AP เผยโฉม VITTORIO (วิตโตริโอ) คอนโดมิเนียมระดับอัลตร้า-ลักซ์แห่งใหม่ ภายใต้แนวคิด “LIVING IN THE MASTERPIECE” ที่สุดของที่สุดในทุกมิติ ที่ซึ่งสุนทรียะผสานเข้ากับการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ มูลค่าโครงการกว่า 3,500 ล้านบาท ชูความเป็นเลิศในเรื่องของทำเล ราคา คุณค่าของงานศิลป์ การออกแบบ และการดูแลรักษาให้คงคุณค่าเสมือนครั้งแรกพบ ทั้งให้ความสำคัญสูงสุดกับความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย โดยมีจำนวนเรสซิเดนซ์ เพียง 88 ยูนิต บนความสูง 28 ชั้น
VITTORIO ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาด 1.29 ไร่ บนทำเลทองต้นซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ และย่านการค้า The Em District มอบความสะดวกสบายในการเดินทางและสีสันการใช้ชีวิต ในราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท
VITTORIO ได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจากสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น “Uffizi Gallery” พิพิธภัณฑ์ศิลป์ด้านจิตรกรรมและประติมากรรมชื่อก้องโลก และ “Vasari Corridor” โถงทางเดินระหว่างพระราชวังถึงคฤหาสน์ที่สะท้อนหลักคิดในการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนตัวสูงสุด … ภายใน VITTORIO เลือกใช้ “Palissandro Bluette” ซึ่งเป็นหินอ่อนหายากและมีเพียงแห่งเดียวในโลก มาใช้ตกแต่งอาคาร โดยเลือกใช้ส่วนที่งดงามที่สุดเพียง 30% เท่านั้นเท่านั้น รวมถึงการร่วมมือกับนักสร้างสรรค์งานคราฟต์ระดับโลกอย่างอเล็กซานเดอร์ ลามอนต์ (Alexander Lamont) ในการออกแบบ luxury furniture ดีไซน์พิเศษให้กับ VITTORIO โดยเฉพาะ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยว่า โครงการ VITTORIO เป็นผู้นำรายแรกที่ชูความ luxury ระดับ Masterpiece ที่แตกต่าง ให้ความสำคัญในการเลือกสรรทุกองค์ประกอบทั้งงานสถาปัตยกรรมและงานอินทีเรียอย่างละเมียดละไมที่สุด
“เฟอร์นิเจอร์และผลงานศิลป์ที่ใช้ตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางของ VITTORIO ได้คำนึงถึงเมื่อลูกค้าได้เป็นเจ้าของ หรือซื้อไว้เพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานแล้วต้องมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เราจึงเลือกนำชิ้นงานศิลปะหายากที่มีมูลค่าสูงของศิลปินชาวไทยที่โด่งดังในต่างประเทศ อาทิ อ.เขียน ยิ้มศิริ, อ.นุกูล ปัญญาดี เป็นต้น (เฉพาะมูลค่างานศิลป์มากกว่า 20 ล้านบาท) มาตกแต่งภายในโครงการ จะเห็นว่าเมื่อเดินเข้ามาในโครงการนอกจากจะเตะตาด้วยหินอ่อนทอประกายระยิบระยับที่สร้างความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวแล้ว ยังเสมือนได้ชื่นชมงานศิลปะทุกครั้งที่ได้ก้าวเข้ามา โดยผลงานของศิลปินชาวไทยนั้นได้วางเคียงคู่กับเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเป็นพิเศษโดย Alexander Lamont พร้อมนำผลงานสร้างชื่อของเขาอย่างหนังกระเบนมาใช้ตกแต่งในโถงไพรเวทลิฟต์ทุกตัวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวโครงการอีกด้วย” นายวิทการกล่าวเสริม
VITTORIO จึงมีจำนวนเรสซิเดนซ์เพียง 88 ยูนิต โดยในแต่ละชั้นมีเพียง 4 ยูนิต ทุกยูนิตจึงเป็นห้องหัวมุม และไม่ใช้ผนังร่วมกับเรสซิเดนซ์อื่นเลย ความกว้างของโถงทางเดินในแต่ละชั้นที่กว้างถึง 1.6 เมตร แบ่งสเปซพักอาศัยให้แต่ละเรสซิเดนซ์แยกออกจากกัน เป็นหลักประกันถึงสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเป็นพิเศษ รวมถึงมีลิฟต์ส่วนตัวเฉพาะในแต่ละเรสซิเดนซ์ เลย์เอาท์ภายในแต่ละเรสซิเดนซ์ของ VITTORIO ได้รับแรงบันดาลใจจากที่อยู่อาศัยของตระกูลผู้มั่งคั่งแห่งเมืองฟลอเรนซ์ มีการแบ่งส่วนพักอาศัยและส่วนเซอร์วิส (back of the house) ออกจากกัน พร้อมทางเข้า-ออกที่แยกลิฟต์เซอร์วิสออกจากลิฟต์โดยสารเรสซิเดนซ์ อีกทั้งส่วนต้อนรับ ‘VITTORIO Concierge’ ก่อนเข้าสู่ส่วนล็อบบี้ “Galleria Medici” ยังได้รับการออกแบบให้พรั่งพร้อมด้วยระบบเข้าออกอาคารอัจฉริยะ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายสูงสุด
นอกจากนั้นแล้วเรายังคำนึงถึงการบริหารจัดการโครงการเพื่อรักษา ดูแลไม่ให้มูลค่าของทรัพย์สินส่วนกลางภายในโครงการเสื่อมลง โดยเฉพาะชิ้นงานศิลปะระดับ Masterpiece ต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งสำหรับโครงการ VITTORIO แห่งนี้เราจะมีเจ้าหน้าที่บริหารอาคารที่มีประสบการณ์และความชำนาญการเฉพาะด้าน ในเรื่องของการบริหารจัดการโครงการระดับอัลตร้า-ลักซ์มาดูแลความงดงามเรียบร้อยของ VITTORIO โดยเฉพาะ ตลอดจนมีการจัดทำคู่มือนำเสนอขั้นตอน และวิธีในการดูแลรักษางานคราฟท์แต่ละชิ้นอย่างละเอียด
นอกจากนี้ VITTORIO ยังมีสิ่งอำนวย-ความสะดวกระดับ Masterpiece ที่ครบครันเทียบเท่าโรงแรมระดับห้าดาว ณ ชั้น 27 และ 28 ไม่ว่าจะเป็น “Arno Vitality Pool” สระว่ายน้ำที่มาพร้อมกับระบบ Hydrotherapy ที่มีถึง 7 สเตชั่น ออกแบบภายใต้แนวคิดวารีบำบัดเพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้า หรือความเครียดจากการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึง “Club Kinetic” พื้นที่ออกกำลังกายที่มาพร้อมกับวิวพาโนรามา อีกทั้งยังมีพื้นที่อันเป็นส่วนตัวด้วยการออกแบบสเปซสำหรับเครื่องวิ่งที่แยกเฉพาะบุคคล
“สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมระดับอัลตร้า-ลักซ์ในเมือง (ระดับราคา 3 แสนบาทต่อตารางเมตรเป็นต้นไป) ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก และยังมีแนวโน้มการเติบโตไปได้อีก เพราะถ้าดูยอดขายที่เกิดขึ้น ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 สินค้ากลุ่มอัลตร้า-ลักซ์ ที่เปิดตัวในเมืองที่มีสัดส่วนยอดขายรวมประมาณ 70-80% จากสินค้ากลุ่มอัลตร้า-ลักซ์ทั้งหมด และถ้าดูในภาพรวมสินค้ากลุ่มนี้ที่เปิดตัวแล้วสร้างเสร็จยังมีอยู่ไม่มาก ถือว่าจริงๆ แล้วสินค้ากลุ่มอัลตร้า-ลักซ์ในบ้านเรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น หัวใจสำคัญของการพัฒนาคอนโด เพื่อเจาะกลุ่มตลาดระดับอัลตร้า-ลักซ์จึงไม่ใช่แค่ทำเลต้องดี แต่ทุกๆ รายละเอียดของโครงการต้องสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้ด้วย” นายวิทการกล่าวสรุป