อยู่สบายพามาดูรีิวิวฉบับเต็มของโครงการ Park 24 ในซอยสุขุมวิท 24 ครับ เคยถ่ายรูปพรีวิวข้อมูลทำเลของโครงการนี้ไปแล้วอย่างละเอียดเมื่อปลายเดือนก่อน คราวนี้ลองมาดูข้อมูลเชิงลึกในมุมอื่นๆของตัวโครงการที่ยังไม่ได้เล่าถึงกันบ้างครับ
Park24
- เจ้าของโครงการ >>> Origin Property
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 24 ห่างจากปากซอย 600 เมตร
- ขนาดที่ดิน >>> 12 ไร่ (โดยประมาณ) แบ่งเป็นเฟสแรก 5 ไร่ เฟสที่สอง 7 ไร่
ข้อมูลเฉพาะเฟสแรก
- จำนวนชั้น >>> ที่พักอาศัย 29 และ 51 ชั้น
- จำนวนอาคาร (เฟสแรก) >>> อาคารที่พักอาศัย 2 อาคาร (Tower B, C) / อาคารเพื่อการพาณิชย์ 1 อาคาร (Tower A)
- ขนาดที่ดิน >>> 5-0-80 ไร่
- ประเภทห้อง >>> 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
- ขนาดห้อง >>> 1 ห้องนอน 28.08 ตร.ม. / 2 ห้องนอน 57.16 ตร.ม.
- จำนวนยูนิต >>> 532 + 300 = 832 ยูนิตพักอาศัย / 4 ยูนิตเพื่อการพาณิชย์
- ที่จอดรถ >>> 426 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และกันไว้เป็น private parking 30 คัน
- ราคาเริ่มต้น >>>
4 ล้านบาท (ราคายูนิตเริ่มต้น ณ วันเปิดตัวโครงการ)[Update ตุลาคม 2560 : 6.6 ล้านบาท (ห้อง 29.1 ตร.ม.)] - ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>
ราคาเฉลี่ย 150,000 บาท/ตร.ม. (เปิด pre-sale)[Update ตุลาคม 2560 : 260,000 บาท/ตร.ม.] - พิกัด GPS >>> 13.725034,100.567292
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
การเดินทางและทำเลโดยละเอียดของคอนโด Park24 ตามอ่านได้ในพรีวิวฉบับก่อนหน้านี้เลยครับ >> (อ่านข้อมูลทำเลของ Park 24 )
เรามาลงลึกกันที่ตัวโครงการดีกว่า
เปิดผังโครงการ
-
รีวิวดูผังโครงการ
ตัวโครงการ Park24 นั้นจะแบ่งเป็น 2 เฟส รวมแล้วมีทั้งหมด 6 อาคารครับ ในเฟสแรกจะสร้างก่อน 3 อาคาร คืออาคารด้านหน้าซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขาย อีกหน่อยจะดัดแปลงเป็นยูนิตเพื่อการพาณิชย์แล้วแบ่งขายเอาซึ่งจะเป็นอาคาร 2 ชั้น (ไม่ได้มีผังตรงนี้มาให้ดูด้วย)
ส่วนที่เป็นคอนโดในเฟสแรกนั้นจะมี 2 Tower เรียกง่ายๆว่า Tower 2 (51 ชั้น) และ Tower 3 (29 ชั้น) ถ้าดูตามสัดส่วนพื้นที่ในผังโครงการแล้วจะเห็นว่ามีสัดส่วนพื้นที่เปิดโล่งค่อนข้างเยอะครับ ตัวกรอบอาคารนั้นพื้นที่ไม่เยอะมาก ที่จอดรถนั้นจะอยู่ใต้ตึกของส่วน Tower 3 ครับ แต่เวลาขึ้นลิฟต์มา ก็จะขึ้นมารตรงกลางระหว่าง 2 Tower พอดี เพราะฉะนั้นระยะทางเดินจึงไม่ต่างกันมาก
-
รีวิวดูทิศ มองแดด
ลองลากทิศทางแสงแดดให้ดูกันคร่าวๆ ห้องที่อยู่ใน Tower 2 ฝั่งทิศใต้ก็จะโดนแดดบ่ายแยงเข้ามาบ้างครับ ห้องทางทิศตะวันตกในชั้นที่ไม่สูงมากก็จะมีเงาของ Tower 3 มาช่วยบังให้ แต่ห้องฝั่งทิศตะวันตกชั้นสูงๆขึ้นไปของ Tower 2 ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอแดดบ้างครับ ส่วน Tower 3 ฝั่งที่หันหน้าไปทางสุขุมวิท 22 ก็จะได้แดดบ่ายไปครับ
ในเรื่องของมุมมองนั้นต้องอย่าลืมว่าถ้าโครงการเสร็จสมบูรณ์ทั้ง 2 เฟส จะมีทั้งหมด 5 Tower (Tower 2-6) เพราะฉะนั้นยังไงก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการบังมุมมองกันอย่างแน่นอน เรียกว่าถ้าอยากอยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้โดยเฉพาะซอยที่มูลค่าสูงอย่างสุขุมวิท24 ก็ต้องทำใจครับ มองยังไงก็จะต้องเห็นเพื่อนบ้านกันบ้างแน่นอนยกเว้นแต่อยู่ชั้นสูงมากๆไปเลยเท่านั้น ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้ว่าตำแหน่งของอีก 3 Tower ในเฟส 2 วางตัวยังไงบ้าง เลยไม่ได้ทำกราฟิกการมองจากมุมต่างๆของตัวคอนโดมาให้ดูแบบในรีวิวอื่นๆของอยู่สบายนะครับ (Update เมษายน 2558 : เพิ่มตำแหน่งของอาคารต่างๆ ในเฟส 1 รวมกัน เฟส 2 เข้าด้วยกัน ตามรูปด้านล่าง)
ลองไปดูภาพรวมของอาคารและโมเดลกัน
ตัวโมเดลครับ
-
รีวิวดูพื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งาน
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนั้นจะกระจายใส่ไว้ในทั้ง 2 Tower เลยครับ ทำให้ไม่ต้องเดินข้ามไปข้ามมาเพื่อใช้งาน Facilities ส่วนกลางระหว่างตึก ที่ Tower 2 นั้น ฟิตเนส, ห้องสมุด, ห้องโยคะ จะอยู่ที่ชั้น 49 และสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 50 ส่วน Tower 3 ฟิตเนส, ห้องสมุด, ห้องโยคะ จะอยู่ีที่ชั้น 2 ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 28 ครับ ขนาดของ Facilities ทั้งสองอาคารนั้นพอๆ กัน แต่ด้วยความที่ Tower 2 มียูนิตมากกว่าพอสมควรทำให้ความหนาแน่นในการใช้งานมากกว่าตามไปด้วยครับ Tower 3 จะใช้งานสบายๆหลวมๆกว่า ผมชอบตรงสระว่ายน้ำที่ยาว 40 เมตรครับ ว่ายกันสะใจแน่นอน
เรื่องของลิฟต์นั้น Tower 2 มีลิฟต์โดยสารมาให้ 4 ตัว กับจำนวน 533 ยูนิต คิดเฉลี่ยออกมาแล้วจะได้ 134 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งก็คงต้องใช้ High-Speed Lift ครับ ไม่งั้นรอลิฟต์ 51 ชั้นนี่ยืนกันเบื่อแน่นอน ส่วน Tower 3 มีลิฟต์โดยสารมาให้ 3 ตัวกับจำนวน 300 ยูนิตเฉลี่ยออกมาตัวเลขสวยงามกว่าที่ 100 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว หลวมๆกว่าเยอะครับ ทั้ง 2 Tower ก็มีลิฟต์บริการแยกมาให้ด้วย
ที่จอดรถส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ดินที่ Tower 3 ครับ มีมาให้ทั้งหมด 426 คัน โดยกันเอาไว้เป็น Private Parking 30 คัน ลองคิดเล่นๆโดยหักตัวเลขที่เป็น Private Parking 30 คันออกไป และหักจำนวนยูนิตออกไปด้วย 30 ยูนิต จะได้สัดส่วนพื้นที่จอดรถประมาณ 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน เทียบกับราคาแล้วก็ดูน้อยไปสักนิดนึงครับ
(Update ตุลาคม 2560 : ตึกที่สร้างเสร็จ Yoga Studio ในแปลนปรับใช้เป็นห้องชกมวยออกกำลังกาย ส่วน Outdoor Living ปรับเป็นห้องสำหรับโยคะ, บัลเล่ต์)
(Update ตุลาคม 2560 : ตึกที่สร้างเสร็จ Yoga Studio ปรับใช้เป็นห้องเด็กเล่น (Kid Room) ส่วน Library & Living Room ปรับเป็นห้องสำหรับโยคะ, บัลเล่ต์ และเพิ่มพื้นที่โต๊ะปิงปองเข้าไปแทน Storage และ M&E Room)
ดูรูปบรรยากาศกันคร่าวๆครับ พื้นที่สวนในโครงการถ้าจัดเต็มมาได้แบบในรูปนี่จะดีมาก ไหนๆก็ตั้งชื่อโครงการว่า “Park” แล้ว ถ้าทำสวนมาไม่เต็มเดี๋ยวเสียชื่อหมด อันนี้ก็ต้องมาลองลุ้นดูของจริงกันอย่างเดียว
- รีวิวดูพื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งาน
รูปทรงอาคารของ Tower 2 จะเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ส่วน Tower 3 จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ ใน Tower 2 นั้นห้องที่อยู่มุมอาคารเลยได้ระเบียงเป็นรูปสามเหลี่ยมไป
ใน Tower 2 นั้น Typical Floor Plan จะอยู่ที่ชั้น 4-40 ครับ ส่วนชั้น 43-48 จะมีห้อง Duplex ที่มี 3 ห้องนอนอยู่ชั้นละ 3 ห้อง
ห้องขนาดเล็กสุดในตึกเป็นแบบ 1 ห้องนอน 27.77 ตารางเมตร ในแต่ละชั้นนั้นจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย private มีแค่ชั้นละ 12 ยูนิตเท่านั้นครับ
Tower 3 ชั้น 3-27 ก็จะเป็น Typical Floor Plan เหมือนกันหมดครับ ห้องขนาดเล็กสุดของตึก 3 นี้ขนาด 28.58 ครับ
-
รีวิวดูแปลนห้องแต่ละแบบ
แปลนห้องคอนโด Park24 (พาร์ค24)
แบบ 1 ห้องนอน 28.08 ตารางเมตร
แปลนไซส์นี้เป็นขนาดมาตราฐานของ 1 ห้องนอนที่โครงการทำมาให้ครับ ถ้าลองดูใน Floor Plan ขนาดของห้องแต่ละห้องจะต่างกันบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นนัยยะสำคัญอะไร ห้องนั้นหน้ากว้าง 4.10 เมตร วางแปลนโดยบีบห้องน้ำออกเป็นแนวยาวและแยกส่วนโถสุขภัณฑ์กับส่วนอาบน้ำออกจากกัน
ลักษณะของการจัดฟังก์ชั่นของแบบนี้จะเป็นกึ่งๆสตูดิโอที่เอามากั้นเป็น 1 ห้องนอน จุดที่ดูจะใช้งานลำบากอยู่หน่อยก็เป็นตรงที่เวลาเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วต้องออกมาล้างมืออีกห้องนึงครับ(ลักษณะห้องน้ำของ Park24 จะเป็นแบบนี้เกือบทั้งหมด) แต่ก็จะดีในแง่ที่คนนึงนั่งปลดปล่อยอารมณ์กับอีกคนนึงอาบน้ำไปพร้อมๆกันได้ เรียกว่าได้อย่างเสียอย่างครับ นอกจากนี้ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าที่อยู่ออกมานอกห้องนอนดูแ้ล้วก็อาจจะไม่คล่องตัวเท่าไหร่นัก
แปลนห้องคอนโด Park24 (พาร์ค24)
แบบ 2 ห้องนอน 57.16 ตารางเมตร
มาถึงแปลนแบบ 2 ห้องนอนขนาดมาตราฐานกันบ้าง ลักษณะของฟังก์ชั่นจะเป็นการรวมห้องแบบ 1 ห้องนอนเข้าด้วยกัน และเจาะผนังเชื่อมถึงกัน จุดที่น่าสนใจตรงนี้คือโครงการจะออกโฉนดแยกให้เป็น 2 ใบ เกิดในอนาคตอยากแบ่งขายห้องครึ่งนึงก็ทำได้สบาย เพราะทั้งสองฝั่งก็มีห้องน้ำแยกในตัวเองอยู่แล้ว
ห้องแบบนี้โครงการเอามาจัดเป็นห้องตัวอย่างด้วยเช่นกันครับ แต่จะแปลงห้องนอนห้องนึงเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นพักผ่อนแทน จุดที่ผมรู้สึกว่าใช้งานยากอยู่สักนิดคงจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าที่ต้องเดินออกจากห้องนอนมาใช้งานครับ อาจจะไม่คล่องตัวเท่าไหร่
แปลนห้องคอนโด Park24 (พาร์ค24)
แบบ 1 ห้องนอน 37.98 ตารางเมตร
แปลนแบบ 1 ห้องนอนขนาก 37.98 ตารางเมตรที่เอามาให้ดูนี้จะอยู่ตรงหัวมุมอาคารของ Tower 3 ครับ ห้องน้ำจะไม่อยู่ด้านข้างของห้องแต่จะมาอยู่ด้านในแทน ทำให้ให้พื้นที่ความหว้างหน้าห้องมาเต็มทีเดียว ถ้ารวมทั้งห้องนอนและห้องพักผ่อนเข้าไปด้วยจะได้หน้ากว้าง 6 เมตรครับ ฟังก์ชั่นรวมๆแบบนี้นั้นลงตัวทีเดียว
แปลนห้องคอนโด Park24 (พาร์ค24)
แบบ 2 ห้องนอน 51.57 ตารางเมตร
แปลนแบบ 2 ห้องนอนขนาก 51.57 ตารางเมตรแบบนี้จะอยู่ตรงมุมของ Tower 2 ครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าห้องมุมตรงนี้จะได้ระเบียงออกมาเป็นรูปสามเหลี่ยม ห้องน้ำที่ได้มานั้นจะเข้าได้จากห้องนอนทั้ง 2 ห้องครับ พื้นที่ส่วนพักผ่อนกับส่วนรับประทานอาหารที่ต่อเนื่องกันนั้นก็ดูได้มาเต็มๆดีทีเดียว
แปลนห้องคอนโด Park24 (พาร์ค24)
แบบ Duplex 3 ห้องนอน 103.64 ตารางเมตร
มาดูแปลนแบบสุดท้ายซึ่งทำเป็น Duplex กันครับ แปลนนี้จะเป็นการรวมห้องแบบ 1 ห้องนอน เข้าด้วยกัน 4 ห้องและทำบันไดเชื่อมให้ ตำแหน่งของห้องจะอยู่ที่ชั้น 43-48 ของ Tower 2 ครับ พื้นที่นั้นจัดลงตัวมาก ได้มา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำในขนาดร้อยกว่าตารางเมตร เหมือนกับอยู่ทาวน์เฮ้าส์หลักเล็กๆกลางใจเมืองในมุมสูงครับ ซึ่งแน่นอนว่าห้องแบบนี้สำหรับคนกระเป๋าหนักเท่านั้น
เปิดห้องตัวอย่าง ดูสเปซ
-
Focus on Space and Dimensions
ห้องตัวอย่างนั้นทำมาให้ดู 2 แบบครับ แต่ห้องที่ได้จริงๆจะเป็นห้องเปล่า ซึ่งผมถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ความสูงของฝ้าเพดานนั้นสูง 2.7 เมตร ดูรวมๆแล้วโปร่งดีเพราะกระจกห้องนั้นให้บานใหญ่มาเต็มบานเลย
ห้องตัวอย่างคอนโด Park24
แบบ 1 ห้องนอน 28.08 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่างคอนโด Park24
แบบ 2 ห้องนอน 57.16 ตารางเมตร
ไปดูห้องจริงที่จะได้กันครับ
เปิดห้องตัวอย่าง ชมรีวิววัสดุ
-
Focus on Material
ภาพรวมของวัสดุนั้นถือว่าให้มาดีทีเดียวครับ ผมชอบวัสดุในห้องน้ำและพื้นลามิเนตที่ผิวสัมผัสนั้นดีมากๆ ผิวไม้ลามิเนตนั้นหน้ากว้่าง 20 ซม. และยาว 2.4 เมตร เห็นตาไม้และลายไม้พองาม ดูรวมๆแล้วเหมือนไม้จริงครับ
ขอแยกรีวิววัสดุเป็น 3 ส่วนเพื่อให้ดูง่ายเช่นเคย แบ่งเป็นส่วน Pantry ครัว, ห้องน้ำ และวัสดุทั่วไปกับวัสดุปิดผิวครับ
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาเฉลี่ยของโครงการนั้นอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท/ตารางเมตรครับ เดี๋ยวันที่ 17 พ.ย. 2556 มีงานเปิดตัวกับบุคคลทั่วไปที่พารากอน ผมจะแวะไปแล้วเอาราคาล่าสุดมาให้ครับ รีวิวตรงนี้เลยขอเว้นไว้ก่อนแล้วจะมาเพิ่มเติมให้ครับ
[Update ตุลาคม 2560 : ราคาเฉลี่ยปัจจุบันก็ขยับขึ้นไปจากเมื่อตอนเปิดโครงการใหม่ๆ อย่างมากมายครับ อยู่ที่ 260,000 บาท/ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอนเริ่มต้นประมาณ 6.6 ล้านบาท ส่วนแบบ 1 ห้องนอน เริ่มต้นประมาณ 12.7 ล้านบาท]
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ระหว่างถนนหลักสำคัญ 3 สาย คือสุขุมวิท, พระราม4 และรัชดาภิเษกครับ ในทำเลใจกลางเมืองแบบนี้จะไปไหนก็ได้ครับ มีปัญหาโลกแตกเดียวที่ต้องเผชิญและทำใจก็คือรถติดนี่แหละ ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าจากหน้าโครงการไปถึง BTS ก็ประมาณ 600 เมตรครับ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของคนเดินแล้วแหละ ถ้าขี้เกียจเดินก็เรียกใช้บริการพี่วินไป 20 บาท
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ตรงบริเวณ BTS พร้อมพงษ์ในปีหน้าตรงข้ามเอ็มโพเรียมกำลังจะมีเอ็มโพเรียม2 หรือที่ชื่อว่า Emquartier(เอ็มควอเทียร์) ครับ และพอเสร็จแล้วตรงพื้นที่ติดกับสวนเบญจสิริก็จะมี Emporium3 ขึ้นมาอีก เรียกว่าเครือเดอะมอลล์กะจะปั้นพื้นที่ตรงนี้ให้กลายเป็น Hub ช็อปปิ้งแข่งกับเครือเซ้นทรัลตรงราชประสงค์และเพลินจิตทีเดียว
ในซอยสุขุมวิท24 นี้มีอสังหาริมทรัพย์แทบจะครบทุกแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นรีเทล, โรงแรม, เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ รวมถึงคอนโดมิเนียมในตลาดบนๆ จัดเป็น Hub ใหญ่แห่งนึงที่มีมูลค่ามากทีเดียวแหละ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
การวางผังของโครงการนั้นเหลือพื้นที่ว่างที่ไม่มีตัวอาคารอยู่ค่อนข้างเยอะครับ ถ้าลองเทียบสัดส่วนของกรอบอาคารกับพื้นที่ดินแล้วจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือทำสวนตามคอนเซ็ปของโครงการเยอะทีเดียว ที่เหลือก็ต้องลุ้นให้โครงการสวนออกมาแบบจัดเต็มนะครับจะได้สมชื่อ “Park” กันหน่อย
ในเรื่องของการออกแบบตัวอาคารจุดนึงที่น่าจะต้องพูดถึงเกี่ยวกับการดีไซน์ก็คือเรื่ององค์ประกอบของที่เป็นแผงฟินทั้งแนวตั้งและแนวนอนบนตัวอาคารครับ หน้าตัดของตัวแผงฟินนี้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำให้เวลาเรามองแนวตรงๆ(คือมองหน้าตัดด้านกว้างของสี่เหลี่ยมผืนผ้า)เราก็จะเห็นระนาบของแผงฟินนั้นบางลง แต่ถ้าเราบิดมุมมองไปมองด้านข้าง(ซึ่งเราจะเห็นในส่วนด้านยาวของหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้วย)ก็จะเห็นระนาบที่ใหญ่ขึ้น ก็เป็นดีไซน์ที่มาเล่นกับมุมมองในจุดต่างๆของอาคารครับ แต่ข้อจำกัดข้อหนึ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาแน่นอนคือเรื่องมุมมองครับ ยังไงมุมมองจากในห้องก็จะถูกจำกัดมากกว่าห้องโล่งๆแบบปกติแน่นอน ตรงนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูหล่ะครับว่าแต่ละคนโอเคกับดีไซน์แบบนี้หรือไม่
ในแต่ละชั้นของอาคารมีจำนวนยูนิตน้อยแค่ 12 ยูนิต แปลนห้องนั้นดูจะจัดวางฟังก์ชั่นออกมาได้แปลกตากว่าคอนโดอื่นๆทั่วๆไป ซึ่งก็มีทั้งจุดดีและจุดด้อยอย่างที่เล่าไปแล้วครับ จุดที่ผมติดใจว่าใช้งานลำบากไปหน่อยก็คือเวลาเข้าห้องน้ำแล้วต้องออกมาล้างมืออีกห้องนึงนี่แหละ นอกนั้นรวมๆก็มีไอเดียใหม่ๆอยู่พอควร
พื้นที่ส่วนกลางที่มีมาให้แยกแต่ละอาคารเลยนั้นช่วยกระจายความหนาแน่นได้ครับ Tower 3 นั้นอัตราส่วนการใช้พื้นที่ส่วนกลางหลวมกว่า Tower 2 พอสมควร สระว่ายน้ำยาว 40 เมตรนี่ถูกใจคนชอบว่ายน้ำแบบจริงจังแน่นอน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆอย่างฟิตเนส, ห้องสมุด หรือห้องโยคะนั้นยังไม่ได้เห็นภาพจริงเท่าไหร่ครับ นอกนั้นจำนวนที่จอดรถก็น้อยไปนิดนึง
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์… ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ ถ้าเซลล์ให้ท่านช่วยกรอกแบบสอบถาม เพียงช่วยระบุเล็กๆว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^)
[twitter-follow screen_name=’yusabuy’ show_count=’no’]
ถ้าอ่านแล้วว่ารีิวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like สักคนละ Like นะครับ ^_____^.
น่าจะใกล้ๆกับที่ lpn เปิดตัวตอนนี้
จะขึ้นเท่าไหร่
ไม่ก็รอเฟสสอง แต่ราคาขึ้นแน่
แบบนั้นหมดแล้วครับ
ลองเข้าไปชม Sale gallery ที่โครงการซ.สุขุมวิท 24 หรือ http://www.park24.co.th ก่อนก้อได้น่ะครับ
ผมสนใจ 2 bedroom แบบ combine