Ananda และ Mitsui Fudosan ประกาศเดินหน้าลุยเปิด 5 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท [News]
· 1 min readกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น [19 พฤษภาคม 2558] : บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความแข็งแกร่งหลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตรทางธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น กลุ่ม มิตซุย ฟูโดซัง (Mitsui Fudasan) ด้วยความสำเร็จและความสัมพันธ์อันดีสู่การบรรลุข้อตกลงเมื่อปี 55 สู่การร่วมทุนครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 58 ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ 5 โครงการรวด มูลค่ากว่า 19,000 ลบ. เล็งทำเลศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้า พร้อมทะยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในประเทศไทยกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) ในปี 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia) นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี จำนวนยูนิตกว่า 4,100 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า Gen C และนักลงทุน และในปี 2558 บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมทุนครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องอีกครั้งด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ จำนวนยูนิตรวมกว่า 4,200 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 19,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ ของญี่ปุ่นมาใช้เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่มาตรฐานในระดับสากลต่อไป
สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ กลุ่มมิตซุยยังคงมองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น การเมืองสงบ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมทั้งการเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล หนุนให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น บวกกับศักยภาพของอนันดาฯที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ติดรถไฟฟ้า จึงทำให้เกิดข้อตกลงในสัญญาร่วมทุนครั้งใหญ่อีกครั้งโดย อนันดาฯ จะถือครองหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มมิตซุย 49% และนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นสัดส่วน 2% ซึ่งอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมกันระหว่าง มิตซุย ฟูโดซังฯ และ อนันดาฯ ฝ่ายละ 3 ท่าน มาร่วมกันตัดสินใจและอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ
สำหรับแผนการดำเนินงานภายใต้การร่วมทุนครั้งใหม่นี้ยังคงดำเนินงานภายใต้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย (Ananda MF Asia) โดยมีแผนการดำเนินงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Hi-rise สูง 40 ชั้น ใกล้สถานีบีทีเอสชิดลม 650 เมตร จำนวน 359 ยูนิต โดยจะเปิด Pre-sales ในไตรมาสที่ 2-ต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดอีก 4 โครงการ 4 ทำเล ย่านสีลม บางนา บางซื่อ ในไตรมาส 4 และโครงการย่านท่าพระ ในไตรมาส 1 ปีหน้า
“การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งใหม่นี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ อนันดาฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Mitsui Fodosan มาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทางธุรกิจ ซึ่งมิตซุย ฟูโดซัง เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากการร่วมทุนที่ผ่านมาทำให้การขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัทมีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้และการบริหารจัดการโครงการของมิตซุยฯ ที่มีการสั่งสมประสบการณ์มากกว่า 340 ปี ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ที่ได้นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าของอนันดาฯ ด้วยจุดแข็งดังกล่าวของมิตซุย ฟูโดซัง ผมมั่นใจว่าจะช่วยส่งเสริมให้อนันดาฯ ก้าวสู่มาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับสากลมากยิ่งขึ้นตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน” นายชานนท์กล่าว
มร.อะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ (Executive Managing Officer) บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด กล่าวว่า จากความร่วมมือตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั้งปัจจุบัน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอนันดาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญและศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นทั้งคุณภาพและการออกแบบที่บริษัทได้สะสมประสบการณ์ผ่านกระบวนการความคิดสร้างสรรค์และพัฒนามาเป็นอย่างดี จนก่อให้เกิดโครงการที่พักอาศัยที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและมีเอกลักษณ์ ทำให้ อนันดาฯ กลายเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคด้วยดีเสมอมาถึงการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย การบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานมีความแข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุด คือ กลยุทธ์ในการเลือกทำเลที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีระบบขนส่งมวลชนรองรับ อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่สามารถตอบโจทย์สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการเดินทางหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้เป็นอย่างดี ในราคาสมเหตุผลสามารถเป็นเจ้าของได้
ด้วยหลักสำคัญในการบริหารงานของกลุ่มมิตซุย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมองหาโอกาสสำหรับการตอบรับกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและมีความแข็งแกร่งอย่าง อนันดาฯ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับแนวคิดในการมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับลูกค้าเพื่อสร้างศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันและอนาคต ยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มมิตซุยฯ ไปสู่ภูมิภาคข้างเคียง โดยความร่วมมือของทั้งสองบริษัทจะช่วยขยายฐานด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีการก่อสร้าง การนำวัสดุที่ทันสมัย และการนำเทคโนโลยีในการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาใช้ในโครงการพัฒนาร่วมกันต่อไป
“ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และด้วยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมีแผนขยายการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ในกรุงเทพจาก 67 สถานีที่มีอยู่เป็น 222 สถานีในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรอบสถานีใหม่เกิดขึ้น และด้วยแนวโน้มของการพัฒนาเมืองที่ขยายตัวออกไปส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มมิตซุยมองเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวนี้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในประเทศไทยกับทางอนันดาฯ อีกต่อไปในอนาคต” มร. ฟูนาโอกะ กล่าว