สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ  รีวิวนี้อยู่สบายจะพาไปดูคอนโดโครงการ The Saint Residences (เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส) ที่ตั้งอยู่บนที่ดินเดิมของโรงเรียนเซนต์จอห์น  ใกล้ๆกับห้าแยกลาดพร้าวกัน  โครงการ The Saint Residences นี้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว  แต่ยังไม่มีห้องตัวอย่างและสำนักงานขายมาให้ชมกัน  เรียกว่าขายโปรเจคกันบนกระดาษนั่นแหละ  ตอนนี้โครงการมีสำนักงานขายและก็ห้องตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว  ทางเรามีโอกาสแวะไปถ่ายภาพเก็บข้อมูลรีวิวฉบับเต็มมาฝากกัน  เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกคนในการตัดสินใจครับ

Update 21 กรกฎาคม 2559

• รีวิว Benedict at The Saint Residences ( Phrase 2 – อาคาร B ) >>> คลิกที่นี่

The Saint Residences (เดอะ เซนต์ เรซิเดนเซส)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ซาแลน ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด  (Salan Development)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนวิภาวดีรังสิต ติดมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
• ขนาดที่ดิน >>>  7-0-51.4 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 41 ชั้น  (ที่จอดรถชั้น 1-6)
• จำนวนอาคาร >>>  3 อาคาร Tower A, B, C
• ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน / 3 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 30-43 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 55-70 ตารางเมตร
  • 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 84-134 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  1,537  ยูนิต  และ Commercial shops 4 ร้าน
• ที่จอดรถ >>>  46% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.87 ล้านบาท  (ห้อง 30.38 ตารางเมตร ณ วันที่ 1/5/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>
  • Tower B ราคาเฉลี่ยประมาณ 14x,xxx บาท/ตารางเมตร
  • Tower C ราคาเฉลี่ยประมาณ 16x,xxx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.811338, 100.559914
• เบอร์ติดต่อ  >>> 081-554-7575, 081-554-3030

เล่าความเดิมกันก่อนว่าคอนโด เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส นี้มีทั้งหมด 3 ทาวเวอร์ แต่ใช้โพเดียมเดียวกัน  แบ่งเป็น Tower A, B และ C ครับ  โดยตอนที่เปิดโครงการนั้นจะเปิดขายแต่เฉพาะ Tower C ด้านในสุด  ตอนนี้ (พ.ค. 58) ก็เปิดขายในส่วนของ Tower B เพิ่มด้วย

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ในเรื่องของตำแหน่งที่ตั้งโครงการและสภาพแวดล้อม  เคยถ่ายภาพและเล่าเรื่องให้อ่านกันไปแล้ว  ในรีวิวนี้เลยจะไม่ได้ลงข้อมุลซ้ำ  สามารถไปอ่านรายละเอียดได้ที่ >> Preview The Saint Residences    ส่วนในบทความนี้เราเข้าไปดูกันที่สำนักงานขายเลยครับ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

สำนักงานขายก็อยู่ติดกับถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งมุ่งหน้าไปทางดินแดง)  ใกล้ๆกับห้าแยกลาดพร้าว

เจ้าตึกขาวๆ โค้งๆนี่แหละครับ

เข้ามาในสำนักงานขาย ดีไซน์ใช้เส้นโค้งซะเยอะเลย

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

คอนโดเดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส นั้นจะอยู่เลยจากห้าแยกลาดพร้าวมาหน่อย  ตรงพื้นที่นี้จะมีถนนมาจากหลากหลายทิศทางตัดกันวนไปวนมาอยู่เยอะเนื่องจากเป็นแยกใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของถนนหลายสาย  ตรงด้านหน้าโครงการนั้นจะมีถนน 2 เลน และก็มีทางลงของสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวที่มาจากช่วงหน้าเซ็นทรัลอยู่ด้วย  เพราะฉะนั้นถ้ามาจากทางเซ็นทรัลแล้วออกทางฝั่งโรงแรม Centara Grand @ Central Ladprao มาทางวิภาวดี จะต้องใช้ทางราบเท่านั้น  ถ้าขึ้นสะพานข้ามแยกมาจะเลี้ยวเข้าโครงการไม่ได้นะครับ

ทางอื่นๆถ้ามาจากถนนลาดพร้าว ก็เลี้ยวซ้ายเข้าวิภาวดีมาที่หน้าคอนโดได้เลย  เช่นเดียวกับการมาทางพหลโยธิน (จาก BTS หมอชิต) ก็เลี้ยวขวาเข้าวิภาวดีมาทางหน้าโครงการได้เช่นกัน  ที่ดูจะลำบากกว่าทางอื่นคือการเข้าถึงจากทางวิภาวดีขาออก  เพราะว่าต้องวนไปกลับรถมาไกลอยู่  ต้องใช้สะพานวนไปลงหน้าเซ็นทรัลแล้วกลับรถมาอีกทีนึงถึงจะเข้าโครงการได้  เพราะฉะนั้นถ้าใช้ถนนวิภาวดีขาออกมาคอนโดนี่ก็จะลำบากกว่าทางอื่นๆครับ

ผมทำผังกราฟิกลงไปให้ดูกับแนวเส้นถนนรวมถึงอาคารรอบๆ  จะเห็นว่าตัวคอนโดนั้นมีทั้งหมด 3  ตึก  Tower C ที่อยู่ด้านในสุดชั้นล่างๆจะโดนบีบมุมมองจากตึกข้างๆของเซนต์จอห์นเอง  และก็ Tower A ทางฝั่งทิศใต้ชั้นล่างๆจะมีตึกหกเหลี่ยมของมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นบังวิวอยู่  ถ้าชั้นสูงๆขึ้นไปถึงจะโล่งครับ  นอกจากนี้จะเห็นว่าตัวที่ดินของคอนโดนั้นถอยเข้าไปอยู่ด้านใน  โดยด้านหน้ามีที่กันแยกไว้ 2 แปลง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเจ้าของเดียวกันกับโครงการแหละครับ  อีกหน่อยน่าจะต้องหยิบมาพัฒนาอะไรสักอย่างนึง  ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะขึ้นเป็นอะไรและมีผลต่อมุมมองและ Exposure ด้านหน้าของตัวคอนโดหรือเปล่าด้วย

ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมที่ทางโครงการบอกมาแต่เรายังไม่เห็นในผังคอนโดก็คือเดี๋ยวจะเจาะช่องทางเข้าตรงซอยลาดพร้าวซอย 2 เพื่อให้สามารถเดินไปรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าวได้สะดวกและใกล้ขึ้นครับ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ทิศทางของแดดนั้นเป็นไปตามกราฟิกที่วางไว้ในในรูปครับ  ด้านหน้าโครงการ The Saint Residences นั้นเปิดเข้าหาทิศตะวันตกโดยตรง พื้นที่ส่วนกลางที่เห็นแบ่งเป็น 2 ส่วนนั้น สระว่ายน้ำตรงกลางระหว่าง 3 Towers ก็จะร้อนหน่อยในช่วงบ่ายแก่ๆ  ส่วนสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังของ Tower C นั้นจะร่มตลอดวันเพราะอยู่ด้านทิศตะวันออกแล้วมีตัวตึกช่วยบังแดดบ่ายให้ด้วย

สำหรับการวางตัวอาคาร Tower A และ B แบบนี้จะเห็นว่าจะมีด้านนึงที่รับแดดตลอด  และอีกด้านนึงที่ร่มกว่าตลอด  เพราะฉะนั้นการเลือกทิศทางและตำแหน่งก็จะมีผลมากครับ  อย่าง Tower B ห้องที่ได้วิวสระก็จะร้อนกว่าฝั่งที่ไม่ได้วิวสระ  ส่วน Tower A ห้องที่ได้วิวสระนั้นจะได้ร่มมาด้วย (ไม่ได้ร้อนแบบห้องวิวสระของ Tower B)  แล้วก็ถ้าลองสังเกตดีๆเราจะเห็นว่าดีไซน์ฝั่งตรงทิศตะวันตกของ Tower C ที่โดนแดดนั้นจะมีแนวผนังรับน้ำหนักของอาคารยื่นออกมาเป็นส่วนช่วยสกรีนบังแดดให้ด้วย  ซึ่งเดียวจะชี้ให้ดูกันต่อในส่วนของ แปลนครับ

ส่องโมเดล

เรามาดูกันในส่วนของตัวโมเดลครับ  ภาพถ่ายโมเดลของบทความพรีวิวที่ผมเขียนตอนเปิดตัวโครงการนั้น  ตัวโมเดลจะโดนสีของแสงไฟในงานฉาบไว้ทั้งหมด  เราเลยแทบไม่เห็นสีจริงๆกันเลย  มารอบนี้ถ่ายให้ดูกันได้ชัดเจนขึ้นครับ

มุมนี้เป็นด้านหน้าโครงการ  จะเห็นว่ามีที่ดินเหลืออยู่ 2 แปลงด้วย  ห้องที่หันหน้ามาเจอกันตรงๆก็จะเป็นทิศใต้ของ Tower B และทิศเหนือของ Tower A  นอกนั้นตำแหน่งห้องก็จะวางหลบๆกันได้หมด

มุมจากด้านหลัง

มุมนี้มองไปจากฝั่ง Centara Grand @ Central Ladprao ครับ

ลองดูใกล้ๆกัน พอเข้ามาในคอร์ทกลางของคอนโดจะเห็นเป็นโถงเสาสูงชะลูดขึ้นไป

ที่ฝั่งตรงที่จอดรถด้านหน้าก็ทำแพทเทิร์นเอาไว้ ดีไซน์น่าสนใจดี

อีกมุมนึงของพื้นที่ตรงกลางคอร์ท  เราจะเห็นโถงเสาสูงชะลูดขึ้นไปหลายชั้น  สเปซตรงนี้เสร็จแล้วน่าจะออกมาแปลกตาดีหล่ะครับ

ซูมให้ดูกันตรงสระว่ายน้ำ  ซึ่งเชื่อมระหว่าง Tower A และ B

ส่วนนี้เป็นสระว่ายน้ำด้านหลังที่อยู่กับ Tower C

แม้พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 7 แต่เวลาเดินเชื่อมกันจริงๆจะต้องเชื่อมกันที่ชั้น 6 ครับ

นอกจากแพทเทิร์นตรงที่จอดรถแล้ว  บางส่วนก็ทำเป็นแนวฝั่ง Green Wall ตรงนี้ก็ต้องรอดูว่าจะใช้เทคนิคยังไงให้อยู่รอดได้หล่ะครับ

ลักษณะของ Pattern บนผนััังคอนโดแต่ละตึกจะต่างกันนะครับ  ที่ Tower C (รูปข้างล่าง) จะเน้นเส้นตั้งและเส้นนอน  ส่วน Tower A และ B จะเน้นที่เส้นนอนอย่างเดียว

ลองดู pattern เปรียบเทียบของ Tower B กับ C กันนะ  พอจะเห็นความแตกต่างใช่ไหมครับ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร และ 25 เมตร  โดยสระ 50 เมจรจะอยู่ตรงกลางของคอร์ทระหว่างแต่ละตึก  ส่วนสระ 25 เมตร จะดูส่วนตัวกว่าเพราะอยู่ด้านหลังฝั่ง Tower C  แต่ว่าเวลาใช้งานก็สามารถใช้รวมกันได้หมดโดยเดินทางเชื่อมที่ชั้น 6 ซึ่งถ่ายรูปให้ดูจากในโมเดลไปแล้วครับ

ในส่วนของ Tower B และ C ที่ชั้น 7 ฝั่งหันเข้าหาสระว่ายน้ำนั้นก็จะมีฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ห้องสตรีม, ห้องแอโรบิค และห้องโยคะ แยกออกจากกันทั้ง 2 ตึก และก็มีส่วน Club House และ Library Lounge ที่ตึก A  และที่ชั้นบนของแต่ละตึกก็จะมีสวนอยู่ด้วยครับ

ด้านความหนาแน่นของลิฟต์นั้น  ที่ Tower A และ Tower C จะมีลิฟต์โดยสารตึกละ 4 ตัว ส่วน Tower B จะมีลิฟต์แค่ 3 ตัวครับ  ส่วนลิฟต์บริการนั้นมีมาให้ตึกละ 1 ตัวอยู่แล้ว  ที่จอดรถมีมา 46% แบบรวมจอดซ้อนคันแล้ว  ตัวเลขก็ถือว่าน่าจะน้อยไปหน่อยสำหรับคอนโดที่ติดถนนใหญ่อย่างวิภาวดีครับ

สเปซตรงทางเข้าที่เป็นโถงเสาสูงขึ้นไป  ถ้าด้านหน้าของจริงลงต้นไม้ใหญ่ได้แบบในรูปนี่จะน่าอยู่มาก

สระน้ำตรงกลางความยาว 50 เมตร ขอบเป็นแบบน้ำล้น

ส่วนนี่เป็นสระ 25 เมตรครับ

ด้านบนก็มีสวนเล็กๆอยู่

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Saint Residences (Tower B) ชั้น 7

ตัว Tower B นั้นจะหันด้านทิศใต้เข้าหาฝั่งคอร์ท Facilities ตรงกลางโครงการครับ  ถ้าในแปลนชั้น 7 ที่เห็นนั่นก็คือส่วนที่เป็นฟิตเนสและพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ  อีกฝั่งนึงก็จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย

Typical Floor Plan คอนโด The Saint Residences (Tower B) ชั้น 8-40 

Typical Floor Plan นั้นจะเหมือนกันหมดตั้งแต่ชั้น 8-40 ห้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน  มีแบบ 2 ห้องนอนอยู่ตรงหัวมุมชั้นละ 2 ห้อง

Floor Plan คอนโด The Saint Residences (Tower C) ชั้น 7

มาในส่วนของ Tower C ซึ่งแปลนเป็นตัว L  ในชั้น 7 ส่วนที่เป็นฟิตเนสและพื้นที่ส่วนกลางต่างๆนั้นก็จะหันเข้าหาสระว่ายน้ำครับ  ตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ตรงมุมตัว L ทำให้การเดินไปห้องตรงปลายขาของตัว L แต่ละฝั่งนั้นไม่ห่างกันมาก

Typical Floor Plan คอนโด The Saint Residences (Tower C) ชั้น 8-40 

ชั้น Typical Floor Plan ก็จะอยู่ที่ชั้น 8-40 เช่นกันครับ  ห้องส่วนใหญ่ก็เป็นแบบ 1 ห้องนอนเช่นเดียวกัน  ในแต่ละชั้นจะมีแบบ 2 ห้องนอนอยู่ชั้นละ 3 ห้อง  ตรงมุมยกเว้นมุมด้านขาตัว L ที่ชี้ไปทางหลังโครงการจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน

ถ้าสังเกตดูแปลนนี้จะเห็นว่าห้องทางทิศตะวันตกจะมีผนังรับน้ำหนักของอาคารยื่นออกมาเพื่อเอามาช่วยสกรีนแสงแดดตอนบ่ายไป  ซึ่งห้องแบบเดียวกันนี้ที่ตึก B ก็จะไม่มีผนังโครงสร้างยื่นออกมาแบบนี้ครับ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องหลักๆส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่แบบบ 1 ห้องนอน  โดยขนาดมาตราฐานในโครงการที่มีกันเยอะสุดก็จะเป็นแบบขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร  ส่วนตรงมุมอาคารก็จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่พื้นที่ใหญ่ขึ้น  และแบบ 2 ห้องนอนครับ  ในตอนที่ไปรีวิวนั้นโครงการก็ยังไม่ได้เปิดแบบแปลนมาให้ดูกันทุกแบบ  แต่จะมีเฉพาะแบบที่เปิดขายอยู่แค่นั้น  ผมเลยเลือกแบบหลักๆของโครงการรวมทั้งแบบที่ใช้ทำห้องตัวอย่างมาให้ดูกันครับ

แปลนห้องคอนโด The Saint Residences แบบ 1 ห้องนอน

Type A1-A5 (Tower B) ขนาด 29.86 – 30.38 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบนี้ก็เป็นขนาดมาตราฐานประมาณ 30 ตารางเมตรที่มีเยอะที่สุดในโครงการหล่ะครับ สัดส่วนของความกว้างกับความยาวของแปลนนั้นเท่าๆกันเกือบบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ในแง่ของการจัดฟังก์ชั่นใช้สอยก็ทำออกมาได้ดี ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ ในส่วนพักผ่อนนั้นจะมีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ด้วย แยกพื้นที่ครัวและส่วนระเบียงออกมา  ห้องน้ำเข้าจากในห้องนอนเท่านั้น  จุดที่น่าสนใจในแปลนนี้คือตรงกลางที่จับเอาส่วนโต๊ะทานข้าวในห้องนั่งเล่น, ตู้เย็นในส่วนห้องครัว และทีวีในส่วนห้องนอนมาชนกันตรงกลางทำให้ประหยัดพื้นที่ได้เยอะทีเดียว  เท่าที่ลองเข้าไปดูในสเปซห้องตัวอย่างก็จะมีเรื่องที่ระยะปลายเตียงกัยตู้เสื้อผ้านั้นค่อนข้างแคบครับ  เวลาเปิดลิ้นชักตู้เสื้อผ้าออกมาจะลำบากหน่อย

แปลนห้องคอนโด The Saint Residences แบบ 1 ห้องนอน

Type A1-A10 (Tower C) ขนาด 29.46 – 30.39 ตารางเมตร

สำหรับแบบนี้คอนเซ็ปก็เหมือนแบบด้านบน  เพียงแต่เป็นห้องในตำแหน่ง Tower C ที่หันด้านทิศตะวันตก  ซึ่งจะมีผนังโครงสร้างอาคารสำหรับรับน้ำหนักยื่นออกมาอย่างที่เล่าให้อ่านกันไปแล้วครับ  ผนังแบบนี้จะช่วยบังแดดบ่ายได้ดีขึ้น  แต่ในทางตรงกันข้ามก็จะทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ห้องส่วนพักผ่อนได้น้อยลงด้วย  เพราะอย่าลืมว่าสเปซตรงห้องพักผ่อนนั้นจะมีส่วนของห้องนอนและครัวขวางอยู่

แปลนห้องคอนโด The Saint Residences แบบ 2 ห้องนอน

Type B1-B2 (Tower B) ขนาด 55.40 – 55.74 ตารางเมตร

แปลน 2 ห้องนอนแบบนี้ก็จะอยู่ตรงหัวมุมของคอนโดเท่านั้นครับ  ในแง่การจัดฟังก์ชั่นก็ออกมาดูเคลียร์ดี  แยกพื้นที่ส่วนพักผ่อน, รับประทานอาหาร และ pantry ครัวเอาไว้ฝั่งนึง  แต่ครัวแบบนี้จะเป็นครัวเปิด  อาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารมื้อหนักๆมากเท่าไหร่  ห้องนอนนั้นจะอยู่อีกฝั่งนึงของแปลน  โดยห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กจะรับแสงธรรมชาติเข้ามาจากคนละด้าน  จุดที่ดูจะแปลกๆอยู่ก็ตรงห้องนอนเล็กที่เอาแสงเข้ามาทางหัวนอนหล่ะครับ  เวลานอนก็ต้องปิดม่านเอาไม่งั้นจะรู้สึกโล่งๆอยู่

แปลนห้องคอนโด The Saint Residences แบบ 2 ห้องนอน

Type B1-B2 (Tower C) ขนาด 55.72 – 55.94 ตารางเมตร

สำหรับ 2 ห้องนอนของ Tower C นั้น  จะดีไซน์ระเบียงตรงห้องนั่งเล่นให้ยื่นออกมาซึ่งทำให้ได้สเปซของห้องนั่งเล่นกว้างและโปร่งขึ้น  แต่ถ้าดูที่ขนาดพื้นที่แล้วจะเห็นว่าไซส์ของห้องนั้นเท่าๆกัน  ซึ่งนั่นก็หมายความว่าสัดส่วนของพื้นที่บางจุดนั้นถูกบีบให้เล็กลงไป  ซึ่งถ้าลองสังเกตดูเราจะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนเล็กของ Tower C นี้จะแคบกว่าแบบ Tower B อยู่นิดหน่อยในฟังก์ชั่นเท่าๆกัน  เพราะฉะนั้นเวลาเลือกห้องเปรียบเทียบระหว่าง 2 ทาวเวอร์นี้  อาจจะต้องลองคิดอยู่ว่าเราอยากได้พื้นที่ในสเปซส่วนไหนมากกว่ากันครับ  เพราะแง่ฟังก์ชั่นนั้นได้มาเหมือนกัน  ต่างกันที่สัดส่วนของแต่ละสเปซ

แปลนห้องคอนโด The Saint Residences แบบ 2 ห้องนอน

Type B1 (Tower B) ขนาด 55.15 ตารางเมตร

มาถึงแบบสุดท้าย  แบบนี้เป็น 2 ห้องนอนที่เอามาทำเป็นห้องตัวอย่าง  ฟังก์ชั่นก็เหมือนกับแบบ 2 ห้องนอนก่อนหน้านี้  เพียงแต่ที่ต้องขยับสเปซไปนิดนึงเนื่องจากว่าเป็นห้องมุมฝั่งที่ติดบันไดหนีไฟครับ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างนั้นมีมาให้ดูทั้งหมด 3 แบบครับ  เป็นแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบหลักของโครงการ  และมี 2 ห้องนอน 55 ตารางเมตร กับ 62 ตารางเมตร (แบบ 62 ตารางเมตร ตอนที่ไปรีวิวยังไม่ได้เปิดขายเลยไม่มีแปลนให้ดูนะครับ)  สเปซในห้องนั้นจัดระยะความสูงฝ้าเพดานมาให้สูงมากกว่ามาตราฐานทั่วๆไป  ความสูงสเปซปกตินั้นอยู่ที่ 2.9 เมตร ส่วนสเปซในห้องน้ำอยู่ที่ 2.6 เมตร  ซึ่งทำให้ดูโปร่ง โล่ง มากทีเดียวหล่ะครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด เดอะ เซนต์ เรซิเดนเซส

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.38 ตารางเมตร

แบบ 30 ตารางเมตร นี้พอเข้าห้องมาเราจะเห็นห้องด้านในแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนครัว (ซ้ายมือ) และส่วนห้องนอน (ขวามือ) โดยที่ตรงกลางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารครับ

มองไปทางฝั่งครัว

ทางฝั่งห้องนอน  ฝั่งกระจกที่อยู่ตรงด้านข้างนั้นไม่ได้ให้มานะครับ  แต่ฝ้าเพดานนั้นดร็อปลงมาแล้วฝั่งแอร์ไว้ให้แบบในรูปเลย

มองกลัมาส่วนโซฟานั่งเล่น

เข้าไปดูในครัว  เน้นโทนสีขาวทั้งหมด

มองออกไปสเปซตรงระเบียง  พื้นที่สำหรับใช้งานในครัวนั้นค่อนข้างกว้างครับ คนนึงทำกับข้าวอยู่อีกคนเดินสวนกันด้านหลังได้  สเปซตรงระเบียงลึกดี ประตูบานเลื่อนนั้นเป็นแบบ 3 ช่วง  ทำให้เปิดได้กว้างกว่าปกติ (พื้นที่เปิด 66%)

มาดูกันในห้องนอนต่อ  สเปซปลายเตียงจะแคบไปหน่อยอย่างที่เล่าไปครับ  ในห้องนอนจะมีตำแหน่วทีวีอยู่ตรงใกล้ๆประตู  เวลานอนดูทีวีอาจจะลำบากหน่อย  และเวลาเปิดประตูก็ระวังลูกบิดประตูไปกระแทกกับจกทีวีนะคร้าบบบ

สเปซด้านข้างเตียงพอตั้งเตียงไปจริงๆแล้วเหลือน้อยเหมือนกัน ถ้าดูแค่ในแปลนจะเห็นว่าเหลือเยอะทีเดียว 😛

มาถึงในห้องน้ำบ้างครับ  สเปซในห้องน้ำนั้นฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร และใช้กระจกบานใหญ่เต็มบานทำให้ดูโปร่ง  ไม่แคบนัก  ด้านในส่วนที่ใกล้กับ Rain Shower นั้นก็ดร็อปฝ้าและซ่อนไฟหลืบให้ด้วย

ห้องตัวอย่างคอนโด เดอะ เซนต์ เรซิเดนเซส

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.15 ตารางเมตร

มาถึงแบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง เนื่องจากแปลนที่เลือกมาทำห้องตัวอย่างนี้ด้านข้างในผังจริงจะเป็นบันไดหนีไฟ  ตรงทางเข้าเลยต้องเดินเป็นซอกเข้าไปหน่อย  ซึ่งก็ทำตู้ Built-in เอาไว้ให้เก็บรองเท้าและอุปกรณ์ต่างๆ

เข้ามาในสเปซตรงกลางห้องครับ ในห้องตัวอย่างนี้ใช้โต๊ะรับประทานอาหารกลมแบบลอยตัว  เลยทำให้ทิศทางการเดินจากหน้าห้องเข้าไปยังสเปซส่วนพักผ่อนนั้นเดินผ่านไปตรงๆได้เลย ถ้าวางเฟอร์นิเจอร์ตามแปลน(ที่แนบมาด้วย)  จะต้องเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาเพราะมีโต๊ะรับประทานอาหารขวางอยู่ครับ  จัดแบบห้องตัวอย่างนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน

มุมรวมๆภายในห้องจากอีกฝั่งนึงครับ  ของจริงก็ดร็อปฝ้าและซ่อนไฟให้แบบนี้  แต่ไม่มีส่วนที่ฝังไฟเป็นแถบสีดำรูปตัว L ที่เห็น

จากอีกมุมนึงครับ

เข้ามาดูในห้องน้ำก็จะคล้ายกับแบบ 1 ห้องนอนครับ

ห้องนอนเล็กอีกห้องนึง

ในห้องนอนใหญ่ครับ ดร็อปฝ้าเพดานทำรางซ่อนม่านแบบนี้ให้เช่นกัน  ซึ่งพอผนังและแนวฝ้าเพดานไม่ชนกันก็ทำให้ห้องดูเบาและโปร่งขึ้นอีก  ถ้าซ่อนไฟเข้าไปแบบในรูปด้วยก็จะทำให้ยิ่งดูโปร่ง เบา มากขึ้นครับ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นั้นจะติดกับด้านนอก  มีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศให้ และก็มีที่นั่งอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่หรือคนแก่ด้วย วัสดุนั้นจะอัพเกรดขึ้นมาจากห้องน้ำด้านนอกอีกหน่อย  คือใช้กระเบื้องเกรดดูแพงกว่าอีกนิดและมีกระเบื้องโมเสคตกแต่งเพิ่มด้วย

ห้องตัวอย่างคอนโด เดอะ เซนต์ เรซิเดนเซส

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 62 ตารางเมตร

มาถึงห้องแบบ 62 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องแบบนี้ยังไม่เปิดขาย  เลยยังไม่ได้มีแปลนแนบมาให้ดูด้วย  แต่ไหนๆมารีวิวแล้วก็เลยถ่ายรูปมาให้ชมกันให้หมดเลยครับ  รูปนี้เป็นมุมจากทางเข้าห้อง

สเปซส่วนพักผ่อนและรับประทานอาหาร

มองกลับออกไปทางหน้าประตู ห้องขนาด 62 ตารางเมตรนี้จะกั้นครัวแยกให้ แต่ว่าอยู่ด้านในไม่ติดกับด้านนอกนะครับ

นี่แหละครัว  ใหญ่อลังการดีทีเดียว  ซึ่งจะกั้นแยกออกจากสเปซด้านนอกด้วยกระจกบานใหญ่เต็มบาน

ทางเดินไปยังห้องนอนและห้องน้ำ

สเปซในห้องนอนเล็กครับ จะตั้งเตียงและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้สบายกว่าแบบ 55 ตารางเมตรอยู่หน่อย

ภายในห้องนอนใหญ่ (master bedroom) ครับ

สเปซด้านข้างเตียงนั้นเหลือทีสบายๆครับ  ห้องนี้จัดมาแบบหลวมๆ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

ในเรื่องของวัสดุที่คอนโด เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส ให้มานั้นก็จัดว่าประทับใจครับ  ได้เป็น Fully-Fitted  วัสดุที่ให้มานั้นเกรดดีทีเดียว ผิวสัมผัสต่างๆของวัสดุก็ดีเช่นกันครับ   พวกเกรดของวัสดุนั้นจะมีปรับขึ้นนิดหน่อยตามประเภทของห้องครับ  ถ้าเป็น 2 ห้องนอนที่ราคาแพงกว่าก็จะได้เกรดวัสดุอัพขึ้นมาอีกนิด  แต่แค่สำหรับแบบ 1 ห้องนอนก็จัดว่าดีมากแล้วหล่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาเคาน์เตอร์ครัวแบบ 1 ห้องนอนครับ  เน้นโทนสีขาว  หน้าบานเคลือบผิว Hi-Gloss ดูหรูดี

ลองเปิดให้ดู  พื้นที่เก็บของมีให้ค่อนข้างเยอะ  บานตู้ด้านบนสูงเกือบจรดฝ้าก็ทำให้เก็บอะไรได้เยอะดี  แต่ก็ต้องปีนเอาหน่อยสำหรับคนตัวไม่สูงมาก

อ่างล้างจานฝังมาใต้เคาน์เตอร์ ตัว Top ของเคาน์เตอร์เป็นหินเทียมสีขาว

เตาเซรามิค 2 หัวของ Franke  ถ้าเป็นแบบ 2 ห้องนอนจะได้เพลทแบบ 4 หัวมาครับ

ฮูดดูดควันของ Franke เช่นกัน

มีเตาอบมาให้ด้วยครับ

ลิ้นชักเป็นแบบ Soft-Closed

ชั้นเก็บของจุได้เยอะดีนะครับ

ด้านใต้เคาน์เตอร์เก็บงานเรียบร้อยดี

ตรงขอบบานตู้ผิวเป็น Stainless ดูดีทีเดียว

ครัวแบบ 2 ห้องนอนครับ  ในแปลนแบบ 2 ห้องนอนจริงจะมีครัวทั้งที่เป็นรูปตัว I กับตัว L  ในห้องตัวอย่างมาเป็นตัว L แต่เข้าใจว่าแบบไหนก็น่าจะวัสดุเกรดเดียวกันหล่ะ เป็นของ Practika

เปิดตู้ให้ดู  เก็บของได้เยอะมาก

ตรงผนังบุตกแต่งกันเลอะด้วยกระเบื้องโมเสค  ดูดีทีเดียว

ครัวแบบ 2 ห้องนอน ตัวลิ้นชักกับหน้าบานตู้จะเป็นคนละสีกันกับแบบ 1 ห้องนอน  เน้นไปที่สีน้ำตาลเข้ม  ทำผิว Hi-Gloss ให้เช่นกัน

ด้านใต้มีช่องระบายอากาศเล็กๆให้ด้วย  ดีเทลดีครับ

ส่วนนี่เป็นครัวในห้องตัวอย่างอีกห้องนึง (แบบ 62 ตารางเมตร)  วัสดุก็แบบเดียวกัน

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเรซินทรงสี่เหลี่ยม  ดูโมเดิร์นดี

ตัวก็อกยึดกับผนัง  มีซ่อนไฟไว้ข้างใต้ตู้เก็บของให้ด้วย

เปิดลิ้นชักให้ดูครับ  เอาไว้เก็บพวกน้ำยาล้างห้องน้ำและอุปกรณ์ต่างๆได้

บานตู้เก็บของที่ให้นั้นเป็นกระจกเงาสูงจรดฝ้า  ช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นอีกเยอะ ชั้นวางของด้านในเป็นกระจก  ปรับเลื่อนระดับความสูงได้ตามที่ต้องการ

สุขภัณฑ์ American Standard หน้าตาดูดีมาก  ฝาเป็นแบบ Soft-Closed

ปุ่มกดชักโครกและช่องใช่ทิชชู่ฝังไว้ตรงนี้แบบหล่อๆ  ดูราคาแพงครับ

ฝักบัวและชั้นวางของสแตนเลส  จริงๆชั้นแบบนี้ดูสวยหรูแต่ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยหน่อย ไม่งั้นโดนคราบไคลสบู่ คราบน้ำเข้าไปบ่อยๆก็จะดูเลอะเทอะได้

รูปนี้ให้ดูบานกระจกของตู้เก็บของ  พอใช้กระจกเงาใหญ่เต็มบานแบบนี้ห้องก็ดูกว้างขึ้น

มี Rain Shower ให้ ด้านข้างซ่อยไฟหลีบเอาไว้

ดูใกล้ๆจะเห็นว่ากระเบื้องห้องน้ำตรงส่วนอาบน้ำนั้นแอบมีลูกเล่นเป็นลวดลายนิดหน่อยเมื่อโดนแสงสะท้อน  ถ้ามองผ่านๆก็จะเป็นสีขาวโพลนๆ

ราวแขวนผ้า

พื้นห้องน้ำใช้วิธีลดระดับลงมานิดนึง  (แต่ห้องตัวอย่างก่อสร้างไม่เรียบร้อยนะ  แอบเห็นเบี้ยวอยู่)

ห้องน้ำแบบ 2 ห้องนอน โทนสีกระเบื้องก็จะต่างกันนิดหน่อยครับ  ลายกระเบื้องจะดูหรูและดูผู้ใหญ่กว่า

ถ้าเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีที่นั่งอาบน้ำให้สำหรับผู้ใหญ่หรือคนแก่

พื้นกระเบื้องก็ต่างกันอยู่ครับ

มีประดับเพิ่มโมเสคมานิดหน่อยในแบบ 2 ห้องนอน

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

บานเลื่อนประตูเป็นอลูมิเนียมอบขาวครับ  คุณภาพก็เกรดมาตราฐานทั่วไป

ในแบบ 1 ห้องนอน บานกระจกส่วนที่กั้นห้องครัวจะสูงจรดฝ้า โดยฝังแนวรางเข้าไปในฝ้าเลยดูแล้วเรียบร้อยดี  แต่ว่าด้วยความที่กระจกบานใหญ่ก็เลยทำให้น้ำหนักมากตามไปด้วย  เลื่อนปิดเลื่อนเปิดนี่หนักเอาเรื่องหล่ะครับ

พื้นไม้เป็น Engineering Woods หนา 14 มม. ครับ ผิวสัมผัสดีมาก

พื้นที่ระเบียงแบบ 1 ห้องนอน ระยะความกว้างและความลึกโอเคในการใช้งานอยู่ครับ  เครื่องซักผ้านั้นคงต้องวางเอาไว้ตำแหน่งใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ตรงระเบียงนี่แหละ

ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีดำทั่วๆไป ส่วนแผงอลูมิเนียมบังแอร์เป็นสีขาว

ถ้าเป็นแบบ 2 ห้องนอน  ตรงแผงบังแอร์จะปิดด้านข้างด้วยดูเรียบร้อยดี  (ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนก็จะมีแค่บังด้านนอกเท่านั้น)

ซ่อนไฟ ฝังแอร์มาให้แบบนี้เลยนะครับ

ดร็อปรางซ่อนม่านมาให้ (แต่ม่านต้องซื้อมาติดเองนะ)

ตัวอย่างตู้เสื้อผ้า Built-in ในแบบ 1 ห้องนอนครับ หน้าบานนั้นผิวสัมผัสดูดีทีเดียว  ส่วนทีวีนั้นติดเอียงๆจากเตียงหน่อย เวลานอนดูบนเตียงนี่ลำบากอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องให้พื้นที่กับตู้เสื้อผ้าไป

แบบ 1 ห้องนอน จะเห็นว่าเวลาเปิดตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วกดหยิบจับอะไรจะแคบอยู่  เพราะว่าเหลือพื้นที่ปลายเตียงไม่เยอะมากครับ

ในตู้ Built-in ที่ทำมาให้ก็เก็บของได้พอสมควรและหลายขนาด

ถ่ายให้ดูผิวของเฟอร์นิเจอร์ใกล้ๆ  สัมผัสนั้นจัดว่าค่อนข้างดีเลย  แต่เวลาใช้งานด้วยความที่เป็นสีอ่อนก็ต้องระวังเลอะง่ายหน่อย

สวิตซ์ไฟแบบ 1 ห้องนอน หน้าตาก็ธรรมดาทั่วไป

ถ้าเป็นสวิตซ์ไฟแบบ 2 ห้องนอนหน้าตาก็จะอัพเกรดขึ้นมา

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขาย ณ วันที่ไปทำรีวิว (1 พ.ค. 58) นั้นเริ่มต้นที่ 3.87 ล้านบาท ที่ห้องชั้น 10 ของ Tower C ครับ  โดยโมเดลการตั้งราคานั้นตัว Tower C จะถูกกว่า Tower B เมื่อเทียบห้องที่พื้นที่เท่ากันและอยู่ชั้นเดียวกัน  (ซึ่งตอนแรกเริ่มเลยก็เปิดขายเฉพาะ Tower C ครับ  ตอนนี้มาเปิด Tower B ด้วย แต่ Tower A ยังไม่ได้เปิด)  ผมหยิบราคาเริ่มต้น ณ วันที่ 1 พ.ค. 58 ทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ของทั้ง 2 ตึกมาให้ดูกัน

ราคา ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom Tower C ยูนิต 1018 ชั้น 10 พื้นที่ 29.46  ตร.ม. ราคา 3,872,870 บาท  เฉลี่ย 131,462 บาท/ตร.ม.

1 bedroom Tower B ยูนิต 711   ชั้น 7  พื้นที่ 29.86  ตร.ม. ราคา 4,049,852 บาท  เฉลี่ย 135,628 บาท/ตร.ม.

2 bedroom Tower C ยูนิต 1013 ชั้น 10 พื้นที่ 55.15  ตร.ม. ราคา 7,074,697 บาท  เฉลี่ย 128,281 บาท/ตร.ม.

2 bedroom Tower B ยูนิต 807 ชั้น 8 พื้นที่ 55.40  ตร.ม. ราคา 7,573,678 บาท  เฉลี่ย 136,709 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 ห้องนอน จอง 30,000 บาท / ทำสัญญา 5% 

2 ห้องนอน จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 5%

• ผ่อนดาวน์

รวม 20%

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   50  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมโอน 2% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)

เงินประกัน , ค่าเปิดใช้สาธารณูปโภค

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 29.46 ตร.ม. ราคาขาย 3,872,870 บาท  ผ่อนประมาณ 20,183 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 29.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,048,852 บาท  ผ่อนประมาณ 21,100 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 55.15 ตร.ม. ราคาขาย 7,074,697 บาท  ผ่อนประมาณ 36,870 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 29.46 ตร.ม. ราคาขาย 3,872,870 บาท  ผ่อนประมาณ 21,331 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 29.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,048,852 บาท  ผ่อนประมาณ 22,301 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 55.15 ตร.ม. ราคาขาย 7,074,697 บาท  ผ่อนประมาณ 38,986 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 29.46 ตร.ม. ราคาขาย 3,872,870 บาท  ผ่อนประมาณ 23,254 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 29.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,048,852 บาท  ผ่อนประมาณ 24,311 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 55.15 ตร.ม. ราคาขาย 7,074,697 บาท  ผ่อนประมาณ 41,479 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 29.46 ตร.ม. ราคาขาย 3,872,870 บาท  ผ่อนประมาณ 26,759 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 29.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,048,852 บาท  ผ่อนประมาณ 27,975 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 55.15 ตร.ม. ราคาขาย 7,074,697 บาท  ผ่อนประมาณ 48,881 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 29.46 ตร.ม. ราคาขาย 3,872,870 บาท  ผ่อนประมาณ 34,264 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 29.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,048,852 บาท  ผ่อนประมาณ 35,821 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 55.15 ตร.ม. ราคาขาย 7,074,697 บาท  ผ่อนประมาณ 62,592 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ทำเลของคอนโด The Saint Residences นั้นอยู่ตรงบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนหลัก 3 สาย คือ วิภาวดีรังสิต, พหลโยธิน และลาดพร้าว  การที่โครงการติดถนนใหญ่ในโซนจุดตัดเหล่านี้ก็ทำให้เดินทางสะดวกอยู่พอควร  จุดที่จะลำบากหน่อยก็การเข้าถึงจากฝั่งวิภาวดีขาออกที่มาจากดินแดง  เพราะจะต้องวนไปเข้าพหลโยธินก่อนแล้วค่อยกลับรถมายังโครงการ  ถ้าเป็นช่วงเย็นๆนี่รถติดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน  ส่วนการเดินทางออกไปจากโครงการยังถนนเส้นต่างๆ  ถ้าต้องการไปลาดพร้าวแล้วไม่ต้องการไปวนกลับรถไกลๆตรงแยกสุทธิสาร  ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยการบินไทยไปทะลุลาดพร้าวซอย 18 ได้ (เส้นนี้เข้าไปครั้งแรกอาจจะงงหน่อย เพราะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเยอะเหมือนกัน)

การใช้รถไฟฟ้านั้นสามารถเดินจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าวมาได้ไม่ไกล  โดยเข้ามาทางลาดพร้าวซอย 2 จะเดินใกล้กว่าการเดินเลียบฟุตบาทตามแนวถนนใหญ่มาเยอะ  เพราะโครงการจะเจาะประตูเล็กๆเอาไว้ด้านข้างเพื่อให้ทะลุออกลาดพร้าวซอย 2 ได้เลย

ในภาพรวมของทำเลนั้นก็ถือว่าเป็นโครงการที่เดินทางไม่ลำบาก  เพียงแต่การที่อยู่ใกล้แยกใหญ่บนถนนหลักอย่างวิภาวดีทำให้จากจุดต่างๆนั้นมีลำดับการเข้าถึงยากง่ายต่างกันครับ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานหลักๆในโซนนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต – สะพานใหม่) ซึ่งจะวิ่งตามแนวถนนพหลโยธินออกไป  แต่ผมก็มองว่ารถไฟฟ้า MRT และ BTS ที่มีอยู่แล้วตอนนี้ก็ซัพพอร์ตโครงการได้ดีเนื่องจากสามารถเชื่อมเข้าในเมืองได้  เพราะฉะนั้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะต่อขยายใหม่ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากกับตัวโครงการครับ  คือ มีก็ดี เพิ่มมูลค่า  แต่ถ้าไม่มีตรงนี้ก็ถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้วในตัวเองครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

คอนโด The Saint Residences นี้วางตึก 3 ตึก เพื่อสร้างคอร์ทตรงกลางขึ้นมา Tower A และ B นั้นแปลนเป็นเส้นตรง  ส่วน Tower C แปลนเป็นรูปตัว L  ลักษณะของตัวสถาปัตยกรรมภายนอกนั้นดูค่อนข้างร่วมสมัย มีกลิ่นไอของทั้งสไตล์ Contemporary ปนๆกับเส้นสายแบบ Modern ในบางองค์ประกอบ มีการใช้เส้นแนวเฉียงเพื่อให้ดูสนุกสนานมากขึ้น  ลักษณะของเส้นสายบนตัวคอนโด Tower C จะเน้น pattern ทั้งเส้นตั้งและเส้นนอน ในขณะที่ Tower A และ B จะเน้นเส้นนอนมากกว่า  ส่วนการวางทิศทางของตัวอาคารนั้นจะในแต่ละตึกจะมีด้านที่รับแดดและด้านที่ร่มต่างกันค่อนข้างชัดเจน  ตรงนี้ก็น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกห้องนอกจากเรื่องของวิวทางสวนจตุจักรด้วยครับ  นอกจากนี้สิ่งนึงที่ต้องคำนึงคือตัวโครงการนั้นอยู่ติดถนนใหญ่อย่างวิภาวดีซึ่งคงเลี่ยงไม่ให้มีเสียงจากรถวิ่งเลยคงยากครับ  ถ้าใครชอบเงียบมากๆอาจจะต้อง trade-off กับเรื่องวิวและมุมมองกันไป

เรื่องของแปลนและการจัดพื้นที่ใช้สอย  โดยรวมๆก็ถือว่าทำออกมาได้ดี  มีพื้นที่สำหรับฟังก์ชั่นต่างๆครบ  ในแบบหลักของคอนโดที่เป็นแบบ 30 ตารางเมตร อาจจะมีสเปซบางจุดที่แคบไปบ้างเช่นระยะปลายเตียงในการเปิดตู้เสื้อผ้า แต่ส่วนพื้นที่อื่นๆก็จัดมาใช้ได้  ส่วนแปลนรวมๆของแบบ 2 ห้องนอนก็ดี  ไม่มีจุดติอะไรใหญ่ๆครับ  จุดที่ชอบคือห้องทางทิศตะวันตกของ Tower C ที่โดนแดดบ่ายจะออกแบบในส่วนของผนังรับน้ำหนักมาช่วยสกรีนแดดบ่ายให้ได้บ้าง ซึ่งแสดงว่าก็มีการคิดมาในแต่ละส่วนแต่ละมุมพอควรทีเดียว

ในส่วนของวัสดุนั้นอันนี้ถือว่าให้มาดีมากทีเดียว  เป็นส่วนนึงที่ค่อนข้างประทับใจและก็แข่งในตลาดระดับราคาเดียวกันได้ครับ  ซึ่งส่วนนึงที่จัดมาเต็มแบบนี้ก็อาจจะมาจากการที่ชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์นั้นอาจจะสู้เจ้าใหญ่ๆบิ๊กเนมในตลาดยังไม่ได้  เลยจัดวัสดุให้แบบดีมากเพื่อจะได้แข่งกันในตลาดได้หล่ะครับ

เรื่องพื้นที่ส่วนกลางนั้นมีสระว่ายน้ำ 2 จุดที่ชั้น 7 ยาว 50 เมตร และ 25 เมตร และก็มี Jaguzzi กับสระเด็กให้ด้วย  ในตึกแต่ละตึก (Tower B, C) จะมีฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ห้องสตรีม, ห้องแอโรบิค และห้องโยคะ ซึ่งหันเข้าหาฝั่งสระว่ายน้ำ  ก็เป็นการกระจายความหนาแน่นแยกกัน 2 จุด เพื่อไม่ให้หนักอยู่ที่จุดใดจุดนึงเกินไป  นอกจากนั้นก็มีสนามเด็กเล่น, สวนที่ชั้นดาดฟ้าของแต่ละตึก รวมถึง Club House และ Library Lounge ด้วย  ภาพรวมก็ดูเยอะดี  แต่ก็อย่าลืมว่าโครงการมี 1,537 ยูนิต  เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะต้องให้มาพอควรหล่ะครับ  เรื่องความหนาแน่นลิฟต์นั้นเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 139 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  สัดส่วนถือว่ารับได้ครับ  แต่ที่จอดรถที่ 46% แบบรวมจอดซ้อนคันแล้วสำหรับคอนโดระดับราคานี้และอยู่ติดถนนเส้นใหญ่อย่างวิภาวดีด้วยก็มองว่าน้อยไปหน่อยหล่ะครับ

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ปัจจุบันในโซนนี้นอกจาก The Saint Residences แล้ว  บริเวณห้าแยกลาดพร้าวก็มีคอนโดอีก 2 โครงการที่เสร็จไปแล้วอย่าง M Ladprao และ Equinox ของทาง Major Development  กับอีกโครงการซึ่งกำลังจะเปิดเร็วๆนี้อย่าง The Line ของทางค่ายแสนสิริครับ  ภาพรวมก็จัดเป็นคอนโดเกรดตลาดบนๆกันทั้งหมด

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ