วันนี้เอาใจคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบ พาบุกไปดูโครงการ พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น (Pleno Ramintra-Bangchan Station) พรีเมียมทาวน์โฮมโครงการใหม่ จาก AP Thailand ที่ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 117  ซึ่งจุดเด่นของทำเลนี้คือ จะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน  เพียง 2 นาทีครับ  นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เชื่อมต่อแฟชั่นไอส์แลนด์ และทางด่วนได้สะดวกครับ

PLENO รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา หน้ากว้าง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เชื่อมต่อกับธรรมชาติ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี  พร้อมทั้งยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน ได้ร่มเงาที่ร่มรื่นตลอดวัน รองรับกิจกรรมได้มากมาย  ..ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จแล้ว  YUSABUY จะลงพื้นที่ไปสำรวจบรรยากาศมาให้ดูกันว่าจะน่าอยู่ขนาดไหน เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ ^_^

.

Pleno Ramintra-Bangchan Station

(พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น)

• เจ้าของโครงการ >>> AP Thailand
• ลักษณะโครงการ >>> ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซ.รามอินทรา 117
• พื้นที่โครงการ >>> 26-3-15.1 ไร่
• จำนวนยูนิต >>>  252 ยูนิต
• ขนาดที่ดิน >>> เริ่มต้น 18 ตารางวา
• พื้นที่ใช้สอย >>> 106.85 ตารางเมตร
• รูปแบบบ้าน >>> หน้ากว้าง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว (4 พ.ค. 63) >>>  เริ่ม  2.79  ล้านบาท*
• พิกัด GPS >>> 13.8266692,100.6715219
• เว็บไซต์โครงการ >>> Pleno รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น
• โทร >>> 1623

.

PLENO Ramintra-Bangchan Station ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 117  เข้ามาจากถนนรามอินทรา ประมาณ 700 ม. ถือเป็นช่วงรามอินทราตอนปลาย ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งมาตามแนวของถนนรามอินทรา (คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการช่วงปลายปี 64)  โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีบางชัน อยู่ก่อนถึงซอยรามอินทรา 117 ครับ  ส่วนภายในซอยรามอินทรา 117 จะเป็นย่านชุมชนพักอาศัยที่ไม่ค่อยวุ่นวายนัก สามารถทะลุไปออกถนนสุเหล่า คลองหนึ่ง เชื่อมต่อกับถนนปัญญาอินทรา ได้ ช่วยให้มีตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ย่านนี้ถือว่าครบครันครับ โดยเฉพาะบนเส้นถนนรามอินทรา ไล่มาตั้งแต่ฝั่งวงแหวนรามอินทรา ก็จะมี The Promenade, Fashion Island, Amorini Mall และ Makro  พอเลยแยกมีนบุรี ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนรามอินทรา กับถนนสุวินทวงศ์ จะมีตลาดมีนบุรี เป็นแหล่งชุมชนและแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่  ด้านสถานพยาบาลก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง รพ.นพรัตนราชธานี, รพ.นวมินทร์ และ รพ.เสรีรักษ์  ส่วนสถานศึกษาที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ ครับ

การเดินทาง

การเดินทางไปยังโครงการ Pleno รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น วันนี้ผมจะใช้เส้นรามอินทรา มุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ผ่านด้านหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณละแวกนี้  ขับตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 117  จุดสังเกตคือจะมีป้ายรถเมล์ และสะพานลอยอยู่ก่อนถึงปากซอย  พอเลี้ยวเข้าซอยแล้วให้ขับตรงไปอีกประมาณ 700 ม. ก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ หรือถ้าใครกลัวเลย ให้สังเกตว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่เลยจุดโค้งของถนนไปแค่นิดเดียวครับ

ตั้งต้นกันที่ ถ.รามอินทรา ด้านหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ครับ

บนถนนรามอินทรา มีเส้นทางลัดไปสุขาภิบาล 5 ได้ด้วย แต่เราขับตรงไปครับ

ใกล้จะถึงซอยรามอินทรา 117 แล้วครับ ก่อนถึงปากซอยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ มีสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งด้วยครับ

เลี้ยวซ้ายเข้าไปยัง ซอย รามอินทรา 117

ขับตรงเข้าไปในซอยเรื่อยๆ บรรยากาศสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยครับ

จากปากซอยเข้ามาประมาณ 700 ม. ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ อยู่ทางด้านซ้ายมือ เลยช่วงโค้งถนนไปนิดเดียว

ภาพถ่ายจากด้านหน้า โครงการ Pleno รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น ครับ มีสะพานข้ามคลองเล็กๆ เข้าไป

มาดูตำแหน่งรอบๆ โครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

บนเส้นถนนรามอินทราปริมาณรถจะมากหน่อย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างเยอะ ทั้ง The Promenade, Fashion Island, Amorini Mall, Makro, รพ.นพรัตนราชธานี และ รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ  ถือเป็นย่านที่อุดมสมบูรณ์ย่านหนึ่งเลย  ต่อเนื่องไปจนถึงย่านมีนบุรี ที่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน สมเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่อยู่กันมานานแล้ว มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยทั้ง ตลาดมีนบุรี, Big C และ Tesco Lotus

.

ส่วนซอยรามอินทรา 117 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น จะอยู่ระหว่างถนนหลักสองเส้นคือถนนหทัยราษฎร์ และถนนพระยาสุเรนทร์  มีซอยย่อยที่เชื่อมกันได้  นอกจากนี้ถ้าขับไปเรื่อยๆ จะไปออกถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ซึ่งเชื่อมกับถนนปัญญาอินทราได้อีก เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ระหว่างทางก็มีร้านสะดวกซื้อทั้ง Lotus Express, 7-11 และ CJ Market

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนรามอินทรา)  ถ้าออกจากโครงการไปถึงก็ประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถใช้ขึ้นเหนือไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนพระรามเก้า วงแหวนตะวันออก และไปถึงสมุทรปราการได้เลยครับ

ทีนี้มาซูมดูเพื่อนบ้านใกล้ๆ กันบ้างครับ รอบๆ จะเป็นโครงการจัดสรรแนวราบ 2 ชั้น  บริเวณด้านหน้าโครงการติดกับคลองเล็กๆ ชื่อว่าคลองลำควายหาย ทางเข้าโครงการจะเข้าทางเดียวจากซอยรามอินทรา 117  ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่าย่านนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่รอบๆ ไม่ได้อยู่กันหนาแน่นแบบในใจกลางเมือง ทำให้ได้เรื่องความสงบครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

จากที่เราได้ดูทำเลที่ตั้งของ PLENO รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น กันไปแล้ว ทีนี้จะพาไปสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆ กันครับ เพื่อจะได้เห็นภาพบรรยากาศโดยรวมกันมากขึ้น โดยจะเริ่มจากที่ ถนนรามอินทรา ก่อนเลย

เริ่มที่ The Promenade ศูนย์การค้าสุดหรูหราสไตล์ยุโรปครับ

ถัดมาอีกนิดก็จะเป็น Fashion Island ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านนี้ ภายในมีทั้ง Big C, Robinson, HomePro และอื่นๆ อีกมากมายครับ

ช่วงประมาณ ซ.รามอินทรา 103/2 จะมีสถานพยาบาลของรัฐอย่าง รพ.นพรัตน์ราชธานี ตั้งอยู่

เยื้องกับโรงพยาบาลเป็น Amorini Mall สถานที่พักผ่อนและนัดพบปะพูดคุยกัน

วิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยเอกชนประเภทอาชีวศึกษาครับ

เลยไปอีกนิดเป็น Hyper Market อย่าง Makro รามอินทรา

โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ โรงเรียนรัฐขนาดใหญ่ในย่านนี้ เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา

จากถนนรามอินทรา ขับไปเรื่อยๆ จะเชื่อมต่อกับถนนสีหบุรานุกิจ ที่แยกมีนบุรี โดยมีถนนสุวินทวงศ์ตัดผ่าน วันนี้เลยจะขอขับรถต่อไปอีกนิด ไปสำรวจสถานที่ที่น่าสนใจกันครับ

พอผ่านแยกมีนบุรีไปนิดเดียวก็จะพบกับ วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แถวนี้สถานศึกษาเยอะเหมือนกันนะครับเนี่ย

ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันเป็น รพ.นวมินทร์ 9

ขับต่อไปอีกนิดเป็นตลาดมีนบุรี ตลาดขนาดใหญ่ในย่านนี้เลย ของกินของใช้เพียบ

ตรงข้ามเป็นตลาดมาร์เก็ตพาเหรด และยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถตู้กว่า 10 สายด้วยครับ

มาต่อกันที่ถนนสุวินทวงศ์ เริ่มจาก Tesco Lotus สาขามีนบุรี

ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ญี่ปุ่น ร้าน Uniqlo สาขามีนบุรี

ใกล้กันเป็น Big C สุวินทวงศ์

ปิดท้ายโซนนี้ด้วย รพ.เสรีรักษ์

กลับเข้ามาที่ซอยรามอินทรา 117 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการกันอีกครั้งครับ  คราวนี้จะสำรวจตั้งแต่ต้นซอย จนไปทะลุที่ถนนปัญญาอินทราเลยครับ

เริ่มตั้งแต่ช่วงปากซอยรามอินทรา 117 มีร้านสะดวกซื้อ TSECO LOTUS Express

ช่วงกลางซอยก็มี CJ Supermarket

ตึกแถว หอพัก และอาคารพาณิชย์ มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ตลอดทาง

บรรยากาศข้างทางบางช่วงก็จะเป็นพื้นที่สีเขียวครับ ไม่ได้แออัดไปด้วยที่พักอาศัยเหมือนใจกลางเมือง

ขับไปเรื่อยๆ ก็จะมาเชื่อมกับถนนปัญญาอินทรา เส้นนี้มีสนามกอล์ฟปัญญาอินทรา เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เหมือนปอดของโซนนี้ครับ

ก่อนจะวนออกมาที่ถนนรามอินทรา มีแม็กซ์แวลู สาขาปัญญาวิลเลจ อยู่ทางด้านขวาครับ

Pleno Ramintra-Bangchan Station

(พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น)

เริ่มเปิดประตูดูโครงการ

กลับมาที่ตัวโครงการกันอีกครั้งครับ  ได้เวลาเข้าไปดูในโครงการกันแล้ว เริ่มจากที่ด้านหน้าโครงการ บริเวณซุ้มทางเข้าของ พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น จะออกแบบในลักษณะซีทรู โปร่งโล่งมองเห็นง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยด้วยการมี รปภ.อยู่ตรงกลาง และแยกทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนครับ

การเข้า-ออกภายในโครงการจะใช้นวัตกรรมที่เรียกว่า KATSAN ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ (Personal Guardian) ร่วมกับ CCTV และ รปภ. 24 ชม. เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกบ้าน

ด้านข้างจะเป็นทางเท้า เดินผ่านซุ้มระแนงแบบซีทรูที่พอมี Shading อยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา และมีการนำเอาธรรมชาติ ความเขียวของพรรณไม้เข้ามาสอดแทรกระหว่างทางเดินครับ

เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอกับวงเวียน ถ้าไปติดต่อสำนักงานขายให้เลี้ยวซ้ายครับ  โดยถนนหลักของโครงการนี้มีความกว้างอยู่ที่ 12 ม. ส่วนถนนซอยกว้าง 9 ม. ครับ

เข้ามาดูภายในสำนักงานขายกันต่อ ตกแต่งอย่างสวยงามตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาเลย

มีที่นั่งรองรับมากมาย ตั้งอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของห้อง โดดเด่นด้วยโซฟา Colorful ดูสดใส เป็นมิตรดีครับ  พร้อมมีจอแสดงข้อมูลของตัวโครงการให้ดู

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของ พลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น ให้มาครบครัน ภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “BIODIVERSITY” คือเน้นความหลากหลายของธรรมชาติ ผสานกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ

เริ่มสำรวจกันที่ Club House ซึ่งภายในมีพื้นที่ใช้สอยหลากหลาย ออกแบบดูทันสมัย ใช้โทนสีอบอุ่น และเน้นความโปร่งโล่ง รายล้อมด้วยธรรมชาติครับ

สระว่ายน้ำจะเป็นแบบกลางแจ้ง เป็นสระระบบเกลือขนาด 20 x 5.6 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งเป็นสระเด็ก ลึก 50 ซม.  พร้อม Sunbed ริมสระ

มีห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงพื้นที่ล้างตัวก่อนและหลังลงจากสระด้วยครับ

Club House ของโครงการนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก Universal Design มีทางลาดรองรับการใช้งานในส่วนของรถเข็นได้ด้วย

Co-Sharing space จะอยู่ติดบริเวณสระว่ายน้ำ เป็นพื้นที่ให้พ่อแม่มานั่งดูลูกว่ายน้ำได้ รวมถึงเป็นพื้นที่ให้ผู้ใหญ่ได้เกิดการปฏิสัมพันธ์กันโดยง่ายครับ

ห้อง Fitness จะอยู่ด้านในสุด เดินผ่าน Co-Sharing space  ซึ่งภายในมีเครื่องเล่นครบครัน ใช้ผนังกระจกเพื่อช่วยเรื่องความโปร่งโล่ง และเปิดรับวิวจากภายนอก

ลู่วิ่งที่อยู่ด้านในสุดจะมองเห็นสระว่ายน้ำด้วย

ส่วนมุมนี้เป็นเครื่องเล่นประเภท Weight Training ครับ

ด้านนอกของอาคาร Club House เป็นพื้นที่สีเขียว ที่รองรับทุกกิจกรรม เช่น Jogging Track สำหรับวิ่งเล่นออกกำลังกาย

รวมถึงมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา  พร้อมที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้

มีพื้นที่สำหรับเด็กให้ได้เรียนรู้แบบ Outdoor Learning

ส่วนมุมนี้เป็น Pavillon & Steping store  อยู่ใกล้ๆกับ Herb Garden ครับ

จะเห็นว่าส่วนกลางของ Pleno รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น ให้มาครบครัน หลากหลาย รองรับทั้งคู่รัก และครอบครัวใหญ่ได้เป็นอย่างดีครับ

เปิดแปลนบ้าน

แบบบ้านของโครงการ Pleno Ramintra-Bangchan Station จะมีแบบเดียวครับ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น  18 ตร.วา หน้ากว้าง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน   เน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า จัดแปลนแบบ compact ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดในพื้นที่ที่จำกัด  ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาออกมาไม่สูงจนเกินไปด้วยครับ

ด้านนอกออกแบบสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย ตอบโจทย์รสนิยมคนรุ่นใหม่ พร้อม Master Bedroom ที่ดีไซน์เพดานและหน้าต่างให้สูงขึ้นเพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติ ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสดชื่นได้ตลอดวัน

ชั้น 1 ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอสเปซของห้องนั่งเล่น ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร มีพื้นที่สำหรับทำ Pantry เตรียมอาหารอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าใครอยากทำอาหารหนักๆ จะต่อเติมเป็นห้องครัวไทยที่หลังบ้านก็ได้ครับ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 มี 1 ห้อง อยู่ติดกับหลังบ้าน ทำให้สามารถใส่ช่องหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้ ทางขึ้นบันไดชั้น 2 จะอยู่บริเวณห้องนั่งเล่น ตรงข้ามกับตำแหน่งวางโซฟาครับ

ชั้น 2 เมื่อขึ้นบันไดมาจะเจอโถงที่แยกไปยังห้องต่างๆ  ฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom กินพื้นที่เต็มหน้ากว้าง 5.5 ม.  ใหญ่พอที่จะทำห้อง Walk-in Closet ได้ รวมทั้งมีระเบียงให้ออกไปใช้งานได้ด้วย  ส่วนฝั่งหลังบ้านจะแบ่งเป็น 2 ห้อง ขนาดไม่เท่ากัน ห้องนึงขนาดจะใหญ่กว่า เหมาะกับทำเป็นห้องนอนที่ 2  ส่วนอีกห้องเหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องพักผ่อนของครอบครัว แต่หากใครจะเอาที่นอนแบบ 3.5 ฟุต ไปตั้งก็พอได้อยู่นะครับ  ที่ชั้นสองนี้ จะมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง อยู่บริเวณโถงบันได ใช้งานร่วมกันครับ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ต่อไป เราจะมาพูดถึงสเปซภายในบ้านกันบ้าง บ้านที่จะพาเข้าไปดูวันนี้ เป็นบ้านที่ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนบ้านที่ขายจริงเป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้นะครับ ความสูงฝ้าเพดานชั้น 1 อยู่ที่ 2.75 ม. ส่วนชั้นบนสูง 2.60 ม. ครับ

เริ่มจากเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เป็นสเปซของพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร  หน้ากว้าง กว้างถึง 5.5 ม. ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งกว่าทาวน์โฮมทั่วไป ไม่อึดอัดเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวาง TV และบันไดขึ้นชั้น 2  บริเวณใต้บันไดมีพื้นที่ให้เก็บของได้ครับ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่ง ยังเหลือพื้นที่โล่งให้เดินได้อีกเยอะเลยครับ

สำหรับบ้านหลังมุมจะมีประตูเปิดออกไปสวนข้างบ้านได้ ตำแหน่งจะอยู่ใกล้ ๆ กับพื้นที่รับประทานอาหารครับ

มองย้อนกลับออกไปที่ประตูหน้าบ้านครับ ให้เห็นสเปซแบบรวม ๆ

สำหรับพื้นที่หลังบ้านนั้น ที่บ้านตัวอย่างหลังนี้ต่อเติมเป็นห้องครัวให้ดูเป็นไอเดียครับ แต่บ้านจริงที่ได้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เทพื้นคอนกรีตพร้อมลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน (24 ม.) เพื่อรองรับการต่อเติม  แต่ถ้าใครไม่อยากต่อเติม ตรงส่วนรับประทานอาหารก็สามารถตั้ง Pantry เล็กๆได้ครับ ทางโครงการเดินท่อต่างๆไว้ให้แล้ว

ในบ้านตัวอย่างจะเอาบานประตูและหน้าต่างที่หลังบ้านออก เพื่อให้สเปซมีความเชื่อมต่อกัน แต่บ้านจริงที่ได้จะมีบานประตูและหน้าต่างให้ครับ

ใครจะเอาไอเดียการต่อเติมพื้นที่หลังบ้านแบบนี้ไปใช้ก็ได้นะครับ สวยงามและได้พื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย

ที่ชั้นล่างมีห้องน้ำ 1 ห้อง ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทา แบ่งส่วนเปียก/แห้งเอาไว้ให้ แต่ยังไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ สามารถติดตั้งเองภายหลังได้ไม่ยาก

เดี๋ยวเราเดินขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันต่อครับ

บันไดทางขึ้นจะเป็นลักษณะรูปตัว U  และเนื่องจากบ้านทาวน์โฮมจะมีผนังที่ติดกับเพื่อนบ้าน โถงบันไดจึงไม่สามารถมีช่องแสงธรรมชาติเหมือนบ้านเดี่ยวได้ ต้องใช้โคมไฟเข้าช่วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดนะครับ ความกว้างของบันไดกำลังดี

เมื่อขึ้นมาก็จะเจอโถงที่แยกไปยังห้องต่างๆ ห้องที่อยู่ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำครับ

ห้องน้ำที่ชั้น 2 มี 1 ห้อง ใช้งานร่วมกัน การตกแต่งก็จะเป็นโทนสีเทาเรียบง่าย เหมือนห้องน้ำที่ชั้น 1

ห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านครับ ฝ้าสูงถึง 2.6 ม. และมีหน้าต่างบานค่อนข้างใหญ่ จึงรู้สึกโปร่งสบาย มองเห็นวิวภายนอกได้เต็มที่

ขนาดของห้องนอนก็ค่อนข้างกว้างครับ สามารถวางเตียงขนาดใหญ่แบบ King Size ได้เลย

ส่วนบริเวณปลายเตียงจะเป็นพื้นที่แต่งตัว พร้อมทั้งมีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติครับ

ส่วนชั้น 2 ฝั่งหลังบ้านจะแบ่งห้องออกเป็น 2 ห้อง ห้องนี้จะเป็นห้องนอนเล็ก เหมาะกับวางที่นอนขนาด 3.5 ฟุต เหลือพื้นที่กำลังดี

ส่วนอีกห้องจะเล็กกว่าห้องก่อนหน้าเล็กน้อย เหมาะกับทำเป็นห้องทำงานหรือห้องพักผ่อน หรือใครจะหา Daybed มาวาง ทำเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็พอได้อยู่ครับ

วันนี้ผมได้เข้าไปถ่ายบ้านเปล่ามาให้ดูกันด้วยบางส่วน เพื่อจะได้เปรียบเทียบให้เห็นระหว่างบ้านตัวอย่างกับบ้านจริงที่จะมีการส่งมอบกันครับ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของโครงการ พลีโน่ รามอินทรา-บางชันสเตชั่น ทางโครงการจัดมาตามมาตรฐานครับ ขายแบบบ้านเปล่า ผนังฉาบเรียบทาสี พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นที่ 2 ปูไม้ลามิเนต  สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ American Standard หรือเทียบเท่า ส่วนในห้องครัวไม่มีเคาน์เตอร์ครัวนะครับ แต่ทางโครงการติดตั้งท่อเอาไว้ให้เรียบร้อย และมีแอร์มาให้ 1 เครื่อง ในห้องนอนใหญ่ครับ

ทีมงานอยู่สบายจะขอแบ่งวัสดุเป็น 3 ส่วนให้ดูกันง่ายๆ เป็นวัสดุห้องน้ำ วัสดุห้องครัว และวัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material) ครับ

วัสดุห้องครัว

บริเวณ Pantry ครัว จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ทางโครงการเตรียมระบบท่อ และไฟฟ้าไว้ให้ครับ

หลังบ้านมีถังเก็บน้ำ และเครื่องปั๊มน้ำ

วัสดุห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์ สีขาว American Standard

บานกระจกเงาส่องครึ่งตัว

อ่างล้างหน้าพร้อมก๊อกน้ำ ยี่ห้อ American Standard เช่นกัน

ราวแขวนผ้าสแตนเลส

ฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard

หัวฝักบัวจับถนัดมือกำลังดี

โคมไฟรูปทรงสี่เหลี่ยม และพัดลมดูดอากาศ

ธรณีกั้นส่วนแห้ง/เปียก สูงประมาณ 5 ซม.

วัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material)

ประตูบานเลื่อน UPVC สีขาว ยี่ห้อ Amigo

มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่อง

หน้าต่างตรงห้องนั่งเล่นเป็นแบบบานกระทุ้ง (สำหรับบ้านหลังมุม)

มือจับหน้าต่างเป็นแบบก้านโยก

ส่วนประตูภายในเป็น HDF สีขาว เซาะร่องเป็นลาย 1 เส้น

มือจับประตูภายในเป็นแบบลูกบิด

พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สีครีม ขนาด 60×60 ซม. พร้อมบัวผนังสีขาว

ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาล หนา 8 มม.

ลูกนอนของบันไดทำจากไม้อัดยางพารา

ฝ้าฉาบเรียบ ทาสีขาว พร้อมโคมไฟรูปทรงสี่เหลี่ยม

เครื่องปรับอากาศ ขนาด 12,000 BTU 1 เครื่องในห้องนอน

หลังบ้านมีไฟส่องให้ 1 ดวง เป็นแบบกันน้ำ

สวิตซ์ไฟ ยี่ห้อ Bitichino

ปลั๊ก และช่องรับสัญญาณ ใช้อุปกรณ์ ยี่ห้อ Bitichino เช่นกัน

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นของโครงการ Pleno Ramintra-Bangchan Station ณ วันที่เข้าไปรีวิว (พ.ค. 63) อยู่ที่ 2.79 ล้านบาท ขายแบบบ้านเปล่าครับ