เปิดตัวโครงการ Melanie Bangkok คอนโดย่านถนนจันทร์ – สาทร ชูแนวคิดพัฒนาคอนโดมิเนียม Slow Life ย่านชุมชนเก่า

· 1 min read

บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok)  ในทำเลใกล้ใจกลางย่านธุรกิจถนนจันทน์ – สาทร  ชูแนวคิดพัฒนาคอนโดมิเนียม Slow Life ย่านชุมชนเก่า  สร้างเสน่ห์ดึงดูดให้การอยู่อาศัยใจกลางเมืองในราคาสุดคุ้ม  เปิดให้ชมห้องตัวอย่างตกแต่งหรูด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม  พร้อมให้จองยูนิตทันทีเริ่มพื้นที่ตั้งแต่  27 – 77 ตารางเมตรมีจำกัดเพียง 123 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท

เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) --- (ภาพที่ 3)

 

พงษ์  อิงคสิทธิ์  ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด กล่าวว่า โครงการเมลานี แบงคอก เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของบริษัทฯ ซึ่งใช้แนวคิดการจัดสรรพื้นที่ในย่านชุมชนเก่าของกรุงเทพฯ มาพัฒนาเป็นที่พักอาศัยที่มีความทันสมัยตอบรับชีวิตเมืองให้มีเสน่ห์และสไตล์ที่น่าสนใจ  โดยใช้ความโดดเด่นของทำเลที่เป็นชุมชนเก่าในปัจจุบันซึ่งมักจะตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางย่านธุรกิจมาเป็นจุดเด่นของโครงการ

เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) --- (ภาพที่ 6)

 

“เราเรียกทำเลแบบนี้ว่า นิชโลเคชั่น (niche location) เป็นทำเลพิเศษที่มีคุณค่าเฉพาะตัว  หาได้ยากในปัจจุบัน  มีเส้นทางคมนาคมสะดวก  และราคาที่ดินไม่สูงเท่ากับทำเลที่อยู่ใจกลาง CBD ตอบรับกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีความคุ้มค่าในการลงทุนซื้อเป็นสินทรัพย์ โดยโครงการของเราเปิดราคาเริ่มต้นที่ 110,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น”  ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ กล่าว

เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) --- (ภาพที่ 8)

 

จากการศึกษาตลาดเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับโครงการ Melanie Bangkok พงษ์พบว่า  ศักยภาพทำเลมีความน่าสนใจมาก แม้ถนนจันทน์จะไม่ใช่สุดยอดทำเลใจกลางย่านธุรกิจ ทั้งยังไม่ใช่ทำเลที่อยู่ติดหรือใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้า  แต่ถนนจันทน์ช่วงต้นเป็นย่านพักอาศัยที่อยู่ชิดติดแหล่งธุรกิจชั้นนำย่านถนนสาทร-สีลมมากที่สุด  ผู้อยู่อาศัยในย่านนั้น ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ย่านเก่าซึ่งขยายตัวมาจากถนนเจริญกรุงและเยาวราชจึงเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อสูงเพราะเป็นเจ้าของกิจการหลากหลายประเภทรวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการค้า  นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนเหล่านี้ต่างส่งผ่านกิจการครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นมายังลูกหลานซึ่งเป็นคนยุคใหม่แต่ยังอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่เพื่อดูแลกิจการ  และคนกลุ่มนี้คือลูกค้าเป้าหมายของโครงการเมลานี แบงคอก 

การพัฒนาที่ดินในทำเลพิเศษเช่นนี้นับเป็นความท้าทายของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยพงษ์เชื่อมั่นว่าแนวคิดการพัฒนาโครงการที่เน้นเรื่องความมีคุณภาพของสินค้า มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในการสร้างและออกแบบอาคารและยูนิตพักอาศัยให้มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่นในการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวภายใต้ความทันสมัยครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ

เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) --- (ภาพที่ 10)

 

โครงการ Melanie Bangkok ได้รับการออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ครึ่ง บนพื้นที่  1-0-36.2 ไร่  ตั้งอยู่ต้นถนนจันทน์  (ซอย 9) ระยะทางเพียง 200 เมตรจากโครงการเดินทางถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระบบคมนาคม อำนวยความสะดวกทุกทิศทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร  ถนนสีลม  ถนนเจริญกรุง  โดยระบบขนส่งสาธารณะ BRT  รถไฟฟ้า BTS  และทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกสบายโดยใช้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 3 – นางลิ้นจี่  จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ 1 และทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ซึ่งใช้จุดขึ้นลงถนนจันทน์

ด้วยทำเลที่ติดกับย่าน CBD ใจกลางกรุงเทพฯ  โครงการเมลานี แบงคอก จึงแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ แหล่งธุรกิจและสถานที่ราชการใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม   ห้างสรรพสินค้า  เช่น   เซ็นทรัล, โลตัส,  แม็คโคร, โรบินสัน และสถานศึกษาชั้นนำ ได้แก่ โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ,โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก , โรงเรียนวัดสุทธิวราราม  เป็นต้น

ความโดดเด่นนอกเหนือจากทำเลพิเศษอันเป็นที่ตั้งโครงการแล้ว Melanie Bangkokยังเป็นที่พักอาศัยทันสมัยด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยูโรเปียนคลาสสิก  รูปทรงอาคารโดดเด่นสวยสง่าท่ามกลางชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพฯ  พร้อมสวนสวยและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโครงการซึ่งเป็นการออกแบบภูมิสถาปัตย์ที่ช่วยให้ทุกๆ วันของการอยู่อาศัยและการทำงานเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง   โครงการยังมอบความพิเศษเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นสวนลอยฟ้าอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร

เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) --- (ภาพที่ 4)

 

สำหรับการดีไซน์ยูนิตเน้นความโปร่งโล่งด้วยเบย์วินโดว์ (Bay Window) ซึ่งแตกต่างจากการออกแบบยูนิตโครงการในละแวกเดียวกัน ทั้งยังครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  ทั้งสระว่ายน้ำ  ฟิตเนส  ระบบรักษาความปลอดภัยเคร่งครัดตลอด 24 ชั่วโมง   และสำคัญที่สุดโครงการเมลานี แบงคอก ยังมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจ ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 123 ยูนิต  จัดสรรพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่  27 – 77 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท

โครงการMelanie Bangkok  บริหารงานโดยบริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด  เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้วตั้งแต่วันนี้  ณ สำนักงานขายโครงการเมลานี แบงคอก  ถนนจันทน์ – สาทร พร้อมให้ผู้สนใจจองยูนิตได้ทันที  พิเศษช่วงพรีเซลตลอดเดือนธันวาคม 2559 จองพร้อมทำสัญญารับไอโฟน 7 และเฟอร์นิเจอร์แพคเกจ รวมมูลค่าสูงสุดถึง 350,000 บาท (จำนวนจำกัด)  รับข้อมูลเพิ่มที่ www.melaniebangkok.com  ติดต่อตัวแทนขาย บริษัท เจแอลแอล (ประเทศไทย) จำกัด  09-2925-2555

Melanie Bangkok

เจ้าของและผู้บริหาร >>> คุณพงษ์  อิงคสิทธิ์  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด

ประเภทโครงการ >>> คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น  จำนวน 1 อาคาร รวม ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 1 ชั้นครึ่ง

ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนจันทน์ – สาทร (ใกล้ BRT สถานีถนนจันทน์เพียง 200 เมตร)

เนื้อที่โครงการ >>> 1-0-36.2 ไร่

จำนวนยูนิต >>> 123  ยูนิต

แบบยูนิต >>> 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน

ขนาดยูนิต >>> 27  – 77   ตารางเมตร

ราคาขาย  >>> เริ่มต้น  110,000 – 130,000 บาท / ตารางเมตร

จุดเด่นโครงการ

ทำเล โครงการตั้งอยู่ต้นถนนจันทน์  (ซอย 9) ระยะทางเพียง 200 เมตรจากโครงการ  ถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์อันเป็นจุดเชื่อมต่อระบบคมนาคมอำนวยความสะดวกทุกทิศทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร  ถนนสีลม  ถนนเจริญกรุง ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ BRT , BTS  และทางด่วน

ถนนจันทน์  เป็นถนนซอยตัดจากถนนสายหลักความยาวเพียง 7 กิโลเมตร  เป็นชุมชนดั้งเดิมของนักธุรกิจเชื้อสายจีนย่านเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพมหานคร  ซึ่งขยายตัวมาจากย่านถนนเจริญกรุงและเยาวราช จึงเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อสูงเพราะเป็นเจ้าของกิจการหลากหลายประเภทรวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการค้า

ถนนจันทน์ เป็นทำเลที่ใกล้แหล่งธุรกิจและสถานที่ราชการใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม

ถนนจันทน์ อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  อาทิ  เซ็นทรัล  โลตัส  แม็คโคร  โรบินสัน

ถนนจันทน์  อยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ  อาทิ  โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์  โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน  โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก โรงเรียนวัดสุทธิวราราม

การคมนาคม

๐ ใกล้สถานี BRT สถานีถนนจันทน์   เชื่อมต่อกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์  สามารถเดินทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร  ถนนสีลม  ถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวก ซึ่งในอนาคตอันใกล้ ทางกรุงเทพมหานครมีแผนงานปรับเปลี่ยนโครงการ BRT ให้เป็นโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ( Monorail)

๐ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1) สามารถเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 3 – นางลิ้นจี่   จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ 1 และทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ใช้จุดขึ้นลงถนนจันทน์

ความเป็นส่วนตัว  (Low Density) โครงการเมลานี แบงคอก มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจ ด้วยการออกแบบอาคารสูงเพียง 8 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ครึ่ง กับจำนวนยูนิตเพียง 123 ยูนิต จึงเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นสบายๆ ของการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัว

 

การออกแบบ

๐ รูปแบบสถาปัตยกรรม  เป็นแบบยูโรเปียนคลาสสิกที่ผสมผสานสไตล์ความเป็นอยู่อย่างอบอุ่นสไตล์ ตะวันออก

๐ ภูมิสถาปัตย์  มีสวนสวยเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสวนลอยฟ้าบนชั้นบนสุด  เปิดมุมมองที่สบายตา และเป็นส่วนตัว

๐ ดีไซน์ยูนิต  เน้นความโปร่งโล่ง มีเบย์ วินโดว์ (Bay Window) เปิดรับแสงแดดธรรมชาติช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายใน

๐ มาตรฐานวัสดุ เทียบเคียงมาตรฐานสากล สะท้อนรสนิยมหรูของผู้พักอาศัย

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ   ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่   มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส  ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง  ฯลฯ

ทีมงานมืออาชีพ  ที่ปรึกษาโครงการอ.นิวัติ ลมุนพันธ์

สถาปนิก >>> At Forty Co.,Ltd.

ดีไซน์เนอร์ >>> Abacus Design Co.,Ltd.

ตัวแทนขาย >>> บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

เล่าเรื่องเบื้องหลัง

พงษ์ เป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์  เวลาเกือบ 30 ปีในวงการธุรกิจบ่มเพาะวิสัยทัศน์และสายตาอันเฉียบคมในทางธุรกิจ ตลอดช่วงชีวิตการทำงาน เขาทำธุรกิจมาแล้วหลายอย่าง  เริ่มต้นเมื่อเขาตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าช่วง 10 ปีแรกของการทำงาน ต้องเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ให้มากที่สุดเพื่อก้าวไปถึงเป้าหมายการเป็นเจ้าของกิจการของตนเองในที่สุดหลังจากเรียนจบคณะบริหารธุรกิจการตลาดจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พงษ์จึงเข้ามาคลุกคลีอยู่ในแวดวงการตลาด

ตามสายงานที่เรียนมาโดยทำงานให้กับบริษัทตัวแทนโฆษณาแห่งหนึ่งดูแลลูกค้าหลากหลายธุรกิจ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การวางแผนธุรกิจ  ใช้การตลาดสร้างแบรนด์สินค้า กระทั่งย้ายมาดูแลการตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับกลุ่มธุรกิจวังเพชรบูรณ์เจ้าของโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ (ปัจจุบันคือศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์)  ก่อนจะมารับงานบริหารภาพลักษณ์และกำหนดตำแหน่งทางการตลาดใหม่ให้กับสินค้าเวชสำอางค์แพนคอสเมติก  ใช้การตลาดครบวงจรมาเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ให้สินค้าฮิตติดตลาด  จากนั้นเขาเปลี่ยนแนวทางมาจับสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบดื่มชอบเที่ยวและไม่สูบบุหรี่ แต่ก็สามารถก่อร่างสร้างแบรนด์วิสกี้ส์ ต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักในตลาดเมืองไทยและสร้างมาร์เก็ตแชร์ได้ตามเป้าหมาย

ปี 2539 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของพงษ์ เมื่อเขาแต่งงานและมีความคิดว่าพร้อมแล้วสำหรับการสร้างกิจการของตนเอง  ความคิดแรกคือการมองกลับไปสู่พื้นฐานธุรกิจที่เขาเคยคุ้นมาตั้งแต่วัยเยาว์ นั่นคือ การก้าวเข้าสู่ ธุรกิจกระเป๋าและเครื่องหนัง ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ตั้งแต่สมัย คุณพ่อ เขากลับมาพร้อมกับแนวความคิดในการพัฒนาแบรนด์ของตนเองขึ้นมา แทนที่จะผลิตในรูปแบบ OEM  สภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นไม่เอื้อต่อการริเริ่มลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น แต่พงษ์กลับมองว่า นั่นคือโอกาส  หากสามารถทำธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ได้ นั่นแปลว่าเขาสามารถผ่านจุดตกต่ำที่สุดของวงจรเศรษฐกิจแล้ว

“สภาพเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเริ่มธุรกิจ  ผมมองว่าอยู่ที่ความพร้อมของตัวเองมากกว่า  คุณรู้ในสิ่งที่คุณจะทำมากพอหรือยัง  คุณเห็นโอกาสที่จะทำมันให้เติบโตหรือไม่  คุณมีเงินทุนพอจะรับความเสี่ยงที่น่าจะเกิดขึ้นในระดับใด และคุณเห็นคนที่จะเป็นลูกค้าของคุณชัดเจนหรือยัง ถ้ามีพร้อมที่พูดมา คุณทำธุรกิจได้”  พงษ์บอกว่า เพียง 2 ปีหลังจากการเปิดรับงาน OEM แบบรับจ้างผลิตกระเป๋าภายใต้ Corporate Brand  ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ  การแข่งขันในขณะนั้นสูงมาก และ ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้า  เขาจึงเริ่มสร้างแบรนด์ “ฮัสกี้ส์” ของตัวเองและเปิดตัวสู่ตลาดโดยใช้ กลยุทธ์ Premium Product เน้นคุณภาพของสินค้า การออกแบบและประโยชน์ใช้สอยให้กระเป๋าฮัสกี้ส์แต่ละใบเป็นตัวนำ และเป็นจุดเด่นทำให้ตัวสินค้าสามารถขายตัวของมันเองได้  ประกอบกับการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดครบวงจรมาเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี สำหรับการสร้างแบรนด์ฮัสกี้ส์จนเป็นที่รู้จัก และมีลูกค้าที่เป็นสมาชิก Huskies อยู่ 30,000 ราย  ส่งผลให้ปัจจุบันฮัสกี้ส์เป็นแบรนด์กระเป๋าแฟชั่น กระเป๋าเดินทางชั้นนำคุณภาพมาตรฐานสากลที่ตลาดต่างประเทศให้การยอมรับ แม้แต่คนไทยในยุคนี้ก็อาจคิดว่า  “ฮัสกี้ส์”  เป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพจากต่างประเทศโดยหารู้ไม่ว่าทั้งโรงงานผลิตและโชว์รูมสินค้าตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 กรุงเทพมหานคร นี่เอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก