สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชมคอนโด Canapaya Residences คอนโดหรูแห่งใหม่บนถนนพระราม 3 ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Canapaya ที่จะมีทั้งโรงแรม พลาซ่าและคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังมีท่าเทียบเรือยอร์ชส่วนตัว จะหรูหราแค่ไหนวันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ
Canapaya Residences (คณาพญา เรสซิเดนซ์ พระราม 3)
· 32 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
Canapaya Residences (คณาพญา เรสซิเดนซ์)
- เจ้าของโครงการ >> Canapaya Property ( คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนพระราม 3 ใกล้ BRT สะพานพระราม 9
- ขนาดที่ดิน >>> 4-0-51 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 57 ชั้น (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 85-93 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน Duplex 78 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 93-159 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน Duplex 140 ตารางเมตร
- 4 ห้องนอน 234-248 ตารางเมตร
- Penthouse Duplex 192-502 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 188 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 312 คันห หรือประมาณ 140%
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 7.58 ล้านบาท (ห้อง 45 ตารางเมตร ชั้น 10 ณ วันที่ 25/07/2014)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 180,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.687624, 100.513584
เริ่มจากบนทางด่วนไปบางโคล่-ดาวคะนองค่ะ
ขับมาเรื่อยๆตามเลนนี้
ป้ายบอกทางแยกไปบางนา กับบางโคล่ ให้เตรียมเบี่ยงขวาตามป้ายบางโคล่
ตามป้ายบางโคล่ออกซ้ายไปเลยค่ะ
ลงทางด่วนมาก็ตรงไปเรื่อยๆ
พอเจอแยกให้เตรียมเลี้ยวขวาค่ะ เข้าถนนพระราม3 ฝั่งจะไปสะพานกรุงเทพ
ขับตรงมาเรื่อยๆ จากในรูปใต้สะพานด้านขวามือจะมีที่กลับรถอยู่ ถ้าเรามาจากทางสะพานกรุงเทพก็จะต้องมากลับรถใต้สะพานข้ามแยกนี้ค่ะ จากจุดนี้ก็ตรงไป
พอเจอ BRT สะพานพระราม9 ก็ให้เตรียมเข้าซ้ายได้เลยค่ะ
ตรงนี้เป็นแนวรั้วของโครงการแล้วค่ะ แต่จะเป็นส่วนที่เป็นโรงแรมก่อน
ถึงทางเข้าส่วนที่เป็นคอนโดแล้วค่ะ
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
ถ้าหันหน้าเข้าหาที่ดินของโครงการจะเห็นซอยพระราม 3 ซอย 22/1 อยู่ทางขวามือ ที่ด้านหน้าจะมีอาคารสำนักงาน 8 ชั้นอยู่ และถัดไปในซอยด้านในก็จะมีอาคารสำนักงาน 8 ชั้นอยู่อีก 1 ตึก เป็นสำนักงานของ Veloil (หมายเลข1) ถัดไปก็จะมีวัดบางโคล่นอก โรงเรียน และชุมชนริมน้ำของชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิม ถ้ามองขนานกับริมน้ำออกไปทางสะพานกรุงเทพก็จะเห็นคอนโดสูง 33 ชั้น (หมายเลข5) ตั้งอยู่ เลยไปหน่อยก็เป็นโรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือเดินไปไม่ไกลจะเจอ BRT สถานีสะพานพระราม9 อยู่ (กราฟิกเส้นสีม่วง) บริเวณริมถนนช่วงสถานี BRT นั้นมีอาคารสำนักงานสูงประมาณ 4-5 ชั้นอยู่กลุ่มนึงกับโชว์รูมรถ ส่วนในซอยด้านนี้ที่ติดกับริมน้ำจะมีคอนโดริเวอร์ไซด์วิลล่า สูง 19 ชั้นตั้งอยู่ 2 ทาว์เวอร์ หน้าตาเหมือนๆกัน (หมายเลข 2 และ 3) ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันจะเป็นคอนโด Star View สูง 40 ชั้น 2 อาคาร (หมายเลข 4) ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ
ตรงเชิงสะพานพระราม 9 ฝั่งเดียวกับโครงการจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ (หมายเลข6 ) ส่วนฝั่งตรงข้ามตรงสะพานพระราม 9 จะเป็นสำนักงานใหญ่ของ ธนาคารกสิกรไทย ค่ะ (หมายเลข8)
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายก่อนเข้าไปชมห้องตัวอย่างกันค่ะ
อาคารสำนักงาน Veloil เจ้าของสโลแกน ลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย ในซอย 22/1 ซอยข้างๆคอนโดค่ะ จะอยู่ติดกับสำนักงานขายที่ใช้เป็นคลับเฮ้าส์ของโครงการเลย
มองลอดอาคารสำนักงาน Veloil ไปจะเจอคอนโดสูง
อีกด้านหนึ่งจะเห็นคอนโดรีเวอร์ไซด์ วิลล่า สูง 19 ชั้น 2 ตึก ซึ่งเป็นคอนโดเก่าสร้างไปนานแล้วแต่ก็ยังบำรุงรักษาดีอยู่ ไม่ได้ทรุดโทรม จากมุมนี้จะเห็นคอนโด Star View 40 ชั้นที่อยู่ติดถนนพระราม 3 เยื้องๆกับโครงการด้วย
มาดูที่ถนนพระราม3กันบ้าง หลักๆใกล้ๆโครงการก็มี BRT สะพานพระราม9
ถนนด้านหน้าโครงการค่ะ ทางจะไปเจริญราษฎร์ หรือจะขึ้นสะพานไปสะพานกรุงเทพก็ได้
อีกฝั่งถนนจะเป็นทางไปพระราม3 ทะลุไปคลองเตยได้
รอบๆโครงการจะมีโชว์รูมรถมิตซูบิชิ และก็มีเบนซ์พระราม 3 ด้วย
โชว์รูมเบนซ์ พระราม 3 อยู่ปากซอยพระราม 3 ซอย 24
สะพานลอยใกล้ๆกับโครงการ ข้ามพระราม 3 โดยไม่ใช้สะพานลอยนี่ไม่สามารถแน่ๆ
ฝั่งตรงข้ามข้างๆสะพานลอยมีธนาคารไทยพาณิชย์อยู่
ฝั่งตรงข้ามก่อนจะถึงคอนโดสตาร์วิวที่กำลังก่อสร้างอยู่มีปั้มน้ำมันบางจาก
คอนโดสตาร์วิว สูง 44 และ 54 ชั้น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบอยู่ตรงเชิงสะพานพระราม9
สะพานพระราม9 และสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกร รูปนี้มองจากที่ตั้งโครงการไปเลยค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่สำนักงานขายกันค่ะ
เริ่มตรงทางเข้าโครงการ เห็นบ้านเลขที่ไหมค่ะ 888 เลขมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีน
ถนนในโครงการค่ะ ตัวสำนักขายจะอยู่ติดริมแม่น้ำ รูปนี้ถ่ายจากถนนในโครงการ อาคารที่เห็นอยู่อยู่สำนักงานของ Veloil
ถึงแล้วค่ะ สำนักงาน Canapaya Residences
ส่วนของสำนักงานขายจะถูกปรับให้เป็น Clubhouse ในอนาคตนะคะ
ภายในสำนักขาย ออกแบบให้ระยะความสูงชะลูดขึ้นไป ใช้วัสดุมันเงาสะท้อนไปมา ให้ความรู้สึกหรูหราดี
อีกมุมนึงของสำนักงานขายค่ะ มีที่นั่งเพียบ
หรือจะออกมาชมวิวด้านนอกก็ได้นะคะ อย่างที่บอกไปส่วนนึงภายหลังจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นClubhouse ส่วนนี้จะเป็นสระ่ว่ายน้ำชั้นล่าง กับพื้นที่ชมวิวแม่น้ำค่ะ
มุมแม่น้ำเจ้าพระยาจากสำนักงานขายค่ะ ฝั่งนี้มองไปทางสะพานพระราม 9 กับสำนักงานใหญ่ของกสิกรไทย พระราม 3
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ที่ดินของโครงการนั้นจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนโรงแรมและส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียม โดยสัดส่วนที่ดินที่ทำโรงแรมจะใหญ่กว่าพอสมควร ตรงกลางนั้นมีคลองระบายน้ำของกรุงเทพมหานครกั้นกลางอยู่ โดยจะมีประตูระบายน้ำกั้นตรงก่อนไหลออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา
ทางเข้าของทั้งส่วนคอนโดและส่วนโรงแรมจะแยกออกจากกันชัดเจน แต่จะมีทางเชื่อมข้ามคลองระบายน้ำให้เดินถึงกันได้ (ซึ่งแน่นอนว่าจากคอนโดเดินไปโรงแรมได้ แต่คนจากโรงแรมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามมายังฝั่งคอนโดนะคะ) ตัวอาคารของคอนโดกับโรงแรมนั้นจะวางเหลือมกันอยู่ เพื่อไม่ให้บังวิวกันเอง โดยตัวอาคารของโรงแรมจะใกล้กับฝั่งถนนพระราม 3 มากกว่าทางแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะพื้นที่ที่ติดริมแม่นั้นฝั่งเจ้าพระยานั้นทำเป็น Plaza ค่ะ
ตัวอาคารของคอนโดจะอยู่ช่วงกึ่งกลางไซท์ มีคลิบเฮ้าส์ติดกับริมแม่น้ำซึ่งมีสระว่ายน้ำของจริงที่ทำเสร็จแล้วด้วย ริมน้ำจะมีท่าจอดเรือของตัวเอง ซึ่งดีไซน์ตำแหน่งท่าจอดเรือในรูปวางไว้คร่าวๆนะคะ อาจจะมีการปรับแบบกันอีกนิดหน่อยเท่าที่ถามมา ด้านหลังของคลับเฮ้าส์ที่ติดกับแนวที่ดินและก็มีสำนักงานของ Veloil ก็จะมีคลองระบายน้ำเล็กๆกั้นอยู่เช่นกัน
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ในเรื่องของทิศทางแดดนั้นเราจะมาโฟกัสกันเฉพาะในส่วนของคอนโดนะคะ เพราะถ้าดูเทียบความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งของของคอนโดกับโรงแรมแล้วจะเห็นตัวทาวเวอร์ของโรงแรมนั้นจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคอนโด ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อทิศทางแดดและความร้อนที่เข้ามาอย่างมีนัยยะสำคัญอะไร
ลองสังเกตการวางแนวของหน้าต่างคอนโดที่ลดหลั่นกันในฝั่งทิศตะวันออกนั้นดูจงใจจะให้เปิดมุมมองไปด้านสะพานพระราม 9 ค่อนข้างชัดเจนแม้ว่าส่วนนึงจะมองไปเห็นคอนโดริเวอร์ไซด์ วิลล่า ก็ตาม เท่าที่ไปดูก็ค่อนข้างชอบวิวฝั่งนี้มากกว่าพอควรค่ะ เพราะอีกด้านนึงจะมีวัดกับพวกชุมชนของคนในพื้นที่เดิมอยู่ด้วย อาจจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่เมื่อเทียบกัน
ตำแหน่งอาคารสูงรอบๆที่มีผลต่อมุมมองจากตัวคอนโด
รูปนี้ทำกราฟิกให้เห็นคร่าวๆว่าอาคารรอบๆนั้นมีผลอะไรกับมุมมองจากตัวโครงการบ้างนะคะ รอบๆที่เป็นอาคารสำนักงานไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะตัวห้องของคอนโดเริ่มที่ชั้น 8 อีกทั้งผนังแต่ละชั้นของคอนโดก็ค่อนข้างสูง จึงไม่น่ามีผลกระทบอะไรมากนัก ยูนิตพักอาศัยชั้นล่างสุดที่มีก็จะสูงเลยแนวของตึก Veloil ข้างๆไปแล้ว แต่ด้านที่ติดกับโรงแรมห้องชั้นล่างๆที่ติดกับโรงแรมอาจจะได้รับผลกระทบเรื่องมุมมองบ้าง ต้องดูจากโมเดล ส่วนคอนโดริเวอร์ไซด์วิลล่าที่สูง 19 ชั้น ก็ไม่ได้อยู่ติดกันมาก แต่ก็มีผลอยู่บ้างในการมองไปทางสะพานพระาม 9 ค่ะ
ส่องโมเดล
ทางโครงการทำโมเดลมาให้ดูทั้งโปรเจคเลยค่ะ จะได้เห็นตำแหน่งที่ตั้งของทั้งโรงแรมและคอนโด แต่พอโมเดลทำมาใสๆก็เลยส่องดีเทลกันลำบากนิดนึง
ฝั่งติดถนนพระราม3 ทางเข้าโครงการ
อีกมุมฝั่งถนนใหญ่ค่ะ จะเห็นได้ว่าโรงแรมจะอยู่ติดถนนมากกว่า ส่วนคอนโดจะเซ็ตเข้าไปด้านในมากกว่า จะมีบางห้องอาจจะมองมาเห็นโรงแรมตรงๆด้วยตามโมเดลค่ะ
มุมจากแม่น้ำค่ะ ฝั่งโรงแรมตรงส่วนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทางผู้ประกอบการจะทำเป็น Plaza ริมน้ำค่ะ มีท่าเรือ ห้องพักในชั้นล่างๆก็อาจจะโดนโพเดียมของโรงแรมบังวิวไว้ส่วนนึง
ฝั่งคอนโดค่ะ ส่วนที่ติดริมน้ำ จะเป็น Clubhouse ส่วนกลางของคอนโดค่ะ ซึ่งตอนนี้คือสำนักงานขายค่ะ
ท่าเทียบเรือภายในโครงการ แต่ตำแหน่งยังอาจจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคตอีกทีนะคะ
ซูมในดูตัวตึกค่ะ แต่ละชั้นจะค่อนข้างไม่เหมืิอนกัน มียื่นเข้ายื่นออก ดูมีลูกเล่นดีค่ะ
ด้านบนเป็นส่วนของ Penthouse ยอดตึกนั้นดีไซน์ดุแปลกตามาก โครงการบอกว่ารูปทรงนั้นได้แนวคิดมาจากรูปทรงของเงินจีนโบราณ อันนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่าของจริงจะออกมาแล้วสวยหรือหรือเปล่า
พาเข้าไปดูที่ดินจริง
ถ่ายจากชั้น 2 ของตัวสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็น Clubhouse ตัวคลองสาธารณะ(กราฟิกเส้นสีเขียว)จะแบ่งที่ดินออกเป็นสองส่วนตามรูปค่ะ ด้านนึงเป็นคอนโดอีกด้านเป็นโรงแรม สัดส่วนที่ดินของฝั่งโรงแรมจะมากกว่า
ในฝั่งด้านที่โดนคลองคั่นก็จะเป็นไปอีกเป็นโรงแรมด้านหน้า ส่วนด้านหลังที่ติดกับสำนักงานขายจะเป็น Plaza ซึ่งเชื่อมต่อกับโพเดียมของโรงแรมค่ะ
ที่ดินส่วนของ Plaza ริมน้ำค่ะ ตึกขาวๆริมรูปคือคอนโดริเวอร์ไซด์ วิลล่า
ถ่ายให้ดูคลองสาธารณะที่มาพื้นที่ค่ะ ตอนแวะไปดูประตูระบายน้ำเสียอยู่ น้ำเลยขังซะเขียวเลย
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาจะมีทั้งคลับเฮ้าส์ด้านหน้าและบนตัวคอนโด โดย Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของ Clubhouse ติดริมน้ำ ในรูปคือตรงหมายเลข 1 ซึ่งก็จะมีทั้งห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด ห้องอเนกประสงค์ , Lounge และสระว่ายน้ำ (หมายเลข2) นอกจากมียังมีท่าเรือส่วนตัว (หมายเลข3) ให้ด้วย แต่ถ้าจะจอดเรือต้องเสียเงินนะคะ ส่วนถ้าจะอยากเดินเล่นในโซน Plaza ทางโครงการก็ทำสะพานข้ามคลองไว้ให้ด้วย (หมายเลข4)
อกจากนี้ก็มีพื้นที่ Sky Lounge ที่ชั้น 7 และสระว่ายน้ำ Sky Pool ที่ชั้น 50 เป็นสระรูปโค้งชมวิวแม่น้ำและเมืองในมุมสูง และก็มี Deck ไว้นั่งเล่นชมวิวกับ Lounge ส่วนกลางเพิ่มเติมด้วยค่ะ รวมๆแล้วก็จัดมาเต็มค่ะ
สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 188 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 63 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่ามากเกินพอเป็นเกรดพรีเมียมทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Private Elevator 1 ตัวสำหรับห้อง Penthouse Duplex ส่วนที่จอดรถ 140% นับรวมจอดซ้อนคันและ fixed ที่จอดสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป เรียกว่าเหลือๆค่ะ สัดส่วนการใช้งานนั้นพอเพียงแน่ๆ
ภาพจำลองในส่วนของสระว่ายน้ำชั้น 50 ค่ะ เห็นวิวกรุงเทพมหานครและแม่น้ำเจ้าพระยา
ภาพจาก Clubhouse ค่ะ ช่วงเทศกาลอาจจะได้เห็นพลุสวยๆแบบในรูป คาดว่าน่าจะเห็นจากฝั่งตะวันตกมากกว่าแถวๆช่วงเอเชียทีค
ฟิตเนสจะอยู่ตรง Clubhouse ชั้น2 ค่ะ
Clubhouse หน้าตาของจริงค่ะ ด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา
มีพื้นที่พักผ่อนกับสระว่ายน้ำริมแม่น้ำเลย
มีที่นั่งติดแม่น้ำอีกส่วนนึง
ท่าเรือส่วนตัวฝั่งคอนโด แอบขัดใจวิวฝั่งตรงข้ามนิดนึง ไม่น่าเป็นวิวโรงงานเลย
ภายใน Clubhouse ค่ะ ตกแต่งหรูหราสมกับราคาห้องที่สูงเช่นกัน
เอาวิวพาโนราม่าของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาบน Clubhouse ชั้น 2 มาฝากกันค่ะ ด้านบนก็มีระเบียงนั่งชมวิวได้อีกเช่นกัน
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Floor Plan คอนโด Canapaya Residences
ลักษณะของแปลนแต่ละชั้นของอาคารในแต่ละชั้นจะ่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยห้องพักจะเริ่มอยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ จะวางห้องไปทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตกและทิศใต้ (ได้วิวแม่น้ำ) จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นคือ 7 ห้องเท่านั้นค่ะ ส่วนใหญ่ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ทางทิศตะวันตกด้านใกล้ถนนพระราม 3 นอกนั้นก็จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป จากแปลนบางชั้นจะมีสวนเล็กๆ หรือพื้นที่โล่งอยู่ แต่บางชั้นก็เป็นห้องเต็ม Floor เลยค่ะ ตั้งแต่ชั้น 51 เป็นต้นไป จะป็นส่วนของชั้น Penthouse ค่ะ มีลิฟท์แยกส่วนตัว
Floor Plan แต่ละชั้นจะไม่ได้ซ้ำกันเท่าไหร่ค่ะ มีการสลับตำแหน่งห้องกันบ้าง ทำให้ตำแหน่งของหน้าต่าง ระเบียง และส่วนยื่นเข้ายื่นออกแต่ละจุดสลับกันไปมา ไม่ได้เป็นแพทเทริ์นเดียวกันทั้งตึก บางส่วนก็มีเว้นสเปซเอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้บนตัวอาคารด้วย
แปลนห้องดีไหม?
แปลนห้องของคอนโด Canapaya Residences มีหลายแบบมากค่ะ ได้แก่ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, 4 ห้องนอน, Duplex 2 ห้องนอน, Duplex 3 ห้องนอน และ Penthouse โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 45 – 502 ตารางเมตรกันเลยทีเดียว เราเลือกแปลนห้องที่มีจำนวนห้องเยอะๆมาให้ดูกันค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร
แปลนรวมๆนั้นจัดออกมาได้เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนกับส่วนรับประทานอาหารก่อน เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตัว L เข้ามุม ติดๆกันทำสเปซเป็นส่วนนั่งเล่นกับส่วนทำงาน โดยวางตำแหน่งของโต๊ะทำงานเอาไว้ด้านหลังของโซฟานั่งเล่น ตรงนี้ถ้าใครอยากดูทีวีแบบจอใหญ่ๆสะใจหน่อยอาจจะต้องยอมเอาโต๊ะหนังสือออก เพราะไม่งั้นระยะจากโซฟาถึงทีวีจะใกล้ไปหน่อยค่ะ
ระเบียงออกไปด้านนอกให้มาค่อนข้างเต็มที่ค่ะ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะไปอยู่ระหว่างผนังห้องนอนกับส่วนพักผ่อนทำให้ยังเห็นวิวได้ทั้งสองห้องอย่างไม่โดนเบียดมากนัก ไม่บังวิวดี กระจกให้มาบานใหญ่เต็มแสงธรรมชาติเข้าได้เยอะ ส่วนห้องน้ำเข้าได้ทั้งจากในห้องนอนและด้านนอก ซึ่งประตูจะทำหลบไม่ให้ชนกัน รวมๆก็จัดเป็นแปลน 1 ห้องนอนที่ค่อนข้างจะดีทีเดียวค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอนมีด้วยกัน 4 แบบ เราเลือกแบบ B2 85 ตารางเมตรมาค่ะเนื่องจากเป็นแปลนที่เอามาทำเป็นห้องตัวอย่างด้วย เข้ามาจะเจอครัว ส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่น สามารถออกไปที่ระเบียงได้ ให้ระเบียงมายาวตามแนวห้องเลยค่ะ อีกด้านจะเป็นโซนของห้องนอน ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำในตัว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ สุดทางจะเป็นห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวค่ะ ค่อนข้างกว้าง ห้องน้ำสามารถวางอ่างอาบน้ำได้ด้วย ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เป็น Sext Bathroom มีกระจกบานใหญ่เต็มบานกั้นให้และมีส่วนของ Walk-in closet ด้วย รวมๆแล้วก็จัดได้เป็นสัดเป็นส่วนดีเช่นกันค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 147 ตารางเมตร
แบบ 3 ห้องนอนก็มีหลายขนาดตั้งแต่ 92-157 ตารางเมตร เราเลือกแบบ 147 ตารางเมตรมาเพราะเป็นแบบที่มีจำนวนห้องมากที่สุดค่ะ โดย 3 ห้องนอน 147 ตารางเมตร ส่วนใหญ่จะวางฝั่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา คือเป็นห้องที่หันหน้าเข้าชนแม่น้ำตรงๆนั่นเอง ห้องน้ำก็ทำเป็นห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ แต่ตอนที่ไปดูก็เห็นว่าขายหมดแล้ว แต่ไหนๆก็ไหนๆเลยหยิบมารีวิวให้ดูกันค่ะ
เริ่มจากเข้าห้องมาจะเจอกับทางเดิน ซึ่งมีส่วนแยกไปยังห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องน้ำในห้องนอนเล็กสุดจะเข้าจากด้านนอกได้ด้วย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนที่ 2 มีห้องน้ำในตัวและมีส่วนของ Walk-in closet เพิ่มมาด้วย
ออกมาจากส่วนนี้เข้าทางเดินหลักก็จะเป็นสเปซของส่วนพักผ่อน รับประทานอาหาร pantry และครัวค่ะ สเปซตรงนี้ค่อยข้างใหญ่มากและได้พื้นที่เต็มจัดเป็นสัดส่วนดี ที่พิเศษกว่าแบบ 1 และ 2 ห้องนอนคือจะมีห้องกั้นแยกเป็นส่วนครัวไทยด้วย จะมีส่วนของ pantry ที่จะต่อออกมาจากครัวไทย ตรงนี้สามารถทำอาหารมื้อหนักได้เลยเพราะเป็นครัวปิดมิดชิด ถัดไปจาก Pantry ก็เป็นพื้นที่นั่งเล่นกับส่วนรับประทานอาหารค่ะ มีระเบียงออกไปนั่งเล่นชมวิวได้ โดยตำแหน่งจริงๆ ระเบียงนี้ จะหันหน้าออกแม่น้ำค่ะ เป็นระเบียงที่เป็นตัว L
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ ก็มีส่วนของ Walk-in closet ให้เช่นกัน ห้องน้ำกว้าง มีพื้นที่เล็กๆให้วางโซฟาเดี่ยวๆได้นิดหน่อยด้วค่ะ ห้องนอนตรงนี้จะได้กระจกเข้ามุมเต็ม ซึ่งถ้าดูจากตำแหน่งแล้วก็น่าจะเป็นจุดที่ดีที่สุดจุดในในตัวคอนโด เพราะมองเห็นวิวสะพานพระราม 9 ได้
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 3 ห้องนอน Penthouse ขนาด 420 ตารางเมตร
เอาห้อง Penthouse มาฝากค่ะ เป็นแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 420 ตารางเมตร สเปซขนาดนี้เหมือนเป็นบ้านเดี่ยวอยู่บนคอนโดกันเลย ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับค่าตัวที่สูงลิ่วเช่นกันค่ะ สเปซด้านในนั้นเป็นแบบ Duplex ที่มีกระจกรอบ ดูแล้วอลังการแน่ๆค่ะ
ห้องแบบนี้จะมีแค่ 3 ยูนิตนี้เท่านั้น ที่พิเศษกว่า Penthouse แบบอื่นในโครงการคือจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ที่ระเบียงด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็มี Penthouse ขนาดอื่นๆเริ่มตั้งแต่ 192-500 ตารางเมตรค่ะ ทั้งหมดมี 10 ยูนิตเท่านั้น จะอยุ่ที่ชั้นสูงๆเท่านั้น เริ่มที่ชั้น 52 โดยคนที่อยู่ห้องแบบอื่นๆจะไม่สามารถขึ้นมาได้ เนื่องจากมี Private Lift แยกส่วนตัวอีกทีค่ะ
ห้องตัวอย่างที่เอามาให้ชมกันมีแบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 85 ตารางเมตร ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องสูง 3 เมตร ห้องที่ได้จริงๆจะเป็นแบบ Fully-Fitted ค่ะ มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าอน่างเตาไมโครเวฟ และตู้เย็นมาด้วย, ฝ้าและผนังเรียบทาสีขาวไม่มี Wallpaper จะมีดีเทลบางชิ้นที่ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง เดียวจะบอกแทรกไว้ในรายละเอียดนะคะ
ห้องตัวอย่างคอนโด CanapayaResidences แบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร
มาชมห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนกันค่ะ เข้ามาก็จะเจอส่วนพื้นที่ครัว ข้างๆเป็นส่วนนั่งเล่นกับทำงาน
มาดูที่ส่วน pantry ครัวชัดๆกัน Built-in ครัวเป็นรูปตัว L ได้ตามนี้เลยค่ะ มีตู้เย็นกับเตาไมโครเวฟ Siemens ให้มาด้วย
อีกมุมนึงของห้องครัว วางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้อยู่ค่ะ ส่วนห้องที่เห็นติดประตูจะเป็นห้องน้ำค่ะ
มุมห้องทำงานค่ะ รับแสงจากด้านนอกและมองไปก็ได้วิวด้วย การวางตำแหน่งโต๊ะทำงานตรงนี้ก็ได้อย่างเสียอย่าง คือใช้สเปซคุ้มค่าจริงแต่ก็จะทำให้ระยะจากโซฟาถึงทีวีสั้นไปหน่อยครับ ถ้าใช้ทีวีใหญ่มากๆอาจจะดูไม่สบายตา
ถ่ายให้ดูสัดส่วนพื้นที่ครัว พื้นที่ทำงานและพื้นที่นั่งเล่นค่ะ
ห้องน้ำเข้าได้ทั้งจากห้องนอนและติดประตูทางเข้าห้องค่ะ โทนสีในห้องเป็นสีขาว ใช้กระเบื้องลายหินอ่อน
มุมห้องน้ำอีกด้าน จากส่วนอาบน้ำมองออกมา
มาดูที่ห้องนอนกันบ้าง ห้องจริงจะไม่ได้มีเตียงให้นะคะ ถ่ายให้ดูขนาดของสเปซเฉยๆ
ตู้เสื้อผ้าได้ตามนี้ค่ะ
ผนังปลายเตียงไว้วางทีวี ผนังจริงๆเป็นทาสีขาวเรียบๆค่ะ
ถ่ายให้ดูพื้นที่ระหว่างเตียงกับหน้าต่าง สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ มีที่เหลือไม่แคบเกินไปค่ะ พื้นที่เหลือพอควร
วนกลับมาส่วนนั่งเล่นกันอีกรอบ รับแสงธรรมชาติได้ดี เพราะได้กระจกบานใหญ่มาเต็มบานค่ะ มีระเบียงออกจากทางห้องนั่งเล่นด้วย
พื้นที่ระเบียง เนื่องจากในห้องตัวอย่างเป็น Clubhouse จึงมีระเบียงยื่นต่อไปอีก ของจริงไม่มีแบบนี้นะคะ ระเบียงจะสุดแค่แนวราวกันตกกระจกเท่านั้นค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด Canapaya residences
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร
เปิดประตูเข้ามาชมห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนกันค่ะ มองไปจะเจอส่วนระบประทานอาหารกับส่วนนั่งเล่น แถมวางโต๊ะทำงานได้นิดหน่อย
พื้นที่ครัวเป็นรูปตัว U ค่ะ มี Island ยื่นออกมา ของทั้งหมดได้ตามรูปเลยทั้งเคาท์เตอร์ เตา ฮูทลอยตัว ไมโครเวฟและตู้เย็น
สเปซครัวกับพื้นที่นั่งเล่นกั้นด้วย Island
จากพื้นที่นั่งเล่นค่ะ วางโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้พอดี ด้านขวามือจะเป็นส่วนของทางเข้าห้องนอน ในห้องตัวอย่างพอติดกระจกเงาเข้าไปก็ยิ่งทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก
จากโต๊ะทานข้าว ถ่ายให้เห็นสเปซนั่งเล่น วางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ค่ะ ลักษณะการวางโซฟาและโต๊ะเขียนหนังสือตรงนี้จะเป็นแบบเดียวกับ 1 ห้องนอนด้านบน แต่จะยืดหยุ่นว่าเพราะมีพื้นที่ให้ขยับได้บ้าง วางทีวีใหญ่กว่าได้ค่ะ
รูปนี้จากบริเวณโต๊ะทานข้าวเช่นเดียวกัน มองไปด้านหน้าห้องและประตูทางเข้าติดกับส่วน pantry ค่ะ
ห้องนอนเล็กค่ะ วางเตียงแบบ 3 ฟุตได้กำลังดี ไม่มีห้องน้ำในตัว
จากทางเดินหน้าห้องนอนเล็ก มองไปเป็นห้องนอนใหญ่
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กัน มีห้องน้ำในตัวนะคะ กระจกที่กั้นส่วนอ่างอาบน้ำในห้องตัวอย่างเป็นกระจกที่ซอยเฟรม แต่ของจริงจะเป็นกระจกใหญ่เต็มบานค่ะ
ห้องนอนใหญ่อีกรูป มีพื้นที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือชั้นวางทีวีได้ สเปซค่อนข้างเยอะ
ออกจากห้องนอนใหญ่ ถ่ายจากทางเดินมองไปจะเห็นพื้นที่ครัวกับส่วนนั่งเล่น
ออกมาที่ระเบียงตรงส่วนห้องนั่งเล่นกันค่ะ ความยาวระเบียง ยาวสุดระหว่างสเปซส่วนพักผ่อนนั่งเล่นถึงสเปซส่วนโต๊ะทานข้าวเลย ได้พื้นที่เต็มๆดี แต่อย่างว่าถ้าทำคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาห้องใหญ่แล้วไม่มีระเบียงใหญ่ๆแบบนี้ให้มันก็ไม่โอแน่ๆ ตรงนี้ก็เลยถือว่าทำมาได้ดี
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมก็ให้มาดีตามราคาที่สูงค่ะ คือจัดเป็นคอนโดสำหรับตลาดบนๆไปแล้ว วัสดุที่ให้มาให้มาแบบ Fully-Fitted มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นมาให้ด้วย โดยรวมๆแล้วใช้วัสดุได้ดี ดูมีราคาค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
ครัวแบบ 1 ห้องนอน เคาท์เตอร์รูปตัว L ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะให้ด้วย หน้าบานผิว Hi-Gloss สีขาวเรียบ
ลิ้นชักไว้เก็บช้อนส้อม หน้าบานครัวแบบ Soft-Closed
เตาไมโครเวฟของSiemens
Hood ของ Siemens เช่นกัน
อ่างล้างจานยี่ห้อ Blanco แบบ 1 ห้องนอนจะได้เป็นแบบนี้ค่ะ ฝังเข้าไปในเคาท์เตอร์ ส่วนTopเป็นหินสังเคราะห์ หัวก็อกของ Hansgrohe สัมผัสของวัสดุนั้นดีมาก ใช้ของมีแบรนด์
ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะได้พิเศษขึ้นมาหน่อย มีแยก 2 หลุม
แบบ 1 ห้องนอนได้เตาไฟฟ้าของ Siemens แบบสองหัว
แบบ 2 ห้องนอนได้เตาไฟฟ้าของ Siemens ได้เพิ่มาเป็นสี่หัว
พื้นที่เก็บของของครัวแบบ 2 ห้องนอนค่ะ จุใจทีเดียว เลื่อนออกมาได้ด้วย
วัสดุห้องน้ำ
ห้องน้ำของ 1 ห้องนอน แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย ยี่ห้อ Showerlux Duscholux
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ วางของได้นิดหน่อย มี่องเสียบปลั๊กให้ด้านข้าง ตรงนี้น่าจะใช้รุ่นที่มีฝากันน้ำนะคะ เพื่อน้ำกระเด็นไปโดนจะอันตราย ถงแม้ว่าจะติดไว้ค่อนข้างสูงก็เถอะ
เคาน์เตอร์ลอยตัวลายหินอ่อน ใต้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ แต่ของจริงหน้าบานจะเป็น Hi-Gloss สีขาวนะคะ ในห้องตัวอย่างเป็นบานกระจกมา
เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าบางห้อง(แบบ 2 ห้องนอน) ก็จะเป็นแบบฝังครึ่งเคาท์เตอร์ ได้พื้นที่วางของมากกว่า มีตู้เก็บของให้เช่นกัน
ก๊อกน้ำใช้ของ Hansgrohe เช่นเดียวกับหัวก็อกที่ pantry
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Villeroy & Boch ของแพงนะค้าาา
ฝักบัวของ Hansgrohe แต่หัวฝักบัวนั้นดูหน้าตาธรรมดาไปนิด
หัวก๊อกเปิดฝักบัวของ Hansgrohe ระบบน้ำเป็นระบบน้ำร้อนผสมน้ำเย็น
อ่างอาบน้ำที่ได้เพิ่มมาของแบบ 2 ห้องนอน เป็นของยี่ห้อ Kaldewai ตัววัสดุที่ทำอ่างนั้นโฆษณาไว้ว่าเป็นวัสดุไม่ติดไฟนะคะ ว่าแต่ใครจะเอาไฟไปจุดในอ่างอาบน้ำเนี้ย
พื้นที่ส่วนอาบน้ำค่ะ สังเกตดูตรงขอบรอยต่อจะปาดมุมหินให้ลาดลง ตอนไปรีวิวก็ทดลองเดินไปเดินมา เวลาวางเท้าไปแล้วมันจะแนบพอดีไม่ต้องเป็นธรณีเอาไว้ ตรงนี้ทำดีเทลมาได้ดีค่ะ
พื้นห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ติดSlopeไว้ให้
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
Digital Door Lock ของ Yale ค่ะ
ประตูทางเข้าสีขาว ขนาดความสูงของประตูจะสูงกว่าปกติ เนื่องจากเพดานสูงกว่าปกติเช่นกัน
พื้นห้องนอนเป็น Engineering Wood หน้าไม้สัก กับส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นกระเบื้องลายหินแกรนิโต้ ขนาด 60×60 ซม. รอยต่อระหว่างห้องนอนกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นมีเส้นสแตนเลสคาดไว้
พื้นห้องครัวกับห้องน้ำจะเหมือนกันคือ แกรนิโต้ ขนาด 60×60 ซม.
ผนังของจริงเป็นทาสีขาวเรียบค่ะ รูปนี้ให้ดูผิวลายไม้ สวยทีเดียว
พื้นระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ตัวจบเป็น Engineer wood แบบห้องนอน
ฝ้าเพดานส่วนนี้Dropให้เพื่อวางรางม่านให้ แต่จะทำแค่แนว้าม่านนะคะ ไม่ได้หักมุมเป็นตัว L แบบนี้
ของจริงจะไม่มีซ่อนไฟใต้ฝ้าแบบนี้นะคะ เป็นฝ้าทาสีขาวเรียบชนผนังเลย
สวิตช์ไฟของ Schneider หน้าตาดูดี
พื้นระเบียงเป็นไม้เทียม
ประตูบานสไลด์ใหญ่ ผิวอลูมิเนียมให้สัมผัสที่ดีมาก แต่บานกรอบประตูใช้วัสดุแข็งแรงมากแต่ก็มาพร้อมความหนักค่ะ เลื่อนค่อนข้างยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นแรงผู้หญิงนี่เหนื่อยค่ะ
รางประตูบานslide ตรงระเบียงฝังไว้ระดับเดียวกับพื้นห้องเลยค่ะ ใช้วิธีฝังบานกรอบล่างของอลูมิเนียมลงไป
ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยลามิเนต ในห้องตัวอย่างจะเป็นกระจกบานเปลือย แต่ของจริงจะมีราวจับนะคะ และความสูงของจริงจะสูงกว่าในห้องตัวอย่างอยู่ที่ 120 ซม. ที่ต้องเว้นร่องกระจกไว้เนื่องจากคอนโดอยู่ใกล้แม่น้ำอาจจะเจอลมแรงได้ การเว้นช่องแบบนี้ก็ช่วยลดแรงปะทะของลมที่เข้ามากับกระจกตรงๆ
แบบ 1 ห้องนอน คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ตรงระเบียง หน้าตัดของอลูมิเนียมโล่งๆปล่อยไว้โลนๆจะมีความชื้นเข้าไปได้ ถ้าเก็บปิดดีเทลหน้าตัดของอลูมิเนียมไว้ให้เรียบร้อยก็จะดีค่ะ
คอมเพรสเซอร์แอร์ มีระแนงอลูมิเนียมทาสีขาวบังช่วยสายตา
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ในเรื่องของราคานั้นเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้นอยู่ที่ 16x,xxx บาทค่ะ ถ้าเป็นราคาเฉลี่ยในภาพรวมของทั้งโครงการก็อยู่ที่ประมาณ 18x,xxx บาทต่อตารางเมตร ซึ่งโดยราคาก็เป็นกลุ่มตลาดบนที่เริ่มไปอยู่ในกลุ่มของการซื้อขายด้วยอารมณ์ (Emotional Benefits) เป็นหลักมากกว่าจะโฟกัสเรื่องความคุ้มค่าของเงินอย่างเดียวค่ะ
ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (25 กรกฎาคม 2557) อยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 7.58 ล้านบาท ส่วนแบบ 2 ห้องนอน 86 ตารางเมตรจะอยู่ที่ 14.64 ล้านบาท แต่ส่วนของ Penthouse จะโดดไปที่ตารางเมตรละ 300,000 กว่าบาทเลยทีเดียวค่ะ อันนี้สำหรับเศรษฐีเงินเหลือๆนะคะ ^^”
ราคา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2557
ราคาเริ่มต้น :
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท เฉลี่ย 168,454 บาท/ตร.ม.
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท เฉลี่ย 170,206 บาท/ตร.ม
2 bedroom Duplex พื้นที่ 78 ตร.ม. ชั้น 14 ราคา 13,855,062 บาท เฉลี่ย 177,629 บาท/ตร.ม
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท เฉลี่ย 180,000 บาท/ตร.ม
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
1 bedroom จอง 50,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
2 bedroom จอง 80,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
2 bedroom Duplex จอง 80,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
3 bedroom จอง 100,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
- ผ่อนดาวน์
30 งวด รวมประมาณ 20%
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 800 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 36,872 บาท/เดือน
2 bedrooms พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 71,199 บาท/เดือน
3 bedrooms พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 81,425 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 38,969 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 82,031 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 86,057 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 42,482 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 94,395 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 93,813 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 48,885 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 94,395 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 107,952 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 62,595 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 120,871 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 138,230 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ตัวโครงการนั้นอยู่ในเส้นพระราม 3 ช่วงระหว่างทางด่วนเฉลิมมหานครและถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งถนนเจริญราษฎร์นี้สามารถใช้ตรงเข้าสู่สาทรตรงแยกสุรศักดิ์ได้ หรือจะใช้สะพานกรุงเทพข้ามไปลงทางฝั่งธนบุรี เข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ได้ ถ้าย้อนไปอีกทางก็จะไปออกคลองเตย เข้ารัชดาได้ โดยลักษณะของถนนเลยเหมือนเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างพื้นที่กลางเมืองจุดต่างๆ เรียกว่าตรงเข้าถึงจุดต่างๆไม่ลำบากแต่ต้องขับรถกันไกลหน่อย ส่วนถ้าไม่ได้ขับรถ ด้านหน้าโครงการมี BRT สถานีพระราม 9 ผ่าน แต่เอาจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อโครงการระดับราคานี้ก็น่าจะใช้รถเองกันหมดอยู่แล้ว เลยไม่น่าใช้มาปัจจัยพิจารณาเท่าไหร่ค่ะ ดูเรื่องการเชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆดูจะมีน้ำหนักมากกว่า
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ที่ดินในแนวถนนพระราม 3 ช่วงเลียบแม่น้ำเจ้าพระยานี้ยังมีแปลงว่างๆอยู่เยอะมากทีเดียว (แต่ว่างนี่คือมีเจ้าของซึ่งเก็บที่ดินรอเวลาเอาไว้แล้วนะคะ) บริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็มีอาคารสำนักงานมาเปิดเพิ่มขึ้น เพราะเป็นจุดที่กระจายตัวออกมาจากในเมืองอย่างสาทร และเป็นพื้นที่ที่เริ่มมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่พอควร ทำให้โครงการประเภทคอนโดก็ตามๆกันมามากขึ้น แต่ตลาดคอนโดโซนนี้ก็คงไม่ได้โตอย่างหวือหวานักในเรื่องจำนวนและยูนิตขายเมื่อเทียบกับโซนอื่นๆ แม้จะเป็นจุดที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองมากนักแต่รอบๆก็ไม่ได้หนาแน่นหรือดูคึกคักเท่าไหร่ จุดเด่นที่เห็นชัดของคอนโดโซนนี้คือ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ขายวิวสวยๆค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ที่ดินของตัวโปรเจคทั้งหมดนั้นมีทั้งโรงแรม พลาซ่าและคอนโด ที่ที่ดินเดิมถูกแบ่งด้วยคลองระบายน้ำสาธารณะทำให้เกิดการแยกโซนที่เป็น Private กับ Public ของคนที่อยู่ในคอนโดได้อย่างชัดเจนมากขึ้นด้วยคลองนี้ และการจัดวางตึกไม่พยายามไม่บังสายตากันมากนักถือว่าทำออกมาได้ดี แต่อย่างที่บอกไปเรื่องคลองว่าเนื่องจากเจ้าของเป็นกทม. ไม่ใช่ของตัวผู้ประกอบการเอง ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในอนาคตด้วย เพราะถ้าเกิดมีคลองแล้วน้ำไม่หมุนเวียนก็อาจจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูนัก ซึ่งก็หวังว่าทางดีเวลลอปเปอร์คงจะคิดเรื่องตรงนี้เอาไว้แล้วด้วยส่วนนึง
ตัวตึกออกแบบโดย Palmer & Turner (P&T) รูปทรงของอาคารนั้นต้องยอมรับว่าดูค่อนข้างแปลกตาไปจากคอนโดทั่วๆไปค่ะ โดยเฉพาะส่วนยอดอาคารซึ่งเป็นรูปเงินของจีนสมัยโบราณ ต้องถือว่าค่อนข้างกล้าที่ทำดีไซน์ออกมาหลุดจากของเดิมๆแบบนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าของจริงจะออกมาเป็นยังไง ที่ชั้น 1 ของโครงการให้มาเป็น Lobby แบบ Triple Volumn สูงมาก ผนังแต่ละชั้นก็ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับคอนโดทั่วๆไป การที่เริ่มห้องพักอยู่ที่ชั้น 8 ทำให้ห้องพักทั้งหมดไม่ค่อยโดนบังวิวจากตึกสำนักงาน 8 ชั้นข้างๆสักเท่าไหร่ ถ้าดู Floor Plan ของแต่ละชั้นจะเห็นว่าค่อนข้างต่างกันไป มีการสลับตำแหน่งห้องกันบ้างเพื่อให้มองจากด้านนอกแล้วเกิดจังหวะขององคค์ประกอบต่างๆบนตัวผนังอาคาร ไม่ได้เรียบๆเหมือนกันหมดทุกชั้น
การวางแปลนภาพรวมก็จัดออกมาได้ดีที่เดียว โดยจะไม่มีห้องที่หันหน้าออกทางถนนใหญ่ เน้นวางไปในวิวแม่น้ำ แต่ละชั้นก็มีจำนวนยูนิตน้อย สูงสุดแค่ 7 ยูนิตต่อชั้น เหมาะสมกับคอนโดในราคาระดับนี้ไม่ได้หนาแน่นมาก ส่วนพวกแปลนห้องโดยรวมก็เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ มีให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความเหมาะสมในการใช้งาน และที่สำคัญคือเงินในกระเป๋า เพราะด้วยระดับราคานี้พื้นที่ต่างกันไม่เท่าไหร่แต่ราคาก็จะต่างกันอยู่พอควร
ด้านวัสดุนั้นให้ดีตามราคาที่สูงตามไป ส่วนพื้นที่ครัวในห้องตัวอย่างก็ให้มาเต็มที่ ทำที่เก็บของไว้ให้หลายจุด อย่างแบบ 1 ห้องนอน กับ 2 ห้องนอน บางส่วนก็จะไม่เหมือนกันอยู่ที่ฟังก์ชั่นการจัดวาง ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบๆ มีทั้งแยกส่วนมาเป็น Clubhouse ชั้นล่างที่มี ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวน ห้องสมุด และห้องอเนกประสงค์ ถูกจัดวางอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ จุดเด่นอีกอย่างคือ มีท่าจอดเรือส่วนตัวอีกด้วยซึ่งต้องเสียเงินเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีในส่วนของชั้น 50 ที่เป็นสระว่ายน้ำพร้อมส่วนพักผ่อนชมวิวแม่น้ำจากมุมสูงด้วย
สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 63 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นถือว่าพรีเมียม ในส่วนของ Penthouse ยังมีลิฟต์ส่วนตัวทำให้ราคาอัพขึ้นไปสูงกว่าเดิมอีก ที่จอดรถมีให้ถึง 140% แต่ก็ด้วยราคาระดับนี้ก็สมเหตุสมผล เพราะผู้อยู่ส่วนใหญ่ก็คงต้องใช้รถในการเดินทาง อีกทั้งตัวคอนโดก็ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายหลักด้วย
ด้านตัวเลือกอื่นๆ
โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้ที่เด่นชัดที่สุดก็คงหนีไปพ้น The Pano ระดับราคาก็จะอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 120,000 บาท แต่ก็ยังราคาสูงสู้ Canapaya ไม่ได้อยู่ดีค่ะ โครงการนี้เลยแทบจะถูกจัดเป็นตัวบนสุดของทำเลในโซนนี้ ณ ปัจจุบัน นอกจากนั้นก็เป็นคอนโดระดับที่ถูกลงมา จับกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกันไม่ได้มาชนกันโดยตรง ส่วนในอนาคตเนื่องจากที่ดินตรงแถบพระราม3 ยังเห็นเป็นพื้นที่ว่างอยู่เยอะ ก็น่าจะมีการพัฒาโครงการประเภทคอนโดเพิ่มขึ้นตามๆกันมาอีก
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ
รีวิวได้ดีเยี่ยมครับ