สวัสดีค่ะ รีวิวนี้จะพาไปเยี่ยมชม ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 (Chuan Chuen Modus Vibhavadi Phase 2)  โครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดติดถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต จากมั่นคงเคหะการ ซึ่งนับเป็นโครงการแนวราบที่ติดถนนใหญ่และอยู่ใกล้เมือง เพราะเดี๋ยวนี้โครงการทาวน์โฮมใหม่ๆ มักจะต้องถอยไปชานเมืองกันหมดแล้ว  ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 นี้เลยมีจุดเด่นตรงทำเล ตั้งอยู่เยื้องๆ กับ IT Square ใกล้แยกหลักสี่และสนามบินดอนเมือง และกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต และสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี มาให้ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกในอนาคตอีกด้วย

วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิว ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 มาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ ^^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chuan Chuen Modus Vibhavadi Phase 2

(ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า ใกล้กับแยกหลักสี่
• ขนาดที่ดิน >>>  22-3-89.7 ไร่ (เฟส 2)
• จำนวนหลัง >>> 180 ยูนิต
• ประเภทบ้าน >>>
  • ทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น MT1 :  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.  ที่ดินเริ่มต้น 23.8 ตารางวา
  • ทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น MT2 : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 23.8 ตารางวา
  • บ้านแฝด สูง 3 ชั้น DP2 : 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    พื้นที่ใช้สอย 248 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 49.1 ตารางวา
  • บ้านแฝด สูง 3 ชั้น DP3 : 2 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (แบบบ้านใหม่)
    พื้นที่ใช้สอย 248 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 49.1 ตารางวา
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคา ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
  • ทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น  5.49  ล้านบาท
  • บ้านแฝด สูง 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น  10.4  ล้านบาท
• พิกัด GPS >>> 13.891254, 100.586026
• เว็บไซต์โครงการ >>> ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2
• โทร >>> 1622

ที่ดินของ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า ระหว่างซอยวิภาวดีรังสิต 70 และ 72  ห่างจากแยกหลักสี่ประมาณ 900 เมตร  โดยทางเข้าจะอยู่ติดถนนใหญ่เลยค่ะ เข้ามาจะผ่าน ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 ก่อน วัดจากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงเฟส 2 ค่ะ  เป็นโครงการทาวนโฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ทำเลในเมือง ที่ใกล้ทั้งสนามบินดอนเมือง และศูนย์ราชการบนเส้นแจ้งวัฒนะด้วย

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางไปยังโครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2  เราขับมาจากห้าแยกลาดพร้าว วิ่งตรงตามทางไปเรื่อยๆ จนผ่านโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และแยกหลักสี่  พอผ่านแยกหลักสี่มาก็มองหาป้ายสะพานกลับรถไปรามอินทราค่ะ กลับรถตามทางมาลงวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า พอลงมาแล้วจะอยู่หน้าศูนย์รถยนต์ Porsche พอดี ก็ขับชิดซ้ายมาตลอดเลยก็ได้ จากนั้นจะผ่านที่ดินเปล่าผืนใหญ่มาแล้วก็ถึงโครงการเลยค่ะ อยู่ทางซ้ายมือ

โครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 ตั้งอยู่ระหว่างซอยวิภาวดีรังสิต 70 และ 72 หรือระหว่างสนามบินดอนเมืองกับแยกหลักสี่ ซึ่งทางเข้าหลักโครงการจะอยู่ก่อนถึงแยกหลักสี่ 900 เมตร ถ้าตรงต่อไปที่แยกหลักสี่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าไปที่แยกรามอินทรา (วงเวียนหลักสี่) เป็นจุดเชื่อมของถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนรามอินทรา, ถนนพหลโยธิน แต่ถ้าจะไปศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะจะต้องไปเลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะก่อนแล้วกลับรถแล้วขึ้นสะพานข้ามถนนวิภาวดีรังสิตไปอีกที ส่วนถ้าจะเข้าเมืองก็ขับตรงไปอย่างเดียวหรือจะขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ไปก็ช่วยหนีรถติดได้

ซึ่งฝั่งศูนย์ราชการเส้นแจ้งวัฒนะนั้นจะมี สำนักงานใหญ่ TOT, ศาลปกครอง, ศาลรัฐธรรมนูญ, ไปรษณีย์ไทย  , โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, IT Square หลักสี่ – แจ้งวัฒนะ, วัดหลักสี่ ค่ะ   ส่วนในฝั่งขาออกของวิภาวดีรังสิตนั้นก็มี สนามบินดอนเมือง  สำหรับเส้นแจ้งวัฒนะไปถึงแยกวงเวียนหลักสี่มีสถานที่สำคัญ เช่น ม.ราชภัฎพระนคร , Max Valu หลักสี่ , มหาวิทยาลัยเกริก, Tesco Lotus หลักสี่ และ วัดพระศรีมหาธาตุบางเขนค่ะ

นอกจากใกล้แหล่งทำงานแล้ว ทำเลนี้ยังโชคดีที่มีแนวรถไฟฟ้าผ่านถึง 3 สาย โดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านถนนแจ้งวัฒนะ จากแครายไปจนถึงมีนบุรี มีสถานีหลักสี่ บริเวณแยกหลักสี่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ระยะประมาณ 900 เมตร แต่สายสีชมพูจะสร้างเสร็จช้าที่สุดค่ะ

ส่วน รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม รังสิต – บางซื่อ จะได้ใช้ก่อนเป็นสายแรก ซึ่งก่อสร้างไปได้ค่อนข้างเยอะแล้ว สถานีที่ใกล้สุดจะเป็นสถานีหลักสี่ ตั้งอยู่เหนือถนนกำแพงเพชร 6 ด้านหน้าไอทีสเควร์  จากหน้าโครงการสามารถเดินไปขึ้นสะพานลอยแล้วข้ามฝากไปยังสถานีได้ ในระยะ 800 เมตร  แบบไม่รวมระยะเดินขึ้นสะพานลอย  ส่วนสายต่อมาที่ก่อสร้างอยู่เช่นกัน คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต – คูคต วิ่งต่อจาก BTS สถานีหมอชิตตามถนนพหลโยธินไปเรื่อยๆ จนถึงคูคต สถานีที่อยู่ใกล้สุดคือ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุบริเวณแยกวงเวียนหลักสี่ค่ะ

(ระยะและตำแหน่งของสถานีในภาพยังใช้ยืนยันตำแหน่งจริงไม่ได้นะคะ ความจริงอาจจะคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย)

ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 นี้ ตั้งอยู่ด้านหลัง ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 (หมายเลข 2) อีกที  ถ้าวัดจากถนนใหญ่เข้าไปจะมีระยะประมาณ 350 เมตรซึ่งถือว่าไม่ลึกมากเท่าไหร่  ทิศเหนือจะติดกับที่ดินของมั่นคงเคหะการ (หมายเลข  1) จะพัฒนาเป็นโครงการเฟสต่อไป ส่วนทางเข้าโครงการจะติดกับ DEN วิภาวดี คอนโดมิเนียม (หมายเลข 3) ของมั่นคงเคหะการเช่นกัน และที่ิดินใหญ่ที่ขนาบทางเข้าอีกฝั่งเป็นที่ดินของม.ศรีปทุมค่ะ (หมายเลข 4)  มีแนวโน้มว่าจะขยายมหาลัยมาสร้างตรงนี้ด้วย ทำเลจะยิ่งคึกคักเข้าไปอีก ข้างๆ คอนโด Den เป็น บริษัท Cummins  (หมายเลข 5) ผลิตชิ้นส่วนระบบผลิตไฟฟ้า  ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนวิภาวดีรังสิตจะเป็นคอนโด Parkview Viphavadi (หมายเลข 6) ขึ้นเหนือไปอีกเป็นศูนย์อบรมลูกเรือการบินไทย หลักสี่ (หมายเลข 7) ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับศูนย์ Cotto Studio สาขาดอนเมือง (หมายเลข 8) และศูนย์รถยนต์ Porsche (หมายเลข 9) พอดี  ถ้าไล่ไปทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามจะมีโรงเรียนวัดหลักสี่ (หมายเลข 10) , วัดหลักสี่ (หมายเลข 11) และต่อด้วย IT Square หลักสี่ (หมายเลข 12) ตรงหัวมุมแยกหลักสี่พอดีค่ะ ทั้งสามนี้จะเรียงอยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มผ่านหน้า

เนื่องจากถนนวิภาวดีรังสิตเป็นถนนไฮเวย์  ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ได้ตั้งอยู่ในระยะเดินถึง  เป็นทำเลเหมาะกับการขับรถไปยังสถานีที่ต่างๆ มากกว่า  มีเพียง IT Square เท่านั้นที่พอเดินไปพึ่งพาหาของกินได้ (แต่จริงๆ ก็ไม่เดินกันหรอกเนอะ ขับรถอยู่ดี)  ทางโครงการเลยมีร้าน 7-Eleven หน้าโครงการให้ 1 ร้านตรงทางเข้า พอช่วยอำนวยความสะดวกไปได้บ้าง  ถ้าสถานีสายสีแดงและสายสีชมพูสร้างแล้ว ก็น่าจะช่วยกระตุ้นให้มีร้านค้ามากขึ้นนะ …อันนี้ต้องลุ้นกันอีกที  …อ้อ..อีกอย่างที่ต้องรู้คือทำเล ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 อยู่กับใกล้สนามบินดอนเมืองมาก เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องได้ยินเสียงเครื่องบินอยู่บ่อยๆ คนหาบ้านโซนนี้ก็ต้องรู้เป็นข้อมูลไว้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปดูรอบๆ ที่ตั้งโครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี กันก่อนดีกว่า โดยเริ่มจากสิ่งอำนวยความสะดวกเส้นวิภาวดีรังสิต ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเส้นแจ้งวัฒนะก่อนถึงถนนรามอินทราค่ะ

เริ่มกันที่สนามบินดอนเมือง ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี

ติดๆ กับสนามบินเป็น ร้านเจ๊เล้ง ตรงซอยวิภาวดีรังสิต 74

Cotto Studio สาขาดอนเมือง

ศูนย์รถยนต์ Porsche อยู่ติดกับซอยวิภาวดีรังสิต 72

ที่ดินเปล่าของม.ศรีปทุม กินพื้นที่ตั้งแต่ซอยวิภาวดีรังสิต 72 จนถึงรั้วของชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1

แล้วก็จะถึงทางเข้าโครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 และเฟส 2 ค่ะ ติดๆ กันเป็นเด็น วิภาวดี คอนโดมิเนียม

สะพานลอยข้ามถนนใหญ่สีฟ้าสดใส ข้ามไปลงหน้าวัดหลักสี่พอดี

ปั๊มน้ำมันปตท.สาขาวิภาวดี 70 ด้านในมี 7-Eleven แวะมาเติมน้ำมันก่อนเข้าตัวเมืองได้

บรรยากาศตรงสี่แยกหลักสี่ หัวมุมถนนเป็นหลักสี่เซ็นเตอร์ แหล่งรวมอะไหล่รถยนต์

เลยแยกหลักสี่มาไม่ไกลก็เป็นทางขึ้นดอนเมืองโทล์เวย์ ช่วยเลี่ยงรถติดได้

ไปดูสถานที่สำคัญบนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออกกันบ้าง

สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ในเขตโรงพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ค่ะ

IT Square หลักสี่-แจ้งวัฒนะ

ตัวสถานีหลักสี่ ของรถไฟฟ้าของสายสีแดงเข้ม ที่อยู่ด้านหน้าของ IT Square หลักสี่-แจ้งวัฒนะค่ะ ได้ใช้แน่นอนเพราะสร้างไปเยอะแล้ว

ต่อด้วยศูนย์ราชการบนถนนแจ้งวัฒนะ และถนนแจ้งวัฒนะฝั่งที่ไปทางแยกวงเวียนหลักสี่ค่ะ  ใครที่ทำงานลงหลักปักฐานย่านนี้แล้ว  ก็จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าของโครงการนี้ด้วยแน่นอน

สำนักงานใหญ่ TOT แจ้งวัฒนะ

ติดๆ กันเป็นบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด

ศูนย์บริการลูกค้า CAT Service Center แจ้งวัฒนะ

ศาลปกครอง

ทีนี้มาอยู่ฝั่งถนนแจ้งวัฒนะตอนต้นบ้าง อาคารอิทธิพร เขตหลักสี่ อยู่เยื้องกับซอยแจ้งวัฒนะ 1 ค่ะ

ติดๆ กันเป็นโรงเรียนอนุบาลและประถม เจริญผลวิทยา

Max Valu หลักสี่ มีพื้นที่ใหญ่มากค่ะ

แล้วก็มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครอยู่ก่อนถึงแยกวงเวียนหลักสี่ค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ดูทำเลรอบๆ กันไปแล้ว ทีนี้เข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขาย ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 กันต่อเลยดีกว่า

เมื่อเลี้ยวเข้าโครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เข้ามา ทางขวามือจะเป็น 7-Eleven ต่อด้วยซุ้มทางเข้าโครงการเฟส 1

7-Eleven ด้านหน้าช่วยให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น เพราะรอบๆ ไม่มีร้านค้าอะไรเท่าไหร่

มองกลับไปยังทางเข้าโครงการ ติดถนนวิภาวดีรังสิตเลย

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเป็น ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 ซึ่งขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว  ติดถนนหลักจะเป็นอาคารพาณิชย์ยาวไปตลอดแนว  มีร้านค้าและบริษัทอยู่หลายร้านเลย ส่วนทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นจะอยู่ในซอยด้านหลังค่ะ

อาคารพาณิชย์หลังสุดท้ายจะเป็นสำนักงานขายค่ะ สังเกตง่ายๆ คือมีป้ายโฆษณาอยู่ด้านบน และมีรถกอล์ฟด้านหน้า

เข้าไปดูสำนักงานขายกัน

เข้ามาด้านหน้าก็เจอเคาน์เตอร์ต้อนรับตั้งอยู่ตรงกลาง

มีชุดรับรองลูกค้านั่งคุยเลือกยูนิตกันได้

เดินจากสำนักงานขายมาอีกนิดเดียวก็จะถึง ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2  ซึ่งไม่มีซุ้มทางเข้าแล้วนะคะ มีป้อมยามและระบบ Access Card

แบ่งทางเข้า-ออก และกั้นรถด้วยไม้กระดก

ลูกบ้านจะมี Access Card  สามารถแตะบัตรเข้าไปได้เลย แต่ผู้มาติดต่อต้องแลกบัตร

ถนนหลักในโครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 จะกว้าง 12 เมตรเป็นโซนบ้านแฝด แต่ซอยด้านหลังที่เป็นซอยทาวน์โฮมกว้าง 9 เมตรค่ะ

ซอยแรกที่ต่อเนื่องจากมาถนนหลัก เป็นซอยบ้านแฝดถนนกว้าง 12 เมตร  ยาวไปตลอดทาง

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 จะอยู่ด้านหลัง โครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 และ DEN วิภาวดี คอนโดมิเนียม  โดยเฟส  1 , เฟส 2 ฝั่งทิศใต้จะติดกับคลองหลักสี่ยาวไปตลอดแนว ส่วนฝั่งทิศเหนือของเฟส 1 จะติดกับที่ดินของม.ศรีปทุม ที่ปัจจุบันยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่ ทางทิศเหนือของเฟส 2 จะเป็นที่ดินเปล่าเหมือนกันแต่เป็นที่ดินของมั่งคงเคหะการเอง มีโครงการจะพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต แต่จะเข้า-ออก แยกจากกัน ถัดจากที่ดินเปล่าขึ้นไปอีกก็เป็นเขตของสนามบินดอนเมืองแล้วค่ะ  ส่วนทิศใต้ถัดจากคลองหลักสี่จะเป็นโครงการหมู่บ้านในซอยซะส่วนใหญ่ 

ข้อดีของการที่เฟส 2 อยู่ลึกเข้ามาจากถนนใหญ่คือมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง เสียงรบกวนจากถนนใหญ่น้อยลง แต่เสียงจากเครื่องบินยังคงได้ยินกันอยู่นะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

ผังโครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2  จะมีพื้นที่เป็นแนวยาวลึกเข้าไปด้านใน มีถนนหลักๆ อยู่ 2 เส้น ถนนเมนช่วงด้านหน้าจะกว้าง 12 เมตร ยาวต่อเนื่องมาจากทางเข้า จะเป็นโซนบ้านแฝด ส่วนถนนด้านหลังจะเป็นถนนกว้าง 9 เมตร เป็นโซนบ้านทาวน์โฮมที่ขายไปได้เกือบหมดแล้วค่ะ …สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการเฟส 2 นี้จะมีสวนหย่อม 2 แห่ง สวนแรกจะอยู่ใกล้กับป้อมยาม ซึ่งลูกบ้านเฟส 1 มาใช้งานได้เหมือนกัน สวนแห่งที่สองจะอยู่ลึกเข้ามาด้านใน ขนาดจะใหญ่ขึ้นหน่อยมีสนามเด็กเล่น และมี Clubhouse  เป็นห้องฟิตเนส, ห้องนิติบุคคลและห้องน้ำ แต่ไม่มีสระว่ายน้ำค่ะ หากอยากจะใช้สระว่ายน้ำสามารถไปใช้ของคอนโด Den วิภาวดี ที่ตั้งอยู่ใน ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 แทนได้  เป็นของทางมั่นคงเหมือนกัน  มีทั้งห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องมวยพร้อมอุปกรณ์แบบจริงจัง แต่ทั้งนี้ต้องเสียค่าใช้บริการเพิ่มเติมค่ะ มีให้เลือกแบบเป็นรายครั้ง รายเดือน และรายปี

ตอนนี้เราเข้ามาอยู่ด้านในโครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 แล้วนะคะ มองกลับไปทางป้อมยามจะเห็นว่าปลูกต้นไม้ตามรั้วโครงการให้ร่มรื่นใช้ได้เลย ทางซ้ายมือจะเป็นสวนหย่อมแห่งแรกที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งเฟส 1 และเฟส 2

เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ประมาณ 402 ตารางวา แบ่งเป็นทางเดิน ลานกว้าง และมีศาลาอยู่ตรงกลาง

ศาลาคอนกรีตทาสีขาว เดินออกกำลังกายเหนื่อยมาหลบแดดได้  ถ้ามีชุดโต๊ะเก้าอี้สักหน่อยน่าจะดีนะคะ

เดินเข้ามาด้านหลังมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ให้ มีชิงช้า สไลด์เดอร์ และม้าโยก 2 ตัว

ทางเดินรอบสวนปูด้วยพื้นคอนกรีต

ต้นไม้ยังใบไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่  ต้องรอโตอีกหน่อย

ต่อมาเป็นสวนสาธารณะแห่งที่สองที่อยู่ด้านในค่ะ ตรงกลางเป็นสนามหญ้าปูให้เป็นเนินๆ สูงจากพื้น  ให้ดูมีลูกเล่นหน่อย

ทางเดินเทเป็นพื้นคอนกรีตสลับกับหินล้าง เล่นลวดลายกราฟิกสามเหลี่ยม ที่นั่งก็ก่อเป็นรูปสามเหลี่ยมเข้ากับลายที่พื้น

ด้านในมีสนามเด็กเล่นให้อีกเช่นกัน เป็นชุดสไลด์เดอร์

เดินเข้ามาสุดสวนจะเป็น Clubhouse

หน้าตา Clubhouse เป็นอาคารสูง 1 ชั้น โครงสร้างเหล็กสีดำ ออกแบบทันสมัยเข้ากับลายที่พื้นดี รั้วด้านข้างทำเป็นระแนงสีดำช่วยบังสายตาให้คนที่เล่นฟิตเนสเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

พื้นที่ในห้องฟิตเนสเป็นห้องเล็กๆ ค่ะ วางเครื่องออกกำลังกาย 4 เครื่องก็แน่นเต็มห้องแล้ว

ด้านข้างฟิตเนสเป็นทางเดินพามายังห้องนิติบุคคลและห้องน้ำ

เป็นห้องน้ำชาย 1 ห้อง ห้องน้ำหญิง 1 ห้อง

หากพื้นที่ส่วนกลางของเฟส 2 ยังไม่จุไจพอ ก็สามารถมาใช้ Clubhouse ของ Den วิภาวดี ตรง ชวนชื่น โมดัส เฟส 1 ได้ ตั้งอยู่ใกล้กับซุ้มทางเข้าโครงการเลยค่ะ  คลับเฮ้าส์ตรงนี้จะสูง 2 ชั้น

เดินขึ้นบันไดมาเจอกับโถงกลาง ตรงไปจะเป็นะสระว่ายน้ำ ซ้ายมือจะเป็นห้องฟิตเนสห้องแรก

เป็นห้องฟิตเนสขนาดเล็ก

ภายในมีฟิตเนสแบบลู่วิ่งอยู่ประมาณ 4 เครื่อง

สระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง มีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่

ข้างสระเป็นร้านกาแฟ มานั่งชิลล์ๆ กันได้

จากสระว่ายน้ำจะเห็นด้านหลังโครงการ Den วิภาวดีรังสิตด้วย ลูกบ้าน Den จะมีทางเดินเข้ามาใช้งานที่ Clubhouse ส่วนนี้ได้เช่นกัน 

ขึ้นมาชั้นสองเห็นนวมวางกันเรียงราย…อุปกรณ์พร้อมมาก

มีห้องซ้อมมวยซะด้วย ปูพื้นนุ่มนิ่ม

ส่วนอีกห้องเป็นฟิตเนสห้องที่ 2 ค่ะ ห้องนี้ขนาดใหญ่เลย มีอุปกรณ์ครบครัน รู้สึกได้ถึงการใช้งานกันจริงๆ

เปิดแปลนบ้าน

โครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2
แบบบ้านแฝด DP 3 พื้นที่ 248 ตารางเมตร

สำหรับแบบบ้านชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 เราจะเน้นกันที่บ้านแฝด DP 3 ซึ่งเป็นแบบบ้านใหม่ในปี 2561 นี้  มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น จัดเป็นสำนักงานหรือบ้านก็ได้หมดค่ะ  พื้นที่ใช้สอยรวม 248 ตารางเมตร บนพื้นที่ขนาด 49.1 ตารางวาขึ้นไป มี 2 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน แบบมีหลังคาโรงรถให้อีกด้วย

ชั้นล่างด้านหน้าจะเป็นพื้นที่จอดรถ ถัดจากที่จอดจะเป็นชานพัก พอเข้ามาในตัวบ้านก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีห้องน้ำ ห้องเก็บของ และบันไดรวบอยู่ติดหลังบ้าน แต่ห้องน้ำจะไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ  ข้างๆ บันไดจะมีประตูออกไปยังหลังบ้านได้ ซึ่งพื้นที่หลังบ้านก็จะปูหญ้าให้เรียบร้อย มีพื้นที่ด้านหลังบ้านกว้างมาก

เมื่อเดินบันไดขึ้นไปชั้นสอง จะเป็นพื้นที่ว่าง open space ยาวตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต สามารถกั้นเป็นห้องๆ ทำสำนักงานได้ดี  มีระเบียงยาวด้านหลังและด้านหน้า และมีห้องน้ำอยู่ติดหน้าบ้านให้ 1 ห้อง ซึ่งพื้นที่หน้าห้องน้ำสามารถกั้นเป็นแพนทรี่ครัวเล็กๆ สำหรับชงกาแฟได้ ไม่มีพื้นทีอาบน้ำเช่นกัน

ที่ชั้น 3 จะขึ้นมาเจอกับโถงกลาง มีห้องนอน 2 ห้องทางด้านหน้าและด้านหลัง และแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว แต่ห้องนอนด้านหน้าจะมีระเบียงด้วย และมีพื้นที่ใหญ่กว่าเพราะได้ความกว้างเต็มที่ ทำเป็น Walk-In Closet ได้สบายๆ  ส่วนห้องนอนด้านหลังจะแคบกว่าเพราะติดกับบันไดค่ะ

รวมๆ จัดพื้นที่ออกมาได้กว้างขวางทำให้ยืดหยุ่นในการใช้งาน มีหลังคาคลุมรถให้เรียบร้อยไม่ต้องมาต่อเติมภายหลังให้วุ่นวาย หน้าบ้านก็ไม่แคบจนอึดอัด สวนด้านหลังก็มีพื้นที่เหลือเยอะ สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ค่ะ

.

หน้าตาบ้านแฝดสูง 3 ชั้น แบบ DP 3 ออกแบบสไตล์โมเดิร์น คุมโทนสีเทาอ่อน – เทาเข้ม ผนังชั้นล่าง Set Back เข้าไปเพราะเป็นพื้นที่จอดรถ ชั้น 2 เป็นระเบียงกระจก ผนังทาสีเทาอ่อน ส่วนชั้น 3 เป็นระเบียงเหล็กสีดำ ผนังทาสีเทาเข้มและมีเซาะร่องตารางเพิ่มรายละเอียดให้กับรูปด้าน และมีก่อปูนผนังยื่นออกมาจากตัวบ้านล้อมตรงประตูระเบียง ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น  ในภาพรวมก็ถือว่าทำสัดส่วนขององค์ประกอบบนตัวบ้านออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

เทียบให้ดูกับแบบบ้านแฝด DP 2 ทางขวามือค่ะ ตัวนี้จะทาสีน้ำตาล – เทา – ขาว แปลนด้านในเหมือนกันแต่มีกั้นห้องนอนที่ชั้น 2 และชั้น 3 ให้ ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นที่ต้องการใช้งาน แต่ส่วนตัวเราชอบแบบใหม่ เพราะว่าโทนสีเทาดูคลาสสิกกว่า 😛

รั้วประตูทางเข้าเป็นประตูเหล็กพับเก็บด้านข้างได้ หลังคาที่จอดรถเป็นโครงสร้างเหล็กทาสีเทาเข้ม เข้ากับตัวบ้าน  โดยส่วนตัวคิดว่าการที่ทำหลังคาต่อมาให้เลยนี่ดีมาก  เพราะไม่งั้นแต่ละบ้านก็จะต่างคนต่างต่อเติมเอา  ทำให้ภาพรวมของโครงการดูไม่สวยงามค่ะ  ถ้าทำมาให้เหมือนกันหมดเลยตั้งแต่ต้นแบบนี้ก็ดูเรียบร้อยดี

ถ้าปิดประตูจะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ ภาพนี้ไปถ่ายของบ้านแบบ DP 2 มาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่จอดรถเทคอนกรีตแยกโครงสร้างจากตัวบ้าน จอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ ไม่แคบ

หน้าบ้านฝั่งที่ติดกับบ้านแฝดอีกหลังจะมีถังขยะอยู่ด้านหลังรั้วและมีประตูเก็บขยะจากหน้าบ้าน ทำให้ไม่ต้องวางถังขยะกันตามทางเท้า ทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบร้อย

ชานพักหน้าบ้านลึกประมาณ  1 เมตร ทำพื้นหินล้างทรายล้างและปูกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนไว้ตรงกลาง ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ติดกับบ้านแฝด ส่วนหัวมุมบ้านจะทำเป็นหน้าต่างบานใหญ่แบบเข้ามุมให้ซะด้วย

ด้านข้างที่จอดรถฝั่งที่ติดกับบ้านแฝด มีพื้นที่พอสามารถปลูกต้นไม้ได้ด้วย เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี

อีกฝั่งจะมีพื้นที่เยอะกว่า ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ค่ะ ของจริงจะลงหญ้าเอาไว้ให้เฉยๆ นะ

สวนข้างบ้านนี่ก็ปลูกต้นไม้กันได้ตามสบายค่ะ พื้นที่เหลือเฟือ

และสวนหลังบ้านก็มีความกว้างประมาณ 5 เมตร ซึ่ง…กว้างกว่าทุกโครงการที่เคยไปรีวิวมาเลย ถ้าอยู่เป็นบ้านก็ตากผ้ากันสบายๆ หรือ ปลูกต้นใหญ่ไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆ ในออฟฟิศได้  วางเฟอร์นิเจอร์สนามสำหรับนั่งเล่นก็ไม่อึดอัด

ภาพมุมสูง

ด้านหลังบ้าน ผนังจะ Set Back เข้าไป ช่วยลดฝนสาดเข้าตัวบ้านได้ดี ผนังทาสีขาวล้วน

ตามระเบียงต่างๆ ก็ทำท่อระบายน้ำออกมาให้

ประตูหลังบ้านค่ะ เปิดออกมาเจอลานซักล้างพื้นคอนกรีต  มีดวงไฟที่ผนังให้สองดวง ช่องแสงทางซ้ายจะตรงกับบันไดพอดี หน้าต่างตรงกลางจะเป็นบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

บ้านตัวอย่างของชวนชื่น โมดัส วิภาวดี  จะให้บ้านเปล่า สุขภัณฑ์ห้องน้ำ พร้อมปลูกหญ้าที่สวนให้  ความสูงของฝ้าเพดานในห้องทั่วไปสูง 2.6 เมตร ค่ะ  บ้านตัวอย่างจะมีให้ดู 2 แบบ คือ หลังที่แต่งเป็นสำนักงานขายและแต่งเป็นบ้านพักอาศัย ซึ่งเราจะพาไปดูกันทั้งสองแบบเลย

ห้องตัวอย่าง ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2

แบบบ้านแฝด DP 3 : ตัวอย่างจัดแบบบ้านพักอาศัย

สำหรับบ้านตัวอย่างหลังแรกนี้ จะตกแต่งให้เหมือนเป็นบ้านพักอาศัย เมื่อเปิดประตูทางเข้าหลักก็จะมีพื้นที่โล่งๆ ตรงนี้จัดเป็นพื้นที่วางรองเท้า และโต๊ะโชว์ของ เหมือนเป็นส่วนต้อนรับ

ฝั่งที่ติดกับหน้าต่างเข้ามุมจะมีพื้นที่กว้าง จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้หลากหลาย

ช่วงกลางของบ้านจะจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ต่อด้วยพื้นที่ครัวติดหลังบ้าน

บริเวณครัวสามารถทำเคาน์เตอร์รูปตัว U ได้ จะอยู่ติดกับหน้าต่างหลังบ้านพอดี สามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ หรือจะกั้นเป็นครัวปิดไปเลยก็ได้เช่นกัน

ส่วนห้องน้ำชั้นล่างนี้จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำเป็นห้องพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝั่งนึงเป็นอ่างล้างหน้า

อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์อยู่ใต้ท้องบันได ฝ้าเลยจะเอียงๆ หน่อย หลังโถสุขภัณฑ์เจาะช่องผนังให้สามารถวางของด้านหลัังได้ด้วย

เปิดประตูออกหลังบ้านค่ะ

ลานซักล้างเทคอนกรีต ล้างทำความสะอาดให้ มีก๊อกน้ำและดวงไฟให้เรียบร้อย

มองกลับไปยังประตูหลังบ้าน

บันไดขึ้นชั้นสองจะอยู่ติดหลังบ้านพอดี  เป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เดินแล้วแข็งแรงดี ไม่มีเสียงก๊อกแก๊ก

ราวจับบันไดมีให้ฝั่งเดียวนะคะ ตรงชานพักบันไดมีช่องแสงและหน้าต่างระบายอากาศให้ด้วย

ขึ้นมาชั้น 2 จะกั้นห้องเพิ่ม แบ่งพื้นที่ด้านหลังทำเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่เหลือเฟือ และได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างด้านข้างและจากระเบียงหลังบ้าน

มองกลับไปทางหน้าบ้าน จะกั้นเป็นห้องนอน แต่หลังจริงๆ จะไม่มีกั้นให้แบบนี้นะคะ

ตรงบันไดขึ้นชั้นสามจะไม่ได้ก่อด้วยผนังทึบ จะมองเห็นรั้วบันไดโปร่งๆ แบบนี้ ข้อดีคือโล่งและทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น แต่หากจะกั้นห้องติดแอร์ก็คงต้องต่อเติมกันหน่อย

ระเบียงหลังบ้านเป็นระเบียงยาวๆ  กว้างประมาณ 70 ซม. ออกมาสูดอากาศดูสวนหลังบ้านได้  การที่หลังบ้านมีระยะห่างจากบ้านตรงข้ามมาก  ทำให้ตรงนี้ดูไม่อึดอัด  เป็นอีกสิ่งที่ชอบในโครงการนี้ค่ะ

เข้ามาในห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าค่ะ หน้านี้ก็ได้แสงธรรมชาติจากระเบียงด้านหน้าและหน้าต่างด้านข้างเช่นกัน

ปลายเตียงพื้นที่เหลือๆ มีประตูเข้า Walk-in Closet และห้องน้ำเป็นสัดส่วนดี

พื้นที่ Walkin-Closet ตรงนี้จะต้องต่อเติมผนังเพิ่มเอา เป็นพื้นที่ว่างด้านหลังบันไดพอดี

ภายในห้องน้ำหลังนี้จะต่อเติมห้องน้ำให้ยาวออกมาอีก ทำให้มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ายาวขึ้นและมีพื้นที่อาบน้ำเพิ่ม และมีหน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งอยู่ติดพื้นที่อาบน้ำ

เมื่อขึ้นมาชั้น 3 เราจะเจอกับโถงกลางก่อน คั่นอยู่ระหว่างห้องนอนหน้าบ้านและหลังบ้าน

หันหลังมาดูโถงบันไดกันหน่อย เมื่อชั้นบนสุด  ฝ้าตรงโถงบันไดเลยสูงมาก ทางโครงการเลยทำช่องแสงเพิ่มให้อีกจุด ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟตรงบันไดเลยในตอนกลางวัน  ตรงนี้ห้อยโคมไฟเพดานลงมาสวยๆ ก็น่าจะดีนะคะ

ห้องนอนหน้าบ้านจะได้ความกว้างของห้องเท่ากับความกว้างของตัวบ้านเลยค่ะ หลังเตียงมีหน้าต่างข้างเตียงให้อีก 2 บานด้วย ส่วนด้านข้างจะเป็นระเบียงค่ะ

ปลายเตียงก็เหลือพื้นที่ ทำเป็นโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ยาวเต็มผนังเลยก็เรียบร้อยดี

มีห้องน้ำในตัวค่ะ ตรงกลางเป็นอ่างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำ

ทีนี้มาห้องนอนหลังบ้านกันต่อ ห้องนี้จัดเป็นห้องทำงานค่ะ ความกว้างของห้องจะแคบกว่านิดหน่อยเพราะว่าติดกับบันไดพอดี

แต่ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนก็สามารถทำได้สบายๆ นะคะ แต่ไม่มีระเบียงเหมือนห้องนอนหน้าบ้าน

ห้องตัวอย่าง ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2

แบบบ้านแฝด DP 3 : ตกแต่งเป็นสำนักงาน

สำหรับบ้านแฝดอีกหลังจะจัดออกมาเป็นสำนักงาน ซึ่งแปลนจะเหมือนกับหลังก่อนหน้านี้เลยค่ะ เพียงแต่ละสลับด้านกันเท่านั้น  ซึ่งก็เป็นการโชว์ให้เห็นว่าแปลนนี้สามารถจัดฟังก์ชั่นได้ทั้ง 2 แบบ  ไม่ว่าจะอยู่เป็นบ้านอย่างเดียว  หรือทำเป็นโฮมออฟฟิศก็ตาม

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน จะมีพื้นที่โล่งๆ ก่อนถึงห้องน้ำ สามารถกั้นเป็นคอกเคาน์เตอร์ต้อนรับได้

ด้านข้างที่ติดกับหน้าต่าง ก็ยังเหมาะกับจัดเป็นพื้นที่รับแขก หรือห้องนั่งเล่น ที่มองเห็นสวนด้านข้างได้ด้วย ส่วนด้านหลังจะกั้นเป็นพื้นที่เป็นห้องประชุมเล็กๆ

พื้นที่ห้องน้ำ ห้องเก็บของ และบันได จัดไว้อยู่ติดๆ กัน

ถ้ากั้นเป็นห้องประชุมชั้นล่าง ก็พอประชุมกันได้ประมาณ 6 – 8 คน

ห้องน้ำชั้นล่างค่ะ มีอ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์

เนื่องจากกั้นเป็นห้องประชุม พื้นที่ครัวชั้นล่างเลยเหลือพื้นที่ประมาณนี้

บันไดขึ้นชั้นสองก็อยู่ติดหลังบ้าน ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างหลังบ้านช่วย แต่ก็ยังมีดวงไฟติดที่ชานพักบันไดให้

ชั้นสองจะตกแต่งเป็นสำนักงาน กั้นพื้นที่ทำงานออกเป็น 3 ส่วน ด้วยผนังกระจก เพื่อให้ภาพรวมของห้องยังดูโปร่งและโล่งอยู่

มีหน้าต่างจากทั้งหน้าบ้าน ด้านข้างและด้านหลัง ช่วยกันให้แสงธรรมชาติค่ะ

ระเบียงด้านหลังยาวมองเห็นสวน เปิดมาพักผ่อนกันตรงนี้ได้

บันไดขึ้นชั้นสาม ก็ไม่มีผนังปิดค่ะ เปิดโล่งไว้แบบนี้

พื้นที่หลังบันไดสามารถกั้นเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์สำนักงานได้

ส่วนพื้นที่หน้าห้องน้ำ ก็เหมาะที่จะจัดเป็นแพนทรี่เล็กๆ สำหรับชงกาแฟ ล้างแก้วกันเล็กๆ น้อยๆ

ห้องน้ำที่ได้จริงๆ จะเป็นแบบหลังนี้ค่ะ คือได้อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ

ขึ้นมาชั้น 3 เจอกับส่วนโถงกลางก่อน หลังนี้ปรับห้องด้านหน้าเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัว สำหรับใช้อยู่อาศัยจริงของเจ้าของออฟฟิศ ผนังก็เปลี่ยนเป็นกระจกแทนช่วยให้โล่งและโปร่งมากขึ้น

มีห้องนั่งเล่น และเคาน์เตอร์ครัว

โซนโต๊ะรับประทานอาหาร และแพนทรี่…จัดออกมาน่ารักจังเลยค่ะ มีหน้าต่างช่วยระบายอากาศด้านหลังแพนทรี่พอดีด้วย และอยู่ติดระเบียงหน้าบ้าน ได้แสงธรรมชาติทั้งห้อง

ติดๆ กันเป็นห้องน้ำในตัว  ฝั่งนึงเป็นโถสุขภัณฑ์

ส่วนอีกฝั่งนึงเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ แต่มีหน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งให้ 1 บาน

สุดท้ายมายังห้องนอนที่อยู่หลังบ้าน พื้นที่ก็เหลือๆ วางเตียงใหญ่ได้สบาย

ปลายเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าติดผนังได้ยาวเต็มความกว้างของห้องเลยนะ

มองกลับไปยังประตูเข้าห้องนอน ก็จะเห็นทางเข้าห้องน้ำด้วยค่ะ

แบ่งเป็นพื้นที่โซนเปียก-แห้ง มีหน้าต่างระบายอากาศ แต่ต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเอง

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

พื้นที่ครัวนั้นจะเป็นพื้นที่โล่งที่เตรียมแค่ท่อน้ำไว้ให้เฉยๆ ค่ะ ติดหน้าต่างหลังบ้านระบายกลิ่นได้ดี จะต่อเติมให้ใหญ่กว่านี้ก็ได้แล้วแต่ออกแบบเลย รูปนี้เป็นตัวอย่างของบ้านหลักแรกที่เป็นบ้านพักอาศัยค่ะ  (ของจริงไม่ได้นะคะ  ถ่ายให้ดูขนาดพื้นที่ที่สามารถทำได้เฉยๆ)

ส่วนหลังสำนักงานที่กั้นห้องประชุมชั้นล่าง ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านหลังเป็นครัวรูปตัว L ได้แบบนี้

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นอ่างเซรามิคสีขาว ฝังในเคาน์เตอร์หินเทียมสีขาว

อ่างล้างหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยม ของ American Standard

ก๊อกน้ำก้านโยกของ American Standard เช่นกัน

กระจกเงาสูงครึ่งตัว ยาวเต็มความกว้างของผนัง

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนแผ่นใหญ่ สูงชนฝ้า

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อน ขนาด 30 x 30 ซม. พื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำชั้น 3 จะลดระดับลงไปจากพื้นห้องน้ำ 1 ซม.

ชุดฝักบัวของ American Standard เช่นกัน

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นลานจอดรถหน้าบ้านจะเทคอนกรีต แบบแยกโครงสร้างจากตัวบ้าน

มีทางเท้าหน้าบ้านเป็นพื้นคอนกรีต รั้วปูนทาสีขาวและรั้วเหล็กกล่องทาสีดำ สูงประมาณ 1.2 เมตร

หลังคาโรงรถเป็นโครงสร้างเหล็กทาสีเทาเข้ม หลังคาเมทัลชีท

ถังขยะวางอยู่ภายในรั้วบ้าน วางบนพื้นคอนกรีตอีกที  เพื่อกันน้ำขังที่พื้น

ชานพักหน้าบ้านลึก 1 เมตร เป็นหินล้างทรายล้างและปูกระเบื้องสีน้ำตาล ขนาด 30 x 30 ซม. ตรงกลาง รอยต่อกับโครงสร้างพื้นที่จอดรถโรยกรวดปิดเอาไว้

ประตูหน้าต่างกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง

มือจับประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นแบบห่วง จับถนัดมือ

ด้านในจะมีตัวบิดล็อคประตู

บานประตูออกหลังบ้าน เป็นบาน HDF สีขาว บานลูกฟัก

ประตูห้องน้ำมีบานเกล็ดระบายอากาศ ถ้าเป็นชั้นล่างมีช่องแสงด้านบนให้ด้วย

หน้าต่างเข้ามุมชั้นล่าง บานใหญ่สูงเท่าประตูบานเลื่อนเลยค่ะ

ประตูห้องนอนทั่วไป เป็นบานลูกฟักสีขาวเช่นกัน

พื้นบ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ สีเทาอ่อน ขนาด 60×60 ซม.

ส่วนพื้นชั้นสองและชั้น 3 ปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม.

ห้องน้ำชั้นล่างลดระดับลงมาจากพื้นบ้านประมาณ 5 ซม.

ส่วนห้องน้ำชั้น  2 และชั้น 3 ลดระดับจากพื้นบ้านลงไปประมาณ 2 ซม.

ระเบียงต่างๆ ลดระดับจากพื้นบ้านประมาณ 10 ซม. ค่ะ ช่วยกันน้ำไหลเข้าบ้านได้ดี

ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ดวงไฟดาวน์ไลท์

ลานซักล้างหลังบ้านเทคอนกรีต กว้างแค่ 60-70 ซม. มีก๊อกน้ำและปลั๊กไฟให้เรียบร้อยเผื่อเอาเครื่องซักผ้ามาวาง แต่ถ้าเป็นเครื่องใหญ่ไม่น่าจะวางพอนะ  (ถ้าวางอย่าลืมต่อหลังคากันฝนสาดด้วย)

ระเบียงชั้น 2 และชั้น 3 ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านจะปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทาเข้ม ขนาด 30 x 30 ซม. รอบๆ ทำเป็นทรายล้าง  รั้วหลังบ้าน ครึ่งล่างจะก่อปูน ด้านบนเป็นรั้วเหล็กกล่องทาสีดำ

ระเบียงหน้าบ้านชั้น 2 จะเป็นรั้วเหล็กกล่องทาสีดำ และกระจกใส

ระเบียงหน้าบ้านชั้น 3 จะเป็น รั้วเหล็กกล่องทาสีดำ

ปลั๊กไฟสีขาว ของ Bticino

สวิตซ์ไฟสีขาว ของ Bticino แบบทั่วๆ ไป

บันไดไม้ยาง ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีขาว ราวจับไม้ มีให้ด้านเดียว

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่เราเข้าไปรีวิว โครงการ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2  วันที่ 1 ก.พ. 2561 ราคาทาวน์โฮมนั้นเริ่มต้นที่ 5.49 ล้านบาท แต่ขายไปเกือบหมดแล้ว ส่วนบ้านแฝดใหม่ที่เราเน้นกันในบทความนี้ เริ่มต้นที่ 10.4 ล้านบาทค่ะ

ราคา ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 

ราคาเริ่มต้น :

• ทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น แบบบ้าน MT 1 พื้นที่ 170 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น  5.49  ล้านบาท
• บ้านแฝด สูง 3 ชั้น แบบบ้าน DP 2 พื้นที่  248 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น  10.4  ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

เงินจอง 50,000 บาท เงินทำสัญญา 50,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

สร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลางทาวน์โฮมจ่าย  1,500  บาท  (ชำระล่วงหน้า 3  ปี)
ค่าส่วนแลางบ้านแฝดจ่าย 2,000 บาท (ชำระล่วงหน้า 3  ปี)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

ทาวน์โฮม แปลง TT 119 แบบบ้าน MT 1  ที่ดิน 23.8 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 32,965  บาท/เดือน

บ้านแฝด แปลง D7 แบบบ้าน DP 2  ที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 10.4 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 62,448 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

ทาวน์โฮม แปลง TT 119 แบบบ้าน MT 1  ที่ดิน 23.8 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท ผ่อนประมาณ  35,215 บาท/เดือน

บ้านแฝด แปลง D7 แบบบ้าน DP 2  ที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 10.4  ล้านบาท ผ่อนประมาณ 66,710  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

ทาวน์โฮม แปลง TT 119 แบบบ้าน MT 1  ที่ดิน 23.8 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท ผ่อนประมาณ  38,885 บาท/เดือน

บ้านแฝด แปลง D7 แบบบ้าน DP 2  ที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 10.4  ล้านบาท ผ่อนประมาณ  73,662 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

ทาวน์โฮม แปลง TT 119 แบบบ้าน MT 1  ที่ดิน 23.8 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท ผ่อนประมาณ  45,432 บาท/เดือน

บ้านแฝด แปลง D7 แบบบ้าน DP 2  ที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 10.4  ล้านบาท ผ่อนประมาณ 86,065 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

ทาวน์โฮม แปลง TT 119 แบบบ้าน MT 1  ที่ดิน 23.8 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาท ผ่อนประมาณ  59,220 บาท/เดือน

บ้านแฝด แปลง D7 แบบบ้าน DP 2  ที่ดิน 51.4 ตร.วา ราคา 10.4  ล้านบาท ผ่อนประมาณ 112,185 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

จุดเด่นของทำเลนี้ คือจะมีโครงการรถไฟฟ้าใกล้ๆ อยู่ 3 สาย โดยรถไฟสายสีแดงเข้มรังสิต – บางซื่อ จะเสร็จเป็นสายแรก วิ่งขนานกับถนนวิภาวดีรังสิตไป โครงการชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 จะอยู่ใกล้กับสถานีหลักสี่ ที่อยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 หน้า IT Square หลักสี่-แจ้งวัฒนะ ห่างออกไปประมาณ 800 เมตรและต้องเดินข้ามสะพานลอย ระยะนี้เดินไปได้แบบมีเหงื่อซึมๆ (เอาจริงๆ คือบ้านชานเมืองที่เดินไปรถไฟฟ้าได้นี่ก็ถือว่าใกล้มากแล้ว)  ต่อมาคือสายสีเขียวหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ที่เพิ่งเริ่มก่อสร้าง จะวิ่งตามแนวถนนพหลโยธิน  สุดท้ายรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะวิ่งตามถนนแจ้งวัฒนะ จากแคราย – มีนบุรี ซึ่งจะมีสถานีหลักสี่ มาสร้างแถวๆ แยกหลักสี่ค่ะ น่าจะมีระยะประมาณ 900 เมตร จากหน้าโครงการ สถานีนี้น่าจะสะดวกสุด

ซึ่งการมีรถไฟฟ้าผ่านหลายสายขนาดนี้ การเดินทางคงสะดวกมากขึ้นและราคาที่คงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ที่น่าลุ้นอีกอย่างคือที่ดินเปล่าของม.ศรีปทุมที่อยู่ติดกัน หากมหาวิทยาลัยขยายมาสร้างตรงนี้ด้วย บรรยากาศโดยรวมน่าจะคึกคักมีร้านค้ามากขึ้นค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 จะสร้างอยู่ด้านหลัง ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1 อีกที  ภายในโครงการเฟส 2 จะมีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ เป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น 2 แบบ และบ้านแฝดสูง 3 ชั้น 2 แบบค่ะ ตัวล่าสุดจะเป็นบ้านแฝด Type DP 3 ซึ่งออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น คุมโทนสีเทาอ่อน-เทาเข้ม ดูคลาสสิกดี  ดูนานๆ แล้วไม่เบื่อ  สัดส่วนของบ้านดูลงตัวใช้ได้ ที่ชอบคือตัวบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบา สามารถต่อเติมเจาะช่องผนังได้ภายหลัง และทางยังทำหลังคาโรงรถมาให้เรียบร้อยค่ะ  ป้องกันก่านต่อเติมเองแบบสะเปะสะปะ  ที่จะให้ให้ภาพรวมด้านหน้าดูไม่สวยงาม

ด้านการวางแแปลนของบ้านแฝดใหม่ ในภาพรวมจัดแปลนบ้านมาได้ลงตัวดีและค่อนข้างยืดหยุด  เน้นปรับเปลี่ยนได้ทั้งบ้านและสำนักงานขนาดเล็ก – กลาง ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน ด้านข้างมีสวน และด้านหลังมีพื้นที่เยอะ สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้เลย  ชั้น 1 เป็นพื้นที่โล่งๆ มีห้องน้ำ ห้องเก็บของและบันไดอยู่ติดหลังบ้าน เหมาะที่ทำโซนต้อนรับด้านหน้า เพราะมีหน้าต่างเข้ามุมด้วย ส่วนหลังบ้านเหมาะที่จะทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวค่ะ  ชั้นสองก็เป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ปูพื้นไม้ลามิเนตให้ สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานได้เนื่องจากสเปซโล่งสี่เหลี่ยม ทำให้กั้นห้องย่อยๆ เพิ่มได้ง่าย  มีห้องน้ำให้อีก 1 ห้อง ส่วนชั้น 3 จะมีห้องอยู่ 2 ห้องทางหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งมีห้องน้ำในตัวที่อาบน้ำได้ทั้งสองห้อง

วัสดุของโครงการบ้าน ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 เป็นเกรดมาตรฐานที่ใช้งานได้ทั่วไป  ได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าฉาบเรียบ ชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ ชั้น 2 – 3 ปูไม้ลามิเนตหนา 12 มม. คุณภาพดี บันไดโครงสร้างคอนกรีตแข็งแรงดี ไม้ยางสีเข้ม มีราวจับด้านเดียว ส่วนชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำได้ยี่ห้อ American Standard ขาดก็แต่ฉากกั้บอาบน้ำค่ะ  ส่วนครัวนั้นก็เตรียมท่อไว้ให้เฉยๆ ต้องมาต่อเติมเคาน์เตอร์กันเองในภายหลัง

ด้านพื้นที่ส่วนกลางของ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 2 จะมีสวนให้ 2 จุด สวนแรกจะอยู่ใกล้กับป้อมยามของเฟส 2 ที่ลูกบ้านเฟส 1 สามารถมาใช้งานร่วมกันได้ แต่สวนที่ 2 จะอยู่ลึกเข้ามาด้านใน มีลานกว้าง สนามเด็กเล่น และ Clubhouse เล็กๆ ที่เป็นห้องฟิตเนสค่ะ สระวายน้ำจะไม่มี แต่ถ้าอยากจะออกกำลังกายมากกว่านี้ ก็ไปใช้ Clubhouse ของคอนโด Den วิภาวดี ได้ เข้าได้จาก ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี เฟส 1  แต่ต้องเสียเงินเพิ่มเติม โดย Clubhouse นี้จะมีสระว่ายน้ำเด็ก – ผู้ใหญ่ ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ห้องมวยอีก 1 ห้อง รวมถึงมีร้านกาแฟให้ไปนั่งชิลล์กันอีกด้วย นอกจากส่วนกลางแล้วด้านหน้าโครงการติดถนนวิภาวดีรังสิตก็มีร้าน 7-Eleven อำนวยความสะดวกให้อีกแห่ง  จะได้ไม่ต้องออกไปไหนไกลค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ