สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้จะพามาชมคอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่โครงการ Kensington Sukhumvit – Thepharak (เคนซิงตัน สุขุมวิท – เทพารักษ์) จากออริจิ้นฯ  แต่ก่อนนี้ถ้าพูดถึงถนนเทพารักษ์  ส่วนใหญ่ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ที่เรานึกถึงก็จะเป็นพวกบ้านแนวราบซะมากกว่า  เห็นคอนโดขึ้นบนเส้นนี้น้อยมาก  เรียกว่าเป็นทำเลใหม่เอี่ยมสำหรับตลาดคอนโดพอสมควร  ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์อย่างออริจิ้นกล้ามาเปิดคอนโดก็คงเป็นแผนงานของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เคาะกันออกมาแล้วนั่นเองค่ะ

โครงการ Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์ เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้านทิพวัล ถนนเทพารักษ์ ติดทางขึ้นลงสถานีทิพวัลของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่ปัจจุบันได้ผู้รับสัมปทานลงทุนเป็น BSR Joint venture เรียบร้อยแล้ว

คอนโด Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์ จะออกแบบในสไตล์โมเดิร์น Loft นิดๆ ดูสุขุม เอาใจหนุ่มๆ วัยทำงานในย่านนี้  ราคาเริ่มต้นก็อยู่ในระดับที่หยิบจับง่าย เริ่มต้น 1.09 ล้านบาทเท่านั้นค่ะ ตามเข้าไปดูรีวิวโครงการอย่างละเอียดกันดีกว่า

VIP PRE-SALE DAY 17 มิถุนายน 2560
ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท >> คลิกที่นี่

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Kensington Sukhumvit – Thepharak

(เคนซิงตัน สุขุมวิท – เทพารักษ์)

• เจ้าของโครงการ >> บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> บนถนนเทพารักษ์ ตรงข้ามหมู่บ้านทิพวัล
• ขนาดที่ดิน >>> 4-2-24 ไร่
• จำนวนชั้นและจำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร สูง 38 ชั้น
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 Bedroom 20.5 – 21 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 23.5  ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Plus  30.5 – 31.5 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 1,318 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 32% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.09 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 )
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 70,000 บาท/ตร.ม. 
• พิกัด GPS >>> 13.637587, 100.608774
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• เบอร์ติดต่อ >>> 020 300 000
• เริ่มก่อสร้างปี >>> ไตรมาส 2 ปี 2561
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ >>>  ไตรมาส 4 ปี 2563

คอนโด Kensington สุขุทวิท – เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ ฝั่งเลขคี่ ห่างจากแยกเทพารักษ์และสถานี BTS สำโรง ประมาณ 1.7 กิโลเมตร  และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่านหน้าโครงการ โดยมีทางขึ้นลงสถานีทิพวัลอยู่หน้าโครงการเลยค่ะ

(คลิกที่รูปเพื่อดูแผนที่ขยายได้นะคะ)

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางด้วย BTS ไปลงสถานี “สำโรง” สถานีน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดบริการต้นปีเมษายนนี้เอง จากนั้นออกประตู 6 แล้วเดินไปเรียก Taxi หรือสองแถวบริเวณต้นถนนเทพารักษ์ นั่งรถต่อไปอีกไม่ไกลก็จะเห็นบริษัท Denso และ Hino อยู่ทางขวามือ  พอพ้นสะพานลอยก็จะเห็นสำนักงานขายคอนโด Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์ อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ตอนนี้เรามาลงสถานีสำโรงกันแล้ว  ฮิ้ววว.. สถานีใหม่ (ตื่นเต้นทำไมเนี่ย)

มองกลับไปทางสถานีแบริ่งค่ะ ชั้นล่างมีทางเดินลอยฟ้าด้วย สามารถเดินไปจนถึงศูนย์การค้า Imperial World สำโรงได้เลยนะ

บรรยากาศภายในสถานี มีคนใช้บริการกันแล้ว

ตู้จำหน่ายบัตรชั้นล่าง จัดไว้ตรงกลาง ต่างกับสถานีอื่นๆ

สามารถออกได้ทั้งทางออก 1 และทางออก 6 ค่ะ  แต่วันที่เราไปรีวิว ทางออก 1 ยังไม่ได้เปิดให้บริการ

ลงบันไดๆ

ลงมาจะอยู่หน้าสถานีตำรวจภูธร สำโรงเหนือ พอดี แสดงว่าแถวนี้ต้องปลอดภัยสินะ

มีป้ายชั่วคราวติดบอกตลอดทางว่าให้ไปขึ้น-ลง รถโดยสาร, แท็กซี่, สองแถว ให้เดินตรงไปอีกและเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ เดินเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร  เนื่องจากถ้ายืนเรียกกันตรงนี้จะกระชั้นแยกเทพารักษ์ไปหน่อย จะทำให้การจราจรติดขัดได้ (ทำไมพี่ไม่ทำป้ายถาวรไปเลย)

ว่าแล้วเราก็เดินตรงมาเรื่อยๆ ค่ะ ผ่านบันไดทางขึ้น BTS ทางออก 1 ที่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน

หัวมุมถนนแยกเทพารักษ์ก็มีพี่วินมอเตอร์ไซต์ด้วย

ช่วงต้นของถนนจะกั้นด้วยรั้วตลอดแนว ไม่ให้คนมายืนเรียกรถกันตรงนี้

เลยมา 100 เมตร ก็จะเป็นจุดจอดรถสองแถวและรถแท็กซี่ ตรงนี้โบกเรียกกันได้ตามสบาย

เราเลือกใช้พี่ Taxi ค่ะ  นั่งรถต่อมาไม่นานก็สังเกต Denso ทางขวามือ

ต่อด้วยบริษัท Hino และสะพานลอยด้านหน้า ก็ให้ชิดเลนซ้ายได้

สำนักงานขาย เคนซิงตัน สุขุมวิท – เทพารักษ์ จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลนี้มี Hub การค้าอยู่บริเวณ Imperial World สำโรง ค่ะ  ที่มีทั้งบิ๊กซี สำโรง, โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์, ตลาดสำโรง และตลาดธรรมโรจน์พินิจ ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักมานานแล้ว และอยู่บนถนนสุขุมวิทสายหลักเข้าตัวเมืองด้วย หากขับเข้าเมืองจะไปคึกคักอีกทีแถวบางนา มี Bitec บางนา และกำลังจะมีศูนย์การค้าใหม่ Bangkok Mall ค่ะ  ถัดลงมาบริเวณสถานีปู่เจ้าสมิงพราย ใกล้แยกเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพราย มี Big C Jumbo สำโรง ,บริษัท Panasonic, ศูนย์ Honda, ศูนย์ Toyota ถัดลงมาอีกเจอถนนกาญจนาภิเษก หรือ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ มีพิพิธภัณฑ์เอราวัณ เป็นจุดสังเกต

ส่วนถนนเทพารักษ์จะเป็นเส้นที่เริ่มจากถนนสุขุมวิท ไปตัด ถนนศรีนครินทร์ ตรงไปอีกจะลอดใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ตรงด่านบางพลี ซึ่งห่างจากหน้าโครงการไปประมาณ 6 กม. สามารถขึ้นทางด่วนไปบางนาหรือพระราม 2 ได้ หากตรงไปอีกจะไปทางบางพลี สุดที่บางบ่อ-คลองด่านค่ะ  ช่วงต้นๆ ของถนนเทพารักษ์ที่เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ตั้งอยู่ จะคึกคักกว่า มีโรงงานหลายแห่ง และส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย แม้เส้นนี้ยังไม่มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ เพราะเป็นถนนสายรอง แต่ก็มีคอมมูนิตี้มอลล์ เช่น Palm Island Mall และร้านค้าตามตึกแถวต่างๆ ตลอดถนน  แม้ความหนาแน่นจะไม่เท่ากับตรงสำโรงก็ตาม  และยังมีรถสาธารณะผ่าน ทั้งรถเมล์สาย 544, สาย 116, รถสองแถว, วินมอเตอร์ไซต์และแท็กซี่ ที่ขับผ่านกันตลอดเวลา

ถ้าพูดถึงถนนเทพารักษ์  ส่วนใหญ่ที่อยู่อาศัยก็จะเป็นพวกบ้านแนวราบซะมากกว่า  เราเห็นคอนโดขึ้นบนเส้นนี้น้อยมาก  เรียกว่าเป็นทำเลใหม่เอี่ยมสำหรับตลาดคอนโดพอสมควร  ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์อย่างออริจิ้นกล้ามาเปิดคอนโดก็คงเป็นแผนงานของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เคาะกันออกมาแล้วนั่นเองค่ะ

ในอนาคตถนนเทพารักษ์ยังมีโอกาสพัฒนาอีกมาก เพราะจะมีสายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว – สำโรง วิ่งฝั่งทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ตั้งแต่แยกรัชดา-ลาดพร้าว  เข้าแยกลำสาลี เข้าถนนศรีนครินทร์ และมาเลี้ยวเข้าถนนเทพารักษ์ จบที่ สถานี Interchange สำโรง ซึ่ง Kensington Sukhumvit-Thepharak จะอยู่ติดกับสถานีทิพวัล พอดี ถัดจากสำโรงมา 1 สถานีเท่านั้น  เป็นสถานีที่ตั้งชื่อตามหมู่บ้านเก่าแก่ชื่อหมู่บ้านทิพวัล ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ค่ะ ภายในซอยหมู่บ้านทิพวัลเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย  ภายในซอยยังมีโรงเรียนเซนต์โยเซฟ ทิพวัล, โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ อีกด้วย แสดงให้เห็นว่าคนเยอะจริงๆ

หากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ จะไปยังถนนศรีนครินทร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งถนนเส้นนี้ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายแห่งเหมือนกัน เช่น Tesco Lotus ศรีนครินทร์, Foodland ศรีนครินทร์, Makro ศรีนครินทร์, Big C ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และ JAS ศรีนครินทร์ ที่เพิ่งเปิดไปเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา  ส่วนคนที่มีลูกหลานและมีกำลังทรัพย์หน่อย ก็สามารถส่งมาเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ Thai Singapore International School หรือโรงเรียนเซนต์ แอนดรูว์ส อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา บนถนนแบริ่งก็ได้ค่ะ

ด้านข้างโครงการ Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์ ข้างนึงติด บริษัท สยามร่วมกิจ สหมิตร (หมายเลข 1) อีกข้างนึงติดกับที่ดินเปล่าของเทศบาลบางเมืองใหม่ (หมายเลข 2) ส่วนด้านหลังจะติดกับคลองสำโรง  ถนนด้านหน้าเป็นถนนเทพารักษ์ กว้าง 6 เลน ไป-กลับ ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นซอยหมู่บ้านทิพวัล (หมายเลข 3) ซึ่งส่วนใหญ่ด้านในจะเป็นตึกแถวและทาวน์โฮม ข้างๆ หมู่บ้านทิพวัลติดกับบริษัท Hino Motors (หมายเลข 4) อยู่ใกล้กับสะพานลอยข้ามถนน ซึ่งอีกหน่อยจะโดนรื้อออกเป็นตัวสถานีทิพวัลแทน ใช้ข้ามถนนกันสะดวกขึ้น ถัดจาก Hino ก็มี Denso บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อีกแห่ง (หมายเลข 6) ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับกิ้นส์ออโต้  ขายปลีกอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เบาะหนัง (หมายเลข 5) ค่ะ แหล่งจับจ่ายใช้สอยใกล้ๆ ในระยะที่เดินไปถึงจะมี Palm Island Mall อยู่ถัดจากสยามร่วมกิจ สหมิตร ภายในมี Mini Big C, ธนาคารกรุงเทพ และร้านอาหารบ้าง แต่ยังไม่คึกคักเท่าไหร่ (หมายเลข 7) และถัดไปเป็นบริษัทผลิตกระดาษทิชชู่ RiverPro  ค่ะ (หมายเลข 8)

นอกจากโรงงานและบริษัทใหญ่ๆ แล้ว ตลอดถนนก็จะเป็นตึกแถว เปิดร้านขายของกันอย่างคึกคัก มีโรงงานและบริษัทที่อยู่ใกล้ๆ อีก 3 แห่งคือ อินเตอร์ โอเชียนิค รีซอร์สเซส (หมายเลข 9) เยื้องกับศูนย์รถยนต์ Toyota สาขาเทพารักษ์ (หมายเลข 11) บริษัท แปรงไทยแห่งแรก และหนานหยาง อิมพอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล (หมายเลข 10)

ส่วนรายละเอียดของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสามารถดูเพิ่มเติมได้จากคลิปวิดีโอนี้ค่ะ ว่าวิ่งผ่านเส้นไหนบ้าง

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ก่อนเข้าไปที่โครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ เราไปสำรวจสภาพแวดล้อมรอบโครงการกันก่อนดีกว่าค่ะ

เริ่มตั้งแต่ช่วงแรกถนนเทพารักษ์ ใกล้กับถนนสุขุมวิท และสถานีสำโรง เป็นกลุ่มตึกแถวสูง 6 – 7 ชั้น

ขับเข้ามาในถนนเทพารักษ์ไม่ไกล จะเห็นอาคารสายลม คอนโดเทล สูง 19 ชั้น อยู่ติดกับศูนย์รถยนต์ ISUZU

ถัดมาจะเป็นลักษณะของตึกแถวสูง 3 – 4 ชั้น ที่จะมีอยู่ตลอดถนนเทพารักษ์ค่ะ ตรงนี้มีธนาคารกรุงศรี สาขาสำโรง

ตรงข้ามซอยเทพารักษ์ 14 มีมิตรแท้แท็กซี่  ศูนย์ซื้อขาย แลกเปลี่ยนเช่ารถแท็กซี่ค่ะ

และสำนักงานเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ อยู่ตรงข้ามกับซอยเทพารักษ์ 16

ถัดมาเป็นปั๊มน้ำมัน CALTEX

บรรยากาศฝั่งเลขคู่ ก็มีร้านค้าตามตึกแถว เช่น ร้านขายยา, ร้านก๋วยเตี๋ยว

ถัดมาไม่ไกลจะเห็นบริษัท เด็นโซ่ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เช่นกัน เช่น ระบบปรับอากาศรถยนต์, ระบบควบคุมเครื่องยนต์

บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สาขาเทพารักษ์ ผลิตรถบรรทุก, รถกระบะ, รถยนต์โดยสาร และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ขายส่งออกในประเทศเพื่อนบ้านด้วย

แล้วก็มาถึงปากซอยหมู่บ้านทิพวัล 1 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์เลยค่ะ

หน้าซอยทิพวัลก็มีร้านอาหารและเบียร์, ร้านกาแฟและขนมปัง, ร้านชาบู

ติดกับคอนโดเคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ จะเป็นบริษัท สยามร่วมกิจ สหมิตร ผลิตน้ำมันพืช เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว และเนยเทียม สภาพโรงงานเรียบร้อยดี ไม่มีเสียงดัง

ถัดไปอีกนิดเป็น Palm Island Mall คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ที่ภายในมี Mini Big C, ร้านกาแฟ Cafe Amazon, ธนาคารกรุงเทพ, โรงเรียนสอนเต้น, ร้านอาหารมีดี ติ่มซำ เป็นต้น

นอกจากร้านขายอาหารข้างทาง ก็มีร้านขายมอเตอร์ไซต์

ร้านขายรถมือสอง โรงแรมก็มี เช่น โรงแรมสตาร์อินน์ ข้างหมู่บ้านธนเศรษฐแลนด์

ปั๊มน้ำมัน SUSCO

เลยหน้าโครงการมาประมาณ 350 เมตร ฝั่งตรงข้ามมีโรงเรียนสิริวุฒิวิทยา สอนระดับชั้นประถมศึกษาค่ะ

โรงเรียนอยู่ใกล้กับ Toyota Sure สาขาเทพารักษ์-สำโรง และศูนย์รถยนต์ Toyota

หากตรงผ่านแยกศรีนครินทร์ไปเรื่อยๆ ประมาณ 6 กม. จากโครงการจะเจอทางขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก ด่านบางพลี หรือ ขับตรงไปจะออกบางพลีค่ะ

ด่านบางพลีนี้ สามารถไปได้ทั้งบางนา และพระราม 2 เลย

มาดูบรรยากาศบริเวณถนนสุขุมวิทบริเวณสำโรง – อิมพีเรียลสำโรง และบริษัทต่างๆ ใกล้สถานีปู่เจ้าสมิงพราย

เริ่มตั้งแต่ไปรษณีย์ สาขาสำโรง ที่อยู่ติดกับสถานีสำโรง

สถานีตำรวจภูธร ตำบลสำโรงเหนือ อยู่ติดกับประตูทางออก 6 เราเดินผ่านกันไปรอบนึงตอนเดินทางไปโครงการ

บรรยากาศใต้สถานีสำโรง ด้านข้างก็ยังเป็นตึกแถว

มีคอนโด The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ติดรถไฟฟ้าสำโรง แต่ราคาเริ่มต้นก็จะแพงกว่าของ Kensington Sukhumvit-Thepharak

Imperial World สำโรง มี Big C Super Center สาขาสำโรง ร้านค้าครบครัน  ซึ่งจะเน้นแบบชานเมืองหน่อย  ไม่ได้ดูหรูหรา  แต่ก็อำนวยความสะดวกได้ดี

โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ อยู่ในซอยข้างอิมพีเรียล

ตลาดสำโรง อยู่ตรงข้ามกับตลาดธรรมโรจน์พินิจ

ทีนี้กลับมาที่แถวๆ ปู่เจ้าสมิงพราย มี บริษัทพานาโซนิค เอเนอร์จี อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 115 และ 117

เยื้องกับ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย TOYOTA

และจบด้วย Big C Jumbo สาขาสำโรง 2 ใกล้สุขุมวิท 115 ค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันต่อเลย

สำนักงานขายสูง 2 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าที่ดินโครงการเลยค่ะ

ออกแบบสไตล์เรียบเท่ สูง 2 ชั้น ตกแต่งผนังด้านหน้าด้วยสีดำและสี Copper ซึ่งจะเป็นสีหลักที่ใช้ในโครงการนี้

ถนนเทพารักษ์ด้านหน้า กว้าง 6 เลน ไป-กลับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นหมู่บ้านทิพวัล 1 ที่พาไปวนดูกันมาแล้วรอบนึง

ตั้งอยู่เยื้องกับ Hino เลยหัวโค้งมาหน่อยนึง

พื้นที่จอดรถสำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ

ทางเข้าสำนักงานขายอยู่ด้านข้างค่ะ

เปิดประตูเข้ามาด้านในก็เจอโมเดลและเคาน์เตอร์ต้อนรับ ผนังตกแต่งด้วยสี Copper และสีดำ คุมโทนกับผนังอาคารด้านนอก

มีโมเดลตึกให้ดูกันชัดๆ อยู่ตรงกลางโถง

ชุดโซฟาใช้เบาะหนัง บันไดเหล็กสีดำ ยังคงคุมโทนสีน้ำตาล-ดำ-Copper

บันไดขึ้นไปดูห้องตัวอย่างที่ชั้นสองค่ะ

โถงทางเดินไปยังห้องตัวอย่างชั้นล่าง

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

โครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ จะมีทางเข้าออกอยู่ติดกับถนนเทพารักษ์ ส่วนด้านหลังติดคลองสำโรง  ตัวคอนโดจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนน 100 เมตร (วัดระยะตาม Google map)  ถ้าดูจากแผนที่ ฝั่งทิศเหนือของโครงการจะติดกับคลองสำโรง เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นบริษัทสยามร่วมกิจ สหมิตร ส่วนอีกข้างเป็นที่ดินเปล่าของเทศบาลบางเมืองใหม่ ที่ปล่อยเป็นที่ดินเปล่ามานานหลายสิบปีแล้ว  ส่วนผืนด้านหน้าจะเป็นที่ดินของ Origin เองค่ะ จะทำเป็นคอนโดตัวเฟสต่อไป ขนาดที่ดินจะเล็กกว่าอยู่ที่ 2 ไร่เศษ ติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้า ซึ่งตามหลักการวางราคาแล้วก็คงอัพขึ้นจากตึกในปัจจุบันนะ  คอนโดเฟสต่อไปคาดว่าเป็นอาคารสูงเหมือนกันค่ะ  และแน่นอนถนนทางเข้า-ออก โครงการจะเป็นถนนภาระจำยอมใช้ร่วมกันระหว่าง 2 โครงการ

ภาพรวมของพื้นที่ที่อยู่ติดกัน ส่วนใหญ่จะเป็นตึกสูงประมาณตึก 2 – 4 ชั้นเท่านั้น เช่น บริษัทผลิตน้ำมันพืช, โรงงานทิชชู่ RiverPro และกิ้นส์ออโต้ และคอมมูนิตี้ Palm Island Mall   ดังนั้นคอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์  ก็จะเป็นตึกสูงแห่งแรกแถวบริเวณนี้เลย ห้องพักก็เริ่มที่ชั้น 6 ทำให้เห็นวิวเคลียร์ๆ ไม่มีใครมาบังวิวอีกด้วย

พาไปเดินดูที่ดินเปล่าที่อยู่ติดกับโครงการกันซักหน่อย  เพื่อนบ้านฝั่งนี้เป็นของเทศบาลบางเมืองใหม่ ที่ปล่อยเป็นที่ดินว่างๆ แบบนี้มานาน รอบๆ มีต้นไม้ขึ้น แต่ตรงกลางจะเป็นลานโล่งๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

ส่วนเพื่อนบ้านอีกข้างจะเป็นบริษัท สยามร่วมกิจ สหมิตร ผลิตน้ำมันพืช ดูจากสภาพแล้วก็จัดการรอบๆ สะอาดเรียบร้อยดี เท่าที่ดูตอนไปรีวิวก็ไม่ได้มีเสียงดังรบกวนอะไรนะคะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ผืนที่ดินหลักๆ ที่เซตเข้ามาจากถนนเทพารักษ์ จะเป็นแปลงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แปลงที่ดินสวยค่ะ แปลนอาคารเป็นรูปตัว C หันคอร์ทเข้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  แปลนชั้นพักอาศัยมีทางเดินอยู่ตรงกลาง เลยจะมีห้องที่หันเข้าคอร์ทและหันออกด้านนอก ห้องส่วนใหญ่จะได้แดดตอนเช้าๆ ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตอนเที่ยงๆ แดดอ้อมมาทางทิศใต้เล็กน้อย แต่เนื่องจากไม่ได้ทำทิศมุมตรงๆ กับห้อง แดดเลยไม่เข้าตัวห้องเต็มๆ  พอตอนบ่าย – เย็น จะไปร้อนฝั่งห้องที่หันเข้าคอร์ทค่ะ

ส่วนวิวนั้นห้องที่หันเข้าคอร์ทจะได้วิวที่แน่ชัด เห็นวิวพระอาทิตย์ตก และอย่างน้อยก็เห็นคอร์ทสวยๆ ภายในโครงการตัวเอง  ส่วนห้องที่หันออกไปทางขวา (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) จะเย็นสบายสุด หันไปทางคลองสำโรง ได้วิวเป็นบ้านพักอาศัยในซอยสุขุมวิท 113 และซอยแบริ่ง สุขุมวิท 115 … ห้องที่อยู่ทางด้านล่างของภาพ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) เห็นวิวไปทางบ้านพักอาศัยตลอดถนนเทพารักษ์ไปทางถนนศรีนครินทร์ และเป็นด้านที่เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นด้วย  ส่วนห้องที่อยู่ทางซ้าย (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) ด้านนี้จะเจอคอนโดสูงในเฟสต่อไป แต่เนื่องจากเป็นของ Origin เอง ก็น่าจะพยายามออกแบบอาคารให้ไม่บังกันเองให้ได้มากที่สุดหล่ะค่ะ

ส่องโมเดล

ดูผังและแปลนอาคารกันไปคร่าวๆ ทีนี้มาที่โมเดลโครงการกันต่อค่ะ จะได้จินตนาการออก

พอมาดูที่โมเดลนั้นจะเห็น เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ อยู่ลึกเข้าไปด้านใน  ซึ่งออริจิ้นก็จริงใจดีที่ทำโมเดลในเฟสต่อไปให้ดูคร่าวๆ ว่าจะมีโครงการคอนโดเฟส 2 (ตึกสีขาว) อยู่ด้านหน้านะ ดีเวลลอปเปอร์บางเจ้าจะไม่วางโมเดลข้างๆ ให้ดู  เพื่อคนซื้อจะได้รู้สึกว่าวิวมันโล่ง

ถนนด้านหน้าจะเป็นถนนภาระจำยอม ที่ใช้ร่วมกัน โดยคอนโดเฟสสองจะอยู่ติดกับทางขึ้นลงรถไฟฟ้ามากกว่า ใกล้ทางเข้าออกถนนเทพารักษ์มากกว่า

กล่องสีขาว ที่อยู่ในที่ดินโครงการ คือทางขึ้น-ลง รถไฟฟ้าสถานีทิพวัลค่ะ  แต่โดยส่วนตัวคิดว่าตำแหน่งอาจจะยังไม่เป๊ะมาก  เพราะยังไม่ได้ลงมุดแนวก่อสร้างจริงค่ะ

มุมจากถนนเทพารักษ์เข้าไปด้านในประมาณ 100 เมตร

พอเข้าเขตโครงการจะวนขวา Drop-Off เข้า Tower A ได้

ใกล้ๆ Drop Off ก็มีสวนสาธารณะกับสนามเด็กเล่นให้

ก่อนไปต่อ เกริ่นก่อนว่าคอนโดจะเรียกเป็น Tower A อยู่ทางขวา สูง 38 ชั้น ส่วน Tower B จะอยู่ทางซ้ายสูง 35 ชั้นค่ะ ที่ยอดอาคารเลยจะสูงไม่เท่ากัน ตรงกลางจะกั้นด้วยโถงลิฟต์บริการและบันไดหนีไฟ ที่ลูกบ้านไม่สามารถเดินเชื่อมกันได้

ผนังบริเวณชั้นจอดรถ 1 – 5 จะตกแต่งผนังอาคารด้วยสี Copper ผนังจะ Flip ไปมา เพิ่มกิมมิคให้อาคาร

มาที่ฝั่งคอร์ทกันบ้าง ชั้นล่างสุดมีห้อง Co-Working Space ที่ตั้งชื่อว่า Another Home เป็นห้องกระจกสูง เปิดหน้าต่างเข้าหาสวนและลานน้ำล้นด้านข้าง เพิ่มบรรยากาศในการทำงานหรือนั่งเล่นได้ดี พื้นที่ส่วนกลางตรงโพเดียมรวมกัน 628 ตร.ม. พอมาชั้น 6 จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำและ The Gym Club ค่ะ

ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (Tower B)  หันเข้าหาคลองสำโรงด้านหลังโครงการ เป็นฝั่งที่ได้วิวไปทางสุขุมวิทซอย 113 , ซอยแบริ่ง วิวสงบและไม่ร้อน สีสันของผนังอาคารจะทาสีแบบสลับ บางห้องทาสีขาว บางห้องทาสีดำ ทำให้รูปด้านไม่ดูเรียบเกินไป

ชั้นล่างสุดก็มีจุด Drop-Off ให้กับลูกบ้านที่อยู่ Tower B  ค่ะ

และถนนด้านที่ติดกับบริษัท สยามร่วมกิจ สหมิตร ชั้นล่าง 1 – 5 สำหรับจอดรถ

ห้องที่อยู่ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้วิวไปทางถนนศรีนครินทร์  สังเกตที่ผนังอาคาร ที่จะทาสีในแนวตั้งสลับกันค่ะ บางแนวทาสีดำ บางแนวทาสีขาว และมีบางห้องทาสีเทา ดูมี Pattern

และมาจบที่ห้องฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ Tower A หันเข้าคอนโดเฟส 2 ในอนาคต  แนะนำให้เล็งกันดีๆ

จบด้วยยอดอาคารชั้นดาดฟ้า ที่จะมีสวนสาธารณะ ให้ขึ้นไปพักผ่อนและชมวิวกันค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities ของคอนโด Kensington Sukhumvit-Thepharak จะมีหลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 จุด คือ ชั้น 1, ชั้น 6 และชั้นดาดฟ้า โดยชั้น 1 และชั้น 6 ลูกบ้าน Tower A, Tower B สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ชั้นดาดฟ้าจะแยกการใช้งานกันค่ะ

เริ่มที่ชั้นล่างตรงโถงลิฟต์ Tower A จะมีจุด Drop Off ด้านหน้า ถัดจากถนนไปจะเป็น Playground Garden ที่มีพื้นที่นั่งพักผ่อนและสนามเด็กเล่น  พื้นที่ตรงกลางอาคารเป็นส่วนจอดรถ  มีห้อง Co-Working Space ที่โครงการตั้งชื่อให้ว่าเป็น Another Home Area มีฟังก์ชั่นหลากหลาย อยู่ติดกับสวนได้วิว 180 องศาและบ่อน้ำล้น รูปห้องค่อนข้างยาวขนานไปกับสวน  ปีกอาคารอีกฝั่งเป็นโถงลิฟต์ของ Tower B มีจุด Drop Off ด้านหน้าเช่นกัน และถัดไปจะเป็น Backyard Garden แต่ไม่มีสนามเด็กเล่น

Facilities จุดที่ 2 อยู่ชั้น 6 เหนือโพเดียมจอดรถ มีสวนลอยฟ้า, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาวกว่า 30 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก และมีห้อง The Gym Club หรือฟิตเนส อยู่ติดกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ชั้นนี้ลูกบ้านฝั่ง Tower A, Tower B สามารถออกมาใช้งานได้จากโถงลิฟต์

และชั้นดาดฟ้าฝั่ง Tower A จะสูง 38 ชั้น ส่วน Tower B จะสูง 35 ชั้น (เป็นผลจากระยะถอยร่นของอาคารตามกฎหมายนั่นเอง)  สูงต่ำต่างกันนิดหน่อยได้วิวไม่ต่างกันมาก  แต่พื้นที่ส่วนกลางมีให้เท่ากันนะคะ  ประกอบไปด้วยสวนลอยฟ้า, ที่นั่งเล่น และลานพัตต์กอล์ฟ (Mini Golf)  พื้นที่สวนชั้นดาดฟ้าจะต้องใช้งานแยกกัน ดาดฟ้าของใครของมัน

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น มีลิฟต์โดยสารให้ Tower ละ 3 ตัว ฝั่ง Tower A มียูนิตเยอะกว่า มีจำนวนห้อง 693 ห้อง เฉลี่ยออกมาได้ 231 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ส่วน Tower B มี 625 ห้อง สัดส่วนลิฟต์อยู่ที่ 208 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ทั้งสอง Tower ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร  ก็ตามราคานะคะ  ในชั่วโมงเร่งด่วนก็จะต้องอดทนรอกันหน่อยค่ะ ที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1-5  จอดได้ 32% ไม่รวมจอดซ้อนคัน  ถือว่าเหมาะสมตามระดับราคาเฉลี่ยโครงการค่ะ  ถ้ามองระยะยาวมีรถไฟฟ้าในอนาคต มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการ ก็ถือว่า trade off ไป

เราเอาภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่สวนกลางมาให้ดูกัน ภาพแรกเป็นโถง Lobby ฝ้าสูง Double Volume คุมโทนสีดำ น้ำตาล เทา และสี Copper เช่นเคย

ห้อง Co-Working Space (Another Home Area) อยู่ชั้นล่างสุด ใกล้กับบ่อน้ำล้นข้างอาคาร  สามารถลงมานั่งทำงานกับเพื่อนๆ หรือมานั่งริมน้ำเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้

ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 30 เมตร พื้นที่ด้านข้างเป็นสวนพักผ่อนยาวตลอดสระว่ายน้ำ มีเก้าอี้และศาลานั่งเล่นใต้ต้นไม้ พื้นที่บริเวณรวมแล้วประมาณ 628 ตร.ม.

และห้อง The Gym Club พร้อมเครื่องเล่นฟิตเนสต่างๆ ได้หน้าต่างสูงชนฝ้า มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์

เมื่อขับรถเข้ามาจากถนนเทพารักษ์ 100 เมตร (ลูกศรสีเขียว) จะสามารถเลี้ยวขวาเข้าไปยัง Drop-Off หน้าโถง Tower A ได้ ถัดจาก Drop-Off ไปไม่ไกลจะเป็นทางขึ้นที่จอดรถชั้น 2 – 5  หากขับอ้อมมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะมีที่จอดรถด้านข้างอาคาร จอดได้ประมาณ 15 คัน และมีทางเข้าที่จอดรถชั้นล่างด้านใน ใต้อาคารอีกจำนวนนึง ส่วนถ้าจะไป Drop-Off ลูกบ้านที่อยู่ Tower B จะต้องขับต่อมาอีก (ลูกศรสีเหลือง)  มาวนเข้าด้านหลังค่ะ  เวลาออกจากที่จอดรถหรืออกจากโครงการให้ดู ลูกศรสีแดง ค่ะ  โดยรวมถือว่าจัดเส้นทางวนรถได้ดี สามารถ Drop-Off ได้ถูกฝั่ง คือส่งคนลงรถจากทางซ้ายของรถ ครบทั้ง Tower A, B  และทางวนรถก็เคลียร์ค่ะ

Floor Plan ชั้น 6

คอนโด Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์

ชั้น 6 ของ Kensington สุขุมวิท – เทพารักษ์ จะเป็นชั้นที่รวมห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางเข้าด้วยกัน คนที่เลือกชั้นนี้ก็จะออกมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวก  ถ้าเลือกห้องหันเข้าคอร์ทก็จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวน  แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบ private มากๆ ไม่ชอบที่จะได้ยินเสียงตอนเพื่อนบ้านมาใช้งานด้วย อาจจะเลือกห้องที่หันออกด้านนอกแทนค่ะ  ฝั่งซ้ายเป็น Tower A มีจำนวนห้องทั้งหมด 21 ห้องใน 1 ชั้น  ส่วนฝั่ง Tower B ทางขวา จะมีอยู่ 16 ห้อง เนื่องจากมีห้อง The Gym Club และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ตรงกลางจะเป็นโถงลิฟต์บริการและบันไดหนีไฟ ลูกบ้านทั้งสองฝั่งจะเปิดประตูหนีไฟเข้ามาส่วนโถงลิฟต์บริการได้ แต่เปิดประตูไปยังอีก Tower ไม่ได้ค่ะ  เป็นการพยายามออกแบบให้ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น  แต่ยังคงฟังก์ชั่นการใช้งานเอาไว้อยู่

Floor Plan ชั้น 7-35

คอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์

ชั้น 7 – 35 จะเป็นชั้น Typical Floor Plan มีจำนวนห้องเต็มชั้น มีอยู่ฝั่งละ 21 ห้อง โดยตำแหน่งห้องจะตรงกันทุกชั้น  แต่ 2 ทาวเวอร์จะมีตำแหน่งห้องไม่เหมือนกัน (ไม่ Mirror กัน) หากเป็น Tower A ทางซ้ายมือ จะมีห้องขนาดเล็กสุด แบบ 1 ห้องนอน 20.5 – 21 ตร.ม. อยู่ 11 ห้อง  ต่างกับฝั่ง Tower B ที่จะมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น  ส่วนใหญ่ห้องเล็กนี้จะอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้  และทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่หันเข้าหาคอนโดเฟส 2 ค่ะ

แบบ 1 ห้องนอน 23.5 ตร.ม. จะมีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ หันเข้าคอร์ทเยอะที่สุดด้วย ฝั่ง Tower B มี 13 ห้อง มีให้เลือกทั้งฝั่งที่หันออกและหันเข้าคอร์ทด้านใน แต่ถ้าเลือก Tower A จะหันเข้าคอร์ทอย่างเดียว มีแค่ 5 ห้อง

สุดท้าย แบบ 1 ห้องนอนพลัส 30.5 – 31.5 ตร.ม. จะอยู่ตามที่หัวมุมอาคารต่างๆ ค่ะ ส่วนใหญ่จะหันเข้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และมีทั้งที่หันเข้าคอร์ทและหันออกด้านนอกค่ะ

Floor Plan ชั้น 36 – 38

คอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์

ส่วนที่ช่วงชั้นบนสุดของห้องพักอาศัยที่ชั้น 36-38 จะเหลือเฉพาะฝั่ง Tower A ค่ะ  ตำแหน่งห้องและจำนวนห้องจะเหมือนกับชั้น Typical Floor

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ จะมีทั้งหมดอยู่ 3 แบบ คือ แบบห้อง 1 ห้องนอน 20.5 – 21 ตารางเมตร,  แบบ 1 ห้องนอน 23.5 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอนพลัส 30.5 – 31.5 ตร.ม. ค่ะ

แปลนห้องคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์

แบบ 1 ห้องนอน 20.5 – 21 ตารางเมตร

ห้องไซส์เล็กที่สุดในโครงการ แปลนห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งห้องออกเป็นสองส่วนคือ พื้นที่นั่งเล่น, พื้นที่รับประทานอาหาร, ระเบียง และห้องนั่งนอนกับห้องน้ำค่ะ ส่วนแรกที่เปิดเข้ามาเจอจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า ส่วนแพนทรี่และโต๊ะรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับระเบียง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่และระบายอากาศได้ดีกรณีทำอาหาร พื้นปูด้วยไม้ลามิเนตทั้งห้อง และเป็นครัวเปิดเลยไม่เหมาะกับการทำครัวแบบจริงๆ จังๆ เท่าไหร่  ระเบียงก็จะเอาไว้วางเครื่องซักผ้า ตากผ้า และแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์  โดยรวมแล้วแอบแปลกใจกับการสลับตำแหน่งการวางโต๊ะรับประทานอาหาร, pantry กับตำแหน่งนั่งเล่นพักผ่อนอยู่พอควร  เพราะปกติถ้าเป็นแปลนเปิดแบบนี้  ก็มักจะเอาส่วนนั่งเล่นไว้ติดกับหน้าต่างมากกว่าค่ะ น่าจะเผื่อไว้สำหรับการระบายอากาศได้ดีขึ้นเวลาทำอาหาร

ประตูเข้าห้องนอนจะเลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อไม่ให้ห้องดูทึบเกินไป ภายในห้องนอนมีขนาดพอวางเตียงห้าฟุต กับตู้เสื้อผ้าได้ โดยเตียงต้องวางชิดหน้าต่าง แล้วก็จะเหลือพื้นที่ห้องแค่วางตู้เสื้อผ้าได้เท่านั้น  และสามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนค่ะ  แปลนนี้เป็นการใช้พื้นที่ได้ครบทุกเม็ดจริงๆ

แปลนห้องคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 23.5 ตารางเมตร

มาดูที่แบบ 1 ห้องนอนขนาดกลาง เป็นแบบห้องที่หันเข้าหาคอร์ทมากที่สุด แปลนห้องเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ได้ความลึกของห้องมากขึ้น แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนเหมือนกัน คือ ส่วนแพนทรี่กับพื้นที่นั่งเล่น และส่วนของพื้นที่นอนและห้องน้ำ  สำหรับห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Pantry ก่อน แล้วถึงจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดระเบียง ประตูเข้าห้องนอนจะเปลี่ยนเป็นประตูบานเปิดธรรมดา ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่กว้างมากขึ้น  ใส่ตู้เสื้อผ้าได้ใหญ่ขึ้น

ห้องนี้ก็ยังเหมาะกับการทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากใช้พื้นที่รวมกับห้องนั่งเล่น และพื้นปูลามิเนตทั้งห้อง และห้องนี้แพนทรี่ไม่ได้อยู่ติดระเบียงด้วย กลิ่นอาจจะเข้ามาติดตามโซฟาได้

แปลนห้องคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์

แบบ 1 ห้องนอน Plus 30.5 – 31.5 ตร.ม.

เป็นห้องขนาดใหญ่สุดในโครงการ ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะรับประทานอาหาร ต่อด้วยห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกอยู่กับติดระเบียง ทำให้ห้องนี้สามารถทำให้เป็นห้องนั่งเล่นก็ได้ ห้องทำงาน หรือห้องนอนอีกห้องก็ได้ค่ะ (แต่ต้องใช้เตียงเล็กหน่อย หรืออาจจะเป็นฟูกพับเก็บได้) แพนทรี่จะหลบมาอยู่หน้าห้องน้ำ ดูเป็นสัดส่วนดี ส่วนห้องนอนก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถติดทีวีปลายเตียง และวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขึ้นได้  โดยรวมๆ ก็จัดแปลนเป็นสัดส่วนดีนะคะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 แบบ คือ แบบห้องขนาด 21 ตร.ม. และขนาด 23.5 ตร.ม. ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไปนั้นอยู่ที่ 2.58  เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in  เป็นตู้เก็บของข้างประตูทางเข้า, แพนทรี่ครัว, ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, ประตู Digital Door Lock และแถมเครื่องปรับอากาศให้ด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Kensington Sukhumvit-Thepharak

แบบ 1 Bedroom ขนาด 21 ตารางเมตร

ห้องแบบ  1 ห้องนอน  21 ตร.ม. เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ในบริเวณเดียวกัน  ภายในห้องสว่างเพราะอยู่ติดระเบียงได้แสงธรรมชาติเต็มที่  ความลึกห้องไม่มากนัก

พื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงข้ามกับชั้นวางทีวีและตู้สูงข้างประตูทางเข้า ขนาดกระชับๆ หน่อย ด้านหลังโซฟาในห้องตัวอย่างติดกระจกเงาเพื่อให้ห้องแคบดูกว้างมากขึ้น อันนี้ช่วยได้จริงๆ (ของจริงไม่มีนะคะ)

ฟังก์ชั่นทุกอย่างจะอยู่ติดผนังข้างห้องหมด ไล่มาตั้งแต่ตู้สูงข้างประตูทางเข้า ชั้นวางทีวี ก็ต่อด้วยเคาน์เตอร์ครัวและที่วางตู้เย็นเลย ขนาดกระทัดรัดและกระชับมาก  คือคิดมาเผื่อวางทุกอย่างได้ลงแบบพอดีเป๊ะ

ตรงระเบียงความกว้างระเบียง 55 ซม. เท่านั้น พอวางเครื่องซักผ้าขนาดเล็กได้  ถ้าซื้อมาอย่าลืมเช็คขนาดก่อนนะคะ

ห้องนอนจะอยู่ด้านในค่ะ กั้นด้วยประตูกระจก เพื่อให้รู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้น

ตู้เสื้อผ้าวางอยู่ข้างหัวเตียง ส่วนเตียงหากเลือก 5 ฟุตแบบห้องตัวอย่างพอวางชิดหน้าต่างก็เต็มห้องพอดี

มองกลับออกไปที่พื้นที่รับประทานอาหารค่ะ โต๊ะกินข้าวต้องใช้ตัวเล็ก เก้าอี้เลือกใช้แบบไม่มีผนังพิงเพื่อประหยัดพื้นที่ และดูไม่แน่น เก็บซ่อนใต้โต๊ะได้ ก็เป็นอีกไอเดียที่ดีสำหรับห้องเล็ก

และห้องน้ำภายในห้องนอนค่ะ โทนสีน้ำตาลอ่อน – ขาว แบ่งส่วนเปียกแห้งให้เรียบร้อย

ห้องตัวอย่างคอนโด Kensington Sukhumvit-Thepharak

แบบ 1 ห้องนอน B1 ขนาด 23.50 ตร.ม.

สำหรับห้องนี้จะเป็นขนาดกลาง เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนของแพนทรี่ก่อน ต่อด้วยพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง  ความรู้สึกก็จะโล่งกว่าเป็นธรรมดา  ด้วยขนาดห้องค่ะ

แพนทรี่จะกว้างมากขึ้น ตรงข้ามกับตู้สูงข้างประตูทางเข้า ตู้เย็นและโต๊ะรับประทานอาหาร

อีกซักมุมที่โต๊ะรับประทานอาหารค่ะ วางโต๊ะไซส์เล็กและเก้าอี้แบบไม่มีผนังพิงเหมือนกัน ช่วยทำให้ห้องดูไม่แน่น

ติดกับโต๊ะกินข้าวจะเป็นโซฟานั่งเล่น

เหมาะกับวางโซฟาขนาดเล็ก 2 ที่นั่ง หรือจะรวบเป็นโซฟายาวและเอาโต๊ะกินข้าวมานั่งที่โซฟาเลยก็ยังได้นะ  ผนังห้องติดกระจกเงาช่วยให้ห้องกว้างมากขึ้นอีกเช่นกัน และยังช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงด้วย

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี และชั้นเก็บของติดผนังค่ะ

ระเบียงห้องนี้กว้างกว่าห้องที่แล้วนิดนึง  สำหรับวางเครื่องซักผ้า

ภายในห้องนอนจะกว้างมากขึ้น

ปลายเตียงสามารถติดทีวีแขวนผนังได้

ห้องน้ำเข้าได้จากห้องนอน แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้ง เรียบร้อย ขนาดได้มาตรฐาน ไม่เล็กเกินไป

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของคอนโด Kensington Sukhumvit-Thepharak ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ออกแบบพิเศษเฉพาะโครงการนี้ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศและห้องน้ำก็จะได้แบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าบานตู้เป็นลายไม้สีอ่อน ที่วางไมโครเวฟอยู่ข้างล่าง

ตู้ชั้นบนเป็น Soft Close ซะด้วย แข็งแรงดี เก็บของได้พอสมควรเลย

Top เคาน์เตอร์ครัว ลามิเนตสีดำลายหินค่ะ

เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ Hafele

เครื่องดูดควันของ Hafele เช่นกัน

ผนังหลังเคาน์เตอร์จะเป็นผนังฉาบเรียบเฉยๆ ใครกลัวคราบน้ำมันติดผนัง ก็อาจจะต้องติดกระเบื้องเพิ่มเอาเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น

เหนืออ่างล้างจานจะมีราวสำหรับแขวนอุปกรณ์ครัว และมีสวิตซ์เปิดไฟจะอยู่ตรงนี้

อ่างล้างจานขนาดใหญ่ใช้ได้ ล้างหม้อเล็กๆ ได้สบายค่ะ จาก Hafele

มาพร้อมกับก๊อกน้ำทรงสูง ล้างจานสะดวก

วัสดุห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ ผนังหลังโถสุขภัณฑ์ติดกระเบื้องสีขาว มีลายเหมือนกระเบื้องโมเสก  ตรงอ่างล้างมือ  ถ้าติดขยับออกมาจากผนังเพิ่มอีกหน่อย น่าจะใช้งานสะดวกขึ้นเผื่อกรณีผู้ชายตัวใหญ่ๆ ค่ะ

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องสีเทา

พื้นที่อาบน้ำขนาดพอดีตัว ยกธรณีขึ้นมาให้ สามารถติดกระจกกั้นอาบน้ำได้ภายหลัง

ข้างฝักบัวทำช่องวางขวดสบู่ แชมพูไว้ให้ด้วยค่ะ ขนาดใหญ่พอตัว

ฝักบัว สีเงิน ยี่ห้อ Prema

โถสุขภัณฑ์สีขาว ยี่ห้อ COTTO

ให้กระจกเงาบานเปลือยมาครึ่งตัวค่ะ

อ่างล้างหน้า เซรามิค สีขาว ยี่ห้อ COTTO เช่นกัน

ก๊อกน้ำก็ยี่ห้อ COTTO แบบก้านโยก

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ตู้เก็บของ Built-in ที่ให้จะอยู่ติดประตูทางเข้า พร้อมชั้นวางทีวีค่ะ วัสดุแข็งแรงดี

ชั้นล่างของตู้จะเป็นชั้นวางรองเท้า ชั้นบนเก็บหนังสือต่างๆ ได้

ตู้เสื้อผ้าสูงชนฝ้า บานนึงเป็นบานไม้ธรรมดา อีกบานเป็นกระจกเงา

เปิดให้ดูว่าเก็บของได้เยอะพอสมควร

ปลั๊กไฟ และสวิตซ์ไฟจาก bticino รุ่นมาตรฐานปกติ

โคมไฟดาวน์ไลท์ในห้องจะนูนออกมา เพราะว่าเพดานจะเป็นพื้นของห้องชั้นบน ไม่มีฝ้าให้ซ่อนไฟเข้าไป

เครื่องปรับอากาศ ของ DAIKIN

พื้นห้องปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ลายไม้ สีน้ำตาล

ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง คุณภาพแข็งแรงดี ห้องขนาดเล็กวงกบจะวางอยู่บนพื้นห้อง

ถ้าเป็นห้องขนาด 23.5 ขึ้น ประตูห้องนอนจะเป็นบานเปิดธรรมดา รอยต่อห้องจะมีตัวปิดรอยต่อให้ สีเดียวกับพื้น

วงกบไม้ทาสีขาว

ห้องน้ำจะยกธรณีขึ้นมาสูงจากพื้นห้อง 2 ซม. และสูงจากพื้นห้องน้ำ 3 ซม.

ระเบียงห้องลดระดับจากพื้นห้อง 10 ซม. กันน้ำไหลเข้าตัวห้อง

ระเบียงห้องทำจากเหล็กกล่อง ทาสีดำ

เหนือรั้วด้านบนก็มีรั้วบังสายตา ติดอยู่บนเพดาน ทำจากเหล็กทาสีดำเหมือนกันค่ะ

พื้นระเบียงปูกระเบื้อง ขนาด 30×30 ซม. สีน้ำตาลอ่อน

ที่จับประตูบานเลื่อนค่ะ

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1.09 ล้านบาท เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 20.5 – 21 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยโครงการประมาณ 70,000 บาทต่อตารางเมตร  ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราใช้พิจารณาประกอบรายละเอียดรีวิวนี้  ห้องทั้งหมดขายเป็นห้องแบบ Fully Fitted  ส่วนราคารายห้องของโครงการตอนที่เราเข้าไปรีวิว ราคายังไม่ได้เคาะออกมานะคะ

ราคา ณ วันที่  2 พฤษภาคม 2560

ราคาเริ่มต้น :

แบบ 1 ห้องนอน 20.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,090,000 บาท เฉลี่ยเริ่มต้น 53,170 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

n/A

• ผ่อนดาวน์

n/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง n/A บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า x ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  n/A บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางนั้นถ้าเป็นทางรถยนต์ ถนนเทพารักษ์เป็นถนนสายรองวิ่งจากถนนสุขุมวิทไปตัดถนนศรีนครินทร์ ยาวไปเรื่อยๆ ออกบางพลี จนสุดที่ถนนบางบ่อ-คลองด่าน  ที่ตั้งของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ จัดว่าอยู่เทพารักษ์ช่วงต้นๆ  จะมีความหนาแน่นของการอยู่อาศัยมากกว่าช่วงเทพารักษ์ที่เลยศรีนครินทร์ไปแล้วค่ะ  บนถนนเทพารักษ์นั้นรถไม่ติดเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเส้นหลักอย่างปลายสุขุมวิทหรือศรีนครินทร์  จุดสำคัญสำหรับการขับรถก็คือจุดขึ้นลงทางด่วนกาญจนาภิเษก (ด่านบางพลี) ซึ่งห่างจากที่ตั้งของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์  ประมาณ 6 กิโลเมตร ค่ะ  ตรงจุดขึ้นลงทางด่วนด่านนี้จะสามารถแยกไปได้ทั้งฝั่งบางนา และฝั่งพระราม 2 เลย

รถสาธารณะที่ผ่านหน้าโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ก็มีหลายประเภท ทั้งรถประจำทางสาย 544, 116 หากไม่อยากรอรถเมล์ก็มีรถสองแถวจำนวนมาก รวมไปถึงรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซต์ ก็มีเรื่อยๆ เพราะเป็นถนนที่มีชุมชนกระจายตัวอยู่ตามแนวถนน  สามารถนั่งไปลง BTS สำโรงได้ และถ้าหากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ จะทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น เพราะสถานีทิพวัลอยู่หน้าโครงการเลยค่ะ ^^

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้าจะพูดถึงการเติบโตในย่านนี้ ถนนสุขุมวิทที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว สำโรง-สมุทรปราการ จะดูคึกคักที่สุด เพราะเป็นถนนสายหลักที่วิ่งเข้าใจกลางเมือง คอนโดที่สร้างเกาะแนว BTS นี้ขายกันในราคาที่สูง  รองลงมาจะเป็นถนนศรีนครินทร์ที่จะมีคอนโดสูงเกาะแนวรถไฟฟ้าเหมือนกัน  ในแง่ทำเลต้องจัดว่าใหม่สำหรับตลาดคอนโดมาก  ราคาที่ทำมาก็คงต้องวางเอาไว้ต่ำกว่าแนวสุขุมวิทหรือศรีนครินทร์อยู่แล้ว  ดีมานด์โซนนี้ก็น่าจะเป็นคนในชุมชนเดิมและพนักงานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในย่านนี้เป็นหลัก  คงไม่ได้เน้นจับกลุ่มคนทำงานในเมืองมากนัก  เพราะกลุ่มนั้นไปเลือกคอนโดที่อยู่แนวปลายสุขุมวิทจะสะดวกกว่าเยอะ

ทั้งนี้เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากข่าวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีเขียว ก็ยังไม่มีข่าวโครงการใหม่ๆ ที่มาลงทุนแถวนี้  เรียกว่าทำเลนี้หวังพึ่งการมาของสายสีเหลืองเป็นหลักเลยค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

คอนโด Kensington Sukhumvit-Thepharak ออกแบบมาในสไตล์ Modern ตามสมัยนิยม ใช้โทนสี Copper (ทองแดง) – ดำ – น้ำตาล เป็นองค์ประกอบหลักของโครงการ โทนสีดูแมนๆ หน่อย ทั้งการตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร

ตัวคอนโด Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์  อยู่ลึกเข้าไปจากแนวถนนประมาณ 100 เมตร  เฟสแรกนี้จะได้ในเรื่องของความเงียบจากเสียงรถริมถนนใหญ่มากกว่าเฟส 2 ในอนาคต  แต่ก็ต้องเดินเข้ามาหน่อย (และคิดว่าคงวางราคาต่ำกว่า)   ทางเข้าออกโครงการด้านหน้าจะเป็นถนนภาระจำยอม ใช้ร่วมกับคอนโดเฟสต่อไป  ด้านหลังของคอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-สำโรง จะอยู่ติดคลองสำโรง ด้านข้างฝั่งนึงติดกับบริษัทผลิตน้ำมันพืช อีกฝั่งติดที่ดินเปล่าของเทศบาลเมืองใหม่  ไม่มีอาคารสูงที่อยู่ใกล้ๆ มาบังวิว ยกเว้นทิศใต้ที่จะมีเฟสต่อไปติดอยู่

แปลนอาคารจะเป็นรูปตัว C หันคอร์ทกลางเข้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ชั้นพักอาศัยมีทางเดินกลางอาคารจึงมีห้องที่หันออกด้านนอกและหันเข้าคอร์ทด้านใน หากเลือกห้องที่หันเข้าคอร์ทจะได้วิวที่แน่นอนกว่า  ตัวอาคารจริงๆ แบ่งเป็น 2 ทาวเวอร์ (Tower A, Tower B) แต่เวลามองภาพรวมแล้วจะก่อสร้างเหมือนเป็นทาวเวอร์เดียวกัน  เนื่องจากตรงกลางของอาคารจะคั่นด้วยลิฟต์บริการและบันไดหนีไฟที่เดินทะลุไปหากันไม่ได้ พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1, 6 จะใช้ร่วมกัน แต่ชั้นดาดฟ้าจะใช้แยกกันเนื่องจาก Tower  B จะสูง 35 ชั้น เตี้ยกว่า Tower A ที่จะสูง 38 ชั้นค่ะ

แม้สัดส่วนรูปทรงคอนโดทั้ง 2 ทาวเวอร์จะคล้ายกัน แต่ตำแหน่งของห้องพักอาศัยของ Tower A, Tower B จะไม่เหมือนกัน (ไม่ Mirror กัน)  โดย Tower A จะมีจำนวนห้องแบบ 1 ห้องนอน 20.5 – 21 ตร.ม. เยอะ ส่วน Tower B จะเน้นไปที่ห้องแบบ 23.5 ตร.ม. มากกว่าค่ะ

สำหรับแปลนห้องของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ มีห้อง 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 20.5 -21 ตร.ม., แบบ 1 ห้องนอน 23.5 ตร.ม. และแบบ 1 ห้องนอนพลัส 30.5 – 31.5 ตร.ม.  ซึ่งการวางโปรดักส์แบบนี้ชัดเจนว่าต้องการจับกลุ่มวัยทำงานเริ่มต้น  ที่อาจจะยังมีกำลังจ่ายไม่สูงนัก  และไม่ได้เน้นครอบครัวเท่าไหร่  อย่างมากก็อยู่กัน 2 คน   ทุกห้องจะได้เป็นครัวแบบเปิด อยู่บนพื้นไม้ลามิเนต จึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารจริงๆ จังๆ เท่าไหร่ เน้น cooking เบาๆ ง่ายๆ มากกว่า  ลักษณะการจัดฟังก์ชั่นในห้องขนาดเล็ก 20.5 – 21 และ 23.5 ตร.ม. จะแบ่งพื้นที่ห้องเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นพื้นที่นั่งเล่นกับรับประทานอาหาร ได้แสงธรรมชาติจากระเบียง ส่วนที่สองเป็นห้องนอนกับห้องน้ำ พื้นที่ใช้งานก็มากขึ้นตามขนาดห้อง ห้องเล็กๆ จะค่อนข้าง Compact มาก  สำหรับห้อง 20.5  – 21 ตร.ม. ที่มีขนาดห้องเล็กสุด จะทำประตูห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนให้ค่ะ ทำให้ดูโล่งขึ้น  แบบ 1 ห้องนอนพลัส ก็สบายขึ้นหน่อย มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาให้อีก 1 ห้อง สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอน 2 ก็ยังได้ แต่ต้องวางเตียงไซส์เล็กเท่านั้นนะคะ

ด้านวัสดุของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ นั้นให้มาระดับโอเคในภาพรวม ที่ราคาเฉลี่ย 70,000 บาท/ตร.ม. ในแบบ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ built-in ผิวสัมผัสดี บานตู้ดูไม่ก๊อกแก๊ก ให้ตู้เก็บของสูงข้างประตูทางเข้า, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว เตา ฮู้ดดูดควัน และชุดสุขภัณฑ์ COTTO ได้ครบชุด ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำ ในส่วนของห้องน้ำอุปกรณ์ที่ให้ก็เป็นเกรดมาตรฐานใช้งานทั่วไป  อาจจะไม่ได้ดูหรูหรามาก  แต่ก็ใช้งานได้ค่ะ  ถือว่าเอาไปเฉลี่ยกับส่วนของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องแทน และนอกจากนั้นก็ยังให้เครื่องปรับอากาศด้วย

ด้านพื้นที่ส่วนกลางของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ นั้นให้มาเยอะพอสมควร  ชั้นล่างมีสวนสาธารณะ 2 สวน ใกล้ Lobby A และ Lobby B ,  สนามเด็กเล่น, ห้อง Co-Working Space ริมสวน  ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 30 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก , The Gym Club (ห้องฟิตเนส) และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  สุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวนและลานพัตต์กอล์ฟค่ะ สำหรับคอนโดราคาเริ่มต้นล้านนิดๆ ให้มาแบบนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลย  ไว้รอดูของจริงตอนสร้างเสร็จกันอีกรอบ

เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารทาวเวอร์ละ 3 ตัว แต่ Tower A มีจำนวนห้องพักอาศัยมากกว่าเพราะมีชั้นสูงกว่าและมีห้องเล็กเยอะกว่า มีจำนวนห้อง 693 ห้อง เฉลี่ยได้ 231 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ส่วน Tower B มี 625 ห้อง สัดส่วนลิฟต์ได้ 208 ห้องติดลิฟต์ 1 ตัวหนาแน่นน้อยกว่าอาคาร A แต่ทั้งสองทาวเวอร์ก็คือว่าหนาแน่นหน่อย  แต่ก็รับได้เมื่อเทียบกับราคาที่เป็นมิตรค่ะ  อาจจะต้องมีรอลิฟต์กันบ้างก็อย่าใจร้อนกันไป  ที่จอดรถให้มา 30% ไม่รวมซ้อนคัน  อาจจะดูไม่เยอะนัก แต่สำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้า(อนาคต), มีรถสาธารณะผ่าน และราคาเฉลี่ยไม่แพงนัก  ก็ถือว่าแฟร์ๆ ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ