สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชม RHYTHM Asoke II เป็นคอนโดสูง 30 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น จาก AP ที่พัฒนาโครงการร่วมกับ Mitsubishi Estate Group คอนโดตั้งอยู่ติดถนนอโศก-ดินแดง ใกล้แยกพระราม 9 และห่างจาก MRT พระราม 9 ไปประมาณ 300 เมตร ตอนนี้โครงการ RHYTHM อโศก 2 ก็เพิ่งจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา (ปี59) เราได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโครงการกันเลยมีรายละเอียดคอนโดริทึ่ม อโศก 2 แบบเจาะลึกกันพร้อมบรรยากาศจริงๆ ด้านในโครงการมาให้ชมกันค่ะ
รีวิว Rhythm Asoke 2 (Rhythm อโศก 2) คอนโดพร้อมอยู่จาก AP ใกล้แยกพระราม 9
· 32 min readข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ
RHYTHM Asoke II (RHYTHM อโศก 2)
- เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนอโศก-ดินแดง ใกล้สี่แยกพระราม 9
- ขนาดที่ดิน >>> 1-2-28 ไร่
- จำนวนชั้น >>> 30 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
- สตูดิโอ ขนาด 22.20 และ 27 ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน ขนาด 27.70-29.50 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 346 ยูนิต และยูนิตเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 136 คัน คิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดรถซ้อนคัน)
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> วันที่ 20/12/59 ราคา 1 ห้องนอน เริ่ม 4.31 ล้านบาท
- Update (25 มีนาคม 2561) ราคาห้องสตูดิโอ 23 ตร.ม. ชั้น 20 เริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ประมาณ 150,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.753909, 100.564835
- เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
- โทร >>> 1623 / 0-2261-2518
จากตัวสถานี MRT พระราม 9 เราขึ้นมาที่ทางออก 3 เป็นทางออกที่อยู่ด้านหน้าอาคาร G Tower ที่เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ
เดินมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9
ถึงแยกพระราม 9 แล้วก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ
มาอยู่ตรงฝั่งถนนอโศก-ดินแดงแล้ว บริเวณนี้อย่างที่รู้ๆ กันว่ารถก็ค่อนข้างติด เดินมาเร็วและสะดวกกว่า แต่กลางวันแดดร้อนหน่อย โครงการจะอยู่ฝั่งที่มุ่งหน้าไปแยกอโศก-เพชรบุรี
เดินมาเจอสะพานข้ามคลองสามเสน เห็นตัวคอนโด Rhythm Asoke 2 อยู่เด่นชัด ตามลูกศรสีม่วงเลยค่ะ
เดินมาเรื่อยๆ ตามทางเท้าผ่านซอยเลิศแก้ว 2 ที่ปากซอยเป็นร้านให้เช่ารถยนต์ ติดกันก็เป็นตัวที่ดินโครงการแล้วค่ะ
ถึงด้านหน้าโครงการแล้ว
เงยหน้ามองตัวอาคารกันหน่อย
คอนโด RHYTHM Asoke 2 ตั้งในโซนรัชดา-พระราม 9 ที่คาดการกันไว้ว่าจะเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งฝั่งที่ตั้งโครงการนั้นจะเป็นฝั่งถนนอโศก-ดินแดง ขาเข้าเมือง การใช้ที่ดินฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานที่ไม่ได้เป็นอาคารสูงค่ะ มีซอยเข้าไปด้านในเป็นบ้านพักอาศัย ส่วนอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในย่านนี้ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ค่อนข้างจะคึกคักและก็มีมูลค่าเติบโตขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ราคาพุ่งสูงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามที่เป็นฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปแยกพระราม 9 นั้นจะมีคอนโด RHYTHM Asoke 1 (หมายเลข 1) ตัวแรก ที่สร้างเสร็จไล่ๆ กัน โดยเริ่มโอนกันไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ติดกันจะเป็นคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก (หมายเลข 2) ที่ซื้อเหมาโครงการมาจาก AQ Estate กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างค่ะ
ข้ามคลองสามเสนมาตรงหัวมุมสี่แยกพระราม 9 ก็จะเจอที่ดินที่กั้นเอาไว้เดิม คือ อัมสเตอร์ดัม ที่เป็นสถานบันเทิงสำหรับคุณผู้ชาย แต่ตอนนี้ถูกซื้อไปโดย อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (หมายเลข 3) ที่ก็น่าจะพัฒนาโครงการประเภทคอนโดระดับ Luxury Segment จะเห็นว่าปีที่ผ่านมา ทำเลตรงนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าจับตามองเลย หลายโครงการเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง อย่างแสนสิริก็เปิดคอนโด The Line อโศก-รัชดา (หมายเลข 4) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกพระราม 9 ฝั่งถนนดินแดง ราคาเฉลี่ยโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาท จะเห็นได้ว่า มูลค่าคอนโดใหม่ๆ ที่เปิดตัวในบริเวณนี้ มีแนวโน้มที่ราคาจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ฝั่งด้านถนนดินแดงเลยจากเดอะ ไลน์ไปก็จะมีคอนโด The Mark รัชดา-แอร์พอร์ตลิ้งค์ (หมายเลข 5) และ ศุภาลัย ปาร์ค อโศก-รัชดา (หมายเลข 6) เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปได้สักพักทั้งคู่ แต่ทำเล 2 โครงการนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากตัว MRT ค่ะ
ส่วนฝั่งสี่แยกพระราม 9 ด้านถนนพระราม 9 ก็จะมีคอนโด Ideo Mobi พระราม 9 (หมายเลข 7) สูง 28 ชั้นจากอนันดาฯ ติดกันจะเป็น คอนโด Condolette Midst (หมายเลข 8) ของพฤกษาค่ะ สูง 30 ชั้น ถัดเข้าไปด้านใน ข้ามคลองสามเสนในจะเป็นคอนโด Aspire พระราม 9 (หมายเลข 9) มี 2 อาคารสูง 23 ชั้น และ 25 ชั้น จาก AP อีกหนึ่งโครงการในย่านนี้ โดยที่ทั้ง 3 โครงการจากฝั่งนี้ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปหมดแล้วค่ะ
ตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนพิเศษศรีรัชเลยค่ะ ออกโครงการไปเลี้ยวซ้ายก็เป็นทางขึ้นทางด่วนแล้ว ข้ามทางด่วนก็เป็น Airport Rail Link มักกะสัน เชื่อมต่อกับ MRT เพชรบุรี ซึ่งตรงนี้ก็จะมีโรงพยาบาลผิวหนังอโศก และคอนโด Life อโศก (หมายเลข 10) คอนโดจาก AP อีกตัวที่ตั้งอยู่ใกล้กับแยกอโศก-เพชรบุรี และย่าน CBD อย่างอโศกค่ะ
ฝั่งถนนรัชดาภิเษกและถนนพระราม 9 จะเป็นพื้นที่ที่เรียกรวมๆ ว่า เดอะ แกรนด์ พระราม9 (The Grand Rama 9) เป็นที่ดินของ G Land ซึ่งทางจีแลนด์ต้องการจะพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นย่าน CBD ใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ อย่าง อาคารสำนักงาน G-Land Tower (หมายเลข 11) ,โรงแรม, ศูนย์ประชุม, นอกจากนี้ก็มีแหล่งช็อปปิ้งหลักอย่าง ศูนย์การค้า Central Plaza Grand Rama 9 (หมายเลข 12) ส่วนฝั่งตรงข้ามบนถนนรัชดาภิเษกหัวมุมจะเป็นโรงแรม Grand Mercure Fortune ติดกันเป็นศูนย์การค้า Fortune Town (หมายเลข 13) ที่ร้านพวกอุปกรณ์ไอที ด้านในมี Tesco Lotus อยู่ด้วยค่ะ ซึ่งบริเวณนี้ก็เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 ที่มีทางขึ้นลงอยู่ติดทั้งฟอร์จูน และเซ็นทรัลนั่นเอง
ภาพบรรยากาศจากสี่แยกพระราม 9 หันหน้าไปถนนอโศก-ดินแดงค่ะ ตัวคอนโด RHYTHM ASOKE 2 จะเป็นอาคารสูงเดียวของฝั่งขาเข้าเมือง รอบๆ ยังโล่งทีเดียว ต่างจากฝั่งตรงข้ามที่เป็นคอนโดขึ้นเรียงกันเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปรอบๆ ที่ตั้งโครงการ ก่อนจะเข้าโครงการกันค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับ Rhythm Asoke 2 จะเป็นคอนโด Rhythm Asoke ตัวแรก เรียกว่าเป็นโครงการพี่ โครงการน้องกันก็ได้
Chewathai Residence Asoke สูง 29 ชั้น จากชีวาทัย
ถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งเดียวกับที่ตั้งโครงการมุ่งหน้าไปทางด่วนพระราม 9 และแยกอโศก-ดินแดง
ติดกับโครงการจะมีป้ายรถประจำทางอยู่ค่ะ
ทางด่วนพระราม 9
อาคารพาณิชย์ 5 ชั้นที่อยู่ติดกับโครงการ
ซอยเลิศแก้ว 2 ปากซอยทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นร้านเช่ารถยนต์ค่ะ ด้านในจะเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย
อาคาร RockWorth ด้านหน้าเป็นโชว์รูมขายเฟอร์นิเจอร์ และด้านในจะเป็นออฟฟิศ
หัวมุมสี่แยกพระราม 9 ฝั่งระหว่างถนนดินแดงกับถนนอโศก-ดินแดง เดิมเป็นสถานบันเทิงเก่า อีกหน่อยก็กลายเป็นคอนโดเช่นกัน
โรงแรม Grand Mercure Fortune และ ศูนย์การค้า Fortune Town ส่วนอาคารสีดำๆ หน้าตาโดดเด่นเป็นรูปตัว G คืออาคารสำนักงาน G-Land Tower ค่ะ
จากแยกพระราม 9 มองไปฝั่งถนนรัชดาภิเษก
เซ็นทรัล พระราม 9
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
ดูรอบๆ โครงการ RHYTHM อโศก 2 เข้าไปชมบรรยากาศด้านในโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่กันเลยค่ะ
เริ่มจากป้ายด้านหน้าโครงการกันก่อนเลย พื้นหลังเป็นกระเบื้องหินธรรมชาติหินธรรมชาติสีน้ำตาลตัดกับป้ายชื่อโครงการสีขาว
ป้อมยามด้านหน้าทางเข้าโครงการ
ทางขึ้นที่จอดรถค่ะ ส่วนนี้ต้องใช้คีย์การ์ดสำหรับขึ้นไปอาคารจอดรถเท่านั้น ส่วน Visitor จะมีที่จอดรถไว้ให้ที่ชั้น 1 ค่ะ
ถนนด้านหน้าวนรอบตัวอาคารค่ะ
ด้านหน้าทางเข้าออกอาคารที่เป็นจุด Drop-off จะเป็นสวนหิน บ่อน้ำพุ และปลูกต้นไม้ดูเป็นสไตล์ญี่ปุ่น
บ่อน้ำพุแบบชัดๆ
ถนนด้านข้าง เดินรถทางเดียววนรอบโครงการ ส่วนตัวที่จอดรถสำหรับ Visitor จะอยู่ด้านหลังค่ะ
ทางเข้าอาคารแบบชัดๆ อีกรูปค่ะ ป้ายโครงการและกำแพงกั้นระหว่างทางเข้าอาคารกับทางเข้าที่จอดรถก็เป็นโทนสีน้ำตาลเหมือนป้ายโครงการด้านหน้าค่ะ
เปิดประตูเข้ามาด้านในตัวอาคารกันเลย
โถง Lobby ภายในอาคาร ตกแต่งด้วยหินอ่อน
ติดกับเคาท์เตอร์ด้านหน้าจะเป็นทางเข้าห้องน้ำส่วนกลาง Material ที่ใช้หรูหราทีเดียว กระเบื้องหินที่ใช้สะท้อนกับแสงไฟก็ดูสวยงามดี
บรรยากาศภายใน Lobby จะตกแต่งด้วยหินอ่อนระดับโทนสีอ่อนเข้มตัดกัน
มุมสวนหินเล็กๆ อีกมุม
ทางเดินเข้าห้องจดหมายทางซ้ายมือ, ลิฟต์โดยสารทางขวามือ และห้องนิติบุคคลที่อยู่ในสุดค่ะ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
คอนโดริทึ่ม อโศก 2 มีทางเข้าออกอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง เป็นถนนฝั่งละ 3 เลน มีเกาะกลาง ทางทิศเหนือของตัวที่ดินจะเป็นกรุงไทยคาร์เร้นท์ ศูนย์เช่ารถยนต์สูง 1 ชั้น และซอยเลิศแก้ว 2 ที่ด้านในเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัยค่ะ ส่วนทางทิศใต้ก็จะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ถัดไปก็เป็นทางด่วนพระราม 9 มองไปฝั่งตรงข้ามทางถนนอโศก-ดินแดงทางทิศตะวันตก เป็นคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและ คอนโด ริทึ่ม อโศก 1 ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไล่ๆ กัน ด้านหลังโครงการจะเป็นฝั่งทิศตะวันออก ติดกับที่โล่งที่เป็นที่ดินบุคคลอื่น วิวรวมๆ จะค่อนข้างโล่ง ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดค่ะ
วิวทางทิศตะวันตกที่หันเข้าถนนอโศก-ดินแดง จะเป็นคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก และ คอนโดริทึ่ม อโศก 1
วิวจากชั้นดาดฟ้า มองไปแยกพระราม 9 ค่ะ
ฝั่งถนนพระราม 9 ทางทิศเหนือ ไล่จากซ้ายจะเป็น G-Land Tower , คอนโด Ideo Mobi พระราม 9, คอนโด Condolette Midst และ คอนโด Aspire พระราม 9 อยู่ค่อนข้างห่าง ซึ่งระยะใกล้ๆ จะไม่มีอาคารสูงอยู่เลยค่ะ
ทางทิศเหนือที่ติดกับที่ดินโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ
ด้านหลังที่เป็นที่โล่ง
วิวทางทิศตะวันออก มองเห็นทางด่วนพระราม 9
วิวเมืองฝั่งถนนเพชรบุรีค่ะ
ทิศใต้ทางฝั่งมุ่งหน้าไปแยกอโศก-เพชรบุรี มองเห็นตัวสถานีแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน เห็นคอนโด Life Asoke ที่กำลังก่อสร้างอยู่
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ทิศทางแดดของ Rhythm อโศก 2 ด้วยความที่แปลนอาคารเป็นรูป L เลยจะมีห้องพักอาศัยหันไปทุกทิศเลยค่ะ ฝั่งที่หันเข้าสระว่ายน้ำจะเป็นทิศตะวันตกกับทิศใต้ ร้อนหน่อยแต่ได้วิวสระว่ายน้ำมาชดเชย ส่วนฝั่งที่หันออกด้านนอก ถ้าหันไปทางพระราม 9 จะเป็นทิศเหนือ วิวตรงนี้ก็จะโล่งๆ ไม่ได้มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิด ส่วนทิศตะวันออกอาจจะร้อนกว่าหน่อยแต่ก็ยังได้วิวโล่งๆ อยู่เช่นกัน
หน้าตาอาคารจริง
เก็บรูปหน้าตาอาคารแบบที่สร้างเสร็จแล้วมาฝากกันค่ะ โครงการนี้เป็นโครงการที่ทาง AP จับมือกันพัฒนาร่วมกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group-MEC) ซึ่งเป็นดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่จากญี่ปุ่น ตัวคอนโดเลยมีกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นอยู่ค่อนข้างเยอะ เน้นการใช้เส้นสายเรียบๆ ตรงไปตรงมา เริ่มจากตัวโทนสีของอาคารเลยค่ะ
มุมทิศเหนือ หน้าตาอาคารเป็นแบบเรียบๆ ตัวอาคารหลักจะเป็นสีเทา
ตัว Façade ที่จอดรถปิดด้วยซี่ไม้เรียบๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น เวลามองจากมุมเฉียงซ้าย เฉียงขวา แล้วเห็น texture สวยดี
เหนือโพเดียมที่จอดรถจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ มุมนี้จะเป็นห้องฝั่งทิศใต้กับทิศตะวันตกที่ได้วิวสระว่ายน้ำ
จากตรงสระว่ายน้ำ เงยหน้ามองมุมอาคารตัว L ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ห้องพักอาศัยจะหน้าตาเรียบๆ ไม่มีระเบียงห้องออกมาค่ะ ตรงนี้จะเป็นจุดที่ค่อนข้างแปลกตาไปจากโครงการอื่นๆ พอสมควร
ตัวอาคารทางด้านหลังก็จะเรียบๆ ไปค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 8 เป็นหลักค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนสที่อยู่ติดสระว่ายน้ำ, ซาวน่า แล้วก็มีมุมบ่อน้ำร้อน Onsen นอกจากนี้ก็ยังมีสวนชั้นดาดฟ้าให้ด้วยค่ะ
สำหรับสัดส่วนการใช้งาน สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัว กับ 346 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 173 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นกลางๆ กับคอนโดเฉลี่ยราคาแสนห้าต่อตารางเมตรค่ะ ส่วนที่จอดรถ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคันแล้ว ก็ถือว่ากลางๆ ค่ะ จากทำเลย่านนี้ก็น่าจะมีชาวต่างชาติอยู่ค่อนข้างเยอะ คอนโดอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าในระยะที่เดินไปได้ แต่อาจจะลำบากหน่อยที่ต้องข้ามถนนตอนไปขึ้นรถไฟฟ้า
มาดูพื้นที่ส่วนกลางเริ่มจากที่ชั้น 1 ที่เป็นห้อง Mail box ค่ะ มีซ่อนไฟ LED ให้ทั้งด้านบนและด้านล่าง สวยงามดี
โถงลิฟต์ชั้นล่างสุด ตกแต่งด้วยหินอ่อนเหมือนกับตรง Lobby
ลิฟต์โดยสารของ OTIS มี 2 ตัว จะเป็นแบบล็อคชั้น
โถงลิฟต์ที่ชั้น 8 ที่เป็นชั้นส่วนกลาง แล้วก็จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วย ตัวโถงลิฟต์ก็ยังเป็นหินอ่อนโทนสีดำ-น้ำตาลอยู่
ทางเข้าฝั่งห้องพักอาศัยต้องใช้ Key card ในการเข้าออก เป็น security ให้สำหรับคนที่อยู่ชั้นส่วนกลางค่ะ
มาดูที่ด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำกันบ้าง สระว่ายน้ำจะอยู่ฝั่งที่หันไปถนนใหญ่ค่ะ มองไปเห็นถึง Airport Link มักกะสัน เป็นวิวเมือง
ฝั่งทิศตะวันตก มองไปเป็นคอนโดเพื่อนบ้าน และแอบเห็น Rhythm Asoke I อยู่ทางขวามือ
แยกสระเด็กมาให้
ห้องฟิตเนสที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ
เล่นเครื่องออกกำลังไปก็ได้วิวสระว่ายน้ำค่ะ
จากมุมด้านในสุด
วิ่งไป ดูสาวว่ายน้ำไป
มุมดัมเบลก็มีให้ค่ะ
ห้องน้ำและมุมล้างตัวก่อนลงสระ
ห้องน้ำหญิง
ซาวน่าอยู่ด้านในห้องน้ำ
ห้องน้ำชายค่ะ
มุมบ่อน้ำร้อนด้านในสุดแต่งด้วยผนังอิฐโทนสีไม้ตัดด้วยระแนงไม้ แบบญี่ปุ่น
บ่อน้ำร้อนด้านในเติมหินเข้าไปด้วย
จบด้วยจากปลายสุดของสระว่ายน้ำมองไปที่ห้องฟิตเนสด้านหลังที่นั่งริมสระว่ายน้ำ
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Master Plan คอนโด Rhythm อโศก 2
ดูรายละเอียดกันไปพอควรแล้ว คงจะเห็นภาพกันคร่าวๆ แล้ว มาดูผังโครงการกันค่ะ ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดถนนอโศก-ดินแดง มีถนนวนรอบอาคารเป็นแบบ One way จุด Drop-off จะอยู่ด้านหน้าอาคารทางเข้าออกอาคาร บริเวณด้านหน้าบ่อน้ำพุ ส่วนทางขึ้นอาคารจอดรถนั้น จะอยู่ตรงกับทางเข้าออกโครงการเลยค่ะ เข้ามาในพื้นที่โครงการแล้วตรงขึ้นที่จอดรถได้เลย แต่ถ้าเป็น Visitor จะมีพื้นที่จอดรถที่ชั้นล่างด้านหลังอาคารให้ ที่ชั้นล่างสุดด้านในอาคารจะเป็น Lobby, ห้องจดหมาย, ห้องน้ำส่วนกลาง, โถงลิฟต์ และห้องนิติบุคคลค่ะ
Typical Floor Plan ชั้น 9-29 คอนโด Rhythm อโศก 2
ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 8 ที่เป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางด้วย จะมาเริ่มเป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มทั้งชั้น ที่ชั้น 9 – 29 แปลนอาคารรูปตัว L ห้องพักอาศัยจะหันครบทุกทิศ มี 16 ยูนิตต่อชั้น แบ่งเป็นห้องสตูดิโอ 4 ยูนิต ตำแหน่งจะอยู่ใกล้โถงลิฟต์และบันไดหนีไฟ เป็นห้องที่เอาไว้ทำราคาขายของโครงการ ส่วนแบบ 2 ห้องนอนมีอยู่ 2 ยูนิตต่อชั้นจะอยู่ตรงมุมทิศตะวันออก นอกนั้นก็เป็น 1 ห้องนอนมี 10 ยูนิตต่อชั้นค่ะ
แปลนห้องดีไหม?
RHYTHM Asoke II จะมีห้อง 3 แบบง่ายๆ คือ สตูดิโอ ขนาด 22.20 และ 27 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน ขนาด 27.70-29.50 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตรค่ะ
แปลนห้อง RHYTHM อโศก 2
แบบสตูดิโอ ขนาด 22.20 และ 27 ตารางเมตร
แบบสตูดิโอที่ขนาดห้องเล็กสุดของโครงการเริ่มต้นที่ 22.20 ตารางเมตร แปลนห้องจะแคบและยาวเข้าไป ส่วนอีกแบบที่เป็น 27 ตารางเมตรจะได้พื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นมาค่ะ ด้านหน้าตรงทางเข้าออกห้องจะเป็น pantry ครัวและพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ติดกันเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่นอน มีที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ด้านนอก แต่จะไม่มีระเบียงให้ค่ะ อาจจะงงๆ หน่อยว่าจะตากผ้ากันยังไง ไว้จะไปอธิบายเพิ่มในส่วนของห้องตัวอย่างกันค่ะ
สำหรับแบบสตูดิโอ ถ้าเป็น 27 ตารางเมตร จะสามารถทำประตูบานเลื่อนเพื่อกั้นสเปซให้ดูเป็นกึ่งๆ 1 ห้องนอนก็ได้ โดยพื้นที่จะมีพอวางทั้งโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหาร แต่ถ้าเป็นแบบยูนิตเล็ก 22.20 ตารางเมตร เวลาใช้งานจะต้อง combined function ระหว่างโซฟาพักผ่อนกับพื้นที่รับประทานอาหารเข้าด้วยกัน เนื่องจากขนาดที่จำกัดของพื้นที่ค่ะ
แปลนห้อง RHYTHM อโศก 2
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 และ 29.50 ตารางเมตร
แบบ 1 ห้องนอนทั้ง 2 ขนาดนี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานจะเหมือนๆ กันเลยค่ะ เพียงแต่แบบ 29.50 ตารางเมตรจะได้พื้นที่ตรงส่วน Pantry ครัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย เพราะตำแหน่งห้องน้ำถูกขยับไปให้อยู่แนวเดียวกับห้องนอน
เปิดประตูเข้ามาก็จะเป็นพื้นที่ Pantry ครัวอยู่ชิดผนัง ส่วนด้านหลังประตูเข้าออกจะเป็นสเปซสำหรับวางเครื่องซักผ้า ถัดไปเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในติดกับเคาท์เตอร์ครัวจะเป็นส่วนที่วางโต๊ะทานข้าว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ห้องแบบนี้ก็จะไม่มีระเบียงเช่นเดียวกันค่ะ แต่จะเตรียมส่วนไว้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ด้านนอกตรงห้องนอน
แปลนห้อง RHYTHM อโศก 2
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตำแหน่งห้องจะอยู่ปลายสุดของอาคาร มี 2 ห้องต่อชั้น เปิดห้องเข้าจะเป็นส่วนเตรียมอาหารอีกเช่นกัน พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าจะไปอยู่ชิดผนังอีกด้าน ตรงข้ามกับครัวจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ แต่ก็วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อยู่ ถ้าดูจากแปลนจะเห็นห้องขนาดห้องนอนเล็กกับห้องนอนใหญ่จะไม่ได้แตกต่างกันมาก เพียงแต่ห้องนอนใหญ่จะมีประตูเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนเลย ส่วนห้องนอนเล็กต้องออกมาใช้ประตูจากตรงส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารเอาค่ะ ซึ่งห้องนอนเล็กก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่น เช่น ห้องทำงาน ห้องแต่งตัวสำหรับสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะ หรือจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ก็ได้ค่ะ
ส่วนในห้องน้ำจะเห็นว่าส่วนของโถสุขภัณฑ์จะปิดแยกส่วนจากส่วนอาบน้ำได้ ทำให้สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมกันทีละ 2 คน ช่วงเช้าๆ ก่อนไปทำงานจะได้ไม่ต้องรอกันค่ะ สำหรับแบบ 2 ห้องนอน คอมเพรสเซอร์จะวางไว้ตรงฝั่งที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ
ห้องตัวอย่างของ Rhythm อโศก 2 อยู่ในอาคารจริง ที่ชั้น 12A มีด้วยกัน 2 ห้อง เป็นแบบ 1 ห้องนอน B08 ขนาด 29.50 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน C07 ขนาด 42 ตารางเมตร ห้องจริงจะมีเคาท์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ และแอร์ให้ค่ะ แบบ 1 ห้องนอนได้แอร์ 2 ตัว และแบบ 2 ห้องนอนได้แอร์ 3 ตัว ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วไปสูง 2.60 เมตร
ห้องตัวอย่าง RHYTHM Asoke II
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.50 ตารางเมตร
เปิดประตูห้องเข้ามา เจอเคาท์เตอร์ครัวอยู่ชิดผนังห้องทางขวามือ เชื่อมต่อกับโซฟาที่ยาวไปตลอดแนวจนถึงหน้าต่างห้องด้านในสุดเลยค่ะ ส่วนตัวโต๊ะทานข้าวจะอยู่ติดกับส่วน Pantry ครัว
มุมนั่งเล่นด้านใน
ระยะดูทีวีตรงพื้นที่นั่งเล่น ตรงนี้ทางโครงการจะติดแอร์ไว้ให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
จากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปทางเข้าออกห้อง ตรงข้ามกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นห้องนอน
ภายในห้องนอนที่แต่งมาเรียบๆ โทนสีดูเป็นญี่ปุ่นมากๆ
ระยะปลายเตียงพอเดินได้ ถ้าจะติดทีวีต้องแบบแขวนผนังเท่านั้น
เตียงวางชิดกับหน้าต่างห้อง ส่วนด้านนอกเตรียมที่ไว้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ เพราะฉะนั้นระดับขอบล่างของหน้าต่าง จึงต้องยกสูงกว่าระดับปกติเพื่อมาบังคอมแอร์เอาไว้ สัดส่วนหน้าต่างห้องในห้องนอน จึงไม่ได้เป็นกระจกบานใหญ่นัก
ถ้าเตียงมองออกไปทางเข้าออกห้อง ตรงห้องนอนจะเป็นสเปซโล่งๆ ไม่ได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ แต่จะติดแอร์ให้ค่ะ
ออกมาข้างนอกอีกรูป ติดกับห้องนอนจะเป็นห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า
ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่อาบน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์
จบด้วยสเปซที่เชื่อมต่อกับระหว่างเคาท์เตอร์ครัวและพื้นที่นั่งเล่น ตัวโครงการจัดชุดโซฟามาให้แบบยาวตลอดแนวแชร์พื้นที่กับส่วนรับประทานอาหารไปด้วยในตัวค่ะ
ห้องตัวอย่าง RHYTHM Asoke II
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร
เข้ามาดูที่แบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ที่มุมอาคาร เข้ามาจะเจอเคาท์เตอร์ครัวเลย ส่วนพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าจะอยู่ทางขวามือ ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเช่นกัน
จากพื้นที่นั่งเล่น มองย้อนกลับไปด้านหน้าทางเข้าออกห้อง แบบ 2 ห้องนอนจะสามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้ ส่วนห้องที่อยู่ใกล้กับทางเข้าออกห้องนั้นจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ มีห้องน้ำคั่นกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
ห้องนอนเล็กของแบบ 2 ห้องนอนโครงการนี้จะขนาดพอๆ กับห้องนอนใหญ่เลยค่ะ สามารถวางเตียงควีนไซส์ได้ หรือจะดัดแปลงเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์ก็ได้
ระยะปลายเตียงพอเดินได้
สเปซด้านข้างเตียง ตัวหน้าต่างห้องนอนจะได้มาค่อนข้างเต็มพื้นที่ ขอบล่างของหน้าต่างจรดพื้น ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ
สเปซด้านในตรงพื้นที่นั่งเล่น
ระยะดูทีวี ส่วนตรงข้างๆ ชั้นวางทีวีจะเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่
ด้านในของห้องนอนใหญ่ค่ะ
มีระยะห่างระหว่างเตียงกับหน้าต่างห้อง เดินได้สบายๆ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
พื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ปลายเตียงจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ ทางห้องนอนใหญ่ และตรงพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ส่วนนี้จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก
ด้านในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือเล็ก มีประตูบานเลื่อนปิดอีกขั้น ส่วนตรงกลางจะเป็นอ่างล่างหน้าที่อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าจากห้องนอน และในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีฉากกั้นให้
เคาท์เตอร์ครัวที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าออกห้อง
สเปซที่ใช้สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า เพราะโครงการนี้จะไม่มีระเบียงห้องให้ค่ะ เครื่องซักผ้าจะต้องวางไว้ส่วนนี้ ส่วนถ้าจะตากผ้าก็อาจจะลำบากนิดหน่อย แต่ก็มีสเปซตรงส่วนเหนือที่วางคอมเพรสเซอร์ที่พอแขวนราวตากผ้าได้ แนะนำเป็นซื้อเครื่องอบผ้าจะสะดวกกว่า …
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
ในภาพรวมของวัสดุ ทางโครงการจะมีเคาท์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้าให้, ห้องน้ำก็จะได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ แล้วก็มีแอร์ให้ นอกนั้นก็จะเป็นสเปซโล่งๆ ไป
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
หน้าตาชุดเคาท์เตอร์ครัวของแบบ 1 ห้องนอน เป็นของ RCD โทนสีเทา
เปิดให้ดูสเปซที่เก็บของด้านใน
ส่วนแบบ 2 ห้องนอนก็จะได้เคาท์เตอร์มาโทนสีเดียวกัน แต่สเปซจะแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยค่ะ ตู้ลอยด้านบน Built-in มาพอดีกับเคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง เพราะตำแหน่งตู้เย็นจะอยู่ด้านข้าง
พื้นที่เก็บของใต้เคาท์เตอร์ด้านล่างของแบบ 2 ห้องนอน มีชั้นวางของตรงกลางเพิ่มมาให้จากแบบ1 ห้องนอน เก็บของได้เยอะขึ้น แต่ชั้นลอยด้านบนจะน้อยกว่าแบบ 1 ห้องนอน
ซูมให้ดูเคาท์เตอร์ด้านล่างของแบบ 1 ห้องนอนกันชัดๆ
เทียบกับแบบ 2 ห้องนอนแล้ว แบบ 2 ห้องนอนจะได้พื้นที่ตรงกลางเยอะกว่า
มีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟขนาดเล็ก
ใต้อ่างล่างจานจะมีถังขยะให้
ตู้ลอยด้านบนของแบบ 1 ห้องนอน Built-in เลยมาถึงพื้นที่เหนือที่วางตู้เย็น
ตู้ลอยของแบบ 2 ห้องนอนค่ะ ทั้ง 2 แบบจะได้เครื่องดูดควันของ Franke มาด้วย
อ่างล้างจานก็ของ Franke
เช่นเดียวกันเตาไฟฟ้าแบบ 2 ห้องก็ของ Franke
แผงควบคุมไฟของแบบ 1 ห้องนอนจะซ่อนอยู่ในตู้ด้านบน ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะติดลอยๆ เหนือสเปซสำหรับวางตู้เย็น
ด้านหลังเคาท์เตอร์จะติดกระจกให้ เวลาทำครัวก็จะได้ทำความสะอาดง่าย
สวิตซ์ไฟของ Siemens มีฝาครอบให้สีเทาเข้ากับสีเคาท์เตอร์ครัว
สวิตซ์ด้านในค่ะ
วัสดุห้องน้ำ
หน้าตาภายในห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน
แบบ 2 ห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนอยู่ลึกเข้าไป
ประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าตรงห้องน้ำของแบบ 2 ห้องนอน
ด้านในก็มีประตูบานเลื่อนอีกชั้นค่ะ
พื้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนั่งเล่น ของแบบ 1 ห้องนอน จะมีธรณียกสูงมาประมาณ 5 ซม.
ส่วนของแบบ 2 ห้องนอนก็เช่นเดียวกัน แต่ทางเข้าจะแคบกว่า
ประตูบานเลื่อนในห้องน้ำบานกรอบสีดำ
ส่วนของประตูบานเลื่อนตรงกลาง ห้องน้ำจะได้ไฟดาวน์ไลท์กับที่ดูดระบายอากาศ
มือจับประตูบานเลื่อนห้องน้ำ
กระจกเหนืออ่างล้างหน้าจะได้เป็นแบบกลมค่ะ ก็มินิมอลดี แต่แอบรู้สึกว่าส่องได้ไม่ค่อยเต็มตัวเท่าไหร่ อยากได้บานใหญ่ๆ
อ่างล้างหน้าทรงกลมเข้ากับกระจกเลย
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler
อ่างล้างมือเล็กทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของแบบ 2 ห้องนอน อยู่ตรงส่วนของโถสุขภัณฑ์ หลักๆ ก็ใช้ล้างมืออย่างเดียว ตอนทำกิจธุระเสร็จ ถ้าล้างหน้าไปใช้อ่างกลมใหญ่จะสะดวกกว่า
หน้าตาก๊อกน้ำตรงอ่างล้างหน้าค่ะ
สเปซส่วนแห้งของแบบ 1 ห้องนอน
สเปซห้องน้ำของแบบ 2 ห้องนอนที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ที่แขวนเสื้อผ้าในห้องน้ำ
ธรณีกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกกับส่วนแป้ง ยกสูงมาประมาณ 5 ซม.
พื้นที่อาบน้ำของแบบ 1 ห้องนอน มีช่องเข้าไปสำหรับวางของได้
พื้นที่อาบน้ำสำหรับแบบ 2 ห้องนอน ไซส์กระทัดรัด
Shower Block ของพื้นที่อาบน้ำค่ะ
แบบ 2 ห้องนอนก็ได้ฉากกั้นอาบน้ำเหมือนกันเป็นกระจกบานเปิด
หน้าตาฝักบัวอาบน้ำ
มี Rain Shower ให้ด้วยค่ะ
เตรียมที่สำหรับใส่เครื่องทำน้ำอุ่นให้
ชั้นวางของสำหรับแบบ 1 ห้องนอน
ชั้นวางของสำหรับแบบ 2 ห้องนอน
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
หน้าตาประตูห้องจากทางเดิน
ป้ายเลขที่ห้องสีดำ
ประตูห้องจากด้านในโทนสีไม้อ่อนๆ
ห้องนอนและห้องน้ำ เป็นแบบเดียวกับประตูด้านหน้าทางเข้าออกห้อง
Digital door lock จาก Yale
จากด้านในห้องค่ะ
ส่วนตรงห้องน้ำ และห้องน้ำจะได้เป็นมือจับก้านโยน
มือจับอีกด้าน
บานกรอบประตูสีขาว
Door Stopper
พื้นห้องทั่วไปเป็นลามิเนต มีบัวพื้นให้สีขาว เช่นเดียวกับผนังห้องก็จะฉาบเรียบทาสี
ระหว่างพื้นห้องลามิเนตจะมีไม้ปิดรอยต่อสีเดียวกับลามิเนต
หน้าตาปลั๊กไฟของ Siemens
สวิตซ์ไฟก็ของ Siemens
ไฟห้องเป็นดาวน์ไลท์
ก๊อกน้ำและท่อสำหรับเครื่องซักผ้าตรงส่วนของพื้นที่วางเครื่องซักผ้าในห้องค่ะ
ส่วนที่วางเครื่องซักผ้าจะได้เป็นพื้นกระเบื้อง เพราะถ้าเป็นลามิเนต เวลาน้ำหยดเลอะบ้าง ระยะยาวจะไม่ดี
ส่วนที่วางเครื่องซักผ้าของแบบ 2 ห้องนอน ในห้องตัวอย่างจะมีประตูบานเปิดให้ด้วยแต่ห้องจริงจะไม่ได้นะคะ
หน้าต่างบานกระจกเต็มบานตรงพื้นที่ห้องนั่งเล่นของแบบ 1 ห้องนอน
ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะไปอยู่ตรงห้องนอนแทน
มีบานกระทุ้งให้ 1 บาน
ตัวบานกระจกจะอยู่เกือบๆ จรดพื้นห้อง
หน้าต่างบานเลื่อนในห้องนอนของแบบ 1 ห้องนอน
ถ้าเป็นแบบ 2 ห้องนอน หน้าต่างบานเลื่อนจะอยู่ตรงห้องนั่งเล่นค่ะ แบบ 2 ห้องนอนจะวางคอมเพรสเซอร์แอร์ตรงพื้น 2 ตัว และติดลอยตัวอีก 1 ตัว
หน้าตามือจับแบบโค้งเว้าเข้าไป
ด้านหลังหน้าต่างบานเลื่อนจะเอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ มีก๊อกน้ำกับไฟด้านนอกให้ ส่วนนี้ไม่ได้เตรียมให้ออกไปใช้งาน แต่เพื่อวางคอมแอร์อย่างเดียว มีแผงบังสายตาให้
พื้นเอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์อย่างเดียว
ถ้ามองจากด้านหน้าจะเห็นแผงบังส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ แต่ก็ยังเห็นคอมเพรสเซอร์ค่อนข้างชัดอยู่
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาขายเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ 4.31 ล้านบาท (ม.ค.60) เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.11 ตารางเมตรค่ะ ส่วนราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเทียบกับโครงการ Rhythm Asoke 1 แล้ว โครงการนั้นจะราคาเฉลี่ยประมาณ 135,000 บาท ค่อนข้างถูกกว่า ด้วยวัสดุที่ใช้และทำเลแล้ว Rhythm Asoke 2 จะได้พื้นที่ส่วนกลางที่หรูหรา แต่งด้วยหินอ่อน และตำแหน่งที่ตั้งโครงการที่อยู่ฝั่งขาเข้าเมืองด้วย ราคาก็เลยแพงว่าค่ะ
update (มี.ค.61) ห้องราคาเริ่มต้นเป็นห้องสตูดิโอ 23 ตร.ม. ราคาเริ่มที่ 3.59 ล้านบาทค่ะ
Update ราคา ณ วันที่ 25 มีนาคม 2561
ราคาเริ่มต้น :
สตูดิโอ ชั้น 20 ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท (โปรโมชั่น ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า)
** รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมจากโครงการอีกครั้ง
ราคา ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2559
ราคาเริ่มต้น :
1 ห้องนอน B12 ชั้น 12 ขนาด 28.11 ตร.ม. ราคา 4.31 ล้านบาท
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
จอง 50,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
สตูดิโอ ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 21,440 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
สตูดิโอ ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 22,903 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
สตูดิโอ ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 25,290 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
สตูดิโอ ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 29,549 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
สตูดิโอ ขนาด 23 ตร.ม. ราคา 3.59 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 38,516 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ตำแหน่งของคอนโด RHYTHM Asoke 2 อยู่ติดกับถนนอโศก-ดินแดน ฝั่งขาเข้าเมือง เชื่อมต่อกับถนนอโศกมนตรี ถนนเพชรบุรี และใกล้กับแยกพระราม 9 อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทางขึ้นทางด่วนอีกด้วย เรียกได้มาจะไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างง่าย เพียงแต่บริเวณนี้อย่างที่รู้ๆ กันว่า รถค่อนข้างติดเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ใช้รถยนต์ก็สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 ได้ อยู่ห่างไป 300 เมตร อยู่ในระยะเดินได้ ทางเท้าสะดวก นั่งไป 1 สถานีก็ถึง Airport Link มักกะสัน ส่วนถ้าขยับไปอีกสถานีก็เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับ BTS อโศกแล้วค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ย่านรัชดา-พระราม 9 ถือได้ว่าเป็นย่านที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พอเวลาผ่านไปก็ยิ่งเห็นแนวโน้มความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่า อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในย่านนี้มีมูลค่าเติบโตขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ราคาพุ่งสูงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โครงการใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปมีราคาเฉลี่ยที่แสนปลายๆ ต่อตารางเมตรไปแล้ว ซึ่งถือเป็นการทำ New-High สำหรับราคาคอนโดในปัจจุบันของย่านรัชดา-พระราม 9 เลยทีเดียว โครงการใหม่ๆ ก็ขยับ segment ตัวเองขึ้นไปเป็นคอนโดในระดับ Luxury Segment ราคาสูงแล้วแทบทั้งสิ้น และในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าราคาคอนโดในย่านนี้ก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ย่านนี้มีแนวโน้มจะกลายเป็น New CBD เนื่องจากอยู่ในจุดที่มีระบบการคมนาคมมารองรับครบถ้วน ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ที่กำลังมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายเชื่อมกรุงเทพทั้งหมดเป็นวงกลม เหมือนกับ Loop Line ที่มีในเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองทั่วโลก, ใกล้กับทางด่วนศรีรัช, ใกล้กับรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่เชื่อมต่อสุวรรณภูมิ รวมถึงยังเป็นโซนที่เชื่อมต่อโดยตรงออกมาจากใจกลางเมืองอย่างอโศก-สุขุมวิทที่เป็น CBD หลัก และเชื่อมต่อไปรอบนอกได้อีก ในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตจัดว่ามีอย่างครบถ้วนอยู่แล้ว นอกจากตัวคอนโดที่เปิดในย่านนี้แล้ว โซนนี้ก็ยังมีอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงโครงการในอนาคตอย่างอาคาร Super Tower ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จก็จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยแทนที่ของ Mahanakhon ในปัจจุบัน
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
คอนโด Rhythm Asoke 2 เป็นโครงการที่ AP พัฒนาโครงการร่วมกับ Mitsubishi จากญี่ปุ่น หน้าตาอาคารค่อนข้างเรียบง่ายเป็นสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นด้วยใช้โทนสีเทาและน้ำตาลเป็นหลัก แปลนอาคารจะเป็นรูปตัว L ห้องพักอาศัยมีจะอยู่ประมาณ 16 ห้องต่อชั้น แบ่งเป็นฝั่งที่หันเข้าพื้นที่ส่วนกลางและหันออกด้านนอก โดยรวมแล้ว วิวรอบๆ ค่อนข้างโล่ง ไม่มีได้อาคารสูงอยู่ในระยะประชิดเหมือนอย่างกลุ่มคอนโดติดกับแยกรัชดา-พระราม 9
ด้านการวางแปลน Rhythm อโศก 2 จะใช้จุดขายในเรื่องการวางแปลนห้องแบบ Interlock กับยูนิตที่ติดกัน แต่ที่ดูแปลกมากกว่าโครงการอื่นๆ คือการที่แปลนห้องของโครงการทุกแบบจะไม่มีระเบียงห้องให้ แต่จะมีส่วนพื้นที่สำหรับวางคอมเพรซเซอร์แอร์ไว้ให้ ถ้ามองเรื่องการใช้งานแล้ว การตากผ้าแบบเดิมๆ ที่ทำกันดูลำบากไปนิด แม้จะมีที่พอตากผ้าได้ในส่วนของเหนือคอมเพรซเซอร์แอร์ ซึ่งแนะนำว่า ถ้าจะแก้ปัญหาในจุดนี้ก็คงต้องซื้อเครื่องอบผ้ามาไว้ด้วยค่ะ ซึ่งส่วนเครื่องซักผ้าก็จะมีพื้นที่เตรียมไว้ให้ใกล้ๆ กับทางเข้าออกห้อง แต่ทั้งนี้ข้อดีจุดหนึ่งก็คือ เวลาคนมองจากด้านนอก รูปด้านนอกจะสวยงามอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเสื้อผ้าแขวนไว้ให้รกหูรกตาค่ะ
โดยรวมแล้วแปลนห้องทั้งหมดจะได้ครัวเป็นครัวเปิด เคาท์เตอร์ครัวได้มาค่อนข้างกว้างขวาง ทำอาหารได้สบายๆ แต่อาจจะไม่เหมาะกับมื้อหนักๆ แบบ ต้ม ผัด แกง ทอด มากนัก แบบ 1 ห้องนอน ตรงส่วนพักผ่อนจะได้แสงธรรมชาติมากกว่าห้องนอน ในขณะที่แบบ 2 ห้องนอน ส่วนห้องนอนจะได้แสงธรรมชาติเยอะกว่าส่วนพักผ่อน อีกจุดเด่นของแบบ 2 ห้องนอน คือ ห้องนอนเล็กจะได้มาขนาดพอๆ กับห้องนอนใหญ่ วางเตียงควีนไซส์ใหญ่ได้เลยทั้งคู่ หรือจะปรับเปลี่ยนห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ก็ได้ ส่วนห้องน้ำก็มีทางเข้า 2 ทาง แล้วก็ยังมีประตูบานเลื่อนกั้นในห้องน้ำอีก คนนึงสามารถอาบน้ำ ส่วนอีกคนก็ใช้โถสุขภัณฑ์ได้พร้อมๆ กันค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องแย่งห้องน้ำกันใช้
ด้านวัสดุริธึ่ม อโศก 2 นั้นให้มาตามมาตรฐานค่ะ ได้เคาท์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้ามาให้ หน้าตาดูดีโทนสีเทา ห้องน้ำก็ได้มาครบ มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ฝักบัวก็มีทั้งแบบธรรมดาและ Rain Shower ให้ แอร์ของแบบ 1 ห้องนอนได้ 2 ตัว ส่วนแบบ 2 ห้องนอนได้มา 2 ตัว นอกนั้นก็จะเป็นสเปซโล่งๆ ไม่มี Built-in ให้
ด้านพื้นที่ส่วนกลาง ให้มาครบตามมาตรฐานเช่นกัน มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า และไหนๆ ก็ดีเวลลอปร่วมกับญี่ปุ่นแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือมี ออนเซน ให้ด้วยที่ชั้น 8 ส่วนชั้นล่างที่เป็น Lobby จะตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อน ดูหรูหรา สวยงาม สร้างบรรยากาศได้ดี นอกจากนี้ก็มีสวนที่ชั้นดาดฟ้าให้ สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 173 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวก็ถือว่ากลางๆ ส่วนที่จอดรถ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ก็โอเค ด้วยความที่คอนโดอยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้าและส่วนนึงก็น่าจะไว้สำหรับชาวต่างชาติอยู่อาศัยด้วย ที่จอดรถก็น่าจะพอใช้งานอยู่ค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ