Sena จับมือ Hankyu เปิดโครงการแรก Niche Mono Sukhumvit-Bearing (Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง) คอนโดนวัตกรรมจากญี่ปุ่น “Geo fit+”
· 1 min readSena Development จับมือ Hankyu เปิดโครงการแรก Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) คอนโดนวัตกรรมจากญี่ปุ่น “Geo fit+” มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท พร้อมเปิด Pre-sale 30 ก.ย.-1 ต.ค. 60 ด้านไนแฟรงค์ฯ เผยทำเลย่านแบริ่งขาขึ้น ยอดขายพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SENA กับ บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด (Hankyu Realty) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น หนึ่งในกลุ่ม บริษัท Hankyu Hanshin Holding Group ในโครงการ Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง ได้รับการตอบรับดีมากจากกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการนำนวัตกรรมที่เรียกว่า “Geo fit+” ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้ามาใช้ ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจในรายละเอียดและเข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง สามารถนำมาใช้กับการสร้างที่อยู่อาศัยอย่างยอดเยี่ยมทั้ง Japanese Functionality ฟังค์ชั่นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ, Japanese Innovation นวัตกรรมแนวคิดใหม่ๆ เพื่อการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ และJapanese Design กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นที่นำมาใช้ในการออกแบบ
Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่เศษ ติดถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 70 เป็นคอนโดมิเนียม 34 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 1,275 ยูนิต ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Life Charger” ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิตคนเมืองยุคดิจิตอล ใกล้ BTS สถานีแบริ่ง เพียง 250 เมตร มีให้เลือก 3 Type คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 – 31 ตารางเมตร, แบบ 1 bedroom plus ขนาด 34 ตารางเมตร และแบบ 2 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 2.3 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตกตารางเมตรละ 87,000 บาท
ส่วนการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน 4 ด้าน ประกอบด้วย
- 1.Geo fit + days คุณภาพที่ได้มาตรฐาน
- 2.Geo fit + eco ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- 3.Geo fit + age ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยและ
- 4.Geo fit + sonae
เตรียมพร้อมฉุกเฉินป้องภัยธรรมชาติและด้วยการนำแนวคิด Geo Fit+ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นนั้น มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับ Lifestyle คนไทย ยกตัวอย่าง การวางโซนพยาบาลไว้ในโครงการเพื่อเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยของลูกบ้าน หรือการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ EV Charger ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์แทนการใช้ไฟฟ้าในโครงการรวมถึงมีการออกแบบฟังก์ชั่นห้องชุด ให้ตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัย เช่น ชั้นปรับระดับได้ที่สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานตู้ภายในห้องชุดได้ตามการใช้งานจริง เป็นต้น
ด้านสาธารณูปโภคภายในโครงการครบครัน อาทิ พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบเกลือยาว 88 เมตร ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครันด้วยพื้นที่ 250 ตารางเมตร Boxing Room, Panoramic Sky Lounge, Jogging Track ในสวน และ Yoga Room เป็นต้นนอกจากนี้ ยัง 7-11 และ ร้านกาแฟ TOM N TOM บนพื้นที่ขนาด 200 ตารางเมตร ไว้รองรับลูกบ้านภายในโครงการด้วย
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาคอนโดมิเนียมพักอาศัยในย่านสุขุมวิทตอนปลายแบริ่ง มีศักยภาพในการขยายตัวและเติบโตได้ ทั้งตอบสนองความต้องการของคนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการ ซึ่งปัจจัยหนุนศักยภาพของทำเลในย่านนี้ คือ ความได้เปรียบจากทำเลที่ตั้ง เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญย่านสุขุมวิท เพลินจิต สีลม และย่านการค้าสยาม ขณะเดียวกันส่วนต่อขยายสามารถที่จะเชื่อมต่อไปยังจังหวัดสมุทรปราการถึงบางปู และต้นทุนที่ดินในย่านนี้ราคายังสามารถจับต้องได้ ซึ่งจะทำให้ราคาขายคอนโดในย่านนี้ยังมีราคาขายที่ไม่สูงมากเกินไป ทำให้ราคาต่อยูนิตที่ไม่สูงมากทำให้ยอดผ่อนชำระกับธนาคารตกต่อเดือนประมาณหมื่นต้นๆ ถือว่าไม่สูงไม่มากสำหรับพนักงานออฟฟิศใจกลางเมือง
จากการสำรวจพบว่าคอนโดมิเนียมบริเวณสถานีบางนา – แบริ่ง –สำโรง ส่วนมากเป็นอาคาร low rise ประมาณ 63% ขณะที่อาคาร High rise มีประมาณ 37% แต่หากพิจารณาเฉพาะคอนโดมิเนียมสถานีแบริ่ง พบว่ามีเพียงแค่ 8% ที่เป็นอาคารสูงจากโครงการ KnightsBridge และ The Gallery Bearing และคอนโดสูงในทำเลนี้มีเหลือขายไม่มากนัก เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดขายเมื่อ 3- 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลสำรวจคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ตั้งอยู่ในซอยลาซาล หรือ สุขุมวิท 105 และในซอยสุขุมวิท 107 ซึ่งในซอยนั้นไม่สามารถขึ้นอาคารสูงได้ …. ปัจจุบัน พบว่าราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมบริเวณสถานีบางนา – แบริ่ง – สำโรง ที่เป็นอาคาร Low rise เปิดขายตารางเมตรละ 70,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูงในซอยราคาจะสูงกว่าประมาณ 28% หรือตารางเมตรละ 90,000 บาท ขณะที่ราคาคอนโดมิเนียมอาคารสูงริมถนนสุขุมวิทจะมีราคาสูงสุดอยู่ 100,000 บาทต่อตารางเมตร สูงกว่าคอนโด High rise ในซอย 28%
สำหรับโครงการ Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง) เตรียมเปิดพรีเซล์ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 30 กันยายน – 1 ตุลาคมนี้ พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษ ลุ้น Lucky Draw ห้องโปรฯ ราคา 2.2 ล้าน* กรณีชำระเงินจอง+ทำสัญญา (แบ่งจ่าย 0% 6 เดือน) พร้อมรับ Gift Voucher สยาม พารากอน 5,000 บาท และราคาพรีเซล รับส่วนลดวันงาน 50,000 บาท ทั้งนี้ ทางโครงการยังเปิดให้ลูกค้าได้เข้าชมห้องตัวอย่างตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแล้ว ณ Sales Gallery โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง