สวัสดีค่า …  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว บริเวณลาดพร้าว 24 และ ลาดพร้าว 26 ค่ะ อยู่ห่างจากMRT สถานีลาดพร้าว ประมาณ 150 เมตรค่ะ โดยโครงการนี้เปิดขาย pre-sale ไปแล้วในชั้นคู่ จากนั้นก็มาเปิดขายในชั้นคี่ที่สำนักงานขายที่โครงการค่ะ วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดอีกเช่นเคยนะคะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อนค่ะ

Chapter One Midtown Ladprao 24

(แชปเตอร์วัน มิดทาวน์ ลาดพร้าว 24)

• เจ้าของโครงการ >>> พฤกษา เรียลเอสเตท (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนลาดพร้าว ซอย24 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว
• ขนาดที่ดิน >>> 2-3-31.9 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัยสูง 37 ชั้น  และ อาคารจอดรถสูง 7 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้อง >>> สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 23.71-24.15 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน 29.61-38.66 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 58.64 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  514  ยูนิต (ไม่รวมร้านค้า 3 ยูนิต)
• ที่จอดรถ >>> 45% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.49 ล้านบาท (ห้อง 23.71 ตารางเมตร ณ วันที่ 22/1/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  110,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.806386, 100.572700

อ่านรีวิวพื้นที่ส่วนกลาง
อ่านรีวิวแปลน
อ่านรีวิววัสดุ
อ่านรีวิวห้องตัวอย่าง
อ่านรีวิวราคาขาย
อ่านสรุปคะแนนโครงกรตามความเห็นจาก yusabuy

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนรัชดาภิเษกค่ะ มาจากทางแยกรัชโยธินค่ะ เพื่อเข้าสู่ถนนลาดพร้าวค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างลาดพร้าว 24 และลาดพร้าว 26 ค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดกับถนนลาดพร้าวช่วงระหว่างลาดพร้าว 24 กับลาดพร้าว 26 ใกล้ๆกับแยกรัชดา-ลาดพร้าวค่ะ ถ้ามาจากฝั่งพหลโยธินจะต้องมากลับรถตรงแยกนี้ค่ะ ซึ่งถ้ามาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็ถือว่าค่อนข้างใกล้เลยค่ะ เพราะตัวโครงการนั้นตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวสถานีเลย สามารถออกได้ทั้งทางออก1 (ซอยลาดพร้าว26) กับทางออก2 (ซอยลาดพร้าว24) ซึ่งระยะทางที่เดินก็พอๆกันประมาณ 150 เมตรค่ะ

บริเวณข้างเคียงหน้าทางเข้าโครงการโดยรอบจะเป็นตึกแถวเก่าสูง 4 ชั้นอยู่ติดกับถนนเป็นหลักค่ะ ส่วนใหญ่ด้านล่างก็จะเป็นร้านค้าต่างๆ ถ้าเดินไปทางฝั่งลาดพร้าว 26 หรือด้านที่ไปยังแยกรัชดา-ลาดพร้าว บริเวณทางออกรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางออก1 ก็กำลังจะมีสวนลุมไนท์บาซ่า (หมายเลข1) ที่กำลังสร้างมานานพอควรแล้วแต่ยังไม่เสร็จสักทีค่ะ  ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารจอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดิน (หมายเลข2 )  จอดที่นี่เสียตังค์นะคะไม่เหมือนที่รถไฟฟ้าหมอชิต ส่วนถัดไปฝั่งตรงข้ามโครงการเลยจะเจอโครงการ Ideo ลาดพร้าว 17 (หมายเลข3 ) เป็นคอนโดของอนันดา สูง 8 ชั้น มี 2 อาคารค่ะ ถัดไปเลยทางออกรถไฟฟ้าฝั่งตรงข้ามโครงการก็จะมีปั้มน้ำมันซัสโก้ (หมายเลข4 ) บริเวณนี้จะใกล้กับปากซอยลาดพร้าว 15 ซึ่งมีที่กลับรถอยู่ค่ะ ถ้าวิ่งมาจากตัวโครงการแล้วต้องการจะเข้าถนนรัชดาภิเษกภิเษกก็กลับรถบริเวณนี้

กลับมาที่ฝั่งเดียวกับตัวโครงการ อย่างที่บอกไปแถวๆบริเวณโดยรอบโครงการจะเป็นตึกแถวเก่าสูง 4 ชั้นเป็นหลัก แต่ถ้าเดินออกมาเรื่อยๆจะเจอโครงการคอนโดมิเนียมอยู่บ้าง อย่าง Life @ลาดพร้าว18 (หมายเลข5 ) และ The Issara ลาดพร้าว (หมายเลข6 )  ในโซนนี้คอนโดที่เป็นตึกสูงจะอยู่ริมถนนหมด  ส่วนถ้าเข้าไปในตรอกซอกซอยก็จะเป็นคอนโดตึกเตี้ยค่ะ  ส่วนห้างใกล้สุดคงจะเป็น Big C Extra ลาดพร้าว (หมายเลข7 ) ฝั่งตรงข้ามกับคอนโด The Issara ถ้าเดินมาจากตัวโครงการอยู่ในระยะพอเดินได้แบบเหนื่อยๆนิดหน่อย  ส่วนศูนย์การค้าที่ถัดออกไปอีกก็เป็น ยูเนี่ยน มอลล์ (หมายเลข8 ) และ เซ็นทรัล ลาดพร้าว (หมายเลข9 ) บนถนนพหนโยธิน  ซึ่งก็จัดเป็น Hub ใหญ่ของโซนนี้ค่ะ  ส่วนด้านฝั่งถนนรัชดาภิเษก ถ้าฝั่งทางที่จะไปรัชโยธิน ส่วนใหญ่ก็มีศาลเป็นหลัก ทั้งศาลอาญา ศาลอุธรณ์ ก็อยู่ตรงนี้หมด

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ

ฟุตบาทช่วงทางเดินหน้าโครงการค่ะ

ปากซอยลาดพร้าว 26 ค่ะ ด้านหน้ามีเซเว่น

บรรยากาศทางเดินไปรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ (ฝั่งลาดพร้าว26)

รถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ฝั่งทางออก1 ค่ะ

ติดกับทางออก MRT ลาดพร้าว ประตู 1 ทาง Magnolia กำลังซุ่มทำสำนักงานขายของคอนโดใหม่ ชื่อ Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

ถัดไปจากรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์ (ยังไม่เปิดนะคะ)

แยกรัชดา-ลาดพร้าว

อาคารจอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ

IDEO ลาดพร้าว 17  ปิดโครงการไปนานแล้ว

โชคดีติ่มซำ อยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ (ฝั่งเดินมาลาดพร้าว24)  มีที่ให้ฝากท้องดึกๆเวลาหิว

ติดกับเป็นซ้งฮื้อหม้อไฟ  ร้านนี้เคยลองมาแล้ว  อร่อยและราคาสมเหตุสมผล  แนะนำค่ะ

ปากซอยลาดพร้าว24

ทางออก 2 ลาดพร้าว 24 ค่ะ

ปั๊มน้้ำมันซัสโก้

Life @ ลาดพร้าว 18  ปิดโครงการไปนานแล้วเช่นกัน

ร้านกาแฟ Espresso Gallery  อยู่เยื้องๆกับ Big C Extra ค่ะ

Big C Extra ลาดพร้าว (ซอย7)

บรรยากาศบนถนนลาดพร้าวค่ะ  เช้าๆ เย็นๆ รถค่อนข้างจะติด

ห้างยูเนี่ยน มอลล์

เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ ^^

เริ่มจากป้ายโครงการติดกำแพงด้านหน้าโครงการค่ะ  วินเทจไหมค่ะ

สำนักงานขายเน้นโทนสีดำและอิฐ

ด้านข้างติดกับตึกแถวด้านหน้า ทาสีดำตกแต่งเอาไว้

ทางเข้าสำนักงานขาย  สวยดีนะคะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ

สำนักงานขายมีทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน

ชั้นบนเป็นห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการนั้นอยู่ติดกับถนนลาดพร้าว ลักษณะด้านหน้าติดถนนใหญ่จะแคบและยาวเข้าไปด้านใน อยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 24 และ ลาดพร้าว 26 ไม่ไกลจากแยกรัชดา-ลาดพร้าวค่ะ ตรงทางเข้าโครงการนั้นอยู่ห่างทางออก 1 และ 2 ของรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวประมาณด้านละ 150 เมตร เรียกได้ว่าอยู่ตรงเกือบกึ่งกลางของทางออกทั้งสองด้านเลยค่ะ ทำให้การเดินมาสะดวกทีเดียว ทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัว (ถึงแม้จะรถติดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้) หรือมาด้วย MRT ก็อยู่ในระยะเดินสบาย ด้านหน้าโครงการส่วนใหญ่จะติดกับตึกแถวเก่าค่ะ สูง 4 ชั้น จริงๆแล้วตัวอาคารที่อยู่อาศัยจะอยู่ถัดออกมาจากถนนประมาณ 20 เมตร ฝั่งตะวันตกมีอาคารสูง 8 ชั้นติดอยู่ แต่จะไม่ได้อยู่พอดีกับตัวอาคารที่พักอาศัยค่ะ รอบๆหลักๆด้านในส่วนใหญ่จะติดกับบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2-3 ชั้นเป็นหลัก ส่วนที่ดินด้านในสุด จะทำเป็นอาคารจอดรถค่ะ ข้างๆจะติดกับอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น

ในคอนโดนั้นแบ่งเป็นอาคารออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคารพักอาศัยและอาคารจอดรถ ตัวอาคารพักอาศัยจะอยู่ด้านหน้า เว้นจากถนนลาดพร้าวมาประมาณ 20 เมตร ส่วนอาคารจอดรถสูง 7 ชั้นอยู่เข้าไปด้านในค่ะ ตรงกลางเป็น Drop-off  การแยกเอาที่จอดรถไปไว้ด้านหลังทำให้มีพื้นที่ทำล็อบบี้ด้านหน้าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นและก็ทำเป็นสเปซสูงได้  ทำให้ตัวล็อบบี้นั้นดูอลังการมากขึ้นค่ะ  แต่ทั้งนี้ก็แลกมาด้วยปัญหานิดหน่อยตอนหน้าฝน  เพราะถ้าฝนตกแล้วไปจอดรถที่อาคารด้านหลังแล้วเดินเข้าอาคารอาจจะลำบากหน่อย เนื่องจากไม่มีได้ทำหลังคาคลุมเชื่อมระหว่าง 2 ตึกค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

สำหรับในเรื่องทิศทางแดดและการวางตัวอาคารนั้น  ตัวคอนโดวางตามรูปที่ดินที่แคบและยาว ตัวอาคารขนานกับแนวทิศตะวันออกและตะวันตก วิวสองด้านนี้จะไม่ค่อยต่างกันมากนัก ด้านที่เป็นฝั่งตะวันออกจะเป็น 1 ห้องนอนค่ะ ส่วนห้องสตูดิโอจะอยู่ฝั่งตะวันตก แน่นอนว่าจะร้อนกว่าอีกฝั่ง คือจ่ายแพงกว่าห้องใหญ่กว่าก็ได้ทิศที่ร่มกว่าไปนั่นเอง  ส่วนที่หันออกถนนลาดพร้าวเป็นทิศเหนือค่ะ  ด้านหลังหันเข้าอาคารจอดรถเป็นด้านทิศใต้ค่ะ ก็จะโล่งๆไม่ได้มีตึกสูงอะไรมาบังมากนัก

พาเข้าไปเดินดูที่ดินจริง

เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าโครงการเลยค่ะ ฝั่งที่ติดกับตึกแถวก็มีการทาสีดำที่ตึกแถวด้านข้างไปด้วยให้ดูกลมกลืนเรียบร้อย

มุมกว้างๆของที่ดิน ถ้าจากบริเวณชั้น 2 ของสำนักงานขายค่ะ ตึกส่วนใหญ่รอบๆสูงสุดก็จะอยู่ที่ไม่เกิน 8 ชั้น  ซึ่งคงมีผลเรื่องวิวของห้องชั้นล่างๆอยู่บ้าง  ถ้าหลุดจากชั้น 8 ขึ้นไปแถวนี้ก็ยังค่อนข้างโล่งค่ะ  ถ้าเทียบวิวชั้นล่างๆทางทิศตะวันตกจะโล่งกว่าตะวันออกค่ะ  เพราะส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2 ชั้น

ที่ดินภายในโครงการตอนนี้รองรับไว้เป็นที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่มาชมห้องตัวอย่าง

มองกลับออกไปทางถนนลาดพร้าว  จะเห็นสำนักงานขายค่ะ อยู่ติดกับอาคารสูง 8 ชั้นเลย แต่อาคารที่พักอาศัยจริงๆจะไม่ได้อยู่ตรงตำแหน่งของสำนักงานขายนะคะ จะเขยิบเข้ามาอีก

ฝั่งทิศตะวันออกค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นตึกแถว 4 ชั้นและพวกอพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้น

ฝั่งทิศตะวันตกจะค่องข้างโล่งกว่า (และร้อนกว่า)

บริเวณที่จะทำเป็นอาคารจอดรถค่ะ  ตึกข้างเคียงตตรงนี้ถึงบังวิวก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะไม่ใช่ส่วนพักอาศัย

ด้านหลังของที่ดินค่ะ  เป็นบ้านเดิมที่ถูกซื้อที่มาทำคอนโดนี่แหละ  ตอนนี้กำลังรื้อทิ้งอยู่ค่ะ

ถ่ายจากตรงด้านหลังที่จะทำเป็นที่จอดรถค่ะ เห็น ideo อยู่ไกลๆ  ระยะนั้นไม่มีผลกับเรื่องวิวเท่าไหร่  ไม่อึดอัดค่ะ

 

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอกับการใช้งาน

ย้อนกลับไปด้านบน

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities ส่วนใหญ่จะมีอยู่ที่ชั้น 36 และ 37 ของตัวอาคารพักอาศัยค่ะ และชั้น 7 ของอาคารที่จอดรถ เป็นชั้นบนสุดของตัวอาคารทั้งสองอาคารค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาในชั้น 36 จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ติดกันเป็นพื้นที่ Sky  lounge ติดกันเป็นห้อง Steam ส่วนตัวห้องฟิตเนสจะอยู่ที่ชั้น 37ค่ะ ชั้นล่างจะมีร้านค้า 3 ร้านค่ะ เพดานชั้น1จะค่อนข้างสูง รวมไปถึงตัว lobby ด้วย กินพื้นที่ไป 3 ชั้น เป็น Triple Volumn ทำให้ตัวห้องพักจริงๆจะเริ่มที่ชั้น 4 ค่ะ ส่วนที่จอดรถนั้น แยกออกไป 1 อาคาร อยู่ด้านหลัง สูง 7 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทำเป็นสนามเทนนิสกับห้องอเนกประสงค์ค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 514 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 171 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาค่อนข้างแน่นอยู่ค่ะ  ที่จอดรถ 45% นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว  เมื่อเทียบด้วยระดับราคาอาจจะดูน้อยไปหน่อยแต่ทำเลที่อยู่ติดรถไฟฟ้าแบบนี้ก็พอจะชดเชยกันได้บ้าง

เริ่มจาภาพบรรยากาศจำลองในส่วนของ Lobby ชั้นล่างค่ะ

Lobby อีกมุมนึง ตัวเพดานค่องข้างสูง ประมาณ 3 ชั้นได้

Sky Lounge ในชั้น 36 ค่ะ อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำชั้น 36 ส่วนชั้นบนสุด (ชั้น37) จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนส  สระว่ายน้ำใช้กระเบื้องสีดำ  แปลกตาไปอีกแบบ

ชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ มีสนามเทนนิส  เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ค่อยเห็นกันบ่อยนักในคอนโดสมัยนี้  (ถ้าเป็นคอนโดยุคก่อนแถวสุขุมวิทนี่มีก็เยอะค่ะ)

 

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

ย้อนกลับไปด้านบน

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวอาคารนั้นมีระยะประมาณ 20 เมตร ชั้นล่างมีพื้นที่ร้านค้าอยู่ 3 ร้านค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นร้านอะไร ด้านหลังจะเป็นอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น ส่วนตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยและอาคารจอดรถเป็น Drop-off ทางเดินระหว่างอาคารที่จอดรถมาอาคารที่พักอาศัยไม่มีหลังคาค่ะ จะลำบากหน่อยเวลาฝนตกหรือเวลาหิ้วของพะรุพะรัง

Typical Floor Plan คอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ชั้น 4-29 

แปลนในชั้นที่ 4 – 29 จะเหมือนกันหมดค่ะ คือด้านทิศตะวันออกจะเป็น 1 ห้องนอน ฝั่งนี้ตอนบ่ายไม่ร้อน ส่วนด้านทิศตะวันตกจะเป็นห้องสตูดิโอ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกตรงๆ ซึ่งรับรองได้ว่าตอนบ่ายร้อนชัวร์ๆค่ะ  ส่วนด้านหน้าสุดเป็นทิศเหนือเป็นห้องแบบ 2 ห้อง ฝั่งถนนลาดพร้าว และด้านหลังที่เป็นทิศใต้จะเป็นห้อง 1 ห้องนอนพิเศษค่ะ ขนาดใหญ่กว่าห้องด้านตะวันออก  จำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที 17 ยูนิต ตำแหน่งของลิฟท์จะอยู่ค่อนไปทางด้านหลังอาคารค่ะ ไม่ได้อยู่ตรงกลางซะทีเดียว  ถ้าดูในแปลนจะเห็นว่าทางเดินตรงกลางนั้นอาจจะมืดอยู่พอควรเพราะไม่ค่อยมีช่องแสงเข้ามาเท่าไหร่ค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ชั้น 30-31 

ในชั้นที่ 30 และ 31 จะแตกต่างตรงที่ห้องจะหายไป 2 ห้องค่ะ ตามกฏหมายระยะร่น  ส่วนตำแหน่งห้องก็จะเหมือนในชั้นที่ 4-29 เลยค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ชั้น 32-34 

มาถึงชั้น 32-34 ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะหายไปอีก 1 ห้องตรงด้านหน้าค่ะ  ความหนาแน่นของ 3 ชั้นนี้จะเหลืออยู่ที่ชั้นละ 14 ยูนิตค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด มีหลักๆอยู่ 4 แบบค่ะ  เป็นแบบสตูดิโอ ขนาด 23.71-24.15 ตารางเมตร, แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.61-31.34 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน (Exclusive) 38.66 ตารางเมตร แต่แบบนี้จะไม่มีในห้องตัวอย่างนะคะ  และสุดท้าย 2 ห้องนอนจะอยู่ที่ 58.64 ตารางเมตร ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24

แบบสตูดิโอ ขนาด 23.71 ตารางเมตร

แปลนรวมๆนั้นพยายามใช้พื้นที่เล็กๆให้ได้ประโยชน์เยอะที่สุด  ซึ่งก็มองว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ  เข้าห้องมาจะเจอพื้นที่ครัวก่อน อีกด้านจะเป็นห้องน้ำ จากแปลนโถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าพอดีเลยค่ะ ระหว่างส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน กับ ห้องครัวและห้องน้ำจะมีประตูบานเลื่อนแยกระหว่างกันเปิดปิดได้  เวลานอนก็จะได้ไม่ต้องเปิดแอร์เต็มพื้นที่

เราจะเห็นการใช้พื่้นที่เล็กๆเอาหลายๆฟังก์ชั่นมารวมกัน เช่น ในส่วนของเตียงนอนตรงพื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวี (ซึ่งทำให้เวลาจะดูทีวีจะต้องไปนั่งบนเตียงจะดูจากโซฟาไม่ได้)  ส่วนด้านข้างนั้นรวมเอาพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนกับโต๊ะทานข้าวเอาไว้ด้วยกันค่ะ  ตรงนี้ใช้พื้นที่เล็กๆได้ดีทีเดียว  ส่วนระเบียงห้องนอนนั้นก็ได้มาค่อนข้างกว้างนะคะถ้าเทียบกับขนาดห้อง  จริงๆมองว่าลดขนาดความลึกของระเบียงลงอีกนิด  แล้วมาเพิ่มเป็นพื้นที่ในห้องก็จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกหน่อยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.05 ตารางเมตร

ในส่วนของ 1 ห้องนอน ด้วยตำแหน่งการจัดฟังก์ชั่นต้องบอกว่าต่างจากแปลนมาตราฐานสูตรคอนโด 1 ห้องนอนทั่วไปที่ทำกันตามสมัยนิยมพอควร  จะแบ่งหลักๆออกเป็นสองส่วน คือ ฝั่งนึงจะเป็นพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะทำงานหรืออาจจะใช้เป็นโต๊ะทานข้าวก็ได้ ระเบียงจะอยู่ในฝั่งพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ส่วนเข้ามาอีกห้องจะมีพื้นที่ห้องนอน กับ ห้องน้ำค่ะ ในส่วนของห้องนอนได้มาค่อนข้างกว้างขวางดีค่ะ ข้อเสียนิดหน่อย คือ ถ้าแขกมาที่ห้องแล้วจะเข้าห้องน้ำนี้ต้องเดินเข้าไปเรียกได้ว่าด้านในสุดเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่ตรงชั้นวางทีวีนั้นอาจจะทำได้แคบกว่านี้อีกสักนิด เพราะทางตรงด้านหน้าห้องน้ำดูแล้วสามารถกว้างขวางได้มากกว่านี้ค่ะ อาจจะช่วยให้เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้นอีก

แปลนห้องคอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 58.64 ตารางเมตร

ตำแหน่งของห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอาคารด้านหน้าสุด  มีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นถึงชั้น 29 เข้ามาจะเจอส่วนครัวต่อเนื่องกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นคล้ายๆกับแบบ 1 ห้องนอนค่ะ และมีพื้นที่ตรงโต๊ะทานอยู่ใกล้ๆกับเคาน์เตอร์ pantry  ระเบียงตรงห้องนั่งเล่นหันออกไปทางทิศเหนือ มีห้องน้ำด้านนอกอยู่ระหว่างทางเดินเข้าไปห้องนอนเล็ก  ตัวห้องนอนเล็กจะหันไปทางทิศตะวันตก  ฝั่งเดียวกับห้องแบบสตูดิโอค่ะ ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ห้องมุมหันออกทางทิศเหนือ ถือว่าดีทีเดียว ได้กระจกเข้ามุมด้วย  มีห้องน้ำในตัว พื้นที่ในห้องนอนใหญ่นั้นให้มาเหลือๆ  จะวางโต๊ะทำงานหรือทำตู้ built-in เพิ่มก็ได้  รวมๆแล้วสเปซกว้างขวางน่าใช้งานดีค่ะ แบ่งออกมาได้เป็นสัดเป็นส่วนดี

 

เปิดห้อง  มองสเปซ

ย้อนกลับไปด้านบน v

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 3 แบบค่ะ คือ 1 ห้องนอน 23.71 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน 30.05 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 58.64 ตารางเมตร ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.60 เมตร  ส่วนห้องน้ำจะสูง 2.45 เมตรค่ะ ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Furnished เรียกได้ว่าได้ครบพร้อมเข้าอยู่เลยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Chapter one midtown ลาดพร้าว 24 

แบบสตูดิโอ 23.17 ตารางเมตร

เข้ามาในภายในห้องตัวอย่างแบบสตูดิโอค่ะ ด้านหน้าห้องจะเป็น pantry และห้องน้ำ แยกจากห้องนอน ค่อนข้างจะแบ่งสัดส่วนใช้ได้ เพราะกั้นห้องและใช้ประตูเป็นบานเลื่อน

ภาพรวมห้องน้ำแบบสตูดิโอค่ะ ห้องจริงก็จะได้ตามนี้เลย ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำไม่มีมาให้  ต้องมาทำเพิ่มเอาเองนะคะ

เข้ามาในห้องนอนที่รวมกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ

ชั้นวางทีวีอยู่ตรงข้ามกับเตียง ถ้าจะดูทีวีต้องมาดูที่เตียงค่ะ ส่วนตรงพื้นที่นั่งเล่นจะใช้รวมกับโต๊ะทานข้าวค่ะ ด้านข้างมีชั้นเก็บของให้เต็มพื้นที่ความสูงของเพดาน  ซึ่งก็เป็นเฟอร์นิเจอร์มาตราฐานที่มาพร้อมกับห้องเลย

ระยะจากเตียงถึงประตูออกไประเบียง ตรงนี้ไม่อึดอัดมากนัก  แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าถ้าลดขนาดความกว้างของระเบียงลงหน่อยแล้วเอามาเพิ่มให้สเปซในห้องก็น่าจะทำให้ดูห้องกว้างขึ้นอีก

อีกมุมนึงค่ะ จะเห็นได้ว่า แยกส่วนของห้องครัวกับห้องน้ำ ออกจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ห้องตัวอย่างคอนโด Chapter one midtown ลาดพร้าว 24

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.05 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน เข้ามาก็จะเจอพื้นที่ครัว ต่อเนื่องไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะทำงาน ระเบียงจะอยู่ฝั่งห้องนั่งเล่นค่ะ

ระยะจากโซฟาถึงชั้นวางทีวีโอเค ไม่ได้แคบอะไร แต่ดูเหมือในห้องตัวอย่างจะขาดโต๊ะทานข้าวนะคะ เวลารับประทางอาหารจริงๆอาจจะนั่งกินตรงโซฟาหรือว่าใช้พื้นที่กับโต๊ะทำงานก็ได้

เข้ามาในห้องนอนค่ะ ทางเดินไปห้องน้ำ ทไเป็นตู้เสื้อผ้า built-in เอาไว้ให้

มองจากห้องน้ำไปยังห้องนอนค่ะ อย่างที่บอกไป ถ้าเพื่อนมาเยี่ยมบ้านแล้วอยากเข้าห้องน้ำ ต้องเดินมาในสุดเลยค่ะ เรียกได้ว่าผ่านทุกส่วนของห้องเลย  อย่าลืมเก็บเตียงนอนให้เรียบร้อยหล่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Chapter one midtown ลาดพร้าว 24

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 58.64 ตารางเมตร

เข้ามาแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางทีเดียวค่ะ ระเบียงก็ได้เต็มส่วนของพื้นที่นั่งเล่น  สเปซโล่งดี

ย้อนกลับไปดู ส่วนของครัวและโต๊ะทานข้าวค่ะ ใช้เก้าอี้ Build-in ทำเป็นที่นั่งทานข้าว ด้านล่างทำเป็นชั้นเก็บของด้วย

ระยะห่างระหว่างพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ มีหน้าต่างบานกระทุ้งเพิ่มมาให้ ช่วยให้เพิ่มแสงธรรมชาติเข้ามาได้

ทางเดินเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำค่ะ

เริ่มที่ห้องนอนเล็กกันก่อน หน้าต่างจะได้มาไม่เต็มพื้นที่  ตรงนี้คิดว่าน่าจะให้หน้าต่างมาใหญ่กว่านี้หน่อยนะคะ รู้สึกว่าสัดส่วนหน้าต่าางจะแคบไปนิด  ส่วนปลายเตียงมีที่พอทำชั้นวางทีวีได้แบบหลวมๆ

ให้ดูอีกมุมนึง วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พอดีๆ

เข้ามาดูในห้องนอนใหญ่กันบ้าง ฝั่งที่ติดกับทิศตะวันตกจะปิดเป็นผนังทึบค่ะ ส่วนด้านทางด้านเยื้องๆไปทิศเหนือจะได้หน้าต่างเป็นแบบเต็มความสูงฝ้าเพดานเลยค่ะ  ดร็อปรางม่านให้ด้วยและมีกระจกเข้ามุมวิ่งทะลุขึ้นไป  ดีไซน์แบบนี้จะทำให้ห้องดูโปร่ง เรียกว่าหน้าต่างห้องนอนใหญ่นี้สวยมาก (แล้วห้องนอนเล็กจะน้อยใจไหมเนี้ย ^^”)

กลับมาให้ดูในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นอีกรอบค่ะ ระยะดูทีวีกำลังพอดีๆ มีชั้นวางของด้านบนเพิ่มมาให้ด้วย

 

เปิดห้อง ส่องวัสดุ

ย้อนกลับไปด้านบน

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาในระดับโอเคค่ะ เฟอร์นิเจอร์ Built-in พื้นที่เก็บของได้มาค่อนข้างเยอะ วัสดุของแต่ละแบบจะคล้ายๆกัน แล้วแต่พื้นที่ของแต่ละแบบมากกว่าว่าควรวางหรือเพิ่มเติมส่วนไหนบ้าง  โดยรวมๆก็ถือว่าให้มาค่อนข้างครบ  มาแต่งเพิ่มเองอีกแค่นิดหน่อยก็อยู่ได้เลย

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ดูกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ครัวแบบห้องสตูดิโอ เคาน์เตอร์ครัวจะได้ทั้งชุดตามนี้เลยค่ะ

ถ่ายให้ดูพื้นที่เก็บของด้านใน ถือว่าจุได้เยอะอยู่นะคะ

ครัวของ 1 ห้องนอนจะคล้ายๆกับแบบห้องสตูดิโอค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวแบบ 2 ห้องนอน จะสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย  (แบบสตูดิโอ และ แบบ 1 ห้องนอน ต้องเอาเครื่องซักผ้าไปไว้ตรงระเบียงนะคะ)

เตาสองหัวและเครื่องดูดควัน ของ Mex ค่ะ

ซิงค์ 1 หลุม ไม่มีที่พักจานด้านข้าง  หน้าตาหัวก๊อกดูธรรมดาไปหน่อย  แต่ Top เคาน์เตอร์หินแกรนิตนี่ดูดีทีเดียว

Top เคาท์เตอร์เป็นหินแกรนิต รอยต่อ Top เคาน์เตอร์กับผนังมีหินเป็นตัวจบดีเทล  และบุกระเบื้องที่ผนังสำหรับกันเลอะมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ใต้ซิงค์ล้างจาน

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบสตูดิโอ พื้นที่ระหว่างโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าค่อนข้างจะอยู่ใกล้กันเลยค่ะ  การใช้งานอาจจะดูคับแคบไปนิดสำหรับคนที่ตัวใหญ่มากๆ

พื้นที่ตรงส่วนของอ้างล้างหน้าค่ะ

โถสุขภัณฑ์ได้ของ COTTO จากห้องแบบสตูดิโอ

พื้นที่ตรงโถสุขภัณฑ์ของแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

อ่างล้างหน้าของ COTTO และเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตไว้วางของได้

อ่างล้างหน้าของแบบ 2 ห้องนอน เข้ามุมพอดี

ก๊อกน้ำ prema

พื้นที่ใต้อ่างล้างหน้า ทำที่เก็บของมาให้

กระจกเป็นแบบติดผนังค่ะ ไม่มีที่เก็บของด้านหลัง

ชุดฝักบัว มีชั้นวางสบู่มาได้ ถ้าเป็นการใช้งานจริงๆอาจจะต้องติดชั้นเพิ่มค่ะ

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกกับแห้งมาให้ แต่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ค่ะ  ระยะความกว้างด้านในนั้นให้มาแบบกระทัดรัดหมุนตัวได้แบบพอดี๊พอดี

พื้นห้องน้ำระดับพอๆกับพื้นห้องนอน  ทำธรณีประตูห้องน้ำปูกระเบื้องเป็นตัวจบดีเทล

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นลามิเนตหนา 8 มม. บัวพื้นสีเทาค่ะ  ลามิเนตที่ให้มานั้นจัดว่าผิวสัมผัสค่อนข้างดีทีเดียว

พื้นลามิเนตกับเฟอร์นิเจอร์ปาติเคิลปิดผิวลามิเนต

ประตูตรงห้องสตูดิโอเป็นบานเลื่อน ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูให้ แต่ทำรางไว้ให้ดูค่ะ

ผนังส่วนใหญ่จะทาสีเทาอ่อน สีเหมือนวงกบประตู แต่จะมีบางด้านที่ทาเป็นสีเทาเข้มค่ะ สีคล้ายๆบัวพื้น

ตู้รองเท้าในแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

ที่นั่งตรงทางเข้าแบบ 2 ห้องนอน ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของได้

โซฟานั่งทานข้าว ด้านล่างก็ทำพื้นที่เก็บของไว้ให้

ชั้นวางทีวีได้พื้นที่เก็บของยาวตลอดแนว

ด้านบนชั้นวางทีวีก็มีชั้นวางของค่ะ

โต๊ะหัวเตียง

เตียงในห้องนอนเล็กก็ได้ลิ้นชักเก็บของมา

เตียงใหญ่จะได้มา 2 ลิ้นชัก

ตู้เสื้อผ้า built-in ของแบบสตูดิโอ

พื้นที่เก็บของด้านในตู้เสื้อผ้า

สวิทช์ bticino แบบธรรมดาทั่วไป

หน้าต่างบานกระทุ้ง   เป็นอลูมิเนียมอบสีดำ

หน้าต่างมุมห้องนอนใหญ่ แบบ 2 ห้องนอน

ทำซ่อนรางม่านให้สำหรับห้องนอนใหญ่ของแบบ 2 ห้องนอน

บานเลื่อนอลูมิเนียม

ระดับพื้นภายในห้องกับระเบียงด้านนอกก็เท่ากันค่ะ กั้นด้วยขอบปูนสูง 10 ซม. แล้วติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกด้านบน

พื้นที่ระเบียงของห้องสตูดิโอ

ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีเทาดำ พื้นที่ราวกันตกของแบบสตูดิโอ

ราวกันตก 2 ห้องนอน

 

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ย้อนกลับไปด้านบน

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (22 มกราคม 2558)  ราคาจะแบ่งตามโซนความสูงค่ะ ซึ่งออกมาเป็น 3 ช่วงราคาด้วยกัน  คือ ชั้น 4-12 , ชั้น 13-23 และ ชั้น 24-34  แต่ละห้องที่อยู่ในโซนเดียวกันก็จะราคาเท่ากัน  ซึ่งเปิดขายชั้นเลขคู่ก่อน  แล้วค่อยเปิดขายชั้นเลขคี่ที่หลัง

แบบ สตูดิโอ ขนาด 23.71-24.15 ตารางเมตร ราคา 2.49-2.89 ล้านบาท , แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.61-31.34 ตารางเมตร ราคาอยู่ที่ 3.59-3.85 ล้านบาท, แบบ 1 ห้องนอน 38.66 ตารางเมตร ราคา 4.62-4.74 ตารางเมตร และ  แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ 58.64 ตารางเมตร ราคา 6.69-6.99 ล้านบาทค่ะ

ราคา ณ วันที่ 22 มกราคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

Studio         พื้นที่ 23.71 – 24.15 ตร.ม. ราคา 2.49 – 2.89 ล้านบาท  เฉลี่ย 117,xxx บาท/ตร.ม.

1 bedroom  พื้นที่ 29.61 – 31.34 ตร.ม.  ราคา 3.59-3.85 ล้านบาท เฉลี่ย 127,xxx บาท/ตร.ม

1 bedroom (Exclusive) พื้นที่ 38.66 ตร.ม. ราคา 4.62-4.74 ล้านบาท เฉลี่ย 116,xxx บาท/ตร.ม

2 bedroom  พื้นที่ 58.64 ตร.ม. ราคา 6.69-6.99 ล้านบาท  เฉลี่ย 115,xxx บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

Studio จอง 30,000 บาท / สัญญา 40,000 บาท

1 Bedroom จอง 50,000 บาท / สัญญา 50,000 บาท

2 bedroom จอง 50,000 บาท / สัญญา 100,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

Studio 4,900 บาท/เดือน 20 งวด (Balloon 5 งวด งวดละ 20,000 บาท)

1 bedroom 7,900 บาท/เดือน 20 งวด (Balloon 5 งวด งวดละ 25,000 บาท)

2 bedroom 15,000 บาท/เดือน 20 งวด (Balloon 5 งวด งวดละ 50,000 บาท)

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   60  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio   ราคาขาย 2.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 16,822 บาท/เดือน

1 bedroom   ราคาขาย 3.59 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 22,451 บาท/เดือน

2 bedroom   ราคาขาย 6.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 41,838 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio   ราคาขาย 2.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 17,779 บาท/เดือน

1 bedroom   ราคาขาย 3.59 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 23,728 บาท/เดือน

2 bedroom   ราคาขาย 6.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 44,218 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio   ราคาขาย 2.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 19,382 บาท/เดือน

1 bedroom   ราคาขาย 3.59 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 25,867 บาท/เดือน

2 bedroom   ราคาขาย 6.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 48,203 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio   ราคาขาย 2.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 22,303 บาท/เดือน

1 bedroom   ราคาขาย 3.59 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 29,765 บาท/เดือน

2 bedroom   ราคาขาย 6.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 55,468 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio   ราคาขาย 2.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 28,559 บาท/เดือน

1 bedroom   ราคาขาย 3.59 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 38,114 บาท/เดือน

2 bedroom   ราคาขาย 6.69 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 71,026 บาท/เดือน

 

Overview Summary

ย้อนกลับไปด้านบน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางนั้นจัดว่าค่อนข้างสะดวกค่ะ  อย่างที่ทราบว่าตำแหน่งที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ตรงที่ถนนลาดพร้าว ใกล้กับแยกรัชดา-ลาดพร้าว ก็เลยจะเข้าถึงได้จากหลายทางสะดวกดี  รวมๆแล้วเข้าถึงไม่ยากค่ะ  มีฟุตบาทตลอดแนว  จะมีก็แต่ปัญหารถติดในบางเวลาช่วงเช้าและเย็น  ส่วนถ้ามาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็สะดวกมาก  เพราะเดินมาแค่ประมาณ 150 เมตรค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงการตั้งอยู่ในลาดพร้าวช่วงตอนต้น พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งเก่าและใหม่ อยู่ใกล้เมือง ใกล้กับแหล่งสาธารณูปโภคและสาธารณูปการทั้งหลาย ในด้านโครงสร้างพื้นฐานโซนนี้ก็ถือว่ามีรองรับดีอยู่ครบแล้ว แต่จะเน้นไปในทางด้านที่อยู่อาศัยมากกว่า  ถ้าที่เป็นโครงการในอนาคตก็คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต – สะพานใหม่) ซึ่งจะไปผ่าน Hub ใหญ่ของโซนนี้อย่างตรงห้าแยกลาดพร้าวค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ที่ดินโครงการนั้นเป็นแนวยาวลึกเข้าไปทำให้รูปร่างของตัวคอนโดต้องถูกบังคับให้วางเป็นแนวยาวตามรูปที่ดิน ดีไซน์ออกมาเป็นลักษณะวินเทจผสมกับโมเดิร์น ดูแปลกตากว่าคอนโดสไตล์โมเดิร์นตามสมัยนิยมทั่วๆไป ใช้โทนสีเทาดำ สีดำ และกระเบื้องลายอิฐ  มาดีไซน์ในพื้นที่หลักๆของตัวคอนโด  ในตัวคอนโด Chapter One The Campus นั้นชั้นล่างที่ล็อบบี้เป็น triple volumn สูงประมาณ 3 ชั้น มีพื้นที่ทำล็อบบี้ค่อนข้างยาว  เพราะเอาตัวที่จอดรถแยกอาคารกันออกไปไว้ด้านหลัง   ห้องของตัวคอนโดนั้นหันทางตะวันออก – ตะวันตก ชัดเจน  ฝั่งสตูดิโอจะร้อนกว่าฝั่ง 1 ห้องนอน เพราะได้รับแดดบ่ายมากกว่า  และทางเดินในตัวคอนโดจะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างน้อยค่ะ

สำหรับแปลนห้องรวมๆก็ทำมาโอเคค่ะ  ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดี ลักษณะการจัดฟังก์ชั่นในห้องสตูดิโอและแบบ 1 ห้องนอนนั้นเป็นแปลนที่ไม่ได้ตามสูตรคอนโดทั่วไปนัก  อย่างตรงสตูดิโอก็มีการแชร์พื้นที่โต๊ะระหว่างพื้นที่ทานข้าวกับนั่งเล่นเพื่อให้ใช้งานได้ทั้ง 2 ฟังก์ชั่นในพื้นที่ที่เล็กลงจากสเปซปกติ และจะต้องนั่งดูทีวีจากบนเตียง  แรกๆถ้าเข้าไปอยู่ก็คงต้องปรับตัวกันนิดหน่อย  ส่วนแบบ 1 ห้องนอน แปลนก็แบ่งสัดส่วนชัดเจนดี  อาจจะมีลำบากนิดตรงต้องแชร์ที่นั่งรับประทานอาหารกับพื้นที่โต๊ะทำงานหรือไม่ก็ต้องนั่งทานอาหารตรงโซฟาดูทีวี  แต่แบบนี้ก็ได้พื้นที่ตู้เสื้อผ้ามาใหญ่มาก  น่าจะถูกใจสาวๆที่เสื้อผ้าเยอะ  ส่วนแบบ 2 ห้องนอน ตำแหน่งห้องอยู่ในทิศที่ดีและให้มากว้างขวางดีค่ะ  จัดแปลนออกมาได้สวยดี  จะติหน่อยก็ตรงห้องนอนเล็กที่แสงเข้ามาได้ค่อนข้างน้อย

ด้านวัสดุนั้นให้มาระดับโอเคในภาพรวม ในแบบ fully furnished เฟอร์นิเจอร์ built-in ทำมาให้ค่อนข้างครบ ให้ผิวสัมผัสของวัสดุที่ค่อนข้างดี  ได้พื้นที่เก็บของมาได้ค่อนข้างเยอะ  โดยพยายามทำพื้นที่เก็บของรวมเพิ่มมาในเฟอร์นิเจอร์หลายๆชิ้น เช่น ลิ้นชักใต้เตียงหรือใต้โซฟา

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาเยอะพอสมควรและดูน่าใช้งาน  ได้สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Sky Lounge, Stream room, สนามเทนนิส, ห้องอเนกประสงค์  พื้นที่ส่วนกลางต่างๆก็ใช้ดีไซน์วินเทจมาผสมกับโมเดิร์นเหมือนกับภาพรวมของตัวคอนโด  ซึ่งดูจากรูปก็น่าจะออกมาสวยอยู่ค่ะ  เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 171 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้น ค่อนข้างจะหนาแแน่นทีเดียวแหละ  ที่จอดรถ 45% น้อยไปนิดค่ะ  ต้องไปเฉลี่ยเอากับการที่ที่ตั้งติดรถไฟฟ้า  ส่วนอาคารจอดรถที่แยกเป็นอาคารอยู่ด้านท้ายโครงการอาจจะมีปัญหานิดหน่อยเวลาฝนตก  เพราะทางเดินระหว่างอาคารพักอาศัยกับอาคารจอดรถนั้นไม่มีหลังคาคลุม  เวลาฝนตกเดี๋ยวจะต้องวิ่งฝ่าฝนเข้าคอนโดกัน

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ