“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ตั้งเป้าเปิดตัว 8-10 โครงการในทำเลเด่น ปี 2560 คาดรายได้ทั้งปีโต 15 %
· ~ 1 min readบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 60 อยู่ในสภาวะปรับตัวจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนและภาวะอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-ภาคสินเชื่อที่ฟื้นตัว และภาครัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เตรียมก้าวสู่ปีที่ 30 แห่งความเชื่อมั่นอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำกลยุทธ์ “Quality–Service Mind–CRM” ปรับโฉมองค์กร และเปิดตัว ลลิล ทาวน์ (LALIN Town) พร้อมเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 3,600 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 3,100 ล้านบาท คาดเติบโตประมาณ 15 %
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยถึงแนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2560 ว่า “เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากการส่งออกเติบโตน้อยและภาวะหนี้ครัวเรือนยังสูงอยู่แแม้จะมีการปรับตัวลดลงบ้าง ในปี 2560 คาดว่ากลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเป็นการลงทุนของภาครัฐบาล (Goverment Spending) ภาคการส่งออกฟื้นตัวเล็กน้อยจากการที่เงินบาทอ่อนค่า และต้องประเมินนโยบายจากโดนัลด์ ทรัมป์และยุโรปอีกระยะหนึ่ง ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นรายได้หลัก และจากการเร่งรัดโครงการต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการเริ่มลงทุนโครงการจาก BOI ตลอดจนภาคเอกชนเริ่มเห็นสัญญาณลงทุนชัดเจนจากรัฐบาลก็จะมีแรงส่งการลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น โดยจะค่อยๆ เห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 3-4 เป็นต้นไป
ในภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2560 การขยายตัวในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นตลาด Real Demand ก็ยังคงขยายตัวได้ระดับหนึ่ง สำหรับตลาดอาคารชุดน่าจะทรงตัว เพราะยังมี Supply คงเหลือในหลายทำเลที่ยังคงค่อยๆ ดูดซับ Supply โดยเฉพาะตลาดกลาง – ล่าง ตลาดบนที่ทำเลเด่น และดีไซน์โดดเด่นยังพอมีช่องว่าง โดยคาดว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะขยายตัวได้ 3-5% และเป็นปีที่ไม่เหมาะในการเข้าตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ เพราะตลาดในปีนี้มีความยากอยู่พอสมควร ผู้ประกอบการควรพิจารณาเรื่องกระแสเงินสด (Cash Flow) และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ให้มาก และเชื่อว่าการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์จะหายไปจากตลาด โอกาสที่โครงการจะเปิดขายแล้วหมดในวันเดียวนั้นเป็นไปได้ยากมาก
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยได้กำหนดแผนประจำปีให้มีความยืดหยุ่น และยังควบคุมความเสี่ยงมี D/E ต่ำ ซึ่งในปัจจุบันทางลลิลฯ ก็มี D/E ต่ำกว่าตลาดรวมอยู่แล้ว รวมถึงมีแผนควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ มีแผนขยายโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 3,600 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 3,100 ล้านบาท เติบโต 15% ” นายไชยยันต์ กล่าว
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) กล่าวเสริมว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา ทางลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวโครงการทั้งหมด 9 โครงกาาร รวมมูลค่ากว่า 4,300 ล้านบาท และในปี 2560 นี้ ได้เปิดตัว “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town)” เป็นโครงการ Mix-used บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และทาวน์โฮมหน้ากว้าง ได้แก่ ลลิล ทาวน์-พัทยา, ลลิล ทาวน์ เศรษฐกิจ-พุทธสาคร ซึ่งในโครงการประกอบด้วย บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ซีรี่ส์ใหม่ บนพื้นที่ใช้สอย 140-175 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านกว่าบาท – 5 ล้านบาท และทาวน์โฮม ขนาดพื้นที่ใช้สอย 85-105 ตารางเมตร ในราคาเพียง 1 ล้านกว่าๆ – 2 ล้านบาท ด้วยสไตล์การออกแบบ Modern Stripe Contemporary โดยบริษัท KTGY โดยตั้งเป้าว่าในปีนี้ จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 8-10 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% รวมถึงต่างจังหวัดในหัวเมืองหลักและหัวเมืองชั้นรองอีก 30%
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองเห็นความต้องการที่อยู่อาศัยตลาด Real Demand ของผู้บริโภคที่ยังขยายตัวสูงขึ้นในทุกๆ ปี บวกกับพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวมีความต้องการที่หลากหลายไลฟ์สไตล์ นับว่าตอบโจทย์ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลงตัว นอกจากนี้ 3 สิ่งสำคัญที่บริษัทฯ ยังคำนึงถึงเสมอ คือ คุณภาพ (Quality) การบริการ (Service Mind) และการดูแลลูกค้า (CRM) ดังนั้น ปีนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญและสร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของบริษัท
“บริษัทฯ มีแผนงานกลยุทธ์ด้านการก่อสร้าง ที่ตั้งเป้าหมายให้บ้านของบริษัทฯ ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีสภาพแวดล้อมน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง โดยมีผลลัพธ์คือความสุขของลูกบ้านในโครงการ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการนำนวัตกรรมมาใช้ในการก่อสร้างซึ่งผสมผสานกับมาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งทำให้สามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้” นายชูรัชฏ์ กล่าว
นายกร ธนพิพัฒนศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 3,600 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 3,100 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 15% บริษัทฯ ตั้งงบซื้อที่ดินประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดที่มีในมือที่ได้จากการโอนโครงการที่มีอยู่ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ มีแผนออกหุ้นกู้หากมีความจำเป็นเพื่อรองรับในระยะยาวให้เติบโตอย่างต่อเนื่องยั่งยืน และเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ทศวรรษในปี 2560 นี้อย่างแน่นอน