พื้นที่ส่วนกลาง
ส่วนกลาง Life Asoke-Rama 9 นั้นถือว่าจัดมาให้เยอะดี ไม่แพ้ Life Ladprao และ Life 1 Wireless ที่เปิดตัวในปีนี้ และที่อัพ Brand Position ขึ้นจากเดิมมาก โดยจะจัดส่วนกลางและเทคโนโลยีให้ครอบคลุมชีวิตคนวัยทำงานรุ่นใหม่ให้มากขึ้น
ตัวคอนโด Life Asoke – Rama 9 จะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือตึก A และตึก B ที่จะมีชั้นโพเดียมและชั้นส่วนกลางเชื่อมกัน แต่ลิฟต์ขึ้นอาคารจะแยกอาคารกันชัดเจน คือต้องขึ้นลิฟต์ของตึกตัวเองเท่านั้น เดินเชื่อมกันระหว่างชั้นพักอาศัยไม่ได้ ส่วนกลางค่อนข้างเยอะเลย มีดีเทลพอสมควร เราเลยขอสรุปเป็นข้อๆ ก่อนไปดูภาพ Perspective ค่ะ
ด้านเทคโนโลยี
- รถยนต์เข้าออกโครงการจะใช้ระบบ RFIB คือ ติดเครื่องส่งสัญญาณที่รถเลยไม่ต้องยืนมือออกมาตี๊ดบัตร
- พื้นที่ส่วนกลางทั้ง In Door และ Out Door จะมี Wifi บริการทั่วถึง ทำให้ไปนั่งทำงานตามศาลาในสวนได้
- Co-Working Space จะปรับให้ใช้งานได้จริงจังมากขึ้น มีอุปกรณ์ไร้สายเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และจอทัชสกรีน เพื่อความสะดวกในการนำเสนองาน อย่างเช่นการมี meeting ย่อยๆ รวมถึงมี Wireless Phone Charger ให้ด้วย
- เฟอร์นิเจอร์จะมี Co-coon Space เป็นที่นั่งคนเดียว แบบมี Partition โอบล้อม ช่วยให้เกิดความเป็นส่วนตัวและเก็บเสียง
- มี Application หรือ Home Automation จองพื้นที่ส่วนกลาง, แจ้งซ่อมห้อง, รับข่าวสาร, Check ค่าใช้จ่ายผ่านมือถือได้
ด้านการออกแบบอาคาร
- โถงทางเดินในอาคารจะออกแบบใหม่ให้อากาศยังถ่ายเทได้อยู่แม้ปิดหน้าต่าง
- ห้องพักอาศัยแบบ Interlock ทำให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างขึ้น
พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ
- ชั้นล่างมีพื้นที่สวนโดยรอบ นับรวมสวนเล็กๆ น้อยๆ แล้วมีขนาดประมาณ 3 ไร่ และจะปลูกต้นไม้ยาวตลอดแนวที่ติดกับคลองให้ด้วยเพื่อให้บรรยากาศดูสวยขึ้นและกันกลิ่นรบกวน
- มี Jogging Track ให้วิ่งออกกำลังกายในสวน และมีศาลาให้นั่งพักผ่อนหรือทำงาน 2 จุด ใกล้ทางเข้าจากถนนจตุรทิศและทางเข้าคนเดิน
- โถงต้อนรับอาคาร A, B ฝ้าสูง โดยเฉพาะ B จะได้ฝ้าสูงมากจึงมีชั้นลอยเพิ่มเป็นพื้นที่ Meeting Room
- ชั้นเหนือโพเดียมจอดรถจะมีสวนหย่อมให้ออกไปพักผ่อนได้ และมีที่นั่งที่แบ่งเป็นช่องๆ อยู่ในสวน มีหลังคาบังแดด สามารถไปนั่งทำงานในสวนได้
- ชั้นดาดฟ้าทั้งสองอาคารจะเชื่อมกัน มีพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ โครงการเคลมว่าใหญ่สุดในย่านนี้ ณ ตอนนี้
- พื้นที่ตรงกลางของ 2 อาคารจะเป็นห้องฟิตเนสสูง 2 ชั้น , Sky Lounge มองเห็นวิวได้โดยรอบ , Co-Working Space ขนาดใหญ่ , Private Meeting Room แบบใช้เก้าอี้ Co-Coon
- ดาดฟ้าอาคาร B จะมีสระว่ายน้ำ 2 จุด เป็นสระแบบ Lap Pool ขนาด Olympic Size 1 สระ ยาว 50 เมตร ออกกำลังกายได้จริง สระที่สองจะลอยอยู่เหนือสระแรก เป็นสระว่ายน้ำสำหรับแช่ตัวเล่นๆ
- ดาดฟ้าอาคาร A จะมีสระที่ 3 ยาว 40 เมตร พร้อม Jacuzzi
- และเนื่องจากอาคาร A มีแปลนเป็นรูปตัว S ที่ปลายตัว S ฝั่งที่ใต้จะทำเป็น Amphitheater ลดหลั่นเป็นขั้นบันได เห็นวิวในเมืองแบบวิวเปิดโล่ง ส่วนอีกปลายนึงจะหันเข้าทิศเหนือ มองเห็น Super Tower ค่ะ
เริ่มจากแปลนอาคารชั้นล่าง เอาทางเข้าทั้ง 3 มาทวนกันอีกรอบ
พื้นที่กราฟิกสีเหลืองจะเป็นพื้นที่สวนโดยรอบ รวมมีพื้นที่ 3 ไร่จากที่ดินทั้งหมด 8 ไร่ และมีลู่วิ่งออกกำลังกายผ่านสวน จะสังเกตว่าโครงการพยายามวางผัง โดยดันตัวคอนโดให้ห่างจากตึกติดกันรอบข้างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยลักษณะรูปร่างที่ดิน เลยออกมาได้แบบนี้ครับ
ทางเข้าโครงการด้วยรถยนต์จากถนนจตุรทิศและซอยไม้ดัดจะมาเจอกันตรงนี้
บริเวณ Drop-Off ด้านหน้า Lobby อาคาร A หรูหราดี และปรับ image จาก Life โครงการเก่าๆ มากทีเดียว
สวนทางคนเดินเข้า (1) เข้ามาจะมีศาลานั่งเล่น มานั่งเล่นทำงานนอกอาคารได้
ฝั่งทิศเหนือตลอดความยาวที่ดินจะปลูกต้นไม้เอาไว้ให้ เนื่องจากเป็นฝั่งที่ติดกับคลองสามเสนค่ะ แต่ต้นจริงกว่าจะโตขนาดในรูปก็ต้องรอหน่อย ยกเว้นโครงการจะลงต้นไม้ใหญ่ให้เลย
โถงต้อนรับของอาคาร A จะอยู่ด้านหน้า ฝ้าสูง 4.4 เมตร โทนสีครีม + สีทองเพิ่มความหรูหรา
โถงต้อนรับอาคาร B จะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน มีฝ้าสูงขึ้นอีก อยู่ที่ 6 เมตร ที่นั่งเล่นในโถงจะล้อมเป็นห้องเล็กๆ อีกที ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น นั่งเม้ามอยกันเป็นกรุ๊ปๆได้
และเนื่องจากฝ้าสูงมาก เลยมีชั้นลอยซึ่งจัดเป็นพื้นที่ Co-Working Space ค่ะ เก้าอี้ที่เห็นชั้นล่างจะเป็นเก้าอี้แบบ Co-Coon มีฉากข้างเก้าอี้ห้อมล้อมทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ส่วนชั้นลอยจะจัดเป็นห้องประชุม มานั่งทำงานนัดประชุมกับลูกค้าได้สบาย สัดเป็นส่วนดี
ชั้น 7 จะเป็นชั้นเหนือโพเดียมจอดรถ ทำเป็นสวนและใส่ที่นั่งที่มีหลังคาให้สามารถออกไปนั่งเล่นทำงานหรือทำงานได้จริง เหมาะกับสายชิลล์
ชั้น 36 จะมี Pocket Garden อยู่ที่อาคาร A ล้อมด้วยรั้วกระจก ทำให้มองเห็นวิวได้โดยรอบ
ถัดมาจะอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าเชื่อม 2 อาคารเข้าด้วยกัน รวมพื้นที่ดาดฟ้าที่เป็นส่วนกลางก็ใหญ่ 1.5 ไร่
ภาพยอดตึกจะเห็นว่าส่วนกลางจะเชื่อมเป็นผืนเดียวกัน และด้วยความสูงของสองอาคารสูงไม่เท่ากัน ทำให้มีการเล่นระดับที่ดูน่าสนใจ กล่องสีขาวตรงกลางจะเป็นพื้นที่ห้องฟิตเนสและ Sky Lounge
ภายในฟิตเนสกว้าง 2 ชั้น เพื่อให้ออกกำลังกายกันได้จริงๆ จังๆ
ส่วน Lounge จะหันเข้าหาทิศใต้ ได้วิวโล่งๆ เข้าตัวเมือง
มาดูเหนืออาคาร B ที่จะมีสระว่ายน้ำ 2 สระ
สระระบบเกลือยาว 50 เมตร จะอยู่ชั้นล่าง ว่ายน้ำได้ออกกำลังกายได้จริงจัง ขอบสระเป็นกระจก เปิดวิวเข้าหาทิศเหนือ เห็น Super Tower ส่วนสระเล็กจะอยู่ลอยขึ้นไป เหมาะกับว่ายน้ำเบาๆ แช่ตัวพักผ่อน
ส่วนสระเหนืออาคาร A จะยาว 40 เมตร
จุดชุมวิวสวยๆ จะมีอยู่ที่อาคาร A ฝั่งทิศใต้
จะทำเป็น Amphitheater มีจอ สามารถนั่งดูหนัง outdoor ไปชมวิวไปได้เลย มุมนี้สวยค่ะ เห็นเป็น Skyline ของเมือง
ส่วนอีกมุมจะหันเข้าทิศเหนือ
ตรงนี้จะมี Pavilion เก๋ๆ มองเห็น Super Tower ค่ะ ต้องเอาไว้ชมวิวกลางคืนคงสวยงาม แต่กลางวันน่าจะร้อนนะ 😛
ที่จอดรถ 40% ยังไม่รวมซ้อนคัน ไม่ใช่หรอครับ