บทความนี้อยู่สบายจะพาเดินเที่ยวชมทำเลของ Life ๑ Wireless (Life One Wireless) ซึ่งเดิมทีตามแผนนั้นจะเปิดตัวตั้งแต่ปีก่อน  แล้วก็เลื่อนมาเป็นปีนี้  ทำให้ Life 1 Wireless กลายเป็นคอนโดแบรนด์ “Life” ตัวที่ 2 จาก 3 ตัว ของ AP ที่วางแผนเปิดตัวในปีนี้   หลังจากเปิดโครงการแรกนั้นที่ Life Ladprao และประสบความสำเร็จดี  ถึงคราว ไลฟ์ วัน ไวร์เลส ออกโรงบ้าง โครงการนี้แค่ชื่อห้อยท้าย “Wireless“ ก็เรียกว่ามีมูลค่าของทำเลสูงกินขาดทีเดียว   ซึ่งราคาของโครงการและกลุ่มเป้าหมายก็จะยกขึ้นเป็นอีกระดับ ต่างกับ Life ลาดพร้าว ที่เน้นกลุ่มคนวัยทำงานค่ะ

Life One Wireless จะตั้งอยู่บนถนนวิทยุ  ช่วงระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี โดยอยู่ค่อนมาทางถนนเพชรบุรีมากกว่า  ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ห่างจาก BTS สถานีเพลินจิต 600 เมตร  ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดูดี

คอนโดแบรนด์ Life ปีนี้ของ AP เรียกได้ว่ามาแรงค่ะ  ทำเลของทั้งสองโครงการดูพรีเมี่ยมขึ้นมากเลย  และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้เยอะขึ้นด้วย  ก่อนที่โครงการจะเปิดสำนักงานขายให้ดู  เราพาไปดู Concept ในการออกแบบ และเดินเล่นสำรวจทำเลกันก่อนเลยดีกว่า

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Life One Wireless
(ไลฟ์ วัน ไวร์เลส)

• เจ้าของโครงการ >> บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
• ขนาดที่ดิน >>> 4 – 2 – 47.1 ไร่
• จำนวนชั้นและจำนวนอาคาร >>>  อาคารชุดพักอาศัย สูง 43 ชั้น 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • แบบสตูดิโอ 24 – 28 ตารางเมตร
  • แบบ 1 ห้องนอน 35 – 45 ตารางเมตร
  • แบบ 2 ห้องนอน 63 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย  1,344  ยูนิต 2 ร้านค้า
• ที่จอดรถ >>> 566 ไม่รวมซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  4.9  ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>  170,000 บาท/ตร.ม.
• พิกัด GPS >>>  13.747973, 100.548928
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ปี 2563
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• เบอร์ติดต่อ >>> 1623 / 0 – 2261 – 2518

*ในวัน Presales สามารถจอง Online ได้ที่นี่ >>> https://ibooking.apthai.com/th/
ทดสอบก่อนจองจริง : วันที่  20 ก.ค. 2017   เวลา 9.00-17.00
จองออนไลน์ (iBooking) :  วันที่  27 ก.ค. 2017   เวลา 8.00-12.00

ความเป็นมาของถนนวิทยุ อดีตสู่ปัจจุบัน

ซึ่งถ้าพูดถึงถนนวิทยุในปัจจุบัน  หลายคนจะนึกถึงความเขียวร่มรื่นของถนนเส้นนี้เป็นอันดับแรก  แต่หลายๆ คนคงยังไม่รู้ที่มาของชื่อถนนวิทยุ  เลยแอบเล่าให้ฟังนิดนึงพอเป็นน้ำจิ้ม  … ถนนวิทยุนี้เป็นถนนเส้นนึงที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน  เริ่มสร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 6 เพื่อเชื่อมถนนเพลินจิตกับถนนพระราม 4 และเนื่องจากตัดผ่านสถานีวิทยุแห่งแรก รัชกาลที่ 6 เลยพระราชทานนามถนนเส้นนี้ให้ว่า “ถนนวิทยุ” นั่นเองค่ะ

ส่วนที่ดินช่วงแยกเพลินจิตจนถึงถนนเพชรบุรีในอดีตเป็นของตระกูลนายเลิศ  และมีการแบ่งขายที่ดินให้กับรัฐบาลอังกฤษเป็นสถานฑูตอังกฤษ  ซึ่งเมื่อรวมๆ กันแล้ว ตลอดทั้งถนนวิทยุมีสถานฑูตอยู่มากมายหลายประเทศ – อารมณ์ว่าเป็นถนนที่อินเตอร์หน่อยๆ –  จนมาภายหลังสถานฑูตอังกฤษแบ่งขายที่ดินให้กับ Central พัฒนาเป็น Central Embassy ซึ่งตอนนั้นซื้อขายกัน 9.5 แสน/ตร.วา เป็นที่ฮือฮากันไปพักนึง (ดูแพงมากแล้วในตอนนั้น) และตอนนี้สถานฑูตอังกฤษก็ได้ขายส่วนที่เหลือให้ Central ไปแล้วในราคา 2 – 2.2 ล้านบาท/ตร.วา  รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ! ราคาที่ดินตรงนี้จัดว่าเว่อร์วังอลังการเหลือเกิน

ส่วนพื้นที่ใกล้กันอย่าง โรงแรมสวิสโซเทล ปาร์คนายเลิศ  ก็ขายพื้นที่ส่วนใหญ่ให้กับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพอีก ในราคา 1.8 ล้านบาท/ตร.วา มูลค่ากว่า 10,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็น ศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic แต่ก็ยังเหลือบางส่วนอย่างบริเวณบ้านปาร์คนายเลิศที่เป็นพิพิธภัณฑ์ไว้เหมือนเดิม

แนวคิดโครงการ Life 1 Wireless

ด้วยทำเลบนถนนที่มีราคาแพงและมีประวัติศาสตร์ และที่ตั้งโครงการเดิมมีต้นไม้ใหญ่อยู่ถึง 12 ต้น  เลยออกแบบคอนโด Life One Wireless ออกมาในสไตล์ “Modern Thai Colonial” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LIVE A SPLENDID LIFE ON WIRELESS ROAD” จะเป็นงานสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 – 6 ที่ได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกเข้ามาผสมกับสถาปัตยกรรมไทย  แต่จะลดทอนให้มีความโมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น  สีหลักๆ ที่จะใช้ออกแบบจึงเป็นสีขาว, สีดำ และสีทอง

ส่วนต้นไม้ใหญ่ในโครงการ เช่น ต้นโพธิ์, ต้นหูกวาง, ต้นจามจุรี ก็จะไม่ตัดทิ้ง แต่เก็บอนุรักษ์เอาไว้ และได้ดึงเอาองค์ประกอบของต้นโพธิ์ มาทำเป็นกราฟิกประกอบส่วนต่างๆ ภายในอาคารด้วย

กลุ่มต้นไม้เดิมที่มีอยู่ในพื้นที่โครงการ

หน้าตาสวนสาธารณะภายในโครงการ เก็บต้นไม้เดิมไว้และจัด Landsscape ให้สวยขึ้น

ที่ตั้งโครงการ

เวลานั่ง BTS ผ่านมาแถวเพลินจิตจะเห็น Central Embassy โดดเด่นอยู่ตรงแยกเพลินจิต  ซึ่งเดินเข้าไปประมาณ 600 เมตรก็จะเป็นที่ตั้งของ Life One Wireless ค่ะ  โครงการจะอยู่ทางขวามือสุดคลองแสนแสบพอดีและติดกับท่าเรือสะพานวิทยุ ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินของ Swissotel Nai Lert Park Hotel ที่จะเปลี่ยนเป็น BDMS ในอนาคตค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางไปยังโครงการ Life One Wireless เราไปด้วย BTS ลงสถานีเพลินจิต ออกประตู 5  เดินตรงมาเรื่อยๆ แล้วลงบันไดทางขวามือ จากนั้นก็จะเดินผ่าน Wave Place Building ไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 600 เมตรก็จะเห็น คอนโด Life One Wireless ที่อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

เริ่มจากลง BTS เพลินจิต เดินมายังทางออก 5 เลยค่ะ ป้ายบอกทางชัดเจนว่าไป โฮมโปรพลัส, เซ็นทรัลชิดลม, Central Embassy ฯลฯ

ทางออก 5 จะอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าอาคาร Park Ventures ด้านซ้าย

เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นทางเข้าโฮมโปรพลัส, เวฟเพลส ซึ่งสามารถเดินเข้าอาคารแล้วลงไปชั้น 1 ได้เหมือนกัน หรือจะไปลงสะพานลอยธรรมดาก็ได้

ทางเข้าโฮมโปรพลัส

ถ้าเดินต่อไปอีกจะเชื่อมเข้าศูนย์การค้า Central Embassy ได้

จากตรงนี้เรามองเห็นถนนวิทยุช่วงแยกเพลินจิต-เพชรุบรี แล้วค่ะ

ลงบันไดไปหน้า HomePro กันเลย

ลงมาถึงก็เจอกลุ่มพี่วินมอเตอร์ไซต์คอยให้บริการด้วย  สำหรับคนที่ขี้เกียจเดิน

บรรยากาศถนนสุขุมวิทที่ตัดกับถนนวิทยุ  ข้ามถนนสะดวก มี skywalk จาก BTS ที่เชื่อมต่อกับสะพานลอยข้ามไปลงได้ทุกฝั่ง

สภาพทางเท้าอยู่ในเกณฑ์ดีและมีต้นไม้อยู่ตลอดทาง

เดินมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงแรมศิวาเทลกรุงเทพ

ซึ่งตลอดแนวโรงแรมก็จะปลูกต้นไม้ข้างรั้วเอาไว้ ทำให้ทางเดินร่มรื่น

พอพ้นช่วงโรงแรมมาก็ยังเดินสะดวกดี  ผ่านสถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์

เดินมาซักพัก ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงแรม Swissotel Nai Lert Park

ผ่านซอยนายเลิศด้วยหล่ะ เจอกลุ่มพี่วินมอเตอร์ไซต์อีกกลุ่มนึง ซอยนี้ทะลุไปออกถนนสุขุมวิทได้ด้วยนะ

จากนั้นจะเป็นกลุ่มตึกสำนักงานอยู่ช่วงนึง

พอเห็นป้าย Family Mart แสดงว่าถึงแล้วค่ะ

โผล่มาปุ๊บก็เจอที่ตั้งโครงการ Life One Wireless เลย อยู่เชิงสะพานวิทยุพอดี

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

BTS เพลินจิต จะอยู่ใกล้กับจุดตัดของถนนสุขุมวิท และ ถนนวิทยุ (แยกเพลินจิต) เป็นทำเลที่มีราคาที่ดินสูงมากตามแบบของทำเล mid-sukhumvit  มีทั้งศูนย์การค้า, โรงแรม และสำนักงานหลายแห่ง  อย่างศูนย์การค้าจะมี Central Embassy เป็นจุดเด่นอยู่ตรงหัวมุมแยกเพลินจิต ภายในสามารถเดินเชื่อมต่อไป Central Chidlom ได้  ซึ่งก็เดินช็อปเพลินๆ ได้ถึง Gaysorn Village, Central World  

อาคารสำนักงานแถวเพลินจิตที่เป็นที่รู้จักก็มี Park Ventures เป็นอาคารประหยัดพลังงานอันดับต้นๆ ของไทย, อาคารมหาทุนพลาซ่า, Q House เพลินจิต, ต้นสนทาวเวอร์, อาคารเมอร์คิวรี่ เป็นต้น  โรงแรม 5-6 ดาว นั้นคงไล่ชื่อกันไม่หมด ขอยกตัวอย่างเช่น  Novotel Bangkok, Plaza Athenee Bangkok, Hotel Indigo Bangkok Wireless Road, โรงแรม, โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพ, โรงแรม Rosewood Bangkok แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างค่ะ

แถวเพลินจิตยังโชคดีที่มี ทางพิเศษเฉลิมมหานคร อยู่ใกล้ๆ ช่วยเลี่ยงรถติดได้บ้าง มีทางขึ้นด่านสุขุมวิทอยู่ใกล้สถานีเพลินจิต  และที่ด่านเพชรบุรีตรงถนนเพชรบุรี  แต่ต้องบอกก่อนว่าข้อจำกัดของถนนวิทยุ ช่วงหน้าโครงการ Life 1 Wireless  คือ เป็นการเดินรถทางเดียว (One-way) จากสุขุมวิทไปทางเพชรบุรีเท่านั้น  ไม่เหมือนถนนวิทยุช่วงจากพระราม 4 มาจนถึงสุขุมวิทที่จะวิ่งไปกลับได้ทั้ง 2 ทาง  ทำให้การเข้าถึงจากถนนเพชรบุรีจะต้องขับอ้อมวนมาทางถนนชิดลมก่อน (ลูกศรสีแดง)

ส่วนถ้ากรณีที่มาโครงการ  Life One Wireless  จากถนนสุขุมวิทขาเข้า  พอถึงแยกนานา จะต้องเบี่ยงออกทางขวามือเพื่อวิ่งสวนเลน (ลูกศรสีเขียว จุดที่วงกลมสีชมพู) และมาเลี้ยวขวาที่แยกวิทยุ  เพราะถ้าหากอยู่ 3 เลนทางซ้ายตามปกติ  พอมาถึงแยกวิทยุจะห้ามเลี้ยวขวานะคะ

แม้ถนนหน้า Life One Wireless เป็นทาง One way  แต่โครงการก็ยังใกล้ท่าเรือสะพานวิทยุ, ใกล้ทางขึ้นทางด่วนด่านเพชรบุรี 250 เมตร  และมีซอยนายเลิศที่อยู่ติดกันเชื่อมไปออกถนนสุขุมวิท ขึ้นด่านสุขุมวิทได้ ระยะเดินถึงสถานีเพลินจิตก็ไม่ไกล 600 เมตร ยังเดินไปได้สบายๆ ประกอบกับเพื่อนบ้านรอบๆ ก็หน้าตาดีมีสกุล 😛 ค่ะ

คอนโด Life One Wireless จะมีที่ดินด้านหน้าร่นจากถนนวิทยุไปเล็กน้อย อยู่เชิงสะพานวิทยุพอดี  ทิศเหนือติดคลองแสนแสบ มีท่าเรือสะพานวิทยุ (หมายเลข 5) เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง ฝั่งตรงข้ามคลองเป็นคอนโด วิทยุคอมเพล็กซ์ สูง 38 ชั้น 378 ยูนิต (หมายเลข 1) ติดๆ กับ โรงแรมอะเดรียติคพาเลซ สูงกว่า 30 (หมายเลข 2) ชั้นซึ่งทั้งสองตึกจะมีผลกับวิวฝั่งนี้ด้วย  ด้านหลังจะอยู่ติด ทางพิเศษเฉลิมมหานคร  ส่วนทิศใต้ติดโรงแรม The Moonite Boutique สูง 4 ชั้น และบ้านพักอาศัยในซอย (หมายเลข 3)  ฝั่งตรงข้ามเป็นตึก นายเลิศ ทาวเวอร์  (หมายเลข 4) ติดๆ กันเป็น อาคารวานิช (หมายเลข 6)  ซึ่งถัดจากอาคารวานิชเป็นโครงการ Smile Square ที่กำลังก่อสร้าง ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน, คอนโด, ศูนย์การค้า เสร็จช่วงปี 2019 (หมายเลข 7)

ถ้าไล่ไปทางถนนสุขุมวิทจะมีสถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ (หมายเลข 8)  อยู่ติดกับโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ (หมายเลข 10)  ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ (หมายเลข 9) ซึ่งเพิ่งขายที่ดินให้กับเครือเซ็นทรัลไป อีกหน่อยจะเป็นโครงการขนาดใหญ่จาก Central แน่ๆ  พอมาถึงหัวมุมแยกเพลินจิตจะมีตึก Wave Place Building มี โฮมโปรพลัสอยู่ด้านใน (หมายเลข 11)

ติดกับสถานีเพลินจิตมีคอนโด โนเบิลเพลินจิต (หมายเลข 12) ติดๆ กันเป็นโรงแรม Rosewood Bangkok  (หมายเลข 13) ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ 2558 น่าจะเสร็จปี 61  อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม Novotel Bangkok  (หมายเลข 15)  และ อาคารมหาทุน พลาซ่า (หมายเลข 15)  ต่อด้วยสำนักงาน Park ventures (หมายเลข 16) อยู่ตรงข้ามหัวมุมถนน  ซึ่งอีกไม่นานจะมีอาคารเพลินจิตเสาทองของธนาคารกรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่คู่กัน (หมายเลข 17)  ถัดเข้าไปในถนนวิทยุหลังตึกเพลินจิตเสาทองเป็นโรงแรม Grande Centre Point Ploenchit (หมายเลข 18) และคอนโด 98 Wireless ของแสนสิริ (หมายเลข 19) ที่อยู่ติดกับสถานฑูตอเมริกา (หมายเลข 20) ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ตอนนี้เรามายืนฝั่งบนสะพานวิทยุ แล้วมองกลับไปยังโครงการค่ะ จะเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่ริมถนนอยู่หลายต้น  อาจจะไม่เขียวชอุ่มเหมือนถนนวิทยุช่วงพระราม 4 ถึงสุขุมวิท  แต่ก็ถือว่ามีความเขียวอยู่เมื่อเทียบกับพื้นที่ถนนใจกลางเมืองทั่วไป

ความกว้างด้านหน้าโครงการกว้างมาก

สะพานวิทยุข้ามคลองแสนแสบ ด้านล่างมีท่าเรือสะพานวิทยุด้วย

เดินลงมาดูท่าเรือซะหน่อยค่ะ  อยู่ใต้สะพานเหมือนท่าเรือทั่วๆ ไป

ท่าเรือนี้มีคุณฝรั่งมารอเรือด้วยนาจาา

ถ้านั่งไปทางซ้ายจะไปยังทางประตูน้ำค่ะ  ตรงที่กำลังก่อสร้างเป็นพื้นที่ของอาคาร Mix Used “Smile Square“ ซึ่งมีแผนปรับปรุงทำท่าเรือด้วยนะ  การเดินทางด้วยเรืออาจจะน่าใช้บริการมากขึ้น  แต่อยู่ใกล้ขนาดนี้เราเดินไปก็ได้

โป๊ะท่าเรือจะยาวตลอดใต้สะพานวิทยุ เราเลยเดินมาอีกฝั่งนึง จะได้เห็นด้านข้างของ Life One Wireless ฝั่งที่ติดกับคลองด้วย  นี่ไงๆ เรือผ่านมาพอดีเลย

ฝั่งนี้บรรยากาศดีกว่าแหะ !  ฝั่งตรงข้ามที่เป็นคอนโด วิทยุคอมเพล็กซ์ ก็มีต้นไม้เยอะ

ขวามือนี้จะเป็นรั้วของ Life One Wirelesss ค่ะ  ก็มีต้นไม้ใหญ่เหมือนกัน รั้วต้นไม้ด้านข้างก็เพิ่มความเขียว บรรยากาศดีนะ  ดู contrast กับพื้นที่ mid-sukhumvit ที่เราอยู่ตรงแยกวิทยุเยอะมาก

ทางเดินขึ้นสะพานด้านนี้ก็มีป้าย Family Mart ที่อยู่ด้านข้างสำนักงานขายค่ะ เดินตามขึ้นไปเลย

โผล่ขึ้นมาจะเป็นถนนด้านหน้า ที่ตั้งโครงการจะกั้นรั้วเอาไว้ ต้นไม้ใหญ่ภายในโครงการเค้าเก็บเอาไว้หมดเลยนะคะ  อันนี้เก็บต้นไม้สวยๆ เอาไว้ให้  ก็ต้องชม

สำนักงานขาย Life 1 Wireless เป็นรูปเป็นร่างแล้ว  แต่เค้ายังไม่ให้เราเข้าไปดู

ทางเท้าด้านหน้ากว้างและอยู่ในสภาพดี มีแบ่งเป็นทางขี่จักรยานด้วย

บันไดขึ้นสะพานวิทยุจากด้านหน้าโครงการ

Family Mart อยู่ข้างๆ สำนักงานขายเลยค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าอีกซักที ต้นไม้ริมทางเท้าก็ต้นใหญ่มาก

ทางขี่จักรยาน

จากหน้าโครงการมองกลับไปยัง Central Embassy ถนนด้านหน้ากว้าง 4 เลนมุ่งไปทางถนนเพชรบุรีอย่างเดียว  แต่พี่วินมอไซต์สามารถพาเขาซอยนายเลิศไปทะลุขึ้น BTS เพลินจิตได้อยู่ค่ะ

ด้านข้างติดกับโรงแรมสูง 5 ชั้น

ถ้าเดินมายังถนนเพชรบุรีแล้วมองไปทางขวา จะไปยังแยกอโศก-เพชรบุรี  ไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้

ทางซ้ายมือจะไปทางประตูน้ำ

บริเวณแยกถนนเพชรุบรีตัดกับถนนวิทยุ มีอาคารวานิช เป็นสำนักงานให้เช่า สูง 42 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรม Adriatic Palace ติดกับคอนโดวิทยุคอมเพล็กซ์ สูง 38 ชั้น  ซึ่งอาจจะมีผลต่อมุมมองบางตำแหน่งของคอนโด Life one Wireless ได้  (เดี๋ยวจะวิเคราะห์ให้ดูกันในรีวิวฉบับเต็มนะคะ)

ฝั่งตรงข้ามกับ Life One Wireless เป็นตึกสำนักงาน นายเลิศ ทาวเวอร์

เมื่อเดินออกจากหน้าโครงการ Life One Wireless ไปทางซ้ายจะเจอโรงแรม The Moonite Boutique สูง 5 ชั้น

ถัดมาเป็นอาคารสูง 4 ชั้น

ร้านตัดเสื้อผ้า Blanc Bespoke Tailors

อาคาร B.L.H. Building สูงประมาณ 8 ชั้น อยู่ปากซอยนายเลิศพอดี

ซอยนายเลิศสามารถไปทะลุออกถนนสุขุมวิทและใกล้ทางขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครด้วย ถ้าโครงการตัดมาออกซอยนี้ได้ก็แจ่มเลย

ถัดมาจะเป็นกลุ่มตึกแถว มีร้านรับตัดชุดอีกแล้ว

บริษัท B.L.H. Trading

ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้า Swissotel Nai Lert Park Hotel

ติดๆ กันเป็นตึกของโรงแรม Swissotel Nai Lert Park ตัวโรงแรมที่เป็นที่พักจริงๆ จะอยู่ด้านใน  (แต่อีกไม่นานก็น่าจะทุบทิ้งแล้วหล่ะนะ)

เดินมาอีกหน่อยจะถึงทางเข้าหลักขอสถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์  มีน้องๆ มายืนติดต่อด้านหน้า จะไปสวิสหรออ อิจฉาาา

ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ที่ดินเป็นของ Central เรียบร้อย โครงการต้องยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน

แล้วก็มาถึงโรงแรมศิวาเทล (Sivatel Bangkok) กันอีกรอบ มีทั้งตึกสำนักงานและโรงแรมนะคะ

ติดๆ กันเป็นตึก Wave Place ซึ่งอยู่หัวมุมแยกเพลินจิต คู่กับ Central Embassy

ด้านหน้าจะเป็น Home Pro

Central Embassy ซึ่งจะพาไปดูภายในศูนย์การค้ากันด้วย ด้านมีปรับปรุงใหม่หลายอย่าง   ส่วนตึกด้านบนจะเป็น โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ (PARKHYATT BANGKOK) สูง 37 ชั้น เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ในปีนี้ทางเซ็นทรัล  ได้ปรับโฉมภายในของ Central Embassy หลายอย่าง  โดยวาง position ร้านค้าต่างๆ ให้กลุ่มคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น  หลังจากเดิมที่จับตลาดบนอย่างเดียว  ซึ่งก็หวังจะให้ช่วยดึง traffic คนเดินในศูนย์การค้าให้ได้มากขึ้น  ไหนๆ มาแล้วเราเลยแวะเข้าไปเดินเล่นสักหน่อย

ชั้น 1 ยังคงเป็นร้าน Brandname ระดับ luxury brand เหมือนเดิม  ฝั่งที่ติดกับทางเดิมเชื่อม BTS มี PRADA

ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นจุด Drop Off  มี Ralph Lauren, Hermes, Gucci  ซึ่งผนังชั้น 1 ด้านนอกจะตกแต่งตามสไตล์ของแบรนด์ต่างๆ ค่ะ

ชั้นล่างเค้าเปิดโซนใหม่ “Eat Thai” รวมร้านอาหารไทยๆ ทั้งหลายมาขาย แต่ยังคงออกแบบหน้าตาร้านดูดี

จะคล้ายเหมือนเป็น Food Court  ที่ดู high ขึ้นมาหน่อย

ร้านอาหารด้านในเป็นร้านเล็กๆ หลายๆ ร้าน

ร้านขนมก็มี

ส่วนชั้น 6 ก็เปิดโซนใหม่ Open House มีทั้ง Co-Working Space, ห้องสมุด, โซนเด็ก, ร้านอาหาร, แกลลอรี่แสดงงานศิลปะ  สามารถกดไปอ่านต่อได้ที่นี่ >>> พาชม OpenHouse @ Central Embassy

และชั้นนี้ก็มีโรงหนัง Diplomat Screens Embassy by AIS ด้วยค่ะ ครบจบในศูนย์การค้าเดียว

กลับมาดูบริเวณแยกเพลินจิตและถนนวิทยุฝั่งตรงข้ามบ้างค่ะ

เมื่อกี้เราดูถนนวิทยุที่อยู่ด้านข้าง Central Embassy ไปแล้ว

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นถนนวิทยุที่กว้าง 8 เลนกันต่อ ฝั่งนี้ขับรถสวนกันได้ปกติ

หัวมุมถนนฝั่งนึงเป็นอาคารสำนักงานเพลินจิตเสาทอง ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สูง 35 ชั้น มาแนวอาคารประหยัดพลังงานเหมือนกัน

อีกฝั่งเป็นตึก Park Ventures อยู่ติดหัวมุมถนนเช่นกัน ด้านล่างมีร้าน Dean & DeLuca

ถัดเข้ามาในถนนวิทยุ ติดๆ กับเพลินจิตเสาทองเป็นโรงแรม Grande Centre Point Ploenchit

และคอนโด 98Wireless ที่มีราคาแพงสุดในไทยตอนนี้

โรงแรมPlaza Athenee Bangkok อยู่ฝั่งตรงข้าม

ต่อด้วยสถานเอกอัครราชทูตเวียดนาม

ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา พื้นที่สีเขียวใหญ่มาก ประกอบกับต้นไม้เกาะกลางถนต้นใหญ่

เดินเข้ามาอีกมีร้าน Verasu

โรงแรมอินดิโก กรุงเทพ ถนนวิทยุ

ดูบรรยากาศบนถนนวิทยุกันไปแล้ว เดินไปทางสถานีเพลินจิตกันบ้างดีกว่า มีอีกหลายตึกเลยค่ะ

คอนโด Noble เพลินจิต เป็นตึกสูงสีดำติดกับ BTS เพลินจิต ด้านหน้ามีอาคารสำนักงานสีขาวเชื่อมกับ BTS ด้วย อีกซักพักน่าจะมีร้านค้านะ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรค่ะ

ถัดมาเป็นเป็นโรงแรม Rosewood Bangkok กำลังก่อสร้างอยู่

ทางขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายไปดินแดง, พระราม 9, แจ้งวัฒนะ

บรรยากาศสถานีเพลินจิตค่ะ จะมีทางเดินใต้สถานีเข้าตัวตึกต่างๆ ไม่ต้องเดินข้ามถนนกันเลย

โรงแรม Novotel Bangkok Ploenchit Sukhumvit อยู่ติดสถานีเพลินจิต ข้างๆ เป็นซอยร่วมฤดีที่ไปทะลุออกถนนพระราม 4 ได้

มองเข้าไปในซอยเห็นคอนโด Athenee Residence

ตึกมหาทุนพลาซ่า อยู่ถัดจากโรงแรม

ลานหน้า Park Ventures

ภาพบรรยากาศ Life One Wireless

เท่าที่เดินสำรวจทำเลมา รู้สึกว่าทำเลของ Life One Wireless อยู่ในตำแหน่งที่ดีทีเดียว  เพราะไม่ไกลจากแนวถนนสุขุมวิท  อยู่ในระยะที่เดินไป BTS เพลินจิต ได้สะดวกอยู่ (ห่าง 600 เมตร) สภาพทางเท้าและสภาพถนนอยู่ในเกณฑ์ดีงาม ทางเดินกว้างและมีต้นไม้เยอะ  เพื่อนบ้านก็สวยงามเนื่องจากเป็นโรงแรม และยังใกล้สถานฑูตหลายแห่ง คนที่เดินผ่านไปมาส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวซะเยอะค่ะ  แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของการเข้าถึง Life 1 Wireless ก็คือถนนด้านหน้าโครงการที่เป็น One-way หากเข้าจากทางเพชรบุรีตัดใหม่  จะต้องไปวนบนถนนชิดลมมาก่อน  หรือจากโครงการถ้าจะไปสุขุมวิทก็ต้องไปวนมาเช่นกัน

นอกจากนี้คอนโดราคาแพงแล้ว  พื้นที่โซนนี้ก็ยังมีโปรเจคอีกหลายแห่งที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง เช่น โรงแรม Rosewood Bangkok, อาคารเพลินจิตเสาทอง, Smile Square  ซึ่งก็เรียกว่ามีหลากหลายทั้งโรงแรม, อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าค่ะ

ทีนี้เราต้องมาลุ้นกันแล้วว่าราคาของ Life One Wireless จะออกมาเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือเปล่ากับทำเล และเพื่อนร่วมโครงการจำนวน 1,344 ยูนิตค่ะ

เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจ

• ลงทะเบียน  >>  คลิกที่นี่
  
• จองออนไลน์ (Booking Online) >> https://ibooking.apthai.com/th/
  ทดสอบก่อนจองจริง : วันที่  20 ก.ค. 2017   เวลา 9.00-17.00
  จองออนไลน์ (iBooking) :  วันที่  27 ก.ค. 2017   เวลา 8.00-12.00

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำพรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ