รีวิวคอนโดบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Denim Jatujak (เดนิม จตุจักร) คอนโดมิเนียมจากแกรนด์ ยูนิตี้  ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 9 ไร่ ภายในประกอบไปด้วย อาคารพักอาศัย 3 อาคาร และอาคารที่จอดรถ 1 อาคาร ค่ะ โครงการนี้ทำออกมาภายใต้แนวคิด Plan To Live Unplanned ซึ่งก็สื่อความหมายว่าเป็นโครงการที่ทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความหลากหลายของแต่ละคน  มีอะไรให้ทำอยู่ตลอดเวลาแบบที่แทบไม่ต้องวางแผนนั่นเองค่ะ โดยตัวโครงการ Denim Jatujak ตั้งอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 3  สามารถเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งพหลโยธินและวิภาวดีรังสิตนะคะ

Denim จตุจักร  เป็นคอนโดมิเนียมที่ทางแกรนด์ยูนิตี้วาง Positioning ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น  ชื่อโครงการอย่าง Denim เวลาพูดถึงเราก็จะนึกถึงสีของผ้าเดนิม (ยีนส์) ที่ให้ความรู้สึกกระชับกระเฉงและมีพลังตลอดเวลา  ในโครงการมีห้องให้เลือก 4 แบบ ตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom มีขนาด 22.50 -50.00 ตร.ม ได้ระเบียงห้องแบบ Private Balcony ทุกห้องค่ะ นอกจากนี้ภายในโครงการยังจัดเต็มเรื่อง Facilities ที่เตรียมมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ มีทั้งส่วนของ Working Area, Workout Area, Relax Space ต่างๆ กระจายไปแต่ละอาคาร โดยใช้ Sky Bridge เป็นทางเชื่อมเดินเข้าหากันได้ทั้งหมด

เล่ามาแบบนี้แล้ว เราไปอ่านรีวิวคอนโด Denim Jatujak  กันต่อกันเลยดีกว่าค่ะ 

ADDITIONAL INFO 

Denim Jatujak มีโปรโมชั่นพิเศษวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 เท่านั้น

• รับส่วนลดพิเศษ
• เครื่องปรับอากาศ Panasonic
• ระบบ Digital Door Lock
• ระบบ Home Automation
• ตู้เสื้อผ้า
• ผ้าม่าน

คลิกลงทะเบียน >>> https://bit.ly/2BPw0QL

*เงื่อนไขและมาตรฐานของแถมเป็นไปตามที่โครงการฯ กำหนด

Denim Jatujak
( เดนิม จตุจักร )

• เจ้าของโครงการ >>> GRAND UNITY DEVELOPMENT
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 3 เขตจตุจักร
• ขนาดที่ดิน >>>  9 – 0 – 1.60 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 3 อาคารพักอาศัย + 1 อาคารจอดรถ
• ความสูงอาคาร >>
  • อาคารพักอาศัย A 37 ชั้น
  • อาคารพักอาศัย B 22 ชั้น
  • อาคารพักอาศัย C 33 ชั้น
  • อาคารจอดรถ 10 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  1,813 ยูนิต
  • อาคาร A ห้องพักอาศัย จำนวน 694 ยูนิต
  • อาคาร B ห้องพักอาศัย จำนวน 389 ยูนิต
  • อาคาร C ห้องพักอาศัย จำนวน 730 ยูนิต
  • อาคาร D ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต
• แบบห้อง >>>
  • STUDIO  – ขนาด 22.50 ตารางเมตร
  • ONE BEDROOM -ขนาด 27.00 ตารางเมตร
  • ONE BEDROOM PLUS – ขนาด 32.50 ตารางเมตร
  • ONE BEDROOM PLUS CORNER – ขนาด 33.00 ตารางเมตร
  • TWO BEDROOM – ขนาด 50.00 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> 978 คัน/ 53 % (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.89 ล้านบาท* (รีวิว ณ ต.ค. 62)
• ราคาเฉลี่ย >>>  n/a บาท ต่อ ตร.ม. 
• พิกัด GPS >>> 13.797295,100.554579
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 02-652-4000

ที่ตั้งคอนโด Denim Jatujak อยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 3 ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 450 ม. จุดเด่นของซอยนี้คือ เป็นซอยที่เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญอย่างถนนพหลโยธินช่วงโซนจตุจักรได้ง่ายแล้วก็ยังสามารถเข้าถึงจากถนนวิภาวดีรังสิตได้ด้วยเช่นกันค่ะ  มีรถไฟฟ้าสาย MRT สีน้ำเงินสถานีจตุจักรและรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานีหมอชิตอยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด

การเดินทาง

การเดินทางมายังโครงการ Denim Jatujak  สามารถมาได้หลายเส้นทางทั้งทางพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนสุทธิสารวินิจฉัย แต่ในวันนี้เราจะเลือกใช้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานีจตุจักร ออกมาทางออก 4 บนถนนพหลโยธิน แล้วตรงมาซอยพหลโยธิน 18 เพื่อลัดมายังซอยวิภาวดีรังสิต 3 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการเดนิม จตุจักรค่ะ

ตอนนี้เราอยู่กันที่ MRT สถานีจตุจักร กำลังเดินออกมายังประตูทางออก 4 เพื่อขึ้นไปยังถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าเมือง

เมื่อเราขึ้นมาแล้วก็ให้ตรงมายังซอยพหลโยธิน 18 ผ่านด้านหลังของกรมการขนส่งทางบกค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อมายังซอยวิภาวดี 3

ตรงเข้ามาเพียง 100 ม. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการ Denim Jatujak แล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลย่านหมอชิต-จตุจักรนั้นถือเป็นทำเลที่น่าสนใจและน่าจับตามองอีกจุดนึงเลยทีเดียว ทั้งศักยภาพของทำเลที่มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำเลนี้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่หลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้า รถยนต์ รถเมล์ รถตู้ต่างๆ มีทางด่วนยกระดับอุตราภิมุขอยู่ใกล้ๆ พร้อมทั้งยังมีแหล่งชุมชนและแหล่งงาน แหล่งไลฟ์สไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมตัวกันอยู่ ทำให้ทำเลนี้กลายเป็น HUB ที่ผู้คนสัญจรไปมามากมาย ส่วนที่ตั้งของโครงการ Denim จุตจักร จะอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 3 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ตรงกลางระหว่างเส้นถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน ทำให้เราสามารถเดินมาได้ง่ายจากทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ส่วนใครที่มาทางถนนสุทธิสารก็สามารถใช้ซอยอินทามระ 15 เชื่อมมายังซอยวิภาวดีรังสิต 3 ได้เช่นกันค่ะ

เรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ปัจจุบันในย่านนี้มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียวเปิดให้บริการอยู่ โดยมี MRT สถานีจตุจักรและ BTS สถานีหมอชิตที่เป็นจุดอินเตอร์เชนจ์อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดค่ะ ส่วนในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะมีการขยายเส้นทางไปยังคูคต คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการกันในปี 63  สำหรับสายสีน้ำเงินนั้นก็จะมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 64 และรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) อีกด้วย ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองจะกลายเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น

ส่วนโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนาย่านนี้ก็จะมี “สถานีกลางบางซื่อ” ศูนย์กลางการเดินทางระบบรางขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่จะรองรับรถไฟความเร็วสูง และระบบรางสายต่างๆ มาเป็นจุดเปลี่ยนและเชื่อมต่อไปยังโซนอื่นๆ คาดว่าหากแล้วเสร็จ ทำเลบริเวณนี้รวมไปถึงละแวกใกล้เคียงจะมีการเปลี่ยนเแปลงอย่างน่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบกันในปี 2564

เล่าถึงสิ่งที่จะเกิดในอนาคตกันไปแล้ว งั้นเรามาต่อกันที่แหล่งไลฟ์สไตล์ อาหารการกิน สิ่งอำนวยความสะดวกในทำเลนี้ที่ถือได้ว่ามีครบอุดมสมบูรณ์ ทั้งตลาดนัดจตุจักร ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เราไปเลือกช้อป เลือกชิมมากกว่า 100 ร้าน ส่วนใครที่ไม่อยากเดินร้อนๆ ก็มีศูนย์การค้า Central Plaza ลาดพร้าว ให้เราไปจับจ่ายใช้สอย ดูหนังกันได้  ซึ่งนั่งรถไฟฟ้าไปเพียงสถานีเดียวก็ถึงแล้วค่ะ นอกจากนี้ยังมีสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนจตุจักรและสวนรถไฟ ให้เราไปเดินเล่น ปั่นจักรยาน สัมผัสบรรยากาศพื้นที่สีเขียวที่หาได้ยากในเมือง สถานที่อื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับเราก็จะมีกรมขนส่งทางบก สถานบันการบินพลเรือนและ รพ. เปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน

เพื่อนบ้านรอบโครงการ Denim Jatujak  จะมีหลายส่วนเป็นที่ดินแปลงใหญ่ทั้งของราชการอย่างกรมการขนส่งทางบก, สถาบันการบินพลเรือน  ส่วนของเอกชนก็เป็นที่ตั้งของช่อง 7 นั่นเอง  ใครทำงานชอง 7 มาซื้อคอนโดตรงนี้สะดวกสุดๆ ค่ะ  นอกจากนั้นก็เป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออยู่บ้างประปราย พร้อมทั้งยังมีโครงการคอนโดมิเนียม High rise อยู่ในซอยวิภาดีรังสิต 3 อีก 2 โครงการ  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ U Delight @ Jatujak Station ซึ่งเป็นโครงการของ Grand Unity ที่เองเข้ามาบุกเบิกทำเลนี้เมื่อหลายปีก่อนและประสบความสำเร็จดีทีเดียว

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ดูแผนที่กันไปแล้ว เราจะพามาชมบรรยากาศรอบๆ ทำเลที่ตั้งกันต่อ เพื่อให้ได้เห็นสภาพแวดล้อมมากขึ้นค่ะ

เราจะขอเริ่มกันที่ซอยวิภาวดีรังสิต 3 ก่อนเลย

ตลอดซอยวิภาวดีรังสิต 3 จะมีคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ บ้านพักอาศัยและร้านค้า

พร้อมทั้งมีวินมอเตอร์ไซค์ในซอยคอยให้บริการอยู่

สภาพถนนซอยวิภาวดีรังสิต 3 จะเป็นถนน 2 เลน ไป-กลับ

ด้านข้างที่ติดกับโครงการจะเป็นคอนโดมิเนียม ยู ดีไลท์ @ จตุจักร สเตชั่น สูง 29 ชั้น

ใกล้ๆ กันก็มีร้าน 7-11 ให้เราสามารถเดินไปซื้อของได้สะดวก

ตรงมาอีกหน่อย บริเวณซอยพหลโยธิน 18/1 จะมีสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 HD ที่เป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่

ออกมายังถนนใหญ่พหลโยธินกันบ้าง โดยจะเริ่มกันที่ห้าแยกลาดพร้าว

ขอเปิดกันด้วย Central Plaza ลาดพร้าว ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด

ขยับลงมายังจตุจักร พื้นที่บริเวณนี้จะมีทั้งสวนจตุจักร สวนรถไฟ และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของคนกรุงเทพ

ติดๆ กันเป็นตลาดนัดสวนจตุจักร แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมาย  คงไม่มีใครไม่รู้จักเนอะ

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นลานจอดแล้วจรกับศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท

ซึ่งพื้นที่ติดกันนั้นจะเป็นที่ตั้งของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ

รถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต

และรถไฟฟ้า MRT สถานีจตุจักร

ซึ่งชั้นใต้ดินของ MRT สถานีจตุจักรนั้นจะมี Metro Mall ที่รวมเอาร้านค้า ร้านอาหาร มาเปิดให้บริการ

ตรงมาเล็กน้อยก็จะเจอกับสถานบันการบินพลเรือน

ติดๆ กันเป็นกรมการขนส่งทางบก

ขยับมาบริเวณ BTS สะพานควาย จะมีทั้ง Big C Supercenter สะพานควาย

และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

หลังจากไปเดินสำรวจทำเลกันแล้ว กลับมาที่สำนักงานขายกันต่อ

ที่ตั้งของสำนักงานนั้นอยู่ที่เดียวกับไซต์ของโครงการเลยค่ะ ออกแบบมาเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ที่ติดระแนงสีขาวรอบอาคาร ใครที่ขับรถมาก็มีที่จอดรถอยู่ใต้อาคารนะคะ

สำนักงานขายจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00-19.00 น. สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามหรือชมห้องตัวอย่างกันได้

เดินขึ้นมายังสำนักงานขายจะพบกับโถงต้อนรับ มีจุดให้นั่งติดต่อสอบถามและโมเดลอาคารตั้งอยู่

บรรยากาศในการตกแต่งเน้นโทนสีเข้มผสมกับสีน้ำเงินแบบเดนิม ตามชื่อของโครงการเลย  ส่วนต้อนรับจะอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนห้องตัวอย่างจะอยู่ที่ชั้น 3 ค่ะ  ใครขี้เกียจเดินขึ้นบันไดที่สำนักงานขายก็มีลิฟต์ให้ด้วย  บริการสุดๆ

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

คอนโดมิเนียม Denim จตุจักร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 9-0-1.60 ไร่ ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นโครงการคอนโดที่พัฒนาบนที่ดินแปลงใหญ่สุดที่แกรนด์ยูนิตี้เคยทำมาเลยค่ะ  ที่ตั้งสามารถเข้าออกโครงการได้  2 ทาง จากซอยวิภาวดีรังสิต 3 และซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7  ทำให้เราไม่ต้องแย่งกันเข้าประตูเดียวกัน แถมยังช่วยแก้ปัญหารถติดภายในซอยได้ในระดับหนึ่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

เพื่อนบ้านทางทิศเหนือจะติดกับซอยพหลโยธิน 18/1 แยก 3 ซึ่งวิวของทิศทางนี้จะมองเห็นรถไฟฟ้าและสวนจตุจักร ทิศใต้ (หน้าโครงการ) จะติดกับซอยวิภาวดีรังสิต 3  ทิศตะวันออกจะติดกับซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7 ซึ่งทิศทางนี้จะมีคอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น ตั้งขนานไปกับแนวถนนด้วย แต่ก็จะไม่มีผลกับเรื่องการบล็อควิวมากนักค่ะ  เพราะว่าโครงการดีไซน์วางตัวอาคารให้หลบกันอยู่แล้ว  สุดท้ายทิศตะวันตกจะอยู่ติดกับคอนโดมิเนียม U Delight @ จตุจักร สเตชั่น ที่มีความสูง 29 ชั้น ห้องที่หันมาทิศนี้ของอาคาร B จะมีคอนโดมาบังวิวสักหน่อยค่ะ

ในเรื่องของทิศทางแดดของโครงการ Denim Jatujak  จะมีห้องให้เลือกหลายทิศ โดยส่วนมากจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ แต่ในอาคาร A จะมีให้เลือกเพียง 2 ทิศ คือทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ใครที่ไม่ค่อยชอบแดดอาจจะต้องเลือกห้องของอาคาร B และอาคาร C ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือไม่ก็ห้องฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอาคาร A ค่ะ

บรรยากาศหน้าโครงการฝั่งซอยวิภาวดีรังสิต 3 มีทางเท้าให้เดิน  แม้ไม่ได้กว้างมากแต่ปลูกต้นไม้ริมทางเดินตลอดทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น เดินได้ค่ะ

ทิศตะวันออกของโครงการที่ติดกับซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7 ค่ะ  ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นคอนโดมิเนียม High rise

ส่วนทิศตะวันตกจะติดกับคอนโดมิเนียม High rise สูง 29 ชั้น

ส่องโมเดล

คอนโดโครงการ Denim จตุจักร มีทั้งหมด 4 อาคาร โดยแบ่งเป็น 3 อาคารพักอาศัย และ 1 อาคารจอดรถ ความสูงอาคาร อาคารพักอาศัย A 37 ชั้น, อาคารพักอาศัย B 22 ชั้น, อาคารพักอาศัย C 33 ชั้น และอาคารจอดรถ 10 ชั้น ซึ่งทุกอาคารจะมีสะพานเชื่อมต่อเข้าหากันทั้งหมด

การดีไซน์ของอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม Art Deco ที่ลดทอนรายละเอียดลงมา มีการคุมโทนสีอาคารด้วยสีครีม เป็นสีที่ดูเรียบง่ายแต่ก็สดใสไปในตัว

ซึ่งแต่ละอาคารจะมีการถอยร่นความสูงตามกฎหมาย Set Back  ทำให้เกิดลูกเล่นการไล่ระดับความสูงเป็นขั้นบันได

มุมจากด้านหลังโครงการ

พื้นที่ด้านข้างอาคารทางโครงการจะทำเป็นพื้นที่สีเขียวสวนสาธารณะให้ลูกบ้านสามารถไปเดินเล่นออกกำลังกายกันพร้อมทั้งยังเป็นการเพิ่มความร่มรื่นให้กับโครงการอีกด้วยค่ะ

ทางเข้าออกโครงการนั้นจะมี 2 ทางด้วยกัน คือ จากฝั่งซอยวิภาวดีรังสิต 3 เข้ามาจะเจออาคารพักอาศัย A  และอาคารจอดรถ สูง 10 ชั้น ที่ทางโครงการใช้พื้นที่ชั้นดาดฟ้าให้เกิดประโยชน์ ออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านได้ไปใช้งานกัน

ส่วนทางเข้าอีกทางที่ติดกับซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7 เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับอาคารพักอาศัย B

ซึ่งพอเราซูมมาดูใกล้ๆ ที่อาคาร B จะเห็นส่วนกลางอีกจุดหนึ่งของโครงการที่มีการกระจายตัวออกมาเพื่อจะได้ไม่ต้องไปแอดอัดรวมกันที่จุดเดียว โดยทำสะพานเชื่อมระหว่างอาคารเข้าด้วยกันให้ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในอาคารอื่นๆ ได้สะดวกมากขึ้น

หากเราสังเกตดีเทลบนตัวอาคารจะเห็นว่าทางโครงการมีการติดตั้งระแนงปิดที่ระเบียงทุกห้องเป็น Private Balcony  ทำให้ลูกบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและยังช่วยจัดระเบียบทัศนียภาพของตัวคอนโดให้ดูเรียบร้อยสวยงาม

พื้นที่ส่วนกลาง

หลังจากที่ไปดูโมเดลกันมาแล้วจะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะกระจายไปตามแต่ละอาคาร โดยชั้น 1 พื้นที่บริเวณด้านข้างอาคารพักอาศัยทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียว Park Area เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัย พร้อมทั้งยังมี Jogging Track ให้เราได้ไปวิ่งออกกำลังกายชมวิวสวนอีกด้วย

ส่วนใต้อาคารต่างๆ จะมี Double Volume Lobby มาให้ทุกอาคาร ในอาคาร B พื้นที่ที่ติดกับ Double Volume Lobby จะเป็นส่วนของ Atrium พื้นที่โถงขนาดใหญ่แบบ Outdoor ให้สามารถมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศ

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ กระจายอยู่ตามชั้นพักอาศัยและมีทางเชื่อมถึงกันทุกอาคารเพื่อความสะดวกในการใช้งานของลูกบ้านค่ะ ขอเริ่มกันที่อาคาร A ซึ่งจะอยู่ในชั้น 8 มีการออกแบบ Double Volume พื้นที่ตรงส่วนนี้จะมี Brain Space และ Meeting Room ค่ะ

ในอาคาร B สิ่งอำนวยความสะดวกจะทำเป็นแนว Relax Space โดยอยู่ในชั้น 7 มีทั้ง Relax Pool, Kids’ Pool, Rhythm Studio, Bike Simulator, Playroom, Theater Room, Lobby และ Retreat Area

ส่วนอาคาร C ในชั้น 8 จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Co-Living Area, Co-Kitchen Space, Co-Dining Area และ E-Library ค่ะ สุดท้ายคืออาคาร D ที่เป็นอาคารจอดรถ บนชั้น 10 หรือ ชั้นดาดฟ้าของอาคารจะถูกออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด จะมีทั้ง Up & Above Gym, Sauna Steam, Active Pool, Yoga & Pilates, Green Roof และ Outdoor BBQ ค่ะ  เอาจริงๆ แค่เขียนชื่อ Facilities ให้ครบนี่ก็เหนื่อยแล้ว  เรียกว่าแม้โครงการจะมียูนิตเยอะ  แต่ก็มีสัดส่วนของพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้นมากเพื่อรองรับการใช้งานตามไปด้วยค่ะ

ทั้งนี้การจะเข้าไปใช้พื้นที่ส่วนกลาง  ถ้าใครอยู่อาคารไหน (A, B, C) ก็ต้องเข้าออกจากอาคารนั้นนะคะ  แล้วใช้ทางเชื่อมเดินไปส่วนของอาคารอื่นเอา  ซึ่งก็เป็นเรื่องของ Security ในการอยู่อาศัยค่ะ

ลองดูภาพจำลอง Facilities ส่วนต่างๆ เป็นตัวอย่างกันไปก่อนนะคะ โดยภาพแรกจะเป็นห้อง Lobby ในอาคาร B ที่ตกแต่งมามาใน Mood & Tone คล้ายกับภายในสำนักงานขาย  เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นสีเดนิมตัดกับสเปซที่เป็นสีเทาดูดิบๆ หน่อย

ห้อง Playroom จะทำฝ้าสูง สร้างบรรยากาศให้ดูโปร่งโล่ง น่าใช้งาน

พื้นที่ส่วนกลาง Co-Kitchen ที่เราสามารถนัดเพื่อนๆ มาทำอาหารและจัดปาร์ตี้รวมกันได้แม้จะอยู่ในคอนโดก็ตาม

สระว่ายน้ำ Active Pool อยู่บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถ เป็นสระแนวยาวสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังได้ค่ะ

พื้นที่ Gym ออกแบบมาในสไตล์ Loft ดูเข้มๆ พร้อมทั้งมีเครื่องเล่นให้เลือกหลายชนิดแล้วแต่ความชอบว่าอยากไปวิ่งลู่วิ่งหรืออยากยกเวท

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด Denim Jatujak

มาดูผังรวมโครงการ เดนิม จตุจักร กันต่อนะคะ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าโครงการทำทางเข้าออก 2  มาได้จากฝั่งซอยวิภาวดีรังสิต 3 และซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7 การทำแบบนี้ช่วยระบายรถเข้าออกได้ดีมากยิ่งขึ้น  พื้นที่จอดรถของโครงการจะสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 53% โดยสามารถจอดรถได้บริเวณชั้น 1, อาคารจอดรถ และอาคาร B ที่มีชั้นจอดรถ 6 ชั้น ทำให้ไม่ว่าเราจะเข้าทางประตูไหนก็สามารถวนไปหาที่จอดรถได้สะดวกทั้งหมด

การวางแปลนของอาคาร ทางโครงการจะวางให้แต่ละอาคารมีการบล็อควิวกันให้น้อยที่สุด  รวมถึงไม่ให้หันไปเจอกับคอนโดข้างเคียงแบบตรงๆ  เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านและบรรยากาศให้ไม่ดูน่าอึดอัดค่ะ  อย่างฝั่งที่ติดกับ U Delight @ Jatujak Station ก็จะใช้ด้านแคบของอาคาร C หันไปทางนั้น  ส่วนห้องที่หันหน้าเข้ามาในโครงการส่วนมากจะได้วิวเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

จากนั้นเรามาดูกันทีละอาคารนะคะ

Denim Jatujak Building A

Floor Plan ชั้น 8 

ชั้นพักอาศัยของอาคารนี้จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ซึ่งแปลนชั้น 8 ที่เรานำมาให้ชมกันจะมีพื้นที่บางส่วนทำเป็น Facility  ทำให้ห้องพักชั้นนี้จึงมีเพียง 20 ห้อง โดยมีประตูกั้นแยกโซนออกเป็นสัดส่วน ทำให้ลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้ไม่ถูกรบกวนโดยคนที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางค่ะ

Floor Plan ชั้น 10-20 

ส่วนชั้น 10-20 จะเป็นชั้นที่เป็น Typical Floor Plan เหมือนกันทั้งหมด ห้องที่หันหน้าออกไปนอกโครงการส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน โดยมีห้องมุมสุดที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟต์จะเป็น 1 ห้องนอน พลัสแบบห้องมุม

Floor Plan ชั้น 37  อย่างที่เราได้เล่าไปก่อนหน้านี้ว่าอาคารของที่นี่มีการร่นระยะเพื่อทำการ Set Back ตามกฎหมาย ทำให้ชั้นสูงๆ ของอาคารมีจำนวนยูนิตที่น้อยลง ซึ่งชั้น 37 นี้จะมีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น จัดได้ว่าเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

Denim Jatujak Building B

Floor Plan ชั้น 7 

แปลนอาคาร B ตั้งแต่ชั้น 2-6 จะเป็นอาคารจอดรถ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 7 โดยชั้นนี้จะมีพื้นที่บางส่วนที่ถูกแบ่งออกมาเป็น Facility มีประตูกั้นแยกโซนมาให้เรียบร้อย ห้องที่หันหน้าเข้าหาส่วนกลางจะได้บรรยากาศร่มรื่น แบบมีสวนอยู่ชิดริมหน้าต่าง แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวกันสักหน่อยนะคะ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบ

Floor Plan ชั้น 9-16 

ชั้นนี้จะมีลักษณะเป็นแบบ Typical Floor Plan โดยแปลนของอาคารวางตัวเป็นรูปตัว L มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องแต่ละฝั่งไม่ต้องเดินไกลจนเกินไปค่ะ 

Denim Jatujak Building C

Floor Plan ชั้น 3-6 

ชั้นพักอาศัยของที่นี่เริ่มที่ชั้น 2 เหมือนกับอาคาร A  โดยชั้น 3-6 และชั้น 10-29 จะเป็น Typical Floor Plan เหมือนกันค่ะ มีตำแหน่งลิฟต์อยู่ทางด้านขวา ปลายสุดทางเดินของแต่ละฝั่งจะมีหน้าต่างที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาที่ทางเดินกลางและเปิดระบายอากาศออกไปได้ 

Floor Plan ชั้น 8 

ชั้น 8 ของอาคารจะเป็นชั้นพักอาศัยที่มีส่วนของ Facility อยู่ในชั้นเดียวกัน ซึ่งทางโครงการมีประตูกั้นแยกโซนเอาไว้ให้เหมือนกับตึกอื่นๆ ที่เล่าไปแล้ว  ข้อดีของลูกบ้านที่อยู่ในชั้นนี้ คือสามารถเดินไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกมาก พร้อมทั้งยังเดินเชื่อมต่อไปยัง Facility ของอาคารอื่นๆ ได้ง่ายอีกด้วย เพราะอาคาร C เป็นจุดเชื่อมต่อ Facility ของทุกอาคารเข้าด้วยกันค่ะ  แต่ถ้าใครไม่ชอบความพลุกพล่านของชั้นที่มีส่วนกลางอยู่ด้วย  ก็ลองดูชั้นที่มีเฉพาะยูนิตพักอาศัยก็ได้ค่ะ  แล้วแต่ชอบเลย

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Denim จตุจักร จะมีทั้งแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน พลัสและ 2 ห้องนอนค่ะ  มีขนาดตั้งแต่  22.50-50.00 ตร.ม. ซึ่งในแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส จะมีแบบที่เป็นห้องมุมด้วยนะคะ

• STUDIO  – ขนาด 22.50 ตารางเมตร
• ONE BEDROOM -ขนาด 27.00 ตารางเมตร
• ONE BEDROOM PLUS – ขนาด 32.50 ตารางเมตร
• ONE BEDROOM PLUS CORNER – ขนาด 33.00 ตารางเมตร
• TWO BEDROOM – ขนาด 50.00 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Denim Jatujak

แบบสตูดิโอ ขนาด 22.50-23.00 ตารางเมตร

เริ่มจากห้อง studio ของโครงการที่มีขนาด 22.50 ตร.ม. แบบนี้เป็นห้องขนาดเล็กสุดในโครงการ สำหรับคนที่อาจจะยังมีงบประมาณไม่มากนัก  ส่วนแรกเมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัวแบบปิดและห้องน้ำอยู่บริเวณนี้ ทำให้ไม่มีกลิ่นอาหารเข้าไปรบกวนภายในห้อง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นสเปซของห้องนอน ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต เฟอร์นิเจอร์และตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่ติดกับหน้าต่างให้เราสามารถวาง Daybed แทนโซฟาไว้นั่งอ่านหนังสือและชมวิวติดหน้าต่างได้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Denim Jatujak

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.00 ตารางเมตร

สำหรับคนที่มีงบประมาณมากขึ้นมาหน่อย  แบบแปลน 1 ห้องนอน ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะการจัดฟังก์ชั่นจะเป็นสัดส่วนมากขึ้น แยกพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นสเปซของห้องนั่งเล่น มีพื้นที่สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งชิดมุมได้ค่ะ ห้องครัวแบบเปิดและห้องน้ำจะอยู่ติดกัน ส่วนห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า โดยมีพื้นที่เล็กๆ ติดกับหน้าต่างให้เราทำเป็นมุมทำงานส่วนตัวได้นะคะ

ส่วนแบบ 1 ห้องนอนที่เป็นห้องมุมจะมีการจัดแปลนที่แตกต่างกันและได้ครัวแบบปิดเข้ามาแทนค่ะ ข้อดี คือ ทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แถมใครที่ชอบทำอาหารก็จะได้ไม่มีกลิ่นเข้าไปรบกวนภายในห้อง แบบนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารมากกว่าค่ะ

แปลนห้องคอนโด Denim Jatujak

แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 32.50-33.00 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน พลัส เมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ครัวแบบเปิด ที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบเคาน์เตอร์บาร์ 2 ที่นั่งได้ ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวซึ่งภายในมีการแยกโซนแห้ง โซนเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่มีประตูกั้นแยกโซนเอาไว้เป็นสัดส่วน ทำให้แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

สำหรับยูนิตที่เป็นห้องมุมของแบบ 1 ห้องนอน พลัส จะมีฟังก์ชั่นและการวางแปลนเหมือนกัน เพียงแต่มีขนาดความกว้างของห้องมากขึ้น  ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่เยอะขึ้นอีกประมาณ 2 ตารางเมตร ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Denim Jatujak

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50.00 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน จะเป็นแปลนห้องที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ มีลักษณะเป็นแบบห้องหน้ากว้าง ในตำแหน่งห้องมุม ที่พอเข้ามาพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ยาวเข้าไปโดยจะรวมเอาพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นอยู่ในสเปซเดียวกัน ซึ่งตำแหน่งของพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ด้านในสุดติดกับหน้าต่าง ทำให้เรามองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจนและยังไม่มีใครมาเดินตัดผ่านหน้าเราเวลานั่งดูหนังอีกด้วยนะคะ

สำหรับห้องน้ำในห้องนี้จะมีเพียงห้องเดียวใช้แชร์กันอยู่ตำแหน่งตรงกลางห้อง ทำให้สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้สะดวก ห้องนอนทั้งสองห้องจะวางอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันโดยมีโถงทางเดินและระเบียงมากั้น เนื่องจากแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะเป็นห้องมุม ทำให้ห้องได้หน้าต่างหลายบาน ทั้งในห้องนั่งเล่น ระเบียงที่ติดกับโถงทางเดิน และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ค่ะ  โดยรวมก็ถือว่าจัดแปลนออกมาได้คุ้มค่าดี

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องที่เราจะพาไปชมกันจะเป็นห้องที่ทางโครงการตกแต่งออกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ห้องจริงๆ ที่เราจะได้จะเป็นแบบ Fully Fitted  ที่จะได้ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Hafele หรือเทียบเท่าค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด เดนิม จตุจักร

แบบ Studio ขนาด 22.50 ตร.ม.

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ครัวแบบปิด เหมาะกับคนที่ทำอาหารแล้วไม่อยากให้กลิ่นเข้าไปรบกวนภายในห้อง

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ที่ภายในมีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้

พอเราเดินเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน มีพื้นที่พอสำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์แบบชิดมุมผนัง

ซึ่งพื้นที่ปลายเตียงทางโครงการออกแบบให้เป็นชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงาน ทำให้เราสามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงได้สบายเลยค่ะ

ระยะห่างจากปลายเตียงถึงชั้นวางทีวี มีความกว้างพอสมควรสามารถเดินผ่านไปมาได้สบาย

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ก็มีระยะให้เดินไปมาได้ไม่อึดอัดเช่นกัน

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างจะมีลักษณะช่องยื่นออกไป ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว สามารถวาง Daybed นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างได้

มองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่าอีกฝั่งหนึ่งของเตียงทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงของโครงการนี้จะมีการติดตั้งระแนงอลูมิเนียมเต็มความสูงจากพื้นที่ฝ้าเลยทีเดียว เป็น Private Balcony ช่วยให้มองเข้ามาจากภายนอกแล้วยังคงความสวยงามของหน้าตาอาคาร แต่ก็ยังคงความโปร่งมีแสงและลมลอดผ่านได้

ห้องตัวอย่างคอนโด เดนิม จตุจักร

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.50 ตร.ม. 

ห้องถัดมาจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 27.50 ตร.ม. เปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ แล้วยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง

ซึ่งหากเรามองตรงเข้าไปด้านในจะเห็นพื้นที่ห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนมากั้นแยกโซนออกจากกัน เพื่อทำให้ฟังก์ชั่นของห้องดูเป็นสัดส่วน น่าใช้งานมากขึ้น

มองมายังห้องนั่งเล่นจากอีกมุม ทางโครงการตกแต่งห้องให้มีชั้นวางหนังสือมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เผื่อใครมีหนังสือเยอะหรือมีของอยากตั้งโชว์ ก็ลองเอาไปเป็นไอเดียในการตกแต่งห้องดูนะคะ

เดินเข้ามาดูในห้องนอนกันต่อ พื้นที่ห้องนอนเหมาะกับการวางเตียงขนาด 5 ฟุต

มีพื้นที่ข้างเตียงติดกับหน้าต่างให้เราปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับสาวๆ ได้

ส่วนอีกฝั่งที่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนก็มีที่เหลือให้เดินไปมาได้ค่ะ พร้อมทั้งยังมีปลั๊กไฟข้างหัวเตียงให้เราชาร์จโทรศัพท์ได้

พื้นที่ปลายเตียงจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้

ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ยังเชื่อมต่อไปยังระเบียงห้องที่เป็น Private Balcony เช่นกัน

เดินออกมายังพื้นที่ครัวที่อยู่หน้าห้องน้ำกันบ้าง

ซึ่งบริเวณนี้ทางโครงการได้มีการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L มีขนาดกะทัดรัด พร้อมทั้งติดตั้งชุดครัวมาให้

ภายในห้องน้ำจะได้ชุดสุขภัณฑ์ Hafele หรือเทียบเท่าและยังติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้

ห้องตัวอย่างคอนโด เดนิม จตุจักร

แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 33 ตร.ม. 

มาดูห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน พลัส กันต่อนะคะ เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ในสเปซเดียวกัน

ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างกว้างวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะรับประทานอาหารแบบเคาน์เตอร์บาร์ได้

ห้องครัวของแบบ 1 ห้องนอน พลัสจะได้เป็นครัวแบบเปิดอยู่ติดกับประตูทางเข้า

พื้นที่ครัวมีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ

ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ

ที่ภายในแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้

โดยห้องน้ำจริงที่ได้จะเป็นผนังทึบนะคะ เพียงแต่ห้องตัวอย่างในสำนักงานขายจะอยู่ติดหน้าต่างเท่านั้นเองค่ะ

ส่วนของห้องนอนจะได้หน้าต่างบานใหญ่ สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างก็มีพื้นที่ให้เดิน ไม่ชิดขอบหน้าต่างจนเกินไป

พอมองไปอีกด้านจะเห็นทางเดินเข้าไปยังพื้นที่แต่งตัว ซึ่งทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ

ห้องที่อยู่ติดกันนั้นจะเป็นห้องอเนกประสงค์ มีขนาดไม่กว้างมาก เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงานส่วนตัว สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของคอนโด เดนิม จตุจักร ห้องที่ได้เป็นแบบ Fullly Fitted นะคะ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ  พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าฉาบเรียบสีขาวค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (Pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

ทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวให้ในทุกห้อง

ซึ่งมีที่เก็บของได้พอสมควรเลย มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ

ชุดครัวจะได้ทั้งซิงค์ล้างจาน พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง

เครื่องดูดควัน Teka

และเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวในแบรนด์เดียวกัน

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำสำเร็จรูปจากโรงงาน ซึ่งช่วยลดปัญหารั่วซึมของน้ำ และเวลาบำรุงรักษาก็เปิดซ่อมท่อได้จากผนังด้านข้าง ไม่ต้องไปเปิดซ่อมที่ฝ้าของห้องชั้นล่าง

ฉากกั้นอาบน้ำในห้องน้ำ

ฝักบัวอาบน้ำ ด้ามจับถนัดมือ ของ Hafele

โถสุขภัณฑ์สีขาวจากแบรนด์เดียวกัน

อ่างล้างหน้าแบบแขวนเซรามิคสีขาว มีช่องสำหรับใส่ของอยู่ด้านล่าง

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก Hafele

กระจกเงาในห้องน้ำ บานใหญ่ยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปจนถึงโถสุขภัณฑ์

พัดลมดูดอากาศภายในห้องน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

พื้นห้องปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต

พื้นห้องครัวในแบบห้อง Studio จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ฝ้าสีขาว ดวงไฟดาวน์ไลท์ มี Smoke Detector และ  Sprinkler

สวิตซ์ไฟสีขาว

แผงควบคุมไฟ จะอยู่ในตู้บริเวณห้องครัว

เครื่องปรับอากาศ

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in

ประตูกระจกบานเลื่อน แบบ Safety Glass

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นคอนโด เดนิม จตุจักร ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท เป็นแบบสตูดิโอ  ขนาด 22.50 ตารางเมตร (รีวิว ตุลาคม 2562) ทั้งหมดขายห้องแบบ Fully Fitted

ราคา ณ วันที่  10 ตุลาคม 2562

ราคาเริ่มต้น :

Studio ขนาด 22.50-23.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,840,000-2,410,000 บาท

1 Bedroom ขนาด 27.50-28.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,260,000-3,150,000 บาท

1 Bedroom Plus ขนาด 32.50-33.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,790,000-3,620,000 บาท

1 Bedroom Plus Corner ขนาด 33.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,970,000-3,820,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

Studio 10,000 บาท

1 Bedroom 20,000 บาท

1 Bedroom Plus 20,000 บาท

1 Bedroom Plus Corner  20,000 บาท

• ทำสัญญา

Studio 20,000 บาท

1 Bedroom 30,000 บาท

1 Bedroom Plus 30,000 บาท

1 Bedroom Plus Corner  30,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

งวดปกติ 25 งวด ตั้งแต่ 4,000-9,000 บาท งวด Balloon 4 งวด  20,000-50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้องและขนาด)

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• แบบ Studio ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  10,467 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• แบบ Studio ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  11,181 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• แบบ Studio ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  12,347 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• แบบ Studio ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  14,426 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• แบบ Studio ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  18,804 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

เนื่องจากที่ตั้งของ Denim จตุจักร อยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 3 ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นถนนวิภาวดีรังสิตและเส้นถนนพหลโยธินช่วงจตุจักร ทำให้เราเดินทางเข้าออกจากถนนทั้ง 2 ฝั่งได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางลัดเลาะออกมายังถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้อีกด้วยค่ะ ทางด่วนที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดจะเป็นทางยกระดับอุตราภิมุข  วนไปตรงจุดขึ้นลงได้ไม่ไกล ทำให้สามารถเข้าออกเมืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือจะใช้ทางด่วนตรงไปยังสนามบินดอนเมืองก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน

ใครที่ใช้รถสาธารณะพี่วิน รถแท็กซี่ ก็มีวิ่งไปมาผ่านหน้าโครงการตลอด เนื่องจากซอยนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมทะลุถนนหลัก 2 เส้นอย่างพหลโยธินและวิภาวดี  หรือหากต้องการใช้รถไฟฟ้าก็มี BTS สถานีหมอชิต และ MRT สถานีจตุจักร อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด  ลงรถไฟฟ้าแล้วก็ต้องเรียกพี่วินเข้าซอยมาหน่อย  ซึ่งทั้ง 2 เส้นนี้เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งในตัวเมืองกรุงเทพฯ อยู่แล้วอย่างที่รู้กันค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พูดถึงศักยภาพในการเติบโตของทำเลนี้ ต้องบอกว่ามีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้ย่านนี้กลายเป็น HUB จุดรวมตัวของแหล่งไลฟ์สไตล์และเป็นทำเลที่เชื่อมต่อการเดินทางไปได้หลายรูปแบบ มีทั้งรถเมล์ รถตู้ รถไฟฟ้า ต่างๆ รวมไปถึงยังเป็นแหล่งชุมชนและแหล่งงานอีกด้วย โดยในอนาคตก็มีโปรเจกต์ยักษ์ สถานีกลางบางซื่อ ที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางระบบรางขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนที่จะรองรับรถไฟสายต่างๆ มาเป็นจุดเปลี่ยนและเชื่อมต่อไปยังโซนอื่นๆ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบกันในปี 2564

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ เดนิม จตุจักร เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดกว่า 9 ไร่ ซึ่งภายในมีอาคารพักอาศัย 3 อาคาร และอาคารจอดรถ 1 อาคาร ได้แรงบันดาลใจในการดีไซน์ออกมาตามแบบสถาปัตยกรรม Art Deco แต่ลดทอนรายละเอียดให้ดูเรียบง่ายขึ้น คุมโทนสีอาคารด้วยสีครีม ดูสดใส สบายตาค่ะ  ทาง GRAND UNITY เลือกใช้ชื่อโครงการว่า Denim ซึ่งเวลาพูดถึง เราก็จะนึกถึงสีของผ้าเดนิม (ยีนส์) ที่ให้ความรู้สึกกระชับกระเฉงและมีพลังตลอดเวลา  ตามแนวคิดของโครงการที่ว่า Plan To Live Unplanned  ซึ่งก็สื่อความหมายต่อว่า  เป็นโครงการที่ทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยความหลากหลายของแต่ละคน  มีอะไรให้ทำอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ

ส่วนจุดเด่นของโครงการเดนิม จตุจักร ก็คือการเชื่อมต่อ Facilities ที่จัดมาให้เยอะมากและมีความหลากหลายของกิจกรรมต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นเชิง Passive หรือ Active ค่ะ โดย Denim Jatujak จะเชื่อมพื้นที่ส่วนกลางของทุกอาคารเข้าด้วยกันผ่าน Sky Bridge  ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินข้ามไปใช้งานได้สะดวก แต่ก็ยังคงรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน โดยทางโครงการจะทำประตูกั้นแยกโซนมาให้ และจะต้องเข้าถึงจากทางตึกที่ตัวเองอยู่เท่านั้นค่ะ

การวางผังโครงการ Denim Jatujak  จะทำทางเข้าออกได้ 2 ทางจากซอยวิภาวดีรังสิต 3 และซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7 ช่วยให้เข้าออกโครงการได้ง่ายมากขึ้น  หลบรถติดในซอยเวลาเร่งด่วน  ส่วนการวางแปลนของอาคาร  เนื่องจากมีคอนโดอีก 2 โครงการวางขนาบข้าง โครงการจึงพยายามวางตัวอาคารให้มีการบล็อควิวกันน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านและบรรยากาศให้ไม่ดูน่าอึดอัดค่ะ ส่วนห้องที่หันหน้าเข้ามาในโครงการส่วนมากจะได้วิวเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะคะ

แปลนห้องของที่นี่ทำออกมาให้เลือกหลายไซส์ตั้งแต่ขนาด 22.50-50.00 ตร.ม. โดยมีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 4 แบบ คือ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom นอกจากนี้ยังมีแบบห้องที่เป็นห้องมุมของแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ให้เราเลือกอีกด้วย ห้องครัวที่ได้จะมีทั้งแบบปิดและแบบเปิด ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ มากกว่าค่ะ นอกจากนี้พื้นที่ระเบียงจะเป็นแบบ Private Balcony ที่มีการติดตั้งระแนงอลูมิเนียมปิดไว้ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน

ในด้านวัสดุที่ทางโครงการ เดนิม จตุจักร จะได้ Safety Glass หรือกระจกนิรภัยทั้งโครงการและกระจกทุกบานในห้องตามแนวคิดที่ทาง GRAND UNITY นำมาใช้ในคอนโดช่วงหลังๆ นี้ทุกโครงการ  ห้องน้ำจะเป็นแบบสำเร็จรูปจากโรงงาน ทำให้ง่ายต่อการดูแล ซ่อมแซมได้โดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยห้องด้านล่าง สุขภัณฑ์ภายในห้องเป็นของ Hafele หรือเทียบเท่า ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เครื่องปรับอากาศ พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางของ เดนิม จตุจักร อย่างที่เกริ่นไปว่าก็ให้มาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำงาน พื้นที่พักผ่อน รวมไปถึงพื้นที่ทำกิจกรรม Activity ต่างๆ กระจายตามอาคารพักอาศัย โดยอาคาร A ชั้น 8 มี Brain Space และ Meeting Area ค่ะ ในอาคาร B สิ่งอำนวยความสะดวกจะทำเป็นแนว Relax Space โดยอยู่ในชั้น 7 มีทั้ง Relax Pool, Kids’ Pool, Rhythm Studio, Bike Simulator, Playroom, Theater Room, Lobby และ Retreat Area ส่วนอาคาร C ในชั้น 8 จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Co-Living Area, Co-Kitchen Space, Co-Dining Area และ E-Library ค่ะ สุดท้ายคืออาคาร D ที่เป็นอาคารจอดรถ บนชั้น 10 หรือ ชั้นดาดฟ้าของอาคารจะถูกออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด จะมีทั้ง Up & Above Gym, Sauna Steam, Active Pool, Yoga & Pilates, Green Roof และ Outdoor BBQ ส่วนที่จอดรถจอดได้ 978 คัน คิดเป็น 53%

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^