Origin Property เตรียมเปิดคอนโดแบรนด์ใหม่ The Origin จับตลาด First Jobber ในราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท  โดยปีนี้ทางออริจิ้นมีการปรับ segment ใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพตลาดมากยิ่งขึ้น  และดึง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มาเป็น Brand Ambassador  โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิดอสังหาเพื่อขาย 15 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  พูดถึงผลประกอบการในปี 2561 ที่ผ่านมาว่าบริษัทเปิดโครงการรวมมูลค่า 25,500 ล้านบาท และทำยอดขาย Pre-sale ได้ 27,552 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการ Park Origin ทองหล่อ และ Park Origin พญาไท ที่ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

ในส่วนของปี 2562 จะมีการเปิดโครงการอสังหาเพื่อขายใหม่เพิ่มเติมอีก 15 โครงการ ภายใต้แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), บริทาเนีย (Britania) และแบรนด์น้องใหม่ในชื่อ ดิ ออริจิ้น (The Origin) มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้ายอดขายโครงการเก่าและใหม่รวมกัน 28,000 ล้านบาท  ซึ่งเมื่อรวมกับธุรกิจอื่นของบริษัท จะมีเป้ารายรวมได้อยู่ที่ 19,000 ล้านบาท  โดยปีนี้จะลดสัดส่วนของการเปิดคอนโดมิเนียมลงจากปีที่แล้ว  และเพิ่มสัดส่วนของบ้านแนวราบมากขึ้น

ธุรกิจคอนโดมิเนียม

ในปีนี้ Origin  ได้จัดกลุ่ม Segment คอนโดให้สอดคล้องกับสภาพตลาดมากยิ่งขึ้น  โดยเปิดโครงการใน 2 แบรนด์หลัก คือ Park Origin และแบรนด์น้องใหม่อย่าง The Origin รวม 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท

• แบรนด์ Park Origin 3 โครงการ ได้แก่ Park Origin ราชเทวี, Park Origin พระราม 4 และในย่าน CBD อีก 1 โครงการ ที่ยังไม่เปิดเผยทำเล มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท

• แบรนด์ The Origin  7 โครงการ เป็นโครงการที่แตก segment ใหม่มาจับตลาดกลุ่มลูกค้า New Gen ที่เป็น First Jobber and First Home Buyer อายุประมาณ 24-28 ปี  กระจายไปในหลายทำเล  ได้แก่ The Origin สุขุมวิท, The Origin รัชดา, The Origin ลาดพร้าว, The Origin รามคำแหง และ The Origin รามอินทรา (ชื่อโครงการทั้งหมดอย่างไม่เป็นทางการ)  ทั้งหมดมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยแบรนด์นี้มีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าในย่านส่วนต่อขยายธุรกิจ (EBD) มีราคาอยู่ในช่วง 1.6-2.4 ล้านบาท  และราคาเฉลี่ย 80,000-100,000 บาท/ตร.ม.

ธุรกิจบ้านแนวราบ

ปีนี้ออริจิ้นจะเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบให้มากขึ้น  และจะดันขึ้นมาเป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก ซึ่งจะเน้นพัฒนาในทำเลติดถนนใหญ่ สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ โซนตะวันออก, บางนา และ EEC เป็นหลัก โดยใช้แบรนด์ Britania ที่จับกลุ่มเริ่มสร้างครอบครัว อายุประมาณ 28-45 ปี  ในระดับราคาประมาณ 2.5-6 ล้านบาท ทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท คือ

• Britania Villa อ่อนนุช-วงแหวน
• Britania Home สุวรรณภุมิ-บางนา
• Britania มอเตอร์เวย์-ฉะเชิงเทรา
• Britania พานทอง-สุขุมวิท

ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business)

ออริจิ้นจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการในปีนี้  หนึ่งในนั้นคือ Origin District Rayong  ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-use มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท  และคาดว่าจะมีโรงแรม 2 แห่งที่กำลังสร้างอยู่จะเปิดให้บริหารได้ในปลายปีนี้ คือ โรงแรม Staybridge Suites Bangkok Thonglor และ Holiday Inn & Suites Sriracha  ซึ่งออริจิ้นเชื่อว่าตลาดโรงแรม และมิกซ์ยูสจะยังคงเติบโตได้ดี ซึ่งออริจิ้นก็จะทยอยมีโครงการสร้างเสร็จออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2023

• Staybridge Suites Bangkok Thonglor
• Holiday Inn and Suites ศรีราชา แหลมฉบัง
• One Phayathai
• One 24
• Staybridge Suites ชลบุรี ศรีราชา
• One 59

ธุรกิจบริการ

Origin ยังคงชูเรื่อง Excellent Services อยู่โดยจะมุ่งพัฒนางานบริการควบคู่กับระบบเทคโนโลยีโดยทำ Service Application ผ่านแอปพลิเคชั่น BUTLER รวมทุกงานบริการไว้ในแอปเดียว นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการการันตีมาตรฐาน ISO 9001 ทั้งด้าน Property Management และด้าน Home Service อีกด้วย

ดึง “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” เป็น Brand Ambassador คนใหม่

ในปีนี้ออริจิ้นยังได้ดึงตัว ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงชื่อดังมาเป็น Brand Ambassador คนใหม่ของ Origin เพื่อต้องการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูมีความเป็น Romantic Comedy ให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการย้ำถึงความเอาใจใส่ลูกค้าในด้าน Smart Products และ Excellent Services ให้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ Origin จะออกโฆษณาตัวใหม่ออกมาเพื่อช่วยในการสื่อสารแบรนด์ในครั้งนี้ โดยโฆษณาตัวแรกจะปล่อยในวันที่ 1 ก.พ. นี้ครับ