“แกรนด์ แอสเสทฯ” และ “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ร่วมกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” เผยแผนธุรกิจหลังร่วมทุน เดินหน้าโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” พร้อมเผยแผนระยะยาวใน 4 ปี ลุยเปิดโครงการต่อเนื่อง ทั้งคอนโดและบ้านเดี่ยว คิดเป็นมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท

ภายหลังจากกลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ กับ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ผู้นำในธุรกิจป่าไม้และธุรกิจก่อสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด ยังได้ร่วมกันแถลงถึงแผนการดำเนินงานภายใต้การร่วมทุน รวมถึงแผนธุรกิจในระยะยาว โดย นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค  นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้  นายอาคิระ อิชิคาวะ ประธานบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด และ นายชิเกรุ ซาซาเบะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด

นายชายนิด อรรถญาณสกุล เปิดเผยว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ ใช้เวลาดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการร่วมลงนามในสัญญาเพียง 8 เดือน ปัจจัยสำคัญคือความมั่นใจใน “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ซึ่งดำเนินธุรกิจมายาวนานและเป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น และยังมั่นใจในเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่จะทำให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงนวัตกรรมอันทันสมัย ที่สำคัญเรื่องของคุณภาพสินค้า ตามมาตรฐานญี่ปุ่นซึ่งมีระบบควบคุมคุณภาพอย่างดีเป็นที่ยอมรับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ยังเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและตกแต่งอาคารประเภทต่างๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบและก่อสร้างโครงการ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เรายังมองไปถึงการร่วมมือกันในระยะยาว โดยวางแผนลงทุนโครงการใหม่ร่วมกันทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดต่อเนื่องทุกปี ภายในระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2563 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ เมื่อรวมกับ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” จะเป็น 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท ในส่วนของบ้านเดี่ยวก็เช่นกัน ที่มีแผนลงทุนร่วมกัน คิดเป็นมูลค่าอีก 20,000 ล้านบาท ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า”

ด้าน นายอาคิระ อิชิคาวะ เปิดเผยว่า บริษัทเห็นถึงโอกาสของการลงทุนในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประเทศ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัยในอนาคตของญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ในประเทศไทยความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตลอด  อีกทั้งยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในเขตเมือง ซึ่งคล้ายคลึงกับประเทศญี่ปุ่น  ที่จะส่งผลให้ความนิยมของคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น

นายชิเกรุ ซาซาเบะ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จะเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบอาคาร ตลอดจนแลนด์สเคปของโครงการ  “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” และด้วยบริษัทเป็นผู้นำด้านธุรกิจไม้ จึงจะนำวัสดุไม้จริงเข้ามาใช้ในโครงการด้วย โดยคาดหวังที่จะได้นำเทคโนโลยีและวัสดุก่อสร้างอันทันสมัยจากเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก มาใช้เพื่อพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพสูง และแม้ว่า บริษัทจะคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้  แต่การร่วมมือกันเพื่อที่จะขยายการลงทุนต่อไป รวมทั้งการได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย ถือเป็นสิ่งตอบแทนที่ดีที่สุด

นายวิทวัส วิภากุล เปิดเผยถึงรายละเอียดโครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีโครงการเปิดตัวบนทำเลทองหล่อหลายโครงการ จึงมีแนวคิดในการออกแบบที่จะสร้างความแตกต่างให้กับโครงการ โดยได้รับแรงบันดาลใจสำคัญจากที่ตั้งโครงการ ที่อยู่ตรงข้ามสำนักงานองค์การยูเนสโกซึ่งเป็นผู้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก (World Heritage) แนวคิดการออกแบบจึงหลอมรวมเอาความโมเดิร์นมาผสมผสานกับความคลาสสิกของมรดกแห่งวัฒนธรรม ให้หรูหราสวยงามร่วมสมัยไร้กาลเวลาในแบบ Timeless

“ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” เป็นคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ขนาดพื้นที่ 2.5 ไร่ ริมถนนสุขุมวิทระหว่างสถานีบีทีเอสทองหล่อและเอกมัย โดยอยู่ห่างจากสถานีทองหล่อ 350 เมตร  สูง 45 ชั้น จำนวนประมาณ 300 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท กำหนดเปิดตัวโครงการและเริ่มก่อสร้างในปี 2561 ราคาขายเริ่มต้นจะอยู่ที่ตารางเมตรละ 300,000 บาท

สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนในทำเลทองหล่อ จากข้อมูลของ ซีบีอาร์อี พบว่า โครงการที่สร้างแล้วเสร็จ สามารถปิดการขายได้แล้วเกือบทั้งหมด ขณะที่โครงการที่เปิดขายอยู่และอยู่ระหว่างก่อสร้างได้รับการตอบรับที่ดี สามารถทำยอดขายไปแล้ว 71% โดยมีราคาขายเฉลี่ยตารางเมตรละประมาณ 300,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายของโครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ และแม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมระดับบนในทำเลทองหล่อจะขยับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน เนื่องจากทองหล่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

อนึ่ง ทั้ง 3 บริษัทได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท แกรนด์สตาร์ จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 300 ล้านบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการดังกล่าว  โดยสัดส่วนการถือหุ้น แกรนด์ แอสเสทฯ 40%, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 11% และอีก 49% ถือหุ้นโดย ซูมิโตโม ฟอเรสทรี สิงคโปร์ [Sumitomo Forestry (Singapore) Ltd.]  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ  ซูมิโตโม ฟอเรสทรี