บ้านเก่าหลังเดิมที่อยู่อาศัยมายาวนาน ก็ย่อมมีบางสิ่งทีทรุดโทรม เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เช่นเดี่ยวกับบ้านยุคปี 1940 ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลียหลังนี้ ที่เจ้าของบ้านต้องการเก็บบ้านเดิมๆ  โครงสร้างเกือบทั้งหมดยังคงเป็นแบบดั้งเดิม แต่ก็มีบางส่วนที่เริ่มเสื่อมสภาพลงไป เช่น ชุดครัว ห้องน้ำ จึงถึงเวลาที่ต้องยกเครื่อง รีโนเวทบ้าน – ตกแต่งบ้าน เพื่อชุบชีวิตบ้านหลังเก่าให้สามารถอยู่อาศัยได้อีกยาวนาน

ในการ รีโนเวทบ้าน ให้ยังมีกลิ่นอายของความทรงจำวัยเด็ก คือการต้องเลือกว่าสิ่งไหนจะเก็บไว้ หรือสิ่งใดต้องยอมปล่อยทิ้งไป เพื่อให้ได้บ้านที่เหมาะสมกับการพักอาศัยในยุคปัจจุบันมากที่สุด เช่น ตัวบ้านดั้งเดิมของฝั่งหน้าบ้านถูกเก็บรักษาไว้ และได้รับการตกแต่งใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ ประตูทางเข้าบ้าน ห้องนั่งเล่น และห้องนอน

ห้องนั่งเล่นของบ้านเก่าหลังนี้ถูกรักษาแปลนเดิมเอาไว้ การตกแต่งเลือกผสมผสานความเป็นยุคใหม่ และของดั้งเดิมเอาไว้ โทนสีของห้องสร้างความน่าสนใจด้วยการเลือกใช้สีขาวสว่างตัดกับของใช้ ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาสีน้ำเงินเข้ม

ห้องนอนเป็นอีกส่วนที่ยังคงแปลนเดิมเอาไว้ เฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ เช่น เตียงนอน และเก้าอี้เลือกใช้วัสดุเป็นไม้ ส่วนผนังห้องแบ่งสีเป็น Two-Tone ขาว-น้ำเงินเข้ม ที่ดูสงบนิ่ง และผ่อนคลาย ผ้าม่านเลือกใช้ม่านโปร่งสีขาวดูพริ้วไหวไม่หนักทึบ

ในส่วนโครงสร้างของบ้านเดิมที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ จะเป็นส่วนด้านหลังบ้าน เพื่อให้รองรับการใช้สอยของบ้านยุคใหม่ที่เน้นการแชร์พื้นที่กันระหว่างห้องครัว โต๊ะกินข้าว และห้องนั่งเล่น รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นเปิดโล่งบริเวณสวนหลังบ้าน

ในการรีโนเวทบ้าน ยังเลือกใช้วัสดุให้ความสำคัญกับความใกล้เคียงกับบ้านหลังเดิม รวมถึงสีสัน สไตล์ของการตกแต่งในยุค 40’s ไว้มากที่สุด แล้วเสริมด้วยดีไซน์ของบ้านยุคใหม่ เพื่อให้รองรับการใช้สอยในอนาคตได้อีกยาวนาน

ชุดครัวที่เลือกทรง และโทนสีที่นิยมใช้ในช่วงเวลานั้น และยังเพิ่มดีไซน์ที่เป็นยุคสมัยใหม่ เช่น ช่องแสงกระจกทรงสูงไว้ที่ผนังเพื่อเพิ่มมุมมอง และรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้าน

ฝ้าเพดานบริเวณทางเดินถูกเพิ่มส่องแสงเข้ามา เพื่อรับแสงธรรมชาติ เพิ่มความสว่างไสวให้กับบ้านในช่วงกลางวัน

ห้องน้ำเป็นอีกมุมที่ผสมผสานความดั้งเดิม และความสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยการเลือกวัสดุ ของใช้ – ตกแต่งบ้าน เช่น ด้วยการเลือกใช้กระจกลอนแก้ว เพิ่มมิติที่ดูแปลกตา และยังช่วยพรางสายตาสร้างความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้เป็นอย่างดี พื้นห้องใช้กระเบื้องหินขัด ผนัง ตกแต่งเป็นแบบ two-tone เลือกกรุผนังด้วยกระเบื้องสองสี

อีกส่วนที่ถูกปรับเปลี่ยนไปจากแปลนบ้านดั้งเดิมคือผนัง และประตูด้านหลังบ้านถูกแทนที่ด้วยช่องแสง และประตูบานเฟี้ยมกระจกเพื่อสร้างความเชื่อมต่อสู่พื้นที่เปิดโล่งด้านหลังบ้านทั้งทางสายตา และการใช้สอยให้มากที่สุด

Project : House
Architects: Lisa Breeze Architect
Area : 95 m²
Year : 2020
Photographs : Cathy Schusler
Manufacturers : Louis Poulsen, Vectorworks, Brodware, Classic Ceramics, De Fazio Tiles and Stone, Nemo Lighting, Smeg, Sphera, APLO, Bamstone, Bosch, Lampe De Marseille Mini
Lead Architect : Lisa Breeze
Builder : Silverstream Constructions
Planting Design : Greenbits

บทความเรียบเรียงจาก >> > archdaily.com