นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากประสบความสำเร็จในการผลักดันการใช้พลังงานสีเขียวภายในโครงการแสนสิริตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราเดินหน้าต่ออย่างไม่หยุดยั้ง โดยล่าสุดนำร่องใช้งาน ‘Smart Meter’ แพลตฟอร์มแสดง ตรวจสอบและแจ้งเตือนการใช้น้ำ-ไฟแบบครบวงจรเป็นครั้งแรกในไทยที่โครงการ KHUN by YOO พร้อมวางแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ‘ให้คำแนะนำการใช้ไฟอย่างประหยัดและคุ้มค่า’ หวังช่วยลูกบ้านควบคุมค่าไฟ พร้อมวางแผนเชื่อมต่อการแจ้งเตือนของ Smart Meter สู่ LIV-24 ยกระดับความอุ่นใจในที่อยู่อาศัยให้เราดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมงภายในปีนี้”

‘Smart Meter’ เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยใหม่ล่าสุดสำหรับครอบครัวแสนสิริ มุ่งอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านสามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้น้ำ-ไฟแบบเรียลไทม์ ตลอดจนแจ้งเตือน เมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติของระบบสาธารณูปโภคภายในที่อยู่อาศัย อาทิ ไฟรั่ว ไฟตก ไฟแรงสูง ไฟอาร์คหรือสายไฟมีปัญหา และน้ำไหลนานต่อเนื่องหรือมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการลืมเปิดน้ำทิ้งไว้หรือน้ำรั่ว พร้อมเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เพื่อการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ตั้งแต่ การประเมินการทำงานของระบบไฟและเรียนรู้พฤติกรรมการใช้ไฟของผู้ใช้งาน เพื่อให้คำแนะนำการใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยควบคุมค่าไฟตามความต้องการของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถระงับการทำงานของระบบไฟ หากพบการทำงานที่ผิดปกติ ผ่าน Sansiri Home Service Application

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “Smart Meter เป็นการรวบรวม 2 ฟีเจอร์หลัก เพื่อให้ข้อมูลด้านระบบน้ำและไฟแบบครบวงจรแก่ลูกบ้านบน Sansiri Home Service Application โดยระบบไฟถูกสร้างสรรค์ขึ้นจาก E-Trix สตาร์ทอัพผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบตรวจสอบ-แจ้งเตือนความผิดปกติของระบบไฟสัญชาติไทย ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox ซึ่งตอกย้ำหนึ่งในพันธกิจหลักของเรา ที่มุ่งผลักดันให้เกิดระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพในไทย (Ecosystem Partner) ขณะเดียวกันยังเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยของลูกบ้านอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการนำเทคโนโลยีมาสริมแกร่งการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน”

นอกจากนวัตกรรม Smart Meter ที่ช่วยควบคุมการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า แสนสิริและสิริ เวนเจอร์ ผนึกกำลังเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าร่วมกันของกังหันลมและเซลล์แสงอาทิตย์อย่างจริงจัง หรือ Sustainable Hybrid Solutions ร่วมลงทุนใน Semtive สตาร์ทอัพชั้นนำผู้พัฒนากังหันลมสำหรับที่พักอาศัยจากสหรัฐอเมริกา และนำมาติดตั้งทั้งหมด 15 ยูนิต  ที่ 7 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะะ ไลน์ สุขุมวิท 101, บุราสิริ บางนา, บุราสิริ ปัญญาอินทรา, สราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะและสราญสิริ ศรีวารี อีกทั้งยังนำเข้านวัตกรรมเสาไฟอัจฉริยะจาก OmniFlow ที่สามารถผลิตพลังงานสะอาดจากแรงลมและแสงอาทิตย์เพื่อให้แสงสว่างบนถนนในตอนกลางคืน และหากมีไฟเหลือ ยังสามารถตั้งค่าเพื่อจ่ายไฟให้กล้อง CCTV หรือ Wi-Fi Hotspot ภายในโครงการได้อีกด้วย

แสนสิริและสิริ เวนเจอร์ส เล็งเห็นความสำเร็จจากต่างประเทศในการเข้ามามีบทบาทของพลังงานทดแทน โดยเฉพาะแรงลม ยกตัวอย่างเช่น ในวันที่ 15 กันยายน 2019 ประเทศเดนมาร์กประสบความสำเร็จในการผลิตพลังงานลมได้กว่า 130 เปอร์เซ็นต์ หรือเกินกว่าความต้องการการใช้พลังงานของทั้งประเทศ จึงตัดสินใจร่วมลงทุนใน Semtive กว่า 15 ล้านบาท นำร่องใช้งานกังหันลมสำหรับที่อยู่อาศัย ให้ทำงานสอดรับกับโซลาร์รูฟท็อป เพื่อร่วมกันผลิตพลังงานสะอาดทั้งจากแรงลมและแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง หวังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงานสะอาดของไทย โดยคาดการณ์ว่า หาก Semtive กังหันลมสำหรับที่อยู่อาศัยไซส์ S จำนวน 1 ยูนิต สามารถผลิตไฟประมาณ 600 วัตต์ หรือเทียบเท่ากับการทำงานของหลอดไฟ LED ทั้งหมด 60 ดวง หากคิดอัตราการทำงานที่ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 12 ชั่วโมง/วัน จะช่วยลูกบ้านประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 11,000 บาท/ปี

“ดังนั้น การศึกษาและลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ Smart Meter, Semtive กังหันลมสำหรับที่อยู่อาศัย, OmniFlow นวัตกรรมเสาไฟอัจฉริยะและการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในโครงการ ตอกย้ำความจริงจังด้าน Green Energy อันป็นหนึ่งในภารกิจหลักภายใต้พันธกิจด้านความยั่งยืนของแสนสิริ เพื่อสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาดแห่งอนาคต ครอบคลุมไปถึงการใช้สาธารณูปโภคอย่างคุ้มค่า สะท้อนวิสัยทันศ์ด้านสิ่งแวดล้อมอันก้าวไกล จากผู้นำตัวจริงของวงการอสังหาฯ ไทย” นายอุทัย กล่าวสรุป