู่ในช่วง 152,500-172,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งการไม่มีห้องตัวอย่างมาให้ดูนี่วัดใจระดับนึงเลยทีเดียว อย่างน้อยก็ต้องไปลุ้นเอาในเรื่องของวัสดุครับ
โดยกรอบราคาแล้วทางพฤกษาแบ่งราคาตามชั้น โดยชั้น 1-4 ก็ราคานึง ส่วนชั้น 5-7 ก็อีกราคานึงครับ ลองไปดูราคาของโครงการกัน
ราคา ณ วันที่ 17 กันยายน 2556
ราคาเริ่มต้น :
Studio พื้นที่ 27.88 – 28.17 ตร.ม. ราคา 4.39 – 4.75 ล้านบาท
1 bedroom พื้นที่ 38.50 – 44.62 ตร.ม. ราคา 5.89 – 7.70 ล้านบาท
2 bedroom พื้นที่ 57.36 – 71.27 ตร.ม. ราคา 9.70-12.30 ล้านบาท
2 bedroom Elegant พื้นที่ 87.21 ตร.ม. ราคา 14.50 – 15.50 ล้านบาท
เงื่อนไขการจอง :
Studio จอง 100,000 // 1 bedroom จอง 150,000 บาท // 2 bedroom จอง 200,000 บาท
ผ่อนดาวน์ 17 งวด
Studio 15,000 บาท 12 งวด ( Balloon 40,000 บาท 5 งวด )
1 Bedroom 25,000 บาท 12 งวด ( Balloon 60,000 บาท 5 งวด )
2 Bedroom 50,000 บาท 12 งวด ( Balloon 80,000 บาท 5 งวด )
2 Bedroom Elegant 60,000 บาท 12 งวด ( Balloon 120,000 บาท 5 งวด )
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ค่าธรรมเนียมโอน 1% (ผู้ขายออกอีก 1%)
ค่าจดจำนอง
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ :
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
Studio พื้นที่ 27.88 ตร.ม. ราคาขาย 4.39 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 25,929 บาท/เดือน
1 Bedroom พื้นที่ 38.55 ตร.ม. ราคาขาย 5.89 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 34,788 บาท/เดือน
2 Bedroom พื้นที่ 57.36 ตร.ม. ราคาขาย 9.70 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 57,292 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
Studio พื้นที่ 27.88 ตร.ม. ราคาขาย 4.39 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 27,404 บาท/เดือน
1 Bedroom พื้นที่ 38.55 ตร.ม. ราคาขาย 5.89 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 36,767 บาท/เดือน
2 Bedroom พื้นที่ 57.36 ตร.ม. ราคาขาย 9.70 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 60,551 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
Studio พื้นที่ 27.88 ตร.ม. ราคาขาย 4.39 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 29.873 บาท/เดือน
1 Bedroom พื้นที่ 38.55 ตร.ม. ราคาขาย 5.89 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 40,081 บาท/เดือน
2 Bedroom พื้นที่ 57.36 ตร.ม. ราคาขาย 9.70 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 66,008 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
Studio พื้นที่ 27.88 ตร.ม. ราคาขาย 4.39 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 34,376 บาท/เดือน
1 Bedroom พื้นที่ 38.55 ตร.ม. ราคาขาย 5.89 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 46,112 บาท/เดือน
2 Bedroom พื้นที่ 57.36 ตร.ม. ราคาขาย 9.70 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 75,957 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
Studio พื้นที่ 27.88 ตร.ม. ราคาขาย 4.39 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 44,018 บาท/เดือน
1 Bedroom พื้นที่ 38.55 ตร.ม. ราคาขาย 5.89 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 59,058 บาท/เดือน
2 Bedroom พื้นที่ 57.36 ตร.ม. ราคาขาย 9.70 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 97,261 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
การเดินทางก็อยู่ในจุดที่ไปไหนมาไหนไม่ค่อนข้างสะดวกครับ อยู่ใกล้ Hub ใหญ่อย่างสยามนิดเดียวในระยะที่เดินถึงได้ จะขับรถหรือใช้รถไฟฟ้าก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร จุดที่อาจจต้องคำนึงถึงอยู่บ้างคือเรื่องคุณภาพการเข้าถึงตัวโครงการครับ ซอยเกษมสันต์3 นั้นค่อนข้างแคบ รถสวนกันได้แบบพอดีๆ ถ้ามีรถจอดอยู่ริมถนนฝั่งใดฝั่งนึงรถคันก็จะวิ่งสวนกันไม่ได้เลย ต้องทยอยไปกันทีละคัน พูดง่ายๆคือเดินทางสะดวกแต่การเข้าถึงไม่ค่อยดีนัก
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
พื้นที่ในแถบนี้ค่อนข้างจะหนาแน่นและหาที่ดินได้ยากมากครับ ในพื้นที่เดิมก็เป็นพวกอพาร์ทเม้นท์หรือหอพักซะเยอะเนื่องจากอยู่ใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในซอยเกษมสันต์ทั้ง 3 ซอยนี้นิสิตจุฬาก็พักอยู่กันเยอะ ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานคงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใหญ่โตเพราะอยู่ใน Hub ที่ได้เติบโตไปเต็มที่แล้ว ทำเลแบบนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนการลงทุนปล่อยเช่านี่ก็น่าสนใจมาก แต่พอมาปัจจุบันก็อย่าลืมบวกลบคูณหารตัวเลขดีๆนะครับ เพราะนอกจากห้องจะราคาสูงแล้วเดี๋ยวนี้ซัพพลายเริ่มเยอะมากๆ ยิ่งจุฬากำลังมีแผนพัฒนาของตัวเองในอนาคตด้วย ก็ต้องลองชั่งใจดูว่าคุ้มหรือเปล่านะครับ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ตัวโครงการนั้นวางผังโดยพยายามหลบไม่ให้ห้องส่วนใหญ่ต้องหันหน้าไปเจออาคารฝั่งตรงข้ามอย่างที่เล่าไปแล้ว แต่ก็ยังมีห้องบางตำแหน่งที่เลี่ยงมุมไม่ได้ตรงนี้ก็ต้องเลือกกันดีๆครับ เรียกว่าวางมุมมองและวิวของห้องที่เห็นมาตามราคาเลย โดยรูปทรงของอาคารก็อยู่ล้อมคอร์ทตรงกลาง ในแง่ของการออกแบบสเปซส่วนกลางไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากครับ ตรงไปตรงมา ตัวอาคารพยายามใช้เส้นเน้นกรอบหน้าต่างให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง แต่รวมๆของตัวอาคารก็ยังดูเรียบๆไม่ได้มีประเด็นอะไรให้พูดถึงเท่าไหร่ จุดเด่นของดีไซน์ที่น่าพูดถึงคงเป็นพวกอินทีเรียในล็อบบี้มากกว่าตัวอาคาร อินทีเรียดู Vintage น่ารักดี
ในแง่ของแปลนนั้นออกแบบฟังก์ชั่นมาได้ดี แต่ขอติตรงที่ช่องหน้าต่างนั้นแคบไปพอควรครับ ไม่แน่ใจว่าการที่ทำบานหน้าต่างแบบนี้มาจากคอนเซ็ปที่ต้องการเน้นตัวแนวกรอบหน้าต่างเป็นเส้นแนวตั้งหรือว่าแอบประหยัดต้นทุนกันแน่ 😛
ส่วนวัสดุนั้นไม่มีคอมเม้นท์เนื่องจากไม่มีห้องตัวอย่างและไม่มีข้อมูลครับ Facilities ในโครงการให้มาน้อยไปนิดนึงในความคิดผม ผมว่าคอนโดในระดับราคาแสนกลางๆค่อนไปทางปลายๆน่าจะได้มากกว่าสระว่ายน้ำ / ฟิตเนส และ Tea Room คงต้องรอดูของจริงเท่าที่มีว่าจะออกมาเป็นยังไงครับ
ด้านตัวเลื่อกอื่นๆ
ตัวเลือกอื่นๆในตลาดแถวนี้มีค่อนข้างมากครับ ที่สร้างเสร็จไปแล้วก็เยอะ ถ้าเทียบกันตรงๆในช่วงเวลานี้ คอนโด low rise ใกล้ๆกันที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นานก็มี Maestro12 ที่ปากซอยเพชรบุรี12 ของทาง Major Development ครับ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์… ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ ถ้าเซลล์ให้ท่านช่วยกรอกแบบสอบถาม เพียงช่วยระบุเล็กๆว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^)
[twitter-follow screen_name=’yusabuy’ show_count=’no’]
ถ้าอ่านแล้วว่ารีิวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like สักคนละ Like นะครับ ^_____^
มีประโยชน์มากเลยค่ะ ฝากรีวิวทุกๆๆที่ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
รีวิวดีมากครับ มีfloor plan และlayoutห้องให้ดูทุกแบบ เป็นจุดเด่นของyusabuyมากๆ
พูดถึงตัวโครงการ ที่จอดรถ55%รวมซ้อนคันนี่น้อยเข้าขั้นเลยนะครับ ราคาระดับนี้ต้อง70%ขึ้นไปแล้ว และแปลนห้อง39ตร.ม.ลงตัวดีก็จริง แต่เป็นห้องที่ค่อนข้างแคบลึก ระยะจากโซฟาถึงทีวีน่าจะแคบกว่าห้อง40 ตร.ม.ทั่วไปครับ
Layoutห้อง คือแบบแปลนห้องนะครับ เผื่อเพื่อนๆบางคนไม่เข้าใจคํานี้ ^^