ออริจิ้น ได้ผลตอบรับดี ทุนฮ่องกงส่งสัญญาณสนใจลงทุน หลังเห็นแผนรายได้ 5 ปี โตแตะ 2.7 หมื่นล้าน
· ~ 1 min readนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินทางโรดโชว์พบปะนักลงทุนสถาบันในประเทศฮ่องกงเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกลุ่มนักลงทุนต่างสนใจและส่งสัญญาณที่ดี หลังจากเห็นแผนการขยายธุรกิจและเป้าหมายการเติบโตรายได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในระดับ 20% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาทในปี 2560 เป็น 2.7 หมื่นล้านบาท ในปี 2565
สำหรับมาตรการการควบคุมอัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น มีผลกระทบในวงจำกัดสำหรับตลาดระดับกลาง-ล่าง สำหรับตลาดระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของ Backlog บริษัทในปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งชำระค่าห้องชุดเป็นเงินสด
แผนการดำเนินธุรกิจปี 2562 บริษัทพร้อมที่จะปรับแผนให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่ โดยให้ความสำคัญกับตลาดระดับกลาง-บนมากขึ้น พัฒนาโครงการระดับกลาง-ล่างเฉพาะในพื้นที่ที่มีดีมานด์สูง เพื่อลดผลกระทบจากข้อจำกัดของนโยบาย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ORI ว่า แม้ว่าหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาจเผชิญกับการปรับลดมูลค่าหุ้นลง หาก ธปท. ประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดเป็นอย่างมากในเดือน พ.ย. แต่ในแง่ของมูลค่าหุ้น ราคาปิด ORI ล่าสุดที่ซื้อขายที่ PER 6.84 เท่าและ 5.54 เท่าสำหรับปี 2561-62 ตามลำดับ ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (DY) ที่มากกว่า 5.8%
นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินการในลักษณะร่วมทุน (JV) และแผนการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของ ORI เติบโตไปได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายเดิมสำหรับกลางปี 2562 ที่ 16.30 บาท ประกอบด้วยสัดส่วนจำนวน 14.90 บาทจากธุรกิจที่อยู่อาศัย อิง PER 8.25 เท่า และสัดส่วนจำนวน 1.40 บาทจากธุรกิจรายได้ประจำ
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 54 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 82,000 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร