สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปรีวิวโครงการ Cascade Bangna ซึ่งเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ ติดถนนบางนา-ตราด จาก Real Asset Development โดยโครงการคาสเคส บางนา นี้จะอยู่ด้านหลังโครงการ Enterprize Park Bangna และใกล้กับโครงการรุ่นพี่อย่าง The Pretium Bangna และ Plex Bangna ที่ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการของ Real Asset ทั้งหมดค่ะ ตัวโฮมออฟฟิศ Cascade Bangna ขอบอกก่อนเลยว่าออกแบบมาได้สวยและเท่ๆ มาก เหมาะกับบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางทั้งหลาย หรือร้านค้าต่างๆ แต่จะต้องเป็นออฟฟิศหรือร้านค้าที่ไม่เน้นหันหน้าร้านเข้าถนนใหญ่เป็นหลัก เพียงแต่ต้องการการเข้าถึงที่ง่าย เพราะตัวโครงการจะอยู่ลึกเข้าไปจากถนบางนา – ตราด อีกประมาณ 50 เมตร ตามเราไปดูรีวิวละเอียดๆ กันเลยค่ะ
Cascade Bangna (คาสเคด บางนา) โฮมออฟฟิศสูง 4 ชั้น ติดถนนบางนา-ตราด กม.5
· 28 min readข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ
Cascade Bangna (คาสเคด บางนา)
- เจ้าของโครงการ >>> Real Asset
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนบางนาตราด กม. 5 จังหวัดสมุทรปราการ
- ขนาดที่ดิน >>> 10-1-35.5 ไร่
- ประเภท >>> โฮมออฟฟิศ
- จำนวนหลัง >>> 63 ยูนิต
- พื้นที่ใช้สอย >>> 250 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.5 เมตร
- ขนาดที่ดิน >>> 20.8 – 33.1 ตารางวา
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 12.29 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 3/12/2016)
- ราคาเฉลี่ย >>> 14-15 ล้านบาท
- พิกัด GPS >>> 13.661879, 100.655440
- เว็ปไซต์โครงการ >>> http://www.realasset.co.th/cascade/
- ติดต่อโครงการ >>> 061-413-3355 หรือ 1232 #14
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
วันนี้เราใช้เริ่มต้นเดินทางบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณที่ตัดกับแยกอ่อนนุช มุ่งหน้าไปทางบางนา-ตราด ผ่านแยกที่ตัดกับถนนอ่อนนุชไปแล้วจะเจอศูนย์การค้าอย่าง Thanya Park, Seacon Square, Paradise Park เราก็อยู่ชิดเลนกลางหรือขวาแล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านสี่แยกศรีอุดม (ศรีนครินทร์ตัดกับอุดมสุข) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนบางนา-ตราด แล้วก็ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน Index Living Mall เราจะขับเลนนอกหรือเข้าเลนกลางก็ได้ แต่พอเห็น Tesco Lotus ก็เตรียมขึ้นสะพานกลับรถ ลงจากสะพานกลับรถมาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จะมีป้าย Cascade บางนาอยู่ทางซ้ายมือตลอดทาง พอถึงศูนย์ Toyota แล้วก็อยู่ชิดเลนซ้ายได้เลยค่ะ ขับไม่ไกลจะถึงหน้าโครงการ Cascade Bangna และรูปปั้นม้า 5 ตัวเป็นสัญลักษณ์
เริ่มจากถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกที่ตัดกับถนนอ่อนนุช ขับตรงตามป้ายไปบางนา-ตราด
ตรงมาเรื่อยๆ จะผ่าน Seacon Square ทางซ้ายมือ
ต่อด้วย HaHa และ Paradise Park ค่ะ
แล้วก็จะถึงแยกที่ตัดกับถนนอุดมสุข ให้ขับตรงไป
จากนั้นให้อยู่ชิดซ้ายเพื่อเข้าถนนบางนา-ตราด
เข้าถนนบางนา-ตราดแล้วก็ขับตรงมาได้เรื่อยๆ ผ่าน Index Living Mall สาขาบางนา ทางซ้ายมือ จะขับอยู่เลนคู่ขนานหรือเข้าไปถนนหลักตรงกลางก็ได้
ถ้าขับอยู่ด้านนอก พอเห็น Tesco Lotus ก็ขับชิดเลนขวาได้เลยค่ะ เพื่อขึ้นสะพานกลับรถ
บนสะพานกลับรถนี้จะสามารถตรงเข้าศูนย์การค้า Mega Bangna หรือ Big C ได้ด้วย ให้เราอยู่ชิดขวาเข้าไว้
จากนั้นก็ขับรถตรงมาเรื่อยๆ พอถึงศูนย์ Toyota ก็ให้อยู่เลนกลางหรือเลนซ้าย
ไม่ไกลจะถึงโครงการ Cascade บางนา ค่ะ มีป้ายโครงการชัดเจนและม้า 5 ตัว
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
โครงการ Cascade Bangna ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด อยู่ระหว่างถนนศรีนครินทร์กับถนนวงแหวนรอบนอก โดยจะอยู่ใกล้กับถนนศรีนครินทร์มากกว่า อยู่ใกล้กับ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ ( ตึก The Nation ) ที่มีรูปลักษณ์อาคารโดดเด่น ใช้เป็นจุดสังเกตได้ง่ายค่ะ ถนนบางนา-ตราด หน้าโครงการจะเป็นถนนใหญ่ มีทางด่วนบูรพาวิถี บางนา-ชลบุรี วิ่งอยู่เหนือถนน ถ้าเลี้ยวออกจากหน้าโครงการจะเป็นถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าไปที่แยกศรีนครินทร์ และแยกบางนา มี Bitec บางนา, Central บางนา, Big C บางนา, รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา หรือ สถานีอุดมสุข เป็น Hub ใหญ่ โดย BTS อยู่ห่างออกไปประมาณ 5.8 – 6.6 กิโลเมตรตามลำดับ หรือจะขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร เข้าตัวเมืองก็ได้ ส่วนในทางกลับกันจะเป็นฝั่งบางนา-ตราดขาออก มุ่งหน้าไปที่ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันออก), ถนนกิ่งแก้ว มี Tesco Lotus บางนา, Mega บางนา, Ikea, Big C บางนา และสนานบินสุวรรณภูมิเป็น Hub สำคัญ สามารถใช้ทางพิเศษบูรพาวิถี บางนา-ชลบุรี ไปทางภาคตะวันออกได้สบายค่ะ
เมื่อดูจากทำเลในภาพรวมแล้ว เป็นโครงการที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง เพราะไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าและไม่มีโครงการรถไฟฟ้าผ่านในอนาคต แต่ถนนบางนา-ตราดมีความเจริญ เป็นถนนสายสำคัญทำให้มีรถประจำทาง, รถบรรทุกและผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบ พวกหมู่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ร้านขายอะไหล่ ปั๊มน้ำมัน อู่ซ่อมรถยนต์และศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเจริญกว่าถนนกิ่งแก้ว, ถนนเลียบกาญจนาภิเษกที่อยู่ใกล้ๆ กัน นอกจากศูนย์การค้าที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมี SB Furniture สาขาบางนา ขนาดใหญ่สูง 5 ชั้นที่ตึก Amble Tower, Index Living Mall สาขาบางนา, ร้านเฟอร์นิเจอร์ Chic Republic และศูนยการค้าบนถนนศรีนครินทร์อย่าง Seacon Square, Paradise Park, HaHa Mall และ Thanya Park ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลปิยะมินทร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์ อยู่ไม่ไกลค่ะ และสวนหลวง ร.9 ให้ไปพักผ่อนหย่อนใจ เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ แต่เหมาะกับการใช้รถยนต์เดินทางไปทั้งสิ้น ถ้าใช้ขนส่งสาธารณะจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่
โครงการคาสเคด บางนาจะมีทางเข้าอยู่ติดกับโครงการ Enterprize Park บางนา (หมายเลข 1) และเนื้อที่จะอยู่ด้านหลัง Enterprize Park เลยค่ะ ส่วนด้านข้างที่อยู่ติดกันเป็นโครงการทาวน์โฮม Plex บางนา (หมายเลข 2) ที่มี The Premium บางนา (หมายเลข 3) อยู่ด้านหน้า ส่วนอีกข้างนึงจะเป็นที่ดินเปล่าของ Real Asset อีกเช่นกัน ด้านหลังโครงการจะติดกับหมู่บ้านเลิศนิมิต 2 (หมายเลข 4) ถัดจากกลุ่มโครงการของ Real Asset ไปแล้วจะเป็นอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ หรือ ตึก The Nation (หมายเลข 6) ค่ะ ฝั่งตรงข้ามถนนเยื้องๆ กับ The Nation เป็น Index Living Mall สาขาบางนา (หมายเลข 7), ร้านขายเซรามิค Ceramique (หมายเลข 8 ) และปั๊มน้ำมันบางจาก (หมายเลข 9)
หากไล่ไปทางขวามือของแผนที่จะเป็นปั๊มแก๊ส (หมายเลข 10) ตึกบางนา Tower B (หมายเลข 11) และโรงพยาบาลปิยมินทร์ (หมายเลข 12)
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ก่อนเข้าโครงการไปดูสภาพแวดล้อมรอบโครงการกันค่ะ เพื่อจะได้เห็นภาพรวมของทำเลมากขึ้น เริ่มจากออกจากหน้าโครงการ Cascade บางนา ไปทางซ้าย จนถึง Bitec Bangna แล้วกลับรถไปที่ Mega Bangna กลับไปที่หน้าโครงการอีกครั้ง แล้วก็ไปดูศูนย์การค้าบนถนนศรีนครินทร์ต่อค่ะ
เริ่มจากบรรยากาศด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับโฮมออฟฟิศ Enterprize Park Bangna และต่อด้วยตึก The Nation
อาคาร The Nation มีรูปลักษณ์อาคารเป็นจุดเด่น
หน้าตึก The Nation มีสะพานลอยด้วยค่ะ
ถัดมาเป็นโรงเรียนนานาชาติ Montessori Academy Bangkok International School จะอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลไทยนครินทร์พอดี
ศูนย์รถยนต์ Toyota และโรงพยาบาลบางนา
Bitec Bangna ที่กำลังเร่งก่อสร้างเฟสต่อขยายอยู่
แล้วเราก็กลับรถค่ะ ไปดูฝั่งตรงข้ามกันบ้าง
อาคารสำนักงาน Central City Tower อยู่ติดกับ Central บางนา
Central Plaza บางนา มีสวนน้ำ Pororo Aqua Park ด้วยนะ
ติดๆ กันเป็น Big C Super Center สาขาบางนา
ศูนย์รถยนต์ Toyota ติดกับโรงพยาบาลไทยนครินทร์
ร้าน SB Furniture สาขาบางนา ขนาดใหญ่ อยู่ติดกับตึก Amble Tower
ปั๊มน้ำมันบางจาก มี Big C mini อยู่ด้านในด้วย ปั๊มน้ำมันจะมีเป็นระยะๆ ค่ะ
ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน Chic Republic
Index Living Mall สาขาบางนา ขนาดใหญ่อีกเช่นกัน แต่งบ้านทีไม่ต้องไปไหนไกล
อาคารสำนักงาน ACME Group, สำนักงานสรรพากรพื้นที่ สาขาบางพลี จะอยู่ตรงกับ Cascade บางนาค่ะ
แล้วก็มาถึง Tesco Lotus สาขาบางนา อยู่ก่อนถึงมาแยกเข้าทางเลียบถนนกาญจนาภิเษก และใกล้จุดกลับรถไป Mega Bangna ฝั่งตรงข้าม
เราสามารถกลับรถแล้วเข้า Mega Bangna ได้เลย ภายในเมกะบางนาก็มีทั้ง Ikea, Big C, Homepro, ฺBig C ครบครันค่ะ
ปิดท้ายด้วยปั๊มน้ำมัน Esso และร้านไทวัสดุ
แค่ถนนบางนา – ตราดก็มีศูนย์การค้าให้เลือกช้อปปิ้งได้เยอะแล้ว เบื่อๆ ก็สามารถไปถนนศรีนครินทร์ได้อีกค่ะ
เส้นนี้จะมีศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค
ศูนย์การค้า Seacon Square
Haha Shopping Mall ศรีนครินทร์
และ Paradise Park ค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
วนดูรอบๆ กันมาเยอะแล้ว เราเข้ามาที่โครงการกันเลยค่ะ
เมื่อมองออกจากด้านหน้าโครงการจะหันเข้าถนนบางนา-ตราด และมีทางด่วนบางนา-ชลบุรีอยู่เหนือถนน
มองไปทางซ้ายมือจะเป็นโครงการ Enterprize Park Bangna, Plex Bangna, The Pretium Bangna และตึก The Nation
มาอยู่หน้า Enterprize Park แล้วมองกลับไปที่โครงการค่ะ จะเป็นป้ายหน้าโครงการสูงขึ้นมา ด้านหน้าจะเป็นแนวคูระบายน้ำที่วิ่งตามแนวถนนบางนา-ตราด
ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา ซึ่งก็ยังคงเป็นที่ดินของ Real Asset นี่เองค่ะ
ป้ายทางเค้าโครงการจะมีม้า 5 ตัว เป็นสัญลักษณ์ ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้ลูกบ้านทำธุรกิจต่างๆ ได้รุ่งเรือง ถัดจากม้าเข้ามาจะเตรียมที่ไว้สำหรับติดป้ายของบริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายในโครงการค่ะ
พอขับรถเข้าโครงการมาแล้วจะเจอป้อมยามอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้าออก กั้นรถด้วยไม้กระดก ลูกบ้านจะได้บัตรคีย์การ์ด 2 ใบสำหรับเข้าออก แต่ถ้าเป็นออฟฟิศมีพนักงานเข้ามาทำงานต้องแลกบัตรเอา เพื่อความปลอดภัย
ผนังสองข้างทางปลูกต้นไม้ไว้ติดแนวกำแพงไว้ เพิ่มความเขียวให้กับโครงการ เพราะถ้าใช้สีเทาอย่างเดียว จะดูแห้งไป
โครงการนี้มีระบบเก็บขยะไว้ที่เดียวกัน อยู่ตรงบริเวณนี้ค่ะ คือจะรวบรวมขยะจากทุกยูนิตมารวมกันที่นี่ เพื่อให้รถเก็บขยะมารับขยะตรงนี้ไปเพียงจุดเดียว โดยที่เก็บรวมขยะก็จะก่อผนังปิดเพื่อความสวยงามเอาไว้ให้ ถ้าไม่ทันสังเกตก็ไม่รู้เลยค่ะว่าเป็นที่เก็บขยะ
แล้วก็จะถึงพื้นที่ด้านในโครงการค่ะ กำลังก่อสร้างกันอย่างขมักเขม้น
มีที่จอดรถอยู่ตรงกลาง มีเกาะกลางปลูกเป็นต้นไม้ให้ร่มเงากับรถด้วย ตอนนี้เพิ่งลงต้นไม้ ต้องรอสักพัก ผ่านอีกสักหน้าฝน ให้ต้นไม้เซตตัวแตกกิ่งก้านสาขา
ทุกยูนิตจะมีทางเท้าอยู่ด้านหน้ายาวเชื่อมกัน เป็นพื้นที่ส่วนกลางดังนั้นไม่สามารถต่อเติมอะไรบริเวณทางเดินนี้ได้ มีฝาท่อและเสาไฟเตี้ยๆ อยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเสาไฟก็ดีไซน์ให้เข้ากับตัวอาคารด้วย โดยส่วนตัวแล้วก็ชอบวิธีการนี้ เพราะถ้าปล่อยให้ใครต่อเติมอะไรก็ได้ไปเรื่อยๆ ระยะยาวโครงการก็จะดูไม่สวยงามเหมือนในตอนแรก การควบคุมไว้ตั้งแต่เริ่มแรกก็ดีที่สุดค่ะ
กลุ่มอาคารจะอยู่กันเป็นชุดๆ 1 ชุดจะมี 4 – 7 ยูนิต แต่และยูนิตกว้าง 5.5 เมตร รวมแล้ว 1 ชุดจะกว้าง 22 – 38.5 เมตรค่ะ แล้วก็จะมีพื้นที่ว่างระหว่างอาคาร ปลูกเป็นต้นไม้กั้นไว้ไม่ให้คนเข้าไปใช้งาน หน้าตาอาคารสวยงามและลงตัวมากทีเดียว โดย 2 ยูนิตตรงกลางจะทำเป็นสำนักงานขาย ยูนิตที่อยู่ด้านข้างทางขวามือจะทำเป็นอาคารตัวอย่างที่พร้อมตกแต่ง ส่วนยูนิตทางซ้ายเป็นหลังเปล่าที่จะได้จริงๆ
เข้ามาในสำนักงานขายค่ะ ตกแต่งผนังด้วยโทนสีขาว ผนังไม้สีน้ำตาลเป็นคลื่นสวยงาม
ด้านหน้าจะเป็นโถงฝ้าสูง Double Floor มองเห็นชั้นสองที่เป็นห้องรับรองเช่นกัน
ชุดโซฟารับรองลูกค้าอยู่ด้านข้างค่ะ
มีอยู่หลายชุด ผนังติดด้วยแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นเพิ่มความอบอุ่นและเป็นกิมมิคน่ารักๆ ด้วย
บริเวณเสาจะตกแต่งด้วยกระจกเงาสีน้ำตาล ดีกว่าปล่อยให้เป็นเสาคอนกรีตสีขาวเฉยๆ
ดูผังโครงการ การเข้าถึง
ผังโครงการจะมีทางเข้ายาวๆ มาจากถนนบางนา-ตราด ลึกเข้ามาประมาณ 15 เมตร แล้วก็จะเจอที่ดินหลักๆ ของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ด้านหลังโครงการ Enterprize Park Bangna พอดี ซึ่งเป็นโครงการโฮมออฟฟิศเช่นกัน ส่วนด้านข้างอย่างที่บอกไปก็จะติดกับ Plex Bangna เป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น ด้านหน้าของ Plex จะเป็นโฮมออฟฟิศ The Pretium Bangna อีกโครงการหนึ่ง อยู่ตรงนี้น่าจะไม่เหงาเพราะเพื่อนบ้านที่เป็นลูกบ้านของ Real Asset เต็มเลย ส่วนด้านหลัง Cascade Bangna จะเป็นหมู่บ้านเลิศนิมิต 2 และด้านข้างอีกฝั่งนึงเป็นที่ดินเปล่าของ Real Asset ที่ยังไม่แน่ว่าจะพัฒนาเป็นโครงการอะไร ถ้าให้เดาก็มีสิทธิทำโฮมออฟฟิศนี่แหละค่ะ
ถนนหน้าโครงการจะตรงกับทางกลับรถด้วย แต่ถ้ามาจากบางนา-ตราด ขาออก พอกลับแล้วจะเลยทางเข้าโครงการไปเลย ต้องไปกลับรถกันที่ Tesco Lotus, Mege Bangna ค่ะ ถ้าจะเดินไปฝั่งตรงข้ามก็มีสะพานลอยอยู่หน้าที่ดินเปล่า หรือจะข้ามสะพานลอยที่หน้าตึก The Nation แทนก็ได้
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางของคาสเคด บางนา นั้นจะมีพื้นที่สวนเล็กๆ อยู่ตรงเกาะกลาง ไว้ไปเดินเล่นพักผ่อนกัน เรื่องขนาดสวนนี่จะเล็กมาก เพราะไม่ได้ทำเป็นทาวน์โฮม แต่ทำเป็นโฮมออฟฟิศค่ะ ตามกฎหมายก็จะกำหนดสัดส่วนพื้นที่ตรงนี้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว
ในโครงการ Cascade Bangna ตรงกลางจะมีที่จอดรถอยู่บริเวณเกาะกลางและหน้าแต่ละยูนิต รวมแล้วมีช่องจอดรถ 252 คัน หากรวมซ้อนคันได้ประมาณ 300 กว่าคัน ถนนบริเวณที่จอดรถจะกว้าง 16 เมตร ซึ่งถ้ามีรถจอดซ้อนคันแล้วก็ยังเหลือที่ประมาณ 2 เลน ขับสวนกันได้ค่ะ ระบบขยะของที่นี่จะรวบรวมไว้ที่เดียวกัน ทำให้รถขนขยะไม่ต้องขับเข้าไปด้านในโครงการ เรื่องความปลอดภัยก็มีกล้อง CCTV ให้ทั่วโครงการ ส่วนเรื่องป้ายบริษัทหรือร้านค้า ทางโครงการ Cascade บางนา ก็เตรียมพื้นที่สำหรับติดป้ายไว้ให้เรียบร้อย อยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าใกล้กับป้ายโครงการ และที่หน้ายูนิตแต่ละหลังค่ะ
.
ทางเข้าโครงการด้านหน้าจะมีป้าย Cascade บางนา และรูปปั้นม้าวิ่ง 5 ตัว + น้ำ เป็นสัญลักษณ์ให้การค้าเจริญรุ่งเรือง ใครที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยและสัญลักษณ์ต่างๆ ก็น่าจะชอบ
ถัดเข้ามาจะเป็นป้ายของสำนักงานต่างๆ ภายในโครงการ
เทียบให้ดูกับรูปบรรยากาศจริงค่ะ
ภายในโครงการมีช่องจอดรถ 252 คัน ทั้งบริเวณด้านหน้าแต่ละยูนิตและเกาะกลาง หากซ้อนคันแล้วจะจอดได้ประมาณ 300 กว่าคัน มีต้นไม้ตรงกลางช่วยให้ร่มเงา
บรรยากาศจริง ยูนิตที่อยู่ทางซ้ายมือยังไม่เปิดขายค่ะ เป็นเฟสต่อไป
รอต้นไม้มีใบอีกหน่อย รถจะได้ไม่ร้อนมาก
ศาลาและสวนหย่อมเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางยังสร้างไม่เสร็จค่ะ ดูภาพ Perspective กันไปก่อน
บรรยากาศภายในโครงการเมื่อสร้างเสร็จพร้อมกันสองฝั่ง
และที่รวบรวมขยะที่ทำไว้แบบมิดชิดก็ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้ว
เปิดแปลนบ้าน
บ้านของโครงการ Cascade Bangna จะมีแบบเดียวเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 250 ตารางเมตร อยู่บนที่ดินขนาด 20 ตารางวาขึ้นไป หากเป็นหลังที่อยู่แปลงริมก็จะมีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นมา แต่มีอยู่เพียง 4 หลังเท่านั้นค่ะ
แปลนโฮมออฟฟิศ Cascade Bangna
แปลนที่เอามาให้ดูนี้จะเป็นหลังที่อยู่ริม ซึ่งได้พื้นที่ด้านข้างไปด้วย สามารถจัดเป็นสวนได้ ถ้าเป็นยูนิตกลางก็จะไม่มีช่องหน้าต่างเปิดออกมาด้านข้าง ตัวอาคารหน้ากว้าง 5.5 เมตร ลึก 10.65 เมตร บริเวณหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตที่ปลูกหญ้าไว้ให้ ความลึก 3 เมตร
ด้านหน้าที่ติดกับทางเท้าจะมีชานพักยกสูงขึ้นมาอีกประมาณ 10 ซม. และเข้าตัวอาคารอีก 5 ซม. ชั้นนี้จะมีความเป็น Public มากกว่าชั้นอื่นๆ ไว้สำหรับรับรองลูกค้า พื้นที่ส่วนแรกจึงมีฝ้าสูง Double Volume ไปถึงชั้น 2 เพื่อให้ดูโอ่โถงมากยิ่งขึ้น ด้านหน้าสามารถจัดเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับได้ ถัดเข้ามาตรงกลางเป็นพื้นที่วางโซฟาไว้ต้อนรับลูกค้า และหลังบ้านเป็นส่วนรับประทานอาหารและที่วางเคาน์เตอร์ pantry ขนาดกระทัดรัด สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆ และมีห้องน้ำเล็กอีก 1 ห้อง มีห้องเก็บของใต้บันไดด้วย
ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นชั้นลอย สามารถจัดเป็นห้องประชุมหรือจะจัดเป็นห้องโชว์รูมอะไรก็ได้ รอบๆ กั้นรอบด้วยระเบียงกันตก สามารถมองลงไปเห็นโถงชั้นล่างได้ ด้านหลังอาคารจะเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor จัดเป็นที่นั่งเล่น หรือจับสวนหย่อมเล็กๆ ได้ค่ะ โดยห้องน้ำจะแยกอ่างล้างมือออกไว้แยกจากชุดโถสุขภัณฑ์ เพื่อสามารถใช้พร้อมกันได้หลายคน
ชั้นสามจะเริ่มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับจัดเป็นพื้นที่สำนักงาน วางโต๊ะทำงานได้เป็น 10 ตัว ด้านหลังมีพื้นที่ pantry เล็กๆ ติดระเบียง ที่ให้ทั้งแสงธรรมชาติและช่วยเรื่องการระบายอากาศหากเปิดทั้งหน้าต่างด้านหน้าและที่ระเบียงค่ะ ห้องน้ำตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปนี้จะสามารถอาบน้ำได้ด้วย ออฟฟิศไหนทำงานกันดึกๆ สบายเลย (ว่าแต่พนักงานน่าจะไม่อยากอยู่ทำงานกันดึกๆ ใช่ไหมหล่ะ 😛 )
ชั้น 4 จะมีแปลน Layout เหมือนกับชั้น 3 เลยค่ะ แต่แปลนตัวอย่างจัดไว้เป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน ในกรณีเจ้าของออฟฟิศจะทำเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งต้องกั้นประตูเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าเป็นสำนักงานขนาดกลางที่มีคนเยอะพอสมควร ก็สามารถจัดชั้นนี้เป็นห้องทำงานเหมือนกับชั้น 3 ก็ได้ กลายเป็นนั่งทำงานเพิ่มอีก 10 กว่าคน แต่ชั้นนี้จะพิเศษมากขึ้นตรงที่มีระเบียงยาวอยู่ด้านหน้าอาคารด้วย สามารถเอากระถางต้นไม้ไปวางหรือเอาชุดเก้าอี้ไปนั่งพักผ่อนได้สบาย
.
รูปลักษณ์หน้าตาอาคารจากภายนอกค่ะ สไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีขาว – เทา – ดำ และเส้นสายทรงสี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบทำให้ดูทันสมัย ต้องยอมรับว่าออกแบบมาได้สวยและไม่น่าเบื่อเหมือนกับโครงการอื่นๆ ในตลาด
ป้ายที่เขียนว่า Sales Gallery, Cascade, Show Unit จะเป็นที่ติดป้ายของสำนักงานและร้านค้าต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งพอเตรียมไว้แบบนี้แล้วทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบร้อยและเป็นระเบียบ ไม่ใช่ใครจะติดอะไรก็ได้ตามใจฉัน
เส้นสายที่ยึกๆ ยักๆ เป็นกรอบอะลูมิเนียมสีเทาอ่อน
ตัดมาให้ดูเฉพาะหน้าต่างชั้น 3 และระเบียงชั้น 4 ยูนิตที่อยู่ติดกันจะมีแปลนกลับซ้ายเป็นขวา (Mirror) พอมาแปะกันด้านหน้า แผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์จะมาชนกันพอดี
ป้ายโครงการชัดๆ มีป้ายแนวนอนและรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
หน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงทุกบาน
ชุดประตูหน้าต่างชั้นล่างจะสูง Double Floor ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้าตัวอาคารได้เยอะ ความรู้สึกภายในจะโล่งและโปร่ง และดูแกรนด์มากขึ้น
ชานพักก่อนเข้าตัวอาคาร ยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. เวลาแขกไปใครมา ก็ถอดรองเท้าไว้ตรงนี้ ไม่ปะปนกับทางเดินด้านหน้า แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรมีตู้รองเท้าเก็บให้เป็นสัดส่วนเพื่อความเรียบร้อยสวยงามค่ะ
ประตูบานสูง ด้านข้างจะเป็นระแนงเหล็กกล่อง ทั้งทำให้โถงทางเข้าสวยงามและยังใช้บังพวกสายไฟฟ้า ท่อน้ำต่างๆ อีกด้วย
อีกฝั่งเป็นสีเทาอ่อน และมีโคมไฟสีดำ
หลังไหนมีพื้นที่ด้านข้าง สามารถจัดเป็นพื้นที่สวนได้ หรือจะเจาะผนังทำเป็นหน้าต่างบานใหญ่ก็ทำได้ เพราะว่าเป็นโครงสร้างเสา – คาน ผนังก่ออิฐฉาบปูน ไม่ใช่ Precast ค่ะ
ด้านหลังโครงการจะทาสีเทา – ขาว และเซาะร่องระหว่างชั้นไว้ มีบันไดลิงสำหรับหนีไฟด้วย
ด้านหลังจะชนกับโฮมออฟฟิศของโครงการ Enterprize Park Bangna ที่อยู่ทางขวามือพอดีค่ะ หน้าตาคล้ายกัน สูงเท่ากัน
มีบันไดลิงอยู่หลังอาคาร คอมเพรสเซอร์แอร์ส่วนใหญ่จะดึงมาไว้ข้างหลัง เวลามองจากด้านหน้าจะได้เรียบร้อยสวยงาม
ประตูออกหลังบ้านเป็นประตูกระจกบานเปิด
มองกลับเข้าไปในตัวอาคาร
หลังบ้านจะปลูกหญ้าเอาไว้ให้ค่ะ บ่อเกรอะ บ่อซึม อยู่หลังบ้าน
มีถังเก็บน้ำ, ปั๊มน้ำ, ระบบกำจัดกปลวกให้เรียบร้อย ผนังด้านข้างอิฐบล็อคไม่ทาสี
ผนังหลังบ้านเป็นผนังสำเร็จรูป
อีกฝั่งนึงมีก๊อกน้ำสำหรับซักล้างค่ะ
จากบริเวณระเบียงชั้นบนมองลงมาจะเห็นขอบหลังคาคอนกรีตที่อยู่ด้านหลังอาคาร
มองออกไปเห็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนาด้วย
เข้าไปดูบ้านตัวอย่างทั้ง 2 หลังกันค่ะ เริ่มจากหลังที่ตกแต่งให้ดูก่อน แล้วค่อยไปดูหลังเปล่ากัน ความสูงฝ้าภายในตัวอาคารจะไม่เท่ากัน ชั้นล่างบริเวณโถงฝ้าสูง 5.95 เมตร, ส่วนชั้น 1 ทั่วไป ฝ้าสูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 – 4 ฝ้าสูง 2.55 เมตร ส่วนห้องน้ำทุกห้องฝ้าสูง 2.4 เมตรค่ะ
บ้านตัวอย่างโฮมออฟฟิศ คาสเคด บางนา
เข้าตัวบ้านมาแล้วจะเจอโถงสูง 6 เมตร สามารถมองเห็นชั้นสองได้ แต่ประตูด้านข้างที่เห็นของจริงจะไม่มีนะคะ
สามารถจัดเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับได้
ไอเดียห้อยโคมไฟยาวๆ ลงมาจะช่วยเชื่อม space ชั้น 1 และ 2 เข้าด้วยกัน
ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ต่อด้วยห้องรับประทานอาหาร
เป็นพื้นที่สำหรับรองรับลูกค้า
ผนังอีกฝั่งสามารถติดเป็นชั้นวางของหรือถ้าเป็นหลังริมสามารถเจาะช่องหน้าต่างเพิ่มได้ค่ะ
มองกลับไปยังทางเข้า
ประตูหลังโซฟาจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได
อีกซักมุม
มาถึงโต๊ะรับประทานอาหารค่ะ จะอยู่ใกล้กับบริเวณครัวและห้องน้ำ ได้แสงจากหน้าต่างด้านหลัง
วางโต๊ะใหญ่กว่านี้อีกหน่อยก็ยังได้
พื้นที่ครัวจะเตรียมท่อน้ำและปลั๊กไฟเอาไว้ให้ แต่ไม่มีเคาน์เตอร์ให้แบบนี้
ห้องน้ำชั้นล่างมีโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะของผู้ชาย
พื้นที่ประมาณเท่านี้ จึงไม่มีส่วนอาบน้ำ
ขั้นบันไดไปชั้นสองกันค่ะ หลังตัวอย่างนี้จะเปลี่ยนระเบียงชั้นสองเป็นผนังกระจกแทน
มองกลับลงไปที่บันไดทางขึ้นค่ะ
ถึงชานพักจะเจอบันไดชั้น 2 ไปชั้น 3 หลบอยู่ด้านหลัง ทำให้สามารถกั้นห้องชั้น 2 เป็นห้องได้ง่าย และมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดให้อีกห้องด้วย
จากระเบียงเปลี่ยนเป็นผนังกระจกแบบนี้เหมาะกับทำเป็นห้องติดแอร์
กั้นห้องได้ง่ายแบบนี้
สมมุติว่าเป็นห้องประชุมค่ะ
วางโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้อีกหน่อยก็ยังได้ค่ะ พื้นที่ด้านข้างยังเหลือ หรือถ้าลดขนาดเก้าอี้ลงก็นั่งได้อีกหลายที่นั่ง
ฝั่งผนังทึบทำเป็นชั้นวางของหรือตู้ Built-in ได้
มองกลับไปที่ด้านหลัง จะเป็นระเบียงกึ่ง Outdoor
กั้นด้วยประตูบานเลื่อนค่ะ
มีพื้นที่ระเบียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ เพื่อมานั่งพักผ่อนหลังประชุมเครียดๆ ได้ (หรือไม่ก็หนีออกมาสูบบุรี่ 555)
ปลูกต้นไม้ในกระถางช่วยให้เย็นขึ้นและยังช่วยกรองความร้อนที่ส่องเข้ามาด้วย
ห้องน้ำชั้นนี้จะแยกเอาอ่างล้างมือออกมาข้างนอกค่ะ ทำให้ใช้ห้องน้ำได้พร้อมกันหลายคน
ภายในห้องน้ำค่ะ มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 บาน
ขึ้นบันไดไปชั้น 3 กันต่อ บริเวณโถงบันไดมีช่องแสงให้เป็นระยะๆ ส่วนขั้นบันไดนี่ ถ้าใส่ถุงเท้ามันลื่นมากเลย
ชั้น 3 กั้นเป็นห้องทำงาน
โถงตรงกลางเข้าห้องน้ำและแพนทรี่ก่อนเข้าห้อง
ภายในห้องทำงานจะได้ห้องหน้ากว้าง 5.5 เต็มที่ วางโต๊ะทำงานวางติดผนังฝั่งนึงได้ประมาณ 5 – 6 ที่นั่ง
อีกส่วนนึงวางโต๊ะประชุมไว้ตรงกลางได้ หรือจะจัดเป็นโต๊ะทำงานเพิ่มก็ได้
อีกซักมุม
มองกลับไปที่ทางเข้าค่ะ หลังที่จะได้จริงไม่มีประตูบานเลื่อนให้ แต่เหมาะที่จะกั้นมากเพราะจะช่วยให้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ติดแอร์ได้ ซึ่งอันนี้แล้วแต่การใช้งาน
ถ้าเป็นหลังริมจะได้หน้าต่างด้านข้างด้วย
ด้านหน้าจะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง และหน้าต่างขนาดใหญ่แต่เป็นบานติดตายค่ะ
โซนนี้เป็นโต๊ะทำงานหัวหน้า กั้นด้วยฉากกั้นห้อง
กลับไปที่โถงทางเดินบ้าง
มีพื้นที่สำหรับทำเป็นแพนทรี่เล็กๆ ไว้ให้ มากินน้ำ กินขนม ตอนพัก หรือไม่ก็ต้มมาม่าแก้หิว ของจริงก็ไม่มีเคาน์เตอร์ให้ ต้องตกแต่งเพิ่มนะคะ
แพนทรี่จะอยู่ติดระเบียงค่ะ ความกว้างประมาณ 90 ซม. วางกระถางต้นไม้ช่วยบังแดดได้ดี
จากแพนทรี่มองกลับไปที่ห้องทำงาน
ห้องน้ำชั้นนี้จะเริ่มอาบน้ำได้ค่ะ แบ่งส่วนแห้งเปียกไว้เรียบร้อย พร้อมกับมีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศให้ 1 บาน
ชั้นสุดท้ายแล้วค่ะ ชั้นนี้สมมุติว่าเป็นที่อยู่อาศัย
แปลนโดยรวมจะเหมือนกับชั้น 3 เลยค่ะ เจอโถงกลางก่อน
แต่ชั้นนี้จะเพิ่มระเบียงยาวด้านหน้ามาให้ค่ะ
ฝั่งหัวเตียง ถ้าเป็นหลังริมจะมีช่องแสง พื้นที่กว้างขวางมาก
มุมตรงๆ
ข้างหัวเตียงเป็นชุดเก้าอี้นั่งอ่านหนังสือ พร้อมกับฝ้าที่อยู่ติดระเบียงจะยกสูงขึ้นกว่าตัวห้อง
อีกฝั่งนึงเลยทำเป็นชั้นหนังสือทรงสูง เกร๋ๆ ไป
ปลายเตียงวางโซฟาและชั้นวางทีวี อันนี้พื้นที่เหลือเฟือจัดกันตามใจชอบ
ระเบียงข้างห้องนอนกว้าง 1.6 เมตร กั้นด้วยกระจก Tempered Glass เอากระถางต้นไม้มาปลูกได้จริงๆ จังๆ
อีกฝั่งไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งมีฉากอลูมิเนียมฉลุลายกราฟิกบังสายตาเอาไว้ให้
มองกลับไปที่ทางเข้าห้องค่ะ ตรงกับระเบียงด้านหลังพอดี ดังนั้นก็เปิดหน้าต่างหน้าหลังให้ลมถ่ายเทได้มากขึ้น
บริเวณโถงกลางนี้จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า, ห้องน้ำ และระเบียงด้านหลังค่ะ
ตู้เสื้อผ้ามาอยู่แทนที่แพนทรี่
ซูมเข้ามาอีกนิด ติดระเบียงทำเป็นโต๊ะแต่งหน้าได้อีก
ห้องน้ำเหมือนชั้น 3 เป๊ะ
มองกลับไปที่ทางเข้าห้องนอน
ตัวอย่างโฮมออฟฟิศ คาสเคด บางนา
ทีนี้เข้ามาหลังเปล่าที่จะได้ค่ะ จะได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาวแบบนี้ พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว
บันไดจะถอยจากหน้าต่าง-ประตูทางเข้าไปประมาณ 80 ซม. ซึ่งมีฉากกั้นบันไดทางขึ้นให้เรียบร้อย
โถงทางเข้าสูง 5.95 เมตรค่ะ ฝ้าฉาบเรียบ เห็นระเบียงชั้น 2
ระเบียงชั้นสองเป็นเหล็กสีดำ สไตล์โมเดิร์น
พื้นที่ว่างตรงกลาง
ใต้บันไดเป็นตู้เก็บของ
เก็บตู้ไฟไว้ในนี้ค่ะ เรียบร้อยดี
พื้นที่ว่างระหว่างหลังบันไดและห้องเก็บของจะเป็นที่สำหรับวางแพนทรี่
ห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำ โทนสีขาว
ขึ้นชั้นสองมาก็เจอบันไดไปชั้น 3 และห้องเก็บของใต้บันได
ห้องเก็บของใต้บันไดที่ชั้น 2
มองกลับลงไปที่ตัวบันได มีราวบันไดอยู่ติดผนังด้านข้างตลอดแนวทางขึ้นลง
ชั้นลอยชั้นสองค่ะ หลังเปล่าจะได้ระเบียงกั้นแบบนี้
มองเห็นหน้าต่างสูงด้านหน้า
บริเวณราวกันตกฝั่งที่อยู่ติดบันได
มองลงมาที่โถงด้านหน้าค่ะ
ด้านหลังจะเป็นระเบียงใหญ่
พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสและห้องน้ำ
อ่างล้างหน้าแยกออกมาต่างหาก
ชั้นสามค่ะ จะได้ห้องโล่งๆ แบบนี้ ด้านหน้ามีหน้าต่างบานติดตายขนาดใหญ่ และบานแคบที่เป็นบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศ
มองกลับไปที่ด้านหลังค่ะ เป็นส่วนของห้องน้ำ และระเบียง
ระเบียงด้านหลัง
ชั้น 4 ก็ได้ห้องโล่งๆ เช่นกัน แต่มีระเบียงใหญ่ด้านหน้าด้วย
ด้านหลังเป็นห้องน้ำ และระเบียงเล็ก
ประตูออกระเบียงเป็นบานเลื่อนคู่ 2 ชุด และมีบานติดตายอีกหนึ่งบาน
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
โฮมออฟฟิศของ Cascade Bangna จะได้เป็นบ้านเปล่าค่ะ โครงสร้างเสา-คาน ผนังก่ออิฐ ซึ่งทำให้สามารถเจาะผนังเชื่อม 2 ยูนิตเข้าด้วยกันก็ได้ พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้นอื่นๆ จะปูพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ห้องน้ำที่ได้เป็นเกรดมาตรฐาน โดยรวมแล้วสัมผัสดีค่ะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวต้องมาทำเพิ่มเอาเอง
วัสดุห้องครัว
บริเวณแพนทรี่จะมีแต่ท่อเตรียมเอาไว้ให้ค่ะ
หากทำเคาน์เตอร์จะจัดได้ขนาดประมาณนี้ ด้านข้างเผื่อไว้วางตู้เย็น
วัสดุห้องน้ำ
อ่างล้างมือเรซินสีขาว ยี่ห้อ Mogen แบบมีชั้นเก็บของอยู่ใต้อ่าง เฉพาะห้องน้ำชั้น 3 และ 4
เก็บของได้ไม่เยอะเท่าไหร่
ส่วนชั้น 1 และ 2 อ่างล้างมือไม่มีชั้นเก็บของค่ะ Mogen เช่นกัน
ก๊อกน้ำแบบก้านโยก American Standard
ชุดกระจกติดผนัง เป็นกระจกบานเปลือยและชั้นวางของเป็นฐาน
แต่ถ้าเป็นชั้น 3 – 4 จะมีขอบปูนหลังอ่างล้างหน้า ทำให้วางของได้เยอะขึ้นค่ะ
โถสุขภัณฑ์สีขาว Mogen เป็นแบบธรรมดาหรือ soft-closed ไม่แน่ใจ เพราะปิดสติกเกอร์เอาไว้เลยทดลองเปิดดูไม่ได้
เฉพาะห้องน้ำชั้นล่างเท่านั้นจะมีโถปัสสาวะชาย Mogen ให้ด้วยค่ะ
ราวตากผ้า
ชั้น 3 ชั้น 4 ห้องน้ำจะมีพื้นที่อาบน้ำด้วย แบ่งเป็นส่วนเปียกโดยยกขอบธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 2 ซม. สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้
หน้าตาฝักบัวค่ะ ยีห้อ Mogen เช่นกัน กระเบื้องผนังเป็นลวดลายกราฟิก ต่างกับส่วนอื่นที่เป็นผนังติดกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อน
หน้าต่างบานกระทุ้งในห้องน้ำ บานอะลูมิเนียมสีดำ กระจกฝ้า
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ชานพักหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีดำ กระจกหน้าต่างเขียวตัดแสง หน้าต่างด้านหน้าสูง 5.9 เมตร
บานจับประตูทางเข้า เป็นทรงเหลี่ยมๆ เข้ากับตัวอาคาร
ผนังด้านข้างเป็นระแนงอะลูมิเนียม เส้นแนวตั้งค่ะ ฝั่งนึงจะเป็นสีเทาอ่อน
ส่วนอีกฝั่งเป็นอะลูมิเนียมสีดำค่ะ ทั้งสองฝั่งจะทำหน้าที่ตกแต่งและบังพวกงานระบบไว้ให้ดูสวยงาม
ทุกบานประตู หน้าต่าง เป็นอะลูมิเนียม สีดำ
ตัวบ้านยกสูงขึ้นอีกประมาณ 5 ซม.
ชุดหน้าต่างและประตูออกหลังบ้านค่ะ กรอบอะลูมิเนียมและกระจกเขียวตัดแสง
ลูกบิดประตูทั่วไปในในบ้านเป็นก้านโยก
ประตูภายในทุกบานทำจาก HDF ทำสีขาว มีเซาะร่อง
พื้นที่เก็บของฝ้าจะเฉียงๆ ตามท้องบันได
แผงอะลูมิเนียมฉลุลาย บริเวณชานพักบันไดขึ้นชั้น 2
หน้าต่างสูง 5.9 เมตร
ระเบียงเหล็กทาสีดำ ที่ชั้นสอง
ประตูบานเลื่อนออกระเบียงชั้น 2 ค่ะ
พื้นระเบียงลดระดับลงไปเล็กน้อย
ราวจับบันไดไม้สำเร็จรูป สีน้ำตาลเข้ม โครงเหล็กสีดำ
พื้นบันไดทำจากไม้สำเร็จรูป ขัดมันแว๊บบบบ.. ถ้าใส่ถุงเท้านี่พื้นลื่นใช้ได้ค่ะ
ราวบันไดชั้นบน ทำจากเหล็กพ่นสีดำ
พื้นชั้นสองปูพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. สีน้ำตาลเข้ม ไม่มีบัวเชิงผนัง
สวิตซ์ไฟสีขาวแบบทั่วไป
ระเบียงชั้น 4 เป็นกระจก Tempered Glass
โคมไฟตรงกล่องที่บริเวณระเบียง
พื้นห้องน้ำลงระดับลงมาจากตัวบ้าน 5 ซม.
ประตูห้องน้ำมีวงกบ PVC สีขาว เก็บความเรียบร้อย
เป็นสัญญาณที่คอยบอกว่า ประตูไหนเปิด-ปิด อยู่ และจะส่งเสียงตลอดเวลาประตูเปิด
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (3 ธันวาคม 59) แบบบ้านโฮมออฟฟิศ พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 20 ตารางวา โดยสร้างอาคารเต็มพื้นที่ดินเลยค่ะ ราคาตอน Pre-sale 11.99 ล้านบาท ราคาปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 12.29 ล้านบาทแล้วค่ะ บางแปลงจะมีพื้นที่ดินเพิ่มขึ้นมาบ้าง โดยราคาที่ดินเพิ่มลดอยู่ที่ 150,000 บาท/ตารางวา ราคาเฉลี่ยแล้วประมาณ 14-15 ล้านบาท
ราคา ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2559
ราคาเริ่มต้น :
แปลง 16 ขนาดที่ดิน 21.30 ตร.วา ทิศใต้ ราคา 14.19 ล้านบาท โปรโมชั่นลดเหลือ 12.29 ล้านบาท
แปลง 5,11,12,18 ขนาดที่ดิน 21.30 ตร.วา ทิศใต้ ราคา 15.69 ล้านบาท โปรโมชั่นลดเหลือ 14.69 ล้านบาท
แปลง 6 – 10 ขนาดที่ดิน 20.80 ทิศใต้ ราคา 14.25 ล้านบาท โปรโมชั่นลดเหลือ 13.25 ล้านบาท
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
แปลง 16 จอง 50,000 บาท, ทำสัญญา 150,000 บาท
แปลง 5,11,12,18 จอง 50,000 บาท , ทำสัญญา 150,000 บาท
แปลง 6 – 10 จอง 20,000 บาท , ทำสัญญา 30,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 160 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่าธรรมเนียมโอนผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง
ค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ และค่าอากรสแตมป์ ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
ค่าใช้จ่ายในการขอติดตั้ง, ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าและมิเตอร์ประปา ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
Promotion :
ถังเก็บน้ำบนดิน
ปั๊มน้ำ
เดินท่อน้ำยากันปลวก
สัญญาณกันขโมย ( ระบบไร้สาย )
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนค่ะ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
แปลง 16 ราคา 12.29 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 73,399 บาท/เดือน
แปลง 5,11,12,18 ราคา 14.69 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 87,733 บาท/เดือน
แปลง 6 – 10 ราคา 13.25 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 79,133 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
แปลง 16 ราคา 12.29 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 78,409 บาท/เดือน
แปลง 5,11,12,18 ราคา 14.69 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 93,720 บาท/เดือน
แปลง 6 – 10 ราคา 13.25 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 84,533 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
แปลง 16 ราคา 12.29 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 86,580 บาท/เดือน
แปลง 5,11,12,18 ราคา 14.69 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 103,487 บาท/เดือน
แปลง 6 – 10 ราคา 13.25 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 93,343 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
แปลง 16 ราคา 12.29 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 101,158 บาท/เดือน
แปลง 5,11,12,18 ราคา 14.69 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 120,912 บาท/เดือน
แปลง 6 – 10 ราคา 13.25 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 109,059 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
แปลง 16 ราคา 12.29 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 131,858 บาท/เดือน
แปลง 5,11,12,18 ราคา 14.69 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 157,608 บาท/เดือน
แปลง 6 – 10 ราคา 13.25 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 142,158 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
การเดินทางจากโครงการ Cascade Bangna นั้น เหมาะกับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะเป็นหลักค่ะ เพราะเป็นถนนไฮเวย์ หรือถนนทางหลวงมีความกว้างของถนนมาก เวลาเดินทางไปไหนมาไหนต้องขับรถไปกลับจะสะดวกกว่าการนั่งรถสาธารณะ ปัจจุบันและในอนาคตถนนเส้นนี้ไม่มีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน แต่ก็มีรถสาธารณะ อย่าง รถโดยสารประจำทาง รถเมล์ แท๊กซี่ มอเตอร์ไซต์ ผ่านอยู่ตลอด สามารถนั่งต่อไปขึ้น BTS สถานีบางนาหรือสถานีอุดมสุข ที่อยู่ห่างไป 5.8 , 6.6 กิโลเมตรเพื่อเข้าตัวเมืองได้ หรือจะใช้พวกถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์ เข้าตัวเมืองได้เช่นกัน แต่ถ้าพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ทั้งก็ครบถ้วนทั้ง Bitec Bangna, Central Plaza Bangna, Big C Super Center, Tesco Lotus, SB Furniture, Chic Republic, Mega Bangna, Paradise Park, Seacon Square โซนนี้มีเพียบค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
โครงข่ายรถไฟฟ้าใกล้ที่สุดในอนาคตจะเป็นสายสีเหลือง ที่วิ่งมาตามแนวถนนศรีนครินทร์ ไปจบตรงสำโรง ถ้าทำเสร็จพื้นฐานอาจจะเปลี่ยนบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่น่าถึงกับหวือหวามาก เพราะไม่ไกลนักก็มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ตรงบางนารอรับอยู่แล้ว
ถนนบางนา-ตราด ก็ถือว่ามีทุกอย่างค่อนข้างครบ พัฒนาตัวเองไปอย่างช้าๆ ไม่ได้หวือหวามาก ยังถือว่ามีที่ดินแปลงว่างๆ อีกพอสมควร แต่ก็ยังจะเป็นเส้นทางสัญจรหลักที่ใช้เชื่อมกรุงเทพฯ กับทางภาคตะวันออกไปอีกนานค่ะ อนาคตตรงแยกบางนาจะมีโครงการ Bangkok Mall จากเครือ The Mall Group ที่ตั้งใจจะให้เป็น Flagship ในย่านนี้ มีทั้งศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ สวนสนุก คอนโดมิเนียม และสำนักงาน ครบวงจร ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ภาพรวมของ Cascade Bangna ขอบอกว่าทำออกมาได้น่าประทับใจค่ะ รู้สึกฉีกแนวจากโฮมออฟฟิศแบบเดิมไปได้ดี รูปลักษณ์ด้านหน้าทำออกมาได้โมเดิร์นจัด เรียบ เท่ โดยใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดัดอลูมิเนียมหักไปหักมาตามอาคารทำให้ดูมีลูกเล่นที่น่าสนใจ ชั้น 1 และชั้น 2 ด้านหน้าให้หน้าต่างสูง และโถงสูง 6 เมตร เพื่อให้ดูโอ่โถงสำหรับต้อนรับลูกค้า ผลพลอยได้คือได้แสงธรรมชาติมากขึ้น ภายในรู้สึกโล่งและกว้างมากขึ้น แต่ก็จะเปลืองแอร์มากขึ้นอีกหน่อยเป็นธรรมดา เวลาตกแต่งสเปซอาจจะต้องเผื่อม่านบังแดดเผื่อดึงลงมาปิดในบางช่วงเวลาด้วย นอกจากนั้นในแต่ละชั้นจะมีประตูบานเลื่อนออกระเบียงด้านหลัง ซึ่งช่วยให้ท้ายอาคารไม่มืดเหมือนอาคารพาณิชย์ทั่วๆ ไป และสามารถเปิดประตูด้านหลังกับหน้าต่างด้านหน้า ให้ลมพัดผ่านตัวอาคารได้ค่ะ
ฟังก์ชั่นชั้นล่างๆ จะเน้นความเป็นสาธารณะ (Semi-public space) มากกว่าชั้นบนค่ะ อย่างชั้นล่างสุดจะเป็นห้องน้ำเล็กไม่มีที่อาบน้ำ พอชั้น 2 ห้องน้ำจะเอาอ่างล้างหน้าออกมา แยกจากตัวห้องน้ำ อาจจะเหมาะกับชั้นที่มีคนใช้งานเยอะ พอชั้น 3 – 4 จะเริ่มเป็นห้องน้ำที่อาบน้ำได้ และเอาบันไดไปไว้ด้านหลัง เพื่อให้พื้นที่ว่างด้านหน้าสามารถกั้นแยกเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนขนาดใหญ่ได้ค่ะ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ของ Cascade บางนา ที่เราชอบก็จะเป็นพวกการเตรียมพื้นที่ติดป้ายบริษัทและร้านค้าต่างๆ ที่ด้านหน้าอาคารและหน้าโครงการให้เรียบร้อย การสร้างตัวอาคารเต็มพื้นที่ ดังนั้นไม่สามารถต่อเติมยื่นโครงสร้างอะไรออกไปได้อีก ก็คงจะไม่มีบริษัทหรือร้านค้าไหนสร้างอะไรมาออกรบกวนเพื่อนบ้านได้ง่ายๆ ทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบร้อยไปอีกนาน
วัสดุของคาสเคด บางนาได้ตามมาตราฐานทั่วไป ไม่ถึงกับว้าวมาก เพราะยังไงแต่ละบริษัทก็ต้องมาตกแต่งเอาตามสไตล์ของแต่ละสำนักงานอยู่แล้ว อาคารได้โครงสร้างเสา-คาน ผนังก่ออิฐแบบ Conventional เพราะต้องการให้มีความยืดหยุ่น ลูกค้าสามารถเจาะผนังเชื่อม 2 ยูนิตเข้าด้วยกันได้ ภายในได้ผนังฉาบเรียบ ทาสีขาว ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่สีขาว ชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนตสีเข้ม หนา 8 มม. ประตู-หน้าต่างบานกรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง ระเบียงทั่วไปเป็นเหล็กทาสีดำ ยกเว้นระเบียงชั้น 4 ด้านหน้าจะได้กระจก Tempered Glass แต่ละห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Megan และ American Standard ค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางนั้นยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีค่ะ มีสวนสาธารณะเล็กๆ และศาลานั่งพักผ่อนขนาดประมาณ 47 ตารางวา อยู่ตรงกลางโครงการ ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่ ทั้งโครงการมีซองจอดรถ 252 คัน หรือ 4 คันต่อ 1 ยูนิต หากรวมซ้อนคันจะได้ประมาณ 300 คันค่ะ ซึ่งการจัดสรรที่จอดรถยังไม่กำหนดแน่ชัดว่าต้องรอนิติบุคคล และลูกบ้านมาตกลงกันอีกที ลูกบ้านจะได้ Key Card ผ่านป้อมยามยูนิตละ 2 ใบ นอกนั้นต้องแลกบัตรเพื่อเข้ามาจอดรถทั้งหมดค่ะ นอกจากนี้ก็จะเตรียมที่เก็บขยะเอาไว้ให้ใกล้กับป้อมยาม เพื่อรถขยะจะได้เข้ามารับจากจุดนั้นจุดเดียว ไม่ต้องเข้าไปวนทั่วโครงการค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy