แสนสิริปิดยอดขาย 9 เดือน ทะลุ 20,000 ล้านบาท เผยไตรมาสสุดท้ายเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,500 ลบ. พร้อมเตรียม เปิดตัวงานใหญ่แห่งปี “แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2016” ไฮไลท์ Sansiri Life Comes Home Global เปิดขายพร้อมกัน 4 ประเทศ ไทย-ฮ่องกง-สิงคโปร์-ไต้หวัน วันที่ 4 – 6 พ.ย.นี้ ที่สยามพารากอน
แสนสิริ ปิดยอดขาย 9 เดือน ทะลุ 20,000 ล้านบาท เผยแผนไตรมาสสุดท้ายเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,500 ลบ.
· ~ 1 min readแสนสิริ – SIRI สรุปผลงาน 9 เดือน ปิด 3 ไตรมาสด้วยยอดขาย 20,000 ล้านบาท เผยแผนธุรกิจไตรมาสสุดท้าย เปิดตัว 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 20,650 ล้านบาทโดยเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีก 3 โครงการรวด และเปิดโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,850 ล้านบาท ประกาศความพร้อมจัดงานใหญ่แห่งปี “Sansiri Life Comes Home2016” (แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม) ดันยอดขายตามเป้าหมาย ไฮไลท์ปีนี้ด้วย Sansiri Life Comes Home Global เปิดขายพร้อมกัน 4 ประเทศ ไทย-ฮ่องกง-สิงคโปร์-ไต้หวัน วันที่ 4 – 6 พฤศจิกายนนี้ ที่สยามพารากอน
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนของปี 2559 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโอนที่อยู่อาศัยต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้วกว่า 14,500 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังอีกประมาณ 11,400 ล้านบาท เป็น 25,900 ล้านบาท นับเป็น Presale Backlog ที่สามารถ Secured Revenue เป้ารายได้ที่สูงมากถึง 81% จากเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 32,000 ล้านบาท ทำให้เหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 19% เท่านั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้
“ผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนของปี 2559 บริษัทมียอดขาย(Pre-Sale) แล้วประมาณ 20,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โครงการล่าสุด The Line Asoke – Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา) มูลค่า 2,900 ล้านบาทซึ่งปิดการขายทันทีในช่วงพรีเซลล์ รวมถึงการสร้างยอดขายที่ดีจากคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด แคมปัส รังสิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และโครงการ ดีคอนโด นิม เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดขาย mori HAUS (โมริ เฮาส์) คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดในพื้นที่ T77 ซึ่งสร้างยอดขายพรีเซลล์ไปได้แล้วถึง 85% หลังจากเปิดพรีเซลล์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมารวมถึงสร้างยอดขายจากคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวล่าสุด The Base Garden Rama 9 (เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9) จำนวนทั้งสิ้น 639 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,280 ล้านบาทไปได้แล้วถึง 70%” นายเศรษฐา กล่าว
ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 8 โครงการ มูลค่ารวม 24,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 20,650 ล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,850 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดโครงการใหม่ภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้รวมถึง 3 โครงการ รวมทั้งเปิดขายโครงการแนวราบอย่างเป็นทางการพร้อมกันในเดือนตุลาคมนี้ทั้ง 4 โครงการ เพื่อผลักดันยอดขายพรีเซลล์ตามเป้าหมายที่วางไว้ 42,000 ล้านบาท
“ไฮไลท์ที่สำคัญในช่วงไตรมาส 4 บริษัทได้เตรียมจัดงานใหญ่ซึ่งได้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำในทุกปี ภายใต้ชื่องาน ‘Sansiri Life Comes Home’ (แสนสิริ ไลฟ์คัมส์โฮม) โดยไฮไลท์ที่สำคัญของการจัดงานในปีนี้ นอกจากการนำเสนอที่อยู่อาศัยโครงการต่างๆ ของกลุ่มบริษัทแสนสิริ ครอบคลุมทุกระดับราคา ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ พร้อมอยู่จากโครงการของแสนสิริทั่วประเทศ บริษัทได้ชูการจัดงานในรูปแบบ “Sansiri Life Comes Home Global” ซึ่งจะจัดงานและเปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ พร้อมกันใน 4 ประเทศ ได้แก่ ในประเทศไทย ที่สยามพารากอน รวมถึงที่ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตามแผนการรุกสร้างยอดขายในตลาดต่างชาติ โดยงานแสนสิริ ไลฟ์คัมส์โฮมในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน 2559 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จากแสนสิริที่จะเปิดตัวพร้อมกันภายในงานนี้เป็นครั้งแรกอีกด้วย” นายเศรษฐา กล่าว