สวัสดีค่ะ รีวิวนี้จะพามาชมคอนโด BENEDICT at The Saint Residences  ซึ่งเป็นอาคารหนึ่งในกลุ่มคอนโดที่อยู่ในโครงการ The Saint Residences บริเวณห้าแยกลาดพร้าวค่ะ  เบเนดิกต์ แอท เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส  ถือเป็นเฟสสองที่เพิ่งเปิดให้จองกันหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการขายอาคาร C หรือ Charlie ไปก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว  ซึ่งตอนเปิดโครงการใหม่ๆ อยู่สบายก็เคยได้ทำรีวิว The Saint Residences  ไปแล้วรอบนึง  วันนี้เราพากลับไปดูที่โครงการอีกครั้ง  เพื่อชมรายละเอียดในส่วนของ BENEDICT  และพาไปดูรายละเอียดของทำเลย่านนั้นให้มากขึ้นค่ะ

ที่ตั้งของ Benedict at The Saint Residences อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ใกล้สถานี MRT พหลโยธิน และกำลังจะมี BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาลงในจุดที่ไม่ห่างกันมาก  ทำให้บริเวณนี้จะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางสะดวกขึ้นมากค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Benedict at The Saint Residences

( เบเนดิกต์ แอท เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Salan Development)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนวิภาวดีรังสิต ติดมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
• ขนาดที่ดิน >>> 7 – 0 – 51.4 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 41 ชั้น  (ที่จอดรถชั้น 1 – 6)
• จำนวนอาคาร >>> 3 ทาวเวอร์ มีโพเดียมร่วมกัน
  • Tower A – Anthony
  • Tower B – Benedict
  • Tower C – Charlie
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน (Type A) 29.86 – 35.88 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน (Type B) 55.40 – 65.60 ตารางเมตร
  • 3 ห้องนอน (Type C) 86.00 – 95.90 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 1,533 ยูนิต และร้านค้า 4 ร้าน
  • Tower A – 407 ยูนิต
  • Tower B – 406 ยูนิต
  • Tower C – 720 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 766 คัน ประมาณ 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมกันทั้ง 3 อาคาร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 4.2 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 6 / 7 / 2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 150,000 บาท / ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.811338, 100.559914
• ติดต่อ >>> 081-554-7575, 081-554-3030
• เว็ปไซต์โครงการ >>> www.thesaint-residences.com/benedict/

.

โครงการ Benedict at The Saint Residences ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ระหว่างซอยวิภาวดีรังสิตซอย 26 กับซอย 24 ( ซอย 24 คือ ทางเข้ามหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ) ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว สามารถลงสถานี MRT พหลโยธิน ฝั่งตรงข้าม Union Mall ประตู 2 หรือประตู 1 ก็ได้ แล้วเดินไปยัง The Saint Residences ได้ในระยะประมาณ 300 เมตร หากเดินทางด้วยรถยนต์ไม่ว่าจะมาจากถนนลาดพร้าว, ถนนพหลโยธิน ก็สามารถมาเลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิตที่ห้าแยกลาดพร้าวได้ค่ะ

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่ได้ค่ะ

เนื่องจากว่าตัวคอนโด Benedict อยู่ตรงใกล้ห้าแยกลาดพร้าวมาก  ซึ่งหน้าโครงการมีทางยกระดับข้ามแยกกั้นอยู่  ทำให้คนที่ไม่ได้ขับรถมาโซนนี้บ่อยอาจจะงงเรื่องการเข้าถึงได้  เราเลยทำแผนที่กราฟิกมาให้ดูกันง่ายๆ ว่ามาจากเส้นทางไหน  ต้องขับรถอย่างไรถึงสะดวกค่ะ  ^^

1) หากเดินทางจากถนนลาดพร้าวไปยังโครงการนั้น ง่ายมากค่ะ มุ่งหน้าเข้าห้าแยกลาดพร้าว ขับชิดเลนซ้ายสุดเอาไว้ พอถึงห้าแยกแล้วก็ยังชิดซ้ายต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะเข้าถนนวิภาวดีรังสิตทางคู่ขนาน ไปถึงหน้าโครงการได้เลย แต่ถ้าที่ห้าแยกลาดพร้าวรถติดมากๆ ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 2 เพื่อไปออกวิภาวดีรังสิต 26 ก็ได้ เห็นเป็นซอยสั้นๆ แบบนี้ จริงๆ แล้วช่วยได้มากนะคะ

2) ถ้ามาจากพหลโยธินฝั่งขาออก เวลาใกล้ถึงห้าแยกลาดพร้าวให้อยู่เลนไปดินแดง เลนที่ 2 จากทางขวาค่ะ ทางจะพาผ่านห้าแยกไปเลี้ยวขวาเข้าถนนวิภาวดีรังสิต เข้าโครงการได้เลย 

3) หากใช้ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก (มาจากดินแดง) เพื่อมายังโครงการ ก็มีหลายทางเลือกค่ะ สามารถขับชิดซ้ายเพื่อมากลับรถก็ได้ แต่จะเลยทางเข้าโครงการไป ต้องขับเบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 22 แล้วไปลัดออกซอยลาดพร้าว 4,6,8 อีกที ทางอาจจะดูซอกแซกไปนิด แต่เส้นทางนี้ช่วยยามรถติดได้มากๆ 

4) หรือจากถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก (มาจากดินแดง) จะไปวนเข้าถนนลาดพร้าวที่หน้า Central ลาดพร้าวเลยก็ได้ เวลาขับถนนวิภาวดีรังสิตขาออกพอถึงห้าแยกก็ให้ตามป้ายไปลาดพร้าว-รัชโยธินค่ะ พอลงสะพานใช้ชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพานวนข้าง Central ไปลงถนนลาดพร้าว แต่ขอบอกเลยว่า วิธีนี้เหมาะกับขับช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วนเท่านั้น  ซึ่งเส้นก็สามารถใช้กับการเดินทางมาจากถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้าได้เหมือนกัน (จากดอนเมืองมุ่งหน้าดินแดง) พอถึง Central ลาดพร้าวก็ให้อยู่ชิดเลนซ้ายเอาไว้ เพื่อจะได้เลี้ยวซ้ายเข้าวงเวียนกลับไปถนนลาดพร้าวค่ะ

5) ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก วิ่งตามป้ายลาดพร้าว-รัชโยธิน เหมือนเดิม แต่คราวนี้ตรงเข้าถนนพหลโยธิน ไปกลับรถหน้า Tesco Lotus ลาดพร้าว (ชื่อทางการว่าสาขาลาดพร้าว แต่จริงๆ อยู่บนนถนนพหลโยธินนะคะ) เพื่อกลับมาหน้าโครงการอีกทีก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แนะนำเส้นทางนี้  เพราะว่ามีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอยู่  รถติดค่ะ  บางวันอาจจะปิดจุดกลับรถด้วย 

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

เราเดินทางไปที่ตั้งโครงการด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้รถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ ออกสถานีพหลโยธิน ประตู 2 จะขึ้นไปอยู่ฝั่งตรงข้าม Union Mall พอดี หันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้าแยกลาดพร้าว เดินเลี้ยวซ้ายตามถนนวิภาวดีรังสิตไปเรื่อยๆ ผ่านอาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านค้าไปไม่นานก็จะเห็นโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

.

แผนที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพหลโยธิน สถานีนี้มีทางออก 5 ทางค่ะ ไปโครงการ Benedict at The Saint Residences ให้ออกประตู 2 มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ถ้าออกประตู 4 จะไป Union Mall, ประตู 3 ไป Central ลาดพร้าว

ออกสถานีพหลโยธิน ประตู 2 มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ตามป้ายไปเลย

ขึ้นมาแล้วจะเจอลานกว้างๆ มองไปข้างหน้านู่นนน.. จะเห็นประตูทางออกหมายเลข 1 (ปากซอยลาดพร้าว 4) ซึ่งเราสามารถออกประตูนั้นได้เหมือนกัน ส่วนซอยลาดพร้าว 2 ที่อยู่ด้านหน้า ระหว่างทางออก 1 และ 2 นี่ก็สามารถใช้เป็นทางลัดไปออกซอยวิภาวดีรังสิต 26 ได้ เวลาขับมาจากทางลาดพร้าวแล้วรถติดที่ห้าแยก ก็สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ไปออกข้างโครงการ BENEDICT ได้เลย  เป็นซอยสั้นๆ แต่ช่วยประหยัดเวลารถติดตรงแยกไฟแดงได้  ส่วนทางขวามือจะเป็นอาคารพาณิชย์  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารและร้านนั่งดื่มที่เปิดตอนเย็นและกลางคืน

มองไปทางฝั่งตรงข้ามจะเป็น Union Mall ค่ะ อยู่แถวนี้ช้อปปิ้งสบายๆ จะเดินข้ามถนนไปหรือมุดใต้ดินไปออกประตู 4 ก็ได้

ให้เราเดินกลับหลังหันมาที่ห้าแยกลาดพร้าวค่ะ

บรรยากาศห้าแยกลาดพร้าวเป็นที่ปราบเซียนของมือใหม่หัดขับค่ะ สมัยหัดขับใหม่ๆ มาถึงห้าแยกนี้ทีไรใจสั่นทู้กที

ซ้ายมือยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ ที่ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารเปิดตอนเย็น – กลางคืน ถ้ากลับบ้านตอนกลางคืนก็ไม่เปลี่ยวค่ะ เพราะมีร้านเหล่านี้อยู่เป็นช่วงๆ ตลอดทางเดิน

หลุดจากโซนอาคารพาณิชย์มาแล้วก็ยังคงเป็นร้านอาหารและร้านนั่งดื่มเช่นกัน

เดินมาไม่นานก็ถึงซอยวิภาวดีรังสิต 26 แล้วค่ะ เห็น The Saint Residences อยู่ด้านหน้าแล้ว

ถ้าเดินมาจากซอยลาดพร้าว 4 จะเดินมาทะลุออกซอยวิภาวดีรังสิต 26 นี้ได้ค่ะ ด้านในซอยก็ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์  และก็มีโบสถ์เซนต์จอห์นอยุ่ด้านในซอยด้วย

ทางซ้ายมือที่ตอนนี้เป็นสวนอยู่ เป็นที่ดินของทาง ซาแลน ดีเวลลอปเมนต์ เหมือนกัน ในอนาคตจะปล่อยเช่าระยะยาวเป็น Community Mall หรือสำนักงานค่ะ

มาถึงหน้าโครงการแล้ว ถนนด้านหน้าเป็นถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า (คู่ขนาน) เป็นทาง 2 เลน เพราะมีสะพานข้ามแยกมาเบียดอยู่ด้วย ทางลงสะพานนี้ เป็นสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวจากถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้าค่ะ คือ ถ้าเรามาจากฝั่งวิภาวดีรังสิตขาเข้า หากใช้สะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวมาจะเลยทางเข้าโครงการ

บรรยากาศหน้าโครงการและด้านหน้าตัวสำนักงานขายค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

Benedict at The Saint Residences อยู่บนถนนใหญ่วิภาวดีรังสิตทางคู่ขนาน ใกล้กับห้าแยกลาดพร้าวมาก มีข้อดีคือใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พหลโยธิน ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย จาก BTS หมอชิตผ่าน มีสถานี BTS ห้าแยกลาดพร้าวมาเชื่อม ทำให้เป็น Interchange Station เดินทางสะดวกกันมากยิ่งขึ้น การเดินทางด้วยรถยนต์จากโครงการเข้าตัวเมืองสะดวกมาก ออกจากโครงการก็ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตหน้าโครงการวิ่งเข้าตัวเมืองหรือไปขึ้นทางด่วนได้เลย

บริเวณห้าแยกลาดพร้าวนับมี Hub สำคัญของย่านนี้หลายแห่ง ถ้าเป็นเรื่องช้อปปิ้ง จะมี Central ลาดพร้าว, Union Mall และที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเป็นที่ยอดฮิตของชาวต่างชาติคือ ตลาดนัดสวนจตุจักร ที่อยู่ถัดไป 1 สถานี ส่วนพื้นที่พักผ่อนย่านนี้มี สวนจตุจักร, สวนรถไฟ, สวนสมเด็จย่า, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวตรงนี้ได้จากคอนโด Benedict  อีกด้วย แต่ที่จะยิ่งทำให้ย่านนี้คึกคักและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีกจะเป็นโครงการ Bang Sue Complex ที่สถานีกลางบางซื่อ จะอยู่ห่างออกไป 2 สถานี มีพื้นที่ครอบคลุมบางซื่อ – จตุจักร โครงการนี้จะพัฒนาที่ดินให้เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟของประเทศ และพัฒนาเป็นโซน Complex City ต่างๆ เช่น สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, ที่พักอาศัยและพื้นที่นันทนาการ

• Zone A Smart Business Complex
• Zone B Asean Hub
• Zone C Smart Town
• Zone D The Interchange Plaza

วิดีโอพรีเซ็นต์โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ

Credit ที่มา : Bangsue Aseanhub
ภาพ Perspective จำลองแผนพัฒนาย่านบางซื่อ-พหลโยธินค่ะ โซน A มีพื้นที่ประมาณ 35 ไร่, โซน B 78 ไร่ และโซน C ประมาณ 105 ไร่

ภาพ Perspective สถานีกลางบางซื่อ ที่จะมีรถไฟฟ้าหลายสายมาเชื่อม

ส่วนรถไฟฟ้าปัจจุบันที่ผ่านสถานีบางซื่อแล้ว จะมี MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (เฉลิมรัชมงคล), สายสีแดงอ่อนบางซื่อ – ตลิ่งชัน ซึ่งสร้างเสร็จแล้วแต่รอเปิดใช้บริการ และที่กำลังก่อสร้างอยู่คือ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ – รังสิต ที่วิ่งขนานไปกับถนนวิภาดีรังสิตค่ะ ในอนาคตก็จะมีอีกหลายสายที่จะมาผ่านสถานีบางซื่อ เช่น Airport Rail Link ช่วงพญาไท – ดอนเมืองค่ะ สำหรับใครที่สนใจเรื่องสายรถไฟฟ้าสามารถอ่านต่อได้ที่นี่ “อัพเดตความคืบหน้ารถไฟฟ้า 12 สายทั่วกรุงเทพฯ”

ส่วนนี่เป็นแนวเส้นทางวิ่งและสถานีต่างๆ ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต – คูคต ค่ะ  สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีห้าแยกลาดพร้าวที่อยู่ตรงหน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวนั่นเอง  ซึ่งหลังจากสร้างเสร็จ  จะทำให้คนที่อยู่บนเส้นพหลโยธินตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงแถบชานเมืองสามารถเข้าถึงที่ตั้งของโครงการได้สะดวกค่ะ  เพราะเดิมทีมีทางเลือกเดียวคือต้องผ่ารถติดบนถนนพหลโยธินมา  ซึ่งในอนาคตก็คงทำให้มูลค่าของที่ดินโซนนี้ขยับขึ้นอีก

ทีนี้มาซูมดูใกล้ๆ โครงการกันบ้างว่าพื้นที่รอบๆ มีอะไรตั้งอยู่บ้าง  ด้านข้างฝั่งทิศใต้ของคอนโด เบเนดิกต์ แอท เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส จะติดกับมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น (หมายเลข 1) ส่วนอีกด้านนึงจะติดกับบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ (หมายเลข 2) ถัดจากมหาวิทยาลัยไปจะมีโชว์รูมศูนย์รถยนต์ BMW (หมายเลข 3)  และอาคารสำนักงานเด่นๆ หลายตึก เช่น อาคารสำนักงานใหญ่การบินไทย (หมายเลข 4)  ที่ด้านหลังมีตลาดนัดการบินไทย หรือตลาดลุงเพิ่ม (หมายเลข 5)

ฝั่งตรงข้ามถนนวิภาวดีรังสิต ก็จะมีอาคารสำนักงานอยู่เยอะเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็น อาคาร Sun Tower (หมายเลข 6) , อาคารเล้าเป้งง้วน (หมายเลข 7)  หรือว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ของ ปตท. เรียกว่าเป็นโซนแหล่งงานขนาดใหญ่พอควร

ส่วนศูนย์การค้าที่ใกล้โครงการมากที่สุดและสามารถเดินไปได้ คือ Union Mall และ Central Ladprao แหล่งการศึกษาที่ใกล้ๆ มี โรงเรียนหอวัง ที่อยู่ใกล้ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะที่พอเดินไปได้จากโครงการนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินสำรวจรอบๆ ก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ โดยจะเดินจากหน้าโครงการไปตามถนนวิภาวดีรังสิต แล้วจะพาข้ามถนนไปเกาะกลาง เดินไปแถวๆ อาคารสำนักงานต่างๆ แล้วมาส่องสถานีพหลโยธิน, Central ลาดพร้าว และไปดูทำเลบางซื่อ คอมเพล็กซ์ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ค่ะ

ทางเท้าช่วงด้านหน้าโครงการจะมีรั้วกั้นให้ตลอด เพื่อความปลอดภัยของคนเดินถนน

มีสะพานลอยเหล็กทาสีฟ้าสดใส สามาถใช้ข้ามไปที่เกาะกลางที่มีหมู่อาคารสำนักงานอยู่ได้ เดี๋ยวจะพาข้ามถนนไปกันค่ะ

เดินตามถนนวิภาวดีรังสิตจากหน้าสำนักงานขายมาหน่อยเดียวก็เป็นที่ตั้งโครงการค่ะ ปิดรั้วและก่อสร้างกันอยู่

บรรยากาศในไซต์ก่อสร้างค่ะ ทำงานกันอย่างขมักเขม้น

มองกลับไปที่ห้าแยกลาดพร้าว

แล้วก็มาถึงซอยวิภาวดีรังสิต 24 หรือทางเข้ามหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นนั่นเอง

St. John’s University ค่ะ อาคารทรงหกเหลี่ยม โทนสีแดงอิฐ จะอยู่ฝั่งทิศใต้ของอาคาร A ( Anthony )

มองไปที่ไซต์ก่อสร้าง  ความคืบงานของงานก็อสร้างก็เดินไปมากพอควร  เริ่มเห็นอาคารเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

ผ่านมหาวิทยาลัยมาก็มีร้านอาหาร V24 เป็นร้านนั่งดื่มค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ จะมาถึงศูนย์รถยนต์ BMW , มีป้ายรถเมล์ด้วย ถ้าเดินไปอีกจะถึงถนนวิภาวดีรังสิตซอย 22 ซึ่งใช้ทะลุออกซอยลาดพร้าวต่างๆ ได้ค่ะ

กลับมาขึ้นสะพานลอยเหล็กสีฟ้าหน้าโครงการค่ะ ขึ้นมาบนสะพานลอยแล้วมองกลับไปที่ห้าแยกลาดพร้าว  คอนโด The Benedict at The Saint Residences จะอยู่ทางขวามือ ตรงกลางเป็นสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวบนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า ที่จะสามารถใช้ข้ามห้าแยกหรือจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินไปทาง BTS หมอชิตก็ได้ (ตามสีแดงบนพื้นถนน)

และซ้ายมือสุดเป็นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ (ทางยกระดับอุตราภิมุข) ค่ะ วิ่งอยู่เหนือถนนวิภาวดีรังสิต

มองกลับไปที่ตั้งโครงการอีกที เพื่อให้เห็นงานก่อสร้างด้านในค่ะ

ทีนี้มองไปทางวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้าบ้าง  ขวามือที่เห็นเป็นตึกสูง คือ หมู่อาคารสำนักงานที่อยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิตค่ะ

ลงสะพานลอยมาจะมาอยู่ใต้ทางยกระดับบนถนนวิภาวดีรังสิต ทางซ้ายมือเป็นที่กลับรถเวลามาจากวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก

ลานโล่งๆ  สภาพฟุตบาทดูเรียบร้อยดี  แต่สำหรับคุณผู้หญิงก็ไม่แนะนำให้เดินคนเดียวเวลากลางคืนนะคะ

รถที่มาจากทางซ้ายจะวิ่งมากลับรถได้ หรือ ตรงไปเข้าห้าแยกลาดพร้าวได้

หมู่อาคารสำนักงาน ไล่ไปตั้งแต่ Equinox พหลโยธิน – วิภาวดีรังสิต, อาคาร Sun Tower (Ericsson), เล้าเป้งง้วน

แล้วเราก็เดินข้ามถนนมาตรงเกาะกลางได้ มาถึงถนนพหลโยธินแล้ว ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนจตุจักรค่ะ

สวนจตุจักรฝั่งตรงข้าม สามารถมองเห็นวิวจตุจักรได้เต็มๆ จาก BENEDICT

พหลโยธินฝั่งนี้จะไปทาง BTS หมอชิตค่ะ ไปสะพานควาย, หรือชิดขวาเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชรได้

แล้วก็ถึงแหล่งทำงานใหญ่ๆ ของย่านนี้ค่ะ มีธนาคาร UOB, สำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย, Sun Tower

กลับไปที่สถานีพหลโยธินกันดีกว่าค่ะ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเดินไปได้จากโครงการ

ตอนขามาลืมบอกไปว่า สถานีพหลโยธินนั้นมี Metro Mall ด้วยค่ะ มีร้านค้าอยู่พอสมควร แต่ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษครูสมศรี, โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษอื่นๆ, ไปรษณีย์, ร้านขายแว่นตา, ร้านการ์ดเกมส์

Union Mall ค่ะ เหมือนตลาดนัดจตุจักรที่ติดแอร์ และมีร้านอาหารด้านในเพียบ เดินเชื่อมไปที่ Central ลาดพร้าวต่อได้

ร้านอาหารต่างๆ แถวสถานีพหลโยธิน เช่น ร้านพิซซ่าลันตา, ร้านเหล้า

และร้านอาหารอื่นๆ ที่เปิดช่วงเย็น – กลางคืนเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ตอนหาของกินช่วงเย็นจะสบายมาก

แล้วก็สามารถมุดใต้ MRT พหลโยธิน มาออกที่หน้า Central ลาดพร้าว

มองกลับไปที่ห้าแยกลาดพร้าว ด้านซ้ายมือคือพวกอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้าม Central ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านอัดรูป BENEDICT จะอยู่ตรงที่ลูกศรชี้ค่ะ

สถานี BTS หมอชิต แหล่งท่องเที่ยว, ช็อปปิ้ง และพื้นที่สีเขียว

จากโครงการนั่ง MRT มาลงสถานีจตุจักรแล้วมาต่อ BTS สถานีหมอชิตนี้ได้

บริเวณสถานี BTS หมอชิต, MRT จตุจักร ฝั่งรถขาออก หรือ ฝั่งสวนจตุจักรจะมีรถตู้และรถแท็กซี่จอดรถรับคนอยู่เกือบตลอด  เป็นจุดที่มีคนสัญจรผ่านเยอะมาก

ตลาดนัดจตุจักร และมี JJ Mall, JJ Green อยู่ด้านใน เป็นที่เป็นที่นิยมของทุกคน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

มีสวนจตุจักรเป็นพื้นที่เขียวและปอดของคนกรุงเทพ

ภาพนี้เราปีนขึ้นไปถ่ายจากคอนโดแถวสะพานควาย  มองมายังพื้นที่ บางซื่อ คอมเพล็กซ์ ที่เป็นแผนแม่บทใหญ่ในการพัฒนาและกำลังก่อสร้างในบางเฟสอยู่ค่ะ  อยู่ด้านหลังตลาดนัดจตุจักร  ส่วนคอนโด Benedict at The Saint Residences นี่จะอยู่ขวามือหลังกลุ่มอาคารสำนักงานไปอีกค่ะ

รูปมองไปทาง SCG สำนักงานใหญ่ที่อยู่ติดกับสถานีกลางบางซื่อค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ดูทำเลรอบๆ ไปแล้ว เข้าไปที่สำนักงานขายกันต่อเลยค่ะ

สำนักงานขายนี้เราเคยมาเยี่ยมเยียนไปแล้วครั้งนึง กลับมางวดนี้ยังคงเป็นสำนักงานเดิมค่ะ

ถนนวิภาวดีรังสิตหน้าโครงการอีกซักรอบ

ฝั่งตรงข้ามถนนวิภาวดีรังสิตเป็นแหล่งทำงานที่เมื่อกี้เราพาเดินข้ามถนนไปมาแล้ว

ลานจอดรถหน้าสำนักงานขาย

เข้ามาด้านในสำนักงานขาย เคาน์เตอร์และผนังทรงโค้งรับกันดี

มีตัวโมเดลตั้งอยู่ตรงกลาง

บรรยากาศโดยรวมหรูหราดี

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินทั้งหมดของ The Saint Residences  ด้านทิศใต้จะอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ซึ่งมีอาคารทรงหกเหลี่ยมสูง 10 ชั้นอยู่ 2 อาคาร จะมีผลกับ Tower A ( Anthony ) ชั้นล่างๆ บ้าง  พื้นที่ด้านหน้า กราฟิกชมพู จะเตรียมไว้สำหรับทำโครงการคอมมูนิตี้มอลล์หรือสำนักงาน (ไม่ได้จัดการบริหารเอง)  ทางทิศเหนือจะเจอกลุ่มอาคารพาณิชย์ในซอยลาดพร้าว 2  ซึ่งสูงกันแค่ 3  – 4 ชั้น ไม่มีผลมาบังวิวคอนโดแต่อย่างใดค่ะ  ส่วนทิศตะวันออกจะเป็นอพาร์ตเมนต์ในซอยลาดพร้าว 4 สูง 8 ชั้น จะมีผลกับอาคาร C ( Charlie) เฉพาะห้องชั้นล่างๆ เพียงบางห้องค่ะ  นอกนั้นก็โล่งหมด

เมื่อเราโฟกัสเฉพาะ Tower B ( Benedict ) แล้วจะเห็นว่า ห้องทิศเหนือหันออกนอกตัวโครงการค่ะ ได้วิวไปทาง Central Ladprao, Union Mall  ถ้ามองเฉียงๆ จะเห็นพื้นที่สีเขียวตรงสวนจตุจักร  ส่วนห้องที่อยู่ทิศใต้จะหันเข้าหาส่วนกลาง

.

ด้านหน้าโครงการหันเข้าหาถนนวิภาวดีรังสิต เข้าหาพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ หรือทิศตะวันตกนั่นเอง

(กดที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ได้ค่ะ)

ทิศตะวันตกนี้ได้วิวไปทางสวนจตุจักรและสวนรถไฟค่ะ

วิวจากห้องฝั่งทิศเหนืออาคาร Benedict จะเด่นตรงที่ได้วิวแบบนี้ค่ะ เห็นสวนสาธาณะบางส่วนทางซ้าย มองไปทาง Central Ladprao และ Union Mall แบบไม่มีตึกอะไรมาบังวิว แถมได้ทิศไม่ร้อนด้วย

ทิศตะวันออก มองไปทางบางกะปิตามแถวถนนลาดพร้าว

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

Benedict จะมีแปลนเป็นรูปตัว I วางตัวในแนวทิศตะวันออก – ตะวันตก ซึ่งมีข้อดีที่ห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าฝั่งทิศเหนือและทิศใต้  ซึ่งเป็นสองทิศที่คนส่วนใหญ่ชอบกัน  ใน 1 ชั้นจะมียูนิตมากสุดอยู่ที่ 12 ยูนิตเท่านั้น มีจำนวนห้องไม่เยอะเป็นส่วนตัวดี  ห้องที่หันเข้าทิศเหนือมีชั้นละ 5 ห้อง แต่ฝั่งทิศใต้บางห้องอาจจะโดนแดดบ่ายบ้าง  แต่บางห้องก็จะได้เงาของ Tower A (Anthony) ช่วยบังแดดให้

ส่องโมเดล

มาดูที่โมเดลค่ะ ทั้งสามอาคารละวางเรียงกันเป็นตัว U

Tower B – Benedict จะอยู่ทางซ้ายมือ Tower C – Charlie อยู่ตรงกลางและขวาสุดคือ Tower A – Anthony แต่ละ Tower นี่ตั้งชื่อตามนักบุญต่างๆ ค่ะ เข้ากับชื่อโครงการ The Saint Residences  ทั้งสามอาคารความสูง 41 ชั้นเท่ากันหมด อาคาร A, B จะหันหน้าเข้าหากัน  อยู่ห่างกันประมาณ 65 เมตร ซึ่งถือว่าไม่อึดอัดมากแม้จะมองเห็นกันเองก็ตามค่ะ ทางเข้าหน้าโครงการจากถนนวิภาวดีรังสิต พื้นที่สีเขียวด้านหน้าจะปล่อยเช่าระยะยาว ซึ่งมีแผนว่าอาจจะทำเป็นคอมมูนิตี้มอลล์  ซึ่งทำให้โครงการมีรายได้ ลูกบ้านมีที่จับจ่ายใช้สอยสะดวกมากขึ้น win-win ค่ะ

Facade ที่บังชั้นจอดรถเป็น Pattern สวยดี สลับกับบางด้านเป็นผนังปลูกต้นไม้แนวตั้ง

พื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร A, B ที่ชั้น 7 เหนือโพเดียมจอดรถ Facilities ทั้งหมดใช้ร่วมกันได้ค่ะ

ดาดฟ้าของแต่ละ Tower ก็มีสวนเป็นของตัวเอง

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

มาดูพื้นที่ส่วนกลางของ BENEDICT กันบ้าง เริ่มกันตั้งแต่ขับรถเข้ามาในโครงการ จะมี Drop Off อยู่ตรงกลางระหว่าง 3 อาคาร สะดวกต่อลูกบ้านทั้งสามอาคารเลย แต่ละอาคารจะมีโถงต้อนรับและห้องจดหมายตามอาคารของตัวเอง ที่อาคาร A, B (BENEDICT) จะมีร้านค้าอาคารละ 2 ร้าน ส่วนอาคาร C ไม่มีร้านค้าค่ะ ที่จอดรถนั้นจอดได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 6 มี Jogging Track ด้วย

ข้ามขึ้นมาที่ชั้น 7 กันต่อเลยค่ะ  ชั้นนี้เป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางผสมกับห้องพักอาศัย มีพื้นที่ตรงกลางระหว่าง 3 อาคาร เป็นสระว่ายน้ำ, สวนและลานพักผ่อน  จากลิฟต์ล็อบบี้ชั้น 7 ของ BENEDICT จะสามารถเดินออกมาที่สวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำได้เลยโดยตรง

สระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางมียาว 50 เมตร กว้าง 7 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นระบบเกลือ, แยกสระเด็ก, Jacuzzi, สวนพักผ่อน โดยอาคาร Benedict มีห้องฟิตเนส ขนาด 22 x 7 เมตร, ห้องแอโรบิค, ห้องโยคะ, ห้องสตรีม, ห้องซาวน่าแยกชายหญิง และห้องอเนกประสงค์  ส่วนถ้าเดินมาฝั่ง Tower A จะมี Clubhouse, Library Lounge อยู่ค่ะ

นอกจากสระว่ายน้ำใหญ่ตรงกลางแล้ว ด้านหลังทาวเวอร์ C  ก็มีสระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ฝั่งทิศตะวันออก ขนาด 25 x 7 เมตร ห้องฟิตเนส ห้องออกกำลังกายและอื่นๆ เช่นกัน  โดยที่สามารถเดินมาใช้กันได้หมด  นอกจากนี้ชั้นดาดฟ้าของทั้งสามอาคารก็มี Sky Park ให้ขึ้นไปชมวิวกันอีกด้วยค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น มีลิฟต์ให้อาคารละ 4 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว สำหรับอาคาร Benedict มี 406 ยูนิต เฉลี่ยคิดเป็น 135 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  เป็นลิฟต์แบบใช้ Key Card ล็อคชั้น  นอกจากชั้นที่พักอาศัยแล้วก็จะไปชั้น G, ชั้น 7 และชั้นบนสุดได้เท่านั้น  ที่จอดรถของทั้งโครงการ จอดได้ 766 คันหรือประมาณ 49% โดยยังไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ

.

ทางเข้าโครงการ เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส ถ้าได้ต้นไม้ใหญ่ๆ แบบในภาพก็จะดี ร่มรื่นมากเลย

Lobby ที่ชั้น 1 สไตล์หรูหรา มีกำแพงต้นไม้บังสายตา

พื้นที่ Drop Off รถหน้าอาคาร

สระว่ายน้ำตรงกลาง ชั้น 7 อยู่ระหว่าง 3 Tower

Clubhouse และ Library Lounge ชั้น 7

Fitness ที่ชั้น 7 Tower B

สระว่ายน้ำหลังอาคาร C

ดาดฟ้าของทั้งสามอาคารมี สวนดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวทุกอาคารค่ะ

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Benedict at The Saint Residences ชั้น 7

เริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ ชั้นนี้จะเป็นชั้นส่วนกลางผสมกับห้องพักอาศัย ทำให้ห้องพักที่อยู่ชั้นนี้มีน้อยมาก แค่ 5 ห้องฝั่งทิศเหนือเท่านั้น และมีแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A ( กราฟิกสีน้ำตาล ) ส่วนฝั่งทิศใต้ที่หันหน้าเข้าหาส่วนกลางจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง คนที่อยู่ชั้นก็นี้สบายใจได้เพราะกั้นประตูทางเข้าโถงห้องห้องเพิ่มอีกชั้น เวลาคนมาที่โถงก็จะไม่ผ่านหน้าห้อง ทำให้ก็ไม่ได้ยินเสียงดังมากนักค่ะ แล้วห้องก็ยังหันไปคนละทางกับพื้นที่ส่วนกลางด้วย

Floor Plan คอนโด Benedict at The Saint Residences ชั้น 8 – 40

ที่ชั้น 8 – 40 จะเป็น Typical Floor มีแปลนเหมือนกันทุกชั้น มีทั้งหมด 12 ห้องใน 1 ชั้น มีห้องอยู่ฝั่งทิศเหนือ 5 ห้อง ฝั่งทิศใต้ 7 ห้อง ทั้งชั้นจะมีห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A ( กราฟิกสีน้ำตาล ) มากที่สุด พื้นที่แต่ละห้องอยู่ที่ 29.86 – 35.88 ตารางเมตร  ขนาดห้องจะต่างกันเล็กน้อย โดยห้องที่อยู่ตรงกลางจะได้แปลนสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร แต่ห้องที่อยู่ริมจะได้แปลนเป็นรูปตัว L พื้นที่ประมาณ 35 ตารางเมตรค่ะ

ใน 1 ชั้นนั้นจะมีแบบ Type A อยู่ถึง 10 ห้อง ส่วนอีก 2 ห้องที่เหลือจะเป็นแบบ Type B หรือ ห้องแบบ 2 ห้องนอน ( กราฟิกสีเขียว ) ขนาด 55.40 และขนาด 55.74 ตารางเมตร ซึ่งจะมีอยู่ที่หัวมุมอาคาร 2 ฝั่ง

Floor Plan คอนโด Benedict at The Saint Residences ชั้น 41

แปลนชั้น 41 นี้ จะมีแต่ห้องขนาดใหญ่ ทำให้มีจำนวนยูนิตน้อย แค่ 6 ห้องต่อชั้นเท่านั้น มีห้องแบบ 2 ห้องนอน Type B (กราฟิกสีเขียว) อยู่ 4 ห้อง ขนาด 55.40 – 65.60 ตารางเมตร และห้องแบบ 3 ห้องนอน Type C (กราฟิกสีเทา) ขนาด 86 และ 95.90 ตารางเมตร อยู่เพียง 2 ห้องเท่านั้นค่ะ  เป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวสูง

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Benedict at The Saint Residences มีห้องอยู่ 3 แบบหลัก คือ แบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน โดยจะเน้นแบบ 1 ห้องนอนมากที่สุด รองลงมาคือ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนตามลำดับ

ซึ่งเราจะเน้นรีวิวไปที่แบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนเท่านั้นนะคะ เนื่องจากห้องแบบ 3 ห้องนอนยังไม่เปิดขายค่ะ

• 1 ห้องนอน (Type A) 29.86 – 35.88 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน (Type B) 55.40 – 65.60 ตารางเมตร
• 3 ห้องนอน (Type C) 86.00 – 95.90 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Benedict at The Saint Residences

แบบ 1 ห้องนอน Type ฺA ขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร

แปลนนี้จะเป็นแปลนของ Type A1 – A5 เป็นแบบห้องที่อยู่ช่วงกลางอาคารค่ะ  ขนาดของแต่ละห้องจะไม่เท่ากันซะทีเดียว  ต่างกันแค่เศษทศนิยม ซึ่งไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไหร่ (29.86 – 30.38 ตารางเมตร)

พื้นที่ส่วนแรกของห้องที่เปิดประตูแล้วจะเจอพื้นที่รับประทานอาหารและส่วนโซฟานั่งเล่นพักผ่อน  ตำแหน่งตั้งโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นโต๊ะเล็กๆ อยู่ตรงกลางห้องระหว่างทางเข้าห้องนอนและห้องครัว   ระยะดูทีวีของห้องนี่ดีค่ะ ระยะจากโซฟาถึงทีวีกว้างสามารถติดทีวีจอใหญ่ได้เลย

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน มี Pantry และที่วางตู้เย็น ทำเป็นครัวปิดติดระเบียง ทำครัวได้สบายๆ พื้นที่ระเบียงใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้า พอตากผ้าได้แต่พื้นที่ระเบียงไม่ใหญ่นัก  คอมเพรสเซอร์หันเข้าหาระเบียง  อีกฝั่งนึงจะเป็นห้องนอน  วางเตียง queen size และโต๊ะทำงานข้างเตียงได้  มีตู้เสื้อผ้าที่ปลายเตียง  มีข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่ทีวีนั้นติดไว้ตรงผนังซึ่งเยื้องกับเตียง  ทำให้เวลานอนดูทีวีบนเตียงอาจจะไม่สะดวกนัก  ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนค่ะ ให้ขนาดมาใหญ่พอสมควรเลย  ระยะความกว้างของการใช้งานดี  ไม่มีปัญหาอะไร

แปลนห้องคอนโด Benedict at The Saint Residences

แบบ 1 ห้องนอน Type ฺB ขนาด 55 ตารางเมตร

ห้อง Type B มีขนาด 55 ตารางเมตร โดยประมาณ เป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  เข้ามาในห้องเป็นสเปซส่วนพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry ครัวแบบเปิดโล่ง สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้ Pantry ได้  สเปซตรงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดระเบียง

จากพื้นที่นั่งเล่นจะมีทางเดินไปยังห้องนอนทั้งสองห้อง มีห้องน้ำ 1 ห้องตรงทางเดินนี้ ขนาดเท่ากับห้องน้ำของห้อง Type A  ส่วนขนาดห้อง Master Bedroom จะใหญ่กว่าห้องนอนเล็กและมีห้องน้ำส่วนตัวที่ใหญ่ขึ้นด้วยค่ะ ห้องนอนใหญ่จะวางเตียง queen size และยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงโดยรอบพอสมควร  และมีวางทีวีปลายเตียงได้  ส่วนห้องนอนเล็กจะวางเตียง 3.5 ฟุต ชิดผนัง และวางทีวีที่ปลายเตียงได้แต่จะพอดีเป๊ะ  เวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอาจจะลำบากนิดหน่อย  ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะได้หน้าต่างบานใหญ่ ที่เอาแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน (Type A5) ขนาด 30.38 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน (Type B) ขนาด 55 ตารางเมตร ส่วนแบบ 3 ห้องนอนยังไม่เปิดขายค่ะ  ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไป คือ 2.90 เมตร ส่วนบริเวณไหนมีฝ้าดร็อปลงมาสำหรับพื้นที่งานระบบท่อก็จะสูง 2.60 เมตร ซึ่งนับว่าให้ฝ้ามาสูงมาก ทำให้ภายในห้องรู้สึกโล่ง โปร่งมากขึ้น

ห้องจริงจะได้แบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้เหมือนกับห้องตัวอย่างคือ วอลเปเปอร์สีเบจ, ไฟ Downlight, แอร์แบบฝังฝ้า, รางซ่อนม่าน, ไฟหลืบซ่อนเหนือฝ้า, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, พื้นไม้ Engineering Wood และห้องน้ำเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ  ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นๆ จะเป็นโปรโมชั่น ได้ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างเสียทีเดียวนะคะ อย่างเฟอร์นิเจอร์พวกโซฟา, เตียง, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารหน้าตาอีกแบบนึง ซึ่งเลื่อนไปดูได้ที่ส่วนรีวิววัสดุด้านล่างค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Benedict at The Saint Residences

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.38 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นก่อนคือโต๊ะรับประทานอาหารค่ะ อยู่ตรงกลางของห้องนั่งเล่นพอดี ใกล้กับทางเข้าห้องครัวที่อยู่ทางซ้ายมือและห้องนอนทางขวามือ

อีกมุมนึงค่ะ  ตำแหน่งการวางโต๊ะแบบนี้ยังไม่ค่อยเคยเห็นที่ไหนนะคะ

โซฟาในห้องนั่งเล่นติดกับทางเข้าห้องครัว ได้ประตูบานกระจกบานเลื่อนสูงชนฝ้าแบบนี้เลย และได้แอร์แบบฝังฝ้าแบบนี้ด้วย ทำให้ห้องครัวจะมีฝ้าต่ำกว่าในห้องนั่งเล่นเล็กน้อย

ถ่ายเฉพาะโซนนั่งเล่นมาให้ดูว่ามีความสูงของฝ้าให้มาสูงมาก (2.9 ม.) ทำให้ดูโปร่ง  ถ้าใครจะทำชั้นเก็บของ built-in ลอยตัว ก็ทำเพิ่มได้อีกเยอะ และก็ได้รางซ่อนไฟแบบนี้ห้องตัวอย่างนี้ด้วยนะ

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นทีวีค่ะ เหมาะกับทีวีแขวนผนังมากกว่า  เพราะถ้าตั้งชั้นวางทีวีที่มีความลึกมากจะไปขวางประตูทางเข้าห้องนอน

นั่งที่โซฟาให้ดูว่ามีระยะทางจากทีวีพอสมควร ติดจอใหญ่ๆ ได้

เข้ามาในส่วนของห้องนอนบ้างค่ะ วางเตียง queen size ได้ ติดหน้าต่างบานใหญ่ แสงเข้าได้เยอะ

ข้างเตียงเหลือที่ประมาณ 30 ซม. พอวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ ได้ อีกฝั่งนึงวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้ค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน

ส่วนปลายเตียงเหลือที่ประมาณ 60 ซม.

ความกว้างของห้องพอดีๆ กับความยาวเตียงค่ะ

ทีวีจะไปอยู่ติดกับประตูห้องนอน ซึ่งไม่ตรงกับเตียงนอน  เวลานอนดูทีวีบนเตียงอาจจะไม่สบายนัก

ห้องน้ำในห้องนอนค่ะ โทนสีขาวสะอาดตา วัสดุดูแพง ขนาดกำลังดี มีกระจกกั้นอาบน้ำ, ที่นั่งอาบน้ำ และได้ Rain Shower ด้วย

ห้องครัวค่ะ ได้ Pantry รูปตัว I และตู้เก็บของเหนือเคาน์เตอร์สูงชนฝ้า สามารถเก็บของได้เยอะ ส่วนตู้เย็นอยู่ตรงข้ามกัน ประตูครัวเป็นบานเลื่อนแบบแขวนค่ะ ทำให้ด้านล่างไม่มีรางประตูที่พื้น เดินสบาย ไม่สะดุดและไม่มีจุดเก็บฝุ่น

สุดท้ายเป็นระเบียงค่ะ แขวนคอมเพรสเซอร์หันหน้าเข้าระเบียง มีระแนงบังสายตาเพื่อให้มองจากด้านนอกสวยงาม  ใต้เครื่องคอมเพรสเซอร์นี้จะเป็นที่วางเครื่องซักผ้านะคะ เตรียมท่อและปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย

ประตูเปิดไปที่ระเบียงเป็นแบบ 3 ตอน เปิดได้กว้างดี

ห้องตัวอย่างคอนโด Benedict at The Saint Residences

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร

ทางเข้าห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้จะมีตู้เก็บของให้อยู่ทางซ้ายมือค่ะ ตรงเข้าไปจะเป็นส่วนรับประทานอาหารต่อกับห้องนั่งเล่น

พื้นที่รับประทานอาหารติดกับ Pantry ที่ใหญ่ขึ้น ถัดไปก็เป็นพื้นที่นั่งเล่นและระเบียง

พื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง  จริงๆ ชอบการวางตำแหน่งโซฟาแบบในแปลนมากกว่านะคะ  ตำแหน่งโซฟาในห้องตัวอย่างจะบังทางออกไประเบียง

มองกลับไปที่ทางเข้าห้อง และ Pantry เข้ามุม

พื้นที่ระเบียงยาวมากขึ้น

ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์หันหน้าเข้าระเบียง แต่แบบ 2 ห้องนอนนี้จะมีแผงบังสายตา เป็นประตูบานเกล็ดอะลูมิเนียมสีขาว ปิดเอาไว้ดูเรียบร้อยดี

จากห้องนั่งเล่นจะมีทางเดินไปยังห้องนอนทั้งสองห้อง

ห้องน้ำหน้าตาเหมือนกับห้องน้ำในห้องแบบ 1 ห้องนอนเลยค่ะ โทนสีเดียวกัน มีดร็อปฝ้าซ่อนไฟเหมือนในรูป

เข้ามาให้นอนเล็ก แต่ในห้องตัวอย่างทางโครงการจัดไว้เป็นห้องนั่งเล่นค่ะ เลยจะไม่เหมือนกับแปลนเท่าไหร่

มีหน้าต่างบานใหญ่เหมือนกับห้องนอนใหญ่ ขนาดของห้องไม่ใหญ่มากนักค่ะ พอวางเตียง 3.5 ฟุต ได้ กับตู้เสื้อผ้านิดหน่อย ทำรางซ่อนม่านไว้ให้เรียบร้อย

ห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

ปลายเตียงเป็นทางเข้าห้องน้ำ และมีที่พอวางโต๊ะเครื่องแป้ง

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ สูงชนฝ้า ชิ้นนี้โครงการแถมให้ด้วยค่ะ

ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือมากขึ้น  เดินวนได้รอบเตียง

และห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำด้านนอก  กระเบื้องผนังและพื้นห้องน้ำเป็นสีเทา และติดหน้าต่างระบายอากาศค่ะ มีที่นั่งอาบน้ำให้เรียบร้อย  คิดมาเผื่อสำหรับผู้สูงอายุด้วย  ภาพรวมดูหรูหรา

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้เกรดมาดีค่ะ เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นออกแบบมาใหม่ เช่น ตู้เสื้อผ้า และเคาน์เตอร์ครัว โดย August Design ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง ผลงานดี  ส่วน 50 ยูนิตแรกจะได้รับ Premium Furniture ของ Modernform  (ห้องแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนจะได้เฟอร์นิเจอร์ไม่เหมือนกันค่ะ)

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  ค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวสีขาวในห้องแบบ 1 ห้องนอน ผิว Hi-Gloss ดูหรูหรา แต่ไม่ได้เตาอบนะคะ

เก็บของได้เยอะดี

ตู้เก็บของชั้นบน ผิว Hi-Gloss เหมือนกัน วัสดุดี

เก็บของได้เยอะพอสมควร

ลิ้นชักแบบ Soft Close มีช่องแบบช้อนส้อมให้เรียบร้อย

เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว แบบมีเซาะร่องข้างอ่างล้างจานด้วย อ่างล้างจานของยี่ห้อ Franke

ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะได้เตา 2 หัว ยี่ห้อ Franke

และเครื่องดูดควันยี่ห้อ Franke เช่นกัน

ก๊อกน้ำทรงสูง ที่เปิดแบบก้านโยก

ตู้เย็นไม่ได้แถมให้ แต่มีตู้เหนือตู้เย็นให้ค่ะ

หลังเคาน์เตอร์ครัวเป็นโมเสกค่ะ ทำความสะอาดได้ง่ายและสวยงาม

แบบ 2 ห้องนอน ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ยี่ห้อ Franke

ให้ดูผิววัสดุกันใกล้ๆ   Top เคาท์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

ตู้เก็บของเหนือ Pantry เก็บของได้มากขึ้น

ใต้เคาท์เตอร์ทำที่วางเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย สามารถถอดขอบด้านล่างออกมาก่อนใส่เครื่องซักผ้าได้

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำของห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ โทนสีขาวและครีมทั้งห้อง ดูสว่างและสะอาดตา  ให้กระเบื้องกระเบื้องแกรนิตแผ่นใหญ่ (Homogeneous Tile)

ส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ของห้องแบบ 2 ห้องนอนจะมีขนาดใหญ่กว่า เป็นโทนสีน้ำตาลอ่อน

อ่างล้างหน้าทำจากเรซิน สีขาว ทรงสี่เหลี่ยม หน้าตาโมเดิร์น  มีที่เก็บของใต้อ่างล้างหน้า มีปลั๊กและฝาครอบกันน้ำให้ที่ด้านข้างอ่างด้วย ไดร์ผมได้

เก็บของได้พอสมควร

สุขภัณฑ์จาก American Standard ดูหรูหรา ฝาเปิดแบบ Soft Closed

ได้ Rain Shower ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และไฟหลีบเหมือนในห้องตัวอย่าง

พื้นที่อาบน้ำกว้างกำลังดี มีกระจกกั้นส่วนเปียกไว้ให้ และมีที่นั่งอาบน้ำให้ด้วย

ส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ของห้องแบบ 2 ห้องนอน ก็ได้เหมือนกัน มีความยาวของที่นั่งมากกว่าด้วย

ฝักบัวติดอยู่ข้างกับชั้นวางสบู่ สวยดีค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ของห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้หน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งด้วย เพราะอยู่ติดด้านนอกอาคารพอดี และได้ไฟซ่อนแบบนี้ด้วยค่ะ

กระจกห้องน้ำเป็นกระจกที่บานตู้เก็บของ ขนาดใหญ่

เปิดมาจะเป็นชั้นวางของที่ทำจากกระจก ดูหรูหรา เก็บของได้เยอะพอควร

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ตู้เก็บของข้างประตูทางเข้าห้อง ได้ตู้ทรงสูงหน้าบานสีขาว งานดูเนี้ยบและโมเดิร์นมาก  ส่วนประตูทางเข้า ห้องตัวอย่างไม่มีตัวอย่างมาให้ดู แต่จะได้เป็นบาน HDF สูง 2.2 เมตร พร้อม Digital Door Lock

เปิดให้ดูค่ะ เก็บของได้เยอะดี มีที่เก็บร่ม เก็บกุญแจด้วย  ถือว่าคิดเตรียมมาเพื่อการใช้งานจริงได้ดี

พื้นห้องทำจาก ไม้ Engineering Wood หนา 14 มม. ซึ่งแข็งแรงและทนทานกว่า ไม้ลามิเนตทั่วไป Top เป็นไม้แท้ ทำให้ผิวสัมผัสดี และเป็นธรรมชาติ ห้องเล็กจะได้สีสว่าง ส่วนห้องใหญ่จะได้ไม้สีเข้มขึ้นค่ะ

ส่วนพื้นระหว่างห้องไม่มีรอยต่อ

ประตูกระจกบานเลื่อนเข้าห้องครัว ไม่มีรางที่พื้น ทำให้พื้นต่อเนื่องไม่สะดุดและไม่เก็บฝุ่น

กรอบประตูบาง ทำจากอลูมิเนียมสีขาว มีรางซ่อนอยู่ในฝ้า

ประตูบานเลื่อนออกระเบียงเป็นแบบ 3 ตอน ทำจากอะลูมิเนียมอบขาว

ระเบียงเหล็กกล่องทาสีดำ  และระแนงบังเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ทำจากอะลูมิเนียมสีขาว

พื้นที่ระเบียงของห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเตรียมไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า มีปลั๊กไฟให้เรียบร้อย

ได้ไฟ Downlight ฝังฝ้า แต่ไม่ได้เซาะร่องสีดำไว้ให้เหมือนในห้องตัวอย่าง

ตู้เก็บเสื้อผ้าในห้องนอนค่ะ แบบบานเลื่อน เก็บของได้เยอะ  มีช่องเล็กช่องน้อย ไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ต่างประเภทกัน  ดูแล้วคิดมาเยอะทีเดียว

เปิดให้ดูอีกด้านค่ะ

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเล็ก ของห้องแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดเล็กกว่า และได้ประตูบานเปิด

ผิวสัมผัสดีเหมือนกันค่ะ ถึงขนาดตู้จะไม่ใหญ่มาก  แต่ก็ซอยช่องเก็บของเตรียมเอาไว้เยอะ

สวิตซ์ไฟของห้อง สีขาว

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (6 กรกฎาคม 2559) แบบ 1 ห้องนอน ของคอนโด Benedict นั้น ห้องแบบ 1 ห้องนอนเริ่มต้นที่ 4.20 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ชั้น 7 – 10 ค่ะ ส่วนชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปราคาห้องจะเพิ่มขึ้นตารางเมตรละ 1,000 บาท  เราหยิบราคาตัวอย่างชั้นล่างๆ มาให้ดูกันทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน

ราคา ณ วันที่ 6 กรกฏาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ชั้น 8 ราคาพิเศษ 4,664,450 บาท เฉลี่ย 153,688.63 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ชั้น 8 ราคาพิเศษ 8,436,780 บาท เฉลี่ย 151,359.53 บาท/ตร.ม

*ราคาพิเศษ ลดราคาจากราคาจริง 100,000 บาท*

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 150,000 บาท

2 Bedroom จอง 100,000 บาท / ทำสัญญา 300,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 bedroom งวดที่ 1-29 งวดละ 16,000 บาท / งวดที่ 30 35,668 บาท

2 bedroom งวดที่ 1-29 งวดละ 28,000 บาท / งวดที่ 30 53,517 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ราคาขาย 4,664,450 บาท ผ่อนประมาณ 27,550 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ราคาขาย 8,436,780 บาท ผ่อนประมาณ 49,831 บาท/ตร.ม

บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ราคาขาย 4,664,450 บาท ผ่อนประมาณ 29,117 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ราคาขาย 8,436,780 บาท ผ่อนประมาณ 52,666 บาท/ตร.ม

บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ราคาขาย 4,664,450 บาท ผ่อนประมาณ 31,742 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ราคาขาย 8,436,780 บาท ผ่อนประมาณ 57,412 บาท/ตร.ม

บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ราคาขาย 4,664,450 บาท ผ่อนประมาณ 36,526 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ราคาขาย 8,436,780 บาท ผ่อนประมาณ 66,066 บาท/ตร.ม

บนสมมติฐาน กู้ 85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 Bedroom พื้นที่ 30.35 ตร.ม. ราคาขาย 4,664,450 บาท ผ่อนประมาณ 46,770 บาท/ตร.ม

2 Bedroom พื้นที่ 55.74 ตร.ม. ราคาขาย 8,436,780 บาท ผ่อนประมาณ 84,595 บาท/ตร.ม

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางจากคอนโด Benedict at The Saint Residences นั้น รวมๆ นับว่าสะดวกค่ะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว แค่ 300 เมตร สามารถเดินเลาะแนวถนนหรือเข้าซอยลาดพร้าว 2 มายังโครงการก็ได้

ส่วนถ้าเดินทางด้วยรถยนต์จะสะดวกเพราะอยู่ติดถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนหลัก 3 สาย อย่างถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว ซึ่งทำให้เดินทางไปได้หลายเส้นทาง แต่จะมีข้อจำกัดนิดหน่อยตรงที่หากมาจากถนนวิภาวดีฝั่งขาออก จะไม่สามารถกลับที่ห้าแยกลาดพร้าวแล้วเข้าโครงการได้ เนื่องจากพอกลับรถมาแล้วจะเลยทางเข้าโครงการไป ดังนั้นจะต้องขับเลยไปที่ถนนพหลโยธินหรือเข้าลาดพร้าวเพื่อกลับรถมาเข้าถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณห้าแยกลาดพร้าวอีกครั้ง  หรือไม่ก็ต้องหัดใช้ทางลัดในซอยวิภาวดีรังสิตต่างๆ ให้เป็น เช่น เข้าวิภาวดีรังสิต 22 ไปออกลาดพร้าวซอย 4 แล้วลัดเข้าซอยลาดพร้าว 2 มาออกซอยวิภาวดีรังสิต 26 อีกที ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงย่านนี้ในอนาคตก็เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ตอนนี้  เพราะนั่นจะทำให้บริเวรใกล้คอนโด BENEDICT จะมีสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 1 สถานี คือสถานีห้าแยกลาดพร้าว  ทำให้สามารถเดินทางได้ทั้ง BTS และ MRT จากเดิมที่ถ้าจะใช้ BTS จะต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปขึ้นที่ MRT จตุจักร และต่อ BTS หมอชิต  ถ้าหากรถไฟฟ้าเสร็จก็จะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น  รวมถึงการเข้าถึงจากแนวถนนพหลโยธินทำได้สะดวกขึ้นเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้บริเวณบางซื่อ – จตุจักร กำลังพัฒนาเป็นให้ สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟสายต่างๆ ในสเกลระดับประเทศ ภายใต้ชื่อ Bang Sue Complex ที่นอกจากจะเป็นจุดรวมรถไฟแล้วยังมีแผนพัฒนาเป็น Complex City ต่างๆ เช่น สำนักงาน, ศูนย์การค้า รวมถึงที่พักอาศัยและพื้นที่นันทนาการด้วย

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

BENEDICT ออกแบบตัวคอนโดเป็นงานสถานปัตยกรรมสไตล์ Comtemporary Modern คือไม่ได้เป็นแนว  Modern จ๋า ดีไซน์เรียบๆ เป็นกล่องสีเหลี่ยม  แต่มีดีเทลบนตัวอาคารอย่างคิ้วบัวต่างๆ ด้วย  ภายในตกแต่งหรูหรา ใช้ Pattern เป็นองค์ประกอบในรูปด้านเพื่อให้ดูมีรายละเอียด

Benedict  จะมีแปลนเป็นรูปตัว I วางวางอยู่ตรงข้ามกับ Tower A   ส่วนทิศและวิวที่น่าสนใจของโครงการนี้คือ ทิศที่หันเข้าหาสวนจตุจักร, สวนรถไฟ และสวนสมเด็จฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่สุดผืนหนึ่งในกรุงเทพฯ สำหรับอาคาร Benedict หรืออาคาร B นั้น มีห้องอยู่ 2 ทิศให้เลือก คือ ฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ ถ้าเลือกห้องฝั่งทิศเหนือจะได้วิวสวนกับห้าแยกลาดพร้าวค่ะ แต่ถ้าเลือกทิศใต้จะเห็นอาคาร A ฝั่งตรงข้าม  และได้วิวถนนวิภาวดีรังสิต ชั้นล่างๆ ทางทิศใต้ก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลาง

การจัดแปลนห้องและพื้นที่ใช้สอยของ Benedict  จัดออกมาได้ดีทีเดียว ได้ฟังก์ชั่นครบ ได้ฝ้าสูง 2.9 เมตร ทำให้ห้องดูโล่งมากยิ่งขึ้น แต่ห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม. อาจจะมีพื้นที่บางส่วนที่ดูแคบไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ข้อติที่ร้ายแรงอะไร  ภาพรวมยังถือว่ารทำได้ดี  สำหรับแปลนแบบ 2 ห้องนอนนั้นก็ลงตัวดีค่ะ มีพื้นที่ใช้งานเยอะ  ได้แสงธรรชาติจากทั้ง 2 ด้าน เนื่องจากตำแหน่งห้องอยู่ตรงมุมของอาคาร

วัสดุที่ใช้มาในโครงการนี้ดีมากค่ะ ได้ห้องแบบ Fully Fitted  มีเฟอร์นิเจอร์บางส่วนที่ออกแบบใหม่โดยบริษัท August Design เฉพาะโครงการนี้  อย่างตู้เก็บของใกล้ประตูทางเข้า, เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า ค่ะ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ มีแถมให้ตาม Promotion อย่างไปที่ไปรีวิวมาจะได้เฟอร์นิเจอร์จาก Modernform วัสดุของห้องนั้นก็ให้คุณภาพดีค่ะ พื้น Engineering Wood หนา 14 มม., ไฟดาวน์ไลน์, ให้รางซ่อนม่าน, ไฟซ่อนที่ฝ้าและชุดสุขภัณฑ์  ห้องน้ำดูแพง

พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด Benedict นั้นให้มาเยอะค่ะ  ซึ่งจะสามารถใช้รวมกันได้ทั้ง 3 อาคารเลย  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 7 ค่ะ มีอยู่ 2 ที่ คือคอร์ทกลางระหว่างทั้ง 3 อาคาร และคอร์ทด้านหลังอาคาร C ที่เปิดขายไปเป็นตึกแรก  คอร์ทตรงกลางจะเป็นคอร์ทใหญ่มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือขนาด 7 x 50 เมตร ลึก 1.2 เมตร  แยกสระเด็กให้ ส่วนที่คอร์ทของอาคาร C ก็จะมีสระว่ายน้ำอีกสระนึง ขนาด 7 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร

ที่ Tower B (Benedict)  จะมีห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ห้องสตรีม, ห้องแอโรบิค และห้องโยคะ  ชั้นดาดฟ้าของทั้งสามทาวเวอร์ก็มีสวนบนดาดฟ้าเป็นของตัวเองอีกค่ะ  สำหรับสัดส่วนลิฟต์นั้น  Benedict มีห้องทั้งหมด 406 ได้ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 135 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว เป็นสัดส่วนที่ดีอยู่  ที่จอดรถทั้งโครงการมาให้ 49% ไม่รวมจอดรถซ้อนคัน

ข้อมูลทั้งหมดนี้เราไปเก็บ ณ วันรีวิวนะคะ  หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม  ติดต่อสำนักงานขาย โทร 02-938-7774  ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ