วุฒิกร มโนมัยวิบูลย์ ซีอีโอ บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด ผู้พัฒนา “แอพบ๋อย” (AppBoii) และ ปัญญวุฒิ จามพันธ์,ปุญย์ภาวีร์ ประกฤติพงศ์ และดร.วรัญญา อัจฉริยะชาญวณิช ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวถึงวิชั่นในการพัฒนาแอพบ๋อย ที่ต้องการยกระดับเรียลเอสเตททั้งประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยการเป็นเรียลเอสเตท 4.0

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา “อีคาร์ทสตูดิโอ” ได้รับการลงทุนจากโครงการอินเว้นท์ ภายใต้บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในระดับซี่รี่ส์ B ด้วยมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท มีเป้าหมายมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตคนไทยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นภายในเวลา 3-5 ปี แน่นอน “แอพบ๋อย”  คือสเต็ปที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว

ที่มาของชื่อ “แอพบ๋อย”  ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานมีคำอธิบายว่า บ๋อยหมายถึง “ผู้ให้บริการ” ซึ่งผู้ก่อตั้งมองว่าครอบคลุมถึงความหมายที่ต้องการจะสื่อว่าแอพบ๋อยต้องการให้บริการลูกค้าในทุก ๆด้าน และหากแยกตัวอักษรในคำว่าบ๋อย B-O-I-I ก็ยิ่งสื่อถึงจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน B คือ บัดดี้ O คือ ออร์แกนไนซ์ I คือ อินเตอแอคทีฟ และ I คือ อินเทนซีฟต่างๆ

“แอพบ๋อย เกิดจากสิ่งที่ทีมงานเราซึ่งล้วนมีประสบการณ์ที่ได้พักอาศัยอยู่ในคอนโดมีความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตการอยู่คอนโดของเราง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น เอาง่ายๆ ทุกวันนี้เวลาจดหมายมา พัสดุมาหรือบิลต่างๆมาเราไม่เคยรับรู้เลย ทำให้ถูกตัดไฟตัดน้ำก็ต้องไปฟาดฟันกับทางนิติฯ หลายครั้ง และยังมีปัญหาอีกมากมาย เช่นอยากจะเรียกแท็กซี่ หรือเรียกใช้แม่บ้านแต่ละครั้งก็ต้องเสียเวลา คอนเซ็ปต์แอพบ๋อยจึงเกิดขึ้นมา” วุฒิกรกล่าว

เขาบอกว่าในภาพรวมแอพบ๋อยจะมีบริการ 3 ด้านหลักๆ ที่เวลานี้กำลังพยายามทำระบบเพื่อให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ และอยู่ในโหมดที่ใช้งานง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน โหมดแรกเรียกว่าเซลล์ออฟฟิศ โหมดที่สองเป็นผู้อยู่อาศัย คือภายหลังจากที่ขายคอนโดได้แล้ว ต้องทำอย่างไรให้ผู้อยู่อาศัย อยู่แล้วแฮบปี้ มีความสุข และโหมดสุดท้าย เมื่อผู้อยู่อาศัยอยู่มาสักพักหนึ่ง ข้าวของก็จะเริ่มเสีย ต้องการเรียกใช้บริการช่างมาล้างแอร์ ซ่อมท่อประปา และหาแม่บ้านมาทำความสะอาด

ในการใช้งาน ถ้าเป็นโหมดแรกที่ว่าด้วยเซลล์ออฟฟิศก่อนจะขาย แอพจะมีฟังก์ชั่นที่จะให้ดีเวลลอปเปอร์หรือ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รู้ได้ว่า มีลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติไปแล้วเท่าไหร่ มีกี่รายที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติ

ผู้ก่อตั้งบอกว่า ข้อดีในการมีแอพบ๋อยก็คือ จะทำให้ผู้ประกอบการรู้ว่าถึงข้อมูลการขายที่แท้จริง เพราะทุกบริษัทย่อมมีเซลล์อยู่หลายคน ซึ่งการที่มีเซลล์อยู่หลายคนและแยกกันถือเอ็กเซลคนละตัว ก็ทำให้ต้องเคยพบเจอกรณีที่บางยูนิตมีลูกค้าวีไอพีท่านหนึ่งทำการจองไปเรียบร้อยแล้ว แต่เซลล์อีกคนหนึ่งที่ดูเอ็กเซลคนละตัวกลับมองไม่เห็นว่ามีการจองแล้ว ก็นำเอาไปขายกับลูกค้าวีไอพีอีกคน ทำให้บริษัทต้องต้องตามมาแก้ปัญหาชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

หรืออาจมีกรณีที่เซลล์หรือนักขาย ด้วยความอยากขายก็เลยขายทุกอย่าง เช่นโครงการนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่พักอาศัยแต่กลับบอกลูกค้าไปว่าซื้อห้องเพื่อนำพื้นที่มาเปิดเป็นบริษัทได้ ดังนั้นเมื่อลูกค้าซื้อแล้วมาอยู่จริงและเปิดบริษัทก็เกิดการกระทบกระทั่งเพราะลูกบ้านห้องอื่น ๆก็ไม่ยอม ซึ่งเมื่อถ้าไปหาว่าใครถูกใครผิด ก็มักไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าเซลล์พูดแบบนี้หรือไม่ แต่ถ้าใช้ระบบเดียวกันก็จะทำให้เห็นตรงกันว่าห้องใดที่มีการจองไปแล้วบ้าง ทั้งสามารถดูถึงจำนวนลูกค้าว่ามีการจองเท่าไหร่ มีการโอนแล้วหรือยัง

โดยแอพบ๋อยจะมีระบบช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้า ซึ่งในเวลานี้มีผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายรายอาจไม่รู้ว่าข้อมูลลูกค้ามีประโยชน์อย่างไร้ ตรงกันข้ามที่โลกทุกวันนี้ทุกๆธุรกิจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อมาต่อยอดธุรกิจเดิม หรือไม่ก็สามารถนำไปใช้ในธุรกิจใหม่ๆ

สำหรับโหมดที่สองเป็นผู้อยู่อาศัย คือภายหลังจากที่ขายคอนโดได้แล้ว ลูกค้าซื้อแล้ว โอนแล้ว พวกเขาเข้าอยู่และต้องอยู่อย่างมีความสุข ซึ่งระบบยังได้พัฒนาไปถึงขึ้นที่ว่าในกรณีที่อาจมีลูกบ้านบางรายต้องการจะปล่อยเช่า หรือขายห้อง แทนที่จะต้องเปิดห้องให้ดูจริงแต่ระบบก็ทำให้ผู้ที่สนใจก็เปิดดูก่อนได้ในระบบ นอกจากนี้ระบบจะเก็บข้อมูลสัญญาระหว่างดีเวลลอปเปอร์กับลูกบ้านเอาไว้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะลืมระยะเวลาในการรับประกัน ผู้อยู่อาศัยเองก็ไม่ต้องเก็บหลักฐานที่เป็นเอกสารว่าได้ทำสัญญาไว้อย่างไร ทำให้เกิดความเชื่อใจซึ่งกันและกันได้ เป็นต้น

ส่วนโหมดสุดท้าย เมื่อระยะเวลาผ่านไปสักพักข้าวของต่าง ๆก็เริ่มจะเสื่อมและเสีย ผู้อยู่อาศัยย่อมต้องการใช้บริการช่าง แม่บ้าน ฯลฯ ซึ่งความต้องการของผู้อยู่อาศัยจะมีอยู่แบบไม่จำกัด ถ้าหากดีเวลลอปเปอร์ลงทุนทำระบบเพื่อตอบโจทย์เอง ก็อาจเจอปัญหาว่าแล้วใครจะเป็นคนติดต่อผู้บริการ จะรู้ได้อย่างไรว่าจะปลอดภัย หรือถ้าปล่อยให้ลูกบ้านเรียกช่างเอง ก็หมายถึงเปิดโอกาสให้คนภายนอกเข้ามาในโครงการซึ่งอาจไม่ปลอดภัยเช่นกัน

แต่แอพบ๋อย จะทำหน้าที่เป็นผู้คัดกรอง คัดสรร เซอร์วิสโพรวายเดอร์รายที่มีคุณภาพ ที่เป็นมืออาชีพ มีการทำสัญญาควบคุมคุณภาพและมีการรับประกันความเสียหายด้วย เบื้องต้นแอพบ๋อยมีบริการแม่บ้าน,บริการล้างแอร์, บริการซ่อมรถที่เสียกลางทางและบริการเรียกรถเช่า

“ในอนาคตเราจะเพิ่มบริการอื่นๆ เช่นสั่งอาหาร คำปรึกษารายบุคคล ส่วนตัวเองก็คิดจะนำบริการให้คำปรึกษาเรื่องการพัฒนาตนเองมาให้บริการเช่นกัน ความเป็นแอพบ๋อย มีข้อดีคือ เราไม่ได้ดูแลเฉพาะผู้ใช้งาน แต่ดูแลพาร์ทเนอร์ทุกคน ทั้งผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ โดยเราทำตัวเป็นคนกลางที่ช่วยให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในฐานะดีเวลลอปเปอร์ก็อาจถนัดเรื่องการสร้างบ้าน สร้างคอนโดคงไม่ถนัดที่จะไปหาช่างแอร์เป็นต้น เราเลือกใช้ความถนัดที่มี พัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์ทุกฝ่าย เรามองว่าเราก็คือบ๋อยของทุก ๆพาร์ทเนอร์” ดร.วรัญญา กล่าว

ปัญญวุฒิ สรุปว่า แอพบ๋อยจะทำตัวเป็นบัดดี้ ช่วยบริหารจัดการหรือช่วยออร์แกนไนซ์ให้กับทุกๆคนในทุกๆเรื่อง ดูแลตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนเข้านอน โดยจะค่อย ๆเพิ่มเซอร์วิสเพื่อให้ครอบคลุมกับเป้าหมายในการก้าวสู่แพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวมเซอร์วิส “สมาร์ท ลิฟวิ่ง” ได้อย่างแท้จริง