HOME TYPE : แบบบ้านพิมนารา ปิ่นเกล้า-กาญจนา
สำหรับบ้านของโครงการ PIMNARA Pinklao – Kanchana มีจุดเด่นตรงที่การออกแบบแปลนโครงการให้มีบ้านเกิน 20 หลังที่หน้าบ้านไม่ติดใคร ขณะที่ในซอยก็มีจำนวนบ้านสูงสุดแค่ 6 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นไพรเวซี่ขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีแนวคิดผ่านคำว่า Flow ได้แก่
Flow of Light ให้ความสำคัญกับช่องแสงที่แทบจะเต็มรอบบ้าน
Flow of Wind วางทิศทางพร้อมออกแบบให้ภายในตัวบ้านมีลม Flow พัดผ่านไปมา ช่วยระบายอากาศได้ดี
Flow of Space จัดสรรพื้นที่แต่ละฟังก์ชันภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม
โดยรูปแบบของบ้านจะมีเพียง Type เดียวให้เลือกครับ
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น PRIM (S)
ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 160 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 50-70 ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ที่จอดรถ
นอกจากการออกแบบแปลนโครงการที่ดีแล้ว ยังรวมไปถึงตัวบ้านที่เลือกวางไว้ด้านริม เพื่อให้เหลือพื้นที่สวนอีกฝั่งหนึ่งมากขึ้น ทำให้โซน Outdoor มีสเปซใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก็เกรดดีมีคุณภาพอย่างประตูรั้วก็ทำจากอลูมิเนียม ทำสีพาวเดอร์โค้ท ที่นอกจากความสวยงามแล้ว ยังได้เรื่องของความคงทนแข็งแรงอีกด้วย
สำหรับแบบบ้าน Prim (s) มีความน่าสนใจและแตกต่างจากแปลนโครงการบ้านเดี่ยวอื่น ๆ พอสมควรครับ อย่างแรกเลยคือบริเวณห้องนอนชั้นล่างจะวางตำแหน่งไว้หน้าบ้าน แต่เปิดมุมมองออกไปยังคอร์ทด้านหลัง เป็นเสมือนคอร์ทส่วนตัวภายในบ้านที่คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็น เรียกว่ามีพื้นที่สวนทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังบ้าน
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ห้องด้านหลังมีห้อง 2 ห้อง ที่สามารถทำครัวได้ทั้งคู่ ถ้าครอบครัวไหนทำอาหารบ่อย ๆ ก็เลือกห้องใหญ่แบบเดียวกับที่แปลนด้านล่างใช้ ถ้าครอบครัวไหนไม่ได้ต้องการครัวใหญ่ก็สามารถใช้ห้องที่ติดกับทางขึ้นบันไดเป็นห้องครัวได้ เพราะเตรียมระบบท่อน้ำเอาไว้ให้ทั้ง 2 ห้อง เป็นการออกแบบที่ตอบรับความยืดหยุ่นของการใช้งานฟังก์ชันที่แตกต่างกันได้ดีเลยครับ
แบบบ้าน Prim(s) ชั้น 1
ชั้น 2 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 3 ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ ให้ช่องแสงแบบจัดเต็ม พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนอีก 2 ห้องนอนมีขนาดไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งจะใช้ห้องน้ำร่วมกันบริเวณโถงกลางของชั้นนี้ โดยความสูงของเพดานชั้นล่างอยู่ที่ 2.65 และชั้นบนอยู่ที่ 2.70 เมตร
แบบบ้าน Prim(s) ชั้น 2
ดีไซน์ของตัวบ้านยังคงไม่ทิ้งความเป็น Modern Minimal ที่มีความเรียบง่ายน้อยแต่มาก หลักๆ ยังคงเน้นสีสว่าง โดยมี 2 โทนสีให้เลือก คือผนังบ้านสีขาวตัดขอบด้วยสีเทาเข้ม กับโทนสีครีมที่ไล่ตั้งแต่ขอบด้านบนจนถึงผนังด้านข้าง
ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน บริเวณด้านหน้าบ้าน
ตัวประตูหน้าบ้านเป็นแบบบานเลื่อนกระจกใส ซึ่งพอเข้ามาแล้ว จะสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่งสบายของห้อง
โดยห้องนั่งเล่นมีพื้นที่มากพอสมควร ให้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบ อย่างโซฟาก็วางได้ทั้งรูปแบบตัวไอตัวแอล หรือเป็นเซตตามบ้านตัวอย่างก็ดูสวยงามไม่น้อยเลย
และด้วยระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีแล้ว จะเลือกติดตั้งทีวีไซส์ใหญ่เกิน 55 นิ้ว ก็ยังดูได้อย่างสบายตา
ติดกันเป็นโซน Dining Area วางโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ก็ยังเหลือสเปซรอบด้านประมาณหนึ่งเลยครับ
จุดที่เป็นไฮไลท์ของชั้นล่างคือห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าบ้านครับ เดี๋ยวเราตามเข้าไปดูกัน
ตำแหน่งและทิศทางการวางเตียงในห้องนี้จะหันหัวเตียงออกไปทางหน้าบ้าน สเปซที่น่าสนใจ คือ บริเวณปลายเตียงจะเปิดโล่งรับวิวของพื้นที่คอร์ทด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ไพรเวท ถูกออกแบบสเปซให้ไม่สามารถมองจากภายนอกเข้ามาได้ ลักษณะเป็นแบบ Hidden Court ซึ่งเป็นส่วนตัวกว่าการวางตำแหน่งสวนไว้หน้าบ้านอย่างเดียวตามแบบบ้านจัดสรรทั่วไปครับ
จัดสวนสวย ๆ ภายนอกแบบนี้ชิลล์มาก ๆ
จากมุมนี้จะเห็นว่าคนที่ผ่านไปมาหน้าบ้านจะไม่สามารถมองเข้ามาเห็นวิวตรงนี้ได้
มาถึงบริเวณห้องครัวด้านหลังบ้านครับ ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราคิดว่าโครงการออกแบบมาได้ยืดหยุ่นมาก ๆ ด้านหลังนั้นจะมีห้องที่สามารถใช้เป็นห้องครัวได้ 2 ห้อง อยู่ตำแหน่งติดกันครับ โดยที่ทั้งสองห้องเตรียมระบบท่อน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อยสำหรับการใช้งาน ถ้าใครที่ต้องการพื้นที่ครัวไทยขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นครัวได้เลย สามารถทำ Built-in ได้แบบเต็มอิ่ม
มีประตูที่สามารถเปิดออกไปบริเวณด้านข้างบ้านได้ด้วย
เฉลียงที่อยู่ด้านข้างบ้าน
ถัดมาอีกฝั่งหนึ่งตรงบริเวณทางขึ้นบันได ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ส่วนอีกด้านจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นห้องครัวอีกห้องได้นั่นเอง
ในบ้านตัวอย่างตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียว่าจะเอามาเป็นห้องทำงานก็ได้ครับ
แต่จะใช้เป็นครัวก็ไม่ติด เพราะเตรียมท่อไว้ให้แล้ว ถ้าใครไม่ต้องการครัวใหญ่มาก็ใช้ห้องนี้เป็นครัวแทนห้องแรกก็ได้ เรียกว่าออกแบบมารองรับความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละครอบครัวได้ดีครับ เพราะบางบ้านก็อาจจะไม่ได้ทำครัวบ่อย บางบ้านชอบทำอาหาร ก็จะได้มีตัวเลือกของการใช้สอยสเปซที่เหมาะสม
พอเปิดประตูออกมาหลังบ้านก็จะเป็นมุมนี้ครับ
แวะดูห้องน้ำกันสักหน่อย ห้องน้ำชั้นล่างอาบน้ำได้ด้วย สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler และ Englefield
ทำตำแหน่งรางระบายน้ำเอาไว้ 2 จุด ทั้งบริเวณส่วนอาบน้ำและบริเวณโถสุขภัณฑ์
เดินต่อไปยังชั้น 2 ของบ้าน จะเจอกับโถงทางเดินที่แจกจ่ายไปยังห้องนอนต่างๆ ซึ่งตรงนี้มีพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้วางตู้เก็บของได้ครับ
Master Bedroom จะอยู่บริเวณหน้าบ้านกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นบน ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ที่เป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อนและกระจกบานฟิกซ์ และมีหน้าต่างด้านข้างบ้านอีกหนึ่งจุดทำให้ห้องสว่าง
โดยพื้นที่แบ่งเป็นส่วนของการพักผ่อน สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้
ด้านในก็จะเป็น Walk-in Closet ซึ่งบิวท์ได้ทั้งตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง และยังได้ช่องแสงอีกหนึ่งจุดด้วยครับ
ห้องน้ำก็มีขนาดกว้างขวาง ให้เข้าใช้งานได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ให้ทุกอย่างมาครบตามที่เห็นในภาพเลย
ห้องนอนที่ 2 และ 3 จะอยู่ทางด้านหลังบ้านมีขนาดพอๆ กัน เลือกวางเตียง 3.5 ฟุต ก็ยังเหลือสเปซให้วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างพอเหมาะพอดี
ห้องนอนสุดท้ายจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงโถงกลางทางเดินครับ