5 เช็กลิสต์เลือกคอนโดพร้อมอยู่แบบ Makes Sense ดูยังไงให้ครบ จบในทริปเดียว
· 1 min readหากเปรียบเทียบคอนโดพรีเซล (Pre-sale) VS คอนโดพร้อมอยู่ (Ready to Move-In) ต้องบอกว่า “ห้องพร้อมอยู่” กลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนเมืองอันดับแรก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่อยากเสียเวลาไปกับการซื้อคอนโดรอสร้าง รอตกแต่ง หรือการวางแผนย้ายเข้าแบบยุ่งยาก เพราะฉะนั้นช่วงเวลาในการเลือกและตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ จึงเป็นช่วงที่ต้องการข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุด
ดังนั้นเพื่อให้พิจารณาได้ครบทุกจุด การเริ่มต้นโดยการไปสำรวจและเห็นของจริง ทั้งห้องจริง ส่วนกลางจริง และสภาพแวดล้อมจริงด้วยตาตัวเอง จะช่วยลดความกังวล ลดการเสียเวลา และทำให้ตัดสินใจได้อย่างถี่ถ้วนจบได้ภายในทริปเดียว
ไปดูวิธีง่าย ๆ ในการพิจารณาก่อนเลือกซื้อคอนโดพร้อมอยู่ พร้อมเก็บเช็กลิสต์ข้อมูลที่ต้องสังเกตและคำถามที่ควรทราบก่อนนัดวางเงินจองกันเลย
1. วิธีเก็บข้อมูลแบบมือโปรในทริปเดียว
เพื่อให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนก่อนซื้อ ต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมตัวตั้งแต่ที่บ้านก่อนไปดูโครงการ โดยขั้นตอนหลัก ๆ ที่ควรทำ มีดังนี้
- ตั้งโจทย์ก่อนเข้าโครงการ
ก่อนเริ่มต้นการเยี่ยมชม สิ่งสำคัญคือการตั้งโจทย์ให้ชัดเจนว่าคุณต้องการใช้ชีวิตแบบไหนเมื่อเข้าอยู่อาศัยจริง เช่น
– รูปแบบการอยู่อาศัยที่มองไว้ เช่น ตอบโจทย์การอยู่คนเดียว อยู่ 2 คน หรืออยู่กับสัตว์เลี้ยง (กรณีที่โครงการรองรับ)
– ทิศทางของห้องและทิศของแสง แสงช่วงเช้า บ่าย ที่ส่องเข้ามาในห้องต้องเป็นแบบไหน
– ต้องการความเงียบเป็นพิเศษ หรือโอเคกับห้องตำแหน่งใกล้ลิฟต์หรือไม่
– ต้องการห้องใกล้ส่วนกลาง เช่น ฟิตเนส หรือ Co-working หรือไม่
การกำหนดภาพความต้องการก่อนเข้าชมที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณสแกนห้องได้เร็วขึ้นและตัดตัวเลือกที่ไม่ตรงใจออกได้ตั้งแต่ต้น

- จดหรือถ่ายภาพ/วิดีโอ สิ่งที่สังเกตได้ระหว่างชม
ขณะเข้าชมห้องแต่ละยูนิต ให้สังเกตความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นแล้วจดบันทึกหรือถ่ายภาพไว้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความโปร่งโล่ง ความสว่าง ความเรียบร้อยของวัสดุภายในห้อง หรือแม้แต่ระดับเสียงที่ได้ยิน เพราะบางครั้งการบันทึกจุดเด่นและจุดที่ยังลังเลเล็ก ๆ เช่น จุดเสียบปลั๊ก ตำแหน่งหน้าต่าง หรือความกว้างของโถงบริเวณส่วนกลาง ฯลฯ จะช่วยให้ไม่ลืมความรู้สึกแต่ละยูนิตเมื่อกลับมาทบทวน และย้อนกลับมาประเมินได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจภายหลังได้

- ลิสต์รายการเพื่อเปรียบเทียบยูนิต 1-2 ห้องที่สนใจ
ให้ลองคัดยูนิตที่ใช่ด้วยการเตรียมลิสต์รายการของที่ต้องมี (Must-have) และรายการที่ยอมรับได้ (Nice-to-have) แยกออกมาให้ชัดเจน เช่น สิ่งที่ต้องมี เช่น ทิศห้อง Layout ที่รองรับการใช้งาน, ตำแหน่งห้องที่ไม่ใกล้ห้องทิ้งขยะ เพื่อให้มีเกณฑ์หลักที่ช่วยคัดตัวเลือกให้เหลือเพียง 1-2 ห้องที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นจึงค่อยพิจารณาองค์ประกอบเสริมที่มีก็ดี เช่น ชั้นสูง วิวโล่ง ใกล้ลิฟต์พอประมาณ เมื่อจัดเรียงความสำคัญได้ชัด คุณจะเห็นตัวเลือกที่ใช่ได้อย่างไม่ลังเล และพร้อมถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมโครงการได้ทันทีในวันที่เข้าชมห้องนั้น ๆ

2. เห็นของจริงลดความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
เก็บข้อมูลมาพอสมควรแล้ว มาถึงการเข้าชมห้องจริงกันต่อ ไปดูลิสต์หลัก ๆ ที่ต้องดูให้ละเอียด หากคุณมีเวลาเข้าชมโครงการจริงไม่มาก
- ภายในโครงการ : ห้องจริง ส่วนกลางจริง วิวจริง
จุดต่างเมื่อเปรียบเทียบคอนโด Pre-sale VS พร้อมอยู่ คือ คุณจะได้เห็นทุกอย่างของจริง ตั้งแต่สเปกวัสดุ งานติดตั้ง ความเรียบร้อย ไปจนถึงบรรยากาศจริงทั้งแสง เสียง และวิว ทำให้ความกังวลเรื่องไม่ตรงปกหมดไป ทั้งนี้เมื่อไปถึงโครงการให้ตรวจองค์ประกอบหลัก ๆ ของห้องและส่วนกลาง เช่น
– วัสดุจริงที่ใช้ เช่น พื้น กระเบื้อง กรอบประตู-หน้าต่าง
– งานติดตั้งจริง เช่น ความเรียบร้อยของซิลิโคน บานพับ กลไกประตู
– ระดับเสียงภายนอก/ภายในห้อง ด้วยการทดลองเปิด–ปิดประตูหน้าต่าง
– ระยะห่างกับอาคารข้างเคียงในแนวสายตา เพื่อดูว่ามีคนเห็นห้องของเรามากน้อยแค่ไหน
– ทิศทางแสง และการไหลเวียนของลมที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่จากแบบจำลอง

- ภายนอกโครงการ : สำรวจย่านจริงในชีวิตประจำวัน
ลองใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการเดินรอบโครงการ เพื่อให้ทราบระยะทางจริงเมื่อต้องเข้าอยู่จริง และหากใครสะดวกอาจลองจับเวลาที่ใช้ดู ตัวอย่างเส้นทางที่ควรทดลองเช็ก เช่น
– เส้นทางจาก Lobby ไปยังสถานีรถไฟฟ้า เพื่อดูความกว้างของทางเท้า เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย และความคึกคักของย่านในเวลาเร่งด่วนและนอกเวลาเร่งด่วน
– ระยะเดินไปถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า หรือคาเฟ่ ว่าสามารถเข้าถึงสถานที่จำเป็นอย่างร้านสะดวกซื้อใน 300-500 เมตรหรือไม่
– ป้ายรถเมล์ จุดรับส่งวิน และการเข้าถึงถนนเส้นหลัก เพื่อพิจารณาว่าการเดินทางแบบนี้เหมาะกับชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่

3. ดูส่วนกลางรอบแรกให้ได้ภาพใหญ่ภายใน 60-90 นาที
เช็กห้องกันไปเรียบร้อย มาถึงเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาในเวลาจำกัด ประกอบไปด้วยเส้นทางและจุดสังเกต ดังนี้
- เส้นทางที่ช่วยให้เห็นครบในครั้งเดียว ให้ดูความสะดวกของ Facilities ต่าง ๆ เริ่มต้นจาก Lobby ขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางหลัก เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Co-working ห้องประชุม หรือโซนพักผ่อนต่าง ๆ ขณะเดียวกัน ให้ปิดท้ายด้วยการเดินจากส่วนกลางออกสู่สถานีรถไฟฟ้า เพื่อดูทิศทางการเดินจริง และกลับมาสรุปคำถามกับทีมโครงการ
- สิ่งที่ควรสังเกตแบบเร็ว ๆ เช่น
- การใช้พื้นที่ และการใช้เสียงของลูกบ้านบริเวณส่วนกลาง
- ระดับเสียง ความดังจากถนนใหญ่และจากเพื่อนบ้าน
- การไหลของรถหน้าโครงการ ดูว่ารถติดมากน้อยขนาดไหน เลี้ยวเข้า-ออกสะดวกหรือไม่

4. เช็กลิสต์ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม
นอกจากการเตรียมความพร้อมในการเก็บข้อมูลไปจนถึงการเห็นห้องและส่วนกลางในโครงการจริงแล้ว เช็กลิสต์รายละเอียดเล็ก ๆ เพิ่มเติมที่ไม่ควรมองข้ามอีกส่วนก็คือ ฟังก์ชันการใช้งาน โดยส่วนนี้ควรโฟกัสที่ 4 ด้านหลัก คือ
- ภาพรวมงานและสเปกวัสดุ
เบื้องต้นให้ดูความเรียบร้อยของงานติดตั้ง วัสดุต้องใหม่ ได้มาตรฐานตามที่แจ้งไว้แต่แรก มีการติดตั้งอย่างมั่นคงแข็งแรง ใช้งานได้โดยปลอดภัย และต้องลิสต์จุดที่อยากปรับหรือซ่อมหากตัดสินใจซื้อ เพื่อเตรียมแจ้งโครงการไว้ด้วย
- ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้อง
คอนโดพร้อมอยู่ที่ดี ต้องสามารถใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ของรายการสิ่งของภายในห้องได้แบบไม่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความต่อเนื่องของสเปซกับการใช้ชีวิตจริง การใช้งานโซนครัว โซนทำงาน พักผ่อน รวมถึงพื้นที่เก็บของ ต้องช่วยให้อยู่ในห้องได้อย่างสะดวกสบาย
- ความเป็นส่วนตัว
สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ต้องพิจารณาเพื่อความเป็นอยู่ระยะยาว ควรเช็กว่ามีฟังก์ชันในห้องอะไรบ้างที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เช่น ม่านบังแสง กระจกหน้าต่างแบบป้องกันการมองเห็นจากภายนอก หรือคุณอาจพิจารณาคอนโดพร้อมอยู่ที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก หากต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมาก
- ฟังก์ชันส่วนกลางที่ใช้จริง
หลัก ๆ ให้พิจารณาความหนาแน่นของจำนวนผู้ใช้ส่วนกลาง เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสีเขียว หรือ Co-working space โดยอาจลองดูประมาณช่วงบ่าย-เย็น เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมใช้งานจริงของผู้พักอาศัยในโครงการ และประเมินความเพียงพอต่อความต้องการในช่วงเย็นและวันหยุด

5. คำถามเก็บตกรอบสุดท้ายที่ควรสอบถามโครงการในวันเข้าชม
หลังจากเช็กห้องจริงและส่วนกลางจริง คุณจะได้ลิสต์คำถามภาพรวมที่ต้องถามกับโครงการหรือนิติบุคคลเพื่อให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น แต่หากใครกังวลว่าลิสต์คำถามที่มีจะไม่ครอบคลุม เรารวบรวมคำถามรอบสุดท้ายมาฝาก ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- คำถามเกี่ยวกับยูนิตที่พร้อมเข้าอยู่
– มียูนิตไหนที่พร้อมเข้าอยู่บ้าง มีตัวเลือกกี่ห้อง อยู่ที่ชั้นไหน ทิศใด
– จำนวนยูนิตที่เหลือที่สนใจ แต่ละยูนิตมีความแตกต่างกันอย่างไร
- รายการของที่ได้จริงเมื่อโอนกรรมสิทธิ์
– เฟอร์นิเจอร์หรือรายการสิ่งของที่จะได้ มีให้ครบหรือไม่
– สอบถามความต่างระหว่างห้องจริงและห้องตัวอย่าง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า Built-in หรือสเปกพิเศษ เมื่อเทียบกับห้องตัวอย่างที่เห็น
- ค่าใช้จ่ายรายเดือนหากซื้อและย้ายเข้าอยู่
– มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้างและอยู่ที่เท่าไร เช่น ค่าส่วนกลาง (ต่อ ตร.ม.), ค่ากองทุน ฯลฯ
– ค่าน้ำ-ค่าไฟ คิดค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานไหน
– มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยนอกเหนืออีกหรือไม่
- โปรโมชันหรือเงื่อนไขพิเศษ
– โปรโมชันที่โครงการให้มีอะไรบ้าง และมีเงื่อนไขอะไรเป็นพิเศษที่ต้องทราบเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น ส่วนลด ฟรีค่าส่วนกลางปีแรก ฟรีค่ามิเตอร์ เป็นต้น ส่วนนี้ต้องเช็กรายละเอียดให้ครบ เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ์
- ระยะเวลาการทำเอกสาร
– เอกสารที่ต้องเตรียมในการทำสัญญาหรือเอกสารวันโอนฯ มีอะไรบ้าง
– ใช้ระยะเวลากี่วันถึงจะเข้าอยู่จริงได้
– กฎการเข้าอยู่อื่น ๆ ที่ควรรู้ เมื่อย้ายเข้าอยู่จริง

เลือกคอนโดมิเนียมแบบ Makes Sense เลือกห้องพร้อมอยู่ Grand Unity
ครบสำหรับเช็กลิสต์เลือกคอนโดมิเนียมที่ช่วยให้เลือกห้องแบบมั่นใจระยะยาว โดยวิธีการต่าง ๆ ทั้ง 5 ข้อ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ไวและเข้าอยู่ได้เร็ว เพราะเมื่อเห็นห้องจริง ส่วนกลางจริง และทำเลโดยรอบอย่างครบถ้วนผ่านประสบการณ์ตรง ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และหากทุกจุดตอบโจทย์ คุณสามารถนัดชมห้องรอบสุดท้าย จอง และวางแผนทำเอกสารให้ตรงเวลาได้ทันที แต่ถ้ายังไม่ใช่ ลิสต์นี้ก็จะช่วยให้ทราบว่าควรมองหาอะไรเพิ่มเติมในการนัดชมห้องของโครงการต่อ ๆ ไป
ซึ่งตอนนี้ Grand Unity เค้าก็มีคอนโดพร้อมอยู่ 9 โครงการ ใกล้รถไฟฟ้า บนหลากหลายทำเลยอดฮิตในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็น โซนจตุจักร-พหลโยธิน-รัชโยธิน, โซนธนบุรี-เจริญนคร-จรัญ-ท่าดินแดง, โซนสุขุมวิท, โซน-ลุมพินี-สาทร หรือใครชอบไลฟ์สไตล์คนเมืองแบบชิค ๆ โซนอารีย์เค้าก็มีให้เลือก

ที่สำคัญคือโครงการพร้อมอยู่ของเค้า เป็นขายแบบ Fully Furnished ไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเอง เรียกว่าลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย โอนปุ๊บ พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที สะดวกแบบนี้
ใครสนใจทำเลไหน ก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดของโครงการในโซนนั้น ๆ ได้ที่ คลิก
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ LINE Official : @GrandUnity โทร. 02 652 4000
