รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) เปิดใช้บริการไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าที่รถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการ เราก็จะเห็นกระแสของดีเวลลอปเปอร์ ทั้งรายใหญ่และรายใหญ่ ที่ยกขบวนกันไปเปิดคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าสีม่วงตั้งแต่ต้นสายยันสุดสายในปัจจุบัน มีทั้งที่ขายดิบขายดีเหมือนแจกฟรี จนไปถึงแป๊กขายไม่ได้เลยค่ะ
พอรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดเข้าจริง ผลปรากฎว่ากระแสค่อนข้างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ซึ่งปัญหาหลักก็คือเรื่องการไม่เชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีเตาปูนกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีบางซื่อ ทำให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงลำบากต้องไปต่อรถเมล์ Shuttle bus ไปถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็เลยเกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง แต่ล่าสุดก็มีข่าวดีมาให้ผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ยิ้มกันแล้วค่ะ เพราะทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าจากสถานีเตาปูน เชื่อมกันสถานีบางซื่อ เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งกำหนดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้ในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ นอกจากนี้ทางรฟม. ก็ยังมีการแจ้งปรับลดค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เหลือ 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่ 4 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป จนกว่าทาง BEM จะสามารถทำการเดินรถเชื่อมต่อ 1 สถานีได้เรียบร้อยอีกด้วย
จุดเด่นของแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่นอกจากจะเน้นรองรับแหล่งที่อยู่อาศัย และสถานที่ราชการจากจังหวัดนนทบุรีสู่กรุงเทพฯ ก็ยังทำให้ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจุดที่รถไฟฟ้าจะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 จุด ที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า จากเดิมที่มีรถไฟฟ้า BTS วิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปบริเวณสะพานตากสินเพียงจุดเดียว ตอนนี้ก็มีตรง MRT สถานีสะพานพระนั่งเกล้านี่แหละค่ะที่เป็นจุดที่สอง ส่วนอีกจุดคือที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางโพที่กำลังสร้างอยู่ โดยทั้ง 3 จุดจะเป็นตัวเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่างๆ ระหว่าง 2 ฝั่งแม่น้ำ ให้เข้าถึงกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ
ในแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของกรุงเทพฯ ตามนโยบายของภาครัฐนั้นจะให้ความสำคัญแบบครบวงจร ไม่เพียงแต่พัฒนาโครงสร้างระบบรถไฟฟ้า BTS และ MRT เท่านั้นค่ะ แต่มีความตั้งใจที่จะเชื่อมต่อการขนส่งแบบครบวงจรทั้ง “รถ เรือ ราง” เพื่อการเชื่อมโยงการเดินทางที่จะก่อเกิดประโยชน์สูงสุดทั้ง ความสะดวก รวดเร็ว และการบริหารต้นทุนการขนส่ง ทั้งนี้เราอาจจะเคยเห็นจุดเชื่อมต่อของรถ-เรือ-ราง มาแล้วจากบริเวณ BTS สะพานตากสิน ซึ่งพื้นที่ชานเมืองที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายกันอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือบริเวณ MRT สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกันค่ะ
ในอนาคตอันใกล้นี้ ตรง MRT สะพานพระนั่งเกล้า ก็ได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อที่จะสร้างท่าเรือเพิ่มตรงบริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้าพอดี พอมีท่าเรือเพิ่มขึ้นก็จะสามารถเดินทางโดยเรือด่วนได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย จากเดิมที่จะต้องไปขึ้นเรือด่วนที่ท่าน้ำนนท์ ซึ่งเป็น hub ใหญ่ของทางเทศบาลเมืองนนทบุรี และเป็นจุดเริ่มของเรือด่วนเจ้าพระยา สามารถขึ้นเรือได้จากท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า ได้เลย
โดยท่าเรือจะแบ่งเป็นท่าเรือโดยสาร 2 ท่า, ท่าเรือข้ามฝาก และท่าเรือท่องเที่ยวอีก 1 ท่า นอกจากเรื่องของท่าเรือแล้ว ยังมีการคิดเรื่องการเชื่อมต่อกันของรถไฟฟ้า-รถประจำทาง-เรือโดยสาร คล้ายๆ กับพื้นที่ตรง BTS สะพานตากสินนั้นแหละค่ะ
นอกจากนี้ก็จะมีการสร้าง Skywalk จากตัวสถานีสะพานพระนั่งเกล้าข้ามมาลงตรงถนนสนามบินน้ำได้เลย คนที่ใช้งานรถไฟฟ้าก็ไม่ต้องข้ามถนนด้านล่างที่ค่อนข้างอันตราย ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและเชื่อมต่อกับถนนสนามบินน้ำได้สะดวกขึ้น
ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่บริเวณท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า
ถ้าถัดจากสถานีสะพานพระนั่งเกล้าไป 2 สถานี ตรงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ก็ยังเป็นสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี ) ด้วย ซึ่งตามแผนงานก็เป็นรูปเป็นร่างกำลังอยู่ระหว่างการประกวดราคาค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีแผนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยาย เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่เชื่อมกับสายสีม่วงที่มีอยู่ในปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเสนอครม. ค่ะ
พอระบบโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโครงสร้างทางการคมนาคม เริ่มเชื่อมต่อกันได้อย่างมีครบถ้วนและครบวงจรมากขึ้น ก็จะเกิดการโตของเมืองอย่างเด่นชัดตามมา โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัย แน่นอนว่าราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในเมือง ยิ่งใกล้รถไฟฟ้าก็สูงขึ้นตลอด จนบางทีเริ่มลำบากสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไปอย่างเราๆ ก็เกินจะเอื้อมถึง
ถ้าพูดถึงตลาดคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่หลายๆ คนอยากได้แล้ว คอนโดริมแม่น้ำช่วงกลางเมืองอย่างเจริญกรุงและเจริญนคร ราคาก็แพงเอาเรื่องเลย ส่วนล่างลงมาอย่างฝั่งพระราม 3 และราษฎร์บูรณะ ก็จะมีหลากหลายระดับราคาคละกันไป ตั้งแต่แบรนด์ราคาประหยัดไปจนถึงคอนโดสุดแพง แต่พื้นที่บริเวณนั้นจะไม่ได้อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าค่ะ ส่วนทำเลที่ออกนอกเมืองไปหน่อยที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านอย่างตรงบริเวณ MRT บางโพ (สายสีน้ำเงิน) ก็มีเจ้าใหญ่อย่าง Land and Houses จับจองพื้นที่สร้างเป็นโครงการ 333 Riversides ซึ่งเป็นคอนโดระดับพรีเมียมไปแล้วค่ะ
ส่วนจุดสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือตรง MRT สะพานพระนั่งเกล้า (สายสีม่วง) ที่อย่างที่บอกไปว่า เป็นจุดที่รถไฟฟ้าจะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่โซนนี้เลยมีจุดเด่นกว่าสถานีอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบในแนวสายสีม่วงด้วยกัน ตรงที่อยู่ใกล้ทั้งสถานีรถไฟฟ้า ใกล้ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ รถ-เรือ-ราง สามารถเลือกวิธีการเดินทางได้ตามสะดวกเลยค่ะ ล่าสุดมีคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ใกล้กับตัวสถานีสะพานพระนั่งเกล้าเปิดใหม่อีกหนึ่งโครงการ ชื่อ The Politan Aqua โดยเอเวอร์แลนด์ ซึ่งโซนนี้ก็ยังจัดเป็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ราคาไม่โหดร้ายนัก เริ่มต้นที่ 5 หมื่นต้นๆ ต่อตารางเมตร ส่วนราคาเฉลี่ยส่วนใหญ่ประมาณ 7 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ยังเป็นระดับราคาที่คนวัยทำงานโดยส่วนใหญ่ยังหาซื้อกันได้ ตัวโครงการเป็นอาคารสูง 61 ชั้น สูงที่สุดในย่านนี้เลยค่ะ เรื่องวิวแม่น้ำนั้นรับรองว่าจะไม่โดนอาคารอื่นบดบังแน่นอนค่ะ
คอนโด The Politan Aqua
Facilities ภายในโครงการก็จะเน้นพื้นที่ริมน้ำและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลักค่ะ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 เป็นคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำและพื้นที่สวนริมน้ำ
ส่วนชั้น 8 และ 9 ก็มีสระว่ายน้ำและสวนหย่อมเช่นกัน และส่วนสุดท้ายคือชั้นบนสุด ที่ชั้น 60 และ 61 มีสระว่ายน้ำ, Sky Garden และ Sky Fitness และ Sky lounge ไว้นั่งชมวิวมุมสูงของแม่น้ำเจ้าพระยาได้
เรามีบรรยากาศในมุมสูงของทำเลบริเวณคอนโด The Politan Aqua มาฝากกันด้วยค่ะ ฝั่งทางทิศเหนือเป็นฝั่งเกาะเกร็ด วิวบริเวณนี้ก็จะเป็นวิวธรรมชาติ มีพื้นที่สีเขียวให้เห็นค่อนข้างเยอะ บรรยากาศเงียบสงบค่ะ
ส่วนฝั่งทิศใต้ได้เป็นวิวเมือง เห็นสะพานพระนั่งเกล้า ถ้าเป็นตอนกลางคืนได้มีแสงสีของเมืองในระยะไกลๆ ให้เห็นด้วยค่ะ
ทิ้งท้ายบทความกันด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีคุณค่ากับกรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนาน ถ้ามีประเด็นอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องบ้านและคอนโด รวมไปถึงโครงการระบบขนส่งมวลชนที่จะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆ คน อยู่สบายก็จะนำมาฝากกันใหม่ในบทความหน้านะคะ รอชมกันได้เลยยยย ^^
[บทความนี้เป็น Advertorial]