“ศุภาลัย” แถลงเปิดรายได้ 2564 พร้อมลุยแผนธุรกิจ 2565 ไม่หวั่นปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ด้วยมั่นใจในผลประกอบการดีในปีที่ผ่านมาและทุนสำรองที่มั่นคง พร้อมเปิดตัว 34 โครงการใหม่ บุกตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบและคอนโดมิเนียมอย่างเต็มรูปแบบ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท
ศุภาลัย เผยรายได้ปี 2564 เล็งต่อยอด 34 โครงการ รุกตลาดอสังหาฯแนวราบ ปี 2565 มูลค่า 40,000 ล้านบาท
· 2 min readดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลมาจนถึงปีนี้ด้วย โดยปัจจัยส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัย ได้แก่ การไม่เพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร, รายได้ SME ระดับปานกลางค่อนข้างน้อย ตรงข้ามกับราคาที่ดินและการก่อสร้างที่สูงขึ้น สวนกระแสของดอกเบี้ยที่ต่ำลง
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นกระแสทางลบมากกว่าบวก โดยส่งผลทำให้บ้านมีราคาสูง บ้านจัดสรรในต่างจังหวัดมีมากขึ้น รวมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เช่น ปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและขนส่งสาธารณะที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกำลังจะส่งผลต่อรูปแบบคอนโดมิเนียมในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาวิกฤติโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งทำให้ตลาดธุรกิจอสังหาฯ เกิดการชะลอตัวข้ามปี
ด้วยทิศทางและปัจจัยดังกล่าว ทำให้ปี 2564 ภาพรวมตลาดจึงมีการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ทั้งโครงการแนวราบและคอนโด อย่างไรก็ตาม ยอดขายของทั้งตลาดก็ยังปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 และโครงการแนวราบทำยอดขายได้ดีและสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ขณะที่คอนโดฯ ยังคงมียอดทรงตัว
สรุปผลประกอบการปี 2564 ศุภาลัยเปิดตัวโครงการทั้งหมด 23 โครงการ มูลค่ารวม 24,790 ล้านบาท สามารถทำยอดขายได้เป็นที่น่าพึงพอใจถึง 31,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 อย่างชัดเจน เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า และสร้างขวัญกำลังใจให้บริษัทก้าวผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ มาได้อย่างมั่นคง
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศุภาลัย กล่าวว่า ในปี 2565 นี้ ทางบริษัทได้มีการยกยอดโครงการจากปีก่อนที่ไม่ได้ถูกเปิดตัวมารวมกับโครงการใหม่ในปีนี้ รวมเป็นจำนวนโครงการมากถึง 34 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 31 โครงการ คิดเป็น 88% และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ คิดเป็น 12 % มูลค่าการเปิดตัวรวมทั้งหมด 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่าปี 2564 ถึง 61% โดยได้ตั้งเป้ายอดขายในประเทศ 28,000 ล้านบาท และเป้ารายได้ 29,000 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการในแนวราบ จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ
34 โครงการที่จะเปิดตัวในปี 2565 เช่น
- Supalai Elegance Bangkok บรมราชชนนี 121
- ศุภวัฒนาลัย (Supalai Wellness Valley)
- Supalai Tuscany Valley Chiang Mai
- Supalai Grand Ville Chiang Rai
- Supalai Lake & Park Udon Thani
- Supalai Lake Ville Phuket
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี 2565 คือ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury segment อยู่ในซอยพุทธมณฑล 121 (ระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และสาย 4) เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น หลังใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 380 – 480 ตร.ม. อยู่บนที่ดินขนาดใหญ่เริ่มต้น 100 ตร.วา
ด้วยเป้าหมายที่จะรุกตลาดอสังหาฯแนวราบ ในปีนี้ บมจ.ศุภาลัย เลือกเปิดตลาดใน 5 จังหวัดใหม่ ได้เเก่ ลำพูน, นครสวรรค์, นครปฐม, ฉะเชิงเทรา และ ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งยังต้องติดตามแผนการเปิดตัวโครงการใน 5 จังหวัดใหม่นี้กันต่อไป นอกจากนี้ ยังได้มีการดำเนินการบุกตลาดอสังหาฯใน 4 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, มาเลเซียและออสเตรเลีย ซึ่งสามารถครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น
ทำไมศุภาลัย จึงกล้าที่จะลงทุนมหาศาล ในช่วงเวลาที่ใครก็ไม่กล้าเสี่ยง?
เนื่องด้วยทางบริษัท เห็นถึงผลลัพธ์ของยอดขายโครงการแนวราบที่เป็นไปได้ด้วยดี แม้ในช่วงเวลาวิกฤติของปีที่ผ่านมา และด้วยจำนวนรวมโครงการของบริษัทตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงในปี 2565 นี้ ทางบริษัทได้มีการวางโครงการทั่วประเทศแล้วกว่า 193 โครงการ โดยข้อได้เปรียบของบริษัท คือ การเป็นที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและเชื่อมั่นในคุณภาพมาอย่างยาวนาน รวมถึงการมีเสถียรภาพทางการเงินที่ดีและการมีต้นทุนที่ต่ำ
นอกจากนี้ ทางศุภาลัยยังคาดว่า ในปี 2565 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และตลาดอสังหาฯเองก็จะดีตามไปด้วย โดยในช่วงผลัดเปลี่ยนของสถานการณ์ เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ทางบริษัทจะมีการปรับตัวทางธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ผ่านการสร้างสรรค์สินค้าที่มีคุณภาพ หลากหลาย และครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค
จากทิศทางการตลาดและเศรษฐกิจ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จึงมุ่งเน้นที่จะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างเต็มพิกัด ในปี 2565 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการให้สมบูรณ์แบบ สร้างความพึงพอใจในระดับสูงให้กับลูกค้า รวมถึงปรับปรุงและสร้างนวัตกรรมการทำงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานและองค์กร