บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA ประกาศผลประกอบการครึ่งปี 2561 แตะ 60% ของเป้าหมายทั้งปี พร้อมวางงบประมาณการลงทุนอีกกว่า 3,200 ล้านบาท ลุย 8 โครงการใหม่ ทั้งแนวราบ-แนวสูง หวังเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบเป็น 40 เปอร์เซนต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ขยายแผนการพัฒนาโครงการสู่รอบกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ เสริมความแข็งแกร่งผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับชีวาทัย พร้อมเน้นสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าของลูกค้าผ่านทางชีวาทัยโซไซตี้ คาดเติบโตไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
สรุปภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีแรก 2651
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) (CHEWA) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปี 2561 ที่ผ่านมามีการเติบโตมากกว่าจีดีพี ซึ่งในปีนี้คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวได้ที่ประมาณ 4% คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตได้มากกว่า 5-10% จากปีที่ผ่านมาที่มีอัตราการเติบโตที่ 5% โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ การลงทุนในส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ จึงเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสนใจเพิ่มขึ้น
“สำหรับ ชีวาทัย เอง ในปีนี้ถือเป็นปีที่ 10 ในการดำเนินธุรกิจของชีวาทัย กว่า 15 โครงการ และอีก 3 โครงการร่วมทุน ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่เลือกอยู่อาศัยภายใต้โครงการของเรากับ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์และส่งมอบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบริการให้อยู่เหนือความพึงพอใจของลูกค้า ตอกย้ำแนวคิด “Build a life” เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในใจของผู้บริโภค ใส่ใจในทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า ผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงความต้องการ ตอบโจทย์การอยู่อาศัย เข้าถึง ไลฟ์สไตล์ ของผู้อาศัยในสังคมปัจจุบัน ซึ่งแผนการในดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของของชีวาทัย มุ่งเป้าเดินหน้าพัฒนาโครงการทั้งในส่วนของแนวสูง และแนวราบอย่างต่อเนื่อง”
แผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 2561
นายบุญ ชุน เกียรติ เปิดเผยอีกว่า สำหรับในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ประมาณ 2,400ล้านบาท เติบโตประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2560 โดยมียอดขาย 6 เดือนแรกของปีไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งนับเป็น 60% ของเป้าหมายปีนี้ และยังมียอดรอโอน (Backlog) ประมาณ 800 ล้านบาท พร้อมเปิดเผยถึงแผนเปิดโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ โดยเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุด 2 แบรนด์ คือ ชีวาวัลย์ (Chewa Wan) และ ชีวาโฮม (Chewa Home) รวมมูลค่ารวมกว่า 2,800 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ (Chewathai Residence Thonglor) (ทองหล่อ 20) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 155 ยูนิต มูลค่า 954 ล้านบาท
- โครงการ ชีวาทัย เกษตรนวมินทร์ (Chewathai Kaset Nawamin) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ จำนวน 480 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท
- โครงการ ชีวาวัลย์ พุทธมณฑล สาย 1 แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 53 ยูนิต มูลค่า 1,226 ล้านบาท
- โครงการ ชีวา โฮม วงแหวน-ลำลูกกา แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม ขนาด 275 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยที่ 2.5-3 ล้านบาท มูลค่า 700 ล้านบาท
- โครงการ ชีวา โฮม สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ เป็นโครงการทาวน์โฮม ขนาด 391 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.1 – 2.49 ล้านบาท มูลค่า 885 ล้านบาท
- โครงการ ฮอลล์มาร์ค โชคชัย 4 (Hallmark-chokchai-4) เป็นโครงการใหม่ล่าสุดของชีวาทัย พร้อมเปิดตัวสิ้นปีนี้ เป็นโครงการคอนโด 817 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,012 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ร่วมทุนกับพันธมิตรคอนโดแมนอีก 450 ล้านบาท คือ โครงการ ชีวาฮาร์ท สุขุมวิท (Chewa Heart Sukhumvit) พัฒนาสินค้าเป็นลักซ์ชัวรี่ทาวน์โฮม ที่ สุขุมวิท 62/1 มูลค่า 180 ล้านบาท และโครงการ ชีวาฮาร์ท ทองหล่อ (Chewa Heart Thonglor) พัฒนาสินค้าเป็นลักซ์ชัวรี่ทาวน์โฮม ที่สุขุมวิท 36 มูลค่า 270 ล้านบาท และยังมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการอีก 1 โครงการ กับไลฟ์สไตล์ซีเนียร์ลิฟวิ่ง (Lifestyle Senior Living Village) ระดับพรีเมี่ยม ที่จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท (ดำเนินการโดยบริษัท กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นการร่วมทุนกับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
โดยบริษัทฯ ได้วางงบประมาณสำหรับลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ 6 โครงการ จำนวนกว่า 3,200 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าปรับสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว, ทาวนโฮม) ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์, โครงการแนวราบประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และรายได้จากโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่าอีก 5 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ และโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
“นอกจากนี้ ชีวาทัย ยังได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้าจึงได้จัดทำ “ชีวาทัย โซไซตี้” (Chewathai Society) ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เป็นผลมาจากการออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ที่พิเศษกว่าของลูกบ้านโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดที่ยึดถือว่า ลูกค้าของชีวาทัยต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเป็นลูกบ้านของชีวาทัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสร้างความแตกต่างในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่มีให้ โดยจะเป็นการนำเอาอินไซต์ที่เป็นความต้องการของลูกค้ามานำเสนอ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด โดยสิทธิประโยชน์เด่น ๆ ที่นำเสนอออกมา อาทิ สมาชิก Chewathai Society ได้สิทธิ์รับส่วนลดสุดพิเศษจากร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ทั้งลด แลก แจก และแถม รวมถึงกิจกรรมดีๆ เพื่อสมาชิก ได้สิทธิพิเศษในการจองซื้อ พร้อมเข้าชมการเปิดตัวโครงการใหม่ของชีวาทัย ได้ก่อนใคร อีกด้วย ” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวสรุป