สยาม วาลิดัส จับมือ SCG เล็งช่วย SMEs ที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน นำเสนอทางเลือกใหม่ในการระดมทุนเพื่อใช้ในธุรกิจ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่านแพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง
· ~ 1 min readสยาม วาลิดัส ผนึกกำลัง SCG หนุนธุรกิจ SMEs ไทยเติบโต ด้วยโมเดลใหม่ ระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ผ่าน แพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ชูจุดเด่นหุ้นกู้ของ SMEs ทางเลือกใหม่ผลตอบแทนสูงสำหรับนักลงทุน
นางวรีมน นิยมไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า “SMEs เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี ธุรกิจ SMEs มักประสบปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริม
สภาพคล่องหรือขยับขยายธุรกิจ แพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของสยาม วาลิดัส จะเข้ามาช่วย ทำให้ SMEs สามารถระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยในตลาดทุน เริ่มต้นที่ 1 แสนบาทและสูงสุด 30 ล้านบาท โดยสยาม วาลิดัส ตั้งเป้าเบิกจ่ายเงินทุน 3 พันล้านบาทให้แก่ SMEs ในประเทศไทย ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2565 หลังระดมทุนสำเร็จไปแล้วถึง 1 พันล้านบาท โดยได้จับมือกับ บริษัทเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งมีเครือข่าย ของ SMEs ที่เป็นคู่ค้า ที่มีศักยภาพ
ในการเติบโตจำนวนมาก จากความร่วมมือดังกล่าว สยาม วาลิดัส จะสามารถเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระการเข้าถึงเงินทุน และแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องให้กับ SMEs เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจประสบปัญหาจาก
การระบาดของ Covid-19”
ทั้งนี้ สยาม วาลิดัส เป็นบริษัทในกลุ่มวาลิดัส ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มระดมทุนสำหรับ SMEs ในภูมิภาคอาเซียน ระดมทุนสำเร็จไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเติบโตขึ้น 2 เท่า หรือราว 6 หมื่นล้านบาท ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
นางวรีมน กล่าวเสริมว่า “ในขณะเดียวกัน เราทำให้การลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบหุ้นกู้ เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย จากปกติที่การลงทุนรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่มีแต่กลุ่มนักลงทุนเฉพาะ (High net worth individual) และ
นักลงทุนสถาบันที่สามารถเข้าถึงได้ ในภาวะที่มีการลดการคุ้มครองเงินฝากและตลาดมีความผันผวนสูงเช่นในปัจจุบัน
ทั้งนี้ สยาม วาลิดัส ได้ศึกษาวิจัยพบว่า นักลงทุนรายย่อยกำลังมองหาการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์กว่าเดิม จึงพยายามคัดสรร SMEs ที่มีศักยภาพสูงมาเป็นทางเลือกการลงทุน ในรูปแบบของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ที่มีอายุหุ้นกู้ ให้เลือกตามความเหมาะสม และผลตอบแทนที่หลากหลาย ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ โดยนักลงทุนสามารถรับผลตอบแทน 4-15% ในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินกู้บนเงินลงทุนของตัวเอง นับเป็นโอกาสที่ดีในการกระจาย ความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของสยาม วาลิดัส ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นักลงทุนจึงสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ”
“กลุ่มวาลิดัสมีความเชี่ยวชาญและประสบการด้านการระดมทุนผ่านช่องทางดิจิทัล มานานกว่า 6 ปี การเป็นแพลตฟอร์มระดมทุนสำหรับ SMEs อันดับ 1 ในอาเซียน ก็เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยี data driven มาพัฒนาการระดมทุนได้เป็นอย่างดี เรานำข้อมูลทางเลือกประเภทข้อมูลเครดิตการค้า มาพัฒนาเป็นโมเดลการให้คะแนนเครดิต เพื่อใช้เฟ้นหาSMEs ที่น่าเชื่อถือและมีศักยภาพในการเติบโต ที่อาจประสบปัญหาในเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นจากธนาคาร โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือหลักฐานทางการเงิน ซึ่งโมเดลธุรกิจของเรานั้น ได้ช่วยให้ SMEs กว่า 50,000 กิจการทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เป็นการสร้างคุณค่าให้ทั้ง SMEs, นักลงทุน, และคู่ค้าทางธุรกิจ” นางวรีมนกล่าว
นายบรรณ เกษมทรัพย์ Chief Strategy & Investment Officer of SCG Cement & Building Materials กล่าวว่า “เอสซีจี ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเติบโตไปพร้อมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ที่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าการระดมทุนรูปแบบใหม่ด้วยแพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของ สยาม วาลิดัส จะเป็นประโยชน์กับ SMEs ในเครือข่าย ทั้งผู้แทนจำหน่าย ร้านค้าช่วง และคู่ธุรกิจ ที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น สนับสนุนให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย”
SMEs ถือเป็นฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนธุรกิจในประเทศ และยังมีอัตราการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันธุรกิจ SMEs มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพียง 1,289 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เท่านั้น
นับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2558 วาลิดัส ประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิง ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท ใน 4 ประเทศ สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, และประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัท วาลิดัส มีผู้ถือหุ้นเป็น Venture Capital ระดับแนวหน้าของอาเซียน ประกอบไปด้วย FMO, Vertex Growth, Vertex Ventures Southeast Asia and India, AddVentures by SCG, K3 Ventures, Openspace Ventures, และ VinaCapital Ventures