สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในโซนก็เรียกว่าอุดมสมบูรณ์มาก เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน และไฮไลท์คือการที่โครงการอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Central พระราม 9 ในระยะที่ขับรถไปได้ไม่ถึง 5 นาที* ซึ่งตรงช่วงเส้นรัชดาภิเษกก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายอยู่เยอะพอสมควรเลยค่ะ มีทั้ง Fortune Town, Lotus’s, ตลาด The One รัชดา, ตลาด JODD Fair, Big C รัชดา และ The Street รัชดา อีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ในทุกตึกเค้าก็มีจะ Mail Box, จุดส่งอาคาร Grab & Go และ Co-working space เป็นของตัวเอง แน่นอนว่าการตกแต่งก็จะแตกต่างกันออกไป ชอบไวป์การตกแต่งห้องไหนก็เลือกใช้งานได้เลย
Co-Working Space Tower A Co-Working Space Tower B Co-Working Space Tower D
สำหรับไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นพื้นที่สวนลอยฟ้าที่ให้มาแบบจัดเต็ม รวมพื้นที่กว่า 5 ไร่ เชื่อมต่อกันตั้งแต่ทาวเวอร์ A ไปจนถึงทาวเวอร์ D มี Walking Track ยาว 820 เมตร เดินวน 2-3 รอบ ไม่ใช่แค่ได้เหงื่อจริง แต่บอกเลยว่ามีหอบขึ้น
บริเวณชั้น Rooftop ของตึก A และ B จะมีทางเดินเชื่อมต่อกันได้ค่ะ สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนกลางของตึก A ก็จะมีไฮไลท์เป็นสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิค ยาว 50 เมตร จ้วงกันได้สุดพลัง ด้านข้างมีทำเป็นมุม Sunbed เทควิวเมืองได้แบบพาโนราม่า
มาต่อกันที่อาคาร B ชั้น 47 ที่เชื่อมต่อกับอาคาร A ก็ทำออกมารองรับหลากหลายกิจกรรม เน้นไปทางกิจกรรมที่ดู Active อย่างตรงนี้ก็จะมีห้องฟิตเนส ที่จัดอุปกรณ์ออกกำลังกายมาให้ครบ ออกกำลังกายกันได้ทุกส่วน
Horizon Gym
แล้วด้านในเค้าก็จะมีห้อง Yoga Room, Dance Studio และ Golf Simulator ไว้ให้ด้วยค่ะ ใครอยากทำกิจกรรมไหนก็เลือกใช้งานกันได้ตามชอบ
Yoga Room
ถัดมาจะเป็นพื้นที่สวนที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร B (ชั้น 5) กับอาคาร C (ชั้น 4) สวนตรงนี้เค้าตั้งใจทำเป็นสโลปทางเดิน เพิ่มความสนุกและท้าทายในการเดินออกกำลังกาย และยังได้มุมมองการเดินที่เปลี่ยนไป เวลาเดินเล่น ดูไม่น่าเบื่อ
ซึ่ง ชั้น Rooftop ของตึก C ก็จะมีสระว่ายน้ำไว้ให้ลูกบ้าน สามารถมาว่ายน้ำออกกำลังกายกันได้
ต่อมาเป็นพื้นที่สวนที่เชื่อมระหว่างตึก C และ D จุดนี้คือ Oasis Pool ค่ะ ตรงนี้เค้าก็จะมีสระว่ายน้ำไว้ให้อีก 1 สระ เน้นฟังก์ชันไปที่การแช่น้ำ ให้ฟีลแบบวารีบำบัด ดูผ่อนคลายสุด ๆ ด้านข้างมีสระเด็กแยกออกมาให้เด็ก ๆ เล่นน้ำกันได้อย่างปลอดภัย
สำหรับอาคาร D ตึกนี้เป็น Pet Friendly ค่ะ เค้ามีพื้นที่สวนแยกออกมาต่างหากตรงชั้น 4 สำหรับ Pet Parent และ น้อง ๆ สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนนี้จะไม่เชื่อมกับอาคารไหนเลย มีขอบรั้วกั้นเป็นพื้นที่ Pet Park สำหรับน้อง ๆ พาน้อง ๆ มาเดินเล่นกันได้ แล้วด้านในก็จะมี Pet Salon และ Pet Club ด้วยค่ะ
ตึกนี้บนชั้น Rooftop เค้าจัดเป็นพื้นที่สวนและสระน้ำขนาดเล็ก Dog pool ให้น้อง ๆ มาเล่นน้ำ ออกกำลังกายกันได้
เข้ามาในห้องก็จะเจอกับโซนครัวและ Dining แบบนี้ก่อน ยาวเชื่อมต่อไปยังโซน Living ตรงนี้จัดสเปซเป็นแบบ Open Plan ดูโปร่งโล่ง และรับแสงธรรมชาติได้ดี ตัวพื้นเค้าปูเป็นกระเบื้อง SPC ลายไม้ ดูอบอุ่นดีค่ะ
เข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ Common Area สเปซตรงนี้กว้างมากจัดวางได้ 2 ฟังก์ชัน ใช้งานร่วมกันได้แบบสะดวกสบาย วางตำแหน่งของโซน Living ไว้ติดระเบียง รับแสงธรรมชาติได้อย่างทั่วถึง
โซน Living เฟอร์นิเจอร์เราได้ตามนี้ตามนี้เลยค่ะ ทั้งโซฟาเดี่ยว โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวี