24 มิถุนายน 2562 กรุงเทพฯ – MQDC บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) by MQDC โดยเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ แบรนด์แรกของไทยที่ผ่านการพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์การ อยู่อาศัยของครอบครัวหลากหลายช่วงวัย ที่จะสามารถสานความสุขให้คนทุกเจเนอเรชั่นได้อย่างสมบูรณ์ ภายใต้แนวคิด “NURTURING INTERGENERATION HAPPINESS สานความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่น”
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าครอบครัวสมัยใหม่มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการแยกที่อยู่อาศัยออกมาจากครอบครัวใหญ่ โดยมาจากหลายปัจจัยของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทาง MQDC ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก เพื่อสนับสนุนให้เกิดความสุขที่แท้จริงในชีวิต จึงสร้างแบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) ขึ้นเพื่อให้เป็นมากกว่าที่พักอาศัย แต่เป็นพื้นที่เติมเต็มช่องว่างของคนในครอบครัวและการอยู่อาศัยแบบหลากหลายเจเนอเรชั่น
“มัลเบอร์รี่ โกรฟ (MULBERRY GROVE) คือแบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ ที่มีทั้งแนวราบและแนวสูง หรือ มัลติ-แพลตฟอร์ม แห่งแรกของเมืองไทย ที่จะตอบโจทย์ครอบครัวในทุกรูปแบบ ซึ่งมีหัวใจหลักคือการเอื้อให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันระหว่างสมาชิกหลายรุ่นในครอบครัว เพราะทุกรายละเอียดถูกออกแบบและพัฒนาจากความต้องการของสมาชิกทุกรุ่นอย่างแท้จริง เราจึงค้นคว้าวิจัยเพื่อที่จะหาวิธีที่สามารถสานสัมพันธ์ของคนแต่ละเจเนอเรชั่น ผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนแต่ละเจเนอเรชั่นในครอบครัว ที่จะสนับสนุนการอยู่อาศัยร่วมกันให้ดีกว่าเดิม สร้างความอบอุ่น และเติมเต็มความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยมีจุดเด่นที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่
1. “Designed for Intergenerational Harmony” ที่อยู่อาศัยที่ออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยแบบครอบครัว Intergeneration ออกแบบภายใต้แนวคิดอันเกิดจากการสนับสนุนให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวโดยคิดผ่านการกระบวนการออกแบบจริงร่วมกับครอบครัวและนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาสร้างที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวแบบ Intergeneration พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่จะตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย
2. “Caring Community” ชุมชนการอยู่อาศัยแบบ Intergeneration ที่มีความอบอุ่น สร้างสายสัมพันธ์และเกื้อกูลกันทั้งในครอบครัวและชุมชน ออกแบบพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวและชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
3. “Value Creation Neighborhood” การสร้างคุณค่าให้กับครอบครัวหลากหลายช่วงวัยและชุมชน โดยการอยู่อาศัยร่วมกันแบบ Intergeneration จะเป็นการเชื่อมโยงคุณค่าแห่งวัฒนธรรมการอยู่อาศัยของไทยในอดีตที่อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และมีความกตัญญูเกื้อกูลต่อกัน เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสังคมผู้มีอายุยืน (Aging Society) และการขยายของสังคมเมือง (Urbanization)
4.“5 Dimensional Well-Being” ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของครอบครัวให้ดีขึ้นในทุกมิติ นำไปสู่ความสุขอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสังคมที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความสุขอย่างยั่งยืนนั้น จะสนันสนุนความสัมพันธ์ของสังคมกับธรรมชาติ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ชุมชนเพื่อนบ้าน โดยใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบให้เหมาะสมกับทุกคนและทุกช่วงวัย (Universal Design) ให้ทุกเจเนอเรชั่น สามารถใช้พื้นที่แห่งความสุขร่วมกันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำมาสู่การรับประกันของโครงการที่นานถึง 30 ปี
และในปี 2562 นี้ แบรนด์มัลเบอร์รี่ โกรฟ ได้เตรียมที่จะเปิดตัวที่อยู่อาศัยแบบ มัลติ-แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Cluster Villa และ Condominium ที่มีทั้งคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์และโลว์ไรส์ โดยจะเปิดทั้งหมด 3 โครงการบนที่ดินฟรีโฮลด์ ใน 2 ทำเล มูลค่าโครงการรวม 19,900 ล้านบาท ซึ่งโครงการแรกจะเป็นโครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” (MULBERRY GROVE Sukhumvit) ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เพียง 250 เมตร จากรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ซึ่งผ่านการเลือกสรรและวิเคราะห์ทำเลว่ามีองค์ประกอบในด้านต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวหลากหลายช่วงวัยได้เป็นอย่างดี โดยเป็นโครงการแบบ High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 286 ยูนิต และมีกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
ด้าน นายชาคริต หัสสรังสี ผู้อำนวยการ โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ (MULBERRY GROVE) บริษัท
แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งโลเคชั่นของ MULBERRY GROVE จะตั้งอยู่ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) ที่ถือเป็นโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ เนื้อที่ 300 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด ช่วง กม.5 – 7 โดย “มัลเบอร์รี โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์” จะเป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ จำนวน 37 ยูนิต เป็นโครงการบ้านซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่ยึดหลักแนวคิดการออกแบบ แบบ Cluster Design ที่แรกและที่เดียวที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกช่วงวัย และนำครอบครัวในหลาย ๆ ช่วงวัย มาใช้ชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน และอีก 1 โครงการจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 283 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้