ส่องโมเดล
เนื่องจากดีไซน์ของตัวคอนโดมีรูปทรงเฉพาะตัวมากๆ ถ้ามาดูจากโมเดลก็จะเข้าใจมากขึ้นและช่วยเรื่องการตัดสินใจเลือกตำแหน่งห้องได้ดีขึ้นด้วยนะคะ โดยเราจะเห็นว่าคอนโดทั้ง 2 ทาวเวอร์นั้นวางแปลนเป็นตัว Y ซึ่งทำให้สามารถเปิดมุมมองได้หลายด้านค่ะ ตัวคอนโดดูเป็นเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจของตัวอาคารมากให้พูดถึงในหลายแง่มุมทีเดียว ซึ่งการวางตำแหน่งของอาคารเป็นตัว Y แบบนี้ ก็จะช่วยเลี่ยงการบังวิวกันเองกับ Ideo Mobi สุขุมวิท อีสต์เกต ได้ด้วยค่ะ
เริ่มที่ด้านแรก ฝั่ง Tower A ซึ่งหันไปทางทิศเหนือจะเป็นห้องขนาด 36 ตร.ม. ขึ้นไปค่ะ จะมีทั้งที่หันหน้าเยื้องๆ กับถนนสุขุมวิท และหันออกไปทางแยกบางนาเลย สำหรับห้องที่หันไปหาถนนสุขุมวิทชั้นสูงๆ จะมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วยนะคะ
ตำแหน่งห้องด้านนี้ในชั้นล่างๆ น่าจะเป็นไฮไลท์อีกจุดค่ะ เพราะว่าได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางด้วย ใครที่ตามคอนโดอนันดามาสักพัก จะรู้ว่าเรื่องพื้นที่ส่วนกลางของอนันดานี่ก็จัดว่าไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
ฝั่งที่หันเข้าหาสระว่ายน้ำของ Tower A ก็จะเป็นห้องขนาด 36 ตร.ม. ซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
เช่นเดียวกับฝั่ง Tower B ที่เน้นห้อง 36 ตร.ม. ค่ะ ความน่าสนใจของรูปทรงอาคารนั้น นอกจากแปลนที่เป็นตัว Y แล้ว การทำขอบโค้งตรงมุมอาคารก็ช่วยทำให้เวลามองเกิด effect ทางสายตาที่น่าสนใจนะคะ ตัวเส้นรอบอาคารก็จะดูเลื่อนไหลต่อเนื่องกัน
เรามาลองซูมดูใกล้ๆ ตำแหน่งห้องมุม (Tower B) จะเป็นห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 54 ตร.ม. ลักษณะการออกแบบระเบียงที่สลับ pattern ฟันปลาแบบนี้ ทำให้เวลายืนที่ระเบียงแต่ละชั้นตรงมุมจะได้ความโปร่งมากขึ้น เพราะไม่มีพื้นของระเบียงชั้นบนคลุมไว้ทั้งหมดค่ะ แล้วจากรูปนี้ก็จะเห็น pattern การตกแต่งผนังเพิ่มเติมด้วย มีทั้งการใช้เส้นตั้งและเส้นนอน สลับสีไปมา โดยคุมโทนให้ออกมาเป็นเชดสีเทาแบบที่ไอดีโอชอบทำค่ะ
ด้านนี้เป็นมุมค่อนมาทางทิศใต้ของ Tower B มุมมองจากห้องจะได้วิวโล่งๆ ค่ะ เพราะว่าพื้นที่โดยรอบด้านนี้ไม่มีตึกสูง
ฝั่งนี้เป็นด้านหลังโครงการที่หันไปทางทิศตะวันออก ก็จะได้แดดเช้าๆ โดยห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดสตูดิโอค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้วิวแม่น้ำแต่ก็เป็นฝั่งที่ไม่ร้อน แล้วเอาจริงๆ ถ้ามองเฉียงไปหน่อยก็จะมีวิวของสนามกอล์ฟราชนาวีนะคะ จัดว่าเป็นวิวที่ไม่เลวทีเดียว
ถ้าซูมดูที่ผนังอาคาร จะเห็นว่ามีความโค้งอยู่หน่อยๆ ทำให้มุมมองที่ได้ในแต่ละห้องจะมีความต่างกันเล็กน้อย เป็นการออกแบบที่ลงไปในดีเทลแต่ละจุดเลย
มาดูถนนทางเข้าไปอาคารจอดรถกันบ้างค่ะ ลานจอดรถรอบตึกก็มีเกาะกลางถนนที่ปลูกต้นไม้ไว้ให้ ช่วยลดความกระด้างจากพื้นผิวคอนกรีตนะคะ
ตรงโพเดียมชั้นล่างๆ จะเป็นที่จอดรถทั้งหมดค่ะ ซึ่งถ้าจะเข้าที่จอดรถต้องเลี้ยวอ้อมไปด้านหลังตึกนะคะ
บริเวณตรงนี้เป็นฝั่งทางเข้าของที่จอดรถที่วนมาทางด้านหลังตึก
ชั้นสระว่ายน้ำเป็นชั้นที่เชื่อมกันระหว่าง Tower A กับ Tower B สามารถเดินถึงกันได้ การออกแบบใช้คอนเซ็ปต์ของภูเขา ซึ่งจะมีรูปทรงโค้งและลักษณะค่อนข้างเป็น Free form
โดยความน่าสนใจที่สุดของดีไซน์โครงการนี้ก็น่าจะเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ส่วนกลางเหนือโพเดียมที่จอดรถกับทางเข้าออกอาคารที่ชั้นล่างค่ะ
ไฮไลท์ของงานดีไซน์อยู่ที่ซุ้มทางเดินขึ้นตึก ที่ค่อนๆ เดินไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น Facilities ได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปขึ้นลิฟต์ที่ล็อบบี้ โดยคอนเซ็ปต์นี้ทางสถาปนิกได้แรงบันดาลใจมาจาก “ถ้ำ” นะคะ
ไอเดียของ “ถ้ำ” นั้นถูกนำมาใช้เพื่อให้คนที่เดินผ่านสัมผัสความรู้สึกที่มีความโปร่ง แต่มีแสงสว่างเข้ามาเพียงบางช่วง โดยที่เวลาเดินขึ้นไปเรื่อยๆ โผล่มาอีกทีเจอห้องที่เป็นโถงในส่วนของ Social Club 2 ชั้น ทำให้คนที่เดินผ่านสัมผัสความรู้สึกหลากหลายในอย่างต่อเนื่องกันค่ะ
แปะภาพจำลองให้ดูค่ะ อิมเมจที่สถาปนิกคิดไว้ก็จะประมาณนี้ เก๋ดีนะ
ขึ้นมาถึงชั้น Roof top จะมีสวนอยู่ด้านบน ไม่แน่ใจว่าเป็นหญ้าจริงหรือหญ้าเทียม มาเดินเล่นพักผ่อนชมวิวเย็นๆ ได้ ซึ่งในส่วนนี้จะมีให้ทั้ง Tower A และ Tower B ค่ะ
สวนของ Tower B
สวน Tower A
ที่ Tower A จะมี Sky Lounge อยู่ที่ชั้น 32 ในส่วนนี้ต้องแบ่งกันใช้ทั้ง 2 Tower ค่ะ