2-3 ปีที่ผ่านมาในยุคตลาดคอนโดที่เฟื่องฟูสุดๆ  เราจะเห็นการเกิดใหม่ของคอนโดในเมืองทั้งเจ้าใหญ่เจ้าเล็กแทบจะเปิดกันทุกสัปดาห์  ต่างก็งัดกลยุทธ์เพื่อเข้ามาแข่งขันในตลาดต่อสู้ฟาดฟันกัน  ทั้งดีไซน์  คอนเซ็ป  โปรโมชั่น  รวมถึง package ทางตลาดต่างๆ ที่ขนกันมาสร้างอารมณ์ร่วมในการซื้อขายจับจอง … จนมาถึงในปัจจุบันปีนี้  เราจะเห็นว่าคอนโดมิเนียมในหลายๆระดับราคาชลอตัวลง  ทั้งในระดับราคาล่างพวกคอนโดราคาประหยัดที่ปกติซื้อหาจับต้องง่าย  มีจำนวนดีมานด์ที่เยอะมาก,  ระดับราคากลางๆที่ขายพนักงานมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายซื้อหาเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น  ซึ่งปัจจัยนึงที่ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเหล่านี้ชลอตัวลงก็เนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นมาก  รวมถึงดีมานด์ความต้องการคอนโดเติบโตไม่ทันกับซัพพลายที่ออกมาสู่ตลาดจนเริ่มจะล้นตลาดในบางพื้นที่  ทำให้ปีนี้ตลาดล่างและตลาดระดับกลางดูซบเซาลงไปพอควร (ยกเว้นแต่โครงการที่กล้าหาญไปบุกเบิกในทำเลใหม่ๆ)  แต่ที่ดูจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักก็เป็นตลาดบนที่ระดับราคาค่อนข้างสูงรวมไปจนถึงตลาดพรีเมียมราคาแพง  ซึ่งก็มักจะเป็นคอนโดในเมืองตามแนวรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่

แน่นอนว่าเมื่อตลาดคอนโดเล่นกันยากมากขึ้น  การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคก็ยากมากขึ้น  เลยเป็นเวลาที่ดีเวลลอปเปอร์ต่างๆจะงัดกลยุทธ์มาต่อสู้กัน …  ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ คอนเซ็ป โปรโมชั่นต่างๆ ที่เอามาแข่งขันมีมากมาย  แต่ผมไม่อยากให้ลืมปัจจัยที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือ “คุณภาพคอนโด” นั่นเอง

คุณภาพคอนโด นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักจะถูกแพคเกจสวยหรูทางการตลาดหลอกล่อจนลืมคำนึงถึงไป  ซึ่งต้องยอมรับว่าในเรื่องนี้ ดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่แทบทุกเจ้านั้นได้เปรียบกว่าเจ้าเล็กมากมากทีเดียว  ลองนึกภาพว่าถ้าเราพูดถึงการรับรู้เชิงคุณภาพของเจ้าใหญ่กับดีเวลลอปเปอร์โนเนมก็แทบจะสู้กันไม่ได้แล้ว  เช่น ถ้าพูดถึง  คุณภาพคอนโด AP กับ คุณภาพคอนโด ABC (โนเนม นามสมมติ) ก็แน่นอนว่าคนก็ต้องเชื่อใน คุณภาพคอนโดเอพี มากกว่าคอนโด ABC แน่ๆ

จริงๆนอกจากคอนโด AP แล้ว ผมก็ชื่นชมที่เจ้าใหญ่ๆหลายเจ้าพยายามทำเรื่องนี้มาโดยตลอด  ทั้งสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง  ไม่ว่าจะเป็น Land & Houses , Sansiri , Ananda , Noble , Pruksa หรือแม้แต่แบรนด์ขวัญใจตลาดราคาประหยัดอย่าง LPN ที่โด่งดังกับคอนเซ็ปชุมชนน่าอยู่  บางโครงการก็ออกมาดีบ้าง  พลาดบ้าง ก็ต้องเรียนรู้กันไป .. ซึ่งผมในฐานะนักรีวิว การที่เห็นดีเวลลอปเปอร์พัฒนาคอนโดทั้งหลายลดจำนวนการเปิดโครงการลง  และหันมาให้ความใส่ใจเรื่องคุณภาพคอนโดมากขึ้น  ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ  คนซื้อก็ได้ของที่ “ใส่ใจ” ในการทำมากขึ้นกว่าการขายคอนโดเพื่อจะเร่งปั๊มยอดตัวเลขทางการเงิน  แล้วพอคอนโดเสร็จออกมาไม่ดีจริง  คนก็ด่า  เสียหายทั้งในมุมคนซื้อและมุมคนขาย

“คุณภาพคอนโด” ที่ดี นั้นควรจะประกอบด้วยปัจจัยหลักๆ ดังนี้ …

• คุณภาพคอนโดในเรื่องทำเลที่ตั้งในปัจจุบัน
• คุณภาพคอนโดในเรื่องศักยภาพของทำเลในอนาคต รวมถึงความเจริญเติบโตของเมือง
• คุณภาพคอนโดในเรื่องการออกแบบ
• คุณภาพคอนโดในเรื่องวิวและมุมมอง
• คุณภาพคอนโดในเรื่องการเข้าถึง
• คุณภาพคอนโดในเรื่องความปลอดภัย
• คุณภาพคอนโดในเรื่องการก่อสร้าง
• คุณภาพคอนโดในเรื่องแบรนด์
• คุณภาพคอนโดในเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ

ลองนั่งนึกเล่นๆระหว่างที่เขียนบทความนี้  ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา  มีคอนโดมิเนียมโครงการไหนบ้าง  ที่ทำออกมาแล้วน่าประทับใจในเชิงคุณภาพเหล่านี้  ลองลิสมาให้ดูกันสัก 5 โครงการครับ

1 คุณภาพคอนโด AP

สำหรับคอนโด AP ในปีนี้  มีเปิดตัวไปแล้ว 4 โครงการ คือ Life Asoke , Rhythm รางน้ำ , Aspire ลาดพร้าว 113 , Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ และกำลังจะเปิดตัวอีกโครงการคือ Life ปิ่นเกล้า

ถ้าให้เลือกหยิบคอนโด AP มา 1 โครงการที่เป็นตัวแทนคุณภาพคอนโด AP  ปีนีี้ ผมเลือกคอนโด Rhythm รางน้ำ  เนื่องจากปัจจัยด้านคุณภาพทำเลคอนโด ทั้งในปัจจุบันที่ใกล้กับฮับกลางเมืองอย่างอนุสาวรีย์ชัย  และคุณภาพทำเลในอนาคตเนื่องจากที่ดินรอบๆเหลือน้อยมาก โอกาสที่จะมีซัพพลายเกิดใหม่อีกยากมาก  และถ้ามีก็ราคาจะยิ่งแพงมากด้วย   นอกจากนั้นคอนโด AP โครงการ Rhythm รางน้ำ ยังมีคุณภาพในเชิงการเข้าถึงจาก BTS  เพราะสามารถเดินทะลุศูนย์การค้า Century มาได้เลย  สาวๆกลับบ้านดึกๆ เวลาเดินจากรถไฟฟ้ากลับไปคอนโดก็จะอุ่นใจมากขึ้น ด้วยคุณภาพของคอนโดเอพี โครงการ Rhythm รางน้ำ ก็ทำให้ขายหมดไปตั้งแต่วันแรกๆ ที่เปิดตัว  และทำกำไรให้นักลงทุนขาเก็งกำไรทั้งหลายพอควรครับ

2 คอนโด Pruksa

คอนโดพฤกษานั้นเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มีหลายทีมในการพัฒนา (ปัจจุบันมีอยู่ 6 SBU)  ทำทั้งหลากหลายระดับราคาตั้งแต่คอนโดราคาประหยัดแบรนด์ พลัมคอนโด ไปจนถึงคอนโดในระดับราคากลางๆค่อนไปทางสูง  แต่ยังไม่ได้ไปจับตลาดแพงมากนัก  ถ้าให้เลือก 1 โครงการที่เปิดตัวปีนี้ผมเลือกคอนโด  Chapter One Midtown ซึ่ง sold-out ไปทั้งแต่เปิดตัวมาไม่นานเช่นกัน  คุณภาพของคอนโดนี้ผมยกให้เรื่องของคุณภาพทำเลคอนโดดี (ติดถนนใหญ่ แยกรัชดา-ลาดพร้าว) ซึ่งจะเป็นจุดที่เป็นต้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลือ (ลาดพร้าว-สำโรง) ในอนาคตด้วย  ซึ่ง Chapter One Midtown ยังทำออกมาในราคาจับต้องได้  เนื่องจากพยายามดีไซน์ขนาดห้องให้เล็กลงและยังใช้ฟังก์ชั่นต่างๆได้อยู่  ราคารวมจึงจะเป็นจุดที่คนธรรมดาแบบมนุษย์เงินเดือนยังจับต้องได้อยู่ครับ

3 คอนโด Sansiri

ปีนี้พี่แสนสิริ มากับแบรนด์ The Line อย่างเต็มตัวทั้ง 5 ทำเล  หลังจากเปิดตัวไป 2 ทำเล ก็ขายหมดไปในวันเดียวทั้งคู่  ถ้าให้เลือกโครงการเดียว  ผมเลือกคอนโด The Line จตุจักร-หมอชิต มากกว่า  เนื่องจากคุณภาพของวิวและมุมมอง  ซึ่งพื้นที่สีเขียวของสวนจตุจักรนั้นหาได้ยากมาในปัจจุบัน  และเรื่องของคุณภาพทำเลในอนาคต  ที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆได้เริ่มงานก่อสร้างไปแล้วอย่างฮับของรถไฟตรงบางซื่อ-จตุจักร  และแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต – คูคต)  ก็เป็นส่วนส่งเสริมในเรื่องของคุณภาพทำเลในอนาคตเช่นกัน

4 คอนโด Noble

ปกติแล้วโนเบิลในแต่ละปีจะเปิดคอนโดไม่เยอะอยู่แล้ว  ปีนี้เปิดคอนโด Noble BE33 มา  ซึ่งต้องยกให้ในแง่ของทำเล  เพราะซอยสุขุมวิท 33 นั้นใกล้กับฮับกลางเมืองย่านช็อปปิ้งอย่าง Em District ที่มีทั้ง Emporium , Em Quartier และโครงการที่จะเกิดในอนาคตตรงข้ามปากซอยสุขุมวิท 33 อย่าง Emsphere ครับ  สุขุมวิทฝั่งเลขคี่นั้นก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นตลาดสำหรับคนญี่ปุ่นเช่าและคนไทยที่มีฐานะก็อยู่กันเยอะ  ถ้าดู feedback จากการขายจะเห็นได้ว่า ห้องราคาใหญ่แพงๆ ขายดีมาก  ที่ยังขายไม่หมดกลับเป็นห้องเล็กที่เอาไว้ทำราคาเปิดตัวให้ดูไม่สูงมาก  ซึ่งก็น่าจะสะท้อนให้เห็นว่าเป็นกลุ่มที่เป็น real demand กำลังซื้อสูงจริงๆอยู่เยอะทีเดียว

5 คอนโด Ananda

ปีนี้ของทางอนันดามีคอนโดทั้งหมด 4 โครงการ  ให้เลือกมา 1 โครงการ ก็คงจะเป็น Q Chidlom-Petchburi  จริงๆทำเลโครงการนี้ในมุมมองของผมค่อนข้างด้อยกว่าคอนโดแนวเส้นสุขุมวิทพอควรในเรื่องการเดินทางโดยรถไฟฟ้า  แต่ก็ชดเชยด้วยความใกล้ฮับช็อปปิ้งอย่าง Central World   แต่ที่ทำให้น่าสนใจคือ คุณภาพของงานดีไซน์  ที่ทำออกมาดีและเป็นเอกลักษณ์จริงๆ  โดยเฉพาะต้องให้คะแนนกับพื้นที่ส่วนกลางบนส่วนยอดของคอนโด  ที่จัดมาดูแพงสมราคาครับ

ยกตัวอย่างคอนโดที่น่าสนใจในเชิงคุณภาพที่เปิดตัวปีนี้ไป 5 โครงการแล้ว  ในฐานะนักรีวิวก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าดีเวลลอปเปอร์ทั้งหลายจะลดการแข่งขันด้านโปรโมชั่น ของลดแลกแจกแถมกันลงบ้างแล้วแบ่งเวลาส่วนนึงหันมา “ขายคุณภาพ” กันมากๆ  เพื่อคนซื้อก็จะแฮปปี้  คนขายก็แฮปปี้ มีความสุขกันทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ  ^_____^