ด้านการเดินทาง
ทำเลของ Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา อยู่ตรงถนนที่เชื่อมต่อเส้นทางหลัก 2 เส้น คือรัชดาภิเษก และวิภาวดีรังสิต ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางจากทั้ง 2 ฝั่ง และถ้าหากอยากจะไปออกเส้นลาดพร้าวก็สามารถใช้ถนนย่อยภายในซอยไปออกที่ซอยลาดพร้าว 18 หรือ ลาดพร้าว 26 ก็ได้ครับ
ถนนซอยรัชดาภิเษก 19 นี้เป็นเส้นที่มีรถผ่านสัญจรอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากจะต้องการออกไปปากซอยเพื่อขึ้นรถไฟฟ้า โครงการก็มี Shuttle Bus Service ให้ แต่ถ้าช่วงไหนรถคิวยาว ขี้เกียจรอ ก็ใช้รถสองแถวเล็กที่วิ่งอยู่ในซอยก็ได้ครับ ราคา 8 บาทต่อเที่ยว รถนั้นวิ่งอยู่ตลอดเวลา ระยะห่างจากทางเข้าออกโครงการถึงรถไฟฟ้าสถานี MRT รัชดาภิเษกประมาณ 650 เมตร ส่วนระยะจากหน้าโคงการถึงปากทางซอยวิภาวดี 16 (โชคชัยร่วมมิตร) จะประมาณ 950 เมตร ครับ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ลักษณะการใช้ที่ดินของโซนที่คอนโด Maestro 19 ตั้งอยู่ จะเป็นโซนที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก มีทั้งบ้านคนที่ปลูกมาไว้นานแล้ว, อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดเก่าบ้างประปราย แต่ยังไม่มีคอนโดใหม่ๆ ที่เป็นของบริษัทใหญ่ๆ มาตั้งอยู่เลย พื้นที่ตรงนี้ถือว่าความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับโอเค ไปไหนมาไหนไม่ลำบากนัก แต่การเติบโตก็อาจจะไม่ได้หวือหวามาก เนื่องจากพวกโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็มีอยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้วไม่ได้ขาดอะไร เน้นการอยู่อาศัยจริงแบบ Real Demand ของคนในพื้นที่มากกว่า
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
คอนโดแบรนด์ Maestro นั้นเน้นคอนเซ็ปของแบรนด์ค่อนข้างชัดเจน สไตล์ของหน้าตาอาคารจะเป็น Modern ผสมกับ Classic อาจจะมีบางดีเทลที่แตกต่างกันออกไปบ้างในแต่ละทำเล สำหรับตัว Maestro 19 Ratchada 19-Vipha ในภาพรวมของงานดีไซน์ก็ดูมีเอกลักษณ์ดี ใช้โทนสีเทาเป็นหลัก การวางองค์ประกอบของตัวสถาปัตยกรรมก็ถือว่าคิดมาดีพอสมควร จะเห็นจากการออกแบบจังหวะของช่องเปิดและหน้าต่างของห้องแต่ละแบบให้ไปในทิศทางและสัดส่วนเดียวกันได้ ซึ่งในโซนนี้ก็ยังไม่มีคอนโดหน้าตาสไตล์แบบนี้ ส่วนใหญ่ก็จะทำเรียบๆ แนวโมเดิร์นอย่างเดียว ถือเป็นจุดขายที่แตกต่างกันไป
ลักษณะของการวางอาคาร ของ มาเอสโตร 19 ก็จะแยกออกมาเป็น 4 ตึก แต่ละตึกเป็นรูปตัว C แล้ววางอาคารโอบล้อมสเปซตรงกลาง เกิดพื้นที่คอร์ทขึ้นมาภายใน ซึ่งสเปซตรงนี้ก็น่าจะเป็นส่วนตัว ตัดออกจากความวุนวายภายนอกที่มีรถราวิ่งผ่านไปมาตลอด การที่แยกตัวอาคารออกมาแล้วมีช่องว่างระหว่างอาคารก็น่าจะช่วยทำให้ลมสามารถไหลเวียนเข้ามาตรงพื้นที่ส่วนกลางได้ดีขึ้นด้วย
ด้านกลางวางแปลนนั้น จัดว่าค่อนข้างจะเป็นการวางฟังก์ชั่นและมีการแบ่งสเปซการใช้งานที่แปลกกว่าคอนโดที่พื้นที่ห้องเท่ากันตามท้องตลาด ในห้องตัวอย่างเราจะเห็นการพยายามวางสเปซส่วนนอนและส่วนพักผ่อนให้เชื่อมต่อกันได้ เพื่อทำให้รู้สึกว่าสเปซนั้นกว้างกว่างความเป็นจริง รูปแบบของพื้นที่ครัวในห้องก็จะมีให้เลือกทั้งแบบครัวเปิดและครัวปิด ตามความต้องการของแต่ละคนครับ โดยภาพรวมของแปลนก็ไม่ได้มีจุดติอะไรใหญ่ๆ สเปซภายในห้องพักความสูงถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร ส่วนในห้องน้ำและครัวจะสูง 2.20 เมตร เนื่องจากต้องเพื่อพื้นที่ไว้สำหรับงานระบบท่อต่างๆ นั่นเอง
ส่วนภาพรวมของวัสดุ มาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา ก็ให้มาแบบ Fully Fitted ภาพรวมทำได้มาตรฐานโอเค ส่วนเคาท์เตอร์ครัวให้ของดีทีเดียว ห้องน้ำดีไซน์ออกมาสวยงามดี สุขภัณฑ์ได้ Soft-Closed ส่วนใหญ่ในห้องน้ำจะเน้นของแบรนด์ Hafele เกือบทั้งหมด สำหรับส่วนของ Hybrid Sliding Door นั้นส่วนตัวแล้วผมว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร ถือเป็นกิมมิคที่โครงการให้มาครับ
พื้นที่ส่วนกลางของ Maestro 19 รัชดา 19-วิภา จะแยกออกมาเป็นอาคารคลับเฮ้าส์ตรงคอร์ทกลาง ค่อนไปทางด้านหน้าระหว่างตึก A และ B มากกว่า การวางตำแหน่งไว้ตรงคอร์ทกลางนี้ก็ทำให้การเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางของทั้ง 4 ตึกไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทุกตึกยังพอจะได้วิวของพื้นที่ส่วนกลางอยู่ ภายในจากภาพก็เป็นขนาดกระทัดรัดตกแต่งสวยงามน่าใช้งานดี
ด้านล่างที่ชั้น 1 ของทุกตึกจะเป็นที่จอดรถ และมีที่จอดรถใต้ดิน 1 ชั้น ซึ่งจอดได้รวม 344 คัน จาก 560 ยูนิต คิดเป็น 61% ซึ่งถือว่าเยอะดีเมื่อเทียบกับระดับราคาครับ ส่วนกลางภายในคลับเฮ้าส์ที่ได้มาก็จะมี Co-working space , Library , Stream & Sauna ที่เชื่อมต่อออกไปยังสระว่ายน้ำขนาด 25 x 6 เมตร ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นฟิตเนสและพื้นที่เล่นโยคะ ซึ่งทั้ง 3 ชั้นเชื่อมถึงกันด้วยบันไดวน นอกจากนี้ในแต่ละอาคารก็มีสวนดาดฟ้าเอาไว้เป็นพื้นที่ทำบาบีคิวด้วย ส่วนลิฟต์โดยสารนั้นแต่ละตึกจะมี 2 ตัว ไม่มีลิฟต์บริการ เฉลี่ยความหนาแน่นออกมาได้ 70 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว ก็ถือว่าสัดส่วนดีครับ
จุดที่แตกต่างจากคอนโดอื่นอีกอย่างหนึ่งที่ Maestro 19 มี คือเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ครับ แต่จะต้องเป็นสัตว์เล็ก และต้องแจ้งโครงการก่อนว่าจะเลี้ยงอะไร เพราะมีพื้นที่สวนสำหรับให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนนี้คนที่เลี้ยงอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเฉพาะให้กับนิติบุคคล เพื่อความแฟร์กับคนที่ไม่ได้เลี้ยงครับ ก็น่าจะถูกใจคนรักน้องหมาน้องแมว ^^