‘ถนนวิทยุ’ น่าจะเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองระหว่างย่านราชประสงค์และย่านเพลินจิต เป็นถนนสายยาวเส้นหนึ่งที่ตัดผ่านทั้งถนนพระราม 4, ถนนเพลินจิต ยาวตลอดไปจนจบที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นถนนสายสำคัญทั้งสิ้น  นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยย่านการค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย เช่น ย่านราชประสงค์, ย่านชิดลม, ย่านเพลินจิต, ย่านสีลม, ย่านสาทร เป็นต้น ซึ่งย่านเหล่านี้ล้วนเป็นย่านธุรกิจการค้าชั้นนำในกรุงเทพ คราคร่ำไปด้วยตึกสำนักงาน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เป็นย่านที่มีคนอยู่ค่อนข้างหนาแน่นมากทีเดียวค่ะ

แต่เมื่อกลับมามอง ย่านถนนวิทยุ เป็นย่านที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากมายขนาดนั้น กลับเป็นย่านที่มีระดับ เงียบสงบ มีระเบียบเรียบร้อย อาจจะเป็นเพราะบนถนนเส้นนี้มี สถานทูต ของประเทศต่างๆ ตั้งอยู่มากมาย เช่น สถานทูตอเมริกา, สถานทูตเนเธอร์แลนด์, สถานทูตญี่ปุ่น, สถานทูตอังกฤษ และอื่นๆ อีกมากมายไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ ถนนวิทยุ เป็นย่านที่ใครๆ ก็รู้ว่าแพงหูฉี่ ล่าสุดมีการซื้อขายที่ดินในย่านนี้ปาเข้าไปราว 2 ล้านกว่าบาทต่อตารางวา เข้าไปแล้ว  รวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวก มากมายที่รายล้อมถนนเส้นนี้อยู่ อย่าง บริเวณจุดตัดของถนนวิทยุและถนนเพลินจิต เป็นที่ตั้งของ Central Embassy ห้างหรูแห่งหนึ่งในไทย และ HomePro เพลินจิต นี่ยังไม่รวมบริเวณใกล้เคียงที่มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์, ศูนย์การค้าขนาดใหญ่, ร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำ เช่น Central ชิดลม, Mercury, Velaa Sindhorn Village, Central World เป็นต้น แล้วตลอดเส้นถนนวิทยุยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูหลายแห่งในเมืองไทย เช่น The Athenee Hotel, A Luxury Collection Bangkok, Hotel Indigo Bangkok, The Okura Prestige Bangkok เป็นต้น

สิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ยังเหลือไฮไลท์อยู่อีก 1 อย่าง นั่นก็คือ สวนลุมพินี นั่นเอง ซึ่งสวนลุมพินีนี้เป็น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง ในเมืองใหญ่ๆ ของโลกอย่าง London มี Hyde Park หรือ New York ก็จะมี Central Park ซึ่งต่างก็เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เสมือนปอดของเมือง คล้ายกันกับสวนลุมพินี  โดยย่านรอบๆ สวนสาธารณะเหล่านี้ไม่ว่าจะที่ London หรือ New York ที่ดินจะมีราคาสูงกว่าย่านอื่นๆ ในเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญ  และทฤษฎีนี้ก็ใช้ได้กับพื้นที่บนถนนวิทยุ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสวนลุมพินีนี้ได้ด้วยค่ะ  สะท้อนให้เห็นว่า แม้ผู้คนจะต้องการความสะดวกสบาย ความเจริญมากเพียงใด แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ และมี Value ต่อจิตใจมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ ธรรมชาติ นั่นเอง

รวมๆ แล้วเราจะเห็นได้ว่า ถนนวิทยุ นั้นเป็นถนนที่พรั่งพร้อมในทุกๆ ด้าน มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์การค้า โรงแรม สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เสริมทัพด้วยสถานทูตต่างๆ มากมายกว่า 10 แห่ง ที่ทำให้ถนนสายนี้มีคุณค่าและมูลค่าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและความร่มรื่นย์แห่งหนึ่ง เป็น Boulevard ในเมืองไทยอีกด้วย  ทั้งหมดนี้จึงทำให้ ถนนวิทยุ มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ยากที่ย่านไหนจะมาทดแทนได้

และด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ ถนนวิทยุ นี้เป็นที่ต้องการของหลายๆ คน ที่อยากครอบครองที่ดินและมีที่อยู่อาศัย แต่น่าเสียดายที่ที่ดินส่วนใหญ่ในย่าน ในปัจจุบันน้อยคนนักที่คิดจะขาย เราจึงมักจะเห็นอสังหาริมทรัพย์ที่ขึ้นริมถนนวิทยุส่วนใหญ่จะเป็น โรงแรมและอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นการปล่อยเช่าเท่านั้น

ด้านคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบบ Leasehold ส่วนแบบ Freehold นั้นพบได้เพียงไม่กี่ที่เท่านั้น นอกจากนี้คอนโด Freehold ส่วนใหญ่จะไปตั้งอยู่ทางถนนวิทยุฝั่งที่ข้ามถนนเพลินจิตไปแล้วด้วย หรือจะเรียกได้ว่าไม่ใช่ฝั่งไฮไลท์ของถนนสายนี้นั่นเองค่ะ  ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าบนถนนเส้นนี้มีคอนโดอะไรน่าสนใจบ้าง และราคาเท่าไหร่ กันค่ะ

คอนโดบนถนนเส้นนี้เราจะขอ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท นะคะ คือ Freehold กับ Leasehold  โดยเราจะมาเริ่มที่ Freehold กันก่อน

คอนโด Freehold

ตามที่เราสำรวจมานั้นมีเพียงที่เดียวที่เป็น Freehold ติดริมถนนวิทยุช่วงระหว่างถนนเพลินจิตและถนนพระราม 4 นั่นก็คือ โครงการ 98 Wireless คอนโด Super Luxury จากแสนสิริ เรียกได้ว่าเป็นตัว Flagship เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 2 ไร่ ติดถนนวิทยุ และสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ทำให้ห้องฝั่งทิศใต้เปิดรับวิวสถานทูตไปเต็มๆ และคาดว่าจะไม่มีตึกสูงมาบดบังวิวได้อีกยาวๆ เลยด้วยค่ะ ภายในโครงการมีเพียง 77 ยูนิต เท่านั้น ประกอบด้วยห้องตั้งแต่ 2 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงห้องแบบ Super Penthouse (The One) ขนาดห้องเริ่มต้นตั้งแต่ 119.75-1,000 ตารางเมตร ราคาขายกันเริ่มต้นตารางเมตรละ 5 แสนกว่าบาท เลยทีเดียว

ให้พื้นที่ส่วนกลางหรูหราที่ให้มาถึง 3 ชั้น พร้อมกับบริการรถ Bentley รับ-ส่งตามสถานที่ที่ลูกบ้านต้องการ โดยโครงการนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 70-250 ล้านบาท ไม่รวมห้อง Super Penthouse (The One) ที่มีราคาสุงถึง 650 ล้านบาท ซึ่งได้ถูกขายออกไปแล้วตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับมหาเศรษฐีท่านหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อย

คอนโดมิเนียมต่อมาที่จะพาชม จะขอเล่าก่อนว่าทั้งสองตัวนี้เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่บนซอยร่วมฤดี แต่! เนื่องจากที่ตั้งของโครงการทั้งสองนั้นเป็นโครงการขนาดใหญ่ (ภายในบ้างเป็นโรงแรม บ้างเป็นอาคารสำนักงาน) บนที่ดินที่สามารถเข้าออกได้ทั้งถนนวิทยุและซอยร่วมฤดี จึงทำให้คอนโดทั้ง 2 แห่งนี้มีข้อได้เปรียบเรื่องการเดินทางและการเข้าออกมากทีเดียว เราจึงเอามาฝากเพื่อนๆ กันในวันนี้ นั่นคือ โครงการ Athenee Residence (ตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรม The Athenee Hotel, A Luxury Collection Hotel Bangkok ) และโครงการ All Seasons Mansion (ตั้งอยู่ที่เดียวกันกับโครงการ All Seasons Place ค่ะ)

มาดูกันที่โครงการ Athenee Residence กันก่อนเลย โครงการนี้เป็นที่ดินผืนยาวเชื่อมต่อทั้งถนนวิทยุและซอยร่วมฤดี ภายในเป็นโครงการขนาดใหญ่ ประกอบด้วย The Athenee Hotel (โรงแรม 5 ดาว – ด้านหน้าที่ดินติดกับถนนวิทยุ), Athenee Tower (อาคารสำนักงาน – กลางที่ดิน) และ Athenee Residence (คอนโดสูง – ด้านหลังที่ดินติดกับซอยร่วมฤดี)

โดยโครงการ Athenee Residence เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งบนถนนวิทยุเลยก็ว่าได้ ก่อสร้างแล้วเสร็จมานานสิบกว่าปีแล้ว แต่ยังคงบำรุงรักษา และดูแลให้อยู่ในสภาพดีได้อย่างดีเยี่ยม เป็นโครงการ High Rise สูง 41 ชั้น 219 ยูนิต พร้อมที่จอดรถถึง 240%! มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 2 ห้องนอน ไปจนถึง 4 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 94-294 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นห้องขนาดใหญ่แทบทั้งสิ้นภายในโครงการ ราคาขาย Resale ในปัจจุบันเริ่มต้นที่ 20 ล้านบาท* หรือ 212,766 บาทต่อตารางเมตร ค่ะ

และ โครงการ All Seasons Mansion ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการใหญ่อย่าง All Seasons Place เช่นเดียวกันกับ Athenee Residence โดยที่บนที่ดินเดียวกันจะประกอบด้วย M Thai Tower (อาคารสำนักงาน), Capital Tower (อาคารสำนักงาน), CRC Tower (อาคารสำนักงาน), Conrad Bangkok (โรงแรม) และ All Seasons Mansion (คอนโด)

โดยที่คอนโดมิเนียมโครงการ All Seasons Mansion เป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น 170 ยูนิต ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1998 ซึ่งก็นับว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอตัว แต่จากการดูแลทำให้ที่นี่ยังคงสวยงามและทันสมัยอยู่ในปัจจุบัน ห้องของที่นี่จะเป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด เริ่มต้นที่ 2 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน ขนาด 136-317 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าแม้เป็นห้องขนาดเริ่มต้นก็นับว่าใหญ่มากๆ ทีเดียวหากเทียบกับขนาดห้องคอนโดในปัจจุบันนี้ค่ะ

อย่างที่บอกคอนโดนี้สร้างเสร็จมานานแล้ว ในปัจจุบันจึงมีแต่ห้อง Resale ให้จับจองเป็นเจ้าของ จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว 20 ล้านบาท* หรือเฉลี่ยประมาณ 147,059 บาทต่อตารางเมตร* (ถ้าเทียบราคาเริ่มต้นจะเท่ากับโครงการ Athenee Residence แต่ถ้าดูดีๆ ห้องของโครงการ All Seasons Mansion จะได้ห้องใหญ่กว่า จึงทำให้ราคาต่อตารางเมตรถูกกว่า ถ้าไม่สนใจเรื่องปีที่สร้างเสร็จก่อน Athenee Residence ราว 10 ปี ห้องภายในโครงการนี้ก็นับว่าคุ้มค่ามากทีเดียวเลยค่ะ)

พาดูคอนโด Freehold ราคาแพงหลัก 20 ล้าน++ กันไปแล้ว เรามาดูคอนโดที่ราคาย่อมเยาลงมากันหน่อยค่ะ ซึ่ง 2 โครงการนี้ก็เป็น Freehold เช่นเดียวกัน แต่ตั้งอยู่บน ถนนวิทยุช่วงระหว่างถนนเพชรบุรีตัดใหม่กับถนนเพลินจิต ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตามตรงถนนวิทยุช่วงนี้จะไม่ค่อยฮ็อตเหมือนช่วงระหว่างเพลินจิตกับพระราม 4 ค่ะ เนื่องจากเป็น ถนน One-way ด้วย ไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมถนนเหมือนอีกช่วงด้วย ทั้งยังไกลจากสวนลุมพินี จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้คอนโดตรงนี้ราคาไม่แรงเท่าอีกช่วงถนนค่ะ แต่ก็นับเป็นถนนที่ดีเส้นหนึ่งเลยน้า

โครงการแรกที่จะพามาชมคือ โครงการ Noble Wireless ที่มีข่าวคราวออกมาเรื่อยๆ ให้ได้ยิน ทั้งถ้าขับรถผ่านตรงหน้า Site ก่อสร้างก็จะเห็นได้ว่าทางโนเบิลได้เริ่มทำการล้อมรั้วเอาไว้แล้วด้วย  โครงการนี้ตามข่าวจะก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 41 ชั้น 799 ยูนิต โครงการพรีเมียมที่สุดเท่าที่โนเบิลเคยทำมา ทั้งยังร่วมทุนกับ Hongkong Land พัฒนาโปรเจคนี้ขึ้้น โดยมี ราคาขายเริ่มต้นที่ 15.4 ล้านบาท* (อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต) ค่ะ  และด้วยความที่เป็นโครงการใหม่จึงทำให้ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ออกมาสักเท่าไหร่ เราจึงมีมาฝากเพียงเท่านี้ค่ะ

ส่วนอีกหนึ่งโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุช่วงเพชรบุรีตัดใหม่-เพลินจิตคือ โครงการ Life One Wireless จาก AP โครงการใหม่เอี่ยมที่คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 2020 ตัวโครงการนี้ตั้งอยู่ติดกับคลองแสนแสบ เกือบจะออกไปยังถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วค่ะ  และยังเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ทำราคาออกมาได้ถูกที่สุดบนถนนเส้นนี้อีกด้วย โดยมี ราคาเริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท* (แต่ช่วงนี้มีโปรอาจจะได้ห้องราคาที่พิเศษกว่านี้นะคะ (ณ เมษายน 63)) กับขนาดห้องเริ่มต้น 24-63 ตารางเมตร มีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบสตูดิโอจนถึงแบบ 2 ห้องนอน พร้อมที่จอดรถ 42%

ถ้าลองสังเกตดีๆ ห้องในโครงการนี้นอกจากจะราคาถูกสุดในบรรดาคอนโดที่เราเล่าให้ฟังด้านบนแล้ว ยังมีขนาดที่เล็กที่สุดด้วยค่ะ แม้แต่ห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการก็ยังเล็กกว่าขนาดเริ่มต้นของโครงการอื่นๆ ส่วนใหญ่เลย  แต่เมื่อมองลึกๆ ถึงราคาต่อตารางเมตรแล้วนั้น โครงการนี้มีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 168,571 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งก็นับได้ว่าไม่ได้ถูกกว่าโครงการอื่นๆ เลย แต่เนื่องด้วยขนาดห้องเริ่มต้นที่เล็กกว่าทำให้สามารถทำ Package Price ออกมาได้ในราคารวมที่ต่ำกว่านั่นเอง

คอนโด Leasehold

พาดูคอนโด Freehold กันมาพอสมควรแล้ว เรามาดูกันต่อที่คอนโดแบบ Leasehold บนถนนวิทยุกันบ้างค่ะ ซึ่งคอนโดประเภทนี้จะเป็นสัญญาเช่าอาศัยระยะยาว 30 ปี++ ขึ้นอยู่ว่าจะตกลงทำสัญญากับผู้ให้เช่ายังไง บางครั้งอาจจะมีการรับประกันการต่อสัญญา 2-3 ครั้ง ก็จะได้เป็นผู้ครอบครองได้ 60-90 ปีเลยค่ะ

ส่วนโครงการที่เราเอามาฝากกันในวันนี้เป็นโครงการระดับ Mega Project ใจกลางเมืองอย่าง ONE BANGKOK ที่เรียกได้ว่าเป็น Landmark แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพกันเลยทีเดียว ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ของการร่วมมือระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง TCC Asset (Thailand) และ Frasers Property Holdings (Thailand) ภายในโครงการประกอบด้วย

• Office Building Grade A : 5 อาคาร พื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร ออกแบบได้มาตรฐานระดับ LEED* และ WELL* โดยมีการก่อสร้างเป็น Phase ซึ่ง Phase แรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2023 และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2026
• Retail : 4 โซน มีทั้งร้านอาหารปลพร้านค้าต่างๆ กว่า 450 ร้านค้า บนพื้นที่ราว 180,000 ตารางเมตร
• Hotel : 5 แห่ง มีตั้งแต่ Boutique Hotel ไปจนถึง Super Luxury มีรวมกันถึง 1,100 ห้อง  โดยโรงแรมแรกที่เปิดตัวออกมาคือ The Ritz-Carlton Bangkok ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2023 ที่จะถึงนี้
• Condo : 3 อาคาร ซึ่งล้วนเป็นคอนโดระดับ Luxury โดยอาคารแรกจะแล้วเสร็จในปี 2023 ตั้งอยู่บนอาคารของโรงแรม The Ritz-Carlton Bangkok ภายในมี 110 ยูนิต ขนาด 2-4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 130 ตารางเมตร
• Civil Plaza : พื้นที่ตรงกลางที่โอบล้อมด้วยอาคารต่างๆ ภายในโครงการ เป็นส่วนของ Hall อเนกประสงค์ สามารถใช้แสดงงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ ต่างๆ บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ทั้งยังมีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 50 ไร่ และพื้นที่รวมโดยรอบรวมกว่า 104 ไร่เลยทีเดียว

นอกจากนี้ภายในโครงการ ONE BANGKOK ยังมีระบบโครงสร้างพื้นที่ที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง เช่น การควบคุมและหาที่จอดรถด้วย Application ‘Find My Car’ ในที่จอดรถกว่า 12,000 คัน ภายในโครงการ เป็นต้น ทั้งยังมีจุดเข้า-ออกโครงการถึง 6 จุดทั้งจากถนนวิทยุ, ถนนพระราม 4 และเชื่อมต่อตรงจากทางด่วนอีกด้วย เรียกได้ว่า หากโครงการแล้วเสร็จทั้งหมดจะทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นพื้นที่ที่เจริญ และล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ

.

… … … … … … … … … … … … … … …

.

พาชมกันไปอย่างจุใจกันแล้ว เรามาสรุปกันก่อนจบบทความนี้กันดีกว่าค่ะ

• ถนนวิทยุ เป็นถนนสายหนึ่งที่สวยงามตามแบบฉบับ Boulevard
• ถนนวิทยุ เป็นถนนที่ตั้งของสถานทูตต่างๆ มากมาย รวมถึงโรงแรมหรูชื่อดังอีกหลายแห่ง
• มูลค่าของ ถนนวิทยุ เกิดจากปัจจัยต่างๆ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก สถานทูต รวมถึงสวนสาธารณะอย่าง สวนลุมพินี ทำให้ที่ดินย่านนี้กลายเป็น Rare Item มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น คล้ายกับ ใน London ที่มี Hyde Park หรือ New York ที่มี Central Park นั่นเอง
• พื้นที่ส่วนใหญ่บนถนนวิทยุเป็น Leasehold จากศักยภาพทั้งหมดที่ว่ามา จึงทำให้ไม่มีใครอยากขายที่ดินออกไป รวมถึงมูลค่าที่ดินมีค่าเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
• คอนโด Freehold แห่งเดียวที่ตั้งติดถนนวิทยุช่วงเพลินจิตถึงพระราม 4 คือ 98 Wireless คอนโดระดับ Super Luxury ที่มีมูลค่ามากถึง 580,000-8xx,xxx บาทต่อตารางเมตร
• คอนโดที่ทำราคาได้ถูกที่สุดบนถนนย่านวิทยุคือ Life One Wireless จาก AP มีห้องราคาเริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท* (ณ เมษายน 63)
• Noble Wireless เป็นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด (ณ เมษายน 63) ที่เปิดตัวบนถนนวิทยุ ในราคาเริ่มต้น 15.4 ล้านบาท*
• ONE BANGKOK เป็นโครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ระดับ Mega Project ตั้งอยู่ตรงข้ามสวนลุมพินี เข้าออกได้ทั้งจากถนนวิทยุและถนนพระราม 4 รวมถึงจากทางด่วนได้โดยตรง*
• ราคาของคอนโดบนถนนเส้นนี้เริ่มต้นที่ 147,059-8xx,xxx บาทต่อตารางเมตร นับว่าสูงที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้

.

… … … … … … … … … … … … … … …

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ ถนนวิทยุ ย่านที่รวมศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ส่งเสริม เกื้อหนุนให้ย่านแห่งนี้พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในทุกๆ ด้าน  สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดและอยากอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีและทันสมัยแบบนี้ ถนนวิทยุ น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจที่ทางทีมงานอยากจะเสนอในการตัดสินใจลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยสักครั้งหนึ่งค่ะ

.. สำหรับวันนี้ลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่บทความหน้า แต่จะเป็นที่ไหน ย่านไหน ไว้รอติดตามกันได้เลยค่า ^_____^ ..