วันนี้อยู่สบายได้โอกาสไปสำรวจคอนโด The Signature by Urbano จากพฤกษา ที่ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ เป็นคอนโดสูง 31 ชั้น 1 อาคาร ติดกับทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควายเลย ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ห้องส่วนใหญ่จึงขายห้องหมดไปตั้งแต่เปิดโครงการไม่นาน เหลือแต่แบบ 3 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ ใครกำลังมองหาคอนโดที่สร้างเสร็จโซนสะพานควายก็ลองอ่านดูเพื่อเป็นส่วนในการตัดสินใจได้ ไปดูรายละเอียดเจาะลึกของ The Signature by Urbano ที่สร้างเสร็จแล้วกันดีกว่าค่ะ
รีวิวคอนโด The Signature by Urbano (เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่) ตึกเสร็จพร้อมอยู่ ติดสถานี BTS สะพานควาย จากพฤกษา
· 37 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
The Signature by Urbano
(เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่)
- เจ้าของโครงการ >>> Pruksa Real Estate PCL
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนพหลโยธิน ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย (N7)
- ขนาดที่ดิน >>> 2-1-34 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 31 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- จำนวนห้อง >>> 253 ยูนิต
- ขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 34.00 – 37.00 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 48.00 – 55.50 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 85.00 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 253 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 70% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- ราคาขายเริ่มต้น >>>
- 1 ห้องนอน ราคา 4.9 – 5.9 ล้านบาท (ราคาช่วง Presale 2014)
- 2 ห้องนอน ราคา 5.9 – 9 ล้านบาท (ราคาช่วง Presale 2014)
- 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท (ราคา ณ วันทำรีวิวตึกเสร็จ 27 กันยายน 2016)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 170,000 บาท/ตารางเมตร (กันยายน 2016)
- พิกัด GPS >>> 13.792871, 100.549314
- โทร >>> 1739
วันนี้เรามาจากเส้นวิภาวดีรังสิต ใกล้ๆ เซ็นทรัลลาดพร้าวค่ะ พอถึงห้าแยกลาดพร้าวก็เลี้ยวเข้าเส้นถนนพหลโยธินแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสถานี BTS หมอชิต, สถานี BTS สะพานควาย จนเห็น Big C สะพานควาย ก็ให้อยู่ชิดเลนขวาเพื่อเตรียมกลับรถตรงแยกประดิพัทธ์ ตัวโครงการ The Signature by Urbano จะอยู่ทางซ้ายมือติดกับ Tesco Lotus Express ก่อนถึงสถานีสะพานควายค่ะ
เริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิต มองไปด้านซ้ายเป็นเซ็นทรัลลาดพร้าวค่ะ เราจะตามป้ายสะพานควายไป
ขึ้นสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวไปตามป้ายสะพานควายค่ะ
เข้าถนนพหลโยธิน ผ่านจตุจักร ผ่าน BTS หมอชิต
ตรงมาเรื่อยๆ เลยค่ะ ด้านหน้านี้จะเลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชรได้
เข้าสะพานควาย ด้านซ้ายมือจะเจอคอนโด IDEO Mix พหลโยธิน และถัดไปเป็น BTS สะพานควาย
ผ่านบิ๊กซีสะพานควายให้ชิดขวาไว้เตรียมกลับรถ
ชิดขวาจะมีลูกศรให้กลับรถอยู่ค่ะ
กลับรถมาแล้วก็ชิดซ้ายได้เลยค่ะ ถ้ามาจากทางอารีย์ก็สบายหน่อยเพราะสามารถตรงมาได้เลยไม่ตรงกลับรถ
ก่อนถึง BTS จะเจอป้ายรถประจำทาง ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเลยค่ะ จุดสังเกตคือโครงการจะอยู่ติดกับ Tesco lotus express
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
The Signature by Urbano ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ห่างจากบันไดเลื่อนขึ้นสถานี BTS สะพานควายแค่ 25 เมตร แต่บันไดเลื่อนลงจากสถานีจะต้องเดินประมาณ 250 เมตรค่ะ เพราะบันไดทางลงจะไปลงอีกฝั่งหนึ่ง โครงการจะอยู่เยื้องกับโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล และ Big C สะพานควาย ที่นับว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลักๆ ในย่านสะพานควายค่ะ
ในภาพรวมฝั่งทิศเหนือของโซนสะพานควายจะเป็นโซนจตุจักร (หมอชิต) และบางซื่อ ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาเป็น บางซื่อ Complex ศูนย์กลางการเดินรถระบบรางของประเทศ และจะมีสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่นันทนาการเพิ่มขึ้นอีกด้วย จากเดิมที่มีตลาดสด อตก., ตลาดนัดจตุจักร และสวนสาธารณะใหญ่ๆ 3 แห่งอยู่แล้ว คือ สวนจตุจักร, สวนรถไฟ และสวนสมเด็จย่าฯ …. ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ๆ ในย่านนี้จะอยู่แถวห้าแยกลาดพร้าวค่ะ มี Central ลาดพร้าวและ Union Mall หากใครขับรถก็จะมีทางด่วนศรีรัชอยู่ตรงถนนกำแพงเพชร สามารถใช้เข้าตัวเมืองได้ค่ะ
ส่วนฝั่งทิศใต้ของสะพานควายจะเจอกับแยกประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของถนนพหลโยธินกับถนนประดิพัทธ์และถนนอินทามระ (ถนนสุทธิสารวินิจฉัย) ถ้าข้ามแยกไปจะไปโผล่อารีย์, สนามเป้า ถ้าเลี้ยวเข้าประดิพัทธ์จะไปออกถนนพระราม 6 ที่วิ่งขนานไปกับถนนพลโยธินได้ค่ะ ส่วนถ้าเลี้ยวไปทางถนนสุทธิสารวินิจฉัยก็จะไปออกแยกสะพานสุทธิสารที่ถนนวิภาวดีรังสิต ไปขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ ได้
ทีนี้มาดูเพื่อนบ้านรอบๆ โครงการ เดอะ ซิกเนอเจอร์ บาย เออร์บาโน่ บ้าง พื้นที่บริเวณรอบโครงการในโซนสะพานควายนั้นจะเป็นชุมชนที่พลุกพล่าน บริเวณพื้นที่ในแนวรถไฟฟ้าสะพานควายจะเป็นอาคารพาณิชย์เป็นส่วนมาก ถ้าหันหน้าเข้าหาที่ดินของโครงการจะเห็นด้านซ้ายมือเป็น Tesco Lotus Express (หมายเลข1) อยู่ติดกับรั้วโครงการเลยค่ะ นอกนั้นจะเป็นอาคารพาณิชย์ ตลาดเก่า โรงหนังเก่า และร้ายขายอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้ามองไปทางทิศใต้หรืออารีย์จะมีคอนโดบ้านใกล้เรือนเคียงคือ Onyx by Sansiri หากไปทางทิศเหนือของโครงการแถวๆ รถไฟฟ้าจะมีไปรษณีย์สามเสนใน และติดกันจะเป็นคอนโด The Editor สะพานควาย คอนโดจากพฤกษาเหมือนกันค่ะ
ฝั่งตรงข้ามของโครงการก็มีคอนโดเพื่อนบ้านกันอีกหนึ่งคือ IDEO MIX พหลโยธิน ส่วนเยื้องๆ กับโครงการจะเป็นโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล และบิ๊กซี สะพานควาย ด้านหลังของที่ดินโครงการจะติดกับซอยประดิพันธ์ 25 ซึ่งบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นบ้านคนและอพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้นตั้งอยู่ค่อนข้างมาก
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเข้าคอนโด The Signature by Urbano กันค่ะ
บริเวณด้านหน้าโครงการมองไปทาง BTS สะพานควายค่ะ อยู่ใกล้มาก
อีกด้านติดกับ Tesco lotus express
ออกจากโครงการมาทางซ้ายมือก่อนค่ะ ด้านนี้จะเป็นป้ายรถเมล์ มีร้านขายของรวมไปถึงร้านอาหารอยู่ค่อนข้างคึกคัก
ร้านขายขนมใกล้ทางขึ้น BTS สะพานควาย ร้านนี้มีอาหารแกงทางปักษ์ใต้ขาย ลองทานไปแล้ว แซ่บมาก ช่วเย็นๆ คนเยอะตลอด
นอกจากร้านค้าในอาคารพาณิชย์แล้ว ก็จะมีลุงๆ มาขายพระเครื่องกันบนทางเท้าด้วยค่ะ โดยเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ จะคึกคักมาก
เลยบันไดขาลง BTS มา ก็จะถึงไปรษณีย์สามเสนในค่ะ
คอนโด The Editor ของพฤกษาเช่นกันค่ะ อยู่ติดกับไปรษณีย์เลย
คอนโด The Editor สะพานควาย สร้างเสร็จไปก่อนหน้าแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามก็มีคอนโด IDEO MIX พหลโยธิน มี Maxvalu ด้วย
กลับมาที่หน้าโครงการค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็น Office Mate
ติดกับ Office Mate เป็นโรงพยาบาลเปาโม เมมโมเรียล
เดินผ่าน Tesco Lotus Express มาจะมีร้านขายของสมุนไพรค่ะ
ถัดมาจะเป็นซอยเข้าโรงหนังเก่า ภายในซอยเป็นอาคารพาณิชย์เช่นกัน
เข้ามาด้านในซอยจะเจอโรงหนังเก่าสูง 2 ชั้นค่ะ อยู่ทางขวามือในภาพ ส่วนคอนโดสูงๆ ที่เห็นข้างหน้าคือ Onyx จาก Sansiri
ทางเข้าโรงหนังเก่าอีกซอยนึง ซอยนี้ก็มีร้านอาหารเยอะค่ะ มีข้าวมันไก่อร่อย
ขายของกันเยอะตลอดทางเดิน มีร้านขายยาด้วย
ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Big C สะพานควาย มีทางม้าลายสำหรับข้ามถนนค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
สำรวจทำเลรอบๆ ไปพอสมควร เราเข้าไปดูในโครงการ The Signature by Urbano กันต่อเลย
ถ้ายืนอยู่หน้าโครงการแล้วหันไปทางซ้ายมือจะเป็นป้ายรถเมล์พอดี จึงมีคนมายืนออกันอยู่เยอะ
ถนนพหลโยธินด้านหน้าโครงการจะเป็นฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปที่ห้าแยกลาดพร้าวค่ะ ถนนกว้าง 6 เลนไปกลับ
มองไปทางขวาก็ Tesco Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง เป็นเพื่อนพึ่งพายามหิวเวลาดึกๆ ได้ค่ะ
ทางเข้าโครงการด้านหน้าจะจัดเป็นสวนเอาไว้ ทั้งสองฝั่ง
ตัวประตูจะอยู่ถัดเข้าไปหน่อย ป้อมยามสไตล์โมเดริ์นอยู่ทางขวามือค่ะ มีประตูรั้วที่จะปิดเฉพาะตอนกลางคืนเพื่อความปลอดภัย แต่ในตอนกลางวันจะเปิดเอาไว้ค่ะ เหลือแต่ไม้กระดกกั้นไว้ ส่วนนี้จะเป็น Security ขั้นที่ 1 การที่ตัวคอนโดอยู่ลึกไปจากถนนใหญ่แบบนี้ก็จะดีในแง่ที่หลบความวุ่นวายจากตึกแถวและฝูงชนด้านหน้าได้พอสมควร
พี่ๆ ยามกับป้อมยามเก๋ๆ ^^ และไม้กระดกที่จะใช้ในช่วงกลางวัน
แลกบัตรผ่านพี่ยามเข้ามาแล้ว จะมีสวนหย่อมและที่นั่งพักยาวไปตลอดทางเดิน
มองกลับไปที่ทางเข้าโครงการ
บรรยากาศคอนโดจากหน้าโครงการ สวยดีค่ะ ด้านหน้าคอนโดนี้จะเป็นส่วนของห้องแบบ 3 ห้องนอน ระเบียงห้องได้เป็นกระจก เพื่อเปิดวิวและทำให้รูปด้านหน้าอาคารสวยงาม
ด้านข้างโครงการ ฝั่งทิศใต้ จะติดกับอาคารพาณิชย์ที่อยู่ในซอยข้างๆ สูงประมาณ 3 – 4 ชั้น ต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆ โครงการเพื่อช่วยพรางตา แต่ตอนนี้ยังไม่โตเต็มที่นัก อีกหน่อยถ้าใบหนากว่านี้ก็จะเห็นเป็นแนวกำแพงสีเขียวค่ะ
อีกฝั่งนึง (ทิศเหนือ) จะติดกับกลุ่มบ้าน สูง 2 – 3 ชั้น คอนโดที่เห็นทางซ้ายมือคือ คอนโด The Editor สะพานควายค่ะ
แล้วก็มาถึงบริเวณ Drop-Off ก่อนเข้าโถง หรูหราค่ะ โครงการนี้จะใช้สีดำเป็นหลัก เพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุมันเงาสีทองแดง และสีทองค่ะ
พื้นถนนตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงบริเวณ Drop – off พื้นจะทำจากคอนกรีตปั๊มลาย
ประตูทางเข้าสูงและดูมีราคาทีเดียว ชอบค่ะ
ถ้าขับรถมาก็จะให้ขับตรงเข้ามาเลย จะมีทางขึ้นที่จอดรถอยู่ด้านข้างอาคาร เจอ Security เป็นพี่รปภ. + จุดสแกนบัตร และไม้กระดกอีกครั้ง เป็น Security ชั้นที่ 2 จากทั้งหมด 3 ชั้นค่ะ
มีกล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง
บรรยากาศในที่จอดรถค่ะ พื้นคอนกรีตขัดมัน ผนังรอบๆ ทาสีขาว
จอดรถเสร็จแล้วก็กลับมาที่ Lobby ที่ให้ฝ้ามาสูง Double Volume บรรยากาศภายในดูหรูหรา ใช้สีดำและสีทองเป็นหลัก และใช้วัสดุคุณภาพดีค่ะ
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์เป็นชุดโซฟาใกล้ประตูทางเข้า และโคมไฟระย้า สวยงามค่ะ
ถัดเข้ามาก็เป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ ให้แขกมานั่งรอ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ตัวที่ดินของโครงการ The Signature by Urbano จะทำมุมเฉียงๆ กับแนวถนนพหลโยธิน รูปที่ดินจะเป็นแนวแคบและยาว ตำแหน่งอาคารจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนนพหลโยธินประมาณ 70 เมตร ทำให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัดเสียงรบกวนจากถนนไปได้เยอะเลย ส่วนด้านหลังของที่ดิน หรือทิศตะวันตก จะอยู่ติดซอยประดิพัทธ์ 25 ค่ะ บริเวณด้านหน้าโครงการ The Signature by Urbano จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้นอย่างที่เราพาเดินสำรวจมาแล้ว ส่วนรอบๆ โครงการด้านในก็จะเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านคนเป็นส่วนใหญ่ ค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร ทางทิศเหนือของตัวอาคารจะเจออพาร์ทเมนท์ในซอยพหลโยธิน 15, 25 ที่มีความสูงกันประมาณ 6 – 8 ชั้นค่ะ แต่ทิศเหนือของบริเวณถนนทางเข้าด้านหน้าจะติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ส่วนทิศใต้ของตัวคอนโดจะใกล้กับโรงหนังเก่าและอาคารพาณิชย์
.
เวลาอยู่บนคอนโดถ้ามองมาที่ด้านหน้าโครงการ หรือทิศตะวันออกจะเห็นตัวสถานี BTS สะพานควาย เห็น Office Mate ฝั่งตรงข้าม และโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล
ฝั่งทิศเหนือของตัวคอนโดจะติดกับอพาร์ทเมนท์สูง 8 ชั้น ส่วนถนนด้านหน้าคอนโดจะติดกับกลุ่มบ้านสูง 2 ชั้นที่เห็นทางขวามือค่ะ ถนนที่เห็นอยู่ตรงกลางภาพคือซอยพหลโยธิน 15
ฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับซอยประดิพัทธ์ 25 มีกลุ่มอพาร์ทเมนท์และบ้านพักอาศัย
ฝั่งทิศใต้จะติดกับโรงหนังเก่าสูง 2 ชั้น ที่เห็นหลังคาใหญ่ๆ ที่เหลือเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ค่ะ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ตัวคอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ นั้นวางในแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ จึงมียูนิตฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ให้เลือก (ไม่งงเน๊อะ ^^) เว้นแต่ห้องแบบ 3 ห้องนอนที่อยู่ด้านหน้า จะอยู่หัวมุมอาคารพอดี จึงได้ทั้งทิศทิศตะวันออก, ทิศเหนือและทิศใต้ค่ะ
ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นมุมที่มองไปทางจตุจักร ถ้ามองเฉียงๆ จะเห็นสถานีกลางบางซื่อที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะได้วิวไปทางอารีย์แต่จะโดน Oynx พหลโยธินของ Sansiri บังวิวบางส่วน ซึ่งจะแสดงให้เห็นในหัวข้อถัดไปค่ะ
ตำแหน่งอาคารสูงรอบๆที่มีผลต่อมุมมองจากตัวคอนโด
รูปนี้ทำกราฟิกให้เห็นคร่าวๆ ว่าอาคารรอบๆ นั้นมีผลอะไรกับมุมมองจากตัวโครงการบ้างค่ะ ในส่วนของอาคารที่ติดกับโครงการเลยไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะสูงไม่เกิน 8 ชั้น และห้องพักของ The Signature by Urbano เริ่มที่ชั้น 8 ขั้นไป แต่ถัดออกไปหน่อยจะมีคอนโดสูงๆ อยู่ 2 ตัว คือ The Editor สะพานควาย ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ค่อยมีผลกับวิวเท่าไหร่ ส่วนคอนโด Onyx พหลโยธินของแสนสิริ อยูทางทิศใต้ซึ่งบังวิวไปเยอะพอสมควร เพราะตัวอาคารวางขนานกันค่ะ
.
ใครเลือกห้องฝั่งทิศใต้จะเห็น Onyx พหลโยธิน สูง 26 ชั้น ชั้นล่างจะบังวิวไปเยอะ แต่ไม่อึดอัดเท่าไหร่ มีระยะห่างกันประมาณ 130 เมตร มองเลยผ่านออกไปจะเห็น City View
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เฉพาะห้องแบบ 3 ห้องนอน จะเห็นโรงพยาบาลเปาโล สูง 20 ชั้น ตึกนี้ไม่บังวิวเท่าไหร่
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมี The Editor สะพานควายและ Ideo Mix พหลโยธิน
ทิศเหนือได้วิว Bangsue Complex ค่ะ ด้านนี้จะได้วิวโล่งที่สุด
ทิศตะวันตกได้วิวในตัวเมือง อันนี้จะเห็นได้จากชั้นส่วนกลาง วิวสวยค่ะ ตึกสูงที่เห็นอยู่กลางภาพคือคอนโด RHYTHM Phahon-Ari และทางขวามือจะเห็นคอนโด Lumpini Place พหลโยธิน – สะพานควาย
สภาพอาคารจริง
ก่อนขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางขอเดินสำรวจตัวอาคารกันหน่อยค่ะ อย่างที่บอกไปว่า คอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ ใช้โทนอาคารสีดำ – สีทองแดง – สีทองเป็นหลัก เน้นหรูหรา ตั้งแต่ป้ายโครงการที่ติดอยู่กับตัวอาคารก็มีการออกแบบในเข้ากับคอนเซ็ปต์แล้ว
มองขึ้นไปด้านบน ฟิ้ววว… งานเนี้ยบดีค่ะ ด้านล่างที่เห็นตกแต่งด้วยอลูมิเนียมสีทองแดงคือส่วนจอดรถ แต่เฉพาะด้านหน้านี้เท่านั้นที่จะตกแต่งแบบนี้ค่ะ
ประตู Rolling Shutter ของห้องเครื่องก็ยังใช้ประตูสีดำเพื่อคุมโทนไปด้วยกัน
ส่วนที่จอดรถที่อยู่ด้านข้างและด้านหลังจะเป็นผนังคอนกรีตทาสีขาวแบบนี้ มีช่องระบายอากาศเป็นช่องๆ ทาสีเทา มองไม่เห็นรถที่จอดอยู่ด้านในแต่ระบายอากาศได้
ชั้นบนที่เป็นห้องพักอาศัย ฝั่งทิศตะวันตกจะทาสีเทาเข้ม ผนังเซาะร่องผสมกับการยื่นกรอบคอนกรีตตกแต่งออกมา เน้นแนวตั้ง รูปด้านดูไม่เรียบเกินไป ส่วนระเบียงห้องและกรอบหน้าต่างก็ใช้สีเทาเข้ม ดูขรึมๆ คุมโทนไปทางเดียวกัน
ฝั่งทิศเหนือจะทาผนังสีขาวค่ะ แซมด้วยสีเทาเป็นบางส่วน
ถนนด้านข้างเมื่อเลยส่วน Drop-Off มาแล้ว จากถนนคอนกรีตปั๊มลายจะเปลี่ยนเป็นถนนเทคอนกรีตธรรมดา ตกแต่งด้วยต้นไม้กระถางค่ะ จริงๆ น่าจะทำเป็นกระถางคอนกรีตอะไรไปเลยเนอะ แล้วก็ต้นไม้น่าจะสูงกว่านี้หน่อยค่ะ เพราะเพื่อนบ้านฝั่งทิศใต้นี่สภาพไม่น่าชมเท่าไหร่
ถนนด้านข้างฝั่งทิศเหนือ ติดกับอพาร์ทเมนท์แบบนี้เลย ฝั่งนี้ไม่มีกระถางต้นไม้ค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
สำรวจความเรียบร้อยรอบตัวคอนโดกันแล้ว ก็ไปดูพื้นที่ส่วนกลางของ เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออบาโน่ ต่อดีกว่า
Facilities ที่ให้มาจะอยู่บริเวณชั้น 8, 9 และชั้น 31 ค่ะ ที่ชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำขนาด 8 x 20 เมตร ระบบเกลือ ชั้น 9 จะมี Cubic Multi-Purposed Room ส่วนที่ชั้น 31 ก็จะมี Sky Lounge และ Gym ด้านล่างชั้น 2-7 เป็นที่จอดรถ
สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 253 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 84 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าออกมาดีมาก ที่จอดรถ 70% ไม่นับรวมจอดซ้อนคันสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้าราคาระดับนี้ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ดีมากเช่นกันค่ะ ระบบรักษาความปลอดภัยมี 3 ชั้น คือ ประตูทางเข้าใหญ่, สแกนบัตรก่อนขึ้นที่จอดรถ และสแกนบัตรเข้าโถงลิฟต์ค่ะ
.
ชั้น 8 ซึ่งเป็นโพเดียมเหนือที่จอดรถ มีสระว่ายน้ำหันหน้าไปฝั่งทิศเหนือ ซึ่งจะเจอกับอพาร์ทเมนท์สูง 8 ชั้นพอดี มีสระในร่มแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.สระเด็ก 2. Jacuzzi & Bubble 3.ทางลงสระ
ที่ชั้น 9 จะมี Cubic Multi-Purposed Room เป็นทั้งที่ทำงาน ทำการบ้าน และมินิบาร์
ชั้น 31 ที่มี Gym และ Sky Lounge ทั้งสองห้องสามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ 180 องศาค่ะ
ประตูเข้าโถงลิฟต์ชั้นล่างจะเนียนไปกับผนังตกชั้นที่โถงต้อนรับมาก ประตูกระจกตรงกลางนี่แหละค่ะเป็น Security ชั้นที่ 3 ก่อนขึ้นอาคาร
Scan บัตรขึ้นลิฟต์ เป็น Security ชั้นที่ 3 ของโครงการนี้เลย
หน้าตาปุ่มลิฟต์แต่ละชั้นจะมีแผนที่บอกทางหนีไฟเพื่อกรณีฉุกเฉินให้เรียบร้อย
ลิฟต์ใหญ่จุได้ประมาณ 13 คน หรือ 1,000 กิโลกรัม พื้นลิฟต์ปูกระเบื้องสีดำเงาๆ
กดลิฟต์มาที่ชั้น 8 ค่ะ ออกจากโถงแล้วเลี้ยวมาทางสระว่ายน้ำ จะมีโถงทางเดินก่อนเข้าส่วนสระว่ายน้ำก่อน
พอเข้ามาแล้วจะมี Deck พื้นไม้เทียมปูไว้ให้ สวยและกันลื่นไปในตัว ข้างๆ ปลูกต้นไม้เอาไว้ค่ะ ช่วงพรางสายตาจากเพื่อนบ้านได้บ้าง
บรรยากาศ Deck
สระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 8 ยาว 20 เมตร ว่ายน้ำจริงจังได้เลย สุดฝั่งโน่นจะจัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ทางซ้ายมือเป็นสระในร่ม
ด้านข้างสระจะมีทางเดินยาวไปจนถึงด้านหลังสระ
เสียดายดายตรงวิวหน่อยค่ะชั้นนี้ พอดีสูง 8 ชั้นเท่ากับเพื่อนบ้านเลยเห็นภาพไม่ค่อยสวย ถ้าอนาคตแนวต้นไม้สูงขึ้นอีกหน่อยน่าจะเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เหนือ Deck ของสระว่ายน้ำจะเป็นห้อง Cubic Multi-Purposed Room ที่อยู่ชั้น 9 คุณพ่อคุณแม่ไปนั่งรออยู่ที่ชั้น 9 ได้ ขณะที่ลูกๆ เล่นน้ำชั้น 8
สระในร่มด้านข้างสระ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขวาสุดเป็นสระเด็ก, ตรงกลางจะมีที่นั่งพักมีระบบ Jacuzzi & Bubble, ซ้ายสุดจะเป็นบ่อที่มีบันไดเดินลงสระ
มีทางเดินอยู่ด้านหลัง เชื่อมทุกสระเข้าหากัน
ที่ล้างตัวข้างสระว่ายน้ำ มีอยู่จุดเดียว
สระตรงกลางที่ระบบ Jacuzzi & Bubble จะมีที่นั่งพักผ่อนเอนหลังในน้ำค่ะ
สระแรกจะมีบันไดสำหรับเดินลงสระว่ายน้ำ เด็กๆ มาเล่นในนี้ก็ได้ น้ำตื้นไม่อันตราย
ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าแยกชาวหญิงจะต้องลงบันไดลงไปอีกชั้นนึง
ลงบันไดมาแล้วจะเจอทางเข้าห้องน้ำอยู่แยกกัน
ภายในตกแต่งหรูหราค่ะ ให้กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว กับใช้กรอบกระจก และวงกบประตูเป็นอะลูมิเนียมสีทองเพิ่มความหรูหรา
มีตู้ล็อคเกอร์เตรียมไว้ให้แยกชายหญิง
ห้องอาบน้ำฝักบัวแบบ Shower
ห้องน้ำชายก็หรูหราไม่แพ้กัน (แอบเข้าไป 555)
.
ขึ้นลิฟต์มาต่อที่ชั้น 9 ค่ะ อินทีเรียที่ใช้วัสดุมันเงา และสะท้อนได้ดีแบบนี้ ช่วยให้ดูหรูหรามากทีเดียว
ชั้นนี้มี Cubic Multi-Purposed Room ไว้สำหรับลูกบ้านมาทำงานหรือมาทำการบ้านกัน พื้นที่เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตในโครงการแล้ว พอเพียง เหลือเฟือ!
มีทั้งชุดโต๊ะและชุดโซฟา ให้มาเยอะดี
ทิศตะวันตกจะมองเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 8 ค่ะ
มีทีวี, ตู้เย็นและอ่างล้างจานให้ด้วย เผื่อเอาอาหารเข้ามารับประทานกัน
.
มาที่ชั้น 30 มาดูห้องฟิตเนสก่อนค่ะ ให้พื้นที่กว้างใหญ่สะใจมาก ปกติคอนโดที่มียูนิต 200 กว่าห้อง ฟิตเนสจะเล็กกว่านี้ประมาณ 1/4 แต่ที่นี่ให้พื้นที่เยอะมาก ชอบค่ะ
และก็เป็นห้องฟิตเนสที่เห็นมุม 180 องศาด้วย ภายในตกแต่งด้วยสีดำเป็นหลักค่ะ
ด้านนี้คือมุมยกเวทติดกับที่นั่งพักผ่อน
มีทีวีและเคาท์เตอร์วางของเตรียมไว้ให้ด้วย
.ด
บรรยากาศที่โถงลิฟต์ค่ะ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องสีดำเงา ผสมกับอะลูมิเนียมสีทองเหลือง
ตรงข้ามกับห้องฟิตเนสจะเป็น Sky Lounge ได้วิว 180 องศาอีกเช่นกัน ห้องนี้จะได้ Double Volume จึงดูโล่งและโปร่งเห็นวิวได้สวยกว่าห้องชั้นล่าง
จัดชุดโซฟาให้เยอะอีกแล้ว ^^
และมีเคาน์เตอร์บาร์ให้ด้วย ตกแต่งหรูหราค่ะ แต่ช่วงกลางวันและบ่ายๆ แดดจ้ามากเลย ขอแนะนำให้ติดม่านเพิ่มกันในภายหลัง เพื่อช่วยลดความร้อนช่วงกลางวัน และก็นิติฯ จะได้ประหยัดค่าแอร์ในพื้นที่ส่วนกลางด้วย
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
ดูแปลนและพื้นที่ส่วนกลางไปแล้ว มาเก็บตกแปลนชั้น 1 และชั้นพักอาศัยกันค่ะ
Floor Plan คอนโด The Signature by Urbano ชั้น 1
ชั้นแรก ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะประมาณ 70 เมตร ป้องกันทั้งเรื่องเสียง มลภาวะ รวมไปทั้งเรื่องความปลอดภัยได้ดี ตลอดทางที่เดินเข้ามาก็จะมีต้นไม้และที่นั่งพักไว้ให้ เราทำกราฟิกเส้นทางการวนรถเอาไว้ให้ดูค่ะ จุด Drop-Off อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร สามารถเข้ามาส่งคนหน้า Lobby แล้ววนออกได้เลย ตามเส้นสีเขียว ถ้าเป็นลูกบ้านก็ขับรถขึ้นที่จอดรถได้ตามเส้นสีชมพู เวลาขับออกจากโครงการก็ออกด้วยเส้นสีเหลืองค่ะ ดังนั้นจะมีจุดที่รถ Cross กันของรถอยู่ตรงทางขึ้นที่จอดรถ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะคอนโดนี้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ
ซูมมาดูที่ตัวอาคาร ชั้นล่างนี้จะประกอบไปด้วย Reception, Waiting Area, ห้องนิติบุคคล, ห้องคนขับรถ, ห้องน้ำ, ห้องนิติบุคคลมีสองห้อง, ห้องจดหมาย, ห้องคนขับรถและท้ายโครงการเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ ด้านข้างอาคารเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อ และทางขึ้นจอดรถสำหรับลูกบ้าน ส่วนทิศเหนือของอาคารจะเป็นห้องเครื่องงานระบบต่างๆ ของอาคารค่ะ
Floor Plan คอนโด The Signature by Urbano ชั้น 9
ห้องของ The Signature by Urbano นั้นจะวางหันหน้าทางทิศเหนือและทิศใต้ค่ะ ทางทิศเหนือจะเป็นมุมที่มองไปเห็นวิวจตุจักร ส่วนทิศใต้จะมองเข้าเมืองไปทางอารีย์ ตำแหน่งห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ตรงมุมใกล้ๆลิฟต์ ส่วน 3 ห้องนอนจะอยู่ด้านหน้าสุดซึ่งเห็นวิวโดยรอบทั้ง 3 ทิศ (ทิศเหนือ / ตะวันออก / ใต้) นอกนั้นก็จะเป็นแบบ 2 ห้องนอนค่ะ
ส่วนชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป ห้องตำแหน่งทางด้านหลังของอาคารจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากติดกฎหมายระยะถอยร่น ดังนั้นยิ่งอยู่ชั้นบนๆ จำนวนยูนิตก็จะยิ่งน้อยลง และเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
แปลนห้องดีไหม?
แปลนของคอนโด The Signature by URBANO จะมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ส่วนห้องที่มีมากที่สุดเป็นแบบ 2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร ซึ่งถ้ามองในแง่ของสัดส่วนของห้อง (room mix) ในโครงการก็ถือว่าดีมานด์นั้นแตกต่างจากตลาดคอนโดในเมืองทั่วไป ที่มักจะให้สัดส่วนของแบบ 1 ห้องนอนเอาไว้เยอะสุด ซึ่งก็น่าจะแปลว่าพฤกษามองว่าตลาดนี้มีกำลังซื้อพอสมควรทีเดียวค่ะ
แต่ปัจจุบัน ณ ตอนที่เข้าไปรีวิวตึกเสร็จ แบบ 1 ห้องนอนกับ 2 ห้องนอน ขายหมดแล้ว เลยไม่ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปมาให้ดูกันค่ะ แต่ก็จะเอา 2 ห้องนอนที่มีจำนวนห้องเยอะที่สุดในโครงการ กับแบบ 3 ห้องนอนที่ยังขายไม่หมดมาให้ดูกันแทนนะคะ
แปลนห้องคอนโด The Signature by URBANO
แบบ 2 ห้องนอน DOMUS ขนาด 48 ตารางเมตร
แปลนรวมๆ ถูกแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน เปิดห้องมาจะเจอห้องครัวด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนทั้งสองห้องก็อยู่กันคนละด้านกั้นด้วยส่วนพื้นที่ไว้สำหรับนั่งทำงาน ในส่วนของระเบียงจะอยู่ตรงห้องนอนเล็กกับพื้นที่ทำงาน ส่วนห้องนอนใหญ่จะไม่มีระเบียง มีห้องน้ำให้ 1 ห้องใช้ร่วมกัน เป็นการจัดแปลนที่ค่อนข้าง compact และก็ทำได้ดีค่ะ จุดที่อยากคอมเมนท์มีนิดเดียวตรงที่บริเวณส่วนนั่งเล่นพักผ่อนนั้นจะไม่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Signature by URBANO
แบบ 2 ห้องนอน TRADA ขนาด 54, 55.5 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอนอีกแบบหนึ่ง จะอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นวิวด้านฝั่งจตุจักร ทั้ง 2 ขนาดไม่ต่างกันมาก ต่างกันแค่พื้นที่ด้านหน้าตรงห้องครัวนิดหน่อยเท่านั้น แปลนห้องเข้ามาจะเจอครัวและพื้นที่รับแขกซึ่งมีระเบียงออกไป ส่วนห้องนอนก็แบ่งแยกซ้ายขวา ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็ก ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกตรงทางเดินค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Signature by URBANO
แบบ 3 ห้องนอน MIRUS ขนาด 85 ตารางเมตร
แบบ 3 ห้องนอน จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก (หน้าโครงการ) ฝั่งถนนพหลโยธิน แปลนห้องจะเป็นทางเดินแคบยาวเข้ามา มีส่วนครัวอยู่ระหว่างทางเดินแบบรูปตัว I ตรงเข้ามาจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นกับส่วนรับประทานอาหาร ติดกับระเบียงยาว ตอนกลางวันจึงได้แสงเต็มที่และเพิ่มความกว้างให้กับห้องนั่งเล่น ห้องนอนแยกซ้ายขวา ด้านหนึ่งจะเป็นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนอีกด้านหนึ่งจะมี 2 ห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำอยู่อีก 1 ห้อง ใช้ร่วมกันตรงทางเดิน แปลนก็ลงตัว แบ่งสเปซได้ดี แอบติก็ตรงที่ช่องทางเดินเข้าห้องนั้นดูจะเสียสเปซเยอะไปหน่อย ควรแต่งอินทีเรียทางเดินให้สวยๆ จะได้ไม่รู้สึกเป็นซอกแคบยาวค่ะ
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูวันนี้ คือ แบบ 2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร และ 3 ห้องนอน 85 ตารางเมตร ห้องที่ได้จริงจะเป็นแบบ Fully Fitted ค่ะ ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เช่น เคาน์เตอร์ครัว ตู้ครัว ชั้นวางทีวี หัวเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และมี Wallpaper ให้ค่ะ ระยะพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.7 เมตร ดังนั้นห้องจึงค่อนข้างโล่งไม่อึดอัดค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด The Signature by Urbano
แบบ 2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร
เข้ามาในตัวห้องแบบ 2 ห้องนอนกันเลยค่ะ ส่วนแรกที่จะเจอคือพื้นที่นั่งเล่น ข้างๆ ชั้นวางทีวีเป็นหน้าต่างกระจกของห้องนอนเล็ก
มุมนั่งเล่น ดูทีวี มี Built-in ตรงส่วนชั้นวางทีวีค่ะ ระยะดูทีวีไม่ไกลเท่าไหร่ กำลังพอดีๆ แต่ก็ไม่ควรใช้ทีวีจอใหญ่เกินไป
ห้องด้านนึงจะเป็นส่วนของครัว วางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งติดกับเคาท์เตอร์ครัวไว้ให้
ตรงกลางของห้องมองไปจะเห็นพื้นที่นั่งทำงานเล็กๆ และเป็นทางเดินออกไปยังระเบียงได้ ขวามือเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ
ชุด Pantry มีให้เป็นรูปตัว L และโต๊ะรับประทานในเซตเดียวกัน พื้นบริเวณ Pantry เป็นพื้นไม้ลามิเนตค่ะ
เข้ามาดูส่วนของห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่
ผนังฝั่งนึง built-in ตู้เสื้อผ้าเอาไว้ ห้องนอนเล็กนี้จะได้บานตู้เสื้อผ้าทึบ ผิว Glossy
ปลายเตียงแขวนชั้นและทีวี วางของได้เล็กน้อย ระยะปลายเตียงประมาณ 40 ซม. ค่ะ เดินผ่านได้แต่ระวังแขนไปเกี่ยวอะไรบนชั้นตกลงมาได้
จากห้องนอนเล็กออกมาที่บริเวณระเบียง ซึ่งมีกว้างประมาณ 70 ซม. ค่ะ บริเวณระเบียงนี้จะยกคอมเพรสเซอร์แอร์เก็บไว้ด้านบนเลย ทำให้ใช้งานระเบียงได้เต็มที่ เดินไปออกพื้นที่ทำงานตรงกลางห้องได้ เพราะเชื่อมกับระเบียงได้เหมือนกัน
ห้องนอนใหญ่ ไม่มีระเบียงให้ค่ะ แต่จะอยู่ติดหน้าต่าง
ถ่ายให้ดูพื้นที่ระหว่างเตียงกับหน้าต่างห้องนอน มีระยะห่างประมาณ 30 ซม.
ปลายเตียงเป็นตู้วางของเตี้ยๆ และชั้นวางทีวี
ปลายเตียงถึงชุดตู้ปลายเตียงมีระยะประมาณ 45 ซม. เดินได้แบบฟิตพอดี
พื้นที่อีกด้านนึงสำหรับตู้เสื้อผ้า ที่จะพิเศษกว่าห้องนอนเล็กคือจะเป็นกระจกและมีซ่อนไฟด้านในค่ะ
ห้องน้ำแบ่งโซนเปียก – แห้ง ให้เรียบร้อย ได้ฉากกั้นอาบน้ำด้วย ห้องน้ำจะตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องสีดำ พื้นสีเทาค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด The Signature by Urbano
แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร
ทางเข้าห้องจะแคบยาวค่ะ มีตู้ Built-in อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า ถัดเข้ามาจะเป็น Pantry ยาวๆ ไฟที่ทางเดินนี้จะเปิดปิดอัตโนมัติด้วยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว I อยู่ติดผนังเก็บของได้เยอะ วัสดุเหมือนกับในห้องแบบ 2 ห้องนอน
เข้ามาสุดทางจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียงยาว ได้ชั้นวางทีวี Built-in แบบนี้ ประตูทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่
ด้านหลังโซฟาจะเป็นมุมรับประทานอาหาร นั่งดูทีวีร่วมกันได้เลย
ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นห้องน้ำรวม และทางเข้าห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
ออกมายืนที่ระเบียงค่ะ ความกว้างระเบียงประมาณ 70 ซม. เก็บคอมเพรสเซอร์ไว้ข้างบนเหมือนกัน เรียบร้อยดี มีก๊อกเตรียมไว้ให้เพื่อซักล้างอะไร
อีกด้านนึงมีโคมไฟ ตัวราวระเบียงจะต่างกับแบบ 2 ห้องนอนค่ะ เพราะแบบ 3 ห้องนอนจะได้ระเบียงกระจก
มาดูกันที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง ห้องนอนจะใหญ่กว่าแบบ 2 ห้องนอน มีพื้นที่รอบเตียงกว้าง เดินได้สบาย ในห้องนอนจะติดกับหน้าต่างบานใหญ่ฝั่งทิศเหนือค่ะ
ฝั่งประตูทางเข้าห้องก็จะมีตู้เสื้อผ้าให้ ได้บานตู้แบบกระจกใสสีชา และซ่อนไฟ
ปลายเตียงเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่ทางทีวีและชั้นวางของ
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะติดหน้าต่างบานใหญ่เข้ามุมซะด้วย แบ่งพื้นที่แห้งเปียกเช่นเคย จากด้านนอกจะมองไม่ค่อยเห็นเรายืนอาบน้ำหรอกค่ะ แต่ถ้ารู้สึกโล่งไปจนเขิล >///< ก็ติดมู่ลี่ช่วยได้
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางห้องค่ะ ขนาดห้องน้ำส่วนอาบน้ำจะเล็กกว่าครึ่งนึง
ห้องนอนที่เล็กที่สุด ห้องนี้มีพื้นที่ไม่เยอะเหมาะกับวางเตียงเล็ก 3.5 ฟุต อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่เช่นกัน ได้วิวฝั่งทิศใต้ค่ะ
มีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านข้างเตียง
ปลายเตียงมีชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานหรือแต่งหน้า
ห้องนอนเล็กอีกห้องนึงจะได้หน้าต่างเข้ามุม และมีพื้นที่เยอะกว่า
จากหน้าห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง มองกลับไปที่ห้องนอนใหญ่และพื้นที่นั่งเล่นค่ะ
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมก็ให้มาสมราคาค่ะ ตกแต่งให้แบบ Fully Fitted มีชุดครัว ชั้นวางทีวี โต๊ะทำงาน ตู้รองเท้าให้ เมื่อเทียบแบบ 2 ห้องนอนกับ 3 ห้องนอนก็จะเปลี่ยนวัสดุและรายละเอียดบางอย่างไป เช่น ส่วนของห้องน้ำค่ะ รายละเอียดจะแบ่งเป็นรีวิวสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
Built-in ตู้เก็บของของห้องนอนแบบ 2 ห้องนอน จะได้เคาน์เตอร์รูปตัว L
ตู้ Built-in ในห้องแบบ 3 ห้องนอน จะได้เคาน์เตอร์รูปตัว I วัสดุตู้เหมือนกันค่ะ
ตู้เก็บของด้านบน มีซ่อนไฟ LED สีขาว ปิดผิวตู้ด้วย Hi-Gloss สีเทาอ่อน
หลังเตาจะติดกระจกเอาไว้ให้ จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย และมีปลั๊กและสวิตซ์ไฟบริเวณเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อย
อ่างล้างจานแบบ 2 ห้องนอน ของ Teka หลุมเดียว ฝั่งใต้เคาน์เตอร์
อ่างล้างจานแบบ 3 ห้องนอนจะได้ 2 หลุม ของ Teka
เครื่องดูดควันของ Teka
เตาไฟฟ้า 4 หัว ของ Teka เช่นกัน
ก๊อกน้ำ Teka
Top เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ลิ้นชักเป็น Soft-Close ค่ะ
ไมโครเวฟของ 2 ห้องนอน เป็นของ Teka เช่นกัน ฝังไปกับเคาน์เตอร์แบบนี้เลยค่ะ
แบบ 3 ห้องนอน มีเตาอบเพิ่มให้ด้วยค่ะ ของ Teka
วัสดุห้องน้ำ
สุขภัณฑ์สีขาว จากยี่ห้อ Christina
ส่วนอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ ทรงสี่เหลี่ยมสีขาว ของ Christina
อ่างล้างหน้าภายในห้องนอนใหญ่ของ 3 ห้องนอนจะวางบนเคาน์เตอร์สีดำ เก็บของใต้อ่างได้เหมือนกัน
ที่เก็บของใต้อ่างค่ะ แต่ไม่มีบานปิดด้านหลัง เพราะติดเครื่องทำน้ำร้อน
ก๊อกมีระบบน้ำร้อน-เย็น
กระจกเงาบานเปลือย
บานประตูห้องน้ำทำจาก uPVC สีขาว มีเกร็ดระบายอากาศ
ห้องน้ำในแบบ 2 ห้องนอน จะมีแบบ Rain Shower ตามรูปค่ะ
ในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่แบบ 3 ห้องนอน จะเป็น Rain Shower ใหญ่ แขวนติดฝ้าเพดานเลย
ที่พิเศษของ 3 ห้องนอน อีกอย่างคือ ตรงห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีที่นั่งอาบน้ำด้วยค่ะ
หน้าต่างบานกระทุ้ง ทำจากอะลูมิเนียมสีน้ำตาลช็อคโกแล็ต
ราวแขวนผ้าในห้องน้ำ
ส่วนเปียกจะกั้นด้วยกระจกนิรภัย Tempered glass พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ประตูหน้าห้องจะเป็นแบบนี้ค่ะ ลายไม้สีน้ำตาลเข้ม ได้ Digital Door Lock ทุกห้อง
ประตูห้องต่างๆ ด้านใน บานสีขาวมีเซาะร่องแนวขวาง คุณภาพแข็งแรงค่ะ
Digital Door Lock ใช้ของ Yale
ซูมให้ดูที่จับและตัวล๊อคค่ะ
อีกด้านนึง
ตัวปิดวงกบประตูทุกบานเป็น uPVC สีขาว
3 ห้องนอนเป็นระบบ Home Automation
แบบ 3 ห้องนอนจะได้สวิตซ์ไฟยี่ห้อ Schneider หน้าตาดูทันสมัยดี
ปลั๊กไฟของ Panasonic ค่ะ
ถ้าเป็นสวิตซ์ไฟในห้องน้ำจะมีฝาครอบกันน้ำให้แบบนี้ค่ะ
ตู้เก็บของ Built-in ข้างทางเดิน ของห้องแบบ 3 ห้องนอน จะเก็บตู้ไฟไว้ด้านในด้วย
ตู้ที่อยู่ตรงข้ามกันเป็นชั้นวางรองเท้าค่ะ เก็บรองเท้าได้เยอะมาก
ชั้นวางทีวีสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน ตู้เป็นลิ้นชักและแบบบานเปิด เก็บของได้พอสมควร
มีปลั๊กไฟและสายทีวีไว้ให้เรียบร้อย และสามารถวางของโชว์ได้ที่ชั้นด้านข้าง
ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนค่ะ ได้ผิว Hi-Gloss สีเทาอ่อน แข็งแรงดี
เปิดให้ดูข้างในค่ะ
ชั้นวางทีวีในห้องนอนใหญ่ ของห้องแบบ 3 ห้องนอน วางทีวีและเก็บของได้
เปิดตู้ให้ดู เก็บของได้พอควรค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า ทรงสี่เหลี่ยม
พื้นห้องทำจากไม้ลามิเนตหนา 12 มม. สีไม้อ่อน
ปลายเตียงในห้องนอนใหญ่ (ห้องแบบ 2 ห้องนอน) มี Built-in ชั้นเก็บของให้
ซ่อนไฟ LED สีขาวข้างในค่ะ
พื้นระเบียงปูกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.
คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ด้านบนดูเรียบร้อยดี ด้วยแผ่น Perforated Metal (แผ่นเหล็กเจาะรู)
ราวกันตกของ 2 ห้องนอน เป็นเหล็กแผ่นทาสีน้ำตาลช็อคโกแลต ระเบียงกว่าประมาณ 70 เซนติเมตรค่ะ
ส่วนแบบ 3 ห้องนอน ราวกันตกจะเป็นกระจกค่ะ
ราคา ณ วันที่ 27 กันยายน 2559
ราคาเริ่มต้น :
แบบ 3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคา 15 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 17x,xxx บาท/ตร.ม
เงื่อนไขการจอง :
เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนค่ะ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคาขาย 15 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 99,020 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคาขาย 15 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 104,652 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคาขาย 15 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 114,084 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคาขาย 15 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 131,278 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
3 ห้องนอน พื้นที่ 85 ตร.ม. ราคาขาย 15 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 168,100 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
การเดินทางค่อนข้างจะสะดวกสบาย เพราะจากที่ตั้งโครงการย่านสะพานควาย อยู่บนถนนพหลโยธินสามารถทะลุออกไปถนนได้หลายเส้นทาง หรือจะไปขึ้นทางด่วนศรีรัช (ที่ด่านกำแพงเพชร) ก็ไม่ไกล อีกทั้งยังใกล้ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพาควายแบบเรียกว่าติดกันเลย และยังสามารถนั่งไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินได้อีกด้วย เรียกได้ว่าอยู่ในจุดที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากๆ ถึงแม้จะติดปัญหาเรื่องรถติดในเส้นนั้นอยู่บ้างก็ตามค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควายเป็นโซนที่มีคอนโดขึ้นพอสมควร สะพานควายจะมีลักษณะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์, อพาร์ทเม้นท์ และชุมชนเก่าที่พลุกพล่าน การพัฒนาในอนาคตอาจจะมีคอนโดเพิ่มขึ้น แต่ที่ว่างเหลือค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ก็จะต้องไปซื้อที่รวมหลายแปลงเพื่อทำโครงการค่ะ
ถ้าเปรียบเทียบกับทำเลใกล้เคียงอย่างอารีย์ ที่ตั้งคอนโดโซนสะพานควายจะมีความเป็นไลฟ์สไตล์ชิคๆ แบบคนเมืองน้อยกว่าอารีย์ แต่ในแง่ของการเข้าถึงนั้นแทบไม่ได้แตกต่างกัน สะพานควายจะได้เปรียบในเรื่องใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตที่ดำลังจะเกิดขึ้น อย่างฮับใหญ่ตรงบางซื่อ ที่จะทำเป็นศูนย์กลางการคมนาคมระบบรางในอนาคตค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
จากตัวที่ดินโครงการ The Signature by Urbano ที่แคบด้านหน้า ทำให้ต้องวางอาคารเข้ามาด้านในเป็นข้อดี เนื่องจากย่านสะพานควายค่อนข้างพลุกพล่าน เสียงดัง ชุมชนด้านหน้าออกจะค่อนข้างวุ่นวาย การวางตัวอาคารเข้ามาด้านในหน่อยจะช่วยลดปัญหานี้ได้พอควร อีกทั้งในเรื่องของความปลอดภัยด้วย
ส่วนการสัดส่วนห้องในโครงการ (Unit Mix) ได้ว่าแตกต่างจากคอนโดใกล้รถไฟฟ้าทั่วไป คือ จะเน้นไปที่ 2 ห้องนอน มากกว่าแบบ 1 ห้องนอน ขณะที่คอนโดใกล้รถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้องเล็กมากกว่า สำหรับ เดอะ ซิกเนอเจอร์ บาย เออร์บาโน่ ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ตรงมุมใกล้ลิฟต์มีจำนวนไม่เยอะ ส่วน 3 ห้องนอนจะอยู่ด้านหน้าสุดซึ่งเห็นวิวโดยรอบทั้ง 3 ทิศ คือ ทิศตะวันออก, ทิศเหนือ, ทิศใต้ แต่มีให้ชั้นละห้องเท่านั้น ส่วน 2 ห้องนอนจะให้เลือกทั้งทิศเหนือและใต้ ห้องทางทิศเหนือจะเป็นมุมที่มองไปเห็นวิวจตุจักรได้วิวโล่งๆ ส่วนทิศใต้จะมองเข้าเมืองไปทางอารีย์ แต่จะโดนคอนโด Onyx พหลโยธินบังวิวไปบางส่วนค่ะ จำนวนห้องในแต่ละชั้นก็จะมีไม่เท่ากันเป็นไปตามกฏหมายค่ะ ชั้นบนๆ ก็จะมีห้องน้อยลดระดับเป็นเหมือนขั้นบันได เนื่องจากติดระยะถอยร่นของอาคารจากถนนด้านหลัง ดังนั้นชั้นบนๆ จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเพราะยูนิตต่อชั้นน้อยลงค่ะ
แปลนแบบ 2 ห้องนอน มี 2 แบบ คือแบบ 1 ห้องน้ำ 48 ตารางเมตร กับ 2 ห้องน้ำ 54-55.5 ตารางเมตร เริ่มจากแบบ 48 ตาราง ถูกจัดออกมาเป็นสัดส่วน ที่น่าสนใจคือจะได้พื้นที่ทำงานเข้ามาด้วย ส่วนครัวอาจจะดูคับแคบไปบ้าง ส่วนแบบ 2 ห้องนอน 55.5 ตารางเมตร จะดูได้พื้นที่ที่กว้างกว่าแบบ 48 ตารางเมตร อย่างตรงพื้นที่ห้องนั่งเล่นดูทีวีและครัว แถมยังได้ห้องน้ำในตัวในส่วนของห้องนอนใหญ่ด้วยค่ะ แบบสุดท้ายคือแบบ 3 ห้องนอน ที่ได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างขวาง แต่เสียตรงทางเดินยาวๆ ที่เป็นทางเข้า ใช้งานหลากหลายไม่ได้ ส่วนห้องอื่นๆ ก็แบ่งไว้เป็นสัดเป็นส่วน มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่รวมกับพื้นที่รับประทานอาหาร และอยู่ติดระเบียงยาว ทุกห้องจะเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ซ่อนไว้ด้านบนใช้งานที่ระเบียงได้สะดวกค่ะ
ด้านวัสดุ The Signature by Urbano นั้นให้มาคุณภาพดีสมราคาที่สูงตามเลยค่ะ ทั้งส่วนของ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนที่จะได้อัพเกรดกว่าแบบ 2 ห้องนอน ขึ้นมาหน่อยตามราคาที่เพิ่มขึ้นค่ะ (สเปกแต่ละห้องจะต่างกันในรายละเอียด) ห้องที่ได้จะเป็น Fully Fitted มีชุดครัว, ชั้นทีวี, โต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า มาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มอีกไม่กี่อย่างค่ะ โดยรวมของที่ให้ก็คุณภาพดี
ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ โถงต้อนรับ, Cubic Multi-Purposed Room, Sky Lounge, ห้องฟิตเนส ให้พื้นที่มาเยอะเหลือเฟือกับ 253 ยูนิต ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวและกว้างมาก ออกแบบตกแต่งได้หรูหรา เลือกใช้วัสดุได้ดีค่ะ มีส่วนที่ติหน่อยก็ตรงที่สระว่ายน้ำชั้น 8 จะอยู่ในระดับใกล้กับอาคารข้างเคียงทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปหน่อย และไม่เห็นวิวค่ะ สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 84 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นดีมากสำหรับคอนโดระดับนี้ ที่จอดรถ 70% กับโครงการติดแนวรถไฟฟ้าก็ถือว่าดีมากเช่นกันค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ