—————————
บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ศุภศรัณย์
พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ที่ดิน 112.4 ตร.วาขึ้นไป
5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องเมด 4 ที่จอดรถ
—————————
แบบบ้านแรกที่จะรีวิวเป็นขนาดเล็กสุดของโครงการนี้ แต่ฟังก์ชันใช้สอยครบครันจัดเต็ม รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านทั้ง Magnetic Sensor ชั้น1 ชั้น 2 กล้อง wifi camera 4 ตัว Indoor 2 ตัว และ Outdoor 2 ตัว พร้อมติดตั้งระบบ Home Automation ซึ่งจะได้แบบนี้ทุกยูนิตเลยครับ
โดยพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ที่ได้เพดานแบบ Double Volume เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และยังมีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว ส่วนชั้น 2 จะเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ และโถงโล่งๆ ที่ดัดแปลงเป็นห้องอื่นๆ ได้หลากหลาย
และชั้น 3 เป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ห้อง โดยห้องหนึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่า อีก 2 ห้อง ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยพอๆ กัน โดยมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด เพื่อสะดวกต่อการใช้งานของแต่ละคน
ทั้งนี้ทุกชั้นจะได้ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร และทำการติดตั้งแอร์แบบ Cassette ให้ 2 ตัว จาก Daikin และในทุกห้องนอนจะติดตั้งแอร์ระบบ Wall Type นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบระบายอากาศตรงบานกรอบอะลูมิเนียม
แบบบ้านศุภศรัณย์
สำหรับการดีไซน์ภายนอกบ้านยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็น Modern Classic ได้อย่างชัดเจน ผ่านการออกแบบที่มีความเรียบง่าย ตัดทอนสิ่งที่ฟุ่มเฟือยออกไป และให้ความสำคัญกับสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งาน
เน้นช่องแสงหน้าต่างขนาดใหญ่ในทุกๆ ชั้น ซึ่งกระจกเป็นแบบอนุรักษ์พลังงานเบอร์ 5 และกรอบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเป็นของซังเคียว จากประเทศญี่ปุ่น ขณะที่โทนสีก็เลือกใช้สีเทาเป็นหลัก แม้แต่ ประตูหลักเข้าบ้าน ที่ทำจากบานไม้สัก ก็สั่งทำพิเศษเป็นสีเทารับกันกับตัวบ้าน ทำให้บ้านดูเรียบหรูมีระดับ
โรงจอดรถสามารถจอดได้ถึง 4 คัน พร้อมลงเสาเข็ม 6 เมตร พื้นปูกระเบื้อง ส่วนประตูรั้วทางเข้าบ้านเป็นระบบอัตโนมัติ สามารถเปิดได้จากรีโมทหรือแอพมือถือ
โดยก่อนที่จะเข้าไปภายในบ้าน จะมีเฉลียงที่ด้านข้างที่ก่อเป็นม้านั่ง ไว้สำหรับนั่งเล่นหรือใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน อีกฝั่งจะเป็นห้องเก็บของที่สามารถเก็บพวกอุปกรณ์หรือของชิ้นใหญ่ได้ครับ
เข้ามาแล้วจะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่การ ได้เพดานแบบ Double Volume ที่มีความสูงถึง 6 เมตร ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้แก่โซนนี้ได้อย่างน่าสนใจ และยังทำให้ดูโปร่งโล่งสบาย เหมาะแก่การนั่งเล่นนั่งพักผ่อนของคนในครอบครัว และพิเศษยิ่งกว่าคือการได้ Chandelier แบบนี้เลยครับ
ตัว พื้นใช้กระเบื้องพอร์ชเลนแผ่นใหญ่ 60 x 120 ซม. และด้วยพื้นที่ทำให้เลือกวางโซฟาเข้าชุดขนาด 4-6 ที่นั่ง พร้อมทีวีไซซ์ใหญ่ 55 นิ้วขึ้นไปได้แบบสบายๆ
เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร ที่ล้อมรอบด้วยประตูข้างบ้านและหน้าต่างทางด้านหลังบ้าน เปิดรับวิวข้างนอกได้แบบเต็มสายตา โดยสามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 6 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่พอสมควร
ติดกันเป็นห้องครัวที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งทางโครงการออกแบบเคาน์เตอร์ครัว และตู้เก็บของด้านบนเป็นรูปตัวยูให้ดูเป็นแนวทางครับ
ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างที่ทำคานเชื่อมกับตัวบ้าน โดยจะดีไซน์เหมือนแบบบ้านตัวอย่าง หรือปรับเป็นสไตล์เราก็ได้ทั้งนั้น โดยแยกห้องแม่บ้านเอาไว้ต่างหาก เพื่อความเป็นส่วนตัวแก่เจ้าของบ้าน
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดเป็นแบบ Powder Room ติดตั้งสุขภัณฑ์ของ Cotto ได้ชักโครกแบบอัตโนมัติ
ติดกันเป็นห้องนอนชั้นล่าง สามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมห้องน้ำมาให้ในตัว เหมาะแก่การทำเป็นห้องผู้สูงอายุ หรือห้องสำหรับแขกหรือเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเยียน
ก่อนจะขึ้นไปชั้นบน ต้องขอบอกก่อนครับว่าทางโครงการมีติดตั้งลิฟต์มาให้ ตรงบริเวณโถงบันได เป็นลิฟต์ของ Aritco จากสวีเดน รองรับน้ำหนักได้ถึง 400 กก. แต่ถ้าไม่เอาลิฟต์ จะแลกเป็นส่วนลด 1.55 ล้านบาท และยังจะได้ Chandelier ตรงโถงบันไดเพิ่มอีก 1 จุดครับ
ซึ่งตั้งแต่บันไดไปจนถึงชั้น 3 จะได้พื้นแบบ Engineering Wood ปิดผิวไม้โอ๊ค ส่วน ราวกันตกเหล็กเป็น Wrought Iron
เดินขึ้นไปชมที่ชั้น 2 กันบ้างครับ ซึ่งจะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume ด้านล่าง โดยจะทำเป็นมุม Family Area จุดศูนย์กลางที่ให้ทุกสมาชิกภายในบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ดูเหมาะสมลงตัว
อีกฝั่งหนึ่งของชั้นนี้จะเป็น Master Bedroom ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน กินพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของชั้น ทำให้ห้องมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์สำหรับการอยู่ร่วมกันของคน 2 คน
วางเตียง 6 ฟุต หรือสั่งทำไซซ์ใหญ่กว่านี้ก็ยังได้ครับ และสามารถกั้นโซน Walk-in Closet แยกเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งเราสามารถออกไอเดียได้อย่างเต็มที่
ห้องน้ำก็มีขนาดใหญ่รองรับการใช้งาน 2 คน ได้อ่างล้างหน้าแบบ His&her ซึ่งเฉพาะห้องน้ำ Master Bedroom จะได้เป็นระบบแยกท่อน้ำร้อนน้ำเย็น ส่วนสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto ได้ชักโครกอัตโนมัติ อีกทั้งยังทำการกั้นผนังแยกโซนทำธุระและโซนอาบน้ำออกจากกัน พร้อมแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยฉากกั้นแบบกระจกนิรภัย
ยิ่งไปกว่านั้นคือทางโครงการให้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยครับ ไว้แช่น้ำผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน
โดดเด่นด้วยระเบียงที่มีความกว้างขวาง จัดเป็นมุมนั่งเล่นรับลมชิลๆ หรือจะทำเป็นสวนแนวตั้งก็ให้ความรู้สดชื่นไปอีกแบบ
ชั้น 3 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งขึ้นมาจะเจอกับโถงที่ทำหน้าที่แจกจ่ายไปยังห้องอื่นๆ แต่มีสเปซมากพอให้ทำเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือจะเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือของเด็กๆ ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของบ้านนั้นๆ พร้อมระเบียงด้านนอก
ถัดไปเป็นห้องนอนใหญ่สุดของชั้นนี้ ที่ความจริงแล้วมีขนาดไม่ต่างจาก Master Bedroom เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะเลือกออกแบบให้เหมือนกับบ้านตัวอย่างก็ดูเป็นไอเดียที่น่าสนใจ จัดเตียง 6 ฟุตไว้กลางห้อง และให้ Walk-in Closet อยู่เหนือหัวเตียง
ด้านห้องน้ำก็จะได้คล้ายกับ Master Bedroom ทั้งในส่วนของรูปแบบการจัดวางและสุขภัณฑ์ เว้นแต่ว่าชักโครกจะได้แบบมาตรฐานแทนครับ
มีระเบียงข้างนอกให้ด้วย แม้จะมีพื้นที่ไม่เท่าระเบียงชั้น 2 ในห้องนอนใหญ่ แต่ก็สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้เหมือนกัน
ห้องนอนถัดไปที่เหมือนจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับ Master Bedroom แต่ก็ยังถือว่ามีขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง 5-6 ฟุตได้แบบสบายๆ มีมุมแต่งตัวที่บริเวณทางเข้าห้อง
ห้องสุดท้ายของบ้านก็จะคล้ายกับห้องก่อนหน้านี้ มีห้องน้ำให้ในตัว แต่ทางโครงการทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เห็นว่าแต่ละห้องมีความยืดหยุ่นในการดีไซน์ออกแบบ