สวัสดีครับ วันนี้ทางอยู่สบายก็ได้พามารีวิวอีกเช่นเคย กับโครงการคอนโดมิเนียม Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว บนถนนลาดพร้าวเรียกได้ว่ารถติดอยู่พอสมควร แต่บริเวณสี่แยกรัชดา-ลาาดพร้าว ที่โครงการตั้งอยู่ก็ก็มีรถไฟฟ้า MRT จากที่ขึ้นสถานีลาดพร้าวมาปุ๊ปก็จ๊ะเอ๋กับโครงการเลย คอนโด Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao โครงการนี้ได้เปิดขายมาสักพักแล้วครับ ด้วยทำเลที่ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเลยจึงน่าสนใจทีเดียว แต่ภาพรวมจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของ อยู่สบาย เองครับ
Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao (Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว) High rise คอนโดแยกรัชดา-ลาดพร้าว จากแมกโนเลีย [รีวิว]
· 27 min read
เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao
(Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว)
- เจ้าของโครงการ >>> แมกโนเลียส์ (Magnolia Quality Development)
- ที่ตั้งโครงการ >>> บนถนนลาดพร้าว ติดสี่แยกรัชดา – ลาดพร้าว
- ขนาดที่ดิน >>> 3 ไร่ 42 ตารางวา
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 27 ชั้น (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้อง >>> สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน / Duplex / Penthouse
- ขนาดห้อง >>>
สตูดิโอ 27.48-28.0 ตารางเมตร
1 ห้องนอน 30.74-37.98 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 47.56-55.91 ตารางเมตร
Duplex 81.35-82.53 ตารางเมตร
Penthouse 111.83-141.72 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 497 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 60% (รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว)
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.95 ล้านบาท (ห้อง 28 ตารางเมตร ชั้น 10 ณ วันที่ 18/6/2015)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 144,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.805465, 100.574212
ถึงสถานีลาดพร้าวเรียบร้อย ทีนี่เราก็มองหาประตูทางออกกัน โครงการนี้จะติดกับประตูทางออกที่ 1 ที่เขียนว่า “ซอยลาดพร้าว 26”
พอโผล่ขึ้นมาจากสถานี ก็เจอกับตัวโครงการเลย
อย่าขึ้นประตูผิดนะครับ ย้ำ! ประตูทางออกที่ 1 ครับ (หากผิดแล้ว…อาจจะเดินเหนื่อยหน่อย ^^”)
ภาพนี้ก็เป็นตัวบอกได้ดีเลยครับ ว่าติดกับรถไฟใต้ดินแค่ไหน จะเห็นว่าซ้ายมือเป็นโครงการ Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว และขวามือเป็นตัวสถานี
ออกจากสถานี เดินไปทางขวามือ ก็จะเห็น Sale Gallery แบบโมเดิร์นสร้างอยู่ติดถนนเลยครับ
การเดินทางโดยรถไฟใต้ดินก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก … แต่หากใครที่สะดวกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า ก็ไม่ยากเลยครับ ถ้ามาจากพระราม 9 วิ่งบนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออก พอถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว เลี้ยวซ้ายก็จะถึงเลย หรือมาจากเมเจอร์รัชโยธินให้วิ่งบนถนนรัชดาภิเษกเช่นกันครับแต่ฝั่งขาเข้า พอถึงแยกเห็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT ก็ให้เลี้ยวขวาใต้สะพานข้ามแยกได้เลยครับ ตอนที่จะเลี้ยวขวาจะเลี้ยวได้ 2 เลน ให้อยู่เลนริมซ้ายสุด(ที่สามารถเลี้ยวขวาได้) เพราะถ้าอยู่ขวาสุดเลี้ยวมาปุ๊ปไม่มีทางเข้าโครงการทันแนนอน เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับสี่แยกเลย
ส่วนหากจากบางกะปิก็วิ่งตรงดิ่งมาอย่างเดียวเลย เลยแยกก็พยายามชิดซ้ายไว้และเข้าโครงการได้เลย เช่นเดียวกันหากมาจากห้าแยกลาดพร้าว หลังจากยูเทิร์นก็ต้องปาดเข้าเลนซ้ายสุดทันทีเพื่อเข้าโครงการ ซึ่งต้องระวังรถที่เลี้ยวมาจากรัชดาด้วยครับ การอยู่ใกล้ตรงหัวมุมสี่แยกก็จะต้องระวังตรงนี้ด้วย
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
เรามาเริ่มต้นจากตัวโครงการกันเลยครับ ถ้าเดินออกจากโครงการ ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT อย่างชัดเจนเลย นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ MRT ลาดพร้าวสายสีน้ำเงินแล้ว ในอนาคตยังเป็นจุดเริ่มต้นสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าโมโนเรียลสายสีเหลืองที่ปลายสุดสายจะไปถึงสำโรงอีกด้วยนะครับ (หมายเลข 1) ส่วนด้านหลังหรือทิศใต้ของโครงการ ก็จะเป็นตึกสูงสวนลุมไนท์บาซาร์รัชดา (หมายเลย 2) เป็นอาคาร Mix-used ครับ สร้างมานานมากแล้วไม่เสร็จสักที ทั้งนี้ก็ในเรื่องปัญหากรรมสิทธิ์ของที่ดินกับการรถไฟที่เป็นเจ้าของที่เช่าอยู่ ช่วงหลังๆก็เริ่มเห็นการก่อสร้างคืบหน้าเร็วมากขึ้น ภายในมีทั้งส่วนช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ใครมีห้องติดอยู่ทางทิศนี้ จะมองเห็นตึกทอดยาวขนานกับถนนรัชดาตามพื้นที่เลย ซึ่งตึกนี้ก็จะบีบมุมมองอยู่พอสมควร ตึกสวนลุมไนท์บาซาร์นี่สูง 18 ชั้นครับ หากห้องชั้นสูงๆขึ้นไปอาจจะเห็นวิวเมืองในมุมกว้างบ้าง หากไปยังทิศตะวันออกจะเป็นถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าไปสู่ถนนบางกะปิ จะได้วิวตึกคอนโดเพื่อนบ้าน Haus23 (หมายเลข 3) จากค่าย Dalvey Development ดีไซน์ดูแปลกตา แบบที่ถ้าเห็นแล้วไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลย (เห็นว่า…มีแรงบันดาลใจจากของเล่น Jenga เคยเล่นกันไหมครับ^^) และเดินไม่ไกลจาก Haus23 นัก จะเป็นโรงแรม Budget Hotel ขนาดเล็ก เป็นตึกแถว 4 คูหา ชื่อ My bed (หมายเลข 4) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจากมุมสี่แยกเช่นกัน
ถ้าหากมาฝั่งโซนทิศตะวันตกกันบ้าง ไม่ไกลเลยจะเป็นคอนโด low rise Ideo Ladprao 17 (หมายเลข 5) ถัดขึ้นไปหน่อยเป็นซุเปอร์มาร์เก็ต BIG C (หมายเลข 6) จะเป็นห้างที่ค่อนข้างใหญ่หน่อย สะดวกตรงจับจ่ายใช้สอย แต่ว่ากันตามตรงก็อาจจะเดินไกลหน่อย จะอยู่ห่างจากวิซดอม อเวนิว ราว 850 เมตร ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดสูงชื่อ The Issara Ladprao (หมายเลข 7) ที่สร้างเสร็จเรียบร้อย และถัดไปอีกไม่ไกลห้าแยกลาดพร้าวถือเป็นแหล่งที่พลุกพล่านอีกที่หนึ่ง ทั้งศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ (หมายเลข 8) และ Central ลาดพร้าว (หมายเลข 10) และบริเวณห้าแยกลาดพร้าวก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเซนจอห์น ซึ่งอนาคตในพื้นที่เดียวกันจะมีคอนโดสูง The Saint Residence จากที่ ยู่สบายได้รีวิวไปแล้ว ห้าแยกลาดพร้าวบริเวณนี้ถูกเชื่อมการเดินทางที่สะดวกด้วยรถไฟใต้ดินขึ้นที่สถานีพหลโยธินได้เลย
ส่วนสถานที่ใหญ่ๆสำคัญๆในระแวกนี้ จะมีกรมส่งเสริมการส่งออกถนนรัชดา (หมายเลข 11) ไปเดินเล่นช้อปปิ้งได้ครับ ช่วงจัดงานแสดงสินค้าจะมีร้านต่างๆมาเปิดบูท คงก็ต้องคอยเช็คปฏิทินกับกรมส่งเสริมการส่งออกดู และถัดไปหน่อยจะเป็นที่ตั้งของศาลอาญา ถนนรัชดา (หมายเลย 12) คงไม่มีใครอยากแวะข้องเกี่ยวหรอกใช่ไหมครับ ^^”
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
ไปเดินเล่นทัวร์แยกรัชดา-ลาดพร้าวกัน ก่อนวกกลับเข้าไปดูโครงการครับ
เริ่มจากสถานี MRT ก่อนเลย บริเวณฟุตบาทหน้าสถานีลาดพร้าวทางออกที่ 1 ครับ มีรถเข็นข้างทางขายของอยู่ปะปลาย
อาคาร MRT จอดแล้วจรสูง 9 ชั้น ตรงข้ามโครงการ Whizdom Avenue ครับ
จากหน้าโครงการมองไปทางซ้าย จะมีทั้งตึกแถวพาณิชย์ คอนโด ห้างร้านต่างๆ ซึ่งไม่สูงมากนัก ฝั่งนี้จึงได้รับวิวโล่งๆ ส่วนถนนมีขนาด 6 เลน มีเกาะกลางถนนกั้น แต่ในช่วงเช้ากับเย็นมีรถติดมากทีเดียว
เกือบลืมไปเลยครับ …หน้าโครงการจะมีพี่วินมอเตอร์ไซต์ประจำตำแหน่งคอยให้บริการ ซึ่งเป็นการเดินทางอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดเวลาบนท้องถนนได้มากโขทีเดียว
เดินจากโครงการไปทางซ้ายมือ มีฟคบาทให้เดินตลอดแนว
มีเซเว่น ก็ตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว 26 เช่นเดียวกัน เดินจากโครงการไม่ไกลประมาณ 150 เมตร แต่เป็นเซเว่นสาขาเล็กๆ แคบๆหน่อยครับ
ใกล้ๆเซเว่นมีป้ายรถประจำทางที่ถัดจากตัวโครงการไปไม่ไกลนัก แต่ไม่มีที่ให้นั่งรอ ต้องยืนรอรถอย่างเดียว
เมื่อมองไปทางสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จะเห็นว่าแยกนี้ดีมากครับ มีสะพานลอยคนข้ามเชื่อมทั้งสี่มุมของแยกเลย เดินเท้าเลยสะดวกหน่อย
อาคารสวนลุมไนท์รัชดาสูง 18 ชั้น โครงสร้างตัวตึกสูงตลอดแนวถนนรัชดา อย่างที่กล่าวไปแล้วครับ…จะมีผลกับวิวฝั่งทางทิศใต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บริเวณพื้นที่ของสวนลุมไนท์บาซาร์รัชดา ที่ติดกับโครงการในอนาคตจะเป็นสวนครับ ทิศตะวันออกจึงพ้นจากการบดบัง จึงเห็นคอนโด Haus23 อย่างเด่นชัดแทน
Haus23 คอนโดมิเนียมรูปร่างหน้าตาแปลกจากคอนโดอื่นๆในตลาด ของ Dalvey Development รวมๆแล้วภายนอกยังเก็บงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ครับ เห็นงานระบบท่อต่างๆไม่เรียบร้อยอยู่พอควร
โรงแรม Mybed สร้างในอาคารพาณิชย์ ขนาด 4 คูหา
จากแยกรัชดา – ลาดพร้าว มองไปยังถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า ตอนแนวนี้ก็มีรถไฟฟ้าใต้ดินยาวตลอดไปจนถึงใจกลางเมือง
ว่าแล้ว…เราก็มาส่องจากมุมสูงกันบ้าง รูปนี้ดูที่ดินของ Whizdom Avenue จากบนอาคารจอดแล้วจรของ MRT จะเห็นได้ว่า ห้องที่อยู่ทางทิศใต้จะเห็นตึกสูงข้างเคียง แต่ก็ไม่ถึงกับบังวิวไปซะหมด ได้วิวประมาณ 90 องศา ทางตะวันตกเฉียงใต้แทน ห้องชั้นบนๆไปแล้วอาจจะได้ Full View เพราะอาคารสวนลุมไนท์สูงเพียง 18 ชั้น
โชคดีติ่มซำ อยู่ไม่ไกลจากโครงการ (บริเวณลาดพร้าว24)
ร้านกาแฟ Espresso Gallery อยู่เยื้องๆกับ Big C Extra เดินมาก็เกือบกิโลนึงเหมือนกัน
Big C Extra ลาดพร้าว
บริเวณห้าแยกลาดพร้าว จะมีเซนทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่พลุกพล่านเช่นกัน
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยครับ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
แนวที่ดินส่วนด้านหน้าโครงการนั้นจะไม่ติดกับฟุตบาทซะทีเดียว เพราะมีพื้นที่โล่งด้านหน้าเล็กๆนั้นเป็นของการรถไฟ ตรงทางเข้าโครงการจะมีทางขึ้นของ MRT ลาดพร้าว ประตูทางออก 1 ซึ่งติดกับโครงการเลย ตรงข้ามจะเป็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT และในอนาคตยังจะเชื่อมต่อกับ MRT รัชดา รถไฟฟ้าโมโนเรียลสายสีเหลืองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสถานีแล้ววิ่งไปยังเส้นลาดพร้าว บางกะปิ และไปสิ้นสุดถึงสำโรงนู้นเลยครับ ส่วนข้างๆทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟ ตอนนี้ทางสวนลุมไนท์รัชดาได้ทำสัญญาเช่าระยะยาว 27 ปี พื้นที่บริเวณมุมใกล้สี่แยกทางโครงการสวนลุมไนท์ยังได้เป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งวิวด้านจึงไม่ถูกบดบังครับ เว้นเสียแต่ทางทิศใต้จะเห็นแนวของตึกสวนลุมไนท์ยาวตามถนนรัชดาอย่างที่เคยเกริ่นไปแล้ว
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ตัวอาคารคอนโดนั้นสร้างวางขนานกับแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ทางทิศใต้จะได้รับความร้อนและแสงแดดเต็มๆครับ ในส่วนด้านนี้จะมีห้องแบบ 1 ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ ช่วงบ่ายก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่แดดจะส่องเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ครับ
Facilities ต่างๆทั้งสวนลอยฟ้า หรือห้องอ่านหนังสือได้ถูกจัดวางไว้ด้านทิศเหนือหรือด้านหน้าโครงการซึ่งร่มกว่า ยกเว้นห้องฟิตเนสที่ในช่วงบ่ายได้แดดเต็มๆครับ
ส่องโมเดล
รูปอาคารด้านหน้าโครงการ มุมจากตะวันออกเฉียงเหนือ (มองจากทางแยกรัชดา-ลาดพร้าว) แสงและเงาบนอะคิลิกมันสะท้อนจนหามุมถ่ายรูปยากจริงๆ
ด้านหลังอาคาร ส่วนจอดรถจะอยู่ชั้น 1-4
สวนลอยฟ้าจะอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งจะมีห้องอ่านหนังสือ และห้องซักรีดอยู่ด้วย
ส่วนที่จอดรถชั้น 2 ถึง 4 เลือกออกแบบ Facade ด้วย Green Wall ลดความแข็งกระด้างของคอนกรีตได้ดีเลย ซึ่งจะมีรอบอาคารยกเว้นด้านหลังครับ (ว่าแต่ทำไมด้านหลังถึงเกิดจะประหยัดซะงั้น)
ทางเข้าโครงการ จัดสวนเล่นระดับนิดหน่อย
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า ที่ชั้น 5 ทั้งสวนลอยฟ้า ห้องอ่านหนังสือ และห้องซักรีด ออกแบบไว้เหนือชั้นจอดรถ โดยวางตำแหน่งทางทิศเหนือของอาคาร ส่วนฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Sky Lounge จะถูกวางไว้บนดาดฟ้า สระว่ายน้ำและ Sky Lounge จะอยู่ทิศเหนือ ทางทิศใต้นั้นจะมีฟิตเนสซึ่งร้อนหน่อยในตอนบ่าย โดยรวมแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบตามมาตรฐานที่พึงมีครับ
แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ชั้น 5
แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ชั้น 28
พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ แล้วก็จะมีฟิตเนส ,ห้องอ่านหนังสือ ,Sky Lounge ,ห้องซักรีด ,สวนลอยฟ้า โดยห้องต่างๆนี้ก็จะอยู่ทั้งชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า
สำหรับสัดส่วนการใช้งาน โดยเริ่มแรก จำนวนลิฟต์โดยสารสัดส่วน 4 ตัวกับ 497 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 124 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าเป็นสัดส่วนที่โอเคอยู่ และยังมี Service Lift อีก 1 ตัวด้วย สำหรับที่จอดรถ 60% นับรวมจอดซ้อนคันสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้าแบบนี้ก็ไม่แย่นัก เพียงแต่ถ้ามองที่ระดับราคาขายแล้วก็แน่นอนว่าอาจจะคาดหวัังด้วยสัดส่วนที่มากกว่านี้อีกสักหน่อย และโครงการนี้ได้รางวัลการออกแบบอาคารสีเขียวระดับ Gold จากหลักเกณฑ์การประเมินของ TREES-NC ประเทศไทยด้วยครับ ซึ่งในมาตราฐานอ้างว่าสามารถลดการใช้พลังงานได้ 50% ซึ่งจะมีรายละเอียดการออกแบบตามจุดๆต่าง ซึ่งจะขอบอกตามแต่ละภาพในลำดับต่อไปนะครับ
ด้านหน้าทางเข้าอาคารลงต้นไม้ใหญ่ให้
ส่วน Lobby ครับ ตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury ถ้าตามจริงสร้างได้ตามนี้ก็ดูหรูทีเดียว ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 6 เมตรครับ
สวนบนชั้น 5 ขนาด 170 ตร.ม. โดยประมาณ ประกอบด้วยพื้นหญ้าเป็นสเต็ป ปลูกต้นไม้ใหญ่พอให้ร่มเงา อยู่ติดกับห้องอ่านหนังสือ Double Space สูง 6 เมตรกระจกรอบด้าน เมื่ออยู่ทิศเหนือจึงไม่โดนแดด
มาดูภายในห้องอ่านหนังสือกันบ้างครับ ความสูงอยู่ที่ 6 เมตร เช่นกัน ลูกบ้านสามารถโหลด E-Book ไปอ่านตรงไหนก็ได้
Sky Lounge มีความสูง 6 เมตรเช่นเดียวกันครับ ตกแต่งแบบดูหรูมีระดับเลย ถ้าออกมาเป็นภาพอย่างนี้
ฟิตเนสชั้นบนสุด จะอยู่ทางทิศใต้ครับ กระจกใสสูงขึ้นไป 6 เมตรเลย ช่วงบ่ายๆเย็นๆมีร้อนแน่ๆ
สระว่ายน้ำยาวตามตัวอาคาร ขนาด 7 x 31 เมตร ลึก 1.2 เมตร และยังมีส่วน Jacuzzi และสระเด็กครับ ทั้งหมดเป็นระบบสระน้ำเกลือ ด้วยตำแหน่งชั้นบนสุดยังสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่งอีกด้วย (แต่ในภาพจำลองที่ทำมานั้นไม่ได้ใส่ตึกสวนลุมไนท์บาร์ซ่า รัชดา เอาไว้ครับ)
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 1
เริ่มที่ชั้น 1 กัน ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะพอสมควร แต่ดูจากแปลนแล้วจะไม่เห็น Drop off ชัดเจน เป็นลักษณะวนรถมาจอดเทียบมากกว่าครับ ถนนในคอนโดจะวิ่งไปเข้าที่จอดรถในตัวคอนโดเลย หน้าโครงการจัดพื้นที่สวนต้นไม้ขนาดใหญ่มองจากล็อบบี้คงคิดว่าร่มรื่นในระดับหนึ่งเพราะสวนด้านหน้าขนาดไม่ใหญ่มาก ตรงนี้ยังไม่เห็นหน้าตาจริงเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง ต้องส่องดูจากโมเดลรูปด้านบนครับ เรื่องนึงที่อาจจะต้องคำนึงคือเสียงจากภายนอก เพราะล็อบบี้คอนโดด้านหน้าอยู่ใกล้ถนนใหญ่มากและเป็นกระจกสูงโปร่งทั้งหมด ก็อยู่ที่การเลือกวัสดุมาว่าของจริงแล้วจะป้องกันเสียงได้ในระดับไหนครับ
Typical Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 7
แปลนนั้นเป็นรูปตัว L ซึ่งมองดูรูปด้านอาคารแล้วจะไม่เรียบซะทีเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง ห้องแบบสตูดิโอจะอยู่กลางอาคารฝั่งเหนือทั้งหมด ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ทั้งสองฝั่งครับ ห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอาคารแต่ละชั้นจะมี 4 ยูนิต ห้องแบบ Duplex ที่มีบันไดแต่ละยูนิตถือได้ว่าวางตำแหน่งดีมุมดี คือ รับวิวเต็มๆฝ้าสูง 6 เมตร ทิศเหนือไม่มีแดด แต่ละชั้นมี 2 ยูนิต และอยู่ที่ปลายอาคาร ส่วนยูนิตบนๆจะวางตำแหน่งด้วยห้องแบบ Penthouse จะอยู่ชั้นที่ 26 และ 27 ครับ
Typical Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 8
ซึ่งจะแตกต่างจากชั้น 7 ตรงห้องแบบ Duplex ที่ภายในยูนิตจะมีบันไดขึ้นไปถึงชั้น 2 ได้ Floor Plan นี้จะมีเฉพาะชั้นเลขคู่ถึงชั้น 26 ครับ
Typical Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 27
ชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้องแบบ Penthouse ครับ ชั้นหนึ่งมี 6 ยูนิตวางทั้งทิศเหนือ-ใต้ และจะมี Penthouse อีกชั้นหนึ่ง อยู่ชั้นที่ 26 ครับ
แปลนห้องดีไหม?
ลักษณะห้องของคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว หลักๆมีอยู่ 4 แบบครับ คือ สตูดิโอ ขนาด 28 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. ขึ้นไป และ 44.60 ตารางเมตร ส่วนแบบ 2 ห้องนอนไปเริ่มที่ 47 ตร.ม. แบบ Duplex ขนาด 81 ตร.ม. และแบบ Penthouse พื้นที่มากกว่า 110 ตร.ม. หากสังเกตทางเข้าแต่ละห้องจะถูกออกแบบให้เว้าเข้าไปหรือเรียกว่า Pocket Door ครับ ประตูจึงร่นเข้าไปห่างจากผนังทางเดิน 0.3 เมตร บริเวณ Pocket Door นี้นะครับจะมีช่องระบายที่เป็นกริด แม้ปิดประตูภายในห้องก็สามารถถ่ายเทอากาศได้ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่โครงการได้รางวัลครับ
แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao
แบบสตูดิโอ ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร
พื้นที่ห้องจะมีลักษณะยาวๆ ตามลำดับการเข้าถึงของฟังก์ชั่น ที่เปิดประตูเข้ามาจะเป็น Pantry ครัว และห้องน้ำ กลางห้องจะเป็นส่วนนั่งเล่น ถัดไปเป็นเตียง และยังมีมุมเล็กๆติดหน้าต่างให้นั่งทำงานด้วย แบบนี้ขาดในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่เก็บของ จะต้องนั่งทานอาหารที่โซฟาแทน ถ้าจะดูทีวีจากบนเตียงก็จะลำบากหน่อยเพราะต้องมองมุมเฉียงๆ เนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงนั้นต้องเก็บไว้ทำตู้เสื้อผ้า ส่วนพื้นที่รอบเตียงนั้นเดินวนรอบได้อยู่ ห้อง Type นี้ทางโครงการไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูนะครับ
แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.90 ตารางเมตร
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลย ด้วยระยะการดูทีวีถือว่าดีไม่ใกล้เกินไป แต่คนนึงก็จะต้องมองทีวีเฉียงๆเพราะตำแหน่งตรงหน้านั้นเป็นประตูห้องน้ำครับ ตัวห้องน้ำจะวางชิดติดทางเดินอาคาร ส่วนฝั่งติดด้านนอกจะมีห้องครัว และห้องนอน ซึ่งถือว่าห้องครัวมีขนาดใหญ่พอเหมาะ แบบใช้งานทำครัวได้เลยครับ และจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างครัวกับส่วนนั่งเล่นมาให้ด้วย จึงสามารถทำครัวอย่างเบ็ดเสร็จ ต้ม ผัด แกง ทอด ได้เลย ทำให้ปิดกั้นไม่ให้กลิ่นต่างๆเข้ามาในส่วนนั่งเล่น โดยเลือกใช้ประตูบานเลื่อน 3 ท่อน เวลาไม่ได้ทำครัวจึงเปิดได้กว้าง ถ่ายเทอากาศส่วนนั่งเล่นได้ดี ประตูกระจกบริเวณระเบียงบานใหญ่ หน้าต่างห้องนอนเกือบเต็มผนังสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้า มีบานเปิดแบบกระทุ้งมาให้ 2 บาน ระยะรอบเตียงต่างๆ 0.55 เมตร เดินได้สะดวกดีครับ
ด้วยการออกแบบทางเข้าห้องที่เว้าเข้า หรือเรียกกันว่า Pocket Door (แม้จะมีประโยชน์ในบางส่วนอย่างที่กล่าวไปแล้ว) จึงทำให้เกิดเสียพื้นที่ไปบ้าง อย่างพื้นที่ข้างๆชั้นวางทีวี ซึ่งนั่นทำให้วางทีวีได้ขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอีกฝั่งก็ติดกับประตูห้องน้ำด้วย ซอกตรงนี้อาจจะทำความสะอาดลำบากหน่อย หรือถ้าให้ดีก็แนะนำว่าทำชั้นบิวท์อินวางทีวีไปเลยก็ดีครับ เพราะถ้าเลือกโต๊ะจากร้านเฟอร์นิเจอร์อาจจะหาความกว้างที่พอดียากหน่อย หรืออีกฝั่งที่ภาพแปลนจัดให้เป็นโต๊ะทำงาน ในความรู้สึกแล้วดูอึดอัดไปหน่อย ถ้าจะนั่งทำงานตรงนั้น และเวลาที่จะหยิบของด้านข้าง น่าจะลำบากน่าดูเพราะติดกับโซฟาเลย ถ้าคนนึงนั่งทำงานคนที่นั่งถัดไปก็จะต้องดูทีวีเฉียงๆ ทั้งหมดนี้ก็วเคราะห์จากแปลนเป็นที่ตั้งนะครับ เพราะห้องแบบนี้ โครงการไม่ได้ทำไว้ครับ
ห้องแบบนี้พื้นที่ครัวนั้นกว้างได้ใจ เพราะหากมีปาร์ตี้เล็กๆ จะเพิ่มเก้าอี้อีกตัวเป็นสามที่นั่งก็ยังได้อยู่ครับ แถมยังมีประตูระเบียงบ้านใหญ่แสงเข้า และประตูบานเลื่อน 3 ท่อน ที่กั้นระหว่างครัวกับนั่งเล่น เมื่อเปิดพื้นที่ทั้งสองเชื่อมกัน จะให้เกิดสเปซเดียวกันที่ใหญ่ขึ้น
แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.86 ตารางเมตร
มาถึงห้องขนาด 1 ห้องนอนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะต่างกับแบบแรกเรื่องการเข้าถึงของฟังก์ชั่นครับ เพราะแบบก่อนหน้านี้ เมื่อได้เปิดประตูปุ๊ปเราจะเห็นส่วนนั่งเล่นก่อนเลย แต่แบบนี้ไม่ใช่เปลี่ยนไปหมดเลยครับ เพราะเข้ามาถึงจะเห็นครัวก่อนเลย แล้วนำส่วนห้องนั่งเล่นไปติดด้านวิวแทน ส่วนห้องนอนยังคงวางติดหน้าต่างเหมือนเดิม แต่คราวนี้ห้องนอนมีสเปซที่เพิ่มมากขึ้น โต๊ะทำงานก็มาอยู่ในห้องนี้ด้วย ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ซึ่งต่างจากแบบแรกข้างต้น ส่วนนั่งเล่นจะได้รับวิวเมือง ถัดจากโซฟาจะเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง และเป็นเรื่องยากนิดนึ่งครับที่ครัวเปิดแบบนี้จะสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง เพราะเรื่องกลิ่นที่หากเฟอร์นิเจอร์หรือม่านเป็นผ้าย่อมไม่มีผลดีแน่นอน
ส่วนเรื่อง Pocket Door ห้องลักษณะนี้ทำออกมาได้ดีครับ เพราะตำแหน่งดูลงตัว จากการเป็นพื้นที่ห้องน้ำ และอีกฝั่งก็เป็นบิวท์อินครัวซะเลย และยังเป็นสิ่งที่คอนโดแถมมาให้ด้วยครับ รวมๆแล้วแบบนี้แก้ปัญหาเรื่องซอกและมุมเล็กๆจากการใช้งานในแบบแรกได้ดีทีเดียวครับ ข้อจำกัดเดียวคือจะทำอาหารจริงจังไม่สะดวกเท่าไหร่อย่างที่บอกนั่นแหละ
แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.91 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอนที่มาพร้อมกับ 2 ห้องน้ำ ส่วนนั่งเล่น และส่วนครัว ตำแหน่งของห้องแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงมุมอาคาร แต่ว่าเปิดรับแสงได้ฝั่งเดียว พื้นที่ห้องนั่งเล่นดูกว้างทีเดียว สเปซของส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และส่วนครัวจะถูกเชื่อมกัน ดูเป็นสัดเป็นส่วนดีครับ จากพื้นที่ส่วนนี้กว้างกำลังพอดีจึงทำให้ระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟาได้ระยะที่เหมาะสม แต่ครัวจะเป็นแบบเปิดครับ สำหรับครอบครัวไหนชอบทำอาหาร ก็คงไม่ถูกจริตกับแม่ครัวหรือพ่อครัวเป็นแน่
ถัดไปจะเป็นห้องนอนใหญ่เตียงขนาด King Size ได้ และจะมีห้องน้ำ ซึ่งผนังฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกใสดูเซ็กซี่กันไป Sexy Bathroom แบบนี้บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ ก็ต้องแล้วแต่หล่ะครับ ซึ่งผลพลอดได้ก็ทำให้พื้นที่ห้องนอนดูกว้างขึ้น ภายในจะมีสำหรับแต่งตัวที่เกือบจะเป็น Walk-in Closet ห้องนี้มีพื้นที่รอบเตียงจะกว้างกว่าแบบ 1 ห้องนอนครับ ส่วนอีกห้องนอนนั้นจะเป็นห้องนอนเล็ก ขนาดเตียง 3.5 ฟุต แต่ก็จะมีตู้เสื้อผ้าให้ ความกว้างรอบเตียงก็ไม่ต่างจากห้องนอนใหญ่ ห้องนี้ต้องชมนะครับว่าจัดฟังก์ชั่นออกมาได้สวยดีทีเดียวเลย
ห้องตัวอย่างคอนโด The Room สุขุมวิท69 แบบ 1 ห้องนอน 34.20 ตารางเมตร
เข้ามาในห้องดูมุมรวมๆจากส่วนนั่งเล่นครับ จะมีโต๊ะทานข้าวหลบๆมุมอยู่ โดยรวมก็ไม่อึดอัดครับ
สเปซบริเวณทางเข้าห้อง ประตูทางขวาคือประตูเข้าห้องนอนครับ
มุมห้องนอนที่แปลนไซส์นี้ มีห้องนอนที่กว้างทีเดียว และจะมีตู้เสื้อผ้า สามารถวางโต๊ะทำงานข้างเตียงได้ด้วยครับ จุดที่ทำให้รู้สึกกว้างก็เพราะได้กระจกบานใหญ่มาเต็มบาน และมีสเปซโล่งๆตรงโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสือผ้าด้วยครับ
ขนาดระยะความกว้างทางเดินข้างเตียงตามนี้เลย พอมารวมกับกระจกบานใหญ่เต็มบานก็ทำให้ดูโล่ง โปร่ง มากครับ
มุมมองจากเตียงไปยังห้องน้ำครับ พื้นที่กว้างดี
Pantry ครัว ได้วัสดุตามนี้เลยครับ พื้นที่ตรงซอกด้านข้างโครงการจะทำ Built-in ปิดมาให้เลย ซึ่งก็ดูเรียบร้อยดี
ห้องตัวอย่างคอนโด Whizdom Avenue แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.91 ตารางเมตร
เปิดเข้ามาในห้องเจอมุมนั่งเล่นติดระเบียง และมุมครัวครับ โดยมีโต๊ะทานข้าวคั่นระหว่างกลาง ภาพรวมดูโปร่งโล่งสบายดีครับ
ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบเปิด แต่ก็ดูแยกเป็นสัดส่วนไปเลย และบิวท์อินครัวที่ให้มาก็ยาวเต็มพื้นที่เหมาะกับสเปค 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้งานเหลือเฟือ
มุมนี้ถ่ายจากหน้าประตูห้องนอนใหญ่ พื้นที่นั่งก็ให้มาพอสมควร ไซส์โซฟาสามารถปรับเปลี่ยนให้มีขนาดยาวได้กว้างนี้อีกนิดตามแนวผนัง จึงทำให้นั่งเล่นส่วนนี้ได้สะดวกสบายมากขึ้น หากมีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อน ลักษณะสเปซที่เป็นสี่เหลี่ยมแบบนี้จัดเฟอร์นิเจอร์ง่ายครับ
จากห้องนอนไปบริเวณระเบียงมั่งครับ บานหน้าต่างของส่วนพักผ่อนจะไม่ได้สูงจรดฝ้าเหมือนบานหน้าต่างในห้องนอนครับ
ภายในห้องนอนใหญ่ครับ จะเห็นได้ว่าหน้าต่างกระจกเต็มพื้นที่ผนัง จะมีหน้าต่างบานกระทุังให้ 2 บานครับ กระจกของ sexy bathroom ก็ช่วยทำให้ดูโปร่งขึ้นมากทีเดียว
จากมุมหน้าต่างถ่ายไปยังห้องน้ำที่ด้านหนึ่งเป็นกระจกแอบบเซ็กซี่เลยครับ ^^ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้เสื้อผ้า
อันนี้พื้นที่อีกหนึ่งห้องนอน ขนาดกำลังพอดี ดูไม่อึดอัดเท่าไร ส่วนหนึ่งก็คงมาจากช่องเปิดบานขนาดใหญ๋ พร้อมทั่งหน้าบานกระทุ้ง 2 บาน อีกเช่นเคย พื้นที่ข้างเตียงเหลือเยอะ เดินสบายมาก
ความกว้างของระเบียง พื้นที่ใช้งานเยอะครับ เอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่นได้
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมก็เป็นตามมาตราฐานครับ ผิวสัมผัสของวัสดุนั้นค่อนข้างจะโอเค ทั้งแบบ 1 ห้องนอนกับ 2 ห้องนอน วัสดุจะเป็นแบบเดียวกัน
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยครับ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
หน้าตาครัวบิวท์อิน ที่เป็นของ Custom made ครับ หน้าบานแบบ Soft Close
เปิดหน้าบานภายในจะเป็นแบบนี้ ปริมาตรเก็บของได้ระดับกลางๆครับ ไม่ได้น้อยแต่ก็ไม่ถึงกับเยอะมาก เครื่องซักผ้าไม่ได้ให้นะครับ แต่จะเว้นช่องแบบนี้มาให้ ส่วนท็อปจะเป็นหินเทียมครับ
เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิคของ Teka
เครื่องดูดควันก็ของ Teka เช่นกัน
อ่างล้างจาน 1 หลุม ฝังใต้เคาเตอร์ของ Teka ตัวผิวเคาน์เตอร์เป็นหินเทียมสีดำ
ผนังบริเวณครัวที่ทางโครงการให้กระเบื้องสีเทา จึงทำความสะอาดง่ายเวลาทำครัว
วัสดุห้องน้ำ
แยกส่วนเปียกและแห้งด้วยกระจก tempered glass หนา 10 มม.
ฝักบัวของ Cotto หน้าตาโอเค
กระจกเงาติดผนังลอยจากอ่างล้างหน้า
ภายในห้องอาบน้ำจะมีช่องสำหรับวางของ
กระจกแบบ Temper กั้นห้องอาบน้ำ พร้อมที่จับของ Cotto เช่นกัน
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ครับ
อ่างล้างหน้าเซรามิคจาก Cotto เคาน์เตอร์เป็นหินสีดำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
กรอบบานเลื่อนอลูมิเนียมอบสีดำ
พื้นลามิเนตหนา 12 มม. สีสวยทีเดียว
ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาครับ ลึก 0.8 เมตร บิวท์อินสูงถึงฝ้า และแต่ละบานแบบ Soft Close ครับ เปิดปุ๊ป ไฟติดเลย
เฉพาะห้องแบบ 2 ห้องนอน Duplex และ Penthouse ครับ ที่โครงการจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ conceal มาให้เลย
ราวกันตกเหล็กทาสี สูง 1.2 เมตร
บริเวณฝ้าตรงระเบียง ซึ่งจะซ่อน Compressor แอร์ไว้ด้านบน สามารถดึงบานเปิดลงมาซ่อมบำรุงได้ (ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำหน้าบานไว้) เป็นการออกแบบทีดีครับพื้นที่ระเบียงจึงกว้างหน่อย
แบบสวิสซ์เปิด – ปิด สวยดี
เต้าเสียบบริเวณเคาเตอร์อ่างล่างหน้าในห้องน้ำ มีฝาปิดกันน้ำด้วย
ช่องเปิดบริเวณห้องนอน ขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน
ราคา ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2558
ราคาเริ่มต้น :
studio พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 4,053,500 บาท เฉลี่ย 144,768 บาท/ตร.ม.
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ชั้น 6 ราคา 4,417,200 บาท เฉลี่ย 142,951 บาท/ตร.ม
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ชั้น 6 ราคา 4,979,400 บาท เฉลี่ย 142,840 บาท/ตร.ม
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
Studio และ 1 Bedroom จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 5%
- ผ่อนดาวน์
Studio และ 1 bedroom ผ่อนดาวน์ 10% 24 งวด
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 4,053,500 บาท ผ่อนประมาณ 23,350 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ราคาขาย 4,417,200 บาท ผ่อนประมาณ 25,499 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,979,400 บาท ผ่อนประมาณ 28,524 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 4,053,500 บาท ผ่อนประมาณ 24,679 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ราคาขาย 4,417,200 บาท ผ่อนประมาณ 26,949 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,979,400 บาท ผ่อนประมาณ 30,147 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 4,053,500 บาท ผ่อนประมาณ 26,903 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ราคาขาย 4,417,200 บาท ผ่อนประมาณ 29,378 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,979,400 บาท ผ่อนประมาณ 32,864 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 4,053,500 บาท ผ่อนประมาณ 30,958 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ราคาขาย 4,417,200 บาท ผ่อนประมาณ 33,806 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,979,400 บาท ผ่อนประมาณ 37,817 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 4,053,500 บาท ผ่อนประมาณ 39,641 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ราคาขาย 4,417,200 บาท ผ่อนประมาณ 43,288 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 34.86 ตร.ม. ราคาขาย 4,979,400 บาท ผ่อนประมาณ 48,424 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
การเดินทางนั้นจัดว่าค่อนข้างสะดวกเลยที่เดียว จากการเดินด้วยขนส่งมวลชนรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ที่สถานี MRT ลาดพร้าวอยู่หน้าโครงการเลยครับ ทำเลที่อยู่ตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวนั้นทำให้เข้าถึงได้จากถนนเส้นหลักทั้ง 2 เส้น การเดินทางโดยรถนั้นก็สะดวกดี ข้อสังเกตนิดนึงครับ คือ ถ้าวิ่งมาจากแยกรัชโยธินเมื่อเลี้ยวขวาแยกรัชดา – ลาดพร้าว ซึ่งจะเลี้ยวได้ 2 เลน พยามยามอยู่เลนทางฝั่งซ้าย เพราะว่าตัวที่ดินโครงการนั้นอยู่ใกล้แยกมาก ถ้าอยู่เลนขวาสุดเวลาเลี้ยวมาแล้วจะเปลี่ยนเลนเข้าไม่ทันอันตรายครับ เช่นเดียวกับมาจากห้าแยกลาดพร้าว เมื่อยูเทิร์นพยายามชิดซ้ายสุดทันทีครับ เพราะโครงการอยู่ใกล้แยกมาก ส่วนทิศทางอื่นไม่น่าจะมีปัญหา
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ย่านลาดพร้าว ถือว่าเป็นย่านที่คึกคักไม่น้อยครับ แม้จะไม่ได้เป็นฮับหรือศูนย์กลางธุรกิจแต่อย่างใด แต่ก็จัดเป็นโซนอยู่อาศัยที่คึกคักและมีการสัญจรหนาแน่น ย่านนี้สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าได้ง่ายและสะดวกมาก เพราะเดินทางไปได้ทั้งเส้นรัชดาภิเษกด้วย จะเห็นว่าไม่ใกล้ไม่ไกลโครงการยังมีคอนโดเจ้าอื่นอยู่ไม่น้อย แต่ความอุดมสมบูรณ์รอบๆจะไปกระจุกอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าวและพหลโยธินตอนต้นมากกว่า ในอนาคตจะมี MRT สายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลด้วยนะครับ จากจุดอาคารจอดรถแล้วจรของ MRT ที่อยู่ตรงข้ามโครงการ แล้วสิ้นสุดที่สำโรง โดยวิ่งผ่านเส้นลาดพร้าว , บางกะปิ และศรีนครินทร์ครับ อนาคตถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกไม่น้อย เพราะตอนนี้ลาดพร้าวนั้นเป็นโซนที่รถติดมากเอาเรื่องทีเดียว
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ด้วยความที่ตัวที่ดินของโครงการนั้นเป็นแนวยาวเกือบจะขนานไปกับทิศตะวันออก – ตะวันตก ทำให้พอวางแปลนออกมาแล้วจะมีด้านทิศใต้และทิศตะวันตกที่โดนแดดบ่ายเต็มๆชัดเจน นอกจากนั้นทิศใต้ยังมีเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่ถูกบีบด้านนึงด้วยอาคารสวนลุมไนท์รัชดาตามแนวถนนรัชดาภิเษก (ตึกสวนลุมไนท์รัชดาสูงที่ 18 ชั้น ส่วนจุดสูงสุดของโครงการจะอยู่ 28 ชั้นครับ) ต้องชั้นสูงๆถึงจะเห็นวิวเมืองในมุมกว้าง ซึ่งต่างกับอีกด้านทางทิศเหนือที่มองห็นวิวโล่งๆทางรัชโยธินได้เต็มตาและไม่ร้อนอีกด้วย ซึ่งด้านนี้เอง ทางโครงการได้จัดวาง Facilities อย่างพื้นที่สีเขียว และห้องอ่านหนังสือ ซึ่งอาจจะไม่เห็นวิวได้ไกลมากนักเพราะอยู่บริเวณชั้น 5 แต่ผมคิดว่าบรรยายภายในคงโล่งโปร่งสบายดีครับ เพราะผนังเป็นกระจกทุกด้านด้วยความสูง 6 เมตร จึงโปร่งแส่งสว่างเข้าได้เต็มที่ และ Facilities อื่นๆ เช่นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Sky Lounge จะวางตำแหน่งไว้ชั้นบนสุด ซึ่งได้วิวเมืองเต็มๆ แต่ห้องฟิตเนสทางใต้จะร้อนหน่อยในช่วงบ่าย
การออกแบบรูปด้านอาคารภายนอกดูมีมิติดีครับ ผลมาจากขนาดห้องแต่ละห้องเล็กบ้างใหญ่บ้างส่วนหนึ่ง และผิวสัมผัสอาคารที่เลือกทาสีน้ำตาลเข้มออกแดงๆหน่อยจึงน่าจะเกิดเฉดอย่างน่าสนใจ เมื่อมารวมกริดเส้นแนวตั้งสีขาวและสีส้มเข้มทำให้ดูโมเดิร์นและมีลูกเล่นขึ้น ทั้งนี้จะออกมาสวยไม่สวยนี่ขึ้นกับการเลือกโทนสีจริงๆเลย เพราะตอนนี้เวลาดูในภาพจำลองกับโมเดลสีมันยังต่างกันอยู่ด้วย ส่วนโพเดียมอาคารที่เป็นที่จอดรถ จะมี Green Wall โดยรอบ (ยกเว้นทางทิศใต้ – – ไหนๆทำแล้วก็น่าจะทำให้รอบไปเลยนะครับ) คงน่าสนใจที่เดียวครับเพราะสีเขียวของต้นไม้คงดูเด่นเมื่อมีพื้นหลังเป็นสีน้ำตาล ต่างจากส่วนด้านหน้าอาคารที่เป็นทางเข้าสู่โถง Lobby ได้ออกแบบภายนอกเป็นระแนงแนวตั้งสีส้มเข้ม ซึ่งทำให้ดูเด็กลงหน่อย
มาถึงการวางแปลนของฟังก์ชั่นแต่ละห้องในภาพรวมครับ สำหรับห้องสตูดิโอ 28 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร จะมีสเปซบางจุดที่ใช้งานไม่สะดวกอยู่บ้างอย่างที่เล่าไปแล้ว ในขณะที่แบบ 34 ตารางเมตร นั้นดูจะสบายๆลงตัวกว่าเช่นเดียวกับแบบ 2 ห้องนอน 55 ตารางเมตร ที่จัดแปนออกมาสวยดีครับ ลักษณะเด่นของการจัดสเปซของคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว นั้นจะอยู่ที่การให้สเปซระหว่างฟังก์ชั่นของแต่ละส่วนครับ อย่างพื้นที่รอบๆเตียงไม่ว่าจะเป็นแบบห้องนอนเล็กหรือห้องนอนใหญ่ก็จะมีพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบาย คล่องตัว ไม่ต้องเดินเบียงตัว ซึ่งทำให้วางขนาดเริ่มต้นของห้องสตูดิโอเอาไว้ที่ 28 ตารางเมตร ในขณะที่ถ้าลองเทียบคู่แข่งในทำเลเดียวกันอย่าง Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 จะวางขนาดห้องสตูดิโอเริ่มต้นที่ 23 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าต่างกันพอสมควรครับ
จุดที่น่าสนใจอีกจุดที่ไม่ค่อยเห็นจากที่อื่นคือการทำ Pocket Door ซึ่งโดยปกติมักใช้กับโรงแรมเกรดหรูหน่อย เวลาเดินตามแนวโถงทางเดินแล้วจะมองไม่เห็นบานประตูห้องแต่ละห้องครับ โครงการบอกว่าตรง Pocket Door ที่เว้าเข้าไปจะมีช่องเปิดที่สามารถระบายอากาศจากในห้องได้ด้วย (แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำไว้) เดี๋ยวคงต้องรอดูของจริงว่าจะออกมาเป็นยังไงครับ ด้านวัสดุก็ให้มาดีในภาพรวมตามมาตราฐานครับ ได้กระจกบานใหญ่ ผิวสัมผัสของวัสดุดี แต่ก็อย่าลืมว่าราคาคอนโดนั้นเป็นราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่เปิดตัวสูงที่สุดในโซนแยกรัชดา-ลาดพร้าว แล้ว (ไม่เอาไปรวมกับตรงห้าแยกลาดพร้าวนะครับ ตรงนั้นถือเป็นฮับใหญ่กว่า) วัสดุในห้องแต่ละแบบจะไม่ได้แตกต่างกันมากครับ ได้มาแบบ Fully Fitted มีชุดครัว, ตู้เสื้อผ้า และแอร์มาให้
ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ มีสระว่ายน้ำ, ห้องสมุด, ฟิตเนส และ Sky Lounge ชั้นบนให้ลูกบ้านมาชมวิว ฟิตเนสนั้นจะร้อนแดดบ่ายหน่อย ช่วงบ่ายคงต้องชักม่านปิด สเปซในพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Lobby, ห้องสมุด, ฟิตเนส นั้นเป็น Double Space สูง 6 เมตร และผนังเป็นกระจกส่วนใหญ่ ก็น่าจะออกมาโปร่ง โล่ง และน่าใช้งานมากเมื่อดูจากการตกแต่งภายในครับ ด้านความหนาแน่นนั้นมีลิฟต์ 4 ตัว กับ 497 ยูนิต สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 124 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นพอโอเคอยู่ ที่จอดรถ 60% กับโครงการติดๆกับรถไฟฟ้าก็ถือว่าใช้ได้ครับ เพียงแต่ถ้ามองเทียบกับระดับราคาก็น่าจะมีสัดส่วนมากกว่านี้อีกสักหน่อย เพราะคนที่ซื้อคอนโดราคาเฉลี่ยเท่านี้ก็น่าจะมีรถกันหมด
ด้านตัวเลือกอื่นๆ
โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้มีเปิดตัวไล่เลี่ยกัน มี 1 โครงการ นั้นก็คือ Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24
นอกนั้นก็มีที่สร้างเสร็จขายหมดไปแล้วอย่าง Haus23 บริเวณปากซอยลาดพร้าว 23 หรือเยื้องๆกับ Whizdom Avenue ได้แก่ Ideo ลาดพร้าว 17 กระเถิบไปนิดก็จะเป็นคอนโด Issara บริเวณลาดพร้าว 12 ครับ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ