SENA เผยว่า แม้ภาพรวมปี 2562 ต้องเผชิญกับปัจจัยกระทบมากมายที่เกิด แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทเสนา และ บริษัทย่อย ประจำปี 2562 ยังสามารถทำยอดขายได้ 7,421 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการ 11 โครงการ รวมมูล่า 10,172 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 5,297 ล้านบาท ลดลงอยู่ที่ 4.4% โดยมีกำไรสุทธิ ทั้งสิ้น 891.6 ล้านบาท ลดลง 4.2 % เมื่อเทียบกับปี 2561 เป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV:loan to value) ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ทำให้รัฐบาลได้ออกมาตรการผ่อนปรนในการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อ และเกณฑ์การยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังมีแรงซื้อของกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริง (Real Demand) มีจำนวนที่เพิ่มขึ้น
ภาพรวมของผลดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 แบ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการขายที่อยู่อาศัย ประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และ คอนโดมิเดียม รวมทั้งสิ้น 3,769.6 ล้านบาท ลดลง 16.9 % เมื่อเทียบกับปีก่อน
- การรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียม อยู่ที่ 2,896 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 18.8 % แบ่งเป็น
- แบรนด์ “นิช” จำนวน 1,144 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 2,491 .1 ล้านบาท
- แบรนด์ “เดอะ คิทท์” จำนวน 261 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 404.9 ล้านบาท
- การรับรู้รายได้จากกลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และ อาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 873.6 ล้านนบาท ปรับตัวลดลง 9.8 %
- แบรนด์ “เสนา พาร์ค วิลล์” จำนวน 27 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 181.9 ล้านบาท
- แบรนด์ “เสนา พาร์ค แกรนด์” จำนวน 6 ยูนิต คิดเป็น 58.3 ล้านบาท
- แบรนด์ “เสนา วิลล์” จํานวน 16 ยูนิต มูลค่า 80 ล้านบาท
- แบรนด์ “เสนา แกรนด์ โฮม” จํานวน 2 ยูนิต มูลค่า 16.3 ล้านบาท
- แบรนด์ “บ้านรีสอร์ทพัทยา” 1 ยูนิต มลูค่า 1.1 ล้านบาท
- แบรนด์ “ช็อปเฮ้าส์และอเวนิว” จํานวน 54 ยูนิต จำนวน 375.4 ล้านบาท
- แบรนด์ “แพรมาพร” จํานวน 3 ยูนิต มูลค่า 7.2 ล้านบาท
- แบรนด์ “เสนา วานิช” จํานวน 74 ยูนิต 153.3 ล้านบาท
ส่วนการรับรู้รายได้จากค่าเช่าและบริการ อยู่ที่ 1,272.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าและบริการอพาร์ทเม้นท์ 13.8 ล้านบาท รายได้บริหารนิติบุคคล 39 ล้านบาท ธุรกิจเช่าโกดัง 26.8 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์เสนาเฟสท์ 74 ล้านบาท รายได้จากสนามกอล์ฟ 98 ล้านบาท รายได้รับบริหารโครงการ 969.3 ล้านบาท มาจากการเข้าไปบริหารโครงการเพิ่มขึ้นจาก 6 โครงการเป็น 13 โครงการ รายได้จากการเช่าที่ดิน 3.7 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้า – ค่าที่ปรึกษาขายอสังหาฯ 41.6 ล้านบาท และรายได้รับเหมาก่อสร้าง 5.8 ล้านบาทเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วงกลางปีที่ผ่านมา อีกทั้งยัง มีรายได้จากการเช่าอุปกรณ์โซลาร์ 0.7 ล้านบาท
สำหรับในปี 2563 มีแผนการเปิดโครงการใหม่ ทั้งสิ้น 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 6 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ โดยมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการแล้ว แต่จะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จากไวรัสโควิด-19 ที่กลายเป็นปัญหาต่อการทำธุรกิจไปทั่วโลก สำหรับแนวทางการพัฒนาก็ยังคงเอาแนวคิด Made From Her ใส่ใจทุกดีเทลชีวิตจากแนวคิดผู้หญิง และการนำ Solar Cells เข้ามาปรับใช้ทุกโครงการ รวมไปถึงการบริการหลังการขาย ด้วยนำเอาเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่น เสนา 360 องศา บริการสำหรับลูกบ้านแบบครบวงจร
ล่าสุดเสนาได้จัดแคมเปญพิเศษ “โปรปิดตึกกับยูนิตล็อตสุดท้าย” นำคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่บนทำเลศักยภาพ 7 โครงการ มอบส่วนลดสูง 25% ผ่อนราคาเบาๆ เพียงล้านละ 2,800 บาท/เดือน* ประกอบด้วย โครงการ Niche MONO Peak บางนา, โครงการ Niche MONO รัชวิภา ,โครงการ Niche ID พระราม 2, โครงการ The Kith ติวานนท์,โครงการ The Kith lite บางกะดี – ติวานนท์ ,โครงการ Niche ID สุขุมวิท 113 ,โครงการ The KITH PLUS สุขุมวิท 113 โดยเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ –10 เมษายน 2563