“ที่อยู่อาศัย เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กว่าทั่วๆ ไป กระทั่งแบบมีสระส่วนตัว แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ
และง่ายที่จะเข้าถึงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับการใช้ชีวิตแบบใจกลางเมือง ที่เดอะ ฟอเรสเทียส์มอบให้ ทุกห้องพักอาศัย เปิดรับวิวป่า 30 ไร่แบบพาโนรามา และทิวทัศน์ความมหัศจรรย์ของงานเฟสติวัลต่างๆ ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทั้งในผืนป่าและเหนือผืนป่า
การออกแบบตกแต่งภายในถูกรังสรรค์ภายใต้ธีมที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ พร้อมทั้งมอบความเป็นส่วนตัวอย่างหรูหราเหนือระดับซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อบ้านกลุ่มนี้ปรารถนา” นายยุทธนา ตันติยานนท์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มงานการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ MQDC
MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศวันนี้ว่า บริษัทฯ กำลังก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยแห่งใหม่ความสูง 44 ชั้น ในชื่อ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 398 ไร่ของโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.7 ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ คือหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวิลล่าสุดหรู ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ในประเทศไทยอีกด้วย โดยที่พักอาศัย เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ตั้งอยู่ติดกับป่าขนาด 30 ไร่ใจกลางเดอะ ฟอเรสเทียส์ และเชื่อมโดยตรงกับทางเดินยกระดับที่ทอดยาวเหนือผืนป่า ความยาว 1.6 กิโลเมตร
นายยุทธนา ตันติยานนท์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มงานการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ MQDC เปิดเผยว่า“ที่พักอาศัยโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กว่าทั่วๆ ไป กระทั่งแบบมีสระส่วนตัวแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และง่ายที่จะเข้าถึงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบใจกลางเมือง ที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มอบให้ โดยอาคารโครงการ ความสูง 44 ชั้น มีเพียง 122 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเป็นยูนิตแบบมีพื้นที่กว้างขวาง และทุกยูนิตเปิดรับวิวป่าแบบพาโนรามา และทิวทัศน์ความมหัศจรรย์ของงานเฟสติวัลต่างๆ ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำ ทั้งในผืนป่าและเหนือผืนป่า”
ห้องพักอาศัยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 140 ตารางเมตรไปจนถึง 350 ตารางเมตร โดยมีห้องแบบเพนท์เฮาส์ขนาดพื้นที่ใช้สอย 917 ตารางเมตร บนชั้น 43 ส่วนจำนวนห้องนอนก็มีเลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 2 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน โดยที่พักอาศัยแบบฟรีโฮลด์แห่งนี้ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 37 ล้านบาทสำหรับยูนิตขนาด 2 ห้องนอน และราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาทสำหรับยูนิตขนาด 3 ห้องนอน
ตัวอาคารของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ได้รับการออกแบบโดย Foster + Partners
โดยแนวคิดของโครงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้แก่ผู้อยู่อาศัย เราจึงพิถีพิถันใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียด บนพื้นฐานของการทำความเข้าใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุดในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยได้สร้างโถงทางเดินและบันไดสำหรับงานบำรุงรักษาไว้ในจุดต่างๆ “การออกแบบนี้จะช่วยให้ช่างสามารถเข้าบริการหรือดูแลรักษางานระบบอาคารโดยเฉพาะงานท่อหลักได้โดยไม่ต้องเข้าไปในห้องพักอาศัยอีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาอาคารให้ได้มาตรฐานระดับพรีเมียมอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนรวมที่ลูกบ้านใช้ประจำ” นายยุทธนากล่าว
นอกจากนั้น การออกแบบพื้นที่ภายในยังมีความเป็นสัดส่วน โดยแยกพื้นที่ที่ผู้ช่วยดูแลบ้านต้องใช้ เช่น พื้นที่ห้องครัวไทยและห้องพักของผู้ช่วยดูแลบ้าน ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย พร้อมกันนี้ทุกยูนิตยังมีล็อบบี้ลิฟต์ส่วนตัวอีกด้วย หนึ่งในลักษณะพิเศษที่เป็นจุดเด่นของโครงการ คือมีที่นั่งพักผ่อนภายนอกอาคารมากมาย รวมไปถึงสวนส่วนตัว สนามหญ้าอเนกประสงค์ ระเบียงชายป่า และบ้านต้นไม้ นอกจากนั้น ยังได้นำเอาวัสดุพิเศษมาใช้ ในการก่อสร้างฟาซาด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในอาคารรู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ออกแบบโถงล็อบบี้ส่วนตัวสำหรับผู้อยู่อาศัยซึ่งแยกเป็นสัดเป็นส่วนกับล็อบบี้หลักของอาคาร
เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ ภายในสิ้นปี 2568 โดยงานเสาเข็มได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างชั้นใต้ดิน เตรียมเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ Call Center โทร. 1265 หรือ คลิกที่นี่
โดยผู้จองที่พักอาศัยเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ 30 ยูนิตแรก ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 จะได้รับสิทธิพิเศษราคา VVIP ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 2.5 ล้านบาท พร้อมกับจะได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมในการใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่โฮเต็ล อินดิโก้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ มูลค่าสูงสุดถึง 500,000 บาท
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ประธานผู้อำนวยการ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า “ที่พักอาศัยอื่นๆ อีก 4 แบรนด์ของเราในเดอะ ฟอเรสเทียส์ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ถึงตอนนี้ ทำยอดขายรวมกันมากกว่า 22,000 ล้านบาทไปแล้ว” “ผมเชื่อว่า เหตุผลที่โครงการได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นอยากใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าทั่วๆ ไป ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวเยอะๆ และอยากอยู่ในโครงการที่ได้รับการออกแบบโดยบริษัทที่ได้รับการยอมรับนับถือในระดับโลก ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดียิ่งขึ้น และผมคิดว่าที่คนเชื่อมั่นว่าโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของเรามีศักยภาพสูงในด้านของการลงทุน เป็นเพราะการที่โครงการตั้งอยู่ในทำเลเชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้โครงการมีความน่าดึงดูดใจ” นายกิตติพันธุ์กล่าว
ที่พักอาศัยโครงการ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ตั้งอยู่ใกล้กับโฮเต็ล อินดิโก้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ในสไตล์ที่จะมาเติมเต็มพื้นที่ และสะท้อนธีมใกล้ชิดธรรมชาติของซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีทางเดินเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างอาคารที่พักอาศัยและอาคารโรงแรม “การตั้งอยู่ใกล้เคียงแบบเชื่อมถึงกันได้อย่างสะดวกสบายกับโรงแรมและพื้นที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มรวมทั้งบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เป็นสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับลูกค้าเจ้าของที่พักอาศัยโครงการซิกเนเจอร์ ซีรีส์” นายกิตติพันธุ์กล่าว
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วค่อนข้างมาก ในจำนวนนี้ รวมถึงโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์, มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า, มัลเบอร์รี่ โกรฟ คอนโดมิเนียม, คอนโดมิเนียมแบรนด์ วิสซ์ดอม, คอนโดมิเนียมแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี และสกายวิลล่า ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการดูแล ผู้พักอาศัยอย่างครบวงจรตลอดชีวิต
โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ มีมูลค่าประมาณ 5,900 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ในรูปแบบ Virtual Reality พร้อมรับรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้
- ในงาน The Forestias Story and Beyond ซึ่งเตรียมจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตื่นตาตื่นใจ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันที่ 10-11 มิถุนายนนี้
- โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1265